คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Live ไลฟ์
ตอนที่ 1 Live “ไลฟ์”
กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกเก็บเรียบร้อยอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของเตียง ในคอนโดใจกลางกรุง
ชิษณุ ชายหนุ่มวัยยี่สิบสองปี ใบหน้ากลมเกลี้ยงที่ผ่านการโกนหนวดเคราเรียบร้อย หนังสือเดินทางและ
เอกสารถูกจัดแจงไว้ในกระเป๋าหนังสะพายข้างสีดำ อีกสองชั่วโมงต่อจากนี้ เขาจะต้องเดินทางไปศึกษาต่อ
ที่สหรัฐอเมริกาในภาควิชาอาชญวิทยาภายใต้การสนับสนุนทุนการศึกษาเล่าเรียนฟรีของรัฐบาล
เชือกถุงเท้าข้างสุดท้ายถูกผูกแน่นจนเสร็จ ชิษณุเป่าปากครานึง ผมที่ปรกหน้าพลิ้วไหวตามแรง
ลมนั้น เขาเอ่ยกับตัวเองก่อนจะจากไป “ลาก่อน เมืองไทย” ก่อนจะทอดถอนใจด้วยความคิดถึง
เวลาช่วงเที่ยงวัน รถไฟฟ้าคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ชิษณุต้องนั่งรถไปสุวรรณภูมิโดยมีเพื่อน
สาวคนสนิท อัมไพอาสาขับรถไปส่ง เธอนัดกับเขาที่สถานีสยาม ชิษณุต้องเดินทางโดยรถไฟฟ้า อีกสี่
สถานีจะถึง ชิษณุที่ขาข้างขวามีกระเป๋าเดินทางวางพิงอยู่ สายตาเขาจับจ้องไปที่จอแอลซีดี ที่ขึ้นโฆษณา
ให้ชวนมอง
“งานเทศกาลเกมส์ออนไลน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี “ไลฟ์” สนุกไปกับเกมส์ออนไลน์และกิจกรรม
มากมาย…และการเปิดตัวเกมส์ออนไลน์มากมาย….” ในโฆษณายังมีกล่าวต่อ ชิษณุเบือนหน้าออกไป
ครุ่นคิดในใจ ….ทำไมเด็กเดี๋ยวนี้ติดเกมส์จังน้า ก็เหมือนเราเมื่อก่อน ติดเกมส์ไม่เป็นอันทำอะไร… ทันใด
นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล ว่าไงอัม” ชิษณุพูดกับอัมไพที่โทรเข้ามา
“ถึงไหนแล้วนุ รถติดเดี๋ยวก็ตกเครื่องหรอก” อัมไพไถ่ถามด้วยน้ำเสียงสดใส
“โอ๊ย อย่ากังวลไปคุณหมอ ผมเผื่อเวลาไว้แล้ว เจอกัน ผมถึงแล้ว แค่นี้นะ” ชิษณุตัดบทวางสาย
ไป
ไม่ถึงสิบห้านาที ชิษณุ มาพบเพื่อนสาวคนสนิทที่นั่งรอเขาที่ร้านกาแฟหรูร้านหนึ่ง บนโต๊ะมีกาแฟ
เย็นใส่แก้วสองแก้ววางไว้
อัมไพเริ่มเอ่ยขึ้น “อื้อ ซื้อให้แล้วนะ คาปูชิโน่ หว๊าน หวาน พ่อหนุ่มติดหวาน เดี๋ยวซักวันเบา
หวานจะถามหา”
ชิษณุยิ้มกว้างก่อนจะตอบกลับ “รู้ใจจริงๆ คุณหมออัม ป่ะ”
รถเบนซ์สีดำจอดนิ่งอยู่ที่ลานจอดรถชั้นบนของห้าง ชิษณุเปิดประตูที่นั่งด้านข้างคนขับ ก่อนจะ
ทรุดตัวลงนั่งพบ เอกสารเป็นใบปลิวโฆษณาบางอย่าง “ไลฟ์” รวมพลคนรักเกมส์ออนไลน์
“อีกแล้วเหรอเนี่ย ตั้งแต่บนรถไฟฟ้าละ ถ้าเป็นเมื่อก่อน สมัยผมยังไว้ผมทรงเกรียนเนี่ย ผมคง
