คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ฉันไม่ใช่มดยักษ์นะ
“หากคุณรักใครสักคน ...แม้ว่าความรักนั้นอาจจะทำร้ายคุณ แต่ถ้าคนที่คุณรักมีความสุข คุณก็ควรมีความสุขไปกับเค้าเช่นกันนะคะ สำหรับคืนนี้ Love Radio กับดิฉันดีเจมดน้อยต้องลาคุณผู้ฟังไปก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” มดน้อยเดินออกจากห้องอัดไปอย่างสะเทือนใจ พรุ่งนี้แล้วสินะคุณตรัยจะแต่งงานแล้ว เฮ้อ! หลุดไปอีกหนึ่งราย
“วันนี้คุณมดน้อยไม่สดใสเอาซะเลยนะครับ” ถ้าคำพูดนี้มาจากคนอื่นคงจะดีกว่านี้ แต่สำหรับตาโรคจิตนี่ ฟังยังไงก็ไม่ใช่คำพูดที่ดีเอาซะเลย มดน้อยขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง
“ค่ะ วันนี้ไม่ค่อยสบาย”
“เหรอครับ แต่ผมว่า เหมือนคนอกหักมากกว่านะ”
ฉึก! ปักลึกลงกลางใจ คำพูดเดียวกระตุ้นเลือดให้ไหลเวียนทั่วใบหน้า
“แล้วถ้าฉันอกหักมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ คุณโปรดิวเซอร์” มดน้อยตะโกนเสียงดัง ทุกคนต่างมองงงๆ โปรดิวเซอร์หนุ่มถึงกับเหวอเพราะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด
“เอ่อ ..ขอโทษค่ะ ฉันคงไม่ค่อยสบายน่ะ แหะๆ “ ไม่ว่าเปล่าพลางตบหลังโปรดิวเซอร์หนุ่มดังพลั่ก “อย่าถือสาเลยนะคะโปรดิวเซอร์ ไปก่อนนะคะทุกคน โชคดีค่ะ” ทุกคนต่างอึ้งกับท่าทางที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของหญิงสาว
เสียงเพลงบรรเลงขับกล่อม ผู้มาร่วมงานต่างพากันยิ้มแย้มยินดีไปกับคู่บ่าวสาว มดน้อยไม่สามารถเลี่ยงงานนี้ได้เพราะสถานีของเธอให้เธอเป็นตัวแทนมางานนี้เอง เพื่อไม่ให้รู้สึกเคว้งคว้างมากเกินไป เลยต้องลากฟางกับปิ่นมาด้วย ตั้งแต่เธอเข้ามาเธอก็เข้าใจในทันทีว่าคุณตรัยมีความสุขแค่ไหนกับว่าที่ภรรยาของเขา ทั้งคู่ต้อนรับแขกเหรื่ออย่างดี งานโอ่อ่าสมกับเป็นงานของประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ บริษัทที่มดน้อยใฝ่ฝันว่าสักวันจะได้ก้าวเข้าไปในฐานะภรรยาประธานบริษัท
“คุณมดน้อยคะ” เสียงหนึ่งดังขึ้น ฝันเธอสลายอีกแล้ว แม้จะแค่ฝันแต่ขอสักนิดไม่ได้รึไงนะ มดน้อยบ่นอุบอิบพลางหันไปทางต้นเสียง อารดานั่นเอง ว่าแต่เพื่อนสาวสองคนของเธอไปไหนกันเนี่ย เธอไม่รู้จะคุยอะไรกับอารดาเลยนะ!!
