ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( EXO ) AB STYLE TAO ❤

    ลำดับตอนที่ #1 : 5:02 TIME TO LOVE (Kris x Tao)

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 57




    Happy Birthday TAO 

    5:02  TIME TO LVE 


    KRIS x TAO



     


     

                    วันพรุ่งนี้คือวันที่ 2 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของหวง จื่อเทา ตอนแรกEXOไม่มีตารางงาน แต่ฝั่ง M ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน The 12th korea time music festival อย่างกะทันหัน โดยงานจัดที่ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา 

                    ถึงจะมีการรับงานอย่างกระทันหัน เทาก็ยังอารมณ์ดีจนคนอื่นสังเกตได้ ช่วงบ่ายของวันต้องไปร้านทำผม เทาแต่งหน้าทำผมเสร็จเป็นคนแรก เขาจึงอาสาไปซื้อกาแฟให้สมาชิกในวงด้วยตัวเอง ทั้งที่ปกติแล้วทุกคนจะต้องสั่งให้เขาทำโดยอ้างตำแหน่งมักเน่
     

    เวลาประมาณสี่โมงของเกาหลี EXO-M มาถึงสนามบินอินชอนเพื่อเตรียมขึ้นเครื่องในเวลาอีกไม่นาน แฟนๆหลายคนแปลกใจกับแฟชั่นสนามบินของเทาวันนี้ เขามาในชุดเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเชิ้ตลายสก็อตขาวดำ กางเกงยีนส์สีเข้ม มีหมวกฮิปฮอปสีขาวใส่คู่กับแว่นกันแดด สะพายกระเป๋าเป้สีดำเรียบๆหนึ่งใบที่ไม่ใช่กุชชี่ใบโปรด
     

    ลุคเทาวันนี้ดูชิวๆ ไม่ใช่แนวเอบีสไตล์หรือมาเฟียฮ่องกงอย่างเคย ดูเหมือนวัยรุ่นหน้าตาดีที่แต่งตัวเก่งคนหนึ่งเสียมากกว่า แต่นั่นแหละที่ทำให้ดูเท่และแมนมาก ระหว่างทางที่เดินเข้าแอร์พอร์ต มีแฟนคลับหลายคนตะโกนอวยพรวันเกิดเทา เขายิ้มรับและพูดขอบคุณหลายครั้ง รูปถ่ายจากแฟนๆวันนี้คงยืนยันได้ว่าเห็นรอยยิ้มของเทาบ่อยแค่ไหน  
     

                     EXO-M ขึ้นไปนั่งบนเครื่องเวลาประมาณสี่โมงครึ่งของเกาหลี เที่ยวบินนี้ถูกจองเป็นชาร์เตอร์ ไฟล์ท เพราะระยะทางจากเกาหลีไปลอสแอนเจลิส ใช้เวลาบินประมาณสิบสามชั่วโมง หากเป็นเที่ยวบินรวมแล้วบังเอิญเจอแฟนคลับ ทางบริษัทกลัวว่าศิลปินจะอึดอัดได้จากเวลาเดินทางที่ยาวนาน
     

    ทุกคนเดินเข้าไปหาที่นั่งของตัวเอง เทานั่งกับคริส ถัดมาเป็นลู่หานกับซิ่วหมิน และเฉินกับเลย์นั่งอยู่หลังสุด เครื่องจะบินขึ้นเวลาห้าโมงตรง เทาหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า

                    “คริสฮยอง”
     

                    “หืม ว่าไงเทา” เทาไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยื่นกระเป๋าเป้ของตัวเองให้คริสแทน คนร่างสูงถอนหายใจ ก่อนจะรับเป้ของเทามาวางไว้บนตัก
     

                    “ผมให้ไว้บนที่วางสัมภาระต่างหาก” 
     

                    “รู้น่า แต่เดี๋ยวนายก็จะเอานู่นเอานี่ พี่ต้องคอยลุกหยิบตลอด วางไว้เนี่ยแหละ” คริสตอบพลางนึกถึงครั้งก่อนๆที่นั่งด้วยกันแล้วเขาเอากระเป๋าของเทาไว้บนชั้นวางของ เทาอยากได้ของในกระเป๋าทุกสิบนาที ที่วางของฝั่งตัวเองมีไม่ยอมไว้ ต้องให้เขาดูแลให้ตลอด
     

