วิศวะ TUNU
?? เพื่อนๆหลายคนคงอยากทราบรายละเอียดหรือที่พอมีข้อมูลอยู่แล้วไม่แน่ใจว่าทราบมาถูกๆผิดๆอย่างไรก็แล้วแต่ Annieจะพาไปรู้จักและแนะนำรายละเอียดคร่าวๆให้หายเคลือบแคลงความสงสัยกันซักที
ผู้เข้าชมรวม
11,424
ผู้เข้าชมเดือนนี้
17
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทความโดย
TUNU ในอีกมุม..ที่คุณไม่เคยรู้จัก………………….by Annie
TUNU คืออะไร?
นั่นสิคะ ชื่อuni ชื่อคณะหรืออะไรกันแน่?? เพื่อนๆหลายคนคงอยากทราบรายละเอียดหรือที่พอมีข้อมูลอยู่แล้วไม่แน่ใจว่าทราบมาถูกๆผิดๆอย่างไรก็แล้วแต่ Annieจะพาไปรู้จักและแนะนำรายละเอียดคร่าวๆให้หายเคลือบแคลงความสงสัยกันซักที TUNU(ตูนู่) เป็นโครงการของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากการร่วมกันระหว่าง2มหาวิทยาลัย นั่นก็คือ
ปัจจุบันปี2006 TUNUก้าวเข้าสู่ปีที่11 ซึ่งเกิดโครงการใหม่ และแบ่งได้ดังนี้
TEP (เทป) เป็นโครงการที่ศึกษาในประเทศไทยเป็นเวลา2ปี และต่างประเทศอีก2ปี
TU-NU (
TU-UNSW (Thammasat-New South Wales,
TEPE (เทปเป้) วิศวกรรมศาสตร์หลักสูตรภาษาอังกฤษ ศึกษาในประเทศไทยตลอด4ปี
สำหรับที่Annieจะเล่าต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดของTUNUนะคะ เพราะศึกษาอยู่ จะได้เล่าประสบการณ์ตรงเลยดีกว่า
วิศวะฯ ภาคต่างๆที่สามารถเลือกได้ มีดังนี้ค่ะ ดูแล้วสนใจกันบ้างมั้ยคะ
Industrial Engineering(อุตสาหการ)
Civil Engineering (โยธา)
Mechanical Engineering (เครื่องกล)
Chemical Engineering (เคมี)
Electrical Engineering (ไฟฟ้า)
Electronic Engineering (อิเลคทรอนิกส์)
Electrical and Electronic Engineering
Electronic and Computer Engineering
Electronic and Communication Engineering
Electronic and Industrial Control Engineering
The
การเรียนในธรรมศาสตร์ เราเรียนกันที่รังสิตค่ะ ก็เหมือนกับคณะอื่นๆ ในตึกวิศวะร่มรื่นดี ด้านหน้าตึกมีสระน้ำ(บ่อปลา) และสะพานที่มาพร้อมกับตำนานว่า "ถ้าผู้ชายสามารถปั่นจักรยานข้ามสะพานโดยมีผู้หญิงซ้อนท้ายขึ้นลงสำเร็จล่ะก็จะได้สมหวังเป็นเนื้อคู่กัน" แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าความชันของสะพานก็น่าท้าทายไม่น้อย
ห้องโครงการของเราจะอยู่ชั้นสอง มีห้องสำหรับค้นคว้าหรือพักผ่อนข้างๆห้องโครงการอีกด้วย
โทร. 0-2564-3001~9 ต่อ 3026~3028, 3196 หรือ http://www.engr.tu.ac.th
e-mail: tep_info@engr.tu.ac.th or tepe_info@engr.tu.ac.th
มาเล่าสาระด้านวิชาการบ้างดีกว่า อาจารย์ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่จบปริญญาเอกและมาสอนเป็นภาษาอังกฤษ มีอาจารย์ต่างประเทศสอนวิชาconversation ภายในห้องเรียนก็ซักถามเป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ บางทีเด็กนักเรียนเองจะหลุดภาษาไทย แต่ยังไงซะก็เหมือนเป็นการค่อยๆปรับพื้นฐานก่อนไปเรียนที่อังกฤษ
เกณฑ์การไปอังกฤษหลักๆมีสองอย่างค่ะ คือ เรียนให้ได้เกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 2.2 กับ สอบIELTSได้ 6 ขึ้นไป ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแต่สำหรับหลายๆคนก็อาจจะไม่ง่ายเลย เพราะดูจากจำนวนนักเรียนที่เข้ามามากแต่พอถึงเวลาไปก็ไปได้ไม่กี่คนเอง ทางโครงการมีข้อยกเว้นให้คือต้องพยายามสอบ IELTS ใหม่ให้ผ่านภายในหนึ่งปีและตามไปทีหลังพร้อมกับรุ่นน้อง
