ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เอล คนทะลุมิติ chapter 2

    ลำดับตอนที่ #4 : เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 4 ใบหน้าวิญญาณ

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 56


     

    ใบหน้าวิญญาณ

     

    เมื่อผ้าม่านเปิดออกทุกคนในห้องประชุมก็ได้เห็นผู้คุมการประหารสองคนยืนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดกระจกรอบด้าน ตรงกลางมีเก้าอี้ซึ่งมีลีโอนั่งอยู่และถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาด้วยเข็มขัดรัดทั้งมือทั้งตัวทั้งขา

    ทุกคนในห้องนั้นจ้องมองไปที่ลีโอเป็นจุดเดียว 

    ลีโอนั่งยิ้มจ้องมองมาที่ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งสายตาพอดี คนๆนั้นคือโยฮัน

    เอลสงสัยว่าลีโอสนใจอะไรโยฮันนักหนา

    คนใกล้ตายกำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่นะ...

    ความกลัวเหรอ.. ทำไมดูลีโอไม่เห็นจะกลัวความตายที่กำลังจะมาถึงสักนิด...

    เอลไม่อยากให้ลีโอต้องพบจุดจบเช่นนี้ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว มันเลยจุดนั้นมาแล้ว

    อีกทั้งความตายก็ไม่ใช่น่ากลัวอะไรสำหรับเขาแล้ว เพราะตั้งแต่เขาได้รับรู้ถึงเรื่องราวอันสลับซับซ้อนของจักรวาลแล้ว เขาจึงไม่เกรงกลัวความตายหรือเรื่องอันใดอีก

    เขารับรู้แล้วว่าจิตเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ได้ และจิตคือตัวกำหนดชะตากรรมของมนุษย์ จิตอาจจะอมตะและดำรงอยู่ตราบเท่าที่ชะตากรรมกำหนด  เขาเชื่อว่าชีวิตหลังความตายนั้นจะนำจิตมนุษย์จากไปยังอีกสถานที่หนึ่งซึ่งแตกต่างจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง  

    ส่วนพวกเหนือมนุษย์เช่นเขาก็ไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ เขาก็คงมีชะตากรรมไม่แตกต่างจากมนุษย์เท่าใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ยังคงเป็นปริศนาซึ่งเขาจะต้องค้นคว้ากันต่อไป

    เขามองใบหน้าอันสงบนิ่งปราศจากความกลัว

    เขาลองอ่านใจลีโอก็พบว่าสมองของลีโอนั้นว่างเปล่า นิ่ง นิ่งจนแทบไม่มีความคิดอันใดในสมอง ปกติมนุษย์มักไม่หยุดคิดนอกเสียจากตอนนอน

    ไม่มีความกลัวหรือใดใดเลย

    ทำไมเป็นแบบนี้...

    เอลแปลกใจ

    หรือว่าลีโอปลงกับชีวิตได้แล้ว...

    เจ้าหน้าที่กำลังตรวจเช็คการมัดร่างกายว่าเรียบร้อยหรือไม่ ลีโอก็หันหน้ามองมาที่เอลและส่งยิ้มให้

    เขาบ่นพึมพำ

    เอลได้ยินว่าลีโอพูดสวัสดีกับตน 

    ยิ้มอันเย็นยะเยือกนั้นทำให้เอลต้องยิ้มตอบอย่างเจื่อนๆ เจ้าหน้าที่ต่อชุดสายท่อยางใสติดเข็มฉีดยาซึ่งแทงเข้าไปในเส้นเลือดใหญ่ที่แขนขวาทั้งหมดสามเข็มและต่อท่อยางใสเข้ากับเครื่องลำเลียงสารพิษสามหลอดใหญ่ๆที่ผนัง

    ท่อลำเลียงสารพิษนี้บรรจุสารพิษเพื่อใช้ดับชีวิตลีโอให้จากโลกนี้ไปอย่างทรมานน้อยที่สุด

    สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ใช้ที่ปิดตาสีดำปิดตาทั้งสองข้างของลีโอ

    เสียงออดดังสองครั้งหมายถึงได้เวลาประหารชีวิตแล้ว พัสดียกมือเป็นสัญญาให้ทำการประหารได้  เจ้าหน้าที่หนึ่งในสองกดปุ่มสวิทซ์ที่ฝาผนัง เครื่องบรรจุสารพิษก็ค่อยๆ ดันน้ำยาหลอดแรกซึ่งเป็นน้ำยาสีเหลืองอยู่เต็มหลอดเข้าสู่ท่อยางและไหลเข้าสู่กระแสโลหิตของลีโอ

    เอลจ้องตาไม่กระพริบ ยาหลอดแรกเริ่มออกฤทธิ์ทำให้ประสาทผ่อนคลาย ลีโอสลบไปอย่างง่ายดาย และยาหลอดที่สองก็ถูกส่งเข้าร่างกาย ยานี้คือยาคลายกล้ามเนื้อเมื่อออกฤทธิ์ก็ทำให้ปอดและกระบังลมหยุดทำงานทันที สุดท้ายเมื่อยาหลอดที่สามถูกฉีดเข้าไป ก็ทำให้หัวใจของลีโอหยุดเต้นในทันที          