อยากไปงานนี้ใจจะขาดเลยล่ะ” ชิษณุบอก
อัมไพขับรถออกมาอย่างช้าๆ “มันก็เป็นเรื่องของวัยรุ่นเค้า เรามันแก่แล้ว เลิกเล่นเกมส์ไปนาน
แร๊ะ”
“เฮ้ย ผมก็ยังวัยรุ่นนะคร้าบ” ชิษณุกลับพับมันใส่กระเป๋าอย่างลืมตัว
“แล้วไปตั้งสีปี อัมคิดถึงแย่เลย” อัมไพพูดพลางทำหน้าเศร้า
“ผมคงส่งข่าวมาเป็นระยะๆ อาจจะขาดการติดต่อไปบ้าง อย่าหนีไปแต่งงานก่อนซะล่ะ” ชิษณุ
พูดพลางหันไปมองหน้าอีกฝ่าย
อัมไพฟังแล้วนิ่งเงียบไป ไม่ได้กล่าวอะไรกลับมา
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
ทุกหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับตีพิมพ์คล้ายกัน “โรคประหลาด หลับนานข้ามวัน เชื่อเกมส์
ออนไลน์เป็นเหตุ” เนื้อหาในข่าวกล่าวว่า “เมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดโรคประหลาด ผู้ป่วยมีอาการนอน
หลับไม่ได้สติ เป็นเวลาสองวันสองคืน แพทย์ไม่ตรวจพบอาการผิดปกติ แต่มีรายงานว่า หลายโรง
พยาบาลทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนต่างมีคนไข้ที่มีอาการประหลาดมาเข้ารับการตรวจรักษาเป็นจำนวน
มาก และสอบถามจากผู้ปกครองพบว่า บุตรหลานได้ไปงานเกมส์ออนไลน์ที่ตั้งชื่ออีเวนท์ว่า “ไลฟ์” มีความ
เชื่อว่าเกมส์ดังกล่าวพรากวิญญาณของเด็กไป และทางรัฐบาลกำลังดำเนินการสืบสวนต่อไป”
รายการเจาะประเด็นข่าวหลายช่องนำเสนอข่าวนี้อย่างล้วงลึกจริงจัง จนเป็นประเด็นร้อนทาง
สังคม หรือเกมส์ออนไลน์กลับกลายเป็นภัยคุกคามชีวิตเยาวชน จะควรจัดการเรื่องนี้อย่างไร ร้อนถึง
รัฐมนตรีไอซีที ดอกเตอร์สุเมธต้องออกมาตอบโต้ พร้อมจะส่งเรื่องนี้ให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้ามาตรวจ
สอบอย่างละเอียด และผู้ป่วยหลายรายยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
เป็นหลายเดือนติดต่อกัน ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ผู้ป่วยที่มีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้น จนต้องจัดตั้งศูนย์
ดูแลผู้ป่วยหลับมรณะนี้เกิดขึ้น ภายใต้การควบคุมกำกับของกระทรวงสาธารณสุข และเรื่องเข้าที่ประชุม
สภา มีมติเห็นชอบอย่างว่าจะงด ยกเลิกเกมส์ออนไลน์ทุกชนิด ทุกเกมส์ อย่างไม่มีกำหนด หากใครฝ่าฝืน
มีโทษถึงจำคุก รวมทั้งผู้ประกอบการ และการสื่อสารออนไลน์ถูกจำกัดให้กับผู้บรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้น