เมื่อครบ 2 ปีแรกจากธรรมศาสตร์ ก็เรียนต่อ 2 ปีหลังที่อังกฤษ (กล่าวก่อนเลยว่า การเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี หลังจากจบGrade 12 นักเรียนอังกฤษส่วนใหญ่จะต้องเรียน A-level 1 ปีก่อนที่จะเข้าปี 1 สรุปก็ใช้เวลา 4 ปีเท่าบ้านเรา) สำหรับนักเรียน TUNU จะเรียนปี 2 และปี 3 ในปริญญาตรีของประเทศอังกฤษค่ะ
The
Jubilee อย่างที่กล่าวแล้วนั้นส่วนใหญ่เป็นคณะจำพวกbusiness ซึ่งNottinghamก็เป็นuniที่มีชื่อเสียงทางด้านนี้เช่นกัน บรรยากาศน่าเรียน เงียบสงบ ตอนกลางคืนก็ไม่น่ากลัวแม้แต่น้อย กลับเต็มไปด้วยความโรแมนติกของlakeและbuildingของcampusนี้
การเดินทางในuniและระหว่างcampus นักเรียนส่วนใหญ่จะเดิน หรือไม่ก็นั่งรถhopper busซึ่งบริการฟรีตลอดเส้นทาง ทุกๆ15นาที
ชีวิตประจำวันของนักเรียนวิศวะอย่างAnnieนะคะก็เริ่มตั้งแต่ลุกจากเตียงในหอพัก (หุหุ! รูปห้องนอนไว้ดูทีหลังนะคะ) หอมีให้เลือกแบบcatered(มีอาหารให้)หรือself-catering(ทำอาหารเอง)
ภายนอกหอพัก(hall) ร่มรื่นมั้ยคะ ธรรมชาติสวยงาม อากาศสดชื่นมากเลยล่ะค่ะ ทางเข้าต้องใช้student cardรูด เข้าออกได้ตลอด24ชั่วโมง
ภายในhallที่Annieอยู่ก็มีcanteenอย่างภาพที่เห็น แล้วก็มีห้องนั่งเล่น TV โต๊ะสนุกเกอร์ ตู้กดน้ำ ขนม ฯลฯ เอาไว้แก้เหงาอีกด้วย
และนี่ก็คือห้องนอนของAnnieเป็นแบบen-suiteคือมีห้องนอนกับห้องน้ำในตัว ที่นี่เน้นห้องนอนเดี่ยวค่ะ ห้องจึงเล็กมาก ส่วนหออีกแบบเป็นself-cateringก็ตามภาพข้างล่างเลยค่ะ มีแบบครัวรวม(ภาพซ้าย)หรือstudio (ภาพขวา)มีครัว ตู้เย็น ไมโครเวฟ แทบทุกอย่างในห้องนอนด้วยค่ะ
ในuniตึกต่างๆจะมีแค่ 3-4 ชั้น ยกเว้นภาพด้านขวาคือtower buildingซึ่งเป็นตึกสูงที่สุดในuniใช้สอนพวกวิศวะภาคคอม ไฟฟ้า เหล่านี้
TUNU คืออะไร?
นั่นสิคะ ชื่อuni ชื่อคณะหรืออะไรกันแน่?? เพื่อนๆหลายคนคงอยากทราบรายละเอียดหรือที่พอมีข้อมูลอยู่แล้วไม่แน่ใจว่าทราบมาถูกๆผิดๆอย่างไรก็แล้วแต่ Annieจะพาไปรู้จักและแนะนำรายละเอียดคร่าวๆให้หายเคลือบแคลงความสงสัยกันซักที TUNU(ตูนู่) เป็นโครงการของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากการร่วมกันระหว่าง2มหาวิทยาลัย นั่นก็คือ
ปัจจุบันปี2006 TUNUก้าวเข้าสู่ปีที่11 ซึ่งเกิดโครงการใหม่ และแบ่งได้ดังนี้
TEP (เทป) เป็นโครงการที่ศึกษาในประเทศไทยเป็นเวลา2ปี และต่างประเทศอีก2ปี
TU-NU (
TU-UNSW (Thammasat-New South Wales,
TEPE (เทปเป้) วิศวกรรมศาสตร์หลักสูตรภาษาอังกฤษ ศึกษาในประเทศไทยตลอด4ปี
สำหรับที่Annieจะเล่าต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดของTUNUนะคะ เพราะศึกษาอยู่ จะได้เล่าประสบการณ์ตรงเลยดีกว่า
วิศวะฯ ภาคต่างๆที่สามารถเลือกได้ มีดังนี้ค่ะ ดูแล้วสนใจกันบ้างมั้ยคะ
Industrial Engineering(อุตสาหการ)
Civil Engineering (โยธา)
Mechanical Engineering (เครื่องกล)
Chemical Engineering (เคมี)
Electrical Engineering (ไฟฟ้า)
Electronic Engineering (อิเลคทรอนิกส์)
Electrical and Electronic Engineering
Electronic and Computer Engineering
Electronic and Communication Engineering
Electronic and Industrial Control Engineering
The
