คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : vakker
ตอนที่ 3: VAKKER
“อ้าวว น้องๆ เดี๋ยวจัดแถวกันก่อนนะครับ”
ตกเย็น ตามเวลานัด ...พี่โก้ก็ยืนเด่นเป็นสง่าตะโกนปาวๆอยู่บนเก้าอี้อีกตามเคย...ฉันพิจารณาหน้าผ่องๆ ของพี่โก้ แล้วก็โล่งใจไปที่มันยังไม่บุบสลาย ส่วนรุ่นพี่คนอื่นๆ ก็มาช่วยจัดพวกน้องๆ ให้ตั้งแถวเป็นแถวเดี่ยว คดไปเคี้ยวมาอยู่ใต้คณะ
ฉันหันไปดูที่ที่กลุ่มมาเฟียนั่งเมื่อเช้า...บรรดามาเฟียหน้าโหดทั้งหลายอันตรธานหายไปหมด ฉันได้แต่ขมวดคิ้วอย่างงุนงง ... ก็ไหนพี่โก้ว่าอยากรู้ว่าพวกนี้เป็นใครกันแน่ให้รอตอนเย็นไงล่ะ
ระหว่างที่ฉันกำลังคิดอยู่นั้น กองสมุดเล่มเล็กๆ ก็ถูกเวียนมาเรื่อยๆ จนถึงมือฉัน ... ฉันหยิบมันไว้เล่มหนึ่งแล้วส่งส่วนที่เหลือไปด้านหลัง สมุดเล่มเล็กๆ เหล่านี้ มีขนาดเศษหนึ่งส่วนสี่ของกระดาษ a4 ปกติ เป็นสมุดที่ดูไม่ลงทุนสุดๆเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ตัวกระดาษก็เป็นกระดาษรีไซเคิล หน้าปกก็เป็นขาวดำ มีสัญลักษณ์ของคณะลอยเด่น แถมเย็บเล่มด้วยแม็คอีกตะหาก
ฉันเปิดสมุดที่ทำจากกระดาษรีไซเคิลนั่นไปที่หน้าแรก
ยินดีต้อนรับน้องๆ ทุกคนเข้าสู่คณะแห่งนี้ พี่ในฐานะตัวแทนของรุ่นพี่ทั้งหมด ขอให้น้องๆ สามารถผ่านพ้นบททดสอบนับจากที่ได้รับสมุดเล่มนี้ได้ และพิสูจน์ตนเองจนกระทั่งได้ชื่อว่าเป็นรุ่นน้องของพวกพี่อย่างแท้จริง....
อรรถ รัตนสกุล
นายกสโมสรนิสิตคณะเศรษฐศาสตร์
หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉัน ก็กระตุกแขนเสื้อฉันเบาๆ ปากกล่าวด้วยน้ำเสียงแสนจะกระตือรือร้นจนเกินงามว่า
“แกๆๆ พี่อ๊อฟเขียนด้วยอ่า พี่อ๊อฟๆๆ”
“พี่อ๊อฟไหน” หญิงชะงักจากอาการกระดี๊กระด๊า หันมามองหน้าฉันเหมือนฉันเพิ่งถูกมนุษย์ต่างดาวปลดปล่อยกลับมาจากยานประหลาดทรงกลม
“แกไม่รู้จักพี่อ๊อฟเหรอ”
“ไม่ ใครง่ะ”
“-_-^ ไอ้หลังเขา ไอ้น้ำไฟเข้าไม่ถึง ก็นายกสโมฯไง .. แต่ก็ดีแล้วล่ะ แกจะได้ไม่มาแย่งกะฉัน” หญิงแดกดัน พลางแนบสมุดรีไซเคิลเหี่ยวๆ ไว้กับอก
“ขึ้นได้แล้วๆ นี่ 4 โมงครึ่งแล้วครับ ตรงเวลาด้วยครับ ไม่งั้นจะหาว่าพี่ไม่เตือนนะครับ”
...ตาพี่โก้แหกปากร้องเสียงดังลั่นจนฉันตกใจหมด.. ทำตื่นเต้นเกินเหตุอีกล่ะ พี่โก้นี่ .. -_-
