คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : พรหมลิขิตส่งเธอมา ฉันก็จะรับเอาไว้
บทที่ 2
พรหมลิขิตส่งเธอมา ฉันก็จะรับเอาไว้
เมื่อรถยนต์คันหรูที่ปกคลุมไปด้วยความเงียบลงมาถึงถนนด้านล่าง หญิงสาวคนเดียวในรถรีบตะโกนบอกคนที่เป็นเจ้าของรถทันที
“จอดรถเดี๋ยวนี้นะคุณ”
“จอดแน่ไม่ต้องห่วง แล้วคุณจะลงตรงนี้เลยงั้นเหรอ บ้านอยู่ไหนผมจะไปส่ง” ชายหนุ่มไม่อาจตัดใจส่งหญิงสาวลงตรงนี้ได้ด้วยยังคงห่วงใยสวัสดิภาพของเธออยู่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
“ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้ คุณสั่งให้คนของคุณจอดรถสิ” ลี่หลีชิงเริ่มขึ้นเสียงด้วยโมโห “แล้วก็คืนโทรศัพท์มาด้วย” ชายหนุ่มเริ่มรำคาญ เขาเองก็ไม่ใช่คนที่มีความอดทนอะไรมากมายนักหรอก
“อาฟงจอดรถ” เฉินห้าวหลงพูดพลางโยนโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าของเธอลงบนเบาะรถ ในขณะที่จางฟงหักรถเข้าจอดลงตรงข้างทางทันที หญิงสาวไม่รอช้าคว้าโทรศัพท์และกระโดดลงจากรถอย่างรวดเร็ว จนชายหนุ่มหันไปมองท่าทางกระโดดลงจากรถของสาวน้อยที่มาจนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของเธอเลย เขาลดกระจกลงพูดกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆรถว่า
“ลาก่อน จำคำพูดของฉันไว้ให้ดี อย่าไว้ใจใครง่ายๆ” ชายหนุ่มเตือนสาวน้อยตรงหน้าด้วยความหวังดีและหันไปบอกคนของตนพร้อมกับกดปิดกระจกรถ
“อาฟงออกรถ”
“ครับ คุณเฉิน” ลี่หลีชิงยืนตัวแข็ง เธอได้ยินเต็มสองหู ผู้ชายคนนั้นที่ชื่ออาฟง เรียกชายคนนั้นว่า คุณเฉินงั้นเหรอ จะใช่คุณเฉินที่เธอตามหารึเปล่า หญิงสาวทำท่าจะวิ่งตามไปแต่รถคันดังกล่าวก็ออกตัวไปไกลแล้ว
“คุณเฉินครับ จะให้ผมส่งคนตามไปดูหรือเปล่าครับ” จางฟงสอบถามเจ้านายด้วยรู้สึกว่าเจ้านายของตนให้ความสนใจหญิงสาวคนนี้มากเป็นพิเศษ
“ไม่ต้อง” เฉินห้าวหลงปิดเปลือกตาลงช้าๆ เขายอมรับเขาสนใจหญิงสาวคนนี้เป็นอย่างมาก เห็นครั้งแรกรู้สึกถูกใจความสดใสน่ารัก น้ำเสียงกังวานหวานของเธอ ท่าทางที่เป็นธรรมชาติตรงไปตรงมาซึ่งเขาไม่ค่อยได้พบเจอในโลกที่เขาอยู่ อีกทั้งความกล้าหาญและน้ำใจที่เด็ดเดี่ยวของเธอยิ่งทำให้เขาประทับใจ แต่เส้นทางในชีวิตของเขาอันตรายเหลือเกิน เขาไม่อาจจะดึงสาวน้อยสดใสลงมาสู่วังวนอันมืดดำได้ โลกของเธอออาจจะต้องเจอแต่ความสับสนและวุ่นวาย และเขาเชื่อเหลือเกินว่าหากเขาได้สานสัมพันธ์อะไรก็ตามกับเด็กสาวคนนี้ ความสัมพันธ์ครั้งนี้คงหยุดยั้งไว้ไม่ได้แน่ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องตัดไฟแต่ต้นลม ผู้ชายอย่างเขาคนที่อยู่บนจุดสูงสุดของคำว่ามาเฟียจะมีจุดอ่อนไม่ได้
“จับตัวคนยิงได้หรือยัง” เฉินห้าวหลง เปลี่ยนเรื่องเพื่อสลัดความคิดออกจากสาวน้อยคนนั้น
“อาเว่ยบอกว่าตามตัวได้แต่กลายเป็นศพไปแล้วครับ” จางฟงรายงานเจ้านายตามที่ได้รับมา “เด็กคนนั้นใจกล้ามากเลยนะครับ” อาฟงพูดพลางเหลือบมองสีหน้าเจ้านายของตนทางกระจกมองหลัง
เฉินห้าวหลงเผลอยิ้มอย่างอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงสาวน้อยใจกล้าคนนั้น “ ใช่ แต่แบบนี้เค้าเรียกว่าบ้า มีอย่างที่ไหนเอาตัวเองกระโดดเข้ามาช่วยคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ฉันหละเชื่อเลย ไม่รู้โง่หรือว่าบ้า” ปากพร่ำบ่นตำหนิแต่ในแววตากลับมีแต่ความชื่นชมและประทับใจ
“คุณเฉินไม่อยากรู้เหรอครับว่าเธอชื่ออะไร หรืออยู่ที่ไหน ผมว่าผู้หญิงแบบนี้หายากนะครับ” เฉินห้าวหลงมองไปทางจางฟง ทำไมจะไม่อยากรู้หละ อยากมากกว่านั้นอีกด้วยซ้ำ แต่เขาจำต้องหักห้ามใจตัวเองด้วยเหตุผลมากมาย
“ไม่อยากรู้ อย่าไปยุ่งกับเด็กคนนั้นนะ” ใช่ ปล่อยให้เธอใช้ชีวิตอย่างสดใสต่อไปน่าจะดีที่สุดสำหรับเธอแล้วหละ
จางฟงยิ้มในใจ ที่แท้ก็เป็นห่วงเธอนั่นเอง “คุณเฉินครับ คุณเชื่อในเรื่องพรหมลิขิตรึเปล่าครับ ผมว่าเรื่องที่เกิดในวันนี้ไม่ใช่ใครโง่หรือบ้าหรอกครับ แต่มันเป็นเรื่องที่พรหมลิขิตกำหนดไว้ต่างหากครับ” เฉินห้าวหลงนั่งนิ่งในใจคิดตามคำพูดของคนสนิทอย่างหนัก พรหมลิขิตงั้นเหรอแล้วถ้าเขาเจอกับเธออีกครั้งเขาควรจะทำยังไงดี
