ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เอล คนทะลุมิติ chapter 2

    ลำดับตอนที่ #7 : เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 7 พบกับนาห์ม

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 56


    พบกับนาห์ม

     

    บรรณารักษ์ที่หอสมุดมีหลายคนแยกกันอยู่ตามชั้นต่างๆ ชั้นแรกมีสามคนนั่งอยู่ตามโต๊ะทำงานซึ่งอยู่ห่างกันประมาณห้าสิบเมตร

    เอลมองบรรณารักษ์หนุ่มคนหนึ่งอยู่นานเพราะรู้สึกว่าเหมือนเคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อน

    แซมไปไหนเสียล่ะ.. 

    เขาแปลกใจที่แซมบรรณารักษ์คนเก่าแก่ของที่นี่ไม่อยู่ที่โต๊ะทำงาน โต๊ะทำงานเบอร์สามเป็นของแซม อีเลียต บรรณารักษ์สูงวัย ผู้เป็นหัวหน้าบรรณารักษ์ที่นี่ ปกติเขาจะนั่งที่โต๊ะทำงานเบอร์สามตัวนั้น

    เอลจำได้ว่าแซมเคยบอกกับเอลว่าเขาจะนั่งที่นี่จนวันตาย

    แซม อีเลียตเป็นคนช่างพูดเขามีความสุขที่ได้พบปะผู้คนและชอบแซวเด็กๆ ที่มาใช้บริการห้องสมุดนี้เสมอ ทำให้เด็กๆ ที่มาที่นี่ชอบเขา สมัยที่เอลยังเรียนประถมเขาเคยรับแจกลูกอมจากแซมทุกครั้งที่มาใช้บริการ

    แซมเป็นคนขยันทั้งที่วัยเกือบเจ็ดสิบ แต่ก็ยังแข็งแรง เขามีความสุขที่ได้ทำงานที่เขารัก หลายต่อหลายครั้งเอลมักเห็นเขานั่งซ่อมปกหนังสือที่ขาดชำรุด  คนน้อยนักที่มีความสุขกับการอยู่กับหนังสือ เพราะยุคนี้ทุกคนหันไปดูสื่อดิจิตอลกันแทบทั้งนั้น

    บ้านของแซมมีหนังสือสะสมอยู่ที่บ้านจำนวนนับพันเล่มเป็นอย่างน้อย

    เอลไม่ได้สงสัยว่าแซมหายไปไหน แต่เขากลับสงสัยชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเบอร์สามนั่นมากกว่า 

    ตราบที่ฉันยังไม่ตาย ฉันจะไม่ยอมให้ใครมานั่งที่โต๊ะทำงานของฉันเด็ดขาด นี่คือคำพูดที่แซมเคยพูดให้เอลได้ยิน

    หน้าคุ้นมาก..

    เขาสงสัยว่าทำไมคุ้นหน้าบรรณารักษ์คนใหม่อย่างบอกไม่ถูก คงเคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อนแต่คิดไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหน 

    มาแทนแซมตั้งแต่เมื่อไร...

    เอลตัดสินใจเดินไปถามให้หายคาใจ

    แซมลาออกไปแล้วหรือครับ

    แซมเสียชีวิตไปหลายเดือนแล้วครับชายหนุ่มตอบทันทีเมื่อเอลถาม

    “.......”

    แซมตายไปแล้ว...

    เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าครับ ผมคุ้นหน้าคุณมากครับ แต่จำไม่ได้ว่าเคยพบคุณที่ไหนเอลโพล่งถามออกไป

    ก็คงพบที่นี่แหล่ะครับ โอเคนะครับผมมีงานต้องทำเชิญตามสบายนะครับ ชายหนุ่มผายมือเชิญเอลไปนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือ

    เอลรู้สึกว่าชายหนุ่มพูดตัดบทยังไงบอกไม่ถูก และเหมือนมีเลศนัยปิดบังอยู่ เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือ

    ฉันขอเสียมารยาทอ่านใจนายนะ...