ในที่สุด ฉันก็เดินตามแถวยาวๆ ขึ้นไปที่ชั้นบนของตัวตึก .. ก่อนจะโดนต้อนเข้าเล้าเล็กๆ .. ไม่ผิดหรอกก็ลองคิดสภาพเด็ก ร้อยกว่าคน ถูกจับยัดเข้าไปในห้อง ๆ เดียวสิ อัดกันจะตายอยู่แล้ว..นี่รุ่นพี่เขาคิดอะไรกันอยู่นะ รุ่นน้องนะเฟ้ยไม่ใช่ปลากระป๋องนะเฟ้ย... และในสภาพการณ์ที่เลวร้ายเยี่ยงนี้...ฉันยังถูกจับไปนั่งแยกจากเพื่อนๆ อีก ... กระซิกๆ T^T
พวกฉันมองหน้ากันตาละห้อย ถึงขนาดพยายามจะใช้มารยาหญิงออดอ้อนพี่ที่คุมแถว แต่ก็ไม่ได้ผล ฉันถูกจับมานั่งในที่ๆ พี่บอกว่ามันคือ i2 นั่นคือ นับจากซ้ายสุด มาถึงตัว i แล้วนับจากข้างหน้ามา 2 ใช่ล่ะ มันหมายความว่า ฉันนั่งโคตะระหน้าเลย ฮึ ทีพวกเจี๊ยบกัตั๊ก มันยังได้นั่งหลังๆ มีแต่หญิงเท่านั้นที่เข้าร่วมชะตากรรมเกือบใกล้เคียงกับฉัน คือ อยู่แถว c3...ฉันหันไปทำโบกไม้โบกมือกับหญิงอยู่พักหนึ่ง รุ่นพี่ทุกคนก็ออกจากห้องไป
บรรยากาศที่จอแจเมื่อกี้ เงียบสนิทอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วมันก็กลับมาโหวกเหวกอีกครั้ง หลายคนตะโกนคุยกับเพื่อนที่โดนจับไปตรงอื่นแต่ไม่ไกลนัก หลายคนพยายามตีซี้เพื่อนใหม่ แต่สำหรับฉันในฐานะที่ถูกจับแยกกับเพื่อนเสียไกลมาก และไม่ปรารถนาจะทำความรู้จักกับใครเพิ่มเติมนักในตอนนี้ จึงเงี่ยหูฟัง พวกคนข้างๆ เขาคุยกัน (เจือกนั่นเอง =_=)
“เฮ้ย เธอว่าเขาจะพาเรามาทำอะไร” คนทางซ้ายฉันพูด ก็เพื่อนร่วมรุ่นฉันทั้งนั้นน่ะแหละ แต่ชื่ออะไรฉันจำไม่ได้อ่ะนะ
...คงแกล้งอะไรอีกแหล่ะเธอ ฉันตอบในใจ
“ห้องเชียร์ไง” สาวผมยาวตาคมที่นั่งอยู่หน้าฉันหันมาตอบ มองเหยียดมาทางฉันเหมือนดูถูกกันยังไงก็ไม่รู้...ฉันเบี่ยงตัวไปมองด้านหลัง ด้วยหวังว่าเขาคงมองคนอื่น ซึ่งบังเอิญไปนั่งอยู่หลังฉัน แต่...ข้างหลังฉันเป็นหนุ่มหน้าตาดีและดูคงแก่เรียนนิดๆ ประเภทที่ว่าดูยังไงก็ไม่ควรค่าแก่สายตาการเหยียดหยามดูถูกอันนั้น
“แล้วพี่ๆ เค้าออกกันไปทำไมล่ะนั่น”
“ก็เดี๋ยวพวกว้ากเกอร์ก็เข้ามา แหงๆ” ยัยคนเดิมอธิบายและมองเหยียดมาทางฉันอีกครั้งหนึ่ง
....คิดไปเอง.....ฉันคงคิดไปเองแน่ๆ ไม่ได้เคยรู้จักมักจี่อะไรกันซะหน่อย อยู่ดีๆ มันจะมาทำสายตาอย่างนั้นกับฉันทำไม
ฉันมองตอบไปอย่างพิศวง และเธอคนนั้นก็มองกลับมาอย่างไม่สะทกสะท้าน ยัยนี่ต้องเคยเรียนปี 1 มาก่อนแล้วซิ่วมาอยู่นี่แน่ ดูง่ายๆ ก็จากความรู้โน่นรู้นี่ที่มีมากกว่าเด็กปี 1 ทั่วไปซึ่งหมายถึงฉัน (เอาตัวเป็นเป็นบรรทัดฐานซะงั้น) ผิวเข้มๆ ตาคมๆที่ออกไปทางกร้านโลก และจากกิริยาที่ผ่านการบ่มเพาะมาอย่างดี
เปล่า ฉันไม่ได้ชมนะ คือ ฉันมักใช้คำนี้เป็นคำสุภาพ สำหรับคำว่า แสแสร้ง เสมอ มองยังไงฉันก็ไม่ถูกชะตากับยัยนี่เลย ไม่รู้เป็นไง -_-
(ภาษาไทยวันละคำ : ซิ่ว มาจากฟอสซิ่ล หมายถึงเด็กที่เคยเป็นเฟรชชี่มาก่อนแล้วไม่พอใจที่เดิม เอ็นท์มาอยู่คณะใหม่)
ปัง
“ เงียบได้แล้วครับ” ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแรง เสียงมันดังพอที่จะยุติสงครามสายตาระหว่างฉันกับยัยตาคม ฉันหันไปมองทางประตูและพบกับการก้าวเข้ามาของ ไอ้หยา!!!!! ตากอริล่าอ้วน ผมรุงรัง ที่จิกตัวพี่โก้ไปน่ะเอง TOT น่ากลัวมากๆ ฉันรู้สึกเหมือนน้ำลายจะขึ้นมาฟูมปาก
ตากอริล่านั่นเดินนำกลุ่มมาเฟียมาอีกสองคน คนหนึ่งไว้หนวดเฟิ้ม อีกคนทำทรงเดดร็อก ซึ่งนับแต่นี้ ฉันขอเรียกว่าลุงหนวดกะน้าหอย แต่ เอ๊ะ!! ถ้ากลุ่มมาเฟียเข้ามา แปลว่าพี่โอมของฉันก็อาจจะมาด้วยงั้นสิ *-* ปิ้งๆๆ ฉันคิดได้อย่างนั้นก็พยายามมองหาพี่โอมทันที แต่ไม่มี!! ตาน้าหอยเดดร็อกปิดประตูห้องแล้ว ไม่เห็นพี่โอมจะเข้ามาเลย T-T
...แล้วฉันก็ได้ยินเสียงประตูด้านหลังปิดลง คราวนี้ต้องเป็นพี่โอมของฉันแน่ๆ ฉันเหลียวหลังไปดูอัตโนมัติ
“ไม่อนุญาตให้หันไปดูอะไรทั้งนั้นครับ”
ป่อยยยย.....ระบบอัตโนมัติของฉันหยุดทำงาน....
ตากอริล่าปากแตกนี่มันจะตั้งตัวเป็นศัตรูความรักของฉันใช่มั้ยเนี่ย!!!!! ตากอริล่ากวาดตามองทั่วห้องเหมือนที่ตะโกนออกมาเมื่อครู่ ไม่ได้จำเพาะจะด่าให้เป็นพิเศษ พอเห็นน้องๆ ทุกคนเงียบเสียยิ่งกว่าเงียบ ตากอริล่าก็เอ่ยปากต่อว่า
“ที่นี่ ห้องเชียร์คณะครับ พวกผมจะฝึกให้พวกคุณร้องเพลงเชียร์เพื่อเปิดรับกีฬาเฟรชชี่ที่จะมีขึ้นในต้นเดือนหน้า... และผมขอให้คุณเคารพห้องเชียร์ที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เพราะรุ่นพี่ของพวกคุณทุกคนเคยผ่านที่นี่มาแล้วทั้งนั้น”
ตากอริล่าเกริ่น ก่อนจะตามด้วยการออกคำสั่งอีกยืดยาว
“แต่ผมขอบอกคุณไว้ก่อน ว่าในห้องนี้ มีกฏอยู่ 5 ข้อด้วยกันครับ 5 ข้อง่ายๆ แต่ผมไม่รู้ว่าคุณจะทำกันได้รึป่าว ก่อนอื่น ผมขอบอกว่าพวกผมไม่อนุญาตให้พวกคุณพูด ถ้าพวกผมไม่ได้ถาม ไม่อนุญาตให้คุณยุกยิก...ไม่อนุญาตให้...”
