คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Special: BAE JUHYUN [END]
Special: BAE JUHYUN
ฉันไม่เคยชอบคนเสแสร้งเลยสักนิด
เพราะฉันได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา หลากนิสัยมาทั้งชีวิตนักศึกษา มันทำให้รู้ว่ารอยยิ้มมันก็คือหน้ากากดีๆนี่เอง
ฉันคบเพื่อน ที่ถึงแม้จะเป็นพวกเที่ยวกลางคืนแต่พวกนั้นก็นิสัยดีมากๆ และแน่ล่ะ มันทำให้ฉันซึมซับนิสัยของสังคมแบบนั้นมา สังคมที่มีแต่คนใส่หน้ากากเข้าหา ทำตัวอ่อนแอให้ใครๆเขาสงสาร น่าเกลียดจะตาย.
แต่ฉันก็ไม่คิดไม่ฝันว่าต้องกลับมากลืนน้ำลายตัวเอง
วันนั้น..เป็นวันแรกที่ฉันมาเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่แทนแม่อย่างเต็มตัว เพราะฉันเบื่อพวกที่คอยเอาแต่มานั่งจ้องหน้าฉันเวลาทำงานเมื่อตอนมาฝึกงานกับแม่ ฉันจึงจัดการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นสาวแว่นสุดเฉิ่มแทนที่จะแต่งหน้าหรือแต่งตัวแบบเฟี้ยวฟ้าวแบบตอนเที่ยวกลางคืน ถึงแม้ว่านั่นจะทำให้ลูกค้าหายไปบางส่วน แต่ฉันก็สบายใจมากกว่า
ฉันได้เจอกับนักศึกษาคนนึงที่เป็นลูกค้าของฉันตั้งแต่ตอนที่มาฝึกงานกับแม่ คนที่ทั้งหน้าตา นิสัย และการกระทำดูไร้เดียงสาไปหมดเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง เขากลายมาเป็นที่สนใจของฉันเพราะรอยยิ้มที่ดูไม่มีผิดมีภัยของเขา สุดท้ายก็กลายเป็นว่าฉันสนใจทุกอย่างที่เป็นเขาไปหมด.
หลังจากความพยายามในการป้อนอ้อยตั้งแต่วันแรกในฐานะสาวเฉิ่ม วันนึงที่ฉันได้รับรู้ว่าเขาเองก็เริ่มรู้สึกดีกับฉัน ฉันเองก็รู้สึกดีนะ แต่มันจะดีซะกว่าถ้าเขาชอบทุกด้านของฉันจริงๆ
ฉันคอยแอบมองเขากับเพื่อนที่ชื่อเวนดี้ มันทำให้ฉันรู้สึกหวง ถึงแม้จริงๆแล้วฉันจะไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอะไรกัน แต่ความใกล้ชิดของพวกเขาก็ทำให้ฉันอิจฉาจนทนไม่ไหวจึงต้องเปิดเผยตัวตนจริงๆของฉันให้เขาเห็นสักที
ผลสุดท้าย ฉันก็ได้หมีทึ่มคังซึลกีมาเป็นแฟนค่ะ
“โชว์ที่คณะเหรอ?” ฉันถามขึ้นขณะล้างแก้วใบสุดท้ายหลังจากได้ฟังคำชวนของซึลกีที่ชวนให้ฉันไปดูงานที่คณะ
“อื้อ เริ่มช่วงเย็นๆหน่อย มาได้หรือเปล่าคะ?”
“พี่คงต้องดูลูกค้าก่อน ไม่ตกลงรับปากนะ” ฉันหันมาหาเขาทันทีที่วางแก้วไว้ในที่เก็บ พอดีกับที่หันไปเห็นหมีน้อยพยักหน้ารับช้าๆอย่างเข้าใจ
แต่หางตาตี่ๆที่ตกลงนั่นทำให้ใบหน้าใสๆของเขาดูหงอยลงทันตา
“ยังไม่ทันได้ตอบว่าจะไม่ไปเลย” ยกมือดึงแก้มนุ่มนิ่มนั่นอย่างหมั่นเขี้ยวจนเจ้าตัวร้องงือเพราะความเจ็บ ฉันอมยิ้มกับท่าทางที่ดูไร้เดียงสาของคนรักของฉัน เขาน่ารักได้แบบไม่ต้องพยายามเลยจริงๆ
และนั่นมันก็ทำให้ฉันอดใจไม่ไหวบ่อยๆ
“แต่ถ้าลองแตะที่ตรงนี้แบบเดียวกันพี่อาจจะตอบทันทีเลยก็ได้นะคะ” ฉันอมยิ้มมุมปากพลางแตะนิ้วชี้ลงบนริมฝีปากตัวเองและมองคนตัวสูงกว่า ซึ่งดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะเข้าใจได้ไม่ยากอย่างที่ฉันคิดเอาไว้เลย
“..พี่จูฮยอน เรายังไม่ได้ปิดร้าน..”
