คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ศัตรูปรากฏตัว
พีรีกะ อัลฟาเอล เด็กสาวลึกลับย้ายมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ได้สามอาทิตย์แล้ว ในห้องเธอเรียนได้ท็อปตลอด เพราะผลการเรียนที่ดีมากทุกวิชาของเธอทำให้มีหลายคนในห้องไม่ชอบเธอและหาทางกลั่นแกล้งอยู่ตลอด แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย เธอมีเพื่อนที่นับว่าสนิทที่สุดอยู่สองคนคือยูและทะเล ในสายตาของเด็กสองคนนี้ พีรีกะนับว่าเป็นเพื่อนสนิทมาตลอด แต่ในสายตาของพีรีกะ เธอมองเด็กสองคนนี้ว่าเป็นคนที่น่าสนใจและต้องการใช้ประโยชน์จากพวกเธอ โดยไม่เคยคิดว่าพวกเธอเป็นเพื่อนเลย แต่ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกแปลกๆจากการกระทำของสองคนนั้นที่มีต่อตน มันเป็นความรู้สึกแปลกๆที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน ความรู้สึกที่อยากอยู่ด้วย อยากปกป้อง อยากช่วยเหลือ มันคืออะไรกันแน่ เธอเองก็ยังไม่เข้าใจ
ตอนบ่ายของวันอาทิตย์ แสงแดงแรงกำลังแผดเผาสรรพสิ่งในโลกใบนี้ให้ร้อนระอุ ภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสปราศจาเมฆหมอก พีรีกะ ยูและทะเลกำลังนั่งสนทนากันอยู่ในบ้านของพีรีกะและทันใดนั้นเอง ประตูห้องก็เปิดออกอย่างกะทันหัน ร่างของชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบต้นๆในเครื่องแบบสีน้ำเงินวิ่งพรวดพราดเข้ามาให้ห้อง
“กัปตันครับ! แย่แล้วครับ พวกมันจับคลื่นสัญญาณของเราได้แล้ว อ๊ะ!”เขาร้องเสียงดังและหยุดชะงักเมื่อเห็นเด็กทั้งสองคนนั่งอยู่ในห้อง
ยูและทะเลมองหน้ากันงงๆแล้วหันไปมองพีรีกะราวกับต้องการคำอธิบาย พีรีกะแสดงสีหน้าลำบากใจ เธอหลับตานิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อตัดสินใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันมาหาเพื่อนทั้งสอง
“โทษนะ เดี๋ยวเราจะมาอธิบายให้ฟัง” เธอว่าแล้วรับวิ่งออกจากห้องไปพร้อมกับชายคนนั้น
พีรีกะวิ่งไปตามทางเดินแล้วแล้วเข้าไปในซอยเล็กๆ เธอวิ่งไปจนสุดทางแล้วยกมือขึ้นแตะที่กำแพง ทันใดนั้นกำแพงข้างหน้าเธอก็เลื่อนออก ที่แท้แล้วกำแพงนั้นก็คือสิ่งภาพโฮโลแกรมสร้างขึ้น แท้จริงแล้วมันคือประตูทางเข้าไปยังห้องบัญชาการ พีรีกะรีบวิ่งเข้าไปในห้องนั้นทันที
ภายในห้องกว้างขวางมาก มีจอLCDขนาดใหญ่ติดอยู่ที่ผนัง เมื่อเข้าไปในห้องแล้วจะสามารถเห็นได้ทันที ใต้จอลงมาที่แท่นเหล็กขนาดใหญ่ยื่นออกมาจากผนังเหล็กนั้น มันคือแผงควบคุมบนแท่นเหล็กมีจอLCDเล็กๆอีกหนึ่งจอ และรอบๆจอก็มีปุ่มต่างๆมากมาย และมีคันชักสามถึงสี่อันถูกติดตั้งไว้เรียนกันอยู่ ทางด้านซ้ายและขวาของห้องนี้ก็มีจอLCDขนาดใหญ่ถูกติดตั้งไว้เหมือนกัน ภายใต้จอLCDก็มีแผงควบคุมอยู่ลักษณะไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ เก้าอี้นับสิบตัวที่วางอยู่ใกล้ๆกับแผงควบคุมนั้นมีคนในเครื่องแบบสีน้ำเงินนั่งอยู่เกือบครบทุกตัว บางคนยืนคอยสั่งการ
ตรงกลางห้องมีโต๊ะเหล็กขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาจากพื้น บนโต๊ะนั้นมีเครื่องมืออิเล็กโทรนิกสีดำคล้ายกับเครื่องรับ-ส่งวิทยุขนาดใหญ่วางเรียนรายอยู่ มีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบสีน้ำเงินประมาณห้าถึงหกคนนั่งควบคุมมันอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ทันทีที่พีรีกะโผล่เข้าไปในห้อง เสียงที่ดังเซ่งแซ่ก็ยิ่งดังขึ้นไปอีก ราวกับว่าทุกชีวิตในห้องนั้นจะรอการมาของเธออยู่ แซครีบวิ่งเข้ามาหาเธอ เขายืนตัวตรงแล้วรายงานสถานการณ์ให้เธอฟังแต่เพราะเสียงที่ดังมากเธอจึงไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูด
“เงียบหน่อย!” เธอตะโกนสั่งเสียงดัง สีหน้าดุดัน เสียงทั้งหมดจึงเงียบลงทันที
“เมื่อกี้ว่าไงนะ? แซค” เธอถาม
“พวกมันรู้แล้วครับวว่าเราอยู่ที่ดาวดวงนี้” เขาบอก
“ทำไมมันถึงรู้?” เธอถามอีก
“คือว่า...” เขาทำหน้าลำบากใจก่อนตอบ “เพราะเราเปิดโฮโลแกรมบ่อยทำให้พลังงานส่วนใหญ่หมด ข้าเลยตัดสินใจส่งสัญญาณขึ้นไปที่ยานแม่เพื่อขอพลังงานสำรองแต่ว่าข้าไม่ได้บอกท่านก่อน เพราะว่าท่านออยู่กับยูกับทะเลอยู่.....”
“สรุปคือ เจ้าส่งสัญญาณไปเองโดยที่ไม่ได้บอกข้าแล้วโดนมันจับคลื่นสัญญาณได้?” พีรีกะพูดเสียงเรียบ
“ครับ!” เขารับคำเสียงดัง สีหน้าบ่งบอกว่ารู้สึกผิดเต็มที่
“เอาเถอะ ไว้ว่ากันทีหลัง ตอนนี้ข้าอยากรู้ว่าทำไมมันถึงจับคลื่นสัญญาณของเราได้ เจ้าส่งไปนานรึ?” เธอถามสีหน้านิ่งเฉยแต่ในแววตาปรากฏความกังวล
“ชั้นบรรยากาศของดาวดวงนี้หนามากครับ ข้าต้องส่งสัญญาณไปแรงมากถึงจะผ่านออกไปถึงอวกาศได้ แต่ว่าพอออกไปถึงอวกาศคลื่นสัญญาณมันเลยแรงเกินไป...ข้าคิดว่าพวกมันคงจะอยู่ใกล้ๆกับยานแม่ของเรา มันเลยจับสัญญาณของเราได้ แล้วมันก็เลยตามมาถึงพวกเราได้”
“แล้วเจ้าไม่รู้รึว่าพวกมันอยู่แถวนั้น?” เธอถามอีก
“มันพรางตัวไว้ครับ ที่จอมอนิเตอร์เลยไม่ปรากฏให้เห็น” เขาตอบ
ก่อนที่พีรีกะจะทันได้พูดอะไรอีก เสียงแหลมดังแสบแก้วหูก็ดังขึ้น
วี้ดดดดดดดดด
เธอรีบวิ่งไปที่จอLCDตรงหน้าทันที แล้วก้มลงกดปุ่มอะไรสองถึงสามปุ่มทันใดนั้นคีร์บอร์ดขนาดใหญ่ก็เลื่อนออกมา มันมีลักษณะเหมือนแผ่นเหล็กธรรมดาแต่มีขนาดใหญ่ประมาณสองฟุตครึ่ง ด้านบนมีสองสีคือสีฟ้าอมเทาของเหล็กและสีน้ำเงินแก่ของแผ่นพลาสติที่ติดอยู่ตรงกลางของแผ่นเหล็กนั้น มันอยู่ห่างจากขอบด้านละประมาณสองนิ้วมีลายตาราง
พีรีกะวางมือลงบนแผ่นพลาสตินั้น เธอนั่งลงบนเก้าอี้แล้วขยับนิ้วมือแตะไปตามช่องที่ถูกตีเอาไว้ คล้ายกับกำลังพิมพ์อะไรอยู่ ที่แท้แล้วตัวแผ่นพลาสติกนั้นคือปุ่มกดที่ถูกฝังลงบนแผ่นเหล็กนั้นเอง ทุกครั้งที่นิ้วของเธอสัมผัสกับปุ่มแต่ละปุ่ม แสงสีแดงจะสวางวาบขึ้นมาจากปุ่มนั้นทันที
พอเธอพิมพ์เสร็จ เสียงประหลาดนั้นก็เงียบลง แล้วภาพของยานอวกาศขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนจอ มันลอยอยู่บนท้องฟ้าสีฟ้าสดใส พีรีกะมองดูแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะพิมพ์อะไรลงไปอีก
ปิ้ดๆๆ
เสียงเล็กๆดังขึ้นแล้วภาพบนหน้าจอก็ถูกซูมเอ้าท์ออกไป เมื่อสามารถมองเห็นได้ว่ายานลำนั้นลอยอยู่เหนืออะไร สีหน้าทุกคนในห้องนั้นก็เปลี่ยนเป็นความตกใจ เพราะยายลำนั้นลอยอยู่ห่างจากที่อยู่ของพวกเขาไม่ถึงห้ากิโล!!!
“ใครก็ได้ออกไปดูซิมันพรางตัวอยู่หรือเปล่า?” พีรีกะสั่งเสียงเครียด แล้วเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็วิ่งออกไป
“บ้าน่า มันจับสัญญาณเราได้มากขนาดนั้นเลยเหรอ” เธอพูด สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจ
“มันอาจจะจับสัญญาณของเราได้นานมากก็ได้นะครับ เพราะข้าส่งออกไปนานทีเดียว” แซคพูดอย่างเสียใจในการกระทำของตน
“ก็อาจจะเป็นไปได” เธอเห็นด้วยแล้วถามความเห็นเขา “เจ้าคิดว่ามันจะจู่โจมเราวันนี้เลยหรือเปล่า”
“มีโอกาสสูงครับ ถ้ามันชัวร์แล้วละก็...” เขาตอบ
“กัปตันครับ มันพรางตัวอยู่ครับ มองจากข้างนอนไม่เห็นเลย” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่วิ่งออกตอบ
พีรีกะพยักหน้ารับทราบ แล้วหันไปสั่งทุกคนด้วยเสียงอันดัง
“ทุกคน เตรียมตัวให้พร้อม เราอาจจะต้องสู้กับมันก็ได้ สั่งให้พวกPilotทุกคนเตรียมประจำยานรบด้วย บาเรียเปิดให้หมด บ้านเรือนระวังไว้ให้ดี ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราจะมีปัญหา ขอให้นึกไว้เสมอว่าเราอยู่ในย่านชุมชนจะทำอะไรต้องไม่ให้ชาวดาวนี้เดือดร้อน”
“ครับ/ค่ะ!” ทุกคนในห้องรับคำเสียงดัง แล้วรีบเข้าประจำตำแหน่งของตัวเอง
“ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกนายเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสู้รบที่กำลังจะเกิดขึ้น พวกมันเข้ามาใกล้เรามากแล้ว”เสียงประกาศดังกึกก้องไปทั่ว “Pilotทุกนายเตรียมตัวประจำยานรบด้วย ย้ำอีกครั้ง ขอให้เจ้าหน้าที่....”
“นี่มันอะไรกันน่ะเล? เกิดอะไรขึ้น? เสียงประกาศนี่มันอะไรกัน” ยูหันไปถามทะเลเสียงสั่น
“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คงต้องรอพีมาอธิบายน่ะแหละ” เธอตอบ
ยังไม่ทันขาดคำประตูห้องก็ถูกเปิดออกร่างของพีรีกะปรากฏขึ้น ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในชุดเสื้อยืดสีน้ำเงินกับกางเกงขาสั้นสีดำอีกแล้ว ร่างบางนั้นถูกซ้อนอยู่ในเครื่องแบบคล้ายกับของทหารบกแต่เป็นสีขาว บนไหล่ติดอินทรธนูสีเหลืองทอง ชายเสื้อลอยอยู่เหนือกางเกงน เข็มขัดสีน้ำเงินคาดอยู่ที่เอว ขากางเกงถูกยัดเอาไว้ในคอมแบตสีดำเงาวับ เธอสวมหมวกสีขาวลักษณะเหมือของทหารบกแต่ไม่มีตราที่ติดอยู่บนหมวก
“ตอนนี้ที่นี่อันตรายมากพวกเธอกลับไปก่อนดีกว่า” เธอพูดสีหน้าเครียด
“มีอะไรเหรอ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ยูถามสีหน้าหวาดกลัว
“ต้องรอสถานการณ์สงบก่อนแล้วเราจะบอก....”
ตูม!!!
“เฮ้ย!” พีรีกะร้องลั่น บ้านทั้งหลังสั่นสะเทือนเหมือนกับมีอะไรบางอย่างมากระแทก เธอเซไปหลายเก้าเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
“เกินอะไรขึ้นน่ะพี!” ทะเลถามเสียงดังสีหน้าตกใจ
พีรีกะไม่ตอบ เธอล้วงมือเข้าไปในประเป๋ากางเกงแล้วหยิบอุปกรณ์ชนิดหนึ่งออกมา มันมีหน้าตาคล้ายบูทูตของโทรศัพท์มือถือชนิดที่สามารถเกี่ยวติดเอาไว้กับหูได้ เธอติดมันเข้ากับหูของเธอแล้วกดปุ่มที่ตัวเครื่องแล้วพูดเสียงดังสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน
“นี่พีรีกะ เกิดอะไรขึ้น?”
“พวกมันโจมตีมาแล้วครับ” ปลายสายตอบมาเสียงดัง
“บ้าจริง!” เธอสบถแล้วหันมาทางเด็กสาวทั้งสอง “พวกเธอรีบตามเรามาเร็ว ไม่มีเวลาเเล้ว”
ว่าแล้วเธอก็วิ่งนำหน้าพวกเธอออกจากห้องไป ทะเลแลยูมองหน้ากันก่อนจะวิ่งตามพีรีกะไป เธอวิ่งไปตามทางอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังไม่วายหันมามองดูพวกเธอเป็นระยะๆ ระหว่างทางทะเลและยูสังเกตุเห็นเธอพูดอะไรบางอย่างกับเจ้าเครื่องมือสื่อสารที่ติดอยู่ที่หูของเธอพอจับใจความได้ว่า “ปิดระบบโฮโลแกรมซะ”
แล้วไม่นานสภาพของบ้านก็เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าความเป็นบ้านอีก พื้นบ้านจากที่เห็นว่าเป็นพื้นไม้ก็กลายเป็นพื้นเหล็ก ผนังปูนก็เปลี่ยนเป็นพนังเหล็กที่มีประตูและเครื่องสแกนลายนิ้วมือติดอยู่ บนเพดานหลอดไฟนิออนถูกติดตั้งให้ซ้อนอยู่ในเพดานจึงมองไม่เห็นตัวหลอด บางส่วนของผนังปูนกลายเป็นทางแยกที่สามารถเดินเข้าไปได้
พีรีกะวิ่งนำเด็กทั้งสองเข้าไปในทางแยกที่เธอวิ่งเข้ามาในตอนแรก จนสุดทางเธอก็ทาบมือกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือ แล้วประตูก็เปิดออกเธอวิ่งเข้าไปข้างในพร้อมกันยูและทะเล ตอนที่เธอไปถึงจอLCDขนาดใหญ่กำลังแสดงภาพของยายอวกาศลำนั้น มันลอยอยู่เหนือตัวเมืองและกำลังหันปืนกระบอกใหญ่ที่ติดอยู่ที่ตัวยานด้านนอกมาทางที่พวกเธออยู่ และ
เปรี้ยง!!!
กระสุนเลเซอร์สีแดงเป็นเส้นยายถูกปล่อยออกมาจากปากกระบอก พุ่งเข้าสู่บ้านเรือนในละแวกนั้น ทำให้เกิดไฟไหม้ไปตัวตึกสูงที่อยู่ในละแวกนั้นถล่มลงมาอย่างรวกเร็ว เพราะกระสุนเลเซอร์พุ่งเข้าใส่มัน
“มันทำอะไรของมันน่ะ?” พีรีกะพูดอย่าไม่เข้าใจ สีหน้ายังไม่คลายจากความเครียด
“กัปตันครับ ทำยังไงดีครับ? สั่งการด้วย”เจ้าหน้าที่นายหนึ่งวิ่งเข้ามาถามสีหน้ากังวล
“ทำไมมันถึงไม่โจมตีมาที่เรา? ยิงบ้านยิงตึงพวกนั้นไปแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา?” เธอถามแต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้ตอบเธอก็ร้องขึ้นเสียงดังด้วยสีหน้าโกรธจัด “หรือว่ามัน . ไอ้พวกนั้น”
ความคิดเห็น