ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เอล คนทะลุมิติ chapter 2

    ลำดับตอนที่ #3 : เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 3 คืนประหาร

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 56


     

    คืนประหาร

     

    หนึ่งทุ่มตรง คืนที่พระจันทร์สุกสกาวกลมโต

    สองทุ่มตรงจะเป็นเวลาประหารชีวิตลีโอ บัสโซ่ ฆาตกรผู้คร่าชีวิตภรรยาอย่างเหี้ยมโหด

    เอลใส่สูทสีน้ำเงินของลองก์ถือบัตรเชิญของเรือนจำกลางยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ที่จอดรถหน้าเรือนจำ มองที่หน้าเรือนจำซึ่งมีคนยืนถือป้ายคัดค้านการประหารชีวิตนับร้อยคน มีหน่วยรักษาความปลอดภัยยืนคุมเป็นทิวแถวอยู่ที่หน้าเรือนจำ

    เอลเดินแทรกเข้าไปในฝูงชนที่เบียดเสียดจนออกมายังทางซึ่งเจ้าหน้าที่กั้นไว้ให้แขกเข้าไปในเรือนจำ ปรากฏมีชายสามสี่คนเข้ามาดึงเอลไม่ให้เข้าไป แต่เจ้าหน้าที่สองสามคนกรูเข้ามาช่วย

    เอลยกบัตรเชิญให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่จึงเข้ามากันให้เขาเข้าไป

    “ปล่อยลีโอของเราเดี๋ยวนี้ ๆ

    ละเว้นชีวิตด้วยเถิด

    ทันใดนั้นฝูงชนก็กรูกันวิ่งตามเอลเข้ามาที่หน้าประตู เจ้าหน้าที่ประมาณยี่สิบคนต่างพากันกรูเข้ามาพร้อมด้วยเกราะกำบังพลาสติคใสและไม้กระบองเข้าสกัดกั้นระงับเหตุ เอลให้ความเร็ววิ่งไปที่หน้าประตูและยื่นบัตรเชิญให้กับเจ้าหน้าที่

    ขออนุญาติด้วยครับ ๆ เอลตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงฝูงชน

    “มาผิดเวลานะ ทำไมมาช้าป่านนี้” เจ้าหน้าที่ตำหนิเอลก่อนที่จะเปิดประตูให้เขาเข้าไป

    เอลมาผิดเวลาไปหนึ่งชั่วโมง ก่อนหน้านี้ประตูหน้านี้ยังเปิดให้แขกเข้ามาได้ จนกระทั่งฝูงชนผู้ประท้วงได้รุกคืบมายึดบริเวณทางเข้าไปจนหมด

    เอลรีบเดินเข้าไปด้านใน จนกระทั่งมาอยู่หน้าบริเวณทางเข้าห้องประชุมซึ่งเป็นห้องโถงใหญ่  เขามองหน้าตาเหล่าแขกที่มาในงาน ส่วนใหญ่เป็นคนมีชื่อเสียงด้วยกันทั้งสิ้นทุกคนแต่งตัวในชุดสูทภูมิฐาน เอลจำหน้าหลายคนได้เพราะออกโทรทัศน์บ่อย พวกไฮโซก็มีหลายคน ข้าราชการการก็หลายคน สูทที่ใส่ก็หลากสีสันและจะเน้นไปทางโทนดำ คนที่อายุมากที่สุดคงจะเป็นผู้ว่าราชการนครเกรนาด้า ฮัดสันซึ่งกำลังจะหมดวาระในอีกสองเดือนข้างหน้ากำลังยืนคุยกับพัสดีเรือนจำกลางบาร์ม ปีแอร์ เอลเดาว่าสองคนนี้คงอายุไล่เลี่ยกัน แต่ฮัดสันน่าจะอายุมากกว่าปีสองปี

    เอลมองคนโน้นทีคนนี้ที หลายคนก็มองมาที่เขา หญิงไฮโซสูงวัยสองสามคนแต่งสูทสีดำยืนล้อมผู้หญิงอีกคนในชุดราตรีสีดำเข้มปักลายดำสวยหรู คนนี้เขาจำได้ว่า เธอคือเอมิเดลล่าดาราสาวชื่อดัง

    ทั้งหมดดูคล้ายมางานศพ

    ใช่สิงานศพนี่นา.. การประหารชีวิตก็น่าจะเรียกว่างานศพได้เหมือนกัน..

    พลันสายตาก็ไปประสานกับดวงตาแวววาวคมเฉียบของชายผู้หนึ่งผู้มีร่างสูงโปร่งในสูทสีน้ำเงินเข้ม ผมใส่น้ำมันเสยขึ้น ดูงามสง่าเตะตาผู้พบเห็นทั้งชายและหญิง

    ใครๆก็รู้จักเขาดีเพราะเวลานี้เขาดังมากในฐานะผู้สมัครชิงชัยตำแหน่งผู้ว่าราชการนครเกรนาด้าแห่งนี้ เขาคือโยฮัน วาร์น อดีตนักเทศน์ฝีปากกล้าซึ่งละทิ้งชีวิตนักเทศน์มาลงชิงชัยตำแหน่งผู้ว่าราชการ

    แต่เอลคิดว่าโยฮันไม่น่าจะมีคู่แข่งเพราะดูเป็นคนหนุ่มที่มีอนาคตไกล เขาเหลือบไปเห็นตำรวจหนุ่มเดล ซึ่งยืนหันหลังให้ เขาไม่รู้มาก่อนว่าเดลจะมางานนี้ ในขณะที่เดลก็คงคิดไม่ถึงเช่นกัน เขาคิดว่าควรอยู่ห่างๆ เดลเอาไว้ นื่องจากความคิดเห็นต่างกันสุดขั้ว แถมเขายังคิดว่าเดลมีอคติกับเขาอย่างรุนแรงตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาวกับอนนาในคราวนั้น

    โยฮันถูกห้อมล้อมด้วยชายสูงวัยหลายคน ขณะนี้ใครๆ ก็อยากรู้จักและพึ่งพาเขาไปสู่หนทางแห่งผลประโยชน์ มีข่าวว่านักธุรกิจจำนวนมากลงขันสนับสนุนโยฮันชนะการชิงชัยครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะความศรัทธาในตัวของโยฮันก็อาจมาจากหนทางแห่งผลโยชน์ที่ว่านั้นก็เป็นได้

    โยฮันคือคนหนุ่มไฟแรงอนาคตก้าวไกล ด้วยวัยไม่ถึงสามสิบ เขามีชื่อเสียงร่ำลือในการบำเพ็ญประโยชน์ให้กับสาธารณชนมาอย่างมากมาย ชื่อเสียงเดิมคือนักเทศน์ฝีปากกล้าผู้รุ่มร้อนกระหายในการประกาศเรื่องพระเจ้าให้กับคริสตชน การที่เขาหันเหจากทางนั้นมาสู่การเมืองท้องถิ่นอาจจะเป็นการปูทางไปสู่การก้าวไปเล่นการเมืองระดับชาติก็เป็นได้

    โยฮันหันมาพบสายตาของเอลที่จับจ้องอยู่จึงยิ้มให้ เอลรีบค้อมศีรษะรับ

    แล้วประตูห้องประชุมก็เปิดออกพัสดีเรือนจำเดินออกมาเชื้อเชิญ

    ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านเชิญทางนี้ครับ

    พัศดีกล่าวก่อนเดินนำหน้าพาทุกคนเดินเข้าไปนั่งตามเลขที่นั่งซึ่งระบุไว้ในบัตรเชิญ เอลเดินไปนั่งที่เก้าอี้แถวที่สองจากแถวหน้าสุดและนั่งมองตรงไปข้างหน้าซึ่งเป็นห้องประหารที่ล้อมด้วยกระจกนิรภัยบานใหญ่

    สักครู่เอลก็เริ่มรู้ว่าที่นั่งนี้ไม่ใช่ที่นั่งที่เขาควรจะนั่งเป็นแน่ เขามองเลขที่นั่งผิด เจ้าหน้าที่เรือนจำนายหนึ่งเดินมาเชิญเขาให้ลุกขึ้นและชี้ให้ไปนั่งที่ด้านหลังสุด

    นั่งตรงนี้ไม่ได้เหรอ ผมอยากเห็นชัดๆนี่ เอลขอร้องแต่เจ้าหน้าที่นั้นส่ายหน้าไม่พูดอะไรอีก

    แบ่งชนชั้นกันนักนะ...

    เขาบ่นและจะเดินออกไป แต่มือของใครบางคนจับที่แขนของเขาเอาไว้

    ไม่เป็นไรหรอกนั่งตรงนี้แหล่ะครับ เขาเป็นคนสนิทของผมครับ

    เสียงนั้นคือเสียงของโยฮัน วาร์มทำให้เจ้าหน้าที่คนนั้นเสียไม่ได้ ต้องยอมให้เอลนั่งที่เดิมนั้น

    ขอบคุณครับ เอลโค้งให้โยฮันและนั่งลง

    “แอ่มม”

    พัสดีเรือนจำซึ่งนั่งถัดไปส่งเสียงทักเอล

    นี่เธอคงเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ลีโอขอให้มาเป็นสักขีพยานในครั้งนี้สินะ

    ครับท่าน

    เอลมองเห็นเดลซึ่งนั่งอยู่ปลายแถวแรกทางขวา  

    เขาเริ่มสงสัยเรื่องที่คุยกับลีโอในวันนั้น เขาจำได้ว่าได้คุยกับลีโอหลายเรื่อง แต่มีเรื่องอีกมากที่เขาจำไม่ได้ จู่ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องไร้สาระอย่าง ผู้แสวงหาความตายขึ้นมาได้ หรือว่านี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ลีโออยากให้เขามาเห็น

    เขาคงถูกใจอะไรเธอเป็นแน่ โยฮันหันมาแซว ทำให้เอลตื่นจากภวังค์

    ไม่ทราบครับ ผมเพิ่งมาสัมภาษณ์เขาเมื่อสองวันนี้เองครับ

    เขามีแฟนหนังสือหลายวัยดีนะ ฉันก็เป็นแฟนเขาเหมือนกัน ฉันชอบงานเขียนของเขานะ คนดีๆอย่างเขาไม่น่าจะต้องมาพบกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้เลยจริงๆ แต่เขาไม่ร้องขอความปราณีเช่นนี้ก็แสดงว่าเขาอยากจากไปมากกว่าอยู่ เธอเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์หรือเปล่า เรื่องคดีของเขาน่ะโยฮันถามความคิดเห็น

    ก็แค่ความรู้สึกเหมือนกับที่ท่านรู้สึกไงครับ

    ก็เพราะความรู้สึกมิใช่หรือที่ทำให้โลกมันวุ่นวายไปหมดนี่ไง

    ใช่สิ ความรู้สึกนั่นทำให้เกิดเรื่องต่างๆมากมาย ทุกอย่างมาจากความรู้สึกทั้งนั้น

    ไว้มีโอกาสค่อยคุยกันใหม่นะ

    โยฮันยิ้มและหันหน้าไปสนใจพัสดีซึ่งกำลังอ่านรายงานให้ทุกคนในห้องประชุมฟัง

    เอลมองโยฮันด้วยความรู้สึกว่าชายผู้นี้มีทั้งความเกรงขามและลึกลับอยู่ในที

    ...................................................................................................................................

     

                                            

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×