“ล็อคไว้นานแล้ว แถมพี่ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย” ฉันดันคนที่ทำท่าเหมือนจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดจริงๆให้ติดกับเคาน์เตอร์อ่างล้างแก้ว แล้วขยับเข้าไปหาเพื่อจะมองแก้มนิ่มๆนั่นที่กำลังขึ้นสีจัด
คุณไม่รู้หรอกว่าซึลกีดูน่ารักแค่ไหนตอนที่กำลังเขินน่ะ
“หลับตาก็ได้นะ” ฉันพยายามกลั้นยิ้มที่สุดเท่าที่จะทำได้ขณะหลับตา แอบหรี่ตามองคนที่ยังทำท่ากระวนกระวายลังเลว่าจะทำตามที่ฉันบอกหรือไม่บอกดี จนสุดท้ายแล้วที่พอฉันได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกของซึลกีอยู่ใกล้ๆปลายจมูกฉันก็เริ่มหลับตาลงให้สนิทอีกครั้ง
แต่การที่ซึลกีหยุดไปซะเฉยๆมันก็ทำให้ฉันต้องลืมตาขึ้นมาใหม่
“คือ…มันติดแว่นน่ะค่ะ” คงเพราะว่าเห็นฉันทำหน้างงซึลกีก็เลยพูดออกมาพร้อมกับจิ้มแว่นของฉันแล้วยิ้มบางๆ มันทำให้ฉันผงะไปนิดนึงเพราะลืมไปว่าตัวเองสวมแว่นกลมๆนี่อยู่
แต่จริงๆเบี่ยงองศาก็จูบได้แล้วนี่…เขาคงอายเกินไปที่จะทำจริงๆล่ะมั้ง
“อ่อ…จริงสิ” ฉันหันออกมาถอดแว่นที่ทำให้ฉันเป็นสาวเฉิ่มเต็มตัวและพูดเสียงเบา ถ้าเกิดว่าฉันบังคับเขามากไปซึลกีก็คงอึดอัดและรับฉันไม่ได้มากกว่าตอนที่เขารู้ว่าฉันแกล้งอินโนเซ้นท์แน่ๆ
“พี่จูฮยอน”
“อะไร”
อา…รู้สึกเฟลจังแหะ
แต่ในตอนที่ฉันกำลังพับเก็บแว่นนั่นเข้าที่ จังหวะพอดีกับที่ฉันหันไปถามจากการที่เขาเรียกฉัน ซึลกีที่ขยับเข้ามาเมื่อไหร่รู้ก็ช่วงชิงจังหวะที่ฉันเผลอกดริมฝีปากลงมาพอดี
“แบบนี้มันถนัดกว่านี่นา” เขาพูดพร้อมกับยิ้มจนตาหยี และนั่นมันก็ทำให้ฉันอดหน้าแดงนิดๆไม่ได้พร้อมกับยิ้มออกมาทีหลัง ก่อนจะจบลงด้วยการที่ฉันเลื่อนแขนไปรั้งเขาเข้ามาใกล้เพื่อให้เราสองคนได้แบ่งปันรสจูบแสนหวานด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
ฉันบอกแล้วว่าแฟนฉันน่ะน่ารักได้ตลอดเวลาจริงๆ
“ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะคะ” ฉันโค้งให้กับลูกค้าที่กำลังเดินออกไปจากประตูร้าน เมื่อเห็นว่าคนในร้านบางตาลงบ้างแล้ว ฉันจึงเดินกลับเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ ถอดผ้ากันเปื้อน ถอดแว่น คว้าเสื้อโค้ทและฝากร้านไว้ให้จองกุกที่เป็นพนักงานพาร์ทไทม์ไว้ให้ดูแลต่อเพราะว่าฉันมีธุระต้องไปทำ
ก็ฉันรับปากซึลกีไว้แล้วว่าจะพยายามไปให้ได้นี่นา
นักศึกษามากหน้าหลายตาเดินกันไปทั่วมหาวิทยาลัยด้วยอาการตื่นเต้นและความสุขอยู่บนใบหน้า มันดูเหมือนกับงานโรงเรียนเลยเสียด้วยซ้ำไป มีซุ้มต่างๆมากมายที่เกี่ยวกับคณะของตัวเอง มีคนบางกลุ่มที่แต่งตัวออกมายืนหน้าซุ้มเพื่อเรียกให้นักศึกษาคนอื่นๆเข้ามาดูงานของตัวเอง
แต่สายตาของฉันมองหาคณะของซึลกีอย่างเดียวแหละนะ
“พี่จูฮยอน” ตอนที่ฉันเดินมาถึงบริเวณคณะของเขา ฉันก็เห็นซึลกีออกมายืนรอฉันอยู่แถวๆแนวรั้วกั้น ซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีไอดอลที่ไหนมาหรือเปล่าถึงได้ทำเวทีที่มีผ้าสีขาวเป็นพื้นหลังขึ้นมาแบบนี้ แต่นั่นก็ไมได้ทำให้ฉันอยากรู้ไปมากกว่าเสื้อผ้าที่ซึลกีกำลังใส่อยู่เลย
