ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต่างไซส์ หัวใจพลิกล็อค

    ลำดับตอนที่ #6 : การแก้แค้นที่แสนหวาน

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 49


    ตอนที่ 6: การแก้แค้นที่แสนหวาน

     

    ........ฉันต้องแก้แค้นยัยตาคมให้ได้........... ฉันสาบานกับตัวเองมาเป็นครั้งที่ร้อยยี่สิบ

    เพื่อให้ฉันสามารถบรรลุปณิธานนี้...ก่อนอื่น ฉันต้องสืบเรื่องของยัยตาคมก่อน ฉันจัดการส่งสปายซึ่งได้แก่คุณตั๊ก คุณเจี๊ยบ ยัยหญิง (คนหลังนี่เรียกว่าคุณไม่ได้ เดี๋ยวมันเหลิง) ซึ่งกว่าพวกนั้นจะหาข้อมูลมาได้ ก็บ่ายแก่ๆ ไปซะแล้ว

    อืม...ได้อะไรมาเยอะพอดู ฉันอ่านกระดาษโน๊ตเล็กๆ 3 แผ่นที่บรรดาสายสืบของฉันจดมาให้  มันคงจะมีสักข้อแหละที่เป็นจุดอ่อนของยัยตาคม ให้ฉันเล่นงานมันได้ ฉันคิดอย่างมาดมั่นในใจ แล้วลิสต์สิ่งที่พวกเพื่อนๆ สืบมาได้รวบรวมลงในสมุดเลคเชอร์เล่มเล็กของตัวเอง

    - ยัยตาคม หรือยัยจิ๊บ เป็นเด็กโรงเรียนสตรีล้วนเหมือนฉันเลย...ทำไมต้องเป็นแบบนี้นะ เสียชาติเกิดเด็กโรงเรียนสตรีล้วนหมด

    - จิ๊บ ไม่เคยมีหนุ่มมารับ ไม่เคยสุงสิงกะหนุ่มหน้าไหน...แปลว่า ไม่มีแฟน เหมือนฉันอีกล่ะ หึหึ รันทดพอกันเลยแฮะ

    - จิ๊บ เป็นเด็กเรียนขนานแท้ เข้าเล็คเชอร์ทุกคาบ...ส่วนฉันโดดได้ก็โดด...

    - จิ๊บ ฐานะดี มีรถขับ (ไอ้ฮอนด้าเวรนั่น) ...ฉัน...ยังต๋อกต๋อยเดินขึ้นรถเมล์อยู่

    - ตั้งแต่เข้ามหาลัยมา จิ๊บก็มีเพื่อนอยู่คนเดียว คือเหมียว ข้อนี้ฉันชนะ ...มนุษย์สัมพันธ์ฉันดีกว่า

    อันสุดท้าย......เหอ O_o  ตาฉันไม่ได้ฝาดไปแน่นะ ฉันแทบจะขยี้ตาตัวเองเพื่ออ่านข้อความจากกระดาษโน๊ตแผ่นสุดท้ายในมืออีกครั้ง และอีกครั้ง

    เฮ้ย ตั๊ก แผ่นนี้แกจดมาป่ะ

    ใช่ ฉันเองตั๊กมองกระดาษยู่ยี่ในมือฉันก่อนจะรับคำ

    จิ๊บชอบพี่โอม!!!!!!

    จิ๊บชอบพี่โอม ยัยจิ๊บชอบพี่โอมเหมือนฉัน!! ฉันคิดว่าฉันรู้เหตุผลที่ยัยตาคมนั่นมันเกลียดฉันแล้ว ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้นะ

    ฉ้นจ้องกระดาษโน้ตตรงหน้าอย่างแค้นเคือง ไม่ใช่ว่าเคืองกระดาษหรอก แต่เคืองยัยจิ๊บบี้บ้านั่นตะหาก แค่ชอบผู้ชายคนเดียวกันทำไมต้องทำกันอย่างงี้ด้วยเนี่ย

    ว่าแต่ฉันล่ะงงจริงๆ ว่ายัยนี่ไปรู้มาได้ไงนะ ว่าฉันก็ชอบพี่โอม...

    ไงๆ ก็เถอะ เมื่อฉันรู้ซะแบบนี้  ฉันก็เริ่มคิดแผนการชั่วร้ายขึ้นทันที

     

    เจี๊ยบจ๋า เห็นพี่โอมมั้ยฉันส่งเสียงหวานระคนสตรอเบอแหลให้กับเจี๊ยบ ขณะที่พวกเรากำลังรอขึ้นห้องเชียร์กันอยู่ตอนเย็น

    ไม่เห็นนี่จ๊ะ คงจะเก็บตัวรอมิ้งค์อยู่ข้างบนแหละจ๊ะเจี๊ยบตอบจ๊ะจ๋ากลับมา ...อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ ...คำว่าจ๊ะเนี่ยไม่เหมาะกับเจี๊ยบเลยพับผ่าสิ

    พี่โอมนี่คนไหนเหรอ มิ้งค์หญิงทำหน้าใสซื่อแสนบริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่มันก็แสนจะรู้ดีว่าพี่โอมเป็นใคร ฉันแทบจะพูดได้เลยว่าระบบการเสแสร้งของผู้หญิงนี่พระเจ้าสร้างมาให้ทุกคนแต่เกิดเลยทีเดียว เพียงแต่ว่าใครจะตอมากตอน้อยต่างกัน

    ก็คนนั้นไง พี่ว้ากตัวสูงๆ ใส่แว่น ไงอ่ะจ๊ะฉันอธิบาย (แอบทำท่ากระซิบกระซาบเล็กน้อย แต่เสียงไม่ได้เบาลงเลย)

    อ๋อ คนที่เดินมาชนกะแกแล้วปิ๊งปั๊งกันตั้งแต่ตอนวันแรกพบอ่ะเหรอตั๊กว่า ... น่ารักมาก ...เดี๋ยวต้องทิปให้มัน 20  ฉันทดค่าทิปของตั๊กไว้ในใจ

    คิคิ มิ้งค์ แล้วเมื่อไหร่จะประกาศว่าเป็นแฟนกะพี่โอมล่ะจ๊ะ”  อ๊ายยย เด็ดสุดๆ เลยจ๊ะ เจี๊ยบจ๋า ...เอา 50 ไปเลย

    แหม แกก็รู้นี่ พี่โอมเค้าเป็นว้ากนะ เค้าก็ต้องทำโหดนิดนึง ...ตอนอยู่ในห้องเชียร์...ขนาดฉันก็ยังไม่เว้นเลย”  ฉันทำหน้าพริ้มไปพริ้มมา แหล๋นสุดๆ ฮ่ะ

    หึหึ แปลกใจมั้ยคะ ว่าทำไมบทสนทนาของพวกเราวันนี้มันประหลาดๆ......

    ก็ยัยจิ๊บ อริของฉันมันมานั่งแป้นแล้นฟังพวกเราคุยกันอยู่ข้างหลังฉันนะสิ....เหอๆ แม่จะเอาให้อกแตกตายเลยยยยยยย

    อยากเห็นตอนแกหอมแก้มพี่โอมจัง เค้าหน้าแดงแจ๋เลยเหรอ

    ใช่ น่ารักจังเลยเน๊อะ” ....กร๊ากๆ ยัยตาคม หน้าเขียวแล้วครับ หุหุหุ

    แกก็เซี้ยวจริง เดี๋ยวพี่โอมก็หลุดเขินมาในห้องเชียร์คงขำเน๊อะตั๊กรับมุข มาเป็นตุเป็นตะ

    ...นี่ถ้าพี่โอมมาได้ยินเข้า ฉันตายแหงเลย ... แต่ไม่เป็นไร เพื่อแกล้งยัยตาคม ฉันยอมโดนพี่โอมเคือง

    มิ้งค์

    เดี๋ยวรอให้เลิกห้องเชียร์เมื่อไหร่ ฉันก็จะเปิดตัวแล้วฉันหัวเราะคิกคัก

    มิ้งค์ ตั๊กซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามฉันเรียกเป็นครั้งที่สอง ด้วยใบหน้าเอ๋อเป๋อ ส่ายหัวห้ามฉันไปพูดไป นี่มันเรื่องอะไรกันนี่

    เหอฉันขานรับมันแผ่วๆ...ชักเสียวสันหลังวาบๆ ซะแล้ว

    ....อย่าบอกนะว่าพี่โอมมาอยู่ข้างหลังฉันอ่ะ

    ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ....แล้วหันขวับ

    ...............
                  ..........................

    ไม่เห็นมีไรนี่

    เฮ้อ ไอ้ตั๊กเรียกซะตกใจหมด ฉันนึกว่าพี่โอมมายืนอยู่ข้างหลังฉันซะอีกฉันบ่น

    จิ๊บ ร้องไห้ ว่ะ

    งึ๋ยยยยยย....ฉันอึ้งไปวูบนึง...รู้สึกเหมือนสายลมเย็นหวิวผ่าน  เพื่อนทั้งโต๊ะมองฉันเป็นตาเดียว...ด้วยสายตาตำหนิ  ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยทำใครร้องไห้เลย..สาบานได้นะ

    นี่ฉัน...ฉันทำ -- เพื่อน -- ร้องไห้เหรอเนี่ย...ยัยมิ้งค์เวรเอ้ย แค่เสื้อเปื้อนโคลนนิดเดียวเอง ไม่น่าเอาเรื่องหัวใจของคนอื่นมาเป็นเรื่องตลกงี้เลยอ่ะ...ฉันรู้สึกผิดอนาถ..โอ๊ยยยย....ทำไมต้องร้องไห้ด้วยนะ TOT ยัยตาคมขี้แยนี่นี่...มันน่าศอกนัก!!

    ฉันรีบวิ่งตามยัยตาคมกับยัย 7-11 ไป...ก็จะไปขอโทษแหละ.....แต่ก่อนที่ฉันจะได้เลี้ยวพ้นโค้งกำแพงที่เห็นเหมียวกับจิ๊บเดินลับเข้าไป ฉันก็ได้ยินเสียงพูดที่ไม่คาดฝัน ที่ทำให้ต้องเบรคตัวเองไว้ทันควัน

    จิ๊บนะ เราก็ตกใจหมด นึกว่าจิ๊บร้องไห้จริงๆซะอีก

    โหย เหมียวแค่นี้ใครจะบ้าร้องไห้ ...เห็นพวกเพื่อนยัยเตี้ยมั้ย ป่านนี้ด่ายัยนั่นเปิงแล้วมั้ง...

    ก็จริงอ่ะ เหวอกันสุดๆ ...คิคิ.. พูดพล่ามบ้าอะไรกันก็ไม่รู้นะ คงกะแก้แค้นจิ๊บแน่เลย

    นั่นสิ แต่ใช้วิธีอย่างกับเด็กประถม...เหมาะกับขนาดตัวจัง

    โฮ๊ะ โฮ๊ะๆๆๆ คิคิคิคิๆๆๆๆ

    เสียงหัวเราะของยัยสองคนนั่น.....

    ชอนเข้าไปในหูฉันอย่างกับหนอน

    วนๆ

    เวียนๆ

    วนๆ

    เวียนๆ

    วนๆ

    เวียนๆ

    ใครก็ได้ช่วยฉันด้วยยยยยยยย

    ฉันโดนยัยจิ๊บแกล้งอีกแล้วววววววววว

     

    ขณะนี้ เป็นเวลา 18 นาฬิกา...

    ติ๊ก ต่อก ติ๊ก ต่อก ...นาฬิกาในหัวฉันกำลังเต้นติ๊กๆ ต่อกๆ รอเวลาการเลิกห้องเชียร์อย่างใจจดใจจ่อ พับผ่าสิ วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะฝึกร้องเพลงเชียร์ซะเลย

    พี่โอมก็ย้ายไปอยู่ข้างหลังเหมือนเดิม ไอ้พี่ว้ากกอริล่าก็ย้ายกลับมายืนโชว์เคราอยู่ข้างหน้าฉัน  แล้วที่สำคัญ....

    ฉันกำลังพยายามตั้งสติ ไม่ส่งเสียงวี้ดโวยวายเหมือนนางมารร้ายในละครน้ำเน่าช่อง 7 หรือกางเล็บแยกเขี้ยวงับหัวยัยตาคมจอมเสแสร้ง ที่บัดนี้ กำลังนั่งเชียร์ไม่รู้ไม่ชี้อยู่หน้าฉัน

    ทำไมฉันต้องทนนั่งพับเพียบเรียบร้อย อ้าปากพะงาบๆ ทำเป็นร้องเพลงตามคำสั่งของเหล่าว้ากเกอร์ ทั้งๆ ที่ในหัวกำลังคิดว่าจะกระชากหน้ากากยัยจิ๊บที่นั่งอยู่ข้างหน้าไงดี  นี่ถ้าตาฉันพุ่งไฟได้ ป่านนี้หลังมันคงเกรียมไปแล้ว

    ฉันจะทำยังไงให้ยัยนี่ มันหลุดเลวเผยธาตุแท้ออกมาต่อหน้าคนอื่นนะ เพราะกระทั่งว่าฉันเพิ่งไปรับฟังการสตรอของยัยจิ๊บสดๆ แล้วรีบวิ่งแจ้นไปบอกเพื่อนๆ ยังไม่มีใครเชื่อฉันเลย......

    บ้าน่า ใครจะบังคับน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างกับเปิดก๊อกได้” ....จิ๊บไง ยัยจิ๊บตาคมเนี่ยแหละ

    เออ ใช่ ดาราเก่งๆบางคนยังทำไม่ได้เลยนะแก” ...แต่มันทำได้ ฉันสาบาน

    แกไม่อยากไปขอโทษเค้าก็บอกมาเหอะ ไม่ใช่ไปใส่ร้ายเค้าซ้ำๆซากๆ แบบนี้ไอ้เพื่อนเวร เชื่อกันบ้างเซ่.....

    ฉันคิดถึงภาพตัวเองนั่งเป็นจำเลยให้ผู้พิพากษาตั๊ก เจี๊ยบ และหญิง มันคาดโทษอยู่นานสองนานแล้วก็ยิ่งแค้นใจ ยัยตัวต้นเหตุก็แป้นแล้นอยู่ข้างหน้านี่

    โดยที่ไม่มีใครด่ามันเสียบ้าง!!!

    ฉันนั่งล้งเล้งอยู่ในใจ ด้วยอารมณ์หงุดหงิดเหลือประมาณ ...และข่าวร้ายก็มาเยือนฉันอีกจนได้.....

    ....ฉันลืมทำการบ้านห้องเชียร์มา ….

    T^T โดนทำโทษอีกแล้ว  โอ๊ยยย โลกไม่ยุติธรรมเลย  ฉันเดินลากเท้าหนักๆ ไปยังจุดลงโทษมุมเดิมเด๊ะ ผิดที่ว่า วันนี้คนลงโทษฉันเป็น นายกอริล่าอัปลักษณ์!!!!

    คุณไม่ได้จดชื่อรุ่นพี่มา คุณมีปัญหาอะไรรึป่าวพูดอย่างนี้ต่อยกันเลยมั้ย =__= คนยิ่งหงุดหงิดๆ อยู่

    ไม่ได้มีปัญหาค่ะ แต่ลืมค่ะฉันตอบไปตรงๆ ตามประสาคนซื่อ แต่ฟังๆดูเหมือนกวนอวัยวะส่วนล่างอย่างน่าประหลาด

    ทำไมถึงลืมได้

    ลืมก็คือลืมค่ะ ถ้าไม่มีอย่างอื่นจะถามแล้ว ขอกลับนะคะฉันโพล่งไปแบบโมโหๆ ก็มันลืมก็คือลืมสิฟะ วันนี้ทั้งวันฉันมัวแต่คิดว่าจะแก้แค้นยัยจิ๊บยังไง มันก็เลยลืมนะสิ!!

    ไอ้พี่ว้ากกอริล่าจ้องฉันกลับมาแบบว่า...ฉันเป็นเด็กมีปัญหา ที่ต้องได้รับการอบรม และอาการหงุดหงิดแสนกวนประสาทเป็นเหตุให้ฉันต้องมีชีวิตอยู่ภายใต้การอบรมของพี่กอริล่า

    1 ชั่วโมงเต็มๆ

    บัญชีนี้ฉันขอยกให้ยัยตาคมชำระแต่เพียงผู้เดียว!!!!!

    ฉันเดินลงบันไดมาด้วยอาการหงุดหงิดที่หนักกว่าเดิม 12 เท่า

    ยัยจิ๊บบ้า (ลงส้นหนักๆ ไป 1 ที)

    ไอ้กอริล่าโหด (ลงส้นหนักๆ ไปอีก 1 ที)

    ด่าอยู่ได้ (ลงส้นหนักๆ ไปอีก 1)

    โมโหแล้วนะเฟ้ย!!!!

    กรี๊ดดดดด....

    ฉัน...ฉันเกือบตกบันได!!!…. หน้าซีดๆ ของฉันมันหวิวๆ

    และ...และคอเสื้อฉันถูกรวบขึ้นด้วยใครสักคนที่คว้ามันไว้กันไม่ให้ฉันตกบันไดได้อย่างหวุดหวิด อยากจะขอบคุณอ่ะนะ แต่ฉันกำลังหายใจไม่ออก...

    โอ๊ย อ่อก อ่อก..อ๊าย ไอ ..ไอ้ อ่อก..

    ฉันส่งเสียงอ่อกๆแอ่กๆ บอกเจ้าของมือนั้น  สภาพฉันตอนนี้คงเหมือนลูกแมวที่โดนแม่มันงับคอแล้วพยายามลากไปไหนสักแห่ง เท้าที่อยู่ไม่ติดพื้นกำลังดิ้นกระแด่กกระแด่ก

    ...เฮ้ย ไม่ปล่อยตอนนี้ อีก 30 วิ ฉันคงเป็นศพไปแล้วนะ TOT ใครก็ได้ช่วยด้วย หนูยังไม่อยากตาย TTOTT

    ฉันถูกวางลงในที่สุด...

    ฟื้ด ฟื้ด ฟื้ด ..”  ไม่เคยรู้สึกว่าอากาศมีค่ามากเท่าวันนี้เลย ฉันพยายามสูดมันเข้าปอดให้ได้มากที่สุด

    จะฆ่ากันรึไงพอตั้งตัวได้ก็หันไปโวยด้วยความปากไว

    ช่วยแล้วยังจะว่าอีก” เสียงตอบกลับมาจากผู้ช่วยชีวิตของฉัน

    ฉันวาดตามองไล่ตั้งแต่พื้นรองเท้ามันขลับกางเกงสแลคสีดำสนิท หัวเข็มขัดและเสื้อเชิ้ตขาวสะอาด ปลายคาง และริมฝีปากหยักๆ ที่เหมือนจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา

    พี่โอม...

    ฉันผงะด้วยความตกใจ ทำไมฉันต้องเจอเขาในเวลาอนาถแบบนี้ทุกทีเลยนะ เท้าขวาฉันก้าวไปข้างหลังโดยอัตโนมัติ และ...ถ้ายังจำกันได้อยู่...ฉันยังยืนอยู่บนบันได

    วูบ.....     หมับ!!

    พี่โอมคว้าแขนฉันไว้ทัน แล้วดึงฉันให้กลับมายืนตรงๆ ได้ดั่งเดิม

    ทำไมเราต้องเจอกันในสภาพแปลกๆ ทุกทีเลยนะเขาส่ายหัวคุยกับฉันด้วยท่าที...อืม อย่าให้พูดเลย ฉันว่าเขาระอาในความซุ่มซ่ามของฉันซะแล้ว T^T…แต่ฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ซะหน่อย >o<

    ขอบคุณนะคะ

    คุยอย่างงี้ไม่ถนัดเลยพี่โอมว่า...ซึ่งก็จริงอ่ะนะ ขนาดยืนแนวราบปกติ ฉันยังต้องแหงนคอแทบตาย และเขาก็ก้มหัวลงมาแทบตาย ...แล้วตอนนี้ นี่ฉันยังยืนลงมาต่ำกว่าเขาอีกขั้นบันไดนึงซะนี่ ....TOT ไม่เคยรู้สึกต่ำต้อยขนาดนี้เล้ยยยย

    ฉันรีบก้าวขึ้นไปอีกขั้น คู่กับเขาทันที

    ไม่อ่ะ เอางี้ดีกว่าพี่โอมส่ายหัวไปมา   แล้วฉันก็รู้สึกหวิวๆ ลอยตัวไปอยู่บันไดขั้นที่สูงกว่าพี่โอม...ด้วย....ด้วย.....

    อ้อมแขนแข็งแรงของพี่โอม

    .......

    .................

    ขอบคุณยัยจิ๊บที่ทำให้ฉันโมโห

    ขอบคุณพี่กอริล่าที่ทำให้ฉันหงุดหงิด

    ขอบคุณความซุ่มซ่ามของฉันที่ทำให้ตกบันได

    ขอบคุณสิ่งร้ายกาจทุกสิ่งที่ทำให้เกิดวันนี้

    ..................

    กรี๊ดดดด........อยากบอกให้โลกรู้จังเลยว่า

    พี่โอมอุ้มฉันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน >O<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×