ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ...ศึกรัก 5 แผ่นดิน..

    ลำดับตอนที่ #1 : ณ จักรวรรดิไท เจ้าหญิงและเจ้าชาย

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 53


    ....บนจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งหวงแห่งวัฏจักรหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปแล้วหลายกัปหลายกัลป์ ให้สรรพสัตว์หมุนเวียนเปลี่ยนเกิด ตามห้วงแห่งความไม่พ้นแห่งตน ไปตามวิสัยกรรมของแต่ละตน ช่วงเวลานั้น ได้ก่อเกิดมนุษย์ขึ้น ที่ต่างๆ แตกแยกแตกต่างไปตามแต่ละท้องถิ่น แต่ก็หามีมนุษย์พวกไหนที่รู้ที่มาของตนที่แท้จริงด้วยว่าสัตว์ทั้งหลาย ต่างก็ว่ามีผู้สร้าง ต่างก็ตีความไปต่างๆนาๆ ต่างคนต่างเชื้อ  ต่างชาติ ต่างภาษา ต่างก็ก่อร่างสร้างอาณาจักรของตน ตามวิทยาการ ภูมิอากาศและ ตามความรู้ ตามความเชื่อต่างๆของคน เมื่ออารยธรรมต่างๆก่อเกิดขึ้น ความถือตนย่อมเกิดขึ้น ว่าด้วยตนนั้นจำเริญแล้วเหนือกว่าผู้อื่นกว่าพวกใด แลเป็นสาเหตุแห่งความขัดแย้งและรบราฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ของตน เกิดสงครามไปทั่วจึงเป็นที่กล่าวขานว่าเป็นกาลแห่งยุทธ ยุคแห่งการเข่นฆ่า ยุคแห่งสงคราม

     


    เบื้องนั้นยุทธกาลล่วงไปแล้ว 573 พรรษา นรสุทโธ ตั้งตนเป็นเป็นจักรพรรดิ กรุงรัตนะบดี เริงกฤษดานุภาพ แผ่ไปทั่วถิ่นสยามประเทศ ปกครองอุษาทวีป และเวิ้งแม่น้ำธาราวดี ทรงมีราชบุตรและธิดาสองพระองค์ ทั้งสอง นามว่า อุษามณี และ ราชบุตรมัลถุระ ราชบุตรทั้งสองเกิดอยู่ท่ามกลางยุคที่ไฟสงครามได้เบาบางลงตามกาลเวลา อยู่อย่างสงบสุขในราชวัง ราชบุตรทั้งสองจากทารกสู่วัยเด็กจนกระทั่งเติบใหญ่สู่วัยหนุ่มสาว…..

     


    เอาเลยพี่ท่าน! เสียงสาวน้อยตะโกนที่ร้องดังกว่าเสียงเชียร์ของคนมากมายที่เข้ามารุมล้อม

    เปรี้ยง! โผง เผง โผงเผงเสียงกระทบอันดังระหว่างท่อนไม้เนื้อแข็งและเหล็กกล้าสลับกันไปมา บุรุษทั้งสองต่างฟาดฟันกันไปมา ต่างปัดป้องและโต้ตอบกันไปมาด้วยเพลงทวนเพลงหอกของละคนที่ได้ร่ำเรียนมา  ผัวะเสียงส้นหอกกระทบเข้าข้างลำตัวจนทรุดกระเด็น

     

    โอ้ย ข้าพเจ้ายอมแล้วพะยะค่ะเสียงร้องกล่าวพร้อมกับดันตัวเองขึ้นจากพื้นหมอบก้มหัวลงทำความเคารพ

     

    อะไรกันท่านนายกอง พึ่งจะดวลกันไม่กี่เพลงเอง เหงื่อยังมิทันซึมเลยยอมแพ้ซะแล้วรึ เสียงทักด้วยใบหน้าทะเล้นขี้เล่นเป็นกันเอง

     

    หากข้าพเจ้าคงดวลเพลงทวนกับพระองค์ต่อไปเห็นที คงจะไม่ได้แก่ตายเป็นแน่แท้ผู้เป็นนายกองกราบทูล

     

    ฮ่าๆๆ ฮ่ะๆๆๆๆๆเสียงหัวเราะอันดังลั่น ของหนุ่มผู้สูงศักดิ์ จนพระพักตร์แหงนขึ้นฟ้า แล้วหยุดชะงักและทันใดนั้นก็พุ่งพระพักตร์ลงมาอย่างรวดเร็ว ด้วยดวงตาดุดันเบิกกว้างราวกับว่าจะขู่เข่น มือจับเอว ยืนคอลงจ้องหน้าผู้เป็นนายกอง ก่อนกล่าวด้วยเสียงอันดุดัน

     

    ออกญาสีหนาถผู้นี้รึ แหกปากกล่าวร้องขอชีวิตน้ำเสียงอันกระทบกระแทก

     

     ขุนศึกผู้อยู่แนวหน้าพุ่งเข้ารบกับพวกเตกีระแห่งกองทัพทะเลทรายอาหรับที่เข้ามาตีกุสินารา ด้วยกำลัง 1 ต่อ 4 จนพระเจ้าโมซาเล็มต้องขอหย่าศึกคนนี้รึกลัวตายใบหน้าอันดุคลายลงก่อนที่จะยิ้มระรื่นแล้วหัวเราะดังลั่นอีกครั้งราวคนละคนอีกรอบ

     

    ฮ่าๆๆๆฮ่ะๆๆๆ ฮ่ะๆๆๆ คราวนี้ล้มตัวนอนกับพื้นราวกับเด็กเล็กไร้เดียงสาจนสาแก่ใจ โดยฝูงชนที่มามุงดูไม่กล้ากล่าวใด พากันเงียบหมด ก่อนจะลุกนั่ง

     

    หึหึหึ ขุนศึกเพชฌฆาตที่สังหารผู้คนมามากมาย  ไม่รู้จักถอยหลังอย่างพี่ท่านนะรึกลัวตาย กลับมาเอ่ยคำปราชัยราวกับว่ากลัวตายแก่เรามัลถุระผู้ไม่เคยฆ่าใครผู้นี้รึก่อนจะมองหน้านายกองที่กำลังนั่งพนมมือเคารพ ด้วยใบหน้าจ้องมองคนของตน

     

    ท่านนายกองจะออมแรงของท่านเอาไว้ใช้สู้ศึกกับแม่พยอมเมียใหม่บนเรือนพลายพยูญรึ

     

    ฮ่าๆๆๆ

     

    สมรภูมิศึกที่ทุ่งกุสินารารึจะทำให้ท่านออกญาสะเทือนเท่าศึกบนเรือนพลายพยูญของท่านสีหนาถได้ ฮ่าๆๆ

    ด้วยนิสัยของเจ้าชายมัลถุระ นั้นอ่านใจได้ยากว่าจะมาไม้ไหนเป็นที่รู้แก่วงศ์ญาติและขุนนาง เป็นคนฉลาดและพูดตรง จริงใจ แต่มีนิสียเสียตรงนิสัยตามใจตนเอง ส่วนนายกองผู้นี้รู้ซึ่งใจของเจ้าชายดี ว่าคิดจะลองใจตนกลางฝูงชนดูจึงไม่กล่าวอะไร

     

    ฮ่ะๆ เอาละ ท่านออกญาอย่าได้โกรธข้าเลยนะ ข้าแค่หยอกเย้าท่านเล่นเพราะเห็นเป็นท่านเหมือนพี่เหมือนน้า คำกล่าววาจาของข้านี้หาสาระไม่ได้ ข้าขอโทษท่านก็แล้วกัน

     

    หากข้านี้คิดโกรธแค้นพระองค์ ข้าพเจ้ายอมเอามีดควักหัวใจทิ้งเสียยังดีกว่า อันวาจาของท่านราชบุตรถือเป็นมงคลต่อชีวิตข้าพเจ้ายิ่งนัก ที่ได้กล่าวตักเตือนของข้าพเจ้า ที่เห็นกิจบ้านเมืองน้อยลงเพราะอิสตรี หากมิจริงแล้วไซร้จะเป็นที่กังขาของผู้คนจนทำให้ท่านราชบุตรต้องได้อับอายเสื่อมเกียรติยศที่อุตสาห์ตักเตือนข้าพเจ้าคนถ่อยผู้นี้ขุนศึกหนุ่มก้มลงกราบทูลราชบุตรมัลถุระเพื่อให้พระองค์ไม่เสื่อมพระเกียรติด้วยความภักดี

     

    เอาละ เอาละ อย่าต่อความให้ยืดยาวเลย ข้ารู้ว่าท่านจะรีบไปราชกิจของพระบิดา ข้าเองก็หยอกกล่าวท่านแรงเกินไปนัก ข้าขอโทษท่านละกัน อย่าปฏิเสธคำขอโทษข้าซะละ  ไม่งั้นข้าคงจะละอายใจตัวเองนัก ที่ได้ล่วงเกินท่านและแม่พะยอม ให้ท่านได้หนักใจเช่นนี้ ทั้งสองต่างก็รักษาน้ำใจของกันและกัน จึงไม่ต้องเป็นที่สงสัยเลยว่าทำไมออกญาหนุ่มผู้นี้ถึงมีใจภักดีต่อเจ้าชายน้อยของตน

     

    พี่ท่านสาวน้อยหน้าตางามผ่องใสบอกถึงชาติตระกูลว่าเป็นผู้สูงศักดิ์ วิ่งมาควงแขนเจ้าชายมัลถุระ

     

    อะไรกัน จันทร์ฉายเจ้าชายตกใจข้ากำลังเจรจากับท่านนายกองเมงโยอยู่ ไม่เห็นรึเจ้าชายร้องเอ็ดใส่หญิงสาววัยย่างเข้าสิบห้าผู้เป็นน้อง ซึ่งเป็นพระธิดาของพระเจ้าอัญชระผู้เป็นอา

     

    ก็พระเจ้าป้า พระมารดาของท่านนะสิเรียกท่านให้เข้าเฝ้า อย่าช้าอยู่เลยรีบไปเถอะเดียวจะได้พาข้าไปเที่ยวเดินดูตลาดที่ท่าเรือที  ข้าได้ข่าวว่ามีพ่อค้าชาวอาหรับเอาผ้าแพรมามากข้าอยากไปดูเร็วๆสักกะยะจับแขนนางออกแล้วเอ็ดใส่

     

     ดูซิ ไม่สนใจท่านนายกองเลย  ประเดี๋ยวท่านก็น้อยใจแย่ เจ้าก็หัดเรียนรู้มารยาทเสีย โตจนเนื้อสาวแตกแล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กไปได้เจ้าชายกล่าว

     

    หามิได้พะยพค่ะ พระประสงค์ของพระธิดาเจ้าอัญชระ ย่อมสำคัญชีวิตกว่าข้าพเจ้าออกญากล่าว ราวกับว่าจะยกยอแต่แท้จริงก็เพื่อรักษาหน้าพระธิดาน้อยไว้

     

    ข้าพเจ้าขอกราบทูลลาพะยะค่ะพร้อมกับก้มหน้าทำความเคารพแล้วเดินจากไปเพื่อไม่เป็นการรบกวนแก่พี่น้องญาติวงศ์ทั้งสอง

     

    ดูสิ ท่านนายกองเมงโยไปซะแล้วสักกะยะกล่าวด้วยอาการไม่พอใจพอสมควร

     

    ปล่อยข้าได้แล้วเจ้าชายดุพร้อมจับมือสาวน้อยออกจากอ้อมแขน

     

    ไม่! ข้าอยากเล่นกับพี่นี้นา ให้แต่ถักร้อยพวงมาลัยอยู่นั้นแหละ ใจจริงท่านพ่อข้าจะให้ข้าร้อยไปขายให้พวกแขกรึไงกันสาวน้อยผู้ไม่ยอมแพ้โต้ตอบด้วยวาจาอันอาจหาญเกินวัยด้วยน้อยใจในพี่ชายผู้เป็นญาติของตนนิดๆ

     

    ฮ่าๆๆ เจ้านี้มันเอานิสัยถ่อยเยี่ยงข้ารึ ไปอยู่กับอุษามณีให้สมหญิงซะ แล้วหัดเรียนรู้มารยาทเอาเยี่ยงอย่างอุษามณีผู้เป็นที่รักของคนทั้งวังเสีย ก่อนที่จะเสียคน เป็นที่ชังของคนทั้งวัง แล้วมาโทษข้า รู้ไหม

    เจ้าชายตอบอย่างอย่างเอ็นดู

     

    เป็นสาวเป็นนางมาจับกายชายเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ไม่รู้รึมันผิด

     

    ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่จันทร์ฉายกล่าวโต้แบบสาวน้อย

     

    ข้านี้สิไม่เป็นไร แต่เจ้าสิเป็น เจ้าเองนั้นโตเป็นสาวเข้าระดูแล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กไร้เดียงสาไม่มีผิด ประเดียวเขาก็เอาไปติฉินนินทาให้เป็นที่สนุกปากเสียราชบุตรกล่าวตักเตือน

     

    เห้อ หนักใจจริงแท้เจ้าชายบ่น ก่อนจะหัดมามองน้องสาว

     

    เจ้าก็ย่างเข้าสิบห้าขวบขวบปีแล้วสินะ หึหึมัลถุระหัวเราะอย่างมีเลศนัย

     

    ข้าว่า  เจ้าลองหาผัวเป็นตัวเป็นตนดูซี่ รับรองเจ้าจะไม่มาเกาะข้าอีกเลยเป็นแน่แท้ แล้วเจ้าเองก็จะติดใจที่เกาะใหม่ของเจ้าเช่นกัน  ฮ่าๆๆ

     

    เจ้าชายเดินหนีพรางหัวเราะไปฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

    พี่ท่าน!หญิงสาวตะโกนไล่หลังด้วยความโกรธปนอายจนแทบทรุดลงแผ่นดิน

     

    ผู้คนที่พากันมามุงดูต่างแย่งย้ายกันไปตามกิจของแต่ละคน  ยามเช้า นครอันกว้างใหญ่ไปด้วย วัดวาของสมณะชีพราหมณ์ต่างๆ บ้านเรือนอันมีสายน้ำล้อมรอบ นครอันกว้างวิจิตรประดับด้วยสีทอง ของเมืองใหญ่บ่งบอกถึงความเจริญยิ่งใหญ่ไพศาล ด้วยวิทยาการต่างๆ ผู้คนมากมายสัญจรไปมา พ่อค้ามาหลาย  นครแห่งจักรพรรดิ จักรวรรดิแห่งสยามประเทศ มหานครรัตนะบดี เมืองที่งดงามราวอัญมณีของอินทรเทพ

     

    ..........................................................................................................................................................................................................................

     

     

    ตำนักพระมเหสีนันทา

     ท่านแม่ ท่านแม่เสียงราชบุตรหนุ่มวิ่งตะโกนกระโจนเข้ามา

     

    มัลถุระเสียงพระมเหสีนันทา ผู้นั่งรอที่พระแท่นนั่งของพระองค์โดยมีนางในรับใช้สองคนคอยพัด

    แม่ได้ยินว่า เจ้าไปเที่ยวเล่น  คบค้ากับเหล่าไพร่ จัณฑาล จริงหรือไม่

     

    ไม่ใช่เพราะเหล่าไพร่ฟ้า แลจัณฑาล หรอกรึท่านแม่ ที่ล้มตายเพื่อคอยค้ำรักษาเศวตฉัตรของอนินทกะของเราไว้จนได้เสวยสุขจนทุกวันนี้

     

    หยุดนะพระมเหสีดุบุตรของตนหากเจ้ายังทำตัวอย่างนี้ แล้วทูลกระหม่อมรู้เข้า ท่านจะตำหนิเอาว่าเจ้านั้นเป็นคนถ่อย ไม่รู้จักขนบธรรมเนียมประเพณี และข้าก็จะลงโทษเจ้า

    ราชบุตรนั่งลงกับพื้นก่อนจะดีดตัวขึ้น จ้องมายังพระมารดาด้วยสายตาเฉยชา

     

    ทำอย่างนั้นก็ไม่ได้ ทำอย่างนี้ก็ไม่ดี ไม่ได้! ไม่ดี!ราชบุตรตะโกนร้องลั่นพร้อมกระทืบเท้าแล้วชี้ไปที่หน้าของนางในทั้งสองด้วยว่าคงเป็นคนมาบอกกล่าวพระมารดาตนมัลถุระพระมารดาร้องห้าม

     

    ไปสำนักปัญจากุดีกว่า อยู่ที่นี้ไม่เห็นมีอะไรไรดีสักอย่าง ไปอยู่ป่ายังดีกว่าซะอีก   ไปวัดปัญจากุจะดีกว่า!เจ้าชายร้องตะโดนลั่นก่อนจะวิ่งหนีอย่างไม่สนใจใยดีเหมือนเด็กเล็กเอาแต่ใจ พระมารดาเองก็ได้เพียงส่ายหัวไปมาเท่านั้น

     

    ที่ท่าเรือใหญ่ อันเป็นสำนักของวัดฤๅษีผู้มากด้วยวิชาคนหนึ่งเป็นที่เคารพบูชาแก่คนทั้งกรุงรัตนะซึ่งเป็นอาจารย์ของราชบุตรมัลถุระ และที่นั้นเอง ยังมีเจ้าชายเมืองอยู่เมืองหนึ่งซึ่งเป็นเมืองเล็กๆหาความสำคัญไม่ผู้หนึ่งและมี พระฤาษีผู้นี้นั้นเป็นผู้รอบรู้ศาสตร์แขยงต่างๆ หาผู้ใดเสมอเสมือน ได้ให้สัตย์แก่กษัตริย์กรุงรัตนะว่าจะถ่ายทอดวิชาของตนให้แก่ราชบุตรของพระองค์ ทั้งการปกครอง เพลงดาบ ทวน ธนู พิชัยสงคราม พิชัยยุทธ์ต่างๆ หาได้รับคนอื่นเป็นศิษย์ไม่ มีเพียงผู้เดียวที่พระอาจารย์ผู้นี้ยอมรับ คือ   เจ้าชายหนุ่มรูปงามซึ่งมีอายุมากกว่ามัลถุระถึง สามพรรษา อันลักษณะดูองอาจ สง่างามรัก ร่างสันทัดสมชายชาตรี แววตาอันกล้าหาญ แต่ใบหน้ากลับดูมีเมตตาไม่น้อยเมตตา  เจ้าชายเมืองน้อยที่ไม่มีความสำคัญนัก  เจ้าชาย กุสิยะ แห่งเมืองตองเจธานี

     

    พี่ท่านคิดถึงจังเลย มะ ขอกอดทีหนึ่ง อื้อ ฮึๆๆๆมัลถุระวิ่งเข้าไปสวมกอดสักกะยะที่ตนนับถือเหมือนพี่ชายตนด้วยอาการดีใจ

    มัลถุระท่านมีอะไรให้ข้ารับใช้

     

    โอยพี่ท่านมัลถุระตัดพ้ออยู่กันตามลำพังเช่นนี้อย่าได้ถือยศศักดิ์ให้หนักมือเลยพี่ท่าน มะเราไปชมตลาดที่ท่าเรือให้สำราญตาเล่นกันดีกว่า จันทร์ฉายน้องเราปานนี้มิงอนกลับซะก่อน นานๆทีจะได้ไปเที่ยวกัน ไปนะพี่ท่านเจ้าชายมัลถุระออดอ้อนเกาะแขนยิ่งกว่าจันทร์ฉายที่ชอบเกาะแขนตน

     

    “อ๋อเกือบลืมไป แล้วพระอาจารย์ไปไหนเสียละมัลถุระกล่าวก่อนชะเง้อหัวมองเข้าไปในวัด

     

    ท่านอาจารย์ไปธุระในเมือง มัลถุระน้องเราประสงค์อันใดรึ

     

    ปล่าวหรอกพี่ท่านแค่ไม่ได้พบท่านอาจารย์เสียนาน มันนึกถึงเหลือใจมัลถุระกล่าวไปเถอะพี่ท่าน พระอาจารย์ไม่อยู่เช่นนี้ เป็นโอกาสดีนัก ไปๆๆๆราชบุตรดึงมือกุสิยะราวกับ ม้าลากรถฝึกก็มิปาน

     

    ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังตลาดริมท่าเรืออันเป็นที่ค้าขายสิ่งของจากอาณาจักรต่างๆ ท่ามกลางเหล่าไพร่ฟ้าของพระองค์ที่ไม่รู้ว่าพระองค์คือเจ้าชายผู้เป็นกษัตริย์ของตนในภายภาคหน้า

    ....................................................................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×