เอล คนทะลุมิติ chapter 1 - นิยาย เอล คนทะลุมิติ chapter 1 : Dek-D.com - Writer
×

    เอล คนทะลุมิติ chapter 1

    เรื่องราวการผจญภัยของเอล เด็กหนุ่มทะลุมิติ ผู้ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ของเขากับพวกเหนือมนุษย์ทั้งหลาย ภายใต้ กฎเหนือโลก อันยากจะอธิบาย

    ผู้เข้าชมรวม

    975

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    975

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    4
    จำนวนตอน :  52 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 เม.ย. 56 / 17:35 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

              

     

    สิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เรียกว่ามนุษย์ล้วนอยู่ภายใต้กฏเหนือโลก

    ………………………………………………………………………..

     

    เรื่องของลีโอ

     

    ณ สถานที่อันแสนวังเวงไร้ซึ่งผู้คนแห่งหนึ่ง ปกคลุมไปด้วยหมอกควันสีขาว บดบังจนไม่สามารถเห็นทัศนียภาพในบริเวณนั้นได้ มีเงาร่างหนึ่งของมนุษย์กำลังเดินฝ่ากลุ่มหมอกควันใช้สองมือปัดป่ายเพื่อจะก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าได้ เขาคือชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบปลายๆ เหงื่อไหลโทรมหน้า สีหน้าแตกตื่น หนวดเครารกครื้มเต็มทั่วทั้งใบหน้า แววตาสับสนกำลังสอดส่ายมองหน้ามองหลังมองซ้ายมองขวา พึมพำสับสนเหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง

    ที่ไหนกันนี่... เราอยู่ที่ไหนกัน....

    เขารู้สึกสับสนเพราะกลัวว่าทางข้างหน้าอาจจะมีอันตราย  

    ต้องเดินช้าๆ ....

    เขาย่ำเท้าอย่างระมัดระวัง หมอกควันยิ่งหนาขึ้นทุกที เขามองไม่เห็นทางแล้ว

    ต้องหาทางออกให้ได้....ข้างหน้าต้องมีทางออกสิน่า....

    เขาเดินมาเกือบสองสามกิโลเมตรแล้ว เขาไม่เดินกลับไปทางเดิมอย่างแน่นอน ตายเป็นตาย...

                    ยอมแพ้ไม่ได้ ต้องออกจากที่นี่ให้ได้..

    ความกลัวจู่โจมเขาจนแทบไม่มีแรงจะเดินแล้ว จู่ๆ เขาก็ตัดสินใจออกวิ่ง วิ่ง วิ่งไปโดยไม่เหลียวหลังกลับ แต่ที่สุดเขาก็หยุดวิ่งเพราะหมดแรงเหนื่อยหอบจนแทบไม่มีแรงยืน

    ..หรือว่า..ที่นี่ไม่มีอยู่จริง..  

    เขาจำได้ว่าเขาคือนักโทษในเรือนจำนี่นา แต่ทำไมจู่ๆถึงมาอยู่ในสถานที่อันแปลกตานี่ล่ะ..แต่เขาจำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้เลยสักนิด เขาออกมาจากห้องขังได้อย่างไรกัน จู่ๆ ตาก็เบิกกว้างเหมือนกับว่าคิดอะไรขึ้นมาได้

    หรือว่าพวกมันแกล้งปล่อยเราออกมาจากห้องขัง.. พวกมันต้องการอะไรของมันนะ..

              เขาตั้งสติและกวาดตามองไปรอบๆ ที่นี่ไม่ใช่เรือนจำ ถ้าเป็นเรือนจำเขาคงพบใครสักคนแล้ว 

    เฮ้ย...  

    จู่ๆ ก็มีแรงลมมหาศาลจากทางด้านหลังมาดูดร่างของเขาไว้ เขาถูกกระชากอย่างแรง

                    “โอ้วววววววววววววววววววววววววววววววววว”

                    ร่างของเขาลื่นไถลลงไปตามทางลาดชัน พยายามไขว่คว้าหาที่ยืดเกาะก็ทำไม่ได้ ได้แต่ไหลลงไป

    “ซ่าส์สสสสสสสสสส”

    เขาตกลงไปนั่งอยู่ในแอ่งน้ำอันมืดมิดแห่งหนึ่ง ร่างจมลงไปแต่ลุกขึ้นมาก็พบว่ามีน้ำสูงแค่เข่า เขาเปียกปอนไปทั้งตัว เมื่อเงยหน้ามองขึ้นเหนือศีรษะก็ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืดมิด

                    ท่อน้ำ...เขาคิดว่าตนเองตกลงมาจากทางน้ำอะไรสักอย่าง    

    “นี่มันที่ไหนกัน ใครก็ได้ช่วยด้วย ช่วยด้วย...”