“ขอบคุณนะคะที่มางาน”
“ค่ะ ยินดีค่ะ” ยิ้มหน้าชื่น แต่อกตรม
“เอ่อ ไม่ทราบว่าจะเป็นการรบกวนคุณมดน้อยมากเกินไปรึเปล่าคะ ถ้าจะขอให้ช่วยรับดอกไม้ตอนที่ดิฉันโยนน่ะค่ะ” เงียบไปพักนึง เธอมองหน้ามดน้อยอย่างครุ่นคิด “คือว่าเพื่อนฉันเป็นวัยรุ่นหมดเลย ไม่มีใครมีแฟนน่ะค่ะ เค้าเลยไม่กล้ารับ”
แล้วฉันมีรึไงยะ ก็เธอไม่ใช่เหรอที่แย่งว่าที่แฟนชั้นไปนะ ฮะ ..ก็แค่คิดในใจ
“ค่ะ ฉันจะรับให้ค่ะ” ในที่สุดก็ปากไม่ตรงกับใจ
“ขอบคุณมากนะคะคุณมดน้อย” อารดายิ้มสดใส “เราเพิ่งจะรู้จักกันก็จริง แต่คุณมดน้อยเป็นคนน่ารักมากค่ะ ถ้าวันไหนคุณแต่งงานอย่าลืมชวนฉันนะคะ” แล้วอารดาก็เดินกลับไปหาเจ้าบ่าวของเธอ
เฮอะ ..คงจะมีวันนั้นหรอก แค่ผู้ชายที่ชอบฉันยังหาไม่เจอเลย
“ยัยบ้า”
“ใช่ บ้าสุดๆเลย แกไปรับปากเค้าทำไมน่ะ” เสียงเพื่อนสาวที่แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างหนัก
“ก็จะให้ทำไงได้ล่ะ ฉันก็คิดว่าเค้าเป็นคนดีนี่นา” มดน้อยตอบอ้อมแอ้ม
“คนดีเหรอ ..คนดีนี่ไม่ใช่เหรอที่เอาคุณตรัยของแกไปเป็นเจ้าบ่าวน่ะ”
ฉึก! คำพูดของฟางนี่ช่างปวดใจซะจริงๆ
“ยังไงก็ตามเหอะ! ฉันตัดสินใจแล้ว” มดน้อยพูดเสียงดังอาศัยเอาเสียงเข้าข่ม เพื่อนสาวได้แต่ถอนหายใจ
และแล้ว ...เจ้าสาวก็โยนช่อดอกไม้ ยัยอารดาเอ้ย ไหนเธอว่าเพื่อนเธอไม่มีแฟนกันไง ทำไมมายืนรอช่อดอกไม้กันเป็นแถวเลยล่ะ อารดามองมาทางมดน้อยแล้วยิ้มให้สัญญาณ ช่อดอกไม้ถูกโยนจากมือเจ้าสาว มันลอยมาทางมดน้อย ใกล้แล้ว ใกล้เข้ามาแล้ว แต่แล้ว
พลั่ก!! “โอ๊ยยยย”
มดน้อยล้มลงพร้อมช่อดอกไม้ คนที่อยู่ข้างหลังเซมาทับเธออย่างแรง เพราะคนเยอะเกิน เลยทำให้ไม่มีใครช่วยเธอได้ ผู้หญิงคนที่ล้มทับเธอพูดอย่างสำนึกผิด “ขอโทษนะคะ ..ฉันมัวแต่มองช่อดอกไม้เลยไม่ทันเห็นคุณน่ะค่ะ”
“...”
“ขอโทษจริงๆนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ.. ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ” มดน้อยยิ้มแห้งๆ เดินเลี่ยงฝูงชนออกมา สภาพเธอตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับการได้ฟัดกับสัตว์ประหลาดมาเลย เพื่อนสาวที่ยืนรออยู่ถึงกับตะลึง
“นี่ ยัยมด ..เธอทุ่มทุนขนาดนี้เพื่อที่จะรับช่อดอกไม้จากศัตรูเนี่ยนะ” ปิ่นที่ชักจะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของเพื่อนพูดขึ้น
“ใช่ แล้วดูสภาพสิ ยังกะไปรบมางั้นแหละ” ฟางก็ชักจะนิ่งไม่อยู่แล้ว
“ช่างเหอะน่า ยังไงชั้นก็ได้ดอกไม้มาแล้วนะ นี่ไง” มดน้อยพูดพลางชูช่อดอกไม้ขึ้น
“..!?!.”