การเรียนในธรรมศาสตร์ เราเรียนกันที่รังสิตค่ะ ก็เหมือนกับคณะอื่นๆ ในตึกวิศวะร่มรื่นดี ด้านหน้าตึกมีสระน้ำ(บ่อปลา) และสะพานที่มาพร้อมกับตำนานว่า "ถ้าผู้ชายสามารถปั่นจักรยานข้ามสะพานโดยมีผู้หญิงซ้อนท้ายขึ้นลงสำเร็จล่ะก็จะได้สมหวังเป็นเนื้อคู่กัน" แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าความชันของสะพานก็น่าท้าทายไม่น้อย
ห้องโครงการของเราจะอยู่ชั้นสอง มีห้องสำหรับค้นคว้าหรือพักผ่อนข้างๆห้องโครงการอีกด้วย
โทร. 0-2564-3001~9 ต่อ 3026~3028, 3196 หรือ http://www.engr.tu.ac.th
e-mail: tep_info@engr.tu.ac.th or tepe_info@engr.tu.ac.th
มาเล่าสาระด้านวิชาการบ้างดีกว่า อาจารย์ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่จบปริญญาเอกและมาสอนเป็นภาษาอังกฤษ มีอาจารย์ต่างประเทศสอนวิชาconversation ภายในห้องเรียนก็ซักถามเป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ บางทีเด็กนักเรียนเองจะหลุดภาษาไทย แต่ยังไงซะก็เหมือนเป็นการค่อยๆปรับพื้นฐานก่อนไปเรียนที่อังกฤษ
เกณฑ์การไปอังกฤษหลักๆมีสองอย่างค่ะ คือ เรียนให้ได้เกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 2.2 กับ สอบIELTSได้ 6 ขึ้นไป ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแต่สำหรับหลายๆคนก็อาจจะไม่ง่ายเลย เพราะดูจากจำนวนนักเรียนที่เข้ามามากแต่พอถึงเวลาไปก็ไปได้ไม่กี่คนเอง ทางโครงการมีข้อยกเว้นให้คือต้องพยายามสอบ IELTS ใหม่ให้ผ่านภายในหนึ่งปีและตามไปทีหลังพร้อมกับรุ่นน้อง
เมื่อครบ 2 ปีแรกจากธรรมศาสตร์ ก็เรียนต่อ 2 ปีหลังที่อังกฤษ (กล่าวก่อนเลยว่า การเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี หลังจากจบGrade 12 นักเรียนอังกฤษส่วนใหญ่จะต้องเรียน A-level 1 ปีก่อนที่จะเข้าปี 1 สรุปก็ใช้เวลา 4 ปีเท่าบ้านเรา) สำหรับนักเรียน TUNU จะเรียนปี 2 และปี 3 ในปริญญาตรีของประเทศอังกฤษค่ะ
The
Jubilee อย่างที่กล่าวแล้วนั้นส่วนใหญ่เป็นคณะจำพวกbusiness ซึ่งNottinghamก็เป็นuniที่มีชื่อเสียงทางด้านนี้เช่นกัน บรรยากาศน่าเรียน เงียบสงบ ตอนกลางคืนก็ไม่น่ากลัวแม้แต่น้อย กลับเต็มไปด้วยความโรแมนติกของlakeและbuildingของcampusนี้
การเดินทางในuniและระหว่างcampus นักเรียนส่วนใหญ่จะเดิน หรือไม่ก็นั่งรถhopper busซึ่งบริการฟรีตลอดเส้นทาง ทุกๆ15นาที
ชีวิตประจำวันของนักเรียนวิศวะอย่างAnnieนะคะก็เริ่มตั้งแต่ลุกจากเตียงในหอพัก (หุหุ! รูปห้องนอนไว้ดูทีหลังนะคะ) หอมีให้เลือกแบบcatered(มีอาหารให้)หรือself-catering(ทำอาหารเอง)
ภายนอกหอพัก(hall) ร่มรื่นมั้ยคะ ธรรมชาติสวยงาม อากาศสดชื่นมากเลยล่ะค่ะ ทางเข้าต้องใช้student cardรูด เข้าออกได้ตลอด24ชั่วโมง
ภายในhallที่Annieอยู่ก็มีcanteenอย่างภาพที่เห็น แล้วก็มีห้องนั่งเล่น TV โต๊ะสนุกเกอร์ ตู้กดน้ำ ขนม ฯลฯ เอาไว้แก้เหงาอีกด้วย
และนี่ก็คือห้องนอนของAnnieเป็นแบบen-suiteคือมีห้องนอนกับห้องน้ำในตัว ที่นี่เน้นห้องนอนเดี่ยวค่ะ ห้องจึงเล็กมาก ส่วนหออีกแบบเป็นself-cateringก็ตามภาพข้างล่างเลยค่ะ มีแบบครัวรวม(ภาพซ้าย)หรือstudio (ภาพขวา)มีครัว ตู้เย็น ไมโครเวฟ แทบทุกอย่างในห้องนอนด้วยค่ะ
ในuniตึกต่างๆจะมีแค่ 3-4 ชั้น ยกเว้นภาพด้านขวาคือtower buildingซึ่งเป็นตึกสูงที่สุดในuniใช้สอนพวกวิศวะภาคคอม ไฟฟ้า เหล่านี้
TUNU คืออะไร?