    เขาร้องเสียงลั่นอย่างตกใจเมื่อไม่สามารถปีนป่ายขึ้นจากแอ่งน้ำนั้นได้

    ชายหนุ่มนึกถึงความชิงชังของพวกผู้คุมในเรือนจำซึ่งกล่าวหาว่าเขาฆ่าเมีย ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ

    “ฉันไม่ได้ฆ่าโซเฟียนะ….ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ ฉันรักเธอ...ฉันจะฆ่าโซเฟียได้ไง ฉันรักเธอจะตาย...”

    ชายหนุ่มร้องอย่างสับสนและร้องไห้ออกมา

    “ตูมมมซ่าสสสสสส”

    เสียงดังตูมทำให้เขาสะดุ้งสุดตัว อะไรบางอย่างตกลงน้ำอย่างแรง เขาคิดว่าเสียงดังแบบนี้ต้องเป็นของหนักๆ ตกลงมาแน่ หรือว่าเป็นคนตกลงมาเหมือนกับเขา

    “ใคร ใคร..ส่งเสียงหน่อยได้ไหม”

    เขาร้องเรียก พยายามเบิ่งตามองฝ่าความมืด

    หรือว่าเป็นงู..

    เขาจ้องมองที่น้ำซึ่งกระเพื่อมไหวไปมาเป็นระลอกคลื่นคล้ายงูกำลังเลื้อยไปบนผิวน้ำ จู่ๆ ร่างหนึ่งก็โผล่พรวดขึ้นมาจากน้ำ

    คน เป็นคนนี่นา...

    ร่างนั้นยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวแต่กลับพูดขึ้นด้วยเสียงแหบแห้ง

    “เดินมาหาข้าเดี๋ยวนี้”

    เสียงนั้นดูไม่เป็นมิตร

    “แกเป็นใครกันนี่”

    เขาร้องถามออกไปทั้งที่ยังมองไม่เห็นใบหน้าของร่างนั้น แล้วเขาก็แทบผงะหงายเมื่อสายตาได้เห็นร่างนั้นอย่างเต็มตา ร่างในชุดผ้าคลุมสีขาวคลุมยาวไปทั้งตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาไม่เห็นใบหน้าเพราะซุกซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุม

    “ปีศาจ..ปีศาจ...” ชายหนุ่มร้องลั่น “แกเป็นปีศาจ...”

    “พวกมนุษย์มักเรียกข้าว่าปีศาจมาทุกยุคทุกสมัย และหากข้าเป็นปีศาจจริงเจ้าก็ไม่ได้ต่างไปจากข้าเลยสักนิด คนที่ฆ่ามนุษย์ด้วยกันไม่เรียกว่าปีศาจรึ”

    “พูดบ้าอะไรของแก” เขาเริ่มโมโห

    “ข้ารู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้า ข้าคือผู้ลิขิตชะตากรรมของเจ้า”

    พลันร่างขาวโพลนนั้นก็ยืดออกจนร่างสูงใหญ่เกือบเท่าตึกสองชั้น เขาถึงกับผงะหงายถอยหลังร่น

    “ตัวอะไรกันเนี่ย…....”

    “จะว่าไปแล้วมันสองคนก็สมควรตาย...เจ้าทำถูกแล้วที่ฆ่าพวกมัน”

    ชายหนุ่มรู้ว่าปีศาจกำลังพูดถึงเรื่องของเขา เรื่องที่เขาฆ่าเมียและชายชู้ตาย ทั้งที่เขาไม่อยากจะคิดถึงมันอีกแล้ว

    “ไม่ โซเฟียไม่ควรตาย... ถึงจะผิดยังไงฉันก็ไม่มีสิทธิ์พิพากษาเธอ…”

    “เจ้ามีสิทธิ์พิพากษามัน หญิงเป็นสมบัติของชายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

