คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ยัยตาคมตัวดี
ตอนที่ 5: ยัยตาคมตัวดี
พอฉันไปก่อวีรเวรวีรกรรมไว้กับพี่โอมเสร็จ ฉันก็เดินลัลล้าลงมาใต้ถุนคณะเตรียมตัวจะกลับบ้าน-----คงเดาออกนะว่าฉันจะดี๊ด๊าระดับไหน เมื่อได้โดดจุ๊บหนุ่มที่ตัวเองปลื้มซะขนาดนี้ lol
“เฮ้ย มิ้งค์ทำไมแกลงมาเร็วจังเลยล่ะ” หญิงที่นั่งรอฉันอยู่ใต้ถุนคณะวิ่งหน้าตื่นมาถามฉัน มันคงห่วงฉันแหละที่โดนเรียกติวเข้มยามเย็น แต่ที่ไหนได้...เหอๆๆๆ ฉันคิดไปน้ำลายแทบหก
“เด็กเส้นก็เงี้ยแหละ” ฉันยักไหล่ตอบหญิงอย่างไม่สะทกสะท้าน
“เส้นพี่โอมอ่ะเหรอ”
“อ๋อแน่นอน” ฉันยิ้มกริ่ม ส่งเสียงสูงซะจนแม้แต่ตัวเองก็ยังหมั่นไส้
“มิ้งค์...แกยิ้มไรแปลกๆ นี่แกไปทำอะไรมาห๊ะ” หญิงซักไซ้ใหญ่
“ฉัน...” ฉันแกล้งทิ้งเสียงยาวให้ยัยหญิงทวีความอยากรู้มากขึ้นไปเป็นกอง
“อะไรๆๆ”
“ฉัน...ไม่...บอกแกหรอก” ฉันลอยหน้าลอยตาตอบ ทั้งขำทั้งเขินปนกัน เลยรีบคว้ากระเป๋าหนียัยหญิงที่อยากรู้เต็มที่...แหม ก็เกิดมาไม่เคยหอมแก้มผู้ชายเลยนี่ ฉันไม่เอามันมาประจานตัวเองกับเพื่อนหรอก โดนผู้ชายหอมแก้ม กับหอมแก้มผู้ชายมันเหมือนกันซะที่ไหน
“เฮ้ย มิ้งค์มาบอกก่อนเลยนะแก”
“ไม่เอาอ่ะ ฉันกลับบ้านดีกว่า” ฉันหันไปโบกมือบ๊ายบายให้กับหญิงเป็นการตัดบท แล้วก้าวเร็วๆ หนีมันไป
“ไม่รู้ล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้แกต้องบอกฉันด้วย” หญิงตะโกนไล่หลังคาดโทษฉันไว้ แล้วนั่งแหมะรอคุณหญิงแม่ของมันมารับ ฉันหันยิ้มให้มันแล้วโบกมือให้อีกครั้ง แต่คราวนี้ฉันหมายถึงว่า พรุ่งนี้ก็ไม่บอก
หญิงเป็นคนที่โชคดีจริงๆ หน้าตามันก็ค่อนข้างดี (แต่ฉันดีกว่า) ผิวแทนนิดๆ ตาโตๆ แล้วดูสิ มันยังมีคนที่บ้านมารับมาส่งอีก แต่มันมักบ่นว่าไม่มีความเป็นอิสระเอาซะเลย ส่วนฉัน ก็เดินด่อกแด่กไปขึ้นรถเมล์ตามระเบียบ
ป้ายรถเมล์กับคณะฉันก็ไม่ห่างกันมากหรอกนะ แต่ด้วยความเฉอะแฉะของถนนที่ดูก็รู้ว่าเพิ่งมีฝนตกตะกี้ ทำให้ฉันเดินได้ช้ากว่าปกติ เพราะขายิ่งสั้นๆ อยู่ด้วย ฉันเดินกระด่อกกระแด่กไต่ไปตามฟุตบาทในมหา’ลัยไปเรื่อยๆ
“อ๊ายยย...” ฉันร้องวี๊ดขึ้นมา ก่อนจะยืนสงบนิ่งเหมือนถูกสาป
ซวยบรรลัยเลย
ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้อยู่เรื่อยเลยน้า T~T
โปรดทราบๆ ขณะนี้ ฉัน หรือ “หนูมิ้งค์” ยัยซุ่มซ่ามแห่งคณะเศรษฐศาสตร์กำลังยืนปริ่มๆ อยู่บนฟุตบาท เสื้อนิสิตขาวๆ ตั้งแต่อกลงไป ถูกสาดด้วยโคลนเหม็นๆ จาก.....
ไอ้รถฮอนด้าคันนั้น!!
ฉันมองมันอย่างเคียดแค้น แอบบันทึกเลขทะเบียนไว้ในใจ
เอ่อ แต่คงไม่ต้องแล้วล่ะ
ฉันเห็นตัวการแล้ว เมื่อยัยตัวการมองผ่านกระจกข้างมาทางฉัน ฉันจำหล่อนได้ทันที แม้จะเห็นหน้าไม่ถนัดนัก.....ก็ยัยตาคมที่นั่งหน้าฉันในห้องเชียร์ไงล่ะ
หึ่มๆๆๆๆ เพื่อนร่วมรุ่นฉันเองสินะ จะจอดรถขอโทษกันสักนิดได้มั้ยนั่น ไม่ก็ชะโงกหน้ามาค้อมหัวนิดนึงก็ยังดี นี่ ยัยบ้าถ้าเธอไม่ทำอะไรที่เหมือนเป็นการขอโทษฉัน ฉันจะโกรธเธอแล้วน้ะ
1....2......3...........ฉันตัดสินใจโกรธยัยนี่ แล้วจริงๆด้วย (ยัยคนที่ฉันยังจำชื่อไม่ได้เนี่ยแหละ)
ฉันเดินฟึดฟัดกลับคณะไปด้วยอารมณ์เซ็งสุดขีด นี่ฉันจะได้กลับบ้านกี่โมงกี่ยามกันเนี่ย ฉันคิดสะระตะอยู่ในใจ ไหนกว่าจะล้างคราบโคลนที่เสื้อออก กว่าจะรอให้มันหมาดๆ พอจะกลับบ้านได้ พอดี... ชั่วโมงกว่าได้มั้ง นี่มันจะทุ่มแล้วนะ เพราะยัยนั่นคนเดียว!!!!
(เอ รึว่าฟ้าจะลงโทษฉัน ที่บังอาจไปใจแตก..โดดหอมแก้มพี่โอมนะ -“-)
ฉันเดินคิดเรื่อยเปื่อยงุ่นง่านจนกลับมาถึงคณะ ก็พบว่าคนใต้คณะที่ตะกี้ยังคงนั่งกันอยู่ประปรายอันตรธานกลับบ้านไปหมดซะแล้ว ...ไว อย่างกับโกหก... แม้แต่ยัยหญิงที่ตะกี้ยังรอคุณหญิงแม่ของมันอยู่ก็กลับบ้านไปแล้วด้วย ซวยจิงๆ น่ะแหละฉัน คณะร้างอย่างกับป่าช้า...จะมีผีโผล่มามั้ยเนี่ย
ฉันเดินดิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที
“อ้าว น้องมิ้งค์ไปทำอะไรมาน่ะ” พี่กวางที่ยืนล้างมืออยู่ในห้องน้ำ หันมาทักฉันอย่างรุ่นพี่อัธยาศัยดี
“โดนโคลนจากล้อรถมันปั่นใส่อ่ะค่ะ” ฉันเล่าติดน้ำเสียงขุ่นๆ เพราะยังโกรธยัยตาคมนั่นไม่หาย แล้วปลดกระดุมเสื้อนิสิตแล้วถอดออกมา กันไม่ให้คราบโคลนเปื้อนซึมไปถึงเสื้อซับในสีขาว ที่กั้นระหว่างเสื้อนิสิตกับเสื้อชั้นในอีกที
“แล้วพี่กวางล่ะคะ” ฉันมองหน้าเหวอๆ ของพี่กวางที่เห็นว่าอยู่ดีๆ ฉันก็ถอดเสื้อออก ด้วยความที่อยู่โรงเรียนหญิงล้วนมาก่อน ความด้านต่อผู้หญิงด้วยกันของฉันจึงมากกว่าคนปกติ
“พี่รอ..เพื่อนอยู่น่ะค่ะ” ตอบเบี่ยงๆ เขินหน้าแดงอย่างนี้ต้องรอแฟนแหง๋ ฉันคิดในใจแต่ก็ไม่ว่าอะไร ก้มหน้าก้มตาพยายามใช้ทิชชู่ซับคราบโคลนออกจากเสื้อตัวเอง
“พี่มีเสื้อให้เปลี่ยนเอามั้ยคะ” .........อุ๊!!! รัศมีความดีเปล่งประกายมาจากพี่กวางทันที.... พี่นางฟ้าของฉัน สวรรค์ทรงโปรดข้าน้อยแล้ว
“ขอบคุณค่ะ” ฉันรีบหันไปยิ้มหวานประจบให้พี่กวาง
“เดี๋ยวพี่ไปหยิบให้นะจ๊ะ รอก่อนนะ”
ฉันยืนรอหันรีหันขวางอยู่ในห้องน้ำอยู่นาน...เพราะพี่กวางยังไม่กลับมาสักที นี่ถ้าพี่ผู้หญิงคนอื่นเปิดเข้ามาก็เห็นฉันยืนใส่เสื้อซับในโป๊อยู่ในห้องน้ำเนี่ยนะ ...อย่างกับผู้หญิงโรคจิต เวรจริงๆ ไม่อยากจะนึกถึงเลย
“กวางเอาเสื้อไปทำไรเหรอ”
...นั่นเสียงพี่โอมนี่ ท่าทางจะอยู่ หน้าห้องน้ำนี่เอง ฉันรีบเงี่ยหูฟังเมื่อได้ยินเสียงของหนุ่มเป้าหมาย
“มีน้องเสื้อเปื้อนโคลนอ่ะ คนอื่นก็กลับบ้านไปหมดแล้วด้วย”
“หึมม์ น้องผู้ชายเหรอ”
“ป่าว น้องผู้หญิง ทีแรกกวางนึกว่าตัวเองมีเสื้อสำรองไว้ แต่ดันไม่มีซะนี่ ไม่งั้นก็ไม่มากวนโอมหรอก” โอ้วววว ดีมากที่ไม่มีค่ะพี่กวาง ^^ ฉันระริกระรี้แทบจะปรี่ไปโดดกอดพี่กวางซะเดี๋ยวนั้น
“ไม่กวนหรอก เอาไปเถอะ แต่น้องเค้าจะใส่ได้เหรอ” ฉันนึกภาพตัวเองใส่เสื้อตัวโคร่งๆ ของพี่โอม...หึหึ ดูท่าจะใส่ไม่ได้แฮะ.....-*- แต่ไม่เป็นไร ขอเอามากอดไว้ก็ยังดี lol
“นั่นสิ...น้องเค้ายิ่งตัวเล็กๆอยู่ด้วย”
เฮ้ยๆๆ พี่กวางอย่าพูดอย่างงี้สิ เดี๋ยวพี่โอมก็ไม่ให้เสื้อกันพอดี
“งั้นทำไงดีล่ะ”
นั่นไง...พี่โอมตั้งท่าจะไม่ให้แล้ว
อารามฉันกลัวผิดหวังขั้นรุนแรงเลยรีบเปิดประตูผ่างออกไป
“มิ้งค์ใส่ได้อยู่แล้วค่ะ”
-----วี้ๆๆ----------- ฉันรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงแมลงวันบินผ่านไป ไม่แปลกหรอก เพราะถ้ามีเข็มเล็กๆ สักเล่มตกตอนนี้ฉันก็คงได้ยินเหมือนกัน เพราะว่า
ฉัน...โป๊ ...อยู่......
อ๊ากกกกกกกกกกกกกส์
ตอนนี้หน้าฉันคงแดงยิ่งกว่าก้นน้องลิงจ๋อซะอีก ส่วนพี่กวาง ยิ่งอาการหนัก หน้าแดงยิ่งกว่าฉันซะอีกมั้งนั่น ...คงอายแทนแหละ สำหรับพี่โอมก็ยืนมองฉันอย่างอึ้งๆ อยู่แว๊บนึง แว๊บเดียวจิงๆ แล้วพี่โอมก็แกล้งมองเพดาน ทำเป็นไม่เห็นฉันซะงั้น แล้วพี่โอมก็ยื่นเสื้อกีฬาตัวโคร่งมาให้
ฉันรีบคว้าเสื้อพี่โอมมาแล้วปิดประตูห้องน้ำทันที
นี่ฉันทำอะไรไปอีกแล้วเนี่ย?!???
ขอเพื่อนๆ ได้โปรดร่วมไว้อาลัยแด่ชีวิตอันรันทดของหนูมิ้งค์หนึ่งนาทีค่ะ -_-‘ อายจนจะโดดส้วมตายอยู่แล้ว เพราะยัยตาคมตัวดี นั่นเชียว ที่ดันมาทำเสื้อฉันเปื้อน หึ่ม!!
“เฮ้ย พอแล้วไอ้พวกบ้านี่ เลิกล้อซะทีสิ” ฉันโวยวายแต่เช้าตรู่ ท่ามกลางเสียงโห่แซวของเพื่อนๆ เมื่อรู้ว่าเมื่อวานฉันไปทำงามหน้าอะไรเอาไว้
“แก๊ ฉันอยากจะขำก๊ากจริงๆ แล้วแกออกมาจากห้องน้ำได้ไงอ่ะ มองหน้ากันพี่โอมติดด้วยเหรอ” หญิงกล่าวด้วยเสียงอันแสนจะดัง เหมือนจะกลัวว่าคนจะไม่รู้กันทั้งคณะ
“แกไม่ต้องบอกว่าอยากจะขำเลยไอ้หญิง ฉันเห็นแกขำบ้านแตกไปแล้วเนี่ย เบาๆ หน่อยได้มั้ย อายเค้านะ ><”
“แล้วตกลงแกเอาปี๊บที่ไหนมาคลุมหัวตอนเดินออกมาจากห้องน้ำอ่ะ” เจี๊ยบว่า
“ฉันก็เดินหน้าตายออกมาซะงั้นแหละ ดีที่พี่โอมเดินไปไหนแล้วก็ไม่รู้”
“ฉันรู้ว่ะ” ตั๊กตอบอย่างมีเลศนัย
“ไปไหน แกรู้ได้ไง ไอ้ตั๊ก”
“ก็ไปอ้วกอยู่ห้องน้ำชายข้างๆ ไง” ตั๊กเฉลยตาพราวแบบไม่ได้ให้กำลังใจฉันเอาซะเลย แล้วทั้งโต๊ะก็ขำในเรื่องฉันต่อ ส่วนฉันกำลังคิดว่า ไอ้พวกนี้ มันกำลังมีความสุขอยู่บนความทุกข์ระทมของเพื่อน TOT ไอ้เพื่อนกินหาง่าย!
“แกนี่ ฉันอายจิงๆ นะ นี่เพราะยัยตาคมนั่นเชียว” ฉันกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างเจ็บใจ เพื่อนๆ เลยเลิกหัวเราะ แล้วหันมาทำเป็นร่วมอุดมการณ์เคืองยัยตาคมกับฉันบ้าง
“ตกลงยัยตาคม นั่น นี่ ของแกเนี่ย มันใครกันห๊ะ” เจี๊ยบว่า หลังจากฉันเรียกแต่ยัยตาคมนั่น ยัยตาคมนี่อยู่นาน
“ก็ฉันไม่รู้ไง” ฉันส่ายหัวเป็นคำตอบ ทำตาใสซื่อขึ้นมาทันที ก็ช่วยไม่ได้อ่ะนะ มันไม่รู้จริงๆ นี่
“เวร” เจี๊ยบส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้ กับความโก๊ะของฉัน มีศัตรูกะเขาทั้งที แค่ชื่อยังไม่รู้เลย
“คนไหน แกชี้ซิ เดี๋ยวฉันจัดการให้” ตั๊กบอกพลางทำท่าทะมัดทะแมงเตรียมเอาเรื่องแทนฉัน ฉันเพิ่งรู้ก็คราวนี้แหละว่ามีเพื่อนตัวใหญ่มันก็ดีเงี้ย หึหึ ฉันรีบมองซ้ายแลขวาหาไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำให้ฉันต้องมาพิลาปรำพันกับเพื่อน แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
“ไม่อยู่อ่ะ”
“อุบาทว์จริงๆ แกนี่ แล้วงี้เมื่อไหร่จะรู้กันห๊ะ” ตั๊กด่าอย่างอดไม่ได้
“เฮ้ออ ... เออ ขากลับฉันได้นั่งรถพี่กวางด้วย”
“แล้วไง บ้านอยู่ใกล้กันเหรอ” หญิงโต้ตอบกลับมาอย่างเนือยๆ ดูมันไม่สนใจเลยแฮะ ....ใช่สินะ บ้านมันก็รวยนี่ แต่รถที่มารับมันก็แค่ออดี้อ่ะนะ
“ป่าวๆ คนละทาง แต่ฉันติดไปลงป้ายรถเมล์ข้างหน้าอ่ะ” ฉันหยุดนิ่งไปนิดนึงเมื่อเห็นว่ายังไม่มีใครยอมสนใจพี่กวางแสนสวยแสนดีของฉันซะที
“เบนซ์นะครับ... s class ด้วย หรูสุดๆ” ทำไมรุ่นพี่เราทั้งดีทั้งสวยทั้งรวยขนาดนี้....ภูมิใจจริงๆ
“เฮ้ย เจงดิ พี่กวางเพอร์เฟ็คว่ะ แกว่ามีแฟนยังวะ” เจี๊ยบกล่าวอย่างกระตือรือร้นขึ้นมาบ้าง ... มันถามงี้ทำไมเนี่ย ไอ้เจี๊ยบนี่ยิ่งแมนๆอยู่ ... เอ๋? หรือว่ามันเป็นทอม
“ฉันว่ามีนะ เมื่อวานเห็นทำท่าเหมือนรอแฟนอยู่อ่ะ....แกถามทำไมวะ” ฉันถามเจี๊ยบอย่างระแวงๆ
“อยากรู้ถามไม่ได้รึไง”
“แกไม่ใช่ทอม เลสอะไรงั้นนะ”
“ไม่ใช่เว้ย ผู้หญิง ผู้หญิงแท้ๆ” เจี๊ยบยืนยันขึงขัง... แต่ฉันว่าท่าของมันตอนพูด ดูเหมาะ จะพูดว่า ‘ไม่ใช่เว้ย กูผู้ชายแท้ๆ นะมึง’ มากกว่า ไม่น่าไว้ใจเลยไอ้นี่
ฉันละสายตาจากพวกเพื่อนๆ มองทางโน้นทางนี้ด้วยหวังว่าจะเจอแม่ตัวดี และ..ก็เจอจริงๆ ซะด้วย!!
“โอ๊ะ นั่นๆๆ เดินลงมาจากตึกพอดีเลย” ฉันชี้ไปทางยัยตาคมที่เดินมาพร้อมเพื่อนสาวผมหยิกเป็นลอนๆ หน้าตาดูสอดรู้สอดเห็นมากถึงมากที่สุดคนหนึ่ง
“อ๋อ นี่แกไปมีเรื่องกับคนนี้เองเหรอ เค้าชื่อจิ๊บ สาวน้อยดูเรียบร้อยจะตาย ไม่เห็นน่าจะร้ายกาจตรงไหนเลย” เจี๊ยบบอก
“ไม่ร้ายกะผีอะไร สาดโคลนใส่ฉัน แล้วเห็นด้วยนะ ดั๊นไม่ขอโทษกันสักคำ” ฉันเถียงคอเป็นเอ็น เพราะสิ่งที่ยัยตาคมตั้งใจทำ มันห่างไกลจากคำว่า สาวน้อยเรียบร้อย มากนัก
“เค้าอาจจะไม่เห็นก็ได้” ตั๊กแก้ตัวแทนจิ๊บ หมดท่าทีที่จะเอาเรื่องให้ฉันทันที
“แกอ่ะ เข้าข้างเพื่อนกันหน่อยสิ”
“แต่เมื่อคืนกว่าห้องเชียร์จะเลิกมันก็มืดแล้วนะ เค้าอาจไม่เห็นจริงๆ ก็ได้นะแก” หญิงว่า
“เออ ไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ ตกลงพวกแกจะว่าฉันซุ่มซ่ามไปเดินลอยชายวอนโดนโคลนเองงั้นรึไง”
“เปล่า ไม่ได้หมายความว่างั้น อุบัติเหตุน่ะเข้าใจมั้ย” เจี๊ยบแก้คำโวยวายของฉันใหญ่ แต่ มันไม่ใช่อุบัติเหตุนะ เป็นเพื่อนก็เชื่อกันหน่อยสิ!!
“ไม่เข้าใจ! ...แล้วยัยคนที่เดินอยู่ข้างๆ น่ะใคร” ฉันถามไปหน้างอไปด้วยความไม่ได้ดั่งใจ
“นั่นชื่อเหมียว เพื่อนสนิทจิ๊บอ่ะ คบกันอยู่สองคน สองคนนี้เค้าไม่ค่อยสุงสิงกะใครนะ เป็นเด็กเรียบร้อยทั้งคู่อ่ะ” เจี๊ยบอธิบาย แต่ฉันไม่เชื่อหรอก หน้าอย่างงั้น ผมเป็นลอนๆ สีน้ำตาลอย่างนั้นอ่ะนะ เรียบร้อย...ดูก็รู้ว่าปากเธอต้องขมุบขมิบ 24 ชั่วโมงแข่งกับพนักงาน 7-11 แน่เลย
“ฉันว่าดูแล้วเค้าไม่น่าจะตั้งใจแกล้งแกนะ” หญิงย้ำขึ้นมาอีก
“โอ๊ย ตามใจ อุบัติเหตุก็อุบัติเหตุ” ฉันรับคำเซ็งๆ สรุปว่าคดีนี้กลายเป็นเพราะความซุ่มซ่ามของฉันเองอีกตามเคย
ฉันเดินแยกจากเพื่อนไปเข้าห้องน้ำด้วยความหงุดหงิด...รู้ตัวอีกทีก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำห้องเดิมซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุหน้าอับอายเมื่อคืนนี้ ฉันชะงักเท้าอยู่หน้าห้อง เพราะมีเสียงคนพูดคุยกันดังมาจากภายใน .. ขณะกำลังคิดว่าจะเปลี่ยนไปเข้าห้องอื่นคงจะดีกว่า ฉันก็ต้องเปลี่ยนใจในทันที เพราะ...
“วันนี้ไปกินไหนดีอ่ะจิ๊บ โรงอาหารบัญชีไม่เอาแล้วนะ เบื่ออ่ะ” มีคนพูดถึงจิ๊บ อาจจะเป็นยัยจิ๊บตาคมคนเดียวกับศัตรูหมายเลขหนึ่งของฉันขณะนี้ก็ได้ .. มันมีจิ๊บอื่นหรือป่าวเนี่ย ถ้าเป็นยัยจิ๊บจริง ไอ้คนที่พูดขึ้นมาเนี่ยก็คงเป็นเสียงยัยเหมียวสินะ
“อะไรก็ได้ แต่เอาแบบไม่ไกลนะ ขี้เกียจ” เสียงผู้หญิงอีกคนหนึ่งตอบ
“ก็ได้ ไปสยามก็แล้วกัน ..เออ ตะกี้จิ๊บเห็นกลุ่มยัยเตี้ยป่ะ” โอ่ะ ยัยเตี้ยนี่คงไม่ได้หมายถึงฉันนะ
“เห็นสิเหมียว จับกลุ่มกันเม้าท์ใหญ่ คงเรื่องเราแหละ” อ่ะฮ้า ตะกี้ยังไม่แน่ใจ แต่นี่มีทั้งจิ๊บทั้งเหมียว ต้องใช่ยัยสองคนนั่นแน่ๆ คู่ (อริ) กันแล้วไม่แคล้วกันจริงๆ ฉันเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจกว่าเดิม
“สมน้ำหน้าจิงๆ อยากเห็นสารรูปมันตอนนั้นบ้างจังเลยจิ๊บ จิ๊บน่าจะถ่ายรูปมาให้เราดู” อ๊ายๆๆๆ มันหมายถึงฉันจริงๆ ด้วย ToT ยัยสองคนนี้มันเกลียดอะไรฉันนักหนานะ
“เบาๆ เหมียว เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน”
ฉันได้ยินเต็มสองหูเลยย่ะ ฉันจะเปิดประตูไปจ๊ะกะมันเลยดีมั้ยเนี่ย ให้รู้ดำรู้แดงไปเลย แง่งๆๆๆ
“พูดถึงฉันอยู่รึป่าวล่ะ”
ฉันเปิดเข้าไปจริงๆ นับถือในความบ้าบิ่นของตัวเองจัง ยัยสองคนนั่นหันหน้าซีดๆ มามองฉันอย่างไม่เชื่อสายตา คงถนัดแต่แทงข้างหลังล่ะสิ ฉันยืดจังก้าฮึดๆ ฮัดๆ อยู่หน้าประตู มองด้วยสายตาใบมีดไปยังยัยจิ๊บที่กำลังยืนหวีผมอยู่หน้ากระจก แน่นอน...ฉันเผื่อแผ่ความชังไปยังเหมียวที่กำลังโปะแป้งอยู่ข้างๆ กันด้วย
“มิ้งค์ หมายถึงอะไรเหรอจ๊ะ” จิ๊บละหวีลงจากผม หันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียง.....แสนดีสุดๆ น่านับถือเธอยิ่งนักที่เธอสามารถควบคุมสีหน้าซีดๆ เมื่อสักครู่นี้ได้อย่างรวดเร็วเหลือเกิน
“ก็เมื่อวานเธอทำอะไรฉันล่ะ” ส่วนฉัน...เสียงนางร้ายสุดๆ โอ๊ย ไม่ยอม ฉันเป็นนางเอกนะ!!
“ฉัน...ไม่ได้ทำอะไรเธอนี่” จิ๊บส่ายหน้าเบาๆ ผมยาวดำขลับของจิ๊บพลิ้วไหวเล็กน้อย เทียบกับผมบานๆ ของฉันแล้ว Y-Y ...เฮ้ย!!! นี่ฉันยืนชื่นชมผมมันทำไมเนี่ย ใจมันก็ดำพอๆ กับผมมันน่ะแหละ
“ไม่ได้ทำ พูดมาได้ เมื่อวานเธอขับรถปั่นโคลนสาดใส่ฉัน” ฉันวี๊ดแตกด้วยวอลลุ่มต่ำ เพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน
“ตายจริง ฉันไม่รู้เลย เธอจำคนผิดรึป่าว”
“ไม่ผิด ก็เธอน่ะแหละ แล้วเมื่อกี้เธอยังพูดถึงฉันอยู่เลย”
“ป่าวนะ เราไม่ได้หมายถึงเธอสักหน่อย จิ๊บเล่าว่า จิ๊บปั่นน้ำโคลนใส่หมาน้อยตัวเตี้ยๆ ตัวนึงแค่นั้นเอง ขำจะตาย” อ๊ายยย ยัยเหมียวนี่มันเปรียบฉันเป็นหมา !!!???!!! อยากโดนส้นพระบาทของยัยหมาที่แกว่ายัดปากรึไง!!!
“อย่าพูดอย่างงั้นสิ เหมียว ....มิ้งค์ ถ้าเธอคิดว่าเราทำ เราก็ขอโทษนะ แต่เราอยากจะบอกว่า เราไม่รู้เรื่องจริงๆจ๊ะ” จิ๊บปั้นหน้าเศร้าตีบทโศก ห้ามปรามเพื่อนตัวเอง แต่....แต่ มันแอบยิ้มให้กัน!! ฉันเห็นนะ!!
“ได้ ถ้าเธอยืนยันว่าเธอไม่ได้ทำ ...กล้าทำ ไม่กล้ารับ ก็ขี้ขลาดแค่นั้น ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง” ฉันมองจิ๊บที่ยังคงคุมสีหน้าให้เป็นนางสาวแสนดีเดินเฉิดฉายออกจากห้องน้ำไปพร้อมเหมียวบริวารอย่างแค้นใจ ...ฉันจะทำยังไงกับไอ้คู่นี้ดีนะ
“งั้นเราไปกันก่อนนะ บ๊ายบายจ๊ะ”
ฝากไว้ก่อนเหอะ ยัยตาคมตัวดี
ความคิดเห็น