แนะนำ เภสัช ฯ นะ

เนื้อเรื่อง

บทความนี้แต่งโดย N R T(november_37@yahoo.com)


ก่อนอื่นพี่ขอบอกนะว่าพี่เป็นพวกที่ไม่ได้ตั้งใจจะเอาคณะนี้เป็นอันดับหนึ่งนะพี่เลือกคณะนี้เป็นอันดับ 3 รองจากหมอ
และพี่ไม่เอาทันตนะเนื่องจากพี่ทนทำอะไรเล็กๆละเอียดๆนานๆในห้องแคบๆไม่ได้
เพราะฉะนั้นบางที่พี่ก็จะสงสัยเหลือเกินนะว่าทำไมน้องบางคนอยากจะมาอยู่ในวิชาชีพนี้นักนะ

คือเภสัชเนี่ยหลายคนคงจะนึกว่าจบออกมาแล้วก็คือจะมาขายยาอย่างเดียวซึ่งความจริงมันไม่ใช่นะเพราะเภสัชเป็นอะไรที่กว้างมาก
ทำให้เรากระจายออกได้ในหลายสายงานบางงานเราก็แย่งงานกับวิทยาได้(แต่บางที่เขาก็แย่งงานเราได้เหมือนกันนะ)
ซึ่งจบแล้วน้องถ้ามีความสามารถพอน้องก็จะทำได้ เช่น
เภสัชกร ร้านยา โรงบาลซึ่ง2ตัวนี้แตกต่างกันมากนะ
เภสัชกรโรงงานซึ่งจะมีส่วนคือส่วนวิจัยและพัฒนา
ส่วนควมคุมการผลิต ส่วนตรวจสอบคุณภาพ
หรือจะเป็นทางสายคุ้มครองผู้บริโภคของทางอย.
หรือทางสายบริหาร และฯลฯ ซึ่งจะเห็นว่ามันกว้างมาก
ไม่ต้องแปลกใจไปที่เราจะต้องได้เรียนพื้นฐานของทั้งหมดเนี้ยใน5ปี
ก็อาจจะกระอักกันได้อยู่
แล้วอีกอย่างนะของของเราจะมีคาบเกี่บวกับหมอหรือเทคนิกการแพทย์บางนะ
แต่มันคนละอารมณ์กันนะคือน้องต้องแยกให้ออก
เพราะเภสัชก็คือเภสัช

เรียนก็ต่างแบบจากชาวบ้านเค้างานก็ไม่เหมือนกัน ค่าตอบแทนก็ต่างกัน
รับผิดชอบก็คนละด้านกันนะเพราะสำหรับน้องที่อาจจะคิดได้ว่าอยากได้หมอหรือทันตแล้วคะแนนดูมันน่าเสียวอยู่น้องก็เอาเภสัชรองไว้
ซึ่งความจริงพี่ก็ทำแบบนี้ คือถ้าน้องติดเภสัชนะแล้วน้องดูการเรียนงานแล้ว
คุยกะพวกพี่โตๆแล้วน้องอาจจะอยู่ที่นี่ต่อไปต่อก็ได้แบบพี่หรืออาจจะซิ่วนั้นก็เป็นเรื่องที่ตามใจน้องซึ่งหลายคนอาจจะบอกว่ามันกินที่ชาวบ้านเขาแต่พี่มองว่านะมันเป็นเรื่องส่วนตัวนะให้ไปเรียนในที่ๆชอบดีกว่านะ
แต่ถ้าน้องซิ่วไม่ได้นะน้องจะเหมือนตกนรกตลอด4ปีหลังจากปี1เลย
น้องที่จะเข้าเภสัชเพราะพ่อแม่บังคับก็พยายามอธิบายละกันนะ
เพราะท่านไม่ได้เรียนเอง ไม่ได้มาตกนรกแบบที่ต้องมากทนทรมานเรียนนะ
ถ้าน้องไปอยู่สายที่น้องชอบน้องอาจไปได้ไกลกว่าหรือมองเห็นช่องทางได้มากกว่าก็ได้นะ
ส่วนน้องที่กลัวเรื่องตกงานนะความจริงตออนี้เภสัชไม่มีใช้ทุนแล้วนะ
แล้วก็มีการผลิตกันแยะซึ่งทำให้อัตราการแข่งขันกันก็สูงขึ้นนะ
แต่ความต้องการการยังมีอยู่นะแต่ถ้าไปถามอาจารย์ว่าอนาคตจะเป็นไง
พี่ก็ยังงงอยู่


