ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ☼ 37 ℃ อุ่นรัก...พี่เลี้ยง ♡。◕‿◕。

    ลำดับตอนที่ #2 : พี่เลี้ยงวันที่ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 67
      3
      8 ก.ย. 60




    พี่เลี้ยงวันที่ 1

     



    ผมไปส่งลูกแป๊บนึง เดี๋ยวมาคุณนั่งรอตรงนี้ก่อน

     

    เสียงทุ้มเอ่ยสั่ง เขาเองก็ได้แต่มองตาปริบ ๆ พยักหน้าตอบแม้สมองจะยังคิดอะไรไม่ออกตอนนี้ได้แต่มองท้ายรถแล่นออกจากซอยไปทิ้งเขายืนปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่หน้ารั้ว!

     

    ย้ำว่าหน้ารั้ว!

     

    สงครามขนาดย่อมสงบลงแล้วหลังจากพาเด็กจอมโวยวายไปส่งโรงเรียนได้สำเร็จ ซึ่งกว่าจะพาไปได้ก็เล่นเอาคนเป็นพ่อ และว่าที่พี่เลี้ยงชั่วคราวปวดหัวไปตาม ๆ กัน

     

    คราวแรกเด็กนั่นเริ่มเบะปากงอแงจะไม่ยอมไปโรงเรียนท่าเดียว แต่พอโดนดุเข้าหน่อยก็เริ่มน้ำตาซึมท่าทางจ๋อยสนิทจนบุรินทร์รู้สึกสงสารอยู่เล็ก ๆ แม้ใจจะอยากลูบหัวทุยปลอบแต่ก็อดใจและคอยสังเกตพฤติกรรมของเด็กชาย อดิศร  สินจวัตร ชื่อเล่นคือ เฮียว่ามีนิสัยอย่างไรเพื่อที่จะได้ง่ายต่อการเลี้ยงดู

     

    สิ่งที่บุรินทร์ค้นพบนอกจากความแสบก็คือ เด็กคนนี้ค่อนข้างจะติดพ่อของเขาเป็นพิเศษ เพราะที่ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะกลัวว่าพ่อจะไปเที่ยวแล้วไม่ยอมกลับบ้าน เขาเองก็ได้แต่สงสัยอยู่ในใจไม่กล้าถามออกไป กว่าชนวิทจะไปส่งน้องเฮียก็เรียกได้ว่าเกือบสายแม้ว่าโรงเรียนอนุบาลจะอยู่ใกล้ แต่ด้วยสภาพการจราจรที่แออัดในช่วงก่อนแปดโมงเช้าทำให้บุรินทร์รู้สึกเซ็งอย่างสุดชีวิตเพราะตอนนี้เขาหนาว! ร่างโปร่งยังอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตตัวเดิม และกางเกงยีนส์สีซีดอมน้ำนั่งจ๋องอยู่หน้ารั้วหน้าบ้านของชนวิท โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่ายังไม่ไว้ใจที่จะให้คนไม่รู้จักอยู่ในบ้าน!

     

    ให้มันได้อย่างนี้สิ! ไหนกานต์กวีบอกว่าสองพ่อลูกนี่เป็นคนดี น่าสงสาร น่าหมั่นไส้สิไม่ว่า!

     

    ปรี๊น!

     

    นักศึกษาจบใหม่นั่งกอดเข่าฟุบหน้าลงกับกระเป๋าเอกสารที่นำติดมาและเป้นโชคดีที่กระเป๋าใบนี้ไม่ได้เปียกน้ำไปด้วย ประมาณชั่วโมงกว่า เสียงแตรรถฮอนด้าแอคคอร์ดสีดำคันงามแล่นมาจอดหน้ารั้วบ้าน บุรินทร์เงยหน้าขึ้นมองดูทะเบียนจำได้ว่าเป็นของเจ้าของบ้าน แต่ไม่เห็นว่าอีกคนจะลงจากรถมาเปิดรั้วแต่อย่างใดกลับบีบแตรซ้ำอีกที และลดกระจกรถลงครึ่งหนึ่ง

     

    ปรี๊นน!