ลี่หลีชิงเดินคอตกออกมาจากบริษัททัวร์ที่เธอรับงานอยู่ เธอถูกไล่ออก หมดงานไปอีกงานเพราะอีตาบ้านั่นแท้ๆแล้วจะทำยังไงดีละเนี่ย ตกงานแถมยังถูกหาว่ายุ่งเรื่องชาวบ้านอีกต่างหาก แต่ที่จริงมันก็สมควรแล้ว เธอทิ้งลูกทัวร์ไว้บนวิคตอเรียพีค ทั้งๆที่มีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น ทุกคนคงหวาดกลัวมาก นี่ที่บริษัทไม่ได้เอาผิดกับเธอก็ถือว่าปราณีมากแค่ไหนแล้ว
“ชิงชิง เป็นไงบ้าง” เหม่ยฟางรีบเดินมาถามด้วยความห่วงใย ลี่หลีชิงถอนหายใจอย่างแรงแล้วตอบว่า
“จบแล้ว เชิญออก ไล่ออกเอาคำไหนดี”
เหม่ยฟางรีบปลอบใจหญิงสาวตรงหน้า “เธออย่าเครียดสิชิงชิง ฉันมีงานมาชวนไปทำนะ เธอเคยได้ยินชื่อมังกรลอยน้ำที่เพิ่งเปิดตัวของบริษัทในเครือโกลเด้นดรากอน หรือเปล่า” ลี่หลีชิงส่ายหน้าด้วยความเซ็งสุดขีด
“อะไรเนี่ย คนอะไรเชยเป็นบ้าไม่เคยติดตามข่าวสารบ้างเลยหรือไง” หญิงสาวที่ถูกหาว่าเชยพยักหน้าหงึกๆพร้อมส่งสายตาแป๋วแหววแสนซื่อไปยังเพื่อนสาว ขณะที่ทั้งสองก้าวเดินไปนั่งยังสวนสาธารณะในย่านจิมซาจุ่ยซึ่งไม่ไกลจากที่ตั้งบริษัททัวร์มากเท่าไหร่นัก
“คืออะไรเหรอ ไอ้มังกรลอยน้ำที่ว่าเนี่ย”
“เฮ้ย ที่จริงมันก็คือ คาสิโนที่อยู่บนเรือที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียนั่นแหละ เป็นของบริษัทโกลเดนดรากอน เออๆรายละเอียดช่างมันเถอะ เข้าเรื่องเลยละกัน คือ คาสิโนบนเรือลำนี้กำลังจะเปิดให้บริการ เที่ยวแรกที่จะแล่นออกสู่ทะเลจะไปลอยอยู่ท่ามกลางทะเลประมาณสี่หรือห้าวัน ฉันก็ไม่แน่ใจแต่เค้านะกำลังเปิดรับพนักงานพาร์ทไทม์ไปช่วยงานบนเรือหลายตำแหน่งเลยนะ”
“จริงเหรอ แล้วไปทำงานในคาสิโนนี่จะดีเหรอ” ลี่หลิชิงพูดขัดเพื่อนสาวขึ้นมาทันที
“อะไรกันชิงชิง ในเรือลำนั้นนะมีอยู่ตั้งหลายส่วน ลูกเรือนะเค้าไม่ได้รับตัดทิ้งไป ส่วนใหญ่จะรับพวกพนักงานประจำตามร้าน แล้วก็มีผู้ช่วยในคาสิโนบ้าง เธอก็สมัครงานที่เธออยากทำสิ เสริฟอาหาร ล้างจาน ผู้ช่วยกุ๊ก อะไรก็ได้ บริษัทนี้ใครๆก็อยากร่วมงานด้วยเงินดีจะตาย แถมอยู่บนเรือกินอยู่ฟรีอีกต่างหาก แถมยังได้เที่ยวด้วย แล้วหากใครทำงานดีเค้าอาจรับไว้ทำประจำเลยก็ได้นะ”
พอได้ยินคำว่าเงินดี หญิงสาวตากลมทำตาโตพร้อมรีบตอบรับทันที “ไปสมัครกันวันไหนดี”
ดังนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นลี่หลีชิงในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงผ้าสีดำเรียบร้อย สวมทับด้วยเสื้อกันหนาวตัวบางและผ้าพันคอสีครีมผืนโปรดก้าวเดินเข้าไปภายในตึกสูงที่มีผู้คนเดินเข้าออกขวักไขว่ วันนี้เธอนัดเหม่ยฟางมาสมัครงานที่บริษัท โกลเดนดรากอน แห่งนี้ ดูจากจำนวนผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาสมัครงานเธอเชื่อแล้วว่าที่นี่เป็นที่ต้องการของคนที่หางานจริงๆ ลี่หลีชิงตัดสินใจนั่งรอเหม่ยฟางอยู่ที่ล็อบบี้หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของบริษัท เมื่อหญิงสาวทรุดกายนั่งลงบนโซฟาดวงตาภายใต้กรอบแว่นสีดำมองตรงไปยังผนังกว้างเบื้องหน้า ภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้แทบจะทำให้เลือดในกายของเธอเย็นเฉียบ ภาพผนังสีขาวกว้างใหญ่ ติดรูปภาพที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา ภายใต้กรอบรูปหรูสีทองมหึมาเป็นภาพมังกรสีเขียวตัวใหญ่กางกรงเล็บผงาด ภายในปากคาบลูกบอลสีทอง นั่นมันเหมือนจี้ที่เธอห้อยไว้กับตัวมาตลอดสามปีไม่มีผิด ลี่หลีชิงยกมือขึ้นจับจี้กรงมังกร ซึ่งเป็นชื่อที่เธอตั้งให้เอง พร้อมกับที่สองขาก้าวเดินไปข้างหน้าเหมือนต้องมนตร์สะกดของมังกรตัวนี้ เพื่อจะได้ดูภาพดังกล่าวให้ชัดเจนมากที่สุด
แต่ระหว่างก้าวขาไปไม่ทันมองซ้ายมองขวาเธอชนเข้ากับชายผู้หนึ่งอย่างแรง