    “ฉันไม่ได้ฆ่านะ บอกไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ได้ทำ...” ชายหนุ่มร้องตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง   

    “ลีโอ... เจ้าฆ่าเมียกับมือ ยังคิดปฏิเสธอีก”

    “ฉันไม่ได้ฆ่า ๆ” เขาซึ่งถูกเรียกชื่อว่าลีโอร้องลั่น

    “เจ้ามีสิทธิ์ที่จะฆ่า สิทธิ์อำนาจของภูตินรกยังไงเล่า”

    เวลานี้เขาเพิ่งจะได้เห็นใบหน้ากะโหลกผีขาวโพลนนั้น ทำให้เขากลัวจนตัวสั่นไปหมด

    “ไปให้พ้นนะ” เขาถอยหลังหนีไปจนติดฝาผนังต้องหลับตายกมือปิดหน้า เขาไม่กล้ามองหน้าปีศาจนั้น

    “การฆ่าคือสิทธิของปีศาจ เจ้าคือปีศาจ ดังนั้นเจ้าไม่ควรกลัวข้า” เสียงปีศาจดังก้องหู ทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์ เขาหวนคิดถึงเรื่องเลวร้ายในอดีต ภาพหญิงสาวถูกบีบคอด้วยสองมือแข็งแกร่ง มือนั้นบีบจนเธอสิ้นลมหายใจและปล่อยร่างทิ้งลงไปกับพื้น เจ้าของมือหันมองไปที่กระจกบานหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ตัว คนในกระจกคือเขาซึ่งมีหน้าตาอันน่ากลัว  

    เขาคือลีโอ บัสโซ่ ผู้ซึ่งฆาตกรรมสองศพถูกตัดสินประหารชีวิตโดยให้จำคุกอยู่ในเรือนจำเพื่อรอการลงโทษประหารชีวิต

    เขาทรุดลงนั่งลงไปกับพื้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก

    “เมื่อความทรงจำกลับคืนสู่เจ้า อำนาจของเจ้าจะกลับมา”

                    “ความทรงจำกลับคืน อำนาจอะไรจะกลับมา....”

    “...หรือว่าแกเป็นคนฆ่าโซเฟีย..แกเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด” ลีโอเหมือนได้คิด เขาสลัดความกลัวทิ้งและเดินชี้นิ้วเข้าหาปีศาจร้าย “..แกนั่นแหละที่ฆ่าโซเฟีย..ไอ้ปีศาจร้าย”

                    ชายหนุ่มจำได้ว่าในชีวิตที่ผ่านมา เขาไม่เคยกล้าบ้าบิ่นอะไรเช่นนี้มาก่อน เขาเดินไปประชิดร่างปีศาจสีขาวโพลนด้วยความคิดว่าครั้งนี้ช่างกล้าอะไรเช่นนี้ ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่นา..สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้ว...เมียรัก...ครอบครัวอันแสนสุข...มันพังทลายไปหมดแล้วเพราะปีศาจตนนี้

    เขาใช้สองมือดึงผ้าคลุมและออกแรงกระชากจนผ้าคลุมนั้นร่วงไปกับพื้น มันกลับมีแค่ความว่างเปล่า ไม่มีร่างอะไรในผ้าคลุมนั้น แต่ทันใดนั้นใบหน้าปีศาจก็ยื่นอ้อมมาจากทางด้านหลังจ้องเขาตาเขม็ง

    “เฮ้ย”

    เขาตกใจจนผงะหงาย ดวงตาสีแดงเพลิงในหลุมลึกสีดำซึ่งก็คือเบ้าตาของกะโหลกศีรษะมนุษย์ช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้ ไหล่ของเขาถูกมือกระดูกปีศาจกดเอาไว้ทั้งสองด้าน มือนั้นมีแต่กระดูก ข้อนิ้วแต่ละข้อใหญ่โตกว่าข้อนิ้วของมนุษย์ มันจิกและกดไหล่ทั้งสองข้างของเขาไว้จนไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้

    “ช่วยด้วย แกจะทำอะไรฉันปล่อยนะบอกให้ปล่อย”

    ลีโอร้องให้ปีศาจปล่อยมือ ปีศาจสีขาวโพลนนั้นกลับอ้าปากเห็นเขี้ยวแหลมจำนวนมากในปากและพูดว่า