    เอลอ่านใจชายผู้นั้นเพื่อให้หายสงสัยว่าเคยเจอกันที่ไหน และชายผู้นี้ตั้งใจปิดบังอะไรอยู่

    งานใหม่ของเรานี่ก็ไม่เลวนะว่าแต่ว่าคืนนี้กินข้าวที่ไหนดี

    พรุ่งนี้จะต้องไปจ่ายค่าไฟฟ้า

    ต้องไปรับเสื้อที่ร้านซักรีดเย็นนี้ด้วย กลับบ้านไปต้องซ่อมหนังสืออีกสามสี่เล่ม

    ผู้หญิงที่โต๊ะนั้นน่ารักดี ไม่ใช่นักศึกษานี่นา มีแฟนหรือยังนะ น่าจะมีแล้วนะเมื่อครู่นี้เห็นแวบๆว่าเดินมากับผู้ชายแก่คราวพ่อเชียว

    เอลรู้สึกว่าชายหนุ่มเป็นคนอารมณ์โรแมนติคและมีจินตนาการสูงทีเดียว

    บรรณารักษ์หนุ่มด้อมๆมองๆ หญิงสาวผู้หนึ่งอยู่ เธอนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะใกล้ๆโดยไม่รู้ว่าถูกคนแอบมองอยู่ 

    ถึงโซเฟียของเราจะไม่สวยแบบผู้หญิงคนนี้ แต่เธอก็เป็นภรรยาที่น่ารักสำหรับเราวันยังค่ำ...เรื่องเลวร้ายไม่น่าเกิดขึ้นกับเธอเลย... โซเฟีย..

    ความคิดของชายหนุ่มหยุดชะงักลงเมื่อมีคนเดินมาคืนหนังสือ ชายผู้นั้นยื่นมือไปรับหนังสือและลงบันทึกการรับคืน

    โซเฟีย ชื่อนี้คุ้นจัง มีเมียแล้วหรือนี่...

    แว่บเดียวที่เอลเจาะเข้าไปในจิตส่วนลึกที่สุดของชายหนุ่ม เขากลับรู้สึกอะไรบางอย่าง เขาหยุดอ่านใจในทันทีนั้น และมองกลับไปที่โต๊ะเบอร์สามนั้นอีกครั้ง เพิ่งจะเห็นป้ายชื่อหน้าโต๊ะเบอร์สามเขียนชื่อบรรณารักษ์ว่า นาห์ม ไรม์วา

    เขาคือนาห์มคนนั้น

    ......................................................................................................................................................

     

     สิบโมงเช้าอีกสามวันต่อมา

    เอลนำเอาหนังสือเล่มหนึ่งที่ยืมไปมาคืน

    หนังสือแผนที่เมืองดวงจันทร์ ซึ่งเขียนโดยศาสตราจารย์ชวอน แม็คคอยด์ เขาชื่นชอบในความเพ้อฝันอันเป็นไปได้ของศาสตราจารย์ท่านนี้  เนื่องจากเขาคือผู้บุกเบิกการสำรวจดวงจันทร์อีกครั้งหลังจากมนุษย์คนแรกได้ก้าวเท้าลงบนดวงจันทร์ หลังจากนั้นดาวดวงนี้ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจากมนุษย์โลกอีกเลย

    นิยายของชวอน แม็คคอยด์เป็นทั้งนวนิยายและสารคดี พูดถึงการขึ้นไปอาศัยของมนุษย์โลกเมื่อโลกไม่เป็นที่พึงประสงค์ของมนุษย์อีกต่อไป เขาอ่านมันอยู่สามวันแต่ก็ยังอ่านไม่จบแต่ถึงกำหนดคืนจึงต้องนำมาคืนฃ

    นาห์มยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะหมายเลขสามนั้น เอลนำหนังสือมาคืนและถามเรื่องเดิมว่า เคยเจอกันที่ไหนมาก่อน นาห์มก็ตอบเอลอย่างแฝงอารมณ์ขัน

                    ก็พบกันวันนั้นไง ไม่มีวันอื่นหรอก รับรองผมไม่เคยรู้จักคุณแน่นอน ผมอาจจะหน้าเหมือนใครบางคนที่คุณรู้จักก็ได้ ผมหน้าโหลจะตาย แต่เอ..ผมเคยเห็นหน้าคุณในทีวีหรือเปล่านะ คุ้นหน้าคุณอยู่เหมือนกันนะ