“ขอโทษคะ/ขอโทษครับ” คำกล่าวขอโทษเอ่ยขึ้นพร้อมๆกัน แตกต่างกันที่หญิงสาวไม่ได้สนใจมองหน้าชายคนนั้น กลับรีบรุดมุ่งตรงไปยังภาพเบื้องหน้าต่อไป แต่ชายคนนั้นยังคงจ้องมองหญิงสาวที่เดินชนตนเองอย่างเขม็ง เขาจำเธอได้ผู้หญิงคนนั้น คนที่ช่วยเหลือเฉินห้าวหลงในวันนั้นและเป็นคนที่ทำให้เจ้านายเขามีท่าทีแปลกๆมาหลายวันนั่นเอง
ใช่จริงๆด้วยภาพนี้มันเป็นมังกรแบบเดียวกันกับที่หย่งไท้ให้เธอในวันนั้น และเธอเองก็รอคอยที่จะส่งคืนมันให้กับเจ้าของตัวจริง คุณเฉิน หากภาพตรงหน้าติดอยู่ในบริษัทแห่งนี้ คุณเฉินที่ว่าก็คงจะต้องอยู่หรือเกี่ยวข้องกับบริษัทแห่งนี้แน่นอน คิดได้ดังนั้นร่างบอบบางรีบวิ่งตรงไปยังประชาสัมพันธ์สาวสวยในชุดยูนิฟอร์มสีแดงทันที
“ขอโทษนะคะ ที่นี่มีคนที่ชื่อคุณเฉินไหมคะ” ประชาสัมพันธ์สาวสวยขมวดคิ้วพร้อมส่งสายตารำคาญมาให้
“จะเอาคุณเฉินไหนละ มีหลายคนเลย เพราะที่นี่เป็นบริษัทของตระกูลเฉิน” สาวน้อยยืนอึ้ง เธอถามคำถามอะไรโง่ๆออกไปอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย สงสัยต้องกลับไปหาข้อมูลเรื่องคนตระกูลเฉินแห่งโกลเดนดรากอนเพิ่มเติมเสียแล้ว
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ” ลี่หลีชิงรีบผละออกจากเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันที โชคดีที่เหม่ยฟางมาถึงทั้งคู่จึงรีบตรงไปยังห้องที่จัดไว้เพื่อรับสมัครงานและเมื่อจัดการธุระทุกอย่างเสร็จก็รีบออกจากบริษัททันทีเพราะผู้คนเริ่มเข้ามาสมัครงานมากขึ้นไปเรื่อยๆ
จางฟงก้าวเท้าออกจากลิฟท์และรีบมุ่งตรงไปยังบานประตูใหญ่ด้านหน้าทันที “พี่ฟง คุณเฉินมีแขกอยู่ครับ” เสียงของแจ๊คหนึ่งเลขาหนุ่มใหญ่ที่มักประจำอยู่ที่หน้าห้องเฉินห้าวหลงเอ่ยบอกทันทีที่เขาทำท่าจะเคาะห้อง
“อ้าววันนี้คุณเฉินไม่ได้นัดใครไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมตอบว่า
“ใช่ครับไม่ได้นัด แต่คนนี้ไม่ได้นัดก็จะต้องเข้าไปให้ได้” จางฟงได้ยินอย่างนั้นก็แทบกลั้นยิ้มไม่อยู่ทันที ตอบแบบนี้แสดงว่ามีสาวมาพบแน่นอน
“วันนี้เป็นใครหละ นางแบบคนสวยคนล่าสุดรึเปล่า”
“ไม่ใช่ครับพี่ฟง วันนี้คุณหยงหยงมาต่างหากครับ” เฉินเหวินหยงลูกสาวคนเดียวของเฉินเหวินเจ้า ผู้หญิงคนนี้สนใจเจ้านายของเขามานานมากแล้ว แต่คุณเฉินเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่มากไปกว่าญาติ แม้แต่ตัวเฉินเหวินเจ้าผู้ที่มีศักดิ์เป็นอาบุญธรรมของเฉินห้าวหลงก็ยังสนับสนุน ด้วยคาดหวังว่าจะให้ลูกสาวจับผู้ชายที่ตอนนี้เป็นคนกุมบังเหียนจิงหลง และโกลเดนดรากอนให้ได้
ทำไมเขาจะไม่รู้ทุกคนก็รู้ว่าเฉินเหวินเจ้าไม่พอใจแค่ไหนที่พินัยกรรมระบุว่าให้คุณห้าวหลงเป็นผู้รับช่วงสานต่อกิจการทุกอย่างแทน ทั้งที่เป็นแค่ลูกบุญธรรม แต่ในเวลานี้ทุกๆคนล้วนตระหนักถึงความสามารถและความทุ่มเทของเฉินห้าวหลงแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรผู้ชายคนนี้ทำได้ทุกอย่าง ทำให้กิจการทุกอย่างของตระกูลเฉินเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ จะขาดก็แต่สัญลักษณ์ของผู้นำกลุ่มมังกรคาบทอง หากได้มันมาเมื่อไหร่ก็เท่ากับว่าเฉินห้าวหลงคนนี้จะผงาดขึ้นได้อย่างเต็มตัวไม่ต้องคอยกังวลหรืออดทนกับคนเก่าแก่ของตระกูลอย่างเฉินเหวินเจ้า หรือแม้แต่กับซ่งไป่เจี๋ย อดีตมือขวาของผู้นำคนเก่าที่คอยหาเรื่องและถามถึงของสิ่งนี้แทบทุกวี่วัน
เฉินห้าวหลงนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะพลางพยายามระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในตอนนี้ ด้วยแสนจะรำคาญหญิงสาวตรงหน้าเหลือเกิน ถึงแม้ว่าเธอจะสวยงาม มีหุ่นที่แสนจะเซ็กซี่ แต่น้ำหอมที่เธอใช้และสีต่างๆที่อยู่บนหน้าเธอนั้นเขาเห็นแล้วรู้สึกรำคาญอย่างบอกไม่ถูก รวมถึงคำพูดหวานหูการเอาอกเอาใจที่เยอะเกินไปทำให้รู้สึกเบื่อมากไปยิ่งขึ้น นี่ถ้าไม่เห็นแก่เฉินเหวินเจ้าซึ่งมีศักดิ์เป็นอาบุญธรรมแล้วหละก็ ได้ไล่ตะเพิดไปตั้งนานแล้ว แต่อย่าให้เขาหมดความอดทนก็แล้วกัน จะหน้าอินหน้าพรหมก็ไม่สนใจทั้งนั้น