ซึลกีอยู่ในชุดสูทสีดำลายทางกับกางเกงสกินนี่สีดำเข้ากัน ทำให้ฉันมองเห็นรูปร่างของเขาได้อย่างชัดเจน มันเพราะว่าเขาตัวสูง การแต่งตัวแบบนี้มันจึงดูเท่ห์และเข้ากับซึลกีเอามากๆ
“เธอดู..ดีมากๆเลยนะ”
“จริงเหรอคะ?” ซึลกีหน้าแดงนิดๆหลังจากที่ฉันพูดไป ก่อนที่เขาจะพาฉันไปด้านหลังเวทีที่เพื่อนๆของพวกเขาอยู่ ซึลกีไม่ได้บอกใครเรื่องที่จริงๆแล้วฉันไม่ใช่ยัยเฉิ่มใส่แว่น เพราะเวนดี้ยังทักเรื่องแว่นของฉันว่าไม่ใส่มันแล้วจะมองเห็นได้ยังไงอยู่เลย
“ฉันต้องไปเตรียมข้างเวทีแล้วล่ะ”
“งั้นฉันไปรอดูเธอข้างหน้าแล้วกันนะ” ซึลกียิ้มให้ฉันอย่างเคย ก่อนที่เขาจะเดินตามเพื่อนๆไป และฉันเองก็ไปอยู่ด้านหน้าเวทีเหมือนนักศึกษาคนอื่นๆอย่างรู้หน้าที่เช่นกัน แต่ฉันแอบแปลกใจไม่น้อยที่ใช้เวลาไม่นานนักศึกษาที่เดินไปเดินมาทั่วมหาลัยก็มารวมตัวอยู่ที่หน้าเวทีที่พวกซึลกีกำลังจะขึ้นแสดงกันเรียบร้อยแล้ว
พิธีกรกล่าวดำเนินงานไม่นานนักหลังจากเสียงปรบมือเกิดขึ้น พวกซึลกีก็พากันลากเก้าอี้ออกมา ฉันขมวดคิ้วนิดหน่อยว่าแสดงอะไรทำไมถึงต้องมีเก้าอี้ถึงสามตัวด้วย แต่สงสัยได้ไม่นานนัก เสียงซาวน์ดนตรีก็ดังขึ้น พร้อมกับที่ทั้งสามคนค่อยๆขยับตัวไปตามจังหวะ
ฉันอึ้งไปหลายนาทีกว่าทันทีที่เห็นซึลกีกำลังเต้นเพลง be natural ของวง SES อยู่บนเก้าอี้ ฉันไม่ได้ตกใจที่ว่าทำไมเด็กๆพวกนั้นถึงเอาเพลงเก่ามา แต่ฉันกำลังตกใจเพราะว่าตัวเองชักไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าคนที่ฉันกำลังดูอยู่คือคังซึลกีคนเดียวกับที่ฉันรู้จัก
ฉันพูดเลยว่าต้นฉบับของเพลงท่าเต้นมันไม่ได้ดูฮอตขนาดนี้
ทุกครั้งที่เป็นพาร์ทของซึลกี ฉันสังเกตว่าผู้คนจะกรี๊ดกร๊าดเขาเป็นพิเศษ อาจเพราะคาริสม่าที่เขาเปล่งออกมาอย่างต่อเนื่อง กับสัดส่วนหุ่นของเขาที่ใครๆเห็นก็รู้ว่าซึลกีมีหุ่นที่ดีจนน่าอิจฉา
แต่สำหรับฉัน….ซึลกีกลับดูน่ากินมากกว่าครั้งไหนๆ
ฉันยิ้มมุมปากเมื่อคิดอะไรดีๆได้ว่าจะทำยังไงกับคนที่เซ็กซี่เป็นแต่ไม่คิดจะบอก…
“พี่จูฮยอน!” ซึลกีร้องเสียงหลงทันทีที่ฉันผลักเขาลงไปนอนบนเตียงของฉัน แม้ว่าเขาทำท่าจะลุกขึ้นมาเพราะความตกใจแต่ฉันก็ยึดตัวเขาไว้ไม่ให้ลุกออกไปได้ง่ายๆหรอกนะ
ถ้าถามว่ามาลงเอยที่นี่ได้ยังไง ก็หลังจากที่เสร็จสิ้นกิจกรรมในคณะของเขาแล้ว ฉันก็บอกให้จองกุกเก็บร้านให้เรียบร้อย ส่วนตัวฉันก็บอกซึลกีว่าจะเอาของที่บ้านและอยากให้ไปด้วยกัน และเขาก็ว่าง่ายซะด้วยสิ..
ก็เด็กมันเชื่องนี่นะ…
“ดูเหมือนว่า พี่จะยังรู้จักซึลกีไม่หมดสินะคะ” ฉันค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของซึลกีออกทีละเม็ดพร้อมกับกรีดยิ้มไปด้วย คุณต้องเห็นจริงๆนะว่าเขาน่ะหน้าแดงขนาดไหนตอนที่ถูกฉันจูบแล้วเผลอครางออกมา
โอ้ะ…ไม่ได้สิ
……..ฉันเป็นคนเดียวที่ดูได้ต่างหาก
----------------------------------
END ค่ะ :X
◊ SQWEEZ
ความคิดเห็น