    สายตาทุกคู่ในห้องมองไปด้วยความสะเทือนใจ ดาราสาวเอมิเดลล่าซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังของเอลหักห้ามใจไม่ได้ต้องรีบเอาผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกและปากสะอึกสะอื้นออกมา เอลได้ยินเสียงพร่ำภาวนาในใจของเธอ

    โอ้พระเจ้าเมตตาปราณีนำเขาสู่สวรรค์ด้วยเถิด

    ขณะที่สาวไฮโซสูงวัยอีกคนหลับตาไม่กล้ามอง น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม

    โยฮันและเดลจ้องมองด้วยความระทึกใจเช่นกัน

    จู่ๆ เอลเหมือนนึกอะไรขึ้นได้รีบหันไปดูลีโอ

    เขาต้องการพิสูจน์จิตของลีโอนี่นา

    เขาจำเรื่องที่ลีโอพูดได้ลางๆ เรื่องผู้แสวงหาความตาย...

    ต้องดูที่จิตของลีโอถึงจะรู้ความจริงว่าเรื่องที่ลีโอพูดในวันนั้นเป็นเรื่องจริงหรือล้อเล่น

    เขารีบเปิดพลังและเร่งพลังความเร็วของเขาให้เร็วที่สุด

    ถ้าไม่ใช้พลังเขาคงไม่มีวันได้เห็นจิตของลีโอที่ออกจากร่างแน่

    เฮ้ย...ทำแบบนี้ไม่ได้..    

    ร่างของเขากำลังหายไป เขารีบผ่อนความเร็วเพราะว่าหากหายตัวไปต่อหน้าต่อตาผู้คนที่ห้อมล้อมอยู่คงม่ดีแน่ เขาผ่อนพลังงเหลือน้อยที่สุดพื่อให้ร่างไม่หายไปจากสายตาของผู้อื่น

    ทันใดนั้นเขาก็ได้เห็นจิตของลีโอกำลังออกจากร่าง

    เงาเลือนางผุดขึ้นมาจากร่างของลีโออย่างช้าๆ จนหลุดออกมาเป็นร่างโปร่งใส

    จิตเจ้านั่น….

    เอลอ้าปากค้าง แพทย์หนุ่มเดินเข้ามาจับชีพจรที่ข้อแขนของลีโอ ก่อนที่จะผงกศีรษะพื่อจะประกาศว่าลีโอได้สิ้นชีวิตแล้ว  

    ดาราสาวเอมิเดลล่าถึงกับปล่อยโฮเสียงดังฟูมฟายด้วยความเสียใจจนใครๆพากันหันไปมอง เอลรู้ว่าหากไม่เร่งพลังขึ้นอีกขั้นเขาคงไม่มีทางเห็นจิตของลีโอเป็นแน่ เขาจึงเร่งพลังความเร็วขึ้นอีกขั้นซึ่งเป็นขั้นที่สามารถมองเห็นโลกต่างมิติได้ ร่างกายของเขาจะกลายเป็นเงาลางๆ มากขึ้น แต่เขาฉุกคิดขึ้นได้ว่าคงทำเล่นๆไม่ได้ไม่งั้นผู้คนต้องสงสัยแน่ และถ้าทำสุ่มสี่สุ่มห้าไป เขาอาจจะถูกพวกเหนือมนุษย์ด้วยกันซึ่งอาจจะอยู่ในกลุ่มคนพวกนี้ เห็นเข้าก็ได้

    เห็นแล้ว...

    เอลตะลึงลานเมื่อจิตนั้นกลับชัดขึ้นเป็นร่างมนุษย์ที่เปลือยเปล่าไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แต่ก็ไม่อุดจาดตาเพราะท่อนร่างนั้นเบลอจนมองแทบไม่เห็นอะไร

    ลีโอ..

    เอลตะลึงอุทานเบาๆ ใช้มือขยี้ตาเพื่อดูให้แน่ใจเพราะเขาเริ่มไม่เชื่อสายตาของตนเองแล้ว

    อะไรกันนี่ หน้านั่น...

    เขาพบว่าใบหน้าของจิตไม่ใช่ใบหน้าของลีโอ   

    เขาถึงกับตาเหลือกเกาศีรษะแกรกๆ เพราะจิตนั้นไม่ใช่ลีโอสักนิด

    ใบหน้าไม่เหมือน... เป็นไปได้อย่างไรกัน

    อะไรกันนี่..จิตไม่จำเป็นต้องมีใบหน้าเหมือนกับร่างกายหรือไงกัน...

    ไม่ว่าจะมองอย่างไรใบหน้าของจิตนั้นก็ไม่ใช่ลีโออยู่ดี

    แต่เขากลับรู้สึกคุ้นหน้าอย่างบอกไม่ถูก เขาพยายามมองหาจิตลีโอเพราะคิดว่าจิตที่เห็นนี้ไม่ใช่ลีโอ เมื่อมองจนทั่วห้องกลับไม่พบจิตใดใดอีก

    หรือว่านั่นคือลีโอ..