ช่อดอกกุหลาบสีขาวเปื้อนรอยรองเท้าอย่างเห็นได้ชัด ดอกไม้คอตก บ้างก็หลุดหายไปเหลือแต่ก้าน เพื่อนสาวมองอย่างทึ่ง ส่วนมดน้อยได้แต่นิ่งคิดในใจ ..แม้แต่ดอกไม้ก็ไม่อยากอยู่กับฉันเหรอ
งานเลิกแล้ว สามสาวรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที เพราะสุดจะทนกับพิธีการที่ยืดยาวของการแสดงความรักครังนี้ มดน้อยที่ตอนนี้เริ่มทำใจได้แล้ว อาจจะเพราะเธอใช้เวลาทำงานมากกว่าที่จะเอาเวลามาคิดถึงคุณตรัยก็เป็นได้ แล้วอีกอย่างตอนนี้คุณตรัยที่เธอรักก็มีความสุขดีแล้ว เธอควรจะมีความสุขไปกับเค้าด้วยไม่ใช่เหรอ ...
“นี่ๆ เธอ อิจฉาบ่าวสาวคู่นี้จริงๆเลยนะ” เสียงผู้หญิงที่เพิ่งออกจากงานคุยกันตามทางเดินหน้าห้องน้ำ
“ใช่ๆ คุณอารดาโชคดีนะที่ได้พบกับคุณตรัย” ผู้หญิงอีกคนเริ่มสมทบ
“วันนี้งานเค้าจัดดีนะ เสียอย่างเดียวตอนรับช่อดอกไม้นั่นแหละ” ผู้หญิงอีกคนพูดบ้าง
มดน้อย ฟาง และปิ่น นั่งเงียบในห้องน้ำ ฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“ใช่ๆ ตอนที่ยัยอ้วนนั่นได้รับช่อดอกไม้น่ะสิ หนำซ้ำยังล้มลงไปอีก น่าอายชะมัด”
“ฮิฮิ ขำชะมัดเลย เห็นสภาพยัยนั่นแล้วตลกชะมัด”
“จริงด้วย แล้วยังไม่เท่ากับว่าได้รับช่อดอกไม้ไปแล้วจะมีคนแต่งงานด้วยรึเปล่านี่สิ” ว่าแล้วทั้งสามคนก็ออกจากห้องน้ำไป
มดน้อยยังคงนิ่งเงียบอย่างนั้น เธอไม่นึกเลยว่าการรับช่อดอกไม้ จะทำให้กลายเป็นตัวตลกถึงเพียงนี้
“มด กลับกันเถอะ” เสียงปิ่นดังเข้ามา ปลุกมดน้อยให้ตื่นจากความเศร้า
ทั้งสามสาวกล่าวลาเจ้าภาพตามมารยาท แล้วออกจากงานไป ตามทางเดินมีแต่คนมองมาทางพวกเธอ แต่มดน้อยรู้ดีว่าเป้าหมายที่แท้จริง ไม่ใช่ฟาง หรือปิ่น แต่เป็นหล่อน!! คนอ้วนที่รับช่อดอกไม้
ทั้งสามเดินมาถึงประตูทางออกของห้องจัดงาน มดน้อยต้องอดทนอย่างมาก เธอยังจำได้ดีที่เพื่อนๆ เคยล้อเธอว่ามดยักษ์ คิดได้ดังนั้นเธอก็หันขวับไปในงานอีกครั้งพร้อมตะโกนเสียงดัง
“ฉันไม่ใช่มดยักษ์นะ!?!” พูดแล้วหอบแฮ่กๆ คนในงานต่างตะลึง
แล้วทั้งสามก็พากันวิ่งออกไปจากงาน