“พี่ห้าวหลง ไปทานข้าวกันเถอะคะนี่ใกล้เที่ยงแล้วนะคะ” หญิงสาวออดอ้อนชายหนุ่มพร้อมเดินตรงไปนั่งลงบนโต๊ะทำงานใกล้กับเจ้าของห้อง
“พี่ยังไม่ว่างหาก หยงหยงหิว ก็เชิญก่อนเลย และกรุณาอย่ารบกวนเวลางานของพี่ เพราะมันมีค่ามาก” ชายหนุ่มพูดพลางกดโทรศัพท์บนโต๊ะไปยังเลขาหน้าห้อง “แจ๊คช่วยพาคุณหยงหยงไปส่งที่รถหน่อย”
“พี่ห้าวหลงทำไมทำแบบนี้ละคะ” หญิงสาวผู้ไม่รู้ชะตากรรมตัวเองยิ่งส่งเสียงกรีดร้องมากยิ่งขึ้น เฉินห้าวหลงทนไม่ไหว นับวันผู้หญิงคนนี้ชักจะละเมิดความเป็นส่วนตัวของเขามากขึ้นไปทุกที เขาลุกขึ้นดึงแขนหญิงสาวในชุดเดรสแขนกุดสีชมพูตรงไปยังประตูเปิดประตูออกพลางลากหยงหยงให้เดินออกไปนอกห้องท่ามกลางความตกตะลึงของทุกสายตา พร้อมส่งเสียงตวาดดังลั่น
“สั่งงานแล้วชักช้ากันจังนะ เดี๋ยวได้ไล่ออกให้หมด บอกให้ส่งคุณหยงหยงทำไมไม่มีใครเข้าไป ห๊า แล้วก็ไม่ต้องให้ใครเข้ามารบกวนฉันอีกนะ” เฉินห้าวหลงกวาดสายตาคนกริบมองบรรดาเลขาและคนติดตามที่อยู่บริเวณหน้าห้องของเขาอย่างหงุดหงิดพลางหันหลังกลับเข้าไปในห้องและปิดประตูลงดังปัง เฉินเหวินหยงร้องไห้โวยวายและวิ่งกลับออกไปทันที
ชายหนุ่มกลับมาทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานของตนอีกครั้ง ตอนนี้เรือคาสิโนที่เขาทุ่มเทสร้างกำลังเตรียมการขั้นสุดท้ายและจะออกโลดแล่นครั้งแรกในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า มีงานมากมายรอให้เขาตรวจสอบและอนุมัติ แล้วเฉินเหวินหยงจะมาวุ่นวายอะไรนักหนา ไอ้พวกหน้าห้องก็ปล่อยให้หลุดเข้ามาได้ยังไงไม่ได้เรื่องกันสักคน คิดพลางกดโทรศัพท์ตามจางฟงเข้ามาในห้อง
“อาฟง หวังคุนมีความเคลื่อนไหวอะไรบ้างหรือเปล่า” เฉินห้าวหลงถามพลางนั่งพิงเก้าอี้อย่างสบายๆ
“ไม่มีอะไรครับคุณเฉินผมให้คนติดตามอยู่ตลอด และยังไม่มีโครงการจะประมูลหรือเสนองานก่อสร้างอะไรเพิ่มด้วยครับ” เฉินห้าวหลงแสยะยิ้มร้ายกาจ
“แน่ละสิ มันคงไม่กล้า คนใจเสาะอย่างมันกับลูกชายไร้น้ำยาจะมาสู้โกลเดนดรากอนได้ยังไง” ใช่แผนการล้างแค้นของเขาส่วนหนึ่งคือตัดท่อน้ำเลี้ยงของพวกมัน ค่อยๆทำลายล้มล้างธุรกิจของมันทีละช้าๆ บริษัทหวังซื่อ จะเข้าประมูลงานหรือเสนองานก่อสร้างอะไร โกลเดนดรากอนก็เข้าไปเสียบทุกงานและได้สมใจด้วย ซึ่งสำหรับหวังซื่อบริษัทที่ไม่ได้มีสายป่านอะไรมากมายและดำเนินงานแค่ธุรกิจด้านนี้อย่างเดียว คงจะต้องล้มในอีกไม่ช้านี้แน่นอน นี่ถ้าไม่ติดว่ามังกรคาบทองอาจอยู่ในมือพวกมันละก็ เขาคงเปิดสงครามกับมันไปนานแล้ว
“แล้วงานบนเรือติดปัญหาอะไรบ้างไหม ระวังหวังคุนมันส่งคนมาก่อกวนด้วย” จางฟงซึ่งควบตำแหน่งบอดี้การ์ดและเลขาคนสนิทไปในตัวยิ้ม
“ไม่มีปัญหาอะไรครับ คุณเฉินไม่ต้องห่วง”
“ถ้าไม่มีอะไรก็ออกไปได้ละ” เฉินห้าวหลงก้มหน้าลงหยิบปากกาเพื่อจะเซ็นต์เอกสารตรงหน้าต่อ
“เอ่อ คุณเฉินครับ ผมมีเรื่องจะรายงานแต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน ไม่รู้ว่าจะสมควรหรือเปล่า” ชายหนุ่มวางปากกาลงบนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมองจางฟงด้วยความสงสัย
“มีเรื่องอะไร”
จางฟงเริ่มลังเลด้วยรู้สึกว่าวันนี้เจ้านายของตนอารมณ์ไม่ค่อยจะดี หากพูดเรื่องผู้หญิงอีกนี่จะโดนฟาดหัวไหมเนี่ย “ฉันถามว่าเรื่องอะไร อ้ำอึ้งอยู่ได้”
“เอ่อ คือ วันนี้ผมเจอกับผู้หญิงคนนั้นครับ” จางฟงพูดไม่ค่อยเต็มเสียงไม่รู้ลางสังหรณ์ที่ว่าเจ้านายสนใจเด็กคนนั้นจะเป็นจริงรึเปล่าหากไม่จริงมีหวังแย่แน่ เฉินห้าวหลงคนนี้เวลาอารมณ์ดีก็สบายๆ แต่อารมณ์เสียเมื่อไหร่ละก็ถอยห่างให้ได้เป็นดีที่สุด
“คนไหน ผู้หญิงมีตั้งเยอะแยะฉันจะไปรู้ได้ไง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันแกถึงต้องมาบอก” ชายหนุ่มเริ่มรำคาญรู้สึกวันนี้จะมีแต่เรื่องผู้หญิงเข้ามายุ่งวุ่นวาย น่าเบื่อจริงๆ
