ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เอล คนทะลุมิติ chapter 2

    ลำดับตอนที่ #6 : เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 6 คลื่นลูกใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 56


     

    คลื่นลูกใหม่      

     

    สนับสนุนผมด้วยครับพ่อแม่พี่น้อง เลือกตั้งผู้ว่าครั้งนี้โปรดให้โอกาสผมรับใช้พี่น้องด้วยครับ

    เสียงดังจากเครื่องขยายเสียงผ่านลำโพงดังอยู่ที่ถนนหน้าบ้านของล้องก์ ทำให้เอลและล้องก์ซึ่งกำลังเคลิ้มๆ อยู่ตกใจตื่นขึ้นมา

                    หนวกหูเสียจริง 

    เอลบ่น เขาดีดตัวขึ้นมานั่งทันที แต่ก็ตาสว่างขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นโยฮันผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการ

    เอล..โยฮันมาหาเสียงซอนนี่ร้องบอกเอลจากหน้าระเบียง

                    เขาลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียงหน้าบ้าน ล้องก์ก็วิ่งตามมา

                    ที่ระเบียง เอลเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาอ่อนวัยของโยฮัน หน้าตาของเขาคมสันเหมือนดาราหนัง หวีผมเรียบแปล้ยืนอยู่บนรถสองชั้นที่สร้างไว้สำหรับหาเสียง มีบอดี้การ์ดชุดดำอยู่ห้าหกคนห้อมล้อม และยังมีนักการเมืองท้องถิ่นอีกสองสามคนออกมาช่วยโยฮันหาเสียง

    โยฮันร่างสูงโปร่งในสูทสง่างามสีมังคุดหาเสียงกับผู้คนซึ่งกำลังเดินอยู่บนทางเท้า เขายกมือทักทายชาวบ้านที่ให้ความสนใจ บางคนในรถยนต์ข้างทางก็เปิดกระจกโผล่ศีรษะออกมาชูมือเชียร์ คนเดินถนนบ้างก็ยืนห้อมล้อมส่งเสียงให้กำลังใจที่ฟุตบาทกันเป็นระยะๆสลับกับเสียงโยฮันที่ร้องขอเสียงสนับสนุนจากชาวบ้านร้านถิ่นในบริเวณนั้น

    เอลยืนมองโยฮันซึ่งยืนอยู่ในระดับสายตา ชั้นสองของรถหาเสียงกับระเบียงบ้านของลองก์นั้นอยู่ในระดับใกล้กันมาก แต่โยฮันยังมองไม่เห็นเอลแม้จะอยู่ห่างกันไม่ถึงสี่ห้าเมตรก็ตาม

    จู่ๆ เอลเกิดอยากอ่านใจของโยฮันขึ้นมา

    พวกนักการเมืองคิดอะไรกันบ้างนะ...

    ทุกครั้งที่เขาคิดอ่านใจคน เขารู้สึกผิด แต่ว่าสำหรับชายตรงหน้านี้ เขารู้สึกว่าคงไม่เป็นไรเพราะนักการเมืองคือบุคคลสาธารณะต้องมีความโปร่งใสและจริงใจ การอ่านใจก็ไม่น่าจะผิดสักเท่าใด

    แต่เขาต้องตกใจเพราะพบว่าไม่สามารถอ่านใจโยฮันได้

    หรือว่าไกลเกินไป ไม่น่าจะใช่

    เขายกมือทั้งสองข้างป้องหูเผื่อว่าอาจจะได้ยินเสียงบ้าง

    เอ๊ะ เอ๊ะได้ยิน...ใช้ได้แล้วนี่นา...

    เอลร้องออกมาโดยลืมไปว่ามีล้องก์และซอนนี่ยืนจับราวระเบียงอยู่ข้างๆ

    พร่ำอะไร ได้ยินอะไร ล้องก์บ่นด้วยความสงสัย 

    เปล่าไม่มีอะไร เอลพูดกับล้องก์แต่สายตายังคงจับจ้องที่โยฮันเพื่ออ่านใจ แต่จู่ๆโยฮันก็หันหน้ามาประสานสายตากับเขาพอดี โยฮันจำเขาได้

    เอลรู้เพราะกำลังอ่านใจโยฮันอยู่

    อยู่บ้านนี้หรือนี่...