                    “ตามใจครับ”  เทาละสายตาจากคริสมาสนใจมือถือของตัวเองแทน เขากดเข้าไปในเว็บweibo เพราะคาดว่าคงมีแฟนๆมาอวยพรเขากันบ้างแล้ว และเขาเดาไม่ผิด ข้อความจากแฟนๆทำให้เขายิ้มออกมาเป็นระยะๆ
     

                    “รีบตอบแฟนคลับสิเทา เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงก็ต้องเปิดแอร์เพลน โหมดแล้วนะ” คริสพูดขึ้น นิ้วก็ชี้ที่มือถือคนเด็กกว่าไปด้วย
     

                    “พี่แอบอ่านได้ไง ไปเล่นของตัวเองสิ” เทาดันมือคริสออก เพื่อจะพิมข้อความตอบแฟนคลับ
     

                    “ไม่เอา อยากอ่านกับเทา” ร่างสูงทำเสียงรั้นๆ พลางก้มดูข้อความในweiboของเทาต่อ
     

    เทาเบ้ปากใส่คริส เสียงของตุ้ยจ่าง ทำให้เขาอดหมั่นไส้เล็กๆไม่ได้ ...ชอบทำอะไรไม่เข้ากับตัวอยู่เรื่อย คิดว่าตัวเล็กน่ารักรึไง ทำเสียงทำหน้ามุ้งมิ้ง ทั้งที่สูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบ หน้าตาอย่างกับพระเอกซีรีย์แท้ๆ ฮอล เทาเหนื่อยใจ
     

    ร่างโปร่งพิมข้อความเพื่อตอบขอบคุณแฟนคลับด้วยภาษาจีน เขานึกถึงเรื่องที่ว่าจะไม่สามารถฉลองวันเกิดร่วมกับสมาชิกทั้งวงได้ก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อย แต่ก็เลือกจะพิมไปว่าไม่เป็นไร จริงๆแล้ว...เพราะคริสยังอยู่กับเขาในวันเกิดนั่นแหละ เขาถึงยังอารมณ์ดีแบบนี้อยู่
     

    “เทา เอาหมอนรองคอมารึเปล่า”
     

    “ไม่ได้เอามาครับ”
     

    “พี่ปวดหัว อยากนอน”
     

    “นอนสิครับ เลื่อนพนักพิงลงเยอะๆ นอนสบายจะตาย” เทาชี้ที่เลื่อนเบาะไปด้วย

    “เลื่อนมาเลยคริส ที่ว่างตั้งเยอะ” ลู่หานพูดขึ้นจากเบาะหลังเพราะได้ยินบทสนทนาของตุ้ยจ่างกับมักเน่
     

    “ไม่เป็นไรหรอก ลู่หาน” คริสตอบพร้อมกับแอบภาวนาในใจให้ลู่หานช่วยสวีทกับซิ่วหมินไปตลอดการเดินทาง ไม่ต้องสนใจฟังเขากับเทาคุยกัน เพราะทุกทีที่นั่งแบบนี้ ลู่หานก็ชอบเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยตลอด
     

    “เทา” คริสเรียกอีกครั้ง คนถูกเรียกยังสนใจมือถือตรงหน้าอยู่ ตั้งใจหารูปหล่อๆเพื่อเปลี่ยนดิสเพลย์weiboใหม่
     

    “จื่อเทา”
     

    “หือ ครับ?” เทาขานรับโดยที่ยังไม่หันไปสนใจคริส ร่างสูงถอนหายใจยาวๆ ...ไอโฟนทำให้คนไกลมาใกล้กันได้ แล้วยังทำให้คนใกล้เป็นคนไกลได้อีกนะครับ นี่เทาสนใจมือถือมากกว่าผมมากไปละ L
     