“ก็ผู้หญิงคนที่คุณเฉินเคยเจอบนวิคตอเรียพีคไงครับ” เพียงเท่านั้นเฉินห้าวหลงนิ่งเงียบไปเลย นิ่งเสียจนจางฟงที่ก้มหน้าอยู่ต้องลอบมอง แล้วกลั้นยิ้มไว้อย่างสุดความสามารถ นั่นไง เดาไม่ผิดเลยจริงๆ
“ที่ไหน” เฉินห้าวหลงรู้สึกเหมือนหัวใจวูบวาบ เลือดลมสูบฉีดจะว่าเป็นความดีใจก็ไม่อาจบอกได้ เพราะที่ผ่านมาหลังจากเจอเด็กคนนั้นเขาไม่เคยลืมน้ำเสียงสดใส ดวงหน้าขาวเนียน ดวงตากลมโตภายใต้กรอบแว่นตาสีดำ และท่าทางอันแสนเป็นธรรมชาติของเธอได้เลย รู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กหนุ่มที่เจอกับสาวน้อยในฝัน เขาก็ยังไม่เข้าใจตัวเองว่ายังมีอารมณ์และความรู้สึกแบบนี้อยู่อีกได้ยังไง
“ข้างล่างนี่เองครับ ช่วงประมาณเก้าโมง” จางฟง ค่อยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นอีกหน่อยเพราะรู้ว่าเจ้านายไม่มีทางว่าอะไรเขาแน่ที่พูดเรื่องนี้
“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้” นี่มันปาเข้าไปจะบ่ายสามโมงอยู่แล้ว ไม่บอกปีหน้าเลยละเขาคิดในใจ
“เธอมาทำอะไรที่นี่”น้ำเสียงของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนไร้หัวใจอ่อนโยนลงทันทีเมื่อพูดถึงผู้หญิงที่เขาประทับใจ
“ผมคิดว่าน่าจะมาสมัครงาน เพราะวันนี้บริษัทเราเปิดรับพนักงานพาร์ทไทม์เพื่อขึ้นไปช่วยงานบนเรือที่จะออกเที่ยวแรกครับ”
เฉินห้าวหลงกระตุกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ไปหาประวัติของเด็กคนนั้นมาให้ฉัน เดี๋ยวนี้”
ใช่เขายอมรับว่าตัวเองไม่อาจจะต้านทานความรู้สึกโหยหาที่มีต่อหญิงสาวคนนั้นได้อีกแล้ว ไม่ว่าความรู้สึกนี้จะเป็นอะไรก็ตาม เขาก็ไม่คิดว่าจำเป็นที่จะต้องเก็บกักมันอีกต่อไปและ ถ้าหากมันเป็นพรหมลิขิตอย่างที่จางฟงเคยบอกไว้จริงๆ วันนี้เขาตัดสินใจที่จะลองรับมันไว้ เพราะในเมื่อเธอมาหาเขาถึงที่แบบนี้ยังไงก็คงไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือแน่
จางฟงถือแฟ้มเอกสารประวัติผู้สมัครงานของผู้หญิงที่มีชื่อว่า ลี่หลีชิง เดินขึ้นมายังชั้นบนสุดของตึกในเวลาเกือบหกโมงเย็น ใช้เวลาปาเข้าไปเกือบสามชั่วโมงกว่าจะหาเจอ ใบสมัครของผู้ที่เข้ามากรอกไว้เยอะแยะมากมาย เขาต้องค่อยๆนั่งดูรูปทีละคน แถมต้องดูอย่างเพ่งพินิจด้วยเพราะบางทีรูปถ่ายอาจจะผิดเพี้ยนก็ได้ ฝ่ายบุคคลทุกคนต่างก็มีท่าทางมึนงงว่าเขาจะต้องการประวัติของเด็กสาวคนนี้ไปทำไม แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถามสักคน
ชายหนุ่มเคาะประตู เสียงอนุญาตดังขึ้นทันทีหลังจากเคาะแค่ทีเดียว จางฟงเปิดประตูเข้าไปเดินตรงไปวางเอกสารไว้บนโต๊ะทำงานตรงหน้าเฉินห้าวหลง
“ขอบใจ ออกไปได้ละ” จางฟงก้มหัวลงนิดหน่อยและกลับหลังเดินออกไปทันที มือใหญ่เอื้อมไปหยิบแฟ้มตรงหน้าขึ้นเปิดด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทันทีที่เปิดแฟ้มออก ภาพของหญิงสาวหน้าตาสดใสถักเปียสองข้างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าชายหนุ่มแกะรูปออกจากใบสมัครใช้นิ้วโป้งลูบไล้ใบหน้าหญิงสาวในภาพอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มของเธอช่างสดใสจริงๆ ผมของเธอในภาพยาวกว่าตัวจริงที่เขาได้เคยเจอ สายตาไล่อ่านเอกสารในมืออีกข้าง ลี่หลีชิง อายุยี่สิบเอ็ดปี มีมารดาเป็ชาวไทย มิน่าหละ ดวงตาของเธอถึงได้กลมโตแบบนั้น เธอไม่มีญาติที่ฮ่องกงเลย ทำงานมาแทบทุกอย่าง หากให้เขาเดาชีวิตของเธอคงจะลำบากไม่น้อยเลยทีเดียว
สายตาไล่ลงมาดูตำแหน่งที่สมัคร พนักงานเสริฟ งั้นเหรอ ชายหนุ่มใช้ความคิดบนเรือมีร้านอาหารจีน และบาร์เหล้า ทั้งสองร้านต้องแต่งตัวด้วยชุดกี่เพ้าเข้ารูป ตามคอนเซปของเรือที่เน้นความเป็นจีนและความทันสมัยเข้าด้วยกัน ฝันไปเถอะเขาไม่มีวันที่จะให้เด็กคนนั้นมาใส่ชุดพวกนี้ล่อตาไอ้พวกผู้ชายพวกนั้นแน่ ชายหนุ่มยกหูโทรศัพท์ขึ้นต่อตรงไปยังฝ่ายบุคคล สั่งการอย่างรวดเร็วสองสามประโยค เมื่อวางโทรศัพท์จึงหันกลับมามองรูปของหลีชิงอีกครั้งยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ลี่หลีชิง เราได้เจอกันแน่ รอก่อนนะสาวน้อยของผม