นั่นสิคะ ชื่อuni ชื่อคณะหรืออะไรกันแน่?? เพื่อนๆหลายคนคงอยากทราบรายละเอียดหรือที่พอมีข้อมูลอยู่แล้วไม่แน่ใจว่าทราบมาถูกๆผิดๆอย่างไรก็แล้วแต่ Annieจะพาไปรู้จักและแนะนำรายละเอียดคร่าวๆให้หายเคลือบแคลงความสงสัยกันซักที TUNU(ตูนู่) เป็นโครงการของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากการร่วมกันระหว่าง2มหาวิทยาลัย นั่นก็คือ
ปัจจุบันปี2006 TUNUก้าวเข้าสู่ปีที่11 ซึ่งเกิดโครงการใหม่ และแบ่งได้ดังนี้
TEP (เทป) เป็นโครงการที่ศึกษาในประเทศไทยเป็นเวลา2ปี และต่างประเทศอีก2ปี
TU-NU (
TU-UNSW (Thammasat-New South Wales,
TEPE (เทปเป้) วิศวกรรมศาสตร์หลักสูตรภาษาอังกฤษ ศึกษาในประเทศไทยตลอด4ปี
สำหรับที่Annieจะเล่าต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดของTUNUนะคะ เพราะศึกษาอยู่ จะได้เล่าประสบการณ์ตรงเลยดีกว่า
วิศวะฯ ภาคต่างๆที่สามารถเลือกได้ มีดังนี้ค่ะ ดูแล้วสนใจกันบ้างมั้ยคะ
Industrial Engineering(อุตสาหการ)
Civil Engineering (โยธา)
Mechanical Engineering (เครื่องกล)
Chemical Engineering (เคมี)
Electrical Engineering (ไฟฟ้า)
Electronic Engineering (อิเลคทรอนิกส์)
Electrical and Electronic Engineering
Electronic and Computer Engineering
Electronic and Communication Engineering
Electronic and Industrial Control Engineering
The
การเรียนในธรรมศาสตร์ เราเรียนกันที่รังสิตค่ะ ก็เหมือนกับคณะอื่นๆ ในตึกวิศวะร่มรื่นดี ด้านหน้าตึกมีสระน้ำ(บ่อปลา) และสะพานที่มาพร้อมกับตำนานว่า "ถ้าผู้ชายสามารถปั่นจักรยานข้ามสะพานโดยมีผู้หญิงซ้อนท้ายขึ้นลงสำเร็จล่ะก็จะได้สมหวังเป็นเนื้อคู่กัน" แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าความชันของสะพานก็น่าท้าทายไม่น้อย
ห้องโครงการของเราจะอยู่ชั้นสอง มีห้องสำหรับค้นคว้าหรือพักผ่อนข้างๆห้องโครงการอีกด้วย
โทร. 0-2564-3001~9 ต่อ 3026~3028, 3196 หรือ http://www.engr.tu.ac.th
e-mail: tep_info@engr.tu.ac.th or tepe_info@engr.tu.ac.th
มาเล่าสาระด้านวิชาการบ้างดีกว่า อาจารย์ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่จบปริญญาเอกและมาสอนเป็นภาษาอังกฤษ มีอาจารย์ต่างประเทศสอนวิชาconversation ภายในห้องเรียนก็ซักถามเป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ บางทีเด็กนักเรียนเองจะหลุดภาษาไทย แต่ยังไงซะก็เหมือนเป็นการค่อยๆปรับพื้นฐานก่อนไปเรียนที่อังกฤษ
เกณฑ์การไปอังกฤษหลักๆมีสองอย่างค่ะ คือ เรียนให้ได้เกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 2.2 กับ สอบIELTSได้ 6 ขึ้นไป ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแต่สำหรับหลายๆคนก็อาจจะไม่ง่ายเลย เพราะดูจากจำนวนนักเรียนที่เข้ามามากแต่พอถึงเวลาไปก็ไปได้ไม่กี่คนเอง ทางโครงการมีข้อยกเว้นให้คือต้องพยายามสอบ IELTS ใหม่ให้ผ่านภายในหนึ่งปีและตามไปทีหลังพร้อมกับรุ่นน้อง
เมื่อครบ 2 ปีแรกจากธรรมศาสตร์ ก็เรียนต่อ 2 ปีหลังที่อังกฤษ (กล่าวก่อนเลยว่า การเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี หลังจากจบGrade 12 นักเรียนอังกฤษส่วนใหญ่จะต้องเรียน A-level 1 ปีก่อนที่จะเข้าปี 1 สรุปก็ใช้เวลา 4 ปีเท่าบ้านเรา) สำหรับนักเรียน TUNU จะเรียนปี 2 และปี 3 ในปริญญาตรีของประเทศอังกฤษค่ะ
The
Jubilee อย่างที่กล่าวแล้วนั้นส่วนใหญ่เป็นคณะจำพวกbusiness ซึ่งNottinghamก็เป็นuniที่มีชื่อเสียงทางด้านนี้เช่นกัน บรรยากาศน่าเรียน เงียบสงบ ตอนกลางคืนก็ไม่น่ากลัวแม้แต่น้อย กลับเต็มไปด้วยความโรแมนติกของlakeและbuildingของcampusนี้
การเดินทางในuniและระหว่างcampus นักเรียนส่วนใหญ่จะเดิน หรือไม่ก็นั่งรถhopper busซึ่งบริการฟรีตลอดเส้นทาง ทุกๆ15นาที
ชีวิตประจำวันของนักเรียนวิศวะอย่างAnnieนะคะก็เริ่มตั้งแต่ลุกจากเตียงในหอพัก (หุหุ! รูปห้องนอนไว้ดูทีหลังนะคะ) หอมีให้เลือกแบบcatered(มีอาหารให้)หรือself-catering(ทำอาหารเอง)
ภายนอกหอพัก(hall) ร่มรื่นมั้ยคะ ธรรมชาติสวยงาม อากาศสดชื่นมากเลยล่ะค่ะ ทางเข้าต้องใช้student cardรูด เข้าออกได้ตลอด24ชั่วโมง
ภายในhallที่Annieอยู่ก็มีcanteenอย่างภาพที่เห็น แล้วก็มีห้องนั่งเล่น TV โต๊ะสนุกเกอร์ ตู้กดน้ำ ขนม ฯลฯ เอาไว้แก้เหงาอีกด้วย
และนี่ก็คือห้องนอนของAnnieเป็นแบบen-suiteคือมีห้องนอนกับห้องน้ำในตัว ที่นี่เน้นห้องนอนเดี่ยวค่ะ ห้องจึงเล็กมาก ส่วนหออีกแบบเป็นself-cateringก็ตามภาพข้างล่างเลยค่ะ มีแบบครัวรวม(ภาพซ้าย)หรือstudio (ภาพขวา)มีครัว ตู้เย็น ไมโครเวฟ แทบทุกอย่างในห้องนอนด้วยค่ะ
ในuniตึกต่างๆจะมีแค่ 3-4 ชั้น ยกเว้นภาพด้านขวาคือtower buildingซึ่งเป็นตึกสูงที่สุดในuniใช้สอนพวกวิศวะภาคคอม ไฟฟ้า เหล่านี้
TUNU คืออะไร?
นั่นสิคะ ชื่อuni ชื่อคณะหรืออะไรกันแน่?? เพื่อนๆหลายคนคงอยากทราบรายละเอียดหรือที่พอมีข้อมูลอยู่แล้วไม่แน่ใจว่าทราบมาถูกๆผิดๆอย่างไรก็แล้วแต่ Annieจะพาไปรู้จักและแนะนำรายละเอียดคร่าวๆให้หายเคลือบแคลงความสงสัยกันซักที TUNU(ตูนู่) เป็นโครงการของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากการร่วมกันระหว่าง2มหาวิทยาลัย นั่นก็คือ
ปัจจุบันปี2006 TUNUก้าวเข้าสู่ปีที่11 ซึ่งเกิดโครงการใหม่ และแบ่งได้ดังนี้
TEP (เทป) เป็นโครงการที่ศึกษาในประเทศไทยเป็นเวลา2ปี และต่างประเทศอีก2ปี
TU-NU (
TU-UNSW (Thammasat-New South Wales,
TEPE (เทปเป้) วิศวกรรมศาสตร์หลักสูตรภาษาอังกฤษ ศึกษาในประเทศไทยตลอด4ปี
สำหรับที่Annieจะเล่าต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดของTUNUนะคะ เพราะศึกษาอยู่ จะได้เล่าประสบการณ์ตรงเลยดีกว่า
วิศวะฯ ภาคต่างๆที่สามารถเลือกได้ มีดังนี้ค่ะ ดูแล้วสนใจกันบ้างมั้ยคะ
Industrial Engineering(อุตสาหการ)
Civil Engineering (โยธา)
Mechanical Engineering (เครื่องกล)
Chemical Engineering (เคมี)
Electrical Engineering (ไฟฟ้า)
Electronic Engineering (อิเลคทรอนิกส์)
Electrical and Electronic Engineering
Electronic and Computer Engineering
Electronic and Communication Engineering
Electronic and Industrial Control Engineering
The
การเรียนในธรรมศาสตร์ เราเรียนกันที่รังสิตค่ะ ก็เหมือนกับคณะอื่นๆ ในตึกวิศวะร่มรื่นดี ด้านหน้าตึกมีสระน้ำ(บ่อปลา) และสะพานที่มาพร้อมกับตำนานว่า "ถ้าผู้ชายสามารถปั่นจักรยานข้ามสะพานโดยมีผู้หญิงซ้อนท้ายขึ้นลงสำเร็จล่ะก็จะได้สมหวังเป็นเนื้อคู่กัน" แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าความชันของสะพานก็น่าท้าทายไม่น้อย
ห้องโครงการของเราจะอยู่ชั้นสอง มีห้องสำหรับค้นคว้าหรือพักผ่อนข้างๆห้องโครงการอีกด้วย
โทร. 0-2564-3001~9 ต่อ 3026~3028, 3196 หรือ http://www.engr.tu.ac.th
e-mail: tep_info@engr.tu.ac.th or tepe_info@engr.tu.ac.th