     

    คิ้วเรียวขมวดอย่างไม่เข้าใจ

     

    เปิดรั้วสิสิ้นคำสั่งบุรินทร์ก็ถึงบางอ้อ

     

    อ๋อ ที่แท้ก็จะให้เขาเปิดรั้วให้

     

    ไอ้... โว้ยยยยยยยยยย!!!

     

     

     

     

     

    ผมเสือ

     

    ร่างสูงนั่งไขว่ห้างแนะนำตัวสั้น ๆ แขนทั้งสองข้างกอดอกมองมายังพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่อย่างพิจารณา ทำให้บุรินทร์นึกในใจอยู่ว่าพ่อลูกคู่นี้มีพฤติกรรมเหมือนกันคือชอบกอดอกเวลาพูด

     

    สวัสดีครับคุณเสือ ผมชื่อบีน...ครับบุรินทร์แนะนำตัวอีกครั้ง และนั่งเกร็งอยู่บนโซฟาตัวเดิมเมื่อถูกมองอย่างสำรวจอีกทั้งเครื่องปรับอากาศในบ้านหนาวจนเขากัดฟันแน่นเพื่อไม่ให้มันกระทบกัน

     

    คุณจะมาทำงานแทนพี่เกตุ?”

     

    ครับ น้าเกตุแจ้งคุณหรือยังครับ

     

    อืม

     

    เกตุ หรือกานต์กวี  คำเสียง หญิงอายุวัยสี่สิบต้น ๆ เธอตั้งท้องลูกหลงคนที่สามได้สี่เดือนจึงมาขอลาออกเพราะปรึกษากับสามีแล้วว่าจะกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดกลับไปดูลูกเพราะยายเลี้ยงไม่ไหว และจะเปิดร้านขายของที่นั่น เธอเป็นน้าของบุรินทร์  วังคีรี ซึ่งเขานับถือเธอเป็นแม่เลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเห็นหน้าแม่เลยสักครั้ง ตอนเด็กเขาอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดโดยมีลูกสาวคนเล็กซึ่งก็คือกานต์กวีคอยส่งเสียค่าเลี้ยงดูและค่าเล่าเรียนจนจบปริญญาตรี ตอนนี้บุรินทร์ยังไม่มีงานทำซึ่งประจวบเหมาะที่ชนวิทเองก็ยังหาพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ไม่ได้เพราะฉุกละหุกเกินไป กานต์กวีจึงขอให้เขามาช่วยก่อนจนกว่าชนวิทจะหาพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ได้เพราะอย่างไรบุรินทร์ก็เคยเลี้ยงลูก ๆ ของเธอมาก่อนก็น่าจะรับมือกับความดื้อของเด็กชายอดิศรได้

     

    เรื่องนี้ชนวิทก็รู้อยู่แล้ว ถึงจะไม่อยากได้พี่เลี้ยงเด็กที่เป็นผู้ชาย แถมยังเป็นบัณฑิตจบใหม่ ท่าทางใจร้อนอาจจะรับมือกับเด็กอายุห้าขวบไม่ได้ แต่ในเมื่อกานต์กวียืนยันว่าหลานชายของตนเองทำได้ก็คงต้องปล่อยเลยตามเลยไปก่อนจนกว่าจะหาพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ได้ในเร็ว ๆ นี้นั่นแหละ

     

    บุรินทร์นำเอาเอกสารที่ติดตัวมาให้ชนวิทพิจารณา แต่ก็ไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควรเพราะชนวิทไม่ได้จับมันขึ้นมาดูแถมยังเลื่อนกลับมาให้เขาเหมือนเดิม

     

    คุณอายุเท่าไหร่

     

    ยี่สิบสองครับ

     

    เพิ่งเรียนจบ?”

     

    ครับ

     

    พูดภาษาอังกฤษได้ใช่ไหม?”