ลี่หลีชิงกลับมาถึงห้องพักของตนก็เริ่มค้นหาข้อมูลของบริษัท โกลเดนดรากอนในทันทีข้อมูลที่ได้มีอยู่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว เพราะตระกูลเฉินแห่งโกลเดนดรากอนค่อนข้างเป็นคนมีชื่อเสียงและมีอิทธิพลมาก เรียกได้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังก็คือแก๊งมาเฟียที่มีอิทธิพลของฮ่องกงมานานแล้วมีชื่อแก๊งที่ความหมายเดียวกับชื่อบริษัทว่าจิงหลง นั่นเอง ผู้นำคนปัจจุบันของโกลเดนดรากอนหรือจิงหลงมีชื่อว่า เฉินห้าวหลง เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีความสามารถมากมายหลายด้านสามปีที่เขาขึ้นรับตำแหน่งต่อจากผู้นำคนก่อนซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของเขาชื่อเฉินเหวินเจ้าที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากนั้นเฉินห้าวหลงก็ได้พัฒนาบริษัทและเพิ่มรายได้ที่มีมากอยู่แล้วให้มากยิ่งขึ้นไปให้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากผู้นำคนนี้แล้วผู้ที่มีอิทธิพลรองจากเฉินห้าวหลงคนนี้แล้วก็ยังมีเฉินเหวินเจ้าซึ่งเป็นอาบุญธรรมของเฉินห้าวหลง ดำรงตำแหน่งในฐานะรองประธานบริษัทโกลเดนดรากอนและคงเป็นรองผู้นำของจิงหลงด้วย นอกจากนั้นเฉินเหวินเจ้าและเฉินเหวินหมิง ยังมีรุ่นลูกอีกสองคน คือ เฉินเหวินหลิงบุตรสาวของเหวินหมิง และเฉินเหวินหยงบุตรสาวของเหวินเจ้า
เท่ากับว่าตอนนี้คนตระกูลเฉินที่เป็นเป้าหมายของเธอมีอยู่ด้วยกันสี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ คือ เฉินห้าวหลง เฉินเหวินเจ้า เฉินเหวินหลิง และเฉินเหวินหยง แล้วตกลงเธอจะเริ่มที่ใครดีละเนี่ย หญิงสาวพยายามจดจำรูปที่ปรากฏในหน้าอินเตอร์เนตของคนในตระกูลเฉินทุกคน น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีรูปของเฉินห้าวหลง เขาไม่ค่อยออกสื่อ ภาพส่วนใหญ่จะเป็นภาพที่แอบถ่ายเห็นไม่ชัดว่าหน้าตาของเขาเป็นอย่างไร
เฮ้อ หย่งไท้ นี่พี่จะให้ชั้นเอาไอ้เจ้ามังกรตัวนี้ไปคืนให้ใครดีหละ จะบอกก็ไม่บอกให้ครบแล้วนี่ถ้าเราเกิดให้ผิดคนขึ้นมาจะโดนอุ้มฆ่าหรือเปล่าเนี่ย เพราะดูท่าของชิ้นนี้คงเป็นของสำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียวถึงกับมีการทำเป็นภาพติดไว้ที่ผนังล็อบบี้ของบริษัท และเธอเองก็เพิ่งสังเกตว่าไม่ว่าจะเป็นชื่อแก๊งจิงหลงหรือชื่อบริษัทโกลเดนดรากอนล้วนมีความหมายว่ามังกรทองทั้งสิ้น ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับเจ้ามังกรที่อยู่ในมือเธอได้ทั้งนั้น มังกรคาบทอง
ท่าเรือที่ปกติไม่ค่อยมีผู้คนมากนักวันนี้เนืองแน่นไปด้วยผู้คนจำนวนมากหญิงสาวถือกระเป๋าเดินทางของตนเองเดินลากขึ้นไปยังเรือคาสิโนลำใหญ่มังกรลอยน้ำ ช่างเป็นชื่อที่เหมาะมากจริงๆ เรือลำนี้ใหญ่และยาวมาก มีลวดลายที่ตบแต่งเป็นลวดลายจีนอย่างวิจิตร และแน่นอนเน้นที่ลายมังกรตามเอกลักษณ์เช่นเคย เมื่อสองวันก่อนหลังจากเธอไปสมัครงานไว้ก็มีพนักงานของโกลเดนดรากอนโทรมาแจ้งว่าเธอได้งานพาร์ทไทม์ในเรือเป็นผู้ช่วยกุ๊กในครัว ที่จริงเธอเองก็ค่อนข้างแปลกใจอยู่ไม่น้อย เพราะตัวเธอเองมีไม่เคยมีประสบการณ์ด้านงานในครัวมากเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่เป็นไรงานอะไรก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ ลี่หลีชิงเดินไปพลางอมยิ้มไป ส่วนเหม่ยฟางเองก็ได้งานครั้งนี้แต่เป็นพนักงานเสริฟในร้านอาหารจีนแห่งเดียวกับเธอซึ่งวันนี้ก็ต้องมาขึ้นเรือเช่นกัน เธอตั้งใจกับตัวเองไว้แล้วว่ามาทำงานครั้งนี้เธอจะต้องหาข้อมูลคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและถ้าเป็นไปได้จะต้องคืนของสิ่งนี้ไปให้เจ้าของที่แท้จริงให้ได้