    “เจ้ากับข้าไม่มีวันแยกจากกันได้ ที่นี่ไม่สามารถกักขังเจ้าได้อีกต่อไป”

    จู่ๆ ปีศาจขาวโพลนก็หายไปกับตา เขาจึงเซล้มลงไปนั่งจ้ำเบ้ากับพื้น

    เขาคือลีโอ มันคือฝันร้ายของเขา เขาอยู่บนเตียงในห้องนักโทษ เขารู้สึกโล่งอกปาดเหงื่อบนใบหน้า ถอนหายใจเฮือกใหญ่ มันก็แค่ความฝันเท่านั้น

    “..ทำไมต้องทำกันแบบนี้ แกพรากโซเฟียไปแล้วยังต้องการอะไรอีก หา..”

                    ชายหนุ่มเห็นดวงจันทร์คืนเดือนเพ็ญสุกสกาวที่ช่องหน้าต่างเล็กๆ ทำให้เขาหวนคิดถึงโซเฟียภรรยาซึ่งมีใบหน้างดงามดั่งเทวีแห่งดวงจันทร์

                    “โซเฟียผมคิดถึงคุณจริงๆ...ผมคิดถึงคุณ..”

                    ความคิดถึงกัดกร่อนใจจนต้องร่ำไห้ออกมา น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอาบใบหน้าอันหยาบกร้านและเต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง ตั้งแต่เข้ามาในเรือนจำเขาไม่เคยโกนหนวดสักครั้ง

    ก่อนหน้านี้ชีวิตของเขาสมบูรณ์พูนสุข เขามีทุกอย่างที่เพียบพร้อม การงาน ครอบครัว ภรรยาคู่ใจ มันเพียงพอแล้วสำหรับเขาแล้ว เขากำลังคิดจะมีลูกด้วยกันสักสองคน แต่ทุกอย่างกลับพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำไมต้องเป็นแบบนี้..โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเลยสักนิด 

    ตั้งแต่ถูกส่งเข้ามาคุมขังในเรือนจำนี้ เขาก็ฝันถึงปีศาจสีขาวโพลนนี้อยู่เสมอ ปีศาจที่คลุมด้วยผ้าสีขาวผืนใหญ่นั้นน่าจะเรียกว่าภูตินรก มันเป็นปีศาจที่เขาเคยเขียนถึงในนิยายขายดีของเขานี่นา

    มันแค่สิ่งที่ตามมาหลอกหลอนเขาจากจิตใต้สำนึกมากกว่า ไม่น่าจะเป็นความจริงสักนิด ภูตินรกในนิยายเฮเว่นเกตคลุมผ้าสีดำนี่นา มันไม่ใช่แบบนี้..ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่….

    ลีโอ บัสโซ่ คือนักโทษประหารซึ่งรอคำสั่งประหาร เพียงแต่มันยังไม่ได้ประกาศออกมา เขาจึงไม่สามารถรู้ว่าตนเองจะตายเมื่อใด

    ฉันต้องไม่ตาย.. ฉันไม่ได้ทำผิด...

    เขาพยายามสลัดเรื่องฝันร้ายออกไป พยายามจะคิดว่าฝันร้ายนั้นไม่ได้น่ากลัวกว่าความจริงอันเจ็บปวดเลยสักนิด เขาจะไม่กลัวฝันร้ายอีกแล้ว เขามั่นใจว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำเรื่องเลวร้ายนั้น แต่ทำไมหลายๆครั้งกลับคิดว่า ฉันทำหรือเปล่านี่....  คำถามนั้นแว่บขึ้นในใจและเลือนหายไป เพราะอะไรที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ ที่จริงแล้วเขาไม่แน่ใจหรือไร ก็เขาไม่ได้ทำนี่นา เขาจะไม่แน่ใจทำไม...

    เขาไม่มีทางทำเรื่องชั่วช้านั้นได้หรอก ว่าแต่ว่าใครเป็นคนฆ่าโซเฟียล่ะ

    “คนฆ่าโซเฟียไม่ใช่ฉันเด็ดขาด...”

    เขารู้ว่า ปีศาจอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด มันเป็นคนฆ่าโซเฟียและใส่ร้ายเขา

    “สักวัน ฉันจะพิสูจน์ให้โลกรู้ว่าฉันบริสุทธิ์”

              ..........................................................................................................

       

                                

                                        

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น