     

    ได้ครับ

     

    ก็ดีชนวิทพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจแล้ว ก่อนจะเงียบอย่างใช้ความคิด

     

    ทำเอาบุรินทร์วางตัวไม่ถูก เพราะชนวิทเป็นคนพูดน้อยถึงน้อยมาก อย่างแนะนำตัวก็แนะนำแค่ชื่อเล่นสั้น ๆ การถามคำถามจึงเป็นการถามคำตอบคำ บุรินทร์ไม่กล้าตอบยาวและหลีกเลี่ยงไม่ตอบในส่วนที่ไม่ได้ถาม แม้จะถามอายุของเจ้าของบ้านกลับบ้างก็ยังไม่กล้าจึงปล่อยให้ความเงียบปกคลุมจนรู้สึกอึดอัด หากชนวิทไม่พูดอะไรบุรินทร์จะขออนุญาตกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดแล้วนะ

     

    “...วันพรุ่งนี้ผมจะไม่อยู่บ้าน เมื่อก่อนพี่เกตุจะมาอยู่กับน้องเฮียชนวิทเอ่ยขึ้น

     

    ผมต้องมาอยู่กับน้องไหม?” บุรินทร์ใช้เวลาไม่นานในการหาคำตอบในประโยคของเจ้าของบ้านแล้วเอ่ยถาม

     

    ผมยังไม่ไว้ใจคุณชนวิทบอกตามตรง มันก็จริงที่จะให้ใครไม่รู้มาอยู่ที่บ้านกันล่ะ ขนาดเมื่อเช้ายังให้เขาออกไปนั่งรอหน้ารั้วเลย

     

    แล้วผมต้องทำยังไง?”

     

    เซ็นสัญญา

     

    เขียนที่ XXXX

    วันที่ xx เดือน xx พ.ศ.xxxx

     

    สัญญานี้ทำขึ้นเมื่อวันที่  7 มีนาคม 25X0  ระหว่าง นายชนวิท  สินจวัตร ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า ผู้ว่าจ้างฝ่ายหนึ่ง กับ นายบุรินทร์  วังคีรี ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า ผู้รับจ้างอีกฝ่ายหนึ่ง โดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญาไว้ต่อกัน มีข้อความดังต่อไปนี้

     

    ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้างทำงาน เป็นพี่เลี้ยงเด็ก และทำความสะอาดบ้าน โดยผู้รับจ้างต้องมาอยู่ที่บ้านของผู้รับจ้าง และทำงานโดยไม่มีวันหยุด ซึ่งผู้รับจ้างจะได้ค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงิน 25,000 บาท (สองหมื่นห้าพันบาทถ้วน) โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใด ๆ ภายในบ้าน

     

    ข้อ 2. การเลี้ยงดูบุตร คือ เด็กชายอดิศร  สินจวัตร ผู้ว่าจ้างนั้น ผู้รับจ้างต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ และห้ามตี หรือทำโทษบุตรของผู้ว่าจ้างโดยไม่มีเหตุสมควรโดยเด็ดขาด ยกเว้นว่าผู้ว่าจ้างนั้นจะอนุญาตให้ทำโทษได้ในกรณีที่เห็นสมควร หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ผู้รับจ้างจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และสัญญานี้จะสิ้นสุดลงโดยไม่ต้องบอกล่วงหน้า

     

    ข้อ 3. ผู้รับจ้างจะต้องไม่มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย ทำให้ผู้ว่าจ้างเกิดความเสียหายใด ๆ หากเกิดมีสินทรัพย์ภายในบ้านหายไป ผู้รับจ้างจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และปรับ 1,000 เท่าของราคาสินทรัพย์นั้น และสัญญานี้จะสิ้นสุดลงทันทีโดยไม่ต้องบอกล่วงหน้า

     

    ข้อ 4. หากผู้ว่าจ้างได้รับพี่เลี้ยงคนใหม่มาแทนแล้วจะต้องแจ้งให้ผู้รับจ้างทราบล่วงหน้า และสัญญานี้จะสิ้นสุดลงทันที

