ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
1.ความสำคัญของน้ำมันมะพร้าว
มนุษย์ใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นอาหาร เป็นยา และเป็นเครื่องสำอาง มานับเป็นพันๆปี ชาวเอเชียและแปซิฟิกที่ใช้น้ำมันมะพร้าวประกอบอาหาร ต่างก็มีสุขภาพดีถ้วนทั่ว ไม่ค่อยมีใครเป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคต่อมลูกหมากโต โรคไขข้อ โรคปวดเมื่อย โรคชราภาพก่อนวัย โรคผิวหนังฯลฯ แม้กระทั่งชาวอเมริกันและชาวยุโรป ครั้งหนึ่งก็นิยมบริโภคน้ำมันมะพร้าว แต่เพิ่งเปลี่ยนไปใช้น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันพืชอื่นๆ เมื่อเร็วๆนี้เอง
ได้มีการบันทึกไว้ว่า ในประเทศอินเดีย มีการใช้น้ำมันมะพร้าว มาเป็นเวลากว่า 4,000 ปี สำหรับประเทศไทย ก็มีการปลูกมะพร้าวมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหง เมื่อกว่า 700 ปีมาแล้ว และได้สกัดน้ำมันมะพร้าวมาประกอบอาหารหวานคาว ใช้เป็นสมุนไพร และเครื่องสำอาง ประเทศต่างๆในแถบเอเชียและแปซิฟิก ต่างก็ได้ใช้น้ำมันมะพร้าวมาเป็นเวลาช้านานเช่นกัน จนได้ขนานนามมะพร้าวว่าเป็นต้นไม่แห่งชีวิต (Tree of Life)
ได้มีการนำน้ำมันมะพร้าว มาใช้รักษาโรค ทั้งโดยแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบัน
ในตำราแพทย์แผนไทย :
รักษาแผลเรื้อรัง: เอากะลามะพร้าวมาถูด้วยตะไบจนได้ผงละเอียด แล้วผสมกับน้ำมันมะพร้าว แทรกพิมเสนเล็กน้อย ทาแผลเรื้อรัง เช้า กลางวัน เย็น ทาบ่อยๆ
รักษาเกลื้อน: เอากะลามะพร้าวแก่จัดที่มีรู ที่ขูดแล้ว มาใส้ถ่านไฟแดงๆ จะทำให้เกิดน้ำมันมะพร้าวไหลออกมา เอาน้ำมันนี้มาทาเกลื้อน ทาแล้วทิ้งไว้เจ็ดวัน ล้างออกยาก จะติดแน่นอยู่ เกลื้อนจะค่อยๆ หายไปเอง
แก้ปวดฟัน: เอากะลามะพร้าวแก่จัด ที่มีรู ขูดเอาเนื้อออกใหม่ๆ ใส่ถ่านไฟแดงลงไป รองน้ำมันมะพร้าวที่ไหลออกมา เก็บใส่ขวดปิดแน่นไว้ ใช้สำลีพันปลายไม้ชุบน้ำมันมะพร้าวอุดรูฟันที่ปวด อย่าให้สัมผัสเหงือก หรือเนื้อเยื่ออื่นๆ จะเกิดความชาได้
รักษาเล็บแตก: เอาน้ำมันมะพร้าวที่ได้จากการเผากะลามะพร้าวเหมือนข้างต้น ใส่แผลที่เกิดกับเล็บ เล็บแตก เล็บหลุด
แผลที่ซอกเล็บ
รักษาคางทูม: เอาน้ำทันมะพร้าวทาบริเวณคางทูมบ่อยๆ วันละ 2-3 ครั้ง ทาบางๆ 2-3 วัน อาการคางทูมจะดีขึ้น
รักษาแผลเป็น: ใช้น้ำมันมะพร้าวที่ได้จากกะลามะพร้าว เผาไฟถ่าน ทาที่แผล แผลจะหายไปในไม่กี่วัน เมื่อแผลหาย จะไม่เป็นแผลเป็น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น