ห้องพักของลูกเรืออยู่ชั้นล่างสุดเป็นห้องเล็กๆห้องนึงพักได้ประมาณสี่คนเธอเองได้พักกับเพื่อนพนักงานที่ทำงานในร้านอาหารเดียวกันและโชคดีที่หนึ่งในนั้นมีเหม่ยฟางอยู่ด้วย หลังจากเก็บของในห้องพักเรียบร้อยแล้ว ลี่หลีชิงกับเหม่ยฟางจึงเดินมาที่ห้องลงทะเบียนที่มีลักษณะคล้ายๆห้องจัดเลี้ยง ซึ่งตอนนี้ได้ปรับสภาพเป็นห้องกว้างๆและวางเก้าอี้เรียงรายกันเอาไว้แทน โดยพนักงานพาร์ทไทม์ทุกคนจะต้องมาลงทะเบียนที่นี่และได้รับการอบรมเป็นเวลาประมาณหกชั่วโมงเพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับเรือลำนี้ก่อนที่เรือจะแล่นออกสู่ท้องทะเลในช่วงเวลาประมาณสองทุ่มของวันนี้
ลี่หลีชิงตั้งใจฟังข้อมูลที่ได้จากผู้บรรยายอย่างตั้งอกตั้งใจ เรือลำใหญ่หรูหราลำนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า DRAGONFLY ถือว่าเป็นเรือสำราญและเรือคาสิโนที่หรูหราติดอันดับต้นๆของภูมิภาคเรือมีขนาด 76,800 ตัน ความสูง 13ชั้น มีห้องพักทั้งหมดประมาณ 1,000 ห้อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ชั้นที่ 11 ของเรือเป็นเหมือนห้างสรรพสินค้าขนาดย่อม ชั้น 12 ของเรือเป็นเขตหวงห้ามผู้บรรยายใช้คำนั้นเพราะเป็นที่พักวีไอพี ครึ่งหนึ่งจะเป็นโซนที่เข้าได้เฉพาะคณะผู้บริหารของเรือลำนี้เท่านั้นเท่ากับว่าพนักงานอย่างพวกเธอทุกคนไม่มีสิทธิ์รุกล้ำเข้าไปแต่อย่างใด ส่วนห้องอาหารจีนที่เธอได้เข้ามาทำงานครั้งนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 10 ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหารจำนวนสามร้านใหญ่ และร้านจำพวกผับหรือบาร์อยู่รวมในชั้นนี้ด้วย
นอกจากอธิบายเรื่องราวประวัติของเรือแล้วก็ยังมีการเปิดรูปถ่ายของบุคคลสำคัญๆที่มีหน้าที่ภายในเรือให้ได้รู้จักหน้าตากันไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกัปตัน ผู้ช่วยกัปตัน ผู้ดูแลประสานงานซึ่งน่าจะเรียกว่าฝ่ายบุคคลบนเรือ เพราะจะเป็นผู้ดูแลการใช้ชีวิตของพนักงานพาร์ทไทม์ทุกชีวิตบนเรือตลอดเวลาห้าวันที่เรือลำนี้ได้ไปล่องลอยอยู่ในมหาสมุทร ส่วนในภาคบ่ายก็เป็นเรื่องของกฎระเบียบต่างๆและมารยาทฉบับย่อ กว่าจะจบก็เล่นเอาหูแทบแฉะเอาเลยทีเดียว และเมื่อการบรรยายและขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสิ้นก็เป็นเวลาที่จะให้ทุกคนได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนที่จะต้องเข้าประจำที่ในเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรงซึ่งแขกที่จะร่วมเดินทางในครั้งนี้ก็จะทยอยๆกันลงเรือประมาณทุ่มเศษๆ เธอได้ยินเพื่อนๆพนักงานซุบซิบกันว่า ทริปนี้เป็นเที่ยวเปิดตัวแขกส่วนมากจะเป็นแขกพิเศษที่ได้รับเชิญมา ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักแสดง นางแบบ เซเลบคนดังต่างๆ แต่จะเป็นใครก็ช่างเถอะเพราะยังไงตัวเธอเองก็ต้องเป็นนังก้นครัว ทำงานงกๆอยู่ในครัวอยู่แล้ว
ลี่หลีชิงยืนมองตัวที่ที่กระจกบ้านเล็กในห้องน้ำ หญิงสาวอยู่ในชุดผู้ช่วยกุ๊กสีขาวสะอาดตา บนหัวสวมหมวกกุ๊กสีขาวที่ด้านหน้าไม่วายมีลายมังกรสีทองปักอยู่ซึ่งแน่นอนเป็นรูปมังกรคาบลูกบอลสีทองเมือนจี้ที่เธอห้อยอยู่ไม่มีผิด ซึ่งตอนนี้ลี่หลีชิงมั่นใจเกินร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าคุณเฉินที่หย่งไท้ต้องการให้เธอนำของสิ่งนี้มาคืนให้จะต้องเป็นหนึ่งในสี่คนตระกูลเฉินแห่งโกลเดนดรากอนนี้อย่างแน่นอน และก็เพิ่งจะมารู้ตอนฟังอบรมนี่แหละว่าร้านทุกร้านบนเรือลำนี้ล้วนเป็นธุรกิจในเครือของคุณเฉินห้าวหลงเจ้าของเรือลำนี้ด้วย นี่ใจคอจะไม่ให้กระเด็นไปไหนซักแดงเลยหรือไงเนี่ย