หลังจากรัฐบาลแบนเกมส์ออนไลน์ทั้งหมด เกิดการต่อต้านจากอีกกระแสหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย ร้าน
เกมส์อินเตอร์เน็ตที่สูญเสียรายได้ กลายเป็นร้านอินเตอร์เน็ตที่ไว้ติดต่อออนไลน์ เกมส์ที่เล่นจะจำกัดเป็น
เกมส์ออฟไลน์ทั้งหมด และสามารถต่อสายเชื่อมเล่นกันภายในร้านเท่านั้น และการจัดการปัญหานี้สามารถ
ลดผู้ป่วยโรคหลับมรณะลงได้อย่างเห็นได้ชัด นับเป็นหนึ่งในการจัดการปัญหาที่ยอดเยี่ยมของรัฐบาล
สี่ปีต่อมา
ชิษณุถูกตามตัวกลับประเทศไทยโดยหนังสือจากรัฐบาลไทยถึงสถานทูตประจำสหรัฐอเมริกา
ทันทีที่ชิษณุถึงเมืองไทย รถแวนสีดำติดฟิล์มดำสนิท มารับตัวชิษณุถึงสนามบิน ทันทีที่ชิษณุก้าวเข้าไปใน
รถ บุคคลสามคนบนรถทำเอาชิษณุหวั่นวิตกเล็กน้อย รู้ถึงความไม่ปกติของเรื่องบางอย่างที่สำคัญยิ่ง
ชิษณุส่งข้อความถึงอัมไพ “ไม่ต้องมารับแล้วนะ ถึงไทยแล้ว ว่างจะติดต่อไป”
ชายวัยห้าสิบเศษ สวมแว่นหนา สวมสูททักซิโด้สีดำ ผมสีดอกเลา หน้าตาเกรงขาม ริ้วรอยที่
ผ่านประสบการณ์ต่างๆมาอย่างโชกโชน เขาคือหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ พลเอก ณัฐพล และอีกคนที่
ชิษณุเรียกเขาติดปากว่าคุณอา ดร.สุเมธ นั่นเอง
เอกสารในซองสีน้ำตาลส่งมาถึงมือ ชิษณุไม่ได้เปิดอ่าน แต่กลับล้วงบางอย่างในกระเป๋าหนังสี
ดำใบนั้น แม้สีปีผ่านมาแล้ว แต่สภาพกระเป๋าดูไม่เก่าน้อยลงไปกว่าเดิมเลย แสดงถึงการใช้งานอย่างทนุ
ถนอมของเขา
ใบปลิวโฆษณาอีเวนท์เกมส์ออนไลน์ “ไลฟ์” เขาเก็บมันไปด้วยอย่างลืมตัว
“เรื่องคดีดังเมื่อสี่ปีก่อนใช่มั๊ยครับ” ชิษณุเอ่ยถาม
“ต้องมองหลานซะใหม่แล้ว หลังจากกลับจากอเมริกาคราวนี้” ดร.สุเมธกล่าวชมหลานรักคนนี้
ชิษณุยิ้มรับกับคำชมนั้น แล้วกล่าวต่อออกไป “ไม่เพียงแค่ในบ้านเราที่มีเรื่องแบบนี้นะครับ หลาย
ประเทศที่เกิดปฏิกิริยาหลับมรณะลูกโซ่นี่ลุกลามออกไป นับแสนคนที่หลับใหลไปอย่างไม่รู้สาเหตุ”
“เรามาเพื่อรับตัวคุณชิษณุ เพื่องานนี้โดยเฉพาะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของเรา”
พลเอกณัฐพล ยื่นมือขวาออกมา ชิษณุแสดงอาการชะงักเล็กน้อยก่อนจะจับมือกับพลเอกณัฐพลอย่าง
แนบแน่น นับเป็นการมัดมือชกอย่างหาเสียมิได้ นับว่าลงถึงเมืองไทยวันแรก ก็มีงานช้างเข้ามาอย่างไม่ทัน
ตั้งตัวซะแล้ว
ชั้นใต้ดินของตึกแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพ ศูนย์บัญชาการของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ก่อตั้งขึ้น