     


    ลงชื่อ  ชนวิท  สินจวัตร  ผู้ว่าจ้าง

    ลงชื่อ  บุรินทร์  วังคีรี    ผู้รับจ้าง

     

     

     

    บุรินทร์ตวัดลายมือชื่อตัวเองลงไปในกระดาษสีขาวเพิ่งปริ้นท์มาใหม่เมื่ออ่านสัญญาจบ จริง ๆ เขากวาดสายตาไปเพียงบางส่วนเท่านั้น จับใจความได้ว่าเขาต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเพื่อดูแลเด็กชายอดิศรโดยไม่มีวันหยุด เงินเดือนสองหมื่นห้าพันบาทถ้วน และสัญญาจะสิ้นสุดเมื่อหาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้

     

    โอเค เก็ท

     

    มือกร้านอย่างคนผ่านทำงานหนักมาแล้วรับสัญญาหนึ่งในสองฉบับมาถือไว้ ส่วนอีกฉบับอยู่กับคู่สัญญา ก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาได้จึงเอ่ยถาม

     

    ผมขอถามได้ไหมว่าทำไมต้องย้ายมาอยู่ด้วย น้าเกตุยังไม่ต้องย้ายมาเลย

     

    คุณถามทั้งที่เซ็นชื่อลงไปแล้ว?”

     

    ผมตกลงทำงาน แต่ผมแค่สงสัย

     

    ผมก็อยากให้พี่เกตุมาอยู่ แต่เกรงใจสามีพี่เกตุ จะมีบ้างที่ให้ช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนน้องเฮียเวลาที่ผมไม่กลับบ้าน ส่วนคุณถ้ามีแฟนก็บอกให้แฟนเข้าใจด้วย

     

    บุรินทร์พยักหน้าหงึกหงักทั้งที่ไม่มีแฟนกับเขาหรอก แต่ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องไปแก้ต่างให้ตัวเอง แต่ที่น่าห่วงตอนนี้ก็คือสุขภาพของเขามากกว่า

     

     

    คุณเสือเจ้าของชื่อไม่ตอบ แต่ใช้สายตารีเล็กนั้นมองเพื่อให้พูดต่อ ผมหนาว... ถ้ายังไงผมมาใหม่อีกครั้งได้ไหม

     

    บุรินทร์ยกมือขึ้นลูบแขนผ่านเนื้อผ้าประกอบ ชนวิทเองก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าบุรินทร์เปียกตอนอาบน้ำให้น้องเฮีย ซึ่งตอนนั้นคัวเองมัวทำมื้อเช้าอย่างง่ายให้ลูกกินอยู่ จนลืมไปเรื่องนี้ไปเลยด้วยซ้ำ เจ้าของบ้านขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิดก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

     

    ไม่ต้องหรอกผมจะให้คุณเริ่มงานตอนนี้เลย ส่วนเรื่องเสื้อผ้าคุณน่าจะใส่ของผมได้ร่างสูงลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วเดินเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ข้างห้องเมื่อเช้าที่น่าจะเป็นของลูกชาย สักพักก็ออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าในมือ

     

    อย่าเลยผมเกรงใจ ผมว่า...

     

    ตัวนี้น่าจะใส่ได้ไม่รอให้ลูกจ้างหมาด ๆ ได้ปฏิเสธ นายจ้างยัดเสื้อผ้าของตัวเองใส่มือบุรินทร์เสร็จสรรพ และเดินไปเก็บของใส่กระเป๋าสะพายของตัวเองหน้าตาเฉย

     

    แต่...เขาลองเอ่ยปฏิเสธอีกรอบ แต่กูถูกตัดบทอีกครั้ง

     

    ผมยังไม่ได้หากุญแจบ้านอีกดอกไว้ให้คุณ เพราะฉะนั้นอยู่ไปก่อน ผมต้องออกไปทำธุระ... อ้อ ห้องน้ำอยู่ตรงห้องครัวชนวิทไม่รอให้คนอายุน้อยกว่าปฏิเสธซึ่งว่าเป็นประโยคที่ยาวที่สุดสำหรับวันนี้เลยก็ว่าได้