    คริสหยิบหมอนกับผ้าห่มที่เครื่องบินมีบริการไว้ให้ออกมา เขาเอาผ้าห่มห่มไว้ที่ช่วงตักของทั้งเขากับเทา แล้วยังจัดแจงวางหมอนไว้ที่บ่าอีกคน ก่อนจะเอนตัวไปหาเทาเงียบๆ ศีรษะชนศีรษะพอดี ทำให้เทาละความสนใจจากมือถือ
     

    “คริสฮยอง นอนแบบนี้แล้วผมจะเล่นมือถือได้ยังไง” 
     

    “ไม่ต้องเล่นแล้ว เล่นมากๆ เดี๋ยวสายตาสั้นนะ” คริสเตือนพร้อมกับคว้ามือถือออกจากมือเทา จัดการกดล็อคหน้าจอแล้วเก็บใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย โดยที่หัวยังพิงอีกคนอยู่ไม่ขยับไปไหน
     

    “นอนกันเถอะ”
     

    “ก็ได้ครับ” เทาตอบรับอย่างจำนน อย่างน้อยเมื่อกี้เขาก็ได้เปลี่ยนดิสเพลย์ไปแล้ว ค่อยเล่นตอนถึงสนามบินที่นู่นก็ได้
     

                    เทาเอนศีรษะพิงเบาะ ยังไม่ทันหลับตาก็รู้สึกว่ามันเงียบไป เทาสะกิดคริสเล็กน้อย ทำท่าบอกว่าต้องการหูฟัง คริสหยิบมือถือของตัวเองออกมาพร้อมหูฟัง เขาจัดการเลือกเพลงและต่อหูฟังเสร็จสรรพ พวกเขาแบ่งกันใช้หูฟังคนละข้าง เทาอมยิ้มเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะเพลงที่ฟัง แต่เพราะการกระทำของคริส
     

                    “เทา วันเกิดอยากได้อะไร” คริสถามขึ้นเบาๆ เทาใช้ศีรษะดันให้คริสขยับขึ้นเพื่อที่เขาจะได้เป็นฝ่ายพิงแทน
     

                    “กุชชี่คอลเล็คชั่นใหม่”  เหมือนกับเห็นภาพเงินทั้งกระเป๋าถูกกวาดเรียบโดยเซเลบแพนด้ากุชชี่ คริสแอบนึกถึงแบล็คการ์ดของซูโฮอย่างเงียบๆ ...คอลเล็คชั่นใหม่นี่หมายถึงยกเซ็ตปะวะ -_- ชิบหายละกู...
     

                    “ผมล้อเล่นนะ” ร่างโปร่งหัวเราะในลำคอ พลางบอกใหม่อีกครั้ง
     

                    “อยากได้ของขวัญที่คริสฮยองให้ได้แค่คนเดียว”
     

                    “ให้ได้แค่คนเดียว?” คริสทวนคำพูด เทาผละออกจากบ่ากว้าง แล้วหันไปฉีกยิ้มให้

                    “อื้อ คนเดียวบนโลกนี้เลยนะ” ถึงจะย้ำความยากลำบากในการหาของขวัญให้ร่างสูงมากขึ้น แต่เขาก็ยินดี ยินดีหาของขวัญที่จะทำให้ได้ยิ้มแบบนี้นานๆ รอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานานกว่าสองอาทิตย์ เพราะเทาทั้งล้มป่วยและซ้อมเต้นหนัก
     

                    “โอเค จะทำให้เป็นของขวัญจากคนๆเดียวในกาแล็กซี่เลย” คำตอบที่ฟังดูเกินจริงนั่นทำให้เทาหัวเราะเบาๆ พักหลังมานี้ กาแล็กซี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของหัวหน้าวงฝั่งMไปเสียแล้ว
     

                    “แล้วผมจะรอนะ”
     