มังกรในกรงของเธอตอนนี้ยังนอนสงบนิ่งปลอดภัยอยู่ภายในกรงที่เธอถักขึ้นครอบเอาไว้เพื่อความปลอดภัยป้องกันไม่ให้ใครเห็นมังกรตัวนี้ให้ชัดเจนเกินไป และห้อยเอาไว้กับตัวเช่นเคยสามปีที่ผ่านมาไม่เคยถอดเลยซักครั้ง หวังว่ามาคราวนี้จะได้มีโอกาสปลดเปลื้องภาระอันหนักอึ้งนี้ออกไปสักที แต่เธอก็พยายามเตือนสติตัวเองอยู่เสมอว่าต้องรอบคอบให้มาก เรื่องนี้คงเป็นเรื่องสำคัญ และอันตรายมาก เธอจะต้องแน่ใจก่อนว่าบุคคลคนนั้นที่เธอจะส่งของสิ่งนี้ให้คือคนที่สมควรได้รับมันอย่างแท้จริงเท่านั้น เพราะหย่งไท้ปกป้องมันด้วยชีวิตของเขา เธอซึ่งรับหน้าที่นี้ต่อจะให้มันเสียเรื่องไม่ได้เด็ดขาด เสียดายที่ตอนนั้นเธอไม่ได้เอะใจถามชื่อที่ชัดเจน ไม่อย่างนั้นงานนี้คงง่ายกว่านี้ขึ้นเยอะ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่ เธอจะทำงานของเธอไป พร้อมกับสอบถามข้อมูลของคนตระกูลเฉินทั้งหมดให้ได้มากที่สุดจากคนที่ทำงานร่วมกับเธอ โดยเฉพาะบรรดาพนักงานระดับสูงบนเรือนี้จะต้องรู้ข้อมูลดีดีบางอย่างแน่นอน
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดสูทสีดำสนิทเดินเข้ามาในเรือพร้อมกับผู้ติดตามอีกนับสิบคน พนักงานต้อนรับที่ประจำบนเรือต่างยืนรอต้อนรับกันสองข้างพร้อมก้มหัวโค้งเพื่อต้อนรับ คุณเฉินห้าวหลง ผู้เป็นเจ้านายใหญ่ และเป็นเจ้าของเรือลำนี้ พนักงานสาวๆต่างพยายามลอบส่งสายตาให้ชายหนุ่มผู้มีหน้าตาหล่อเหลา เรือนกายอันทรงเสน่ห์ ท่าทางสง่างาม แถมยังเป็นหนุ่มโสดที่เป็นที่หมายปองของสาวๆหลายต่อหลายคนแต่ไม่เคยมีใครจับมังกรหนุ่มรูปงามคนนี้ได้เลย เขามักจะควงสาวสวยอยู่เพียงไม่นาน ก็จะตัดสัมพันธ์ บางคนเรียกได้ว่าเป็นคู่นอนชั่วคืนด้วยซ้ำ เฉินห้าวหลงยกยิ้มมุมปากนิดหน่อยเพื่อเป็นการตอบรับการต้อนรับให้กับกัปตันและลูกเรือของเรือ
“อ้าวมาถึงแล้วเหรอ อาหลง” เสียงแหบห้าวของผู้ชายเจ้าของท้วมร้องทักมาทันที เฉินห้าวหลงหันไปหาพร้อมยกยิ้มมุมปากซึ่งดูเหมือนแสยะยิ้มหยันมากกว่า หึ จิ้งจอกเฒ่าซ่งไป่เจี๋ย มือขวาของพ่อบุญธรรมตอนนี้กลายเป็นที่ปรึกษาของบริษัทโกลเดนดรากอน นับตั้งแต่พ่อบุญธรรมจากไปก็ออกลายมากขึ้นทุกวัน ทุกวันนี้อย่านึกว่าเขาไม่รู้ว่าเฒ่าเจ้าเล่ห์ก็แค่ใส่หน้ากากทำเป็นเคารพเขาไปอย่างนั้นแหละ ลับหลังเป็นไงเขารู้ดี แต่เอาเถอะในเมื่อยังไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่กระทบเขามากมายนัก และตอนนี้มังกรคาบทองก็ยังสาบสูญอยู่ เขาจึงยังไม่อยากลงมือทำอะไรมากในตอนนี้
“ครับคุณอา เพิ่งมาถึงทุกอย่างเรียบร้อยดีไหมครับ” เฉินห้าวหลงพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย เขาไม่ค่อยอยากจะคุยกับชายคนนี้เท่าไหร่นักหรอก
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี นี่ก็ให้อาเทียนเดินตรวจความเรียบร้อยดูอีกครั้งอยู่” ซ่งไป่เทียนก็มาด้วยเหรอเนี่ย ลูกชายจอมไร้น้ำยาของซ่งไป่เจี๋ยวันๆชอบสร้างแต่เรื่องเดือนร้อน สองพ่อลูกคู่นี้เลี้ยงไว้นานไม่ได้ “อาหลงเพิ่งมาถึงเข้าไปพักที่ห้องก่อนดีกว่า” เฉินห้าวหลงยิ้มนิดหน่อยพร้อมกับก้าวเดินจากที่ตรงนั้นทันที พวกบอดี้การ์ดคนติดตามเดินตามกันไปนับสิบชีวิต หึ ไอ้เด็กกำพร้าอวดดีไปก่อนเถอะ อีกไม่นานหรอกอย่าให้ถึงทีกูบ้างแล้วกัน
เฉินห้าวหลงก้าวออกจากลิฟท์ที่ชั้นสิบสอง ชายหนุ่มก้าวเดินไปตามทางตรงไปยังห้องพักของตนเองที่อยู่ริมสุดทันที ห้องพักสุดหรูที่อยู่บนเรือแห่งนี้ถูกตบแต่งไว้อย่างสวยงามหรูหรา มีสระว่ายน้ำในร่มส่วนตัวอยู่ที่ระเบียงซึ่งอยู่ตรงกับหัวเรือพอดี ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่มสีน้ำตาล ในมือยกแก้วบรั่นดีขึ้นจิบพร้อมเอ่ยถามจางฟงว่า
“เด็กคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่”
“คนของเราบอกว่าเธอเพิ่งเข้าไปประจำจุดในครัวของร้านเทียนหลงครับ” จางฟงรายงานทันทีเพราะให้คนรายงานไว้ก่อนแล้ว ด้วยมั่นใจว่าเจ้านายของเขาต้องถามถึงสาวน้อยในดวงใจแน่นอน
“ ดี เตรียมตัวด้วยคืนนี้ฉันจะลงไปที่เทียนหลง” เฉินห้าวหลงยกยิ้มมุมปาก นัยน์ตาเปล่งประกายวับวาว แล้ววันนี้ก็มาถึง เขาเฝ้ารอวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ ที่จริงอยากจะไปหาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วแต่ไม่อยากทำให้แม่สาวน้อยตกใจจึงอดทนรอจนถึงวันนี้ มุมปากหยักได้รูปยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ หึ สาวน้อยของฉันวันนี้เราคงได้เจอกันสักที
ความคิดเห็น