......อ๊ายยๆๆๆ พอกันที จะไม่อนุญาตให้หายใจด้วยซะเลยดีมั้ย ... นี่พวกแกเป็นใครกันฮะ!!!! ถือดียังไงมาสั่งฉัน ทำไมพี่โอมต้องไปสุมหัวกับคนพวกนี้นะ >< กี๊ดๆๆ .. ฉันส่ายหัวดิก ต่อต้านอยู่ในใจ
“และคุณต้องเข้ามาที่นี่ทุกวันพร้อมสมุดเชียร์เล่มนี้ ในเวลา 4โมงครึ่ง กรุณาตรงเวลาด้วยนะครับ” ลุงหนวดกล่าวสำทับพร้อมยกโชว์สมุดสุดประหยัดขึ้นมาโชว์ น้าหอยจึงพูดต่อ ราวกับละครที่กำกับบทมาอย่างดี
“อยู่ในห้องนี้ ผู้หญิงนั่งพับเพียบ ผู้ขายนั่งขัดสมาธิ แล้วพวกคุณห้ามเปลี่ยนท่านั่งจนกว่าพวกผมจะอนุญาต” อะไรนะนี่แค่จะเปลี่ยนท่านั่ง ฉันยังต้องฟังคำสั่งพวกแกรึ นี่จะเอาฉันมาหัดร้องเพลง หรือเข้าเตรียมทหารฮะ ฉันนั่งทำตาเขียวปัดค้อนประหลับประเหลือกเหมือนปลาสำลักน้ำ สิ่งที่เหล่าฆาตกรใจโหดพล่ามมาเข้าหูซ้าย ทะลุหูหมาไปเรียบร้อยแล้ว
ก็กฎบ้าบออะไรจะยุ่บยั่บขนาดนี้ ...ฮึ่มๆๆ ฉันทนอึดอัดอยู่ในห้องเล็กแคบๆ ทำตามคำสั่งของกลุ่มว้ากมาเฟียไปฮึดฮัดไป ใจก็ต่อต้านไปเรื่อย แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรหรอก -_-“
พวกนั้นเขาก็สั่งให้เหล่ารุ่นน้องที่แสนน่ารักอย่างพวกฉัน ร้องเพลงคณะซ้ำๆ ซากๆ ไม่รู้จบ (เขาไม่เคยพอใจ ไม่ว่าเราจะร้องดังแค่ไหนก็ตาม) สิ่งเดียวที่ประโลมใจฉันในตอนนี้ ก็คือ
เสียงนุ่มๆ ของพี่โอมที่อยู่หลังห้องไง ^^ ...
“เปลี่ยนท่านั่ง” พี่โอมพูดตัดบทขึ้นมา ขณะที่พวกเราโดนสั่งให้ร้องเพลงเดิมมาแล้วเป็นรอบที่ 5 ... แม้เป็นว้ากเกอร์ พี่โอมที่แสนน่ารักของฉันยังเป็นว้ากผู้ดี ไม่แหกปากโวยวายเหมือนนายกอริล่า แถมยังใจดีสั่งให้เปลี่ยนท่านั่งบ่อยๆ น่ารักมากๆ และเหมือนจะเป็นการตอกย้ำความแตกแต่ง..ไอ้พี่ว้ากกอริล่าก็แหกปากประจานตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง
"ผมชักจะเอือมพวกคุณแล้วนะครับ เพลงเดียวเนี่ย คุณใช้เวลามาเกือบชั่วโมงแล้วครับ ไม่ได้เรื่องซักที ถามหน่อยครับ เพลงคณะนี่คุณไม่อยากร้องได้งั้นเหรอครับ ตั้งใจกันหน่อย.." ว้ากกอริล่า หยุดพักหายใจหอบๆ ถ้ามันไม่หยุด ฉันจะคิดว่ามันหายใจได้ทางเหงือกแบบปลา ไม่ก็หายใจทางผิวหนังแบบคางคก เหอๆ คงเป็นอย่างหลังมากกว่า กอริล่าผสมกับคางคก ก๊ากกั่กกั่กๆๆ
“ฮัดชิ่ว...”