                    ใช่สิ ผมคงจำคนผิด ขอโทษนะครับ เอลสั่นศีรษะก่อนเดินจากไป 

                    เอลเดินมานั่งที่โต๊ะหลังจากไปหยิบหนังสือมาเล่มหนึ่ง และพยายามนั่งอ่านใจนาห์มอีกครั้งขณะที่นาห์มกำลังซ่อมปกหนังสือเล่มหนึ่งอยู่   

                    นาห์มกำลังคิดถึงผู้หญิงคนเดิมที่ชื่อ โซเฟีย 

    เอลคิดว่าเขาคงรักเธอมากทีเดียว  

                    จู่ๆ เขาก็รู้สึกสะดุดกึก เขาอ่านใจไม่ได้อีก

    ทำไมล่ะ...เกิดอะไรขึ้น..  

    เอลหยิบหนังสือนั้นไปทำยืมกับบรรณารักษ์นาห์ม เมื่อทำลงทะเบียนการยืมเสร็จ เขาจึงเดินออกไปจากห้องสมุดนั้น

                    นาห์มหยิบภาพขนาดโปสการ์ดภาพหนึ่งออกมาจากหนังสือปกแข็งตรงหน้า     ภาพนั้นเป็นภาพเลือนลางของหญิงสาวคนหนึ่ง โซเฟีย...

    หญิงสาวในรูปคือโซเฟียภรรยาของลีโอ บัสโซ่

                    ..........................................................................................................

     

              วันต่อมา เอลก็ไปที่หอสมุดอีกครั้งหลังเลิกเรียน นาห์มอยู่ที่นั่น เขาแอบมองนาห์มซึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ เขาอ่านใจของนาห์มทันที แต่เขากลับรู้ว่านาห์มกำลังคิดเรื่องของเขาอยู่  

                    เจ้าเด็กนั่น.. มาอีกแล้ว มันเป็นใครกันนะ...

                    เอลรู้ว่าเขาพลาดเสียแล้ว ไม่ควรมาเลยจริงๆ

    อยากเขกหัวตัวเองสักพันครั้ง...

    เขาสั่นศีรษะ

    เราคงเป็นนักสืบไม่ได้แน่...

    เรื่องแค่นี้ยังถูกจับได้ ความคิดฝันที่ว่าจะเป็นนักสืบให้เหมือนกับเดลนั้นคงยากเสียแล้ว  

                    เอลเดินไปค้นหาหนังสือที่ชั้นลับตาคน มีเสาต้นใหญ่บังอยู่ เขาแหวกหนังสือเป็นช่องเพื่อแอบมองนาห์มอีก คราวนี้เอลถึงกับตะลึงเมื่อพบว่านาห์มกำลังคิดเรื่องเลวร้ายเรื่องหนึ่งอยู่

                    พรุ่งนี้ต้องลงมือ แผนนี้ลงตัวที่สุดแล้ว มันต้องคิดไม่ถึงแน่ จะรู้ตัวก็ตอนที่มันใกล้ตายแล้วเท่านั้น

                    เรื่องบ้าอะไรกัน.....

    มันต้องรับกรรมอย่างสาสม มันต้องตาย พรุ่งนี้แค่มันเดินก้าวออกจากบ้าน ก็เท่ากับว่ามันเดินเข้าหากับดักที่เราวางไว้แล้ว ไม่มีทางที่มันจะรอดจากแผนการอันแยบยลของเราได้...

                    เอลตะลึงเมื่อรับรู้ความคิดอันตรายของนาห์ม

                    กำลังวางแผนฆ่าคนอยู่เรอะ ไม่น่าเชื่อว่านายจะทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นได้.....

                    เม็ดเหงื่อผุดขึ้นที่หน้าผากของเอลแม้นว่าหอสมุดนี้จะเปิดแอร์แรงไม่น้อยก็ตาม ออกจะหนาวเสียด้วยซ้ำ

    เอลรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงว่าจะทำอย่างไรดี

                    ไม่ใช่เรื่องจริงหรอก ไม่ใช่แน่

    แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริงขึ้นมาล่ะ..จะทำยังไงดี

    ก็ต้องห้ามสิ..จะปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้นไม่ได้...

    ............................................................................................

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×