มดน้อยเพิ่งอัดรายการเสร็จ โชคดีที่เธอทิ้งความทุกข์ไว้ในงานแต่งงานจนหมดสิ้นแล้ว นึกแล้วก็ขำตัวเองที่กล้าพูดในสิ่งที่คิดซะที แม้มันจะยิ่งทำให้เธอเป็นตัวตลกก็ตาม แต่มันทำให้เธอสบายใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
“เป็นยังไงบ้างครับ งานแต่งงานของคุณตรัย” โปรดิวเซอร์หนุ่มถามเสียงเรียบ
“ก็ดีค่ะ เค้าก็รักกันดีนี่คะ” มดน้อยพูดแล้วกำลังจะเดินออกไป
“ผมได้ข่าวว่าคุณได้ช่อดอกไม้ด้วย” เขาพูดแค่นั้น
“ค่ะ ทำไมเหรอคะ”
“เปล่าหรอก คุณมีคนที่จะแต่งงานด้วยแล้วเหรอ” คำถามแทงใจที่ทำเอามดน้อยอึ้ง
“ค่ะ มีแล้ว คงจะแต่งไม่นานนี้แล่ะคะ” เธอโกหก แต่ทำไงได้ เธออายุปูนนี้ถ้าบอกว่าไม่มีก็เสียหน้าแย่สิ รีบๆ ไปดีกว่า แต่แล้ว
“คุณโปรดิวเซอร์คะ คุณอยากจะเรียกฉันว่ามดยักษ์มั๊ยคะ” มดน้อยถามคำถามออกไป ทั้งๆที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงตัดสินใจถามเค้า
ชายหนุ่มนิ่งคิดเพราะไม่คิดว่าจะโดนถามแปลกๆเหมือนกัน “เอ่อ ไม่นี่ครับ ผมเคยเรียกคุณว่าคุณมดยักษ์ด้วยเหรอครับ” ว่าพลางทำท่าคิดหนัก
มดน้อยยิ้มน้อยๆ เธอดูสดใสมากขึ้น “ขอบคุณนะคะ โชคดีค่ะ”
สงสัยเธอต้องมองผู้ชายคนนี้ใหม่ซะแล้ว เค้าก็เป็นคนดีนะ..
“คุณมดน้อยครับ” โปรดิวเซอร์หนุ่มวิ่งตามมา
“คะ ฉันลืมอะไรรึเปล่าคะ” มดน้อยถามงงๆ
“เปล่าหรอกครับ ว่าแต่คุณมดน้อยอยากจะเปลี่ยนชื่อจัดรายการเป็นมดยักษ์หรือครับ ผมว่ามันก็ดีนะครับ ว่าแต่คุณมดน้อยจัดรายการตอนเที่ยงคืนนะครับ เด็กๆหลับกันหมดแล้ว ใช้ชื่อมดยักษ์ไปก็ไม่มีเด็กๆฟังหรอกนะครับ”
“...” มดน้อยเหวอไปทันใด
ชายหนุ่มคิดว่ามดน้อยคงเริ่มเคือง จึงได้พูดอ้อมแอ้มว่า “เอ่อ ..แต่ถ้าคุณมดน้อยอยากเปลี่ยน ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ” แล้วก็เดินจากไป
มดน้อยได้สติ “คุณโปรดิวเซอร์!” เธอตะโกนเสียงดัง “ฉันไม่ใช่มดยักษ์นะ!”
“ครับ รู้แล้วครับ” ชายหนุ่มรับคำงงๆ ไม่เข้าใจกับท่าที่ของหญิงสาวที่ตอนนี้เข้าโหมดมาคุอีกแล้ว
เฮ้อ.. ผู้หญิงคนนี้ เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย โปรดิวเซอร์หนุ่มคิดพลางเดินจากไป
ฮึ่ย อีตาโรคจิต ดันคิดเป็นเรื่องงานไปได้ นายนี่มันโรคจิตจริงๆเลย มดน้อยบ่นพลางเดินไปอีกทาง
ความคิดเห็น