อาจารย์แกแต่ละคนก็จะต่างความเห็นไปบางคนก็แบบมีงานแน่ๆต้องการแยอะ
บางท่านก็บอกงานน้อย พี่ก็ไม่รู้จะเชื่อใครดีเหมือนกันนะ
แต่พี่ว่าแล้วแต่สายงานด้วยนะว่าสายไหน  
ส่วนเรื่องที่ว่าต้องถนัดอะไรเป็นวิชาอะไรพิเศษรึเปล่านะ

พี่ว่าเภสัชเป็นสหวิชานะน้อง ในหลักสูตรจะมีทั้งเคมี ชีวะ ฟิสิกส์ ตีกันให้วุ่นวายไปหมดแล้วก็ออกมาเป็นวิชาอย่าง
เคมี ฟิสิกส์   ชีวเคมี ซึ่งก็แล้วแต่สายงานไหนจะเน้นอะไรมากกว่ากันเช่นสายงานการผลิตก็จะเน้นเคมีกะฟิสิกส์มากหน่อย
แล้วก็พวกบริหาร ศีลธรรม อะไรพวกเนี้ยเพราะฉะนั้นถ้าน้องบางคนอาจจะบอกว่า
ตัวเองเกลียดฟิสิกส์ถนัดชีวะกะเคมีเรียนเภสัชดีกว่า คิดผิดแล้วนะน้องแบบพี่เลย
น้องจะเจอมันมาทักทายอยู่ตลอดให้ปวดหัวเล่น
มีแต่เลขนะยกเว้นสถิตินะที่พี่ว่าไม่ค่อยได้ใช้
(ความจริงก็คือตอนนี้ไม่มีเครื่องคิดเลขนี้พี่ก็เริ่มจะมีปํญหากะชีวิตบางตอนแล้วนะ)


ส่วนสังคมภาษาไทยนี่ไม่ได้ใช้แล้วเราเอาแค่เป็นคะแนนรวมมาให้น้องติดที่นี่ได้เฉยๆแบบเพื่อนพี่หลายคนที่ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าเป็นเภสัชสายศิลป์นะเพราะมันติดได้เนี่ยคะแนนสายศิลป์ช่วยสายวิทย์ฉุด ส่วนภาษาอังกฤษนะใช้มากกกกๆๆๆเนื่องจากส่วนมากชีทเรียนอ.ท่านก็เป็นภาษานี้นะหนังสือกว่า70%ห้องสมุดก็ภาษานี้ ก็คืออย่างน้อยๆก็ควรจะแปลให้ออกจะดีไม่น้อยนะ
แม้ว่าเราจะเป็นหลักสูตรภาษาไทย (เฉพาะที่อ.พูด
ส่วนชีทส่วนมากอังกฤษแน่นอน) ก็ตามนะแต่ไม่ต้องห่วงอะไรไปหรอกนะส่วนมากพอเราเขาปี1ก็เหมือนstartใหม่
คนมีพื้นดีก็อาจจะได้เปรียบในช่วงแรกๆแต่หลังๆก็จะทันกันเองหละนะ(โง่พอกันเพราะไม่เข้าใจเหมือนกันเลย)
ถ้าตั้งใจพอส่วนถ้าถามว่าเรียนหนักมั้ยเห็นไปดูในของพี่ๆหมอกะทันตะที่เขียนมาเรียนกันหนักๆทันนั้นเลย
พี่ก็ว่าแล้วแต่คนนะเพราะบางคนก็โหมอ่านซะ
ส่วนพี่หนะขำๆไปวันตั้งแต่สอบentแล้ว


โม้นานลืมบอกไปพี่อยู่เภสัชจุฬานะปี3
หลักสูตรที่จุฬาก็จะเป็นแบบ5ปีจบมาได้ภบ.
ส่วนแบบการบริบาลทางเภสัชกรรม6ปีตอนนี้(2548)ยังไม่มีนะ
แต่มีแบบให้เลือกเรียนได้ในป.โทนะซึ่งแบบนี้ตัวพี่ว่าดีกว่านะเพราะป.โทหนะ
ที่มาเรียนได้ต้องผ่านการคัดกรองแล้ว
แล้วก็มีเวลาเรียนที่เฉพาะทางมากกว่า
ส่วนใครจะเถียงก็ตามสบายนะนี่ความเห็นส่วนตัว
ในหลักสูตร5ปีตอนนี้ตะเป็นหลักสูตรใหม่ซึ่งจะเน้นการฝึกงานมากขึ้นเวลาเรียนจะน้อยลง
แต่ขอโทษเน้นหาเกือบเท่าเดิมนะ
เนื่องจากอ.เห็นว่ามันสำคัญไปหมดตัดออกได้นิดหน่อย
ทำให้บางทีเรียน1หน่วยกิตอาจทำให้เหมือนเรียน3หน่วยได้ไม่ยาก
เรียนกันหนักหน่วงมากซึ่งเป็นธรรมชาติของวิชาสายสาธารณสุขอยูแล้วหมอ
สัตวะ ทันตะก็เรียนหนักเหมือนกัน คิดจะเรียนสายทางนี้ต้องทำใจนะ
แต่เราก็จะเน้นฝึกงานมากขึ้นคือเดิมเริ่มฝึกปี4เราก็จะได้ไปเดินเกะกะในโอสถศาลาให้งงเล่นตั้งแต่ปี2เลยส่วนปี3-4เราก็จะได้ไปฝึกในร้านยา
ศูนย์สาธารณสุขมูล และโรงบาล ส่วนปี5ก็จะแยกฝึกตามสาขาที่เรียนก็จะไปฝึกตามโรงบาล
ร้านยา โรงงาน บริษัทยา
          
ถ้าเอาตั้งแต่เริ่มเลยนะปี1เราก็จะเรียนวิชาทั่วไปอย่างเคมี
ฟิสิกส์ ชีวะ อังกฤษ  cal(เลขเหลือแต่ cal
กะสถิตินะ)ซึ่งก็เหมือนม.ปลาย3ปีรวมกันแล้วก็ลึกลงอีกหน่อย
กับ พวกวิชาเลือก4หมวดก็คือหมวดสังคม วิทยาศาสตร์ มนุษย์
สหศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาที่คณะอื่นๆเปิดให้เลือก
แล้วก็จะมีวิชาเลือกเสรีอีก1วิชา
แล้วก็วิชาคณะ1วิชาคือเภสัชสัมพันธ์เป็นวิชาให้เห็นภาพรวมของวิชาชีพก่อนนะ
ปี2ส่วนก็จะเป็นวิชาพื้นฐานทางสายแพทย์อย่างสรีระ
สาธาณสุข  ชีวะเคมี   สถิติ  จุลชีวะ
แล้วก็วิชาคณะอย่างวิชาทางสมุนไพร เภสัชกรรม
การคำนวนทางเภสัช

ซึ่งปี2เราจะเข้ามาเรียนที่คณะแล้วหลังจากไปแหล่หนุ่มหลีสาวในจุฬาใหญ่มานาน
เราก็จะมานั่งเศร้าอยู่แถวสยามเพราะแม้ทางขวามเป็นสยามทางซ้ายเป็นมาบุญครอง(หลังเป็นอุเทน)
เราก็ไม่ค่อยมีเวลาไปเดินอยู่ดีนั่นแหละ
ส่วนในปี3ที่หนักหน่วงที่สุดส่วนมากจะเป็นวิชาที่ต่อมาจากปี2
คือวิชาปี2นั่นแหละแต่มีเลขท้ายเป็น2หรือ3
แล้วก็เพิ่มวิชาทางการวิเคราะห์คุณภาพยา การสังเคราะห์ยา
โภชนาการและที่สำคัญที่สุดคือเภสัชวิทยาซึ่งเรียนเกี่ยวกับยาและร่างกายโดยตรง