     

     

     

    สรุปไม่ให้เขากลับสินะ

     

     

     

     

    บุรินทร์รู้สึกว่าร้างกายกำลังจะแหลกอีกในไม่ช้า มือเรียวทว่ากร้านจากการทำงานพิเศษในสมัยเรียนยกขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผากไม่ให้ไหลเข้าตา ร่างโปร่งสวมกางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดสีดำตัวโคร่งกว่าตัวเล็กน้อยเพราะเสื้อของชนวิทใหญ่กว่าเขาหนึ่งไซส์ เขากำลังต่อสู้กับการทำความสะอาดบ้านอย่างเอาเป็นเอาตาย

     

    ส่วนเจ้าของบ้านที่รักความสะอาดนั้นไปทำงานเรียบร้อยแล้ว ออกมาจากห้องน้ำเจอแค่โพสต์อิทสีเหลืองแปะไว้ที่ตู้เย็น ลายมือขยุกขยิกไม่เป็นระเบียบเขียนสั้น ๆ ว่า เริ่มทำความสะอาดตั้งแต่วันนี้เพราะอย่างนี้สินะถึงไม่ให้เขากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน!

     

    สู้รบกับมันจนจนเกือบบ่ายสามในที่สุดก็เสร็จเสียที นับว่าแปลกตาไปจากเดิมจากหน้ามือเป็นหลังมือคนทำจึงรู้สึกพึงพอใจกับผลงานมาก แต่ตอนนี้บุรินทร์รู้สึกคันเนื้อคันตัวอยากจะอาบน้ำอีกรอบเพราะขลุกอยู่กับฝุ่นเป็นเวลานานและอยากกลับไปเก็บของที่ห้องด้วย แต่ก็ต้องรอเจ้าของบ้านกลับมาก่อนถึงจะกลับได้ รอจนเกือบสี่โมงเย็นก็ยังไม่เห็นวี่แวว ไม่รู้ว่าชนวิทไปรับลูกชายแล้วหรือยัง ชะเง้ออยู่นานในที่สุดฮอนด้าแอคคอร์ดสีดำก็วิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน

     

    ปรี๊นน!

     

    และการเปิดประตูรั้วกลายเป็นหน้าที่ของเขาไปโดยปริยาย

     

    รถคันสวยวิ่งมาจอดในตัวบ้าน ทันทีที่รถจอดสนิทประตูรถด้านหลังก็เปิดออกพร้อมกับเด็กจอมโวยวายวิ่งมาดักหน้าเขา

     

    ทำไมลุงยังไม่กลับไปอีก!

     

    น้องเฮียคนเป็นพ่อปราม

     

    พ่อ ลุงไม่กลับเด็กตัวน้อยวิ่งกลับไปหาพ่อ แล้วชี้มาทางเขาเป็นเชิงฟ้องว่าเขายังไม่กลับไปเสียที

     

    พ่อให้เขาอยู่ด้วย พี่เขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนเราแทนป้าเกตุ

     

    ไม่เอาอ่ะ! ป้าเกตุไปไหน จะเอาป้าเกตุ!

     

    ป้าเกตุกลับบ้าน ส่วนพี่บีนจะมาอยู่แทนป้าเกตุนะ แค่แป๊บเดียว

     

    ทำไมต้องให้ลุงเขามาอยู่ด้วย พ่ออยู่กับเฮียก็ได้นี่ครับคนเป็นลูกพูดเสียงอ่อนอย่างออดอ้อน

     

    ภาพของคนเป็นพ่อย่อตัวลงนั่งเพื่อให้เสมอกับตัวลูกปะเหลาะกันทำให้คนนอกอย่างบุรินทร์ทำตัวไม่ถูก ร่างโปร่งยกมือเกาท้ายทอยอย่างคนไม่รู้จะทำอย่างไรต่อดี จะเอ่ยปากขอกลับบ้านก็กลัวจะไปขัดบรรยากาศพ่อลูก แต่ขืนยังเงียบอยู่แบบนี้ก็คงไม่มีใครสนใจเขา หรือเขาควรจะออกไปอย่างเงียบ ๆ ?