    เอลแปลกใจที่โยฮันยังจำเขาได้ เขาอ่านใจโยฮันได้ว่า  

    เด็กนั่นน่าจะช่วยเป็นหัวคะแนนให้เราได้...

    อย่ามาขอเสียงจากฉันนะ ฉันยังเลือกตั้งไม่ได้..

    ให้โอกาสผมด้วยนะครับน้องๆแม้ว่าจะเลือกตั้งไม่ได้ ก็ช่วยบอกต่อให้พ่อแม่และญาติให้โอกาสผมด้วยครับ โยฮันใช้วิธีหาเสียงแบบเข้าถึงทุกวัย พูดไปก็โบกไม้โบกมือให้เอลและล้องก์

    เอลคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่นักการเมืองต้องการเสียงจากประชาชนให้สนับสนุนตน แต่มีนักการเมืองจำนวนมากที่ต้องการเสียงสนับสนุนโดยไม่สนวิธีการ พวกใช้อิทธิพลในการหาเสียงก็มีไม่ใช่น้อย

    สำหรับโยฮันคนนี้ เขาไม่รู้ว่าเป็นคนแบบไหน เขาไม่อยากอ่านใจคนอื่นอีก ก็เลยหยุด จะทำน่าเกลียดโดยล้วงลึกเกินไปก็คงไม่ดี เสียมารยาท

    ดูจากโพลหลายสำนักโยฮันผู้นี้ได้รับคะแนนนำท่วมท้น ความใหม่สดมือสะอาดทำให้เขาดูเหนือกว่าคู่แข่งอีกห้าคนชนิดนำโด่งทิ้งห่างไปเพียงคนเดียว

    ที่สุดรถหาเสียงคันนั้นได้พาโยฮันและคณะเคลื่อนที่ออกไป

                    เอลกำลังคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะเบนเข็มไปเป็นนักการเมืองแบบโยฮันก็เป็นได้ ...ในสภาจะมีพวกเหนือมนุษย์สักคนก็คงไม่แปลก  

    คนมีความสามารถอย่างนาย ไม่เพียงแค่ผู้ว่าราชการมหานคร นายกนายก็ยังเป็นได้เลยเอล

    ล้องก์พูดพลางตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ แล้วจึงเดินไปนอนบนเตียง

    คำพูดของล้องก์ทำให้เอลแปลกใจ

    เจ้านี่มันอ่านใจฉันได้หรือนี่..

    งงอะไรเหรอ.. ล้องก์ถาม

    ไปหาอะไรกินดีกว่าฉันหิว เอลพูดขึ้นและเดินออกไปจากห้องทันที ล้องก์ลุกขึ้นและวิ่งตามไปทันที

     …………………………………………………

     

    นายคนนั้นจะสู้ผมได้อย่างไรกันครับพี่น้อง ผมมีประสบการณ์โชกโชน วันนี้ผมโดดมาชิงชัยตำแหน่งผู้ว่าราชการมหานครเกรนาด้าก็เพื่อจะได้รับใช้พี่น้องทุกท่านได้อย่างทั่วถึง พวกท่านจะได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยการพัฒนามหานครแห่งนี้ให้น่าอยู่ยิ่งๆขึ้น ผมไม่เชื่อว่าพวกมือใหม่หัดขับจะสู้ผมได้ ฝีมือของผมประจักษ์สายตาพวกท่านมานักต่อนักแล้ว ดูอย่างวันนี้สิครับ เขายังไม่กล้ามาสู้หน้ากับผมเลย ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละมาฟังคำปราศรัยของผมครับ ขอบคุณครับ 

                    เฮ้ฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

                    เมื่อคำปราศรัยของนายฟีเลโมนคู่แข่งคนสำคัญของโยฮันสิ้นสุดลง เสียงไชโยโห่ร้องก็ดังทั่วเพนโดร่าฮอลล์ ในศูนย์กลางประชุมใหญ่เมโซยองในเขตนีโอทาวน์ เสียงปรบมือยังดังไม่หยุดหลายนาที

    นายฟีเลโมนเป็นเพียงคนเดียวที่ฮึกเหิมกล้าต่อกรกับกระแสนิยมคนหนุ่มไฟแรง

    ฟีเลโมนวัยสี่สิบห้ายกแขนขึ้นเหนือศีรษะเหมือนกำลังแสดงชัยชนะให้กับตนเองก่อนที่จะเดินลงจากเวทีปราศรัย เขาสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาล วันนี้กรมการเมืองจัดรายการปราศรัยและโต้เวทีครั้งนี้ขึ้นเพื่อให้ผู้สมัครมาดีเบตกัน แต่ปรากฏว่าโยฮันไม่มา  

    “นายกลัวฉันหรือโยฮัน ทำไมไม่มา”

    ฟีเลโมนร้องเย้ยโยฮันใส่หน้ากล้องถ่ายทอดสดของทีวีช่องสาม

     

    โยฮันซึ่งอยู่ที่ห้องพักชั้นสี่สิบของตึกเอ็มไพร์สออฟเดอะซัน ตึกสูงระฟ้าในนีโอทาวน์ เขาเห็นภาพของฟีเลโมนในจอทีวีก็รู้สึกโมโห

                    คนอย่างแกไม่เท่าไหร่หรอก ฟีเลโมน บ่นไปเถอะ ฉันไม่สนใจแกหรอกเว้ย ถ้าไม่มีพรรคอนุรักษ์นิยมหนุนหลัง แกก็แค่เศษสวะคนหนึ่ง โยฮันส่งเสียงดังด้วยความโมโห

              “มีเรื่องอะไรหรือคะ ลอร่าภรรยาในชุดนอนสีแดงเพลิงเดินมาคลึงไหล่ของเขาทางด้านหลังโซฟา

                    ไม่มีอะไรหรอก ผมกำลังเวทนาเจ้านั่น โยฮันตอบ สายตายังคงจ้องที่จอทีวีอยู่

                    อย่าไปใส่ใจเขาเลย ไม่ไปโต้กับเขาดีแล้วค่ะ ปล่อยให้เขาเห่าไปเถอะค่ะ ลอร่าสนับสนุน

                    คุณพ่อหนุนคุณเต็มที่ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ งานนี้ถึงไม่ไปคุณก็ชนะอยู่แล้ว

                    สำหรับตอนนี้ข่าวดีสำหรับคุณคืออะไรทราบไหมคะ

                    ข่าวดีอะไรครับโยฮันหันหน้ามองลอร่า

                    คุณกำลังจะเป็นพ่อแล้วนะคะ ลอร่าก้มหน้าโน้มตัวลงมาประสานสายตากับเขา

                    จริงหรือลอร่า วิเศษที่สุด โยฮันร้องด้วยความตื่นเต้นดีใจ

                    ไม่นึกว่าคุณจะชอบเด็ก ฉันคงจะกลายเป็นยัยท้องโย้ไปอีกเก้าเดือนเชียวนะแต่ทำไงได้เพื่อคุณฉันยินดีมีลูกให้คุณค่ะ ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณนะคะไม่ว่าจะมีอุปสรรคอย่างใดฉันเชื่อว่าคุณต้องทำได้แน่นอน

    ลอร่าให้กำลังใจสามีอย่างเต็มที่ เธอเดินมาหย่อนก้นนั่งลงที่ข้างๆโยฮัน

                    เอาเถอะผมจะไม่ให้คุณทำอะไรอีกแล้ว ดูแลลูกของเราให้ดีก็แล้วกันนะโยฮันกอดภรรยาสุดที่รักไว้ด้วยแขนสองแขน

                    ฉันรักคุณค่ะ

                    ผมก็รักคุณเช่นกัน

                    โยฮันมองหน้าภรรยาด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความห่วงหาอาทร แต่ในใจของเขายังคงคิดแค้นใจฟีเลโมนคู่แข่งคนสำคัญนั้นอยู่ แม้ใจของเขาจะเชื่อมั่นในตนเองสักเท่าใด แต่แว่บหนึ่งที่เข้ามาในสมองของเขาก็คือความกลัว กลัวว่าพอเอาเข้าจริงฟีเลโมนอาจจะทำให้เขาพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่าก็ได้

    จะประมาทมันไม่ได้เด็ดขาด..... 

                                    ..........................................................................................................................

                   

    ที่หอสมุดแห่งมหานครเกรนาด้าซึ่งสูงยี่สิบห้าชั้น ตัวตึกคือสถาปัตยกรรมแบบโกธิคทั้งตึก

    เอลเดินขึ้นจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่อยู่ใกล้ๆ เขาหยุดยืนเอามือบังแสงแดดที่แยงตาของเขาเพื่อมองดูตึกสูงนั้นตั้งแต่ชั้นล่างจนไปถึงชั้นบน และนี่คงเป็นตึกไม่กี่ตึกในเมืองที่ผสมผสานเอกลักษณ์ในสไตล์โกธิคกับศิลปะสมัยใหม่ นานๆ เขาถึงจะมาที่นี่เพื่อหาข้อมูลในการทำรายงาน ถึงแม้เขาจะหาข้อมูลต่างๆได้จากในอินเตอร์เนตแล้วก็ตาม แต่บางครั้งการหาข้อมูลจากหนังสือในห้องสมุดนั้นให้ความรู้ที่ลุ่มลึกมากกว่า เขาคิดเช่นนั้น

    หอสมุดแห่งชาตินี้แบ่งเป็นสองโซน โซนแรกคือห้องสมุดตั้งอยู่ที่กราบซ้ายเป็นที่รวบรวมหนังสือมากมายที่มีอยู่ในโลกนี้ มีหนังสือเกือบทุกภาษาที่ใช้อยู่ในโลกแยกเป็นโซนๆ ว่ากันว่ามีหนังสือจำนวนมหาศาลอยู่ในหอสมุดนี้ โดยมีเนื้อที่เกือบหนึ่งหมื่นตารางเมตรบนหลายชั้นของตึก ส่วนอีกโซนที่กราบขวาของตึกเป็นศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้าข้อมูลต่างๆ มีเนื้อที่ครอบคลุมประมาณสิบชั้น

    เอลยื่นมือไปดันเปิดประตูกระจกเพื่อเข้าห้องสมุดแต่กลับพบกับชายคนหนึ่งผลักประตูออกมาอย่างแรง  เมื่อต่างคนต่างผลักประตูเข้าหากันจึงปะทะกันทำให้ต่างคนต่างเซไปคนละทาง เมื่อทรงตัวได้ชายคนนั้นจึงดึงประตูเข้าไปทางด้านใน

    เอลรู้สึกอารมณ์เสียแต่ชายคนนั้นกลับก้มศีรษะขอโทษแล้วรีบเดินลงบันไดไป

    เขามองตามเงาหลังของชายผู้นั้นไปและเมื่อเข้ามาด้านใน ก็มองเห็นป้ายที่ติดกระจกซึ่งเขียนไว้ว่า ผลัก จึงรู้ในทันทีว่าเขาเองต่างหากที่เป็นฝ่ายผิดเพราะเขาต้องดึงประตูเข้าหาตัว ทำให้เขาสงสัยว่าทำไมชายผู้นั้นถึงต้องขอโทษเขาด้วยนะ เขาสั่นศีรษะด้วยความไม่เข้าใจหยิบบัตรผ่านเสียบเข้าไปยังทางผ่านเข้าห้องสมุดและเดินเข้าไปยังโซนหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ 

    สักครู่ชายหนุ่มคนนั้นก็เปิดประตูเดินเข้ามาในตัวตึกพร้อมหอบหนังสือหลายเล่มไว้ที่หน้าอก ขณะนั้นเอลกำลังใจจดใจจ่อหาหนังสือที่ตั้งใจจะมาหาข้อมูล แต่เขาก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มคนนั้นกำลังเดินมาหาที่โต๊ะบรรณารักษ์โต๊ะที่สามและนั่งลงทำงาน

    เขาเป็นบรรณารักษ์ของที่นี่นี่นา ทำไมคุ้นหน้าจังนะ....

    ................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×