                    คริสยิ้มให้โดยไม่ตอบอะไร มือหนาเอื้อมไปดึงให้อีกฝ่ายเอนตัวมาพิงตนเองอีกครั้ง เทาขยับตามโดยไม่ขืนอะไร พอเงียบเสียงลง กอปรกับเพลงจากหูฟังเบาๆ ทำให้เทาเริ่มหนักที่เปลือกตาบ้างแล้ว คริสดีใจที่การบินไปแอลเจครั้งนี้ไม่ได้นั่งเฟิร์สคลาสสุดหรู เพราะถ้าเป็นที่นั่งคู่มีเบาะกั้น หรือเป็นที่นั่งเดี่ยว เขาคงไม่มีโอกาสจะนอนพิงเทาและฟังเพลงด้วยกันแบบนี้
     

                    สองเดือนให้หลังมานี้ ทั้งสองคนทั้งซ้อมเต้นเยอะ งานก็เยอะ ต่างคนต่างเหนื่อย เวลาอยู่กันสองคนจริงๆแทบไม่มี ถ้ามีเวลาว่างพอจะไปเที่ยวเมื่อไหร่ เซฮุนก็ติดเทา ไม่สิ...เทานั่นแหละติดเซฮุน ไปด้วยกันสองคนตลอด อาทิตย์ที่ผ่านมานี้มีพ่วงไคไปด้วยอีกคน จนบางทีเขานึกสงสัยว่าตัวเองเป็นแฟนเทารึเปล่า ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานแล้ว
     

    เรื่องของขวัญที่จะให้เทาพรุ่งนี้ ทำให้เขานึกถึงเรื่องที่ไปขอร้องชานยอลเมื่อสองอาทิตย์ก่อน...ตอนนี้เขายังไม่มั่นใจว่ามันดีพอจะให้เทารึยัง แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือ เขาจะเป็นคนเดียวที่ให้ของขวัญแบบนี้กับเทา

     

    .

    .

    .
     

    เครื่องบินอยู่บนฟ้าข้ามน้ำข้ามมหาสมุทรมานานเกือบเจ็ดชั่วโมง เวลาใกล้เที่ยงคืนของเกาหลีแล้ว คริสเป็นคนเดียวที่ตื่นอยู่ ส่วนคนอื่นๆหลับไปนานแล้วหลังจากทานข้าวและดูหนังเมื่อหลายชั่วโมงก่อน เขาลุกขึ้นยืนเพื่อจะเช็คว่าสมาชิกคนอื่นหลับสนิทดีหรือไม่  
     

    มือหนาเคาะพนักวางแขนขณะรอเวลาเที่ยงคืน เทาหลับสนิททั้งที่ยังใส่หูฟังทั้งสองข้าง คริสดูเวลาที่นาฬิกาอีกครั้ง...อีกสามนาทีจะเที่ยงคืน ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเครื่องบินอยู่ตรงประเทศไหนและเวลาอะไร เขาจึงยึดเวลาเกาหลีไว้สำหรับวันเกิดเทา
     

    อีกสองนาที…
     

    อีกหนึ่งนาที...
     

    คริสดึงหูฟังของเทาออก แล้วตบบ่าเบาๆเพื่อปลุก เทาพูดงึมงำอะไรในลำคอนิดหน่อย ก่อนจะเงียบไป คริสจึงเขย่าแขนเทาแรงๆแทน ร่างโปร่งปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาที่ยังปรับแสงไม่ทัน ทำให้เขามุดตัวเข้าไปหาคริสเพราะแสบตา
     

    “จื่อเทา ตื่นได้แล้ว”
     

    “งือออ”  เทาส่ายหัวทั้งที่ยังซบไหล่กว้างอยู่
     

    อีกสามสิบวินาที...
     

    “ถึงแอลเอแล้วนะเทา!” เสียงเข้มจริงจัง ทำให้เทาสะดุ้งขึ้นมาจากเบาะ แต่เพราะลุกพรวดขึ้นมา เลยเกิดอาการหน้ามืดเล็กน้อย คริสดึงให้เทานั่งลงเหมือนเดิม

    “ถึงแล้วเหรอฮยอง...”
     