ส่วนปี 4จะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับการผลิต  การดูแลผู้ป่วย
การจ่ายยา การบริหารจัดการ  กฎหมายและศีลธรรม
ส่วนปี5เป็นวิชาเฉพาะสาขาโดยแบ่งเป็น3สายหลักๆคือ
สายเทคโนโลยีในการผลิต สายวิจัยและพัฒนา
สายคลินิกและการจัดการ
ซึ่งในจุฬาจะมีทั้งหมด13ภาควิชาภายใต้3สายหลักนี้ให้ได้เลือกและแย่งชิงกันเต็มที่เพราะบางภาคเปิดรับจำกัดนะ
แต่บางภาคก็เปิดรับไม่อั้น
โดยการรับเข้าภาคเท่าที่พี่รู้มานะก็จะมีการดูเกรดของวิชาภาคนั้นที่เราเรียนไปแล้วกับอ.จะมาสัมพากษณ์ถึงความเหมาะสมนะ
เรื่องสำคัญอีกอย่างคือตอนนี้เราต้องสอบใบประกอบโรคศิลป์แล้วนะถ้าไม่มีเราก็จะจ่ายยาไม่ได้
แล้วใบประกอบนี้ต้องมีการเก็บคะแนนต่ออายุด้วยนะ
ความจริงเภสัชแต่ละที่ก็หลักสูตรคล้ายๆกันนะน้องจะเรียนที่ไหนก็คล้ายๆกันนั่นแหละ
ต่างกันก็ความตั้งใจของคนในแค่ละที่ว่าเป็นยังไงนะ
ส่วนจุฬานะเนื่องจากเป็นมหาลัยเก่าแก่ก็เลย ตึกก็จะเก่า
เครื่องมือนี้บางอย่างเก่าสุดๆ

ส่วนอ.ก็มีประสบการณ์เพิ่มตามจำนวนปีไง(พยายามเลี่ยงคำสุดๆแล้วนะ)
ก็เป็นคาแร็กเตอร์ของแต่ละสถาบันนะส่วนที่อื่นพี่ไม่เคยไปเรียนเพราะฉะนั้นอย่าถามว่าที่ไหนดีกว่ากัน
น้องควรถามว่าไอ้สิ่งที่เขามีให้เราใช้ได้เต็มความสามารถแล้วรึยังมากกว่านะ
แล้วก็เรื่องอื่นๆนะ อย่างหอจุฬามีหอในนะเทมอละ3000
ห้องนอน4คน ห้องนำรวม
มาคณะสะดวกมากจนพวกที่อยู่หอมาเร็วสุดก็แปดโมงสิบห้าทุกวัน
(ใกล้มากขี้เกียจตื่น)

แล้วก็มีรถภายในจุฬา3สายต้องซื้อคูปองใบละ2บาทนั่งสบายคล้ายปอ.พ.(เพราะมันก็คือปอ.พ.เอามาดัดแปลง)
โรงอาหารมีเยอะมากเกือบทุกคณะแต่ที่คณะเราไม่มีโรงอาหารนะต้องไปแย่งกินกันที่ทันตะหรือไม่ก็ออกไปกินในสยาม
(ไม่แพงนะถ้ารู้แหล่ง)

ก็ตอนนี้พี่ขี้เกียจแล้วเรื่องที่เหลือยังมีอีกมากนะ
(ขออุบไว้ให้เฉพาะพวกน้องที่ติดคณะouhดีกว่านะ)
ก็ที่เหลือใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็คุยกับพี่ได้นะ
หรือไม่งานedexวันที่ 2-3เมษาที่world
tradeหรือไม่น้องก็ถามพวกพี่ๆที่ตอนนี้คงฝึกงานอยู่ตามร้านยา
ศูนย์สาธาณสุขต่างๆ(ถ้ามีไปฝึกนะ)
โรงพยาบาล ส่วนที่คณะตอนนี้ปิดเทอ มไม่ค่อยมีใครมาหรอกนะ
ส่วนน้องๆม.4-5ก็คงมีโอกาสเลือกมากหน่อยปีนี้มีจุฬาวิชาการนะก็ลองมาถามพี่ๆคณะต่างว่าเรียนเป็นยังไงละกันนะ
โชคดีละกันนะ
                             N R T(november_37@yahoo.com)