มาเล่าสาระด้านวิชาการบ้างดีกว่า อาจารย์ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่จบปริญญาเอกและมาสอนเป็นภาษาอังกฤษ มีอาจารย์ต่างประเทศสอนวิชาconversation ภายในห้องเรียนก็ซักถามเป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ บางทีเด็กนักเรียนเองจะหลุดภาษาไทย แต่ยังไงซะก็เหมือนเป็นการค่อยๆปรับพื้นฐานก่อนไปเรียนที่อังกฤษ
เกณฑ์การไปอังกฤษหลักๆมีสองอย่างค่ะ คือ เรียนให้ได้เกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 2.2 กับ สอบIELTSได้ 6 ขึ้นไป ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแต่สำหรับหลายๆคนก็อาจจะไม่ง่ายเลย เพราะดูจากจำนวนนักเรียนที่เข้ามามากแต่พอถึงเวลาไปก็ไปได้ไม่กี่คนเอง ทางโครงการมีข้อยกเว้นให้คือต้องพยายามสอบ IELTS ใหม่ให้ผ่านภายในหนึ่งปีและตามไปทีหลังพร้อมกับรุ่นน้อง
เมื่อครบ 2 ปีแรกจากธรรมศาสตร์ ก็เรียนต่อ 2 ปีหลังที่อังกฤษ (กล่าวก่อนเลยว่า การเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี หลังจากจบGrade 12 นักเรียนอังกฤษส่วนใหญ่จะต้องเรียน A-level 1 ปีก่อนที่จะเข้าปี 1 สรุปก็ใช้เวลา 4 ปีเท่าบ้านเรา) สำหรับนักเรียน TUNU จะเรียนปี 2 และปี 3 ในปริญญาตรีของประเทศอังกฤษค่ะ
The
Jubilee อย่างที่กล่าวแล้วนั้นส่วนใหญ่เป็นคณะจำพวกbusiness ซึ่งNottinghamก็เป็นuniที่มีชื่อเสียงทางด้านนี้เช่นกัน บรรยากาศน่าเรียน เงียบสงบ ตอนกลางคืนก็ไม่น่ากลัวแม้แต่น้อย กลับเต็มไปด้วยความโรแมนติกของlakeและbuildingของcampusนี้
การเดินทางในuniและระหว่างcampus นักเรียนส่วนใหญ่จะเดิน หรือไม่ก็นั่งรถhopper busซึ่งบริการฟรีตลอดเส้นทาง ทุกๆ15นาที
ชีวิตประจำวันของนักเรียนวิศวะอย่างAnnieนะคะก็เริ่มตั้งแต่ลุกจากเตียงในหอพัก (หุหุ! รูปห้องนอนไว้ดูทีหลังนะคะ) หอมีให้เลือกแบบcatered(มีอาหารให้)หรือself-catering(ทำอาหารเอง)
ภายนอกหอพัก(hall) ร่มรื่นมั้ยคะ ธรรมชาติสวยงาม อากาศสดชื่นมากเลยล่ะค่ะ ทางเข้าต้องใช้student cardรูด เข้าออกได้ตลอด24ชั่วโมง
ภายในhallที่Annieอยู่ก็มีcanteenอย่างภาพที่เห็น แล้วก็มีห้องนั่งเล่น TV โต๊ะสนุกเกอร์ ตู้กดน้ำ ขนม ฯลฯ เอาไว้แก้เหงาอีกด้วย
และนี่ก็คือห้องนอนของAnnieเป็นแบบen-suiteคือมีห้องนอนกับห้องน้ำในตัว ที่นี่เน้นห้องนอนเดี่ยวค่ะ ห้องจึงเล็กมาก ส่วนหออีกแบบเป็นself-cateringก็ตามภาพข้างล่างเลยค่ะ มีแบบครัวรวม(ภาพซ้าย)หรือstudio (ภาพขวา)มีครัว ตู้เย็น ไมโครเวฟ แทบทุกอย่างในห้องนอนด้วยค่ะ
ในuniตึกต่างๆจะมีแค่ 3-4 ชั้น ยกเว้นภาพด้านขวาคือtower buildingซึ่งเป็นตึกสูงที่สุดในuniใช้สอนพวกวิศวะภาคคอม ไฟฟ้า เหล่านี้
อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ไปชมด้านอื่นๆในuniกันบ้างดีกว่า...
อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ไปชมด้านอื่นๆในuniกันบ้างดีกว่า...
อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ไปชมด้านอื่นๆในuniกันบ้างดีกว่า...
อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ไปชมด้านอื่นๆในuniกันบ้างดีกว่า...
อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ไปชมด้านอื่นๆในuniกันบ้างดีกว่า...
อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ไปชมด้านอื่นๆในuniกันบ้างดีกว่า...
อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ไปชมด้านอื่นๆในuniกันบ้างดีกว่า...
อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ไปชมด้านอื่นๆในuniกันบ้างดีกว่า...
อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ไปชมด้านอื่นๆในuniกันบ้างดีกว่า...
อย่างที่บอกไป
นอกจากนี้ภายในuniก็มีกิจกรรมสำหรับนักเรียนมากมาย และทุกวันพุธจะเรียนครึ่งวันเพื่อเน้นให้นักเรียนไปเล่นกีฬา มีSport centreพร้อมสระว่ายน้ำในตัวUniversity Park Campusเช่นกัน
ที่Annieเล่ามาทั้งหมดนี้ไม่ใช่การโอ้อวดว่าTUNUมีเงินเรียนเมืองนอกอะไรแบบนั้น แต่Annieอยากให้เพื่อนๆมองอีกมุมเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับตัดสินใจศึกษาต่อในวันข้างหน้ามากกว่าค่ะ ทราบมั้ยคะว่าTUNUมีข้อดีอะไร
1.ค่าเรียนที่ถูกกว่าปกติ เพราะว่า จะได้ลดค่าเทอมปีละ 25% ถ้าจ่ายทั้งหมดตามกำหนดเวลาก็ได้ลดเพิ่มอีก3-5% ถ้ามาเรียนเองก็ต้องจ่ายเต็มนะคะ
2.ปกติวิศวะที่นี่เอาIELTS 6.5ค่ะ แต่ถ้าเข้าโครงการนี้เค้าลดหย่อนแค่ IELTS 6ก็มาเรียนได้แล้วค่ะ
3.การต่อโทที่ประเทศอังกฤษง่ายขึ้น ข้อดีของปริญญาโทที่อังกฤษคือเรียนแค่ 1 ปีซะส่วนใหญ่ เกณฑ์สำหรับuniที่มีชื่อเสียงและเข้ายากก็คือ ต้องได้ 2-1 เป็นต้นไป (ประมาณ GPA 3.5) และสำหรับนักเรียนที่ไม่ได้จบจากอังกฤษหรืออยู่อังกฤษก่อนอย่างน้อย2ปีก็ต้องสอบให้ผ่าน IELTS 7 ขึ้นไป มันไม่ง่ายเลยค่ะ
แต่สำหรับTUNUที่มาเรียน การเอา2-1นั้นง่ายกว่า การได้3.5ที่เมืองไทยเยอะ และซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องสอบวัดทางภาษาอังกฤษอย่างIELTSซ้ำอีกรอบด้วย เพราะมีใบจบตรีจากuniในอังกฤษเองอยู่แล้ว
ผลสำเร็จด้านการเรียนวัดจาก%ดังนี้
First class honor (70% up)
Second class honor (60-69%) 2-1 (upper second honor)
(50-59%) 2-2 (lower second honor)
Third class honor (40-49%)
Ordinary (below 40%)
ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร ปีละไม่เกิน สองล้าน อยู่ชัวร์ แจกแจงได้ดังนี้
ค่าเทอมต่อปี 10000 กว่าปอนด์ ลดไป 25% จะเหลือไม่น่าเกิน 9000 ปอนด์
ค่าหอ 4500 ปอนด์ (บวกลบ) ถ้าอยู่บ้านก็อาจถูกกว่านี้
ค่าใช้จ่าย ถ้าใช้เดือนละ 500x9=4500 ปอนด์
ค่าเครื่องบินไป-กลับ 45000 บาท
รวม 2 ปี คิดrate1ปอนด์=75บาท เป็นเงิน 2790000 บาท
เส้นทางชีวิตมีมากมายหลายหลาก ขึ้นอยู่กับคุณที่ว่าจะเลือกให้ไปทางไหน โอกาสมี เงินพร้อม เพื่อเรียนก็ควรตั้งใจ ทดแทนบุญคุณอันยิ่งใหญ่แก่บุพการีและสังคม
TUNU ในอีกมุม..ที่คุณไม่เคยรู้จัก………………….by Annie
นอกจากนี้ภายในuniก็มีกิจกรรมสำหรับนักเรียนมากมาย และทุกวันพุธจะเรียนครึ่งวันเพื่อเน้นให้นักเรียนไปเล่นกีฬา มีSport centreพร้อมสระว่ายน้ำในตัวUniversity Park Campusเช่นกัน
ที่Annieเล่ามาทั้งหมดนี้ไม่ใช่การโอ้อวดว่าTUNUมีเงินเรียนเมืองนอกอะไรแบบนั้น แต่Annieอยากให้เพื่อนๆมองอีกมุมเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับตัดสินใจศึกษาต่อในวันข้างหน้ามากกว่าค่ะ ทราบมั้ยคะว่าTUNUมีข้อดีอะไร
1.ค่าเรียนที่ถูกกว่าปกติ เพราะว่า จะได้ลดค่าเทอมปีละ 25% ถ้าจ่ายทั้งหมดตามกำหนดเวลาก็ได้ลดเพิ่มอีก3-5% ถ้ามาเรียนเองก็ต้องจ่ายเต็มนะคะ
2.ปกติวิศวะที่นี่เอาIELTS 6.5ค่ะ แต่ถ้าเข้าโครงการนี้เค้าลดหย่อนแค่ IELTS 6ก็มาเรียนได้แล้วค่ะ
3.การต่อโทที่ประเทศอังกฤษง่ายขึ้น ข้อดีของปริญญาโทที่อังกฤษคือเรียนแค่ 1 ปีซะส่วนใหญ่ เกณฑ์สำหรับuniที่มีชื่อเสียงและเข้ายากก็คือ ต้องได้ 2-1 เป็นต้นไป (ประมาณ GPA 3.5) และสำหรับนักเรียนที่ไม่ได้จบจากอังกฤษหรืออยู่อังกฤษก่อนอย่างน้อย2ปีก็ต้องสอบให้ผ่าน IELTS 7 ขึ้นไป มันไม่ง่ายเลยค่ะ
แต่สำหรับTUNUที่มาเรียน การเอา2-1นั้นง่ายกว่า การได้3.5ที่เมืองไทยเยอะ และซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องสอบวัดทางภาษาอังกฤษอย่างIELTSซ้ำอีกรอบด้วย เพราะมีใบจบตรีจากuniในอังกฤษเองอยู่แล้ว
ผลสำเร็จด้านการเรียนวัดจาก%ดังนี้
First class honor (70% up)
Second class honor (60-69%) 2-1 (upper second honor)
(50-59%) 2-2 (lower second honor)
Third class honor (40-49%)
Ordinary (below 40%)
ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร ปีละไม่เกิน สองล้าน อยู่ชัวร์ แจกแจงได้ดังนี้
ค่าเทอมต่อปี 10000 กว่าปอนด์ ลดไป 25% จะเหลือไม่น่าเกิน 9000 ปอนด์
ค่าหอ 4500 ปอนด์ (บวกลบ) ถ้าอยู่บ้านก็อาจถูกกว่านี้
ค่าใช้จ่าย ถ้าใช้เดือนละ 500x9=4500 ปอนด์
ค่าเครื่องบินไป-กลับ 45000 บาท
รวม 2 ปี คิดrate1ปอนด์=75บาท เป็นเงิน 2790000 บาท
เส้นทางชีวิตมีมากมายหลายหลาก ขึ้นอยู่กับคุณที่ว่าจะเลือกให้ไปทางไหน โอกาสมี เงินพร้อม เพื่อเรียนก็ควรตั้งใจ ทดแทนบุญคุณอันยิ่งใหญ่แก่บุพการีและสังคม
TUNU ในอีกมุม..ที่คุณไม่เคยรู้จัก………………….by Annie
นอกจากนี้ภายในuniก็มีกิจกรรมสำหรับนักเรียนมากมาย และทุกวันพุธจะเรียนครึ่งวันเพื่อเน้นให้นักเรียนไปเล่นกีฬา มีSport centreพร้อมสระว่ายน้ำในตัวUniversity Park Campusเช่นกัน
ที่Annieเล่ามาทั้งหมดนี้ไม่ใช่การโอ้อวดว่าTUNUมีเงินเรียนเมืองนอกอะไรแบบนั้น แต่Annieอยากให้เพื่อนๆมองอีกมุมเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับตัดสินใจศึกษาต่อในวันข้างหน้ามากกว่าค่ะ ทราบมั้ยคะว่าTUNUมีข้อดีอะไร
1.ค่าเรียนที่ถูกกว่าปกติ เพราะว่า จะได้ลดค่าเทอมปีละ 25% ถ้าจ่ายทั้งหมดตามกำหนดเวลาก็ได้ลดเพิ่มอีก3-5% ถ้ามาเรียนเองก็ต้องจ่ายเต็มนะคะ
2.ปกติวิศวะที่นี่เอาIELTS 6.5ค่ะ แต่ถ้าเข้าโครงการนี้เค้าลดหย่อนแค่ IELTS 6ก็มาเรียนได้แล้วค่ะ
3.การต่อโทที่ประเทศอังกฤษง่ายขึ้น ข้อดีของปริญญาโทที่อังกฤษคือเรียนแค่ 1 ปีซะส่วนใหญ่ เกณฑ์สำหรับuniที่มีชื่อเสียงและเข้ายากก็คือ ต้องได้ 2-1 เป็นต้นไป (ประมาณ GPA 3.5) และสำหรับนักเรียนที่ไม่ได้จบจากอังกฤษหรืออยู่อังกฤษก่อนอย่างน้อย2ปีก็ต้องสอบให้ผ่าน IELTS 7 ขึ้นไป มันไม่ง่ายเลยค่ะ
แต่สำหรับTUNUที่มาเรียน การเอา2-1นั้นง่ายกว่า การได้3.5ที่เมืองไทยเยอะ และซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องสอบวัดทางภาษาอังกฤษอย่างIELTSซ้ำอีกรอบด้วย เพราะมีใบจบตรีจากuniในอังกฤษเองอยู่แล้ว
ผลสำเร็จด้านการเรียนวัดจาก%ดังนี้
First class honor (70% up)
Second class honor (60-69%) 2-1 (upper second honor)
(50-59%) 2-2 (lower second honor)
Third class honor (40-49%)
Ordinary (below 40%)
ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร ปีละไม่เกิน สองล้าน อยู่ชัวร์ แจกแจงได้ดังนี้
ค่าเทอมต่อปี 10000 กว่าปอนด์ ลดไป 25% จะเหลือไม่น่าเกิน 9000 ปอนด์
ค่าหอ 4500 ปอนด์ (บวกลบ) ถ้าอยู่บ้านก็อาจถูกกว่านี้
ค่าใช้จ่าย ถ้าใช้เดือนละ 500x9=4500 ปอนด์
ค่าเครื่องบินไป-กลับ 45000 บาท
รวม 2 ปี คิดrate1ปอนด์=75บาท เป็นเงิน 2790000 บาท
เส้นทางชีวิตมีมากมายหลายหลาก ขึ้นอยู่กับคุณที่ว่าจะเลือกให้ไปทางไหน โอกาสมี เงินพร้อม เพื่อเรียนก็ควรตั้งใจ ทดแทนบุญคุณอันยิ่งใหญ่แก่บุพการีและสังคม
TUNU ในอีกมุม..ที่คุณไม่เคยรู้จัก………………….by Annie
ผลงานอื่นๆ ของ WM ปอนปอน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ WM ปอนปอน
ความคิดเห็น