ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : คู่หมั้น

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 50


    2

     

    บนรถ

     

    นี่ถ้าง่วงก็นอนก็ได้ เสียงดุดันดังขึ้น

     

    เอ่อ...ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันยังไม่ง่วง ร่างบางตอบทั้งที่เธอสะลึมสะลืออย่างเห็นได้ชัด

     

    นี่ อย่าดื้อสิ นอนไป เดี๋ยวถึงแล้วฉันจะปลุกเอง เขาดันตัวเธอให้พิงกับเบาะนั่งและห่มผ้าห่มให้

     

    ขอบคุณค่ะ หญิงสาวตอบพร้อมกับหลับตาลงพรางคิดว่า เธอได้ว่าอยู่ในที่ๆดีแล้ว

     

    สักพักหนึ่งเธอรู้สึกถึงแรงกระแทกจากศีรษะ กับ หน้ารถ

     

    โอ๊ย หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

     

    เวรเอ๊ย ขับรถภาษาห่-ไรว่ะ ไม่ดูรถคันอื่น มันคงแกล้งแน่ๆว่ามั๊ย เขาหันมาหาร่างบางระหงตรงหน้า

     

    และก็ได้สังเกตถึง เลือดที่ปากแผลบนศีรษะของเธอ ที่เคยปิดไปแล้วกลับเปิดให้เลือดออกมาเพิ่งขึ้นอีก

     

    เวรกรรม ปากแผลเปิดอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไรใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว ทนหน่อยนะ

    ค่ะ เธอตอบอย่างไม่มีทางเลือกทั้งที่ในใจอยากจะร้องบอกเค้าเหลือเกินว่าเธอเจ็บหัวจนจะเป็นลมอยู่แล้ว

     

    ใกล้จะถึงรึยังค่ะ เธออดถามเค้าไม่ได้ ถ้าถึงแล้วเธอจะทำยังไง เธอไม่อยากให้ถึงโรงพยาบาลเลยจริงๆ ถ้าถึงแล้ว เธอก็จะไม่รู้จักใคร แม้แต่ตัวเองเธอยังไม่รู้จักเลย

     

    อ่ะ ถึงแล้ว เธอลงไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะไปจอดรถ

     

    นี่ไงสิ่งที่เธอกลัว  เค้าจะทิ้งเธอไว้คนเดียว

     

    ไม่นะค่ะ คุณจะทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวหรอค่ะ ฉัน..ฉัน อยู่คนเดียวไม่ได้

     

    หึ งั้นหรอ เค้าพูดด้วยเสียงหยามหยัน

     

    ไม่เป็นไร งั้นก็ลงด้วยกันตรงนี้แหละ เค้าพูดต่อด้วยเสียงดังเดิม

     

    เอ่อ...แล้วรถหละค่ะ เธอไปทำอะไรให้เค้านะ

     

    เดี๋ยวให้ยามเค้าเอาไปเก็บก็ได้ เธออยากให้ฉันลงไปด้วยนี่ใช่มั๊ย เค้าแสยะยิ้ม

     

    แล้วกึ่งดึงกึ่งลากเธอเข้ามาในโรงพยาบาล

     

    เมื่อติดต่ออะไรเรียบร้อยแล้ว เค้าก็พาเธอเข้าห้องตรวจ

     

    เอ่อ...คุณอย่าทิ้งฉันนะค่ะ หญิงสาวที่ไม่รู้จักตัวเองพูดเสียงอ้ำอึ้ง

     

    หมายความว่ายังไงไม่ให้ฉันทิ้งเธอ ร่างสูงพูดพร้อมทั้งยิ้มอย่างดุดันที่สุดที่เธอเคยเห็น

     

    คือ ฉัน ฉันไม่รู้จักใครเลยค่ะ รู้จักแต่จิมแล้วก็ คุณ คือว่า ฉัน... เธออ้ำอึ้ง

     

    นี่เค้าจะให้เธอพูดว่าอะไรหละ แค่นี้ก็อายจะตายไปที่ต้องไปพูดขอความช่วยเหลือจากเค้า

     

    เธอจะพูดว่า ให้ฉันอยู่กับเธอ จนเธอตรวจเสร็จแบบนั้นหรอ

     

    มัน..ก็ใช่ค่ะ แต่ก็...คุณเป็นคนที่ฉันรู้จักนานสุดรองจากจิมเลยนะค่ะ หญิงสาวพูด

     

    คุณค่ะ ได้เวลาเข้าห้องตรวจแล้วค่ะ นางพยาบาลคนหนึ่งมาขัดการสนทนาของทั้งสอง

     

    เอ๊า เข้ามาเรียกแล้ว ไปสิ เขาพูดเมื่อเห็นเธอยังไม่ขยับจากตรงที่เดิม

     

    คุณอย่าลืมนะค่ะ อย่าทิ้งฉันนะค่ะ เธอไม่ลืมที่จะพูดทิ้งท้าย

     

    เถอะน่า ไปเถอะ ฉันไม่ไปไหนหรอก เขาพูดแล้วดันตัวเธอให้ไปกับพยาบาล

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    แสงแดดยามเช้าส่องสว่างเพื่อให้คนขี้เซาได้รู้เวลาตื่นนอน

     

    อืม... ที่นี่ที่ไหนกันนะ เธอมองตรงไปข้างหน้าก็เห็นเพดานสีขาวส่องสว่าง

     

    อ้าว ตื่นแล้วหรอค่ะ บุคคลในเครื่องแบบสีขาว ถามด้วยหน้าเปื้อนยิ้ม

     

    ที่นี่ที่ไหนค่ะ เธอถามสิ่งที่กังวลมานาน

     

    อ๋อ นี่โรงพยาบาลนะค่ะ เมื่อวานพอคุณหมอตรวจเสร็จก็ฉีดยานอนหลับให้คุณก็เลยหลับสนิทจนถึงเช้าเลยหน่ะค่ะ

     

    แล้วนี่กี่โมงแล้วหรอค่ะ

     

    พยาบาลหันไปดูนาฬิกาเล็กน้อยก่อนตอบว่า จะ 10 โมงแล้วค่ะ หิวหรอค่ะ

    เปล่าหรอกค่ะ ขอบคุณมาก นี่เค้าจะหนีเธอไหมนะ?

     

    ค่ะ งั้นดิฉันขอตัวนะค่ะ

     

    หญิงสาวพยักหน้า และนางพยาบาลคนนั้นก็เดินออกจากห้องไปซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่นครเทพเปิดประตูเข้ามาพอดี

     

    ซึ่งสร้างความปิติยินดีให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมาก

     

    คุณ!” เธอร้องออกมาด้วยความดีใจ

     

    ใช่ ฉันเอง ดีใจรึยังไง เค้าพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

     

    ค่ะ ก็ฉัน นึกว่าคุณหนีไปซะอีก เธอพูดหน้าแดง เรียกเอาเสียงหัวเราะจากเค้าได้ทันที

     

    หนีหรอ เธอพูดเหมือนฉันเป็นผู้ร้าย เค้าพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า

     

    อ่ะนี่ ฉันเด็ดเอาจากที่บ้านมาฝาก เห็นเธอบอกว่าชอบ เค้ายื่นดอกจำปีที่มีกลิ่นหอมมาให้เธอ

     

    ขอบคุณค่ะ แต่ว่าคุณช่วยฉันไว้ตั้งหลายอย่างฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย

     

    นั่นสิ เธอคิดมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทำไมเค้าต้องเดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดีกับเธอด้วย

     

    เค้าหน้าตึงขึ้นมานิดหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า

     

    ฉันชื่อ นครเทพ จิรสาธิต หรือเรียกนครเฉยๆก็ได้

     

    ค่ะคุณนคร ดีนะค่ะคุณยังรู้จักชื่อตัวเอง ดูฉันสิ ฉันไม่รู้เลยสักอย่าง

     

    นั่นสิ เธอไม่รู้เลย แม้     กระทั่ง    ชื่อตัวเอง

     

    ที่จริงฉันก็คิดนะค่ะว่า ฉันอาจจะเป็นอะไรของใครสักคน คือหมายถึง เอ้อ…”

    เธอพูดหน้าแดง

     

    ใช่เธอน่าจะเป็นอะไรของใครสักคน เขาพูดอย่างมีเลศนัย

     

    หมายความว่าไงค่ะ

     

    เธอเป็นคู่หมั้นของฉัน

     

    ห๊า!!!!!!!!!!!!  เธอเป็นคู่หมั้นขงผู้ชายคนนี้

     

    ผู้ชายที่ตอนแรกทำทีท่าว่าไม่รู้จักเธอเสียด้วยซ้ำ

     

    ไม่จริงๆๆๆๆๆๆ  เค้าต้องโกหกเธอ นคร ต้องโกหกเธอ

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    เม้นนะค๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

    เพิ่งจะตั้งใจแต่งเป็นเรื่องแรก

    เหอๆๆๆๆๆ


    เม้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พลีสๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ^-^

    @-@

    #-#

    บะบาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×