----เงียบ----
ไม่อยากจะบอกเลยว่า...เป็นฉันเองแหละ หือๆๆๆๆ ... อีกแล้ว ยัยเบ๊อะเอ้ยยยย TOT อยากด่าตัวเองเป็นภาษาขอม .. ตัวเองจะได้ฟังไม่รู้เรื่อง T^T
ฉันเงี่ยหูรอฟังคำสั่ง “ไม่อนุญาตให้จาม” อยู่ครู่หนึ่ง ถึงโล่งใจว่าฉันไม่ได้ทำผิดกฎล้านแปดในห้องเชียร์
...เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย แต่...น่าอายอีกแล้วฉัน -_-' และแล้วเสียงหัวเราะลอดหลุดมาจากคนข้างหน้าฉัน ก็ยัยตาคมรู้มากนั่นไง ... เอ่อ ประทานโทษค่ะ อนุญาตให้ถีบคนข้างหน้ามั้ยคะ
“ผมไม่อนุญาตให้พวกคุณหัวเราะกันนะครับ” พี่กอริล่าสั่งขึ้นมา ก็เหมือนกับผู้กำกับสั่งคัทยังไงยังงั้น เพราะไอ้คนที่ยิ้ม ก็หุบ ไอ้คนที่หัวเราะก็เงียบ....รวมทั้งยัยตาคมรู้มากนั่นด้วย ชิส์ ..... แปะๆๆๆๆ ดีมากค่ะ (ตากอริล่าดูเป็นคนดีขึ้นมาทันที)
แต่ เอ๊ะ!!... ตะกี้ฉันตาฝาดไปรึป่าวเนี่ย ... ฉันมองไปทางเดิมอย่างไม่เชื่อสายตา ฉันเห็นตากอริล่าแอบขำเหมือนกันนี่ ...ถ้าฉันจำไม่ผิด...เขาเคยบอกว่าห้ามยิ้ม ห้ามขำด้วยนี่นะ เพิ่งจะห้ามคนอื่นตะกี้ แล้วอิเก๋าริล่าก็เป็นซะเอง (อิเก๋าริล่า เป็นคำสนธิ = อิเหนา+กอริล่า)
ฉันเหลือบมองหน้าพี่ว้ากคนอื่นๆ ก็พบว่า ทุกคนต่างมีกิริยาหลุกหลิกกันคนละอย่างสองอย่าง ไล่ตั้งแต่ลุงหนวดที่ยืนเหงื่อซิกอยู่ซ้ายสุด น้าหอยเดดร็อคที่กำลังเหลือกตามองเพดานพร้อมกับเม้มปาก ดูแบบว่าพยายามอย่างแรงที่จะทำหน้าให้คล้ายกับ-- กลั้นอาการโมโห -- แต่มันกลับเหมือนกลั้นลมทางก้นมากกว่า
ก็อย่างว่าอ่ะนะ พี่ว้ากก็คนแหละ
และฉันก็ว่าแล้วเชียว ไอ้มาเฟียหฤโหดเนี่ย พี่โก้ต้องปั้นแต่งมาแหงๆ แล้วพี่ๆ พวกเนี้ย ก็บุคคลธรรมดาที่คอยทำตัวโหดๆ มาคุมน้องๆ อ่ะแหละ
และที่แน่นอนที่สุด พี่โอมของฉันความจริงก็ต้องเป็นรุ่นพี่แสนดีอยู่แล้ว ^^
พอคิดได้แค่นั้น ฉันก็เลยนั่งแป้นแล้นให้พวกว้ากมาเฟียโวยวายใส่อย่างสบายใจ คอยดูนะ คุณพี่โอม หนูมิ้งค์จะจับให้ได้เลยว่าตัวจริงๆ ของพี่เนี่ยเป็นยังไงกันแน่ ฉันคิดยิ้มๆ
"ห้ามยิ้มครับบบบบ!!!!”
แป่ว-----
ความคิดเห็น