    เป็นไปไม่ได้... ถ้าเป็นลีโอ หน้าก็ต้องลีโอสิ  จะเป็นคนอื่นไปได้ยังไงกัน....

    ทันใดนั้นจิตนั้นก็หันมองมาที่เอล ดวงตาอันน่ากลัวทำให้เอลถึงกับตะลึง และนึกขึ้นได้ว่า เคยเห็นหน้าเจ้านี่ที่ไหนกันนะ..

    เขาพยายามตั้งสติ เห็นปีศาจก็ยังเคยเห็นมาแล้วเลย นับประสาอะไรกับคน เขาพยายามจะคิดให้ออกว่าเคยเห็นหน้านั้นที่ไหนกัน

    ..ถ้านั่นไม่ใช่ลีโอล่ะ มีคนมาตายแทนลีโอ...เป็นไปไม่ได้.. ใครเขาจะทำกันเรื่องบ้าๆ แบบนี้

                    แล้วเจ้าพนักงานก็ช่วยตอบคำถามเอลได้เป็นอย่างดี เมื่อถอดผ้าปิดตานั้นออก ร่างกายนั้นคือลีโอจริงๆ ไม่ใช่ใครอื่น

    ถ้ามีการสลับจิตมาอยู่ในร่างลีโอ ..

    สมมติฐานใหม่ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา

    ..แล้วลีโอล่ะอยู่ที่ไหน ใครเอาเจ้านั่นไปแล้ว.. 

    เอลหยุดพลังเพราะผู้คนต่างลุกขึ้นเดินออกจากห้องกันแล้ว เขาพยายามหาเรื่องสนับสนุนสมมติฐานนี้แต่ก็ไม่เห็นจิตนั้นเพราะเขาหยุดพลังไปแล้ว เขาไม่ทันได้สังเกตุว่าเดลเดินผ่านหน้าของเขาไป  เดลยังหันกลับมามองเขาซึ่งยังนั่งใจลอยมองไปที่ห้องประหารชีวิตซึ่งกำลังปิดม่านลง

    “กลับได้แล้ว”

    เดลเรียกเอลแต่เอลกลับไม่ได้ยิน แต่โยฮันกลับทักเอลเสียงดัง

    ใจลอยอะไรหรือพ่อหนุ่ม

    เอลยังไม่ได้ยิน

    มีอะไรหรือ..โยฮันถามเดลซึ่งยืนอยู่ใกล้เอล เดลไม่ตอบร้องเรียกเอลอีกครั้ง

    “กลับได้แล้วเพื่อน”

    เอลเพิ่งรู้สึกตัวจึงรีบลุกขึ้น

    คุณ...

    กลับบ้านได้แล้วครับนักเรียนโยฮันผายมือเชิญเอล

    ทั้งโยฮันเดลและเอลเดินออกเป็นสามคนสุดท้าย ประตูห้องก็ปิดลงเหมือนทิ้งปริศนาทั้งหมดไว้ในห้องนั้นให้มันเป็นปริศนาต่อไป

    เอลเดินออกมากับโยฮัน ขณะที่เดลเดินนำหน้าออกมาก่อน เขาไม่ได้สนใจฟังเรื่องที่โยฮันพูดด้วยสักนิดได้แต่เหม่อลอยครุ่นคิดเรื่องเมื่อครู่

    เมื่อมาถึงประตูใหญ่ เขาก็ได้สติขึ้นและตอบคำถามที่โยฮันถามว่าถ้าจบมัธยมปลายแล้วจะต่อมหาวิทยาลัยไหน

    ผมเลือกมหาวิทยาลัยแห่งชาติคอร์แนลครับ ผมอยากเป็นนักกฏหมายครับ

                    ดีนี่ จะได้รับใช้ชาติได้ ถ้ามีปัญหาอะไรปรึกษาผมได้นะครับ

                    เอลเดินออกจากเรือนจำท่ามกลางผู้คนและนักข่าวที่แน่นขนัดทั้งๆ ที่คนก็ถูกประหารไปแล้วแต่ด้านนอกการประท้วงก็ยังไม่ยอมเลิก มีเสียงด่าทอสาปแช่งดังอยู่ไกลๆ

                    เอลมองเดลซึ่งเดินผ่านฝูงชนที่เบียดเสียดไปยังที่จอดรถ เดลหันหน้ามามองเขาก่อนจะขึ้นรถไป

             

    คืนนั้น แม้เอลจะกลับถึงบ้านแล้ว เขาก็ยังค้างคาใจไม่หาย ถึงเที่ยงคืนก็ยังข่มตาให้หลับลงไม่ได้ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นสองสามครั้ง เขาดูที่หน้าจอก็รู้ว่าลองก์โทรมา แต่เขากลับไม่รับสาย เพราะถ้าขีนรับสายก็คงจะโดนสัมภาษณ์ไม่รู้จบเป็นแน่ 

    …………………………………………………

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×