     

    เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ เขาจึงก้าวเท้าให้เบาที่สุด แต่คนตาดีก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

     

    คุณจะไปไหน

     

    กลับห้องสิคุณ ผมคันไปหมดแล้วว่าแล้วยื่นแขนให้ดูว่ามันเป็นผื่นแดง

     

    อี๋

     

    บุรินทร์แอบแยกเขี้ยวให้เด็กแสบที่ทำหน้ารังเกียจ

     

    กลับยังไง เดี๋ยวผมไปส่งยังไงคุณก็ต้องมาอยู่นี่อยู่แล้ว

     

    ไม่เป็นไรครับบุรินทร์ปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด ถึงเขาจะไม่มีรถขับแต่ก็ไม่อยากรบกวนคนอื่น

     

    กลับไปเลย ชิ่ว ๆ มือเล็กสะบัดไล่เขา

     

    ไอ้เด็กเฮีย...

     

    น้องเฮียชนวิทปรามลูกอีกครั้ง ไอ้ตัวแสบคว่ำปากก้มหน้างุด ว่าไง

     

    บุรินทร์คิดว่าตัวเองกำลังถูกกดดันกราย ๆ

     

    ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับมาแล้วกันครับ

     

    อืม

     

     

     

     

    เมื่ออาบน้ำขัดเหงื่อไคลออกจากตัวเสร็จค่อยสบายตัวหน่อย บุรินทร์เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าเป้ เลือกไปเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นเพราะเวลากลับจะขนกลับมาลำบาก อย่างไรเสียชนวิทก็น่าจะหาพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ได้ในเร็ว ๆ นี้

     

    บุรินทร์เอาเสื้อผ้าของชนวิทใส่ถุงกระดาษเอาไว้พลางนึกถึงขนาดตัวของคนใส่ ทั้งที่ตัวเขาเองก็สูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร และชนวิทเองก็สูงกว่าเขาประมาณห้าถึงหกเซ็นต์ จะต่างกันก็ตรงที่ร่างของชนวิทจะดูหนาและสมส่วนกว่าเขามากแม้ว่าเขาจะออกกำลังกายและทำทุกทางให้มีกล้าเนื้อสวยอย่างที่ในคลิปทำแล้วก็ตามที

     

    ต้องยอมรับว่าเขาอิจฉาหุ่นของชนวิทจริง ๆ อยากสูง และเฟิร์มแบบนั้นบ้าง

     

    เก็บเสร็จก็นอนเล่นพักร่างจากความเมื่อยขบ ตากลมสองชั้นมองฝ้าเพดานห้องแล้วแอบอาลัยอยู่หน่อยหนึ่งที่จะไม่ได้มาอยู่สักระยะ ถึงห้องนี้จะเล็กกว่าห้องของเด็กชายอดิศรซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวในโครงการบ้านจัดสรรก็เถอะแต่ถึงยังไงเขาก็ซุกหัวนอนมาตั้งแต่เรียนปีสอง (ปีหนึ่งอยู่หอใน) พอคิดว่าต้องไปนอนที่อื่นนาน ๆ ชักจะไม่อยากไปเสียแล้ว...

     

     

    Rrrr… Rrrr…

     

    โทรศัพท์จากน้าที่เขานับถือเหมือนแม่ดังขึ้น เขาจึงกดรับสาย

     

    ครับน้า

     

    “[บีนทำอะไรอยู่จ้ะ ว่างคุยหรือเปล่า]

     

    ว่างครับ ตอนนี้ผมไม่ได้ทำอะไร

     

    “[ไปหาคุณเสือมาเป็นอย่างไรบ้างจ้ะ]

     

    เมื่อกานต์กวีเปิดช่อง เขาก็ไม่รอช้าที่จะฟ้องในสิ่งที่เขาเจอมากับตัว!

     

    คุณเสือของน้าเกตุไม่เห็นจะรักสะอาดเลย บ้านงี้อย่างเละอ่ะ แถมน้องเฮียก็โวยวาย แถมดูจะไม่ชอบหน้าผมด้วย น้าเกตุครับผมชักกลัวแล้วเนี่ย

     

    “[ทนหน่อยนะบีน น้องเฮียเธอเป็นเด็กน่าสงสาร แรก ๆ ก็อาจจะดื้อบ้างตามประสาเด็กไม่ถึงวันเดี๋ยวเธอก็คุ้นกับบีนจ้ะ แล้วคุณเสือเองก็คงจะลำบากที่ต้องดูลูกคนเดียวตั้งหลายวันบ้านจะรกไปบ้างก็ไม่แปลกหรอกจ้ะ]

     

    ไม่ได้รกธรรมดานะ และสกปรกเลยต่างหาก! วันนี้ผมไปทำความสะอาดมาผื่นขึ้นเต็มตัวเลยว่าแล้วเกาแขนไปด้วยอย่างกับปลายสายจะเห็น

     

    “[ฮ่ะ ๆ ๆ คุณเสือเธอรักความสะอาด แต่เธอไม่ค่อยเก็บของเป็นระเบียบหรอกจ้ะ บีนก็อย่าลืมทายาด้วยนะจ้ะ]

     

    ง่า... ทาแล้วครับ แล้วน้ากับเด็ก ๆ สบายดีไหมครับ

     

    “[ดีจ้ะ น้องแก้มน้องกายฝากบอกว่าคิดถึงพี่บีนด้วยนะ]

     

    ผมก็คิดถึงเด็ก ๆ ครับ คิดถึงยาย คิดถึงน้าเกตุด้วย

     

    “[ปากหวานจริงเชียวเด็กคนนี้]

     

    น้าเกตุทานข้าวหรือยังครับบุรินทร์ถามเอามือลูบท้อง วันนี้เขายังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำเต้าหู้และปลาท่องโก๋สองตัวเมื่อเช้านี้

     

    “[ยังเลยจ้ะ บีนล่ะจ้ะ]

     

    ยังเลยครับ ว่าจะไปเอาของไปไว้ที่บ้านคุณเสือก่อน...หลังจากนั้นเขาก็เล่าเหตุการณ์และสัญญาจ้าง รายละเอียดการทำงานให้กานต์กวีน้าสาวฟังคร่าว ๆ แอบฟ้องว่าชนวิทแกล้งให้เขาอยู่ทำความสะอาดบ้านตั้งแต่วันนี้อีกด้วย

     

    “[งั้นบีนไปบ้านคุณเสือเลยจ้ะ อย่าให้ผู้ใหญ่รอนานเลยมันไม่ดี]บุรินทร์มุ่ยหน้าเมื่อได้ยิน

     

    ครับ ผมรักน้าเกตุ กับยายนะครับ

     

    “[จ้ะ ดูแลตัวเองด้วยนะจ้ะบีน]

     

    ครับ

     

    หลังจากวางสายบุรินทร์ก็สำรวจห้องอีกครั้งว่าเรียบร้อยดีไหม ลืมอะไรหรือเปล่าไม่อยากเสียเที่ยวมาเอาอีก เมื่อตรวจตราดีแล้วน้ำไฟไม่ลืมอะไรแล้วจึงแบกสัมภาระของตัวเองออกจากห้อง

     

     

    ไหว ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละงานนี้!








    TBC.








    ::: พูดคุยกับคนเขียน :::

    ตอนที่ 1 มาเสิร์ฟแล้วค่ะ 

    พยายามทบทวนเรื่องที่เขียนลงเล้า เปลี่ยนเนื้อนิดหน่อยแต่ไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องค่ะ ><

    ขอบคุณมากค่ะ ♥


    B
    E
    R
    L
    I
    N
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×