สามปีกว่ากับการวิเคราะห์สาเหตุ สืบสวนหาตัวคนจัดงาน แต่ไร้ร่องรอย ราวกับงานถูกจัดขึ้นโดยบุคคลที่
ไร้ตัวตน ทุกอย่างถูกปลอมแปลงอย่างแนบเนียนสืบหาตัวบงการมีเพียงชื่อแต่ไม่พบในสารบบ ทั้ง
อาชญากรทั้งไทยและรัฐบาลโลกต้องการตัว
“มันวางเครือข่ายไว้รอบโลกเลย แต่ว่ามันเป็นใครกันวะ” สมิทธิ์ หนึ่งในมันสมองของหน่วยปฏิบัติ
การพิเศษที่ร่วมงานครั้งนี้ เขารุ่นราวคราวเดียวกันกับชิษณุ แต่นับเป็นรุ่นพี่ของเขาในหน่วยนี้
พลเอกณัฐพล ผู้สูงวัยกว่าชิษณุราวสิบปี นับเป็นพลเอกที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ทีเดียว
นับว่าเป็นผู้มีความสามารถและการจัดการทางการทหารได้คนหนึ่ง เขากวักมือสั่งกาแฟมาให้ชิษณุ
กาแฟร้อนถูกเสริฟบนโต๊ะไม้สีนำตาลเข้ม ชิษณุนั่งบนเก้าอี้หนังนุ่มอย่างดี เอกสารฉบับแล้วฉบับ
เล่าเขาอ่านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิเคราะห์เรื่องราวทั้งหมด
“อีเวนท์งานนี้ จัดก่อนผมจะไปเมืองนอกไม่นาน หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์มีผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็น
เยาวชนที่ล้วนเข้าร่วมงานนี้ทั้งสิ้น ตรวจสอบเครื่องดื่มในงานไม่พบยาเสพย์ติดหรือสารปนเปื้อนใดๆ รวมทั้ง
การตรวจละเอียดกับร่างกายผู้ป่วยแล้ว นับว่าเป็นปรากฏการณ์ประหลาดและน่าเศร้าใจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมา
ก่อน” ชิษณุยกกาแฟมาจิบก่อนจะกล่าวต่อไป
“ที่ต่างประเทศถึงขั้นมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นทีเดียว รัฐบาลไทยจัดการได้ถูกต้อง รอบคอบและ
รัดกุมยิ่ง แต่ผมคิดว่าเกมส์ออนไลน์ก็ไม่ใช่ภัยคุกคามอยู่ดี งี้เด็กๆไม่เล่นเกมส์ออนไลน์ก็หงอยหมดสิครับ
เนี่ย”
“แกพูดเล่นใช่มั๊ยเนี่ย” ดร.สุเมธกล่าวอย่างขุ่นเคือง
“ผมพูดจริงๆครับอา ผมก็เคยเป็นเกรียนติดเกมส์ออนไลน์มาก่อนนะ” ชิษณุพูดติดตลก
“คุณชิษณุ…” พลเอกณัฐพละกำลังจะเอ่ย ชิษณุกล่าวขัดขึ้น “เรียกนุเฉยๆก็ได้ครับ”
พลเอกณัฐพลกล่าวต่อ “คุณนุต้องการอะไรเพิ่มเติม สั่งมาได้เลยครับ เราจะจัดการให้”
ชิษณุลูบคางพลางครุ่นคิด ไม่ถึงนาทีเขาก็โพล่งออกมา จนสมิทธิ์ต้องสะดุ้งตกใจ
“เอา!!...เอกสารของเกมส์ออนไลน์ทั้งหมดอย่างละเอียด รวมทั้งการจัดงานอีเวนท์ที่ผ่านมาด้วย เน้นนะ
ครับ เอาทุกอย่างอย่างละเอียด” ชิษณุกำลังจะเอี้ยวตัวออกไป หันกลับมาสั่งต่อ “เอาเอกสารของคนไข้ทุก
คนให้ผมดูด้วย ว่าแต่คนไข้ตอนนี้อยู่ที่ไหน”……
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพ
ชิษณุแสดงตราหน่วยสืบสวนคดีพิเศษให้ผู้รักษาความปลอดภัยหน้าประตู ก่อนจะดันประตู
กระจกเข้าไป เดินตรงไปที่ประชาสัมพันธ์
“มาพบคุณหมออัมไพครับ” ชิษณุบอกความประสงค์กับประชาสัมพันธ์คนสวย
“หัวหน้าอัมไพงานยุ่งอยู่ค่ะ นัดไว้ล่วงหน้าหรือเปล่าคะ” ประชาสัมพันธ์ถามกลับมา
ชิษณุทวนคำ “หัวหน้าเหรอ” …เดี๋ยวนี้ก้าวหน้าเป็นหัวหน้าเชียวเหรอเนี่ย ชิษณุบ่นพึมพำ
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ” ประชาสัมพันธ์ถามอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรครับ แล้วห้องทำงานหัวหน้าอัมไพอยู่ไหนครับ” ชิษณุถามต่อ
“แต่ตอนนี้หัวหน้าบอกไม่พบใครนะคะ” ประชาสัมพันธ์เตือนย้ำอีกที พร้อมกับบอกก่อนว่าให้นัด
ล่วงหน้า
“ไม่เป็นไร ผมไปหาเองก็ได้” ชิษณุกลับเดินตรงไปที่ลิฟต์ พลางอ่านอักษรที่ติดไว้ข้างลิฟต์ ห้อง
พักแพทย์ประจำชั้น 7 เสียงประชาสัมพันธ์เรียกรปภ.ดังตามมา
แพทย์หญิงอัมไพ นั่งฟุบหลับอยู่บนโต๊ะทำงาน ชิษณุเปิดประตูไปอย่างเบาหวิวชนิดที่ไม่มีใครรู้แน่ว่าประตู
ถูกเปิดออก เขาเอื้อมสองนิ้วชี้ข้างซ้ายและขวาหนีบที่ท้ายทอยของเธอ
“ปูหนีบบบ…”
อัมไพสะดุ้งตื่นอย่างแรงแทบตกเก้าอี้
“ใครเนี่ย เล่นบ้าๆ แล้วชั้นสั่งไม่ให้ใครเข้ามาไม่ใช่รึไง” อัมไพหันกลับไป ชิษณุยิ้มกว้างทำหน้า
ทะเล้นใส่เพื่อนสาว
“ผมเอง ผมกลับมาแล้ว”
“นุ” อัมไพน้ำตาคลอเบ้าดีใจยิ่งที่เพื่อนชายกลับมา
ทั้งสองเดินพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวที่ผ่านมา บทสนทนาไม่มีอย่างอื่นคือ รายละเอียดเกี่ยวกับผู้
ป่วย รายงานอย่างคร่าวๆจากปากอัมไพ
อัมไพเอ่ยถาม “ทำไมเขาถึงเลือกคุณให้มารับงานนี้”
“ก็ผมจบด้านนี้โดยตรง แล้วอีกอย่างคือผมเก่ง” ชิษณุพูดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
“และเกรียนด้วย” อัมไพพูดสนับสนุน
“มีผู้ป่วยเสียชีวิตบ้างรึเปล่า” ชิษณุเอ่ยถาม
“มี”อัมไพตอบ
“ยังไง” ชิษณุถามกลับสั้นๆ
“นี่ชั้นโดนสอบสวนอยู่ใช่มั๊ยเนี่ย” อัมไพย้อนถามสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ในสายตาชิษณุเขาน่า
รักเวลาทำหน้าหงุดหงิดแบบนี้ทุกทีเลย
“ยังไงครับ”ชิษณุถามใหม่
อัมไพมองหน้าชิษณุ ถอนหายใจก่อนจะตอบกลับ “ไม่ได้ต่างจากเมื่อกี้เลย แค่เติมคำว่าครับเนี่ย
นะ” อัมไพกล่าวต่อ “บอกศัพท์ทางการแพทย์ไปนายคงไม่เข้าใจ เอาประมาณว่า เหมือนHPหมดน่ะ เฮ้ล
พ้อยท์หมดน่ะ ร่างกายค่อยๆซูบลงเรื่อยๆ แล้วก็หยุดหายใจไปเอง”
ชิษณุนิ่งเงียบงัน ไม่เอ่ยอะไรต่อไปอีก เพียงให้อัมไพเดินพาไปดูผู้ป่วยที่นอนหลับใหลราวนิทรา
นิทราไปตลอดกาล พ่อแม่ หรือคนรักจะเสียใจแค่ไหน ชิษณุนึกดีใจที่ตอนนั้นหลุดพ้นจากช่วงเด็กติดเกมส์
มาได้ แต่ความสนุกสนานจากการเล่นเกมส์ออนไลน์ไม่ได้เลือนหายจากไป ทักษะบางอย่างกลับใช้ได้ใน
ชีวิตประจำวัน แล้วแต่คนจะเลือกว่ามันจะหาจุดสมดุลได้แค่ไหน
ชั้นบนสุด ที่จัดเป็นห้องพิเศษ
“นี่เป็นห้องพิเศษ มีคนไข้ห้าคนที่ชั้นแยกมาดูแลต่างหากที่นี่”
ชิษณุสวมชุดปลอดเชื้อ ก่อนเดินเข้าไป
หญิงสองคน ชายสามคน หนึ่งในนั้นมีเด็กที่เขาคุ้นหน้ามากที่สุด เป็นหลานของเขานั่นเอง
ปกรณ์ หรือ เป้ ที่เขาเคยอุ้มมาตอนยังวัยเด็ก
“ไอ้นี่ หลานผมเอง”
อัมไพถึงกับอึ้งไป “แต่ทำไมนามสกุล…”
ชิษณุกล่าวตอบ “เป็นลูกชายพี่สาวน่ะ”
ชายอีกคนที่อยู่สุดมุมห้อง อัมไพและชิษณุรู้จักเขาคนนี้ดี กวิน เพื่อนสมัยมัธยมของเขา ที่เป็น
เซียนเกมส์ทุกประเภท เกมส์เก่าเกมส์ใหม่ผ่านมือมันมาหมด ทุกซอกทุกมุมของเกมส์มันรู้หมด จนแยก
ย้ายกันทำงานเขาเป็นคอลัมนิสต์ให้กับนิตยสารเกมส์ที่ขายดีที่สุด และยังเป็นคนทดลองเกมส์ใหม่ที่จะเข้า
ไทยทุกเกมส์ นับว่าสุดยอดแห่งคนเล่นเกมส์ไม่มีใครไม่รู้จักเขา
อัมไพและชิษณุต่างก้มหน้าเศร้า ทั้งสองไม่พูดอะไรกันซักแม้เพียงหนึ่งคำ สุดท้ายอัมไพ ฉุดดึง
มันออกมาข้างนอก
อัมไพและชิษณุถอดชุดปลอดเชื้อออก ชิษณุเอ่ยถามกับอัมไพ
“น่าแปลกมาก ห้าคนนี้กลับต่างออกไป ร่างกายราวกับเติบโตปกติ หรืออาจจะแข็งแรงขึ้นกว่า
ปกติ ดูอย่างไอ้เป้ โตขึ้นมากผิดหูผิดตา”
“นั่นล่ะ เหมือนเลเวลอัพในเกมส์ กล้ามเนื้อทุกอย่างขยายโตขึ้น การหายใจดีขึ้นราวกับคนออก
กำลังกายมานาน เหมือนนักวิ่งมาราธอน ดูอย่างกวิน เคยออกกำลังกายที่ไหน วันๆเล่นแต่เกมส์ แต่ตอน
นี้สิ หุ่นยังกะนักกล้าม ทั้งๆที่นอนเป็นเจ้าชายนิทรามาตลอด” อัมไพกล่าวกับชิษณุ
“อืม จริงอย่างที่อัมว่า”
“และนี่เป็นกระดาษที่กวินกำไว้ก่อนจะเป็นเจ้าชายนิทรา” อัมไพล้วงไปในกระเป๋าเสื้อกาวน์ เป็นก
ระดาษที่เคยถูกขยำกำแน่น มีรอยยับย่นเต็มไปหมด และรอยพับสองรอยคงเป็นอัมไพที่พับเก็บเอาไว้ มี
รอยหมึกปากกาสีน้ำเงินเขียนด้วยลายมือที่เดาว่าตอนเขียนคงจะมือสั่นมาก ลายมือจึงออกมาเป็นเช่นนั้น
กลางกระดาษโน้ตสีเขียวอ่อน ที่ยับย่นอันนั้น เขียนไว้ว่า “ไอ้นุ อย่า…ตาม…กู…มา”
ชิษณุอ่านจบกำกระดาษนั้นไว้แน่น ก่อนเงยหน้าสบตากับอัมไพที่ตอนนี้สองแก้มเปื้อนไปด้วยรอย
น้ำตา
จบตอน
ความคิดเห็น