    “เปล่า ยังไม่ถึงหรอก” พอรู้ว่าโดนหลอก ร่างโปร่งก็ถลึงตาใส่ ยังไม่ถึงแล้วปลุกทำไม ถูกปลุกแล้วลุกเร็วๆแบบเมื่อกี้ ทำให้มึนหัวไปหมด
     

    อีกสามวินาที
     

    คริสเอื้อมมือไปเชยคางมนมาใกล้ อาการมึนหัวของเทาหายไปเพราะตกใจกับการกระทำของร่างสูง
     

    “คริสฮยอง”
     

    สองวินาที

    หนึ่งวินาที
     

    “สุขสันต์วันเกิดนะจื่อเทา” ไม่เปิดให้อีกฝ่ายพูดหรือถามอะไรต่อ ร่างสูงโน้มตัวเข้าไปหา ประกบริมฝีปากเรียวได้รูปอย่างแผ่วเบา ส่งเรียวลิ้นเข้าไปควานหาความหวาน โดยไม่สนว่าอีกคนกำลังมึนจากอาการเพิ่งตื่นนอน เขาจูบหนักๆ ก่อนจะผละออกมา
     

    “คะ...”
     

    คริสใช้นิ้วแตะริมฝีปากบางนั่นเป็นสัญญาณบอกให้เงียบ เทาหยุดพูด เพราะกังวลว่าคริสจะเข้ามาทำอะไรอีก
     

    “ฟังพี่อวยพรก่อนนะครับ” เมื่อคริสพูดแบบนั้น เทาจึงพยักหน้ารับ
     

    “ขอให้เทามีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดก็สมปรารถนา มีแต่คนรักมากขึ้นทุกวันนะครับ”
     

    “ครับ”
     

    “พี่อยากอวยพรเราเป็นคนแรก อยากอวยพรให้ตรงเวลาเลยต้องปลุก ขอโทษนะ”
     

    “ไม่เป็นไร...”
     

    “ของขวัญเตรียมไว้แล้ว จะให้ตอนถึงแอลเอนะ”
     

    “โอเคครับ”
     

    “แล้วก็...”  คริสเว้นช่วงเพื่อดูปฏิกิริยาตอบรับจากอีกฝ่าย พอเห็นเทาเอียงคอด้วยท่าทางสงสัยแบบนั้น คริสจึงพูดต่อ
     

    “พี่รักเทามากๆนะครับ อยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไปนะ” พูดจบก็ดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่น ก่อนจะจูบกลุ่มผมสีเงินด้วยความรักใคร่
     

    ในสายตาคนอื่น เทาอาจตัวสูงใหญ่ ดูโตเกินว่าจะเป็นมักเน่ไลน์ เก่งทั้งศิลปะป้องกันตัวและกีฬาบาสเกตบอล แต่นั่นมันแค่สายตาคนอื่น สำหรับคริสแล้ว เทาเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง เด็กที่ชอบเอาแต่ใจ ชอบงอแง แต่ก็อ้อนเขามากที่สุด ตอนแรกเคยคิดว่านิสัยไม่เหมาะกับภายนอกสักนิด...แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว คริสรักเทาที่เป็นแบบนี้ ตัวใหญ่ยังไง ก็ตัวเล็กกว่าเขาอยู่ดี ดื้อก็ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายเทาจะก็เชื่อฟังคริสอยู่ดี
     

    เรื่องแคร์คนอื่นน่ะ มันไม่สำคัญเท่าแคร์ความรู้สึกของคนสองคนหรอก

    “ผมก็รักคริสฮยองนะ” เทาพูดพลางซบที่แผ่นอกกว้างนั่น คงเพราะไม่อยากให้คริสเห็นแก้มแดงๆของตน
     

    ระหว่างที่ตุ้ยจ่างและน้องเล็กของฝั่งเอ็มกำลังงุ้งงิ้งกันอยู่ คนอายุมากสุดในวงสองคนแอบถอนหายใจกันอย่างเงียบๆ ซิ่วหมินตั้งปลุกแบบสั่นเอาไว้ตอนเที่ยงคืน ว่าจะอวยพรวันเกิดน้องซะหน่อย ยังไม่ทันแสดงตัวว่าตื่น ก็ดันเห็นฉากจูบจะๆตา เลยต้องแกล้งหลับต่อ ...ดูท่าทางแสดงตัวตอนนี้คงไม่ทันแล้ว ปล่อยให้สวีทกันไปดีกว่า ค่อยแฮปตอนเช้าละกันนะเทาย่า
     

    .

    .

    .

     

    งาน The 12th korea time music festival ที่ลอสแอนเจลิสสิ้นสุดลงในเวลาสามทุ่ม เวลาที่ห่างกันถึงสิบเจ็ดชั่วโมงไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของEXO-M แต่นั่นแปลว่าตอนนี้ยังเป็นคืนวันที่หนึ่งอยู่ สมาชิกฝั่งMอวยพรวันเกิดเทาหมดแล้วตอนช่วงบ่ายที่เครื่องลง และตอนนี้ทุกคนกำลังจะกลับไปฉลองวันเกิดเทาที่โรงแรม 
     

    เจ้าของวันเกิดหลับขณะนั่งในรถ เพราะยังปรับเวลาไม่ทัน เวลาห่างกันเกือบวัน มีมึนบ้างเป็นเรื่องธรรมดา คริสฉวยโอกาสที่เทาหลับ ขอเมเนเจอร์ลงไปซื้อของคนเดียว แล้วจะนั่งแท็กซี่กลับเอง เมเนเจอร์จะตามไปด้วย แต่คริสรั้นจะไปคนเดียวให้ได้ สุดท้ายเมเนเจอร์ก็ยอมให้ไป เพราะเห็นที่นี่คืออเมริกา ไม่มีแฟนๆตามมากเท่าไหร่ คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
     

    เมมเบอร์คนอื่นฉวยโอกาสที่เทาหลับจับกลุ่มคุยกันเรื่องของขวัญ ลู่หานหยิบถุงกระดาษที่ไว้วางใต้เบาะขึ้นมา ถุงกระดาษสีน้ำตาลมันวาว ประดับชื่อแบรนด์ไว้กลางถุง ‘GUCCI’  ...เอาแล้วไง ลู่หานจัดของใหญ่มาซะแล้ว

    “ถ้านายซื้อแบบนี้ ของขวัญคนอื่นดับหมดนะลู่หาน” ซิ่วหมินบ่นพึมพำ
     

    “ฉันไม่ได้คิดถึงกุชชี่เลยอะ เห็นเทามีเต็มห้อง ไม่รู้จะซื้อทำไมอีก” เลย์พูดขึ้นมา เขาคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะเทามีทั้งกระเป๋าตังค์ แว่นตา กระเป๋าสะพาย เข็มขัดของกุชชี่ คือ...เทากวาดมาหมดทุกคอลเล็คชั่นแล้วมั้ง ทั้งซื้อเองทั้งแฟนคลับซื้อให้ นี่เรายังต้องซื้อกุชชี่ให้อีกเหรอ ...อี้ชิงไม่เข้าใจ
     

    “นั่นสิ ลู่หานฮยอง ซื้อแบบนี้จะตามใจน้องไปมั้ย” เฉินเสริมอีกคน ลู่หานลูบท้ายทอยอย่างงงๆ
     

    “ฉันซื้อแว่นตาเอง ไม่แพงมากด้วย ไม่ใช่กระเป๋ารุ่นใหม่ที่เทาอยากได้สักหน่อย”

                    “ผมว่ากระเป๋านั้น คริสฮยองซื้อให้เทาแหงๆ” เฉินวิเคราะห์ ประเด็นเรื่องของขวัญของคริสที่จะให้สมาชิกคนอื่น เป็นที่น่าสนใจเสมอ ยิ่งถ้านั่นเป็นวันเกิดของเทาด้วยละก็ ทุกคนเชื่อว่าคริสต้องให้ของแพงมากแน่ๆ
     

                    “แล้วพวกนายซื้ออะไรกันบ้างละ” ซิ่วหมินถามเลย์กับเฉิน

                    “ผมซื้อเสื้อฮู้ดของUNDEFEATEDให้” เฉินพูดพร้อมชูถุงกระดาษใบหนึ่งขึ้นมา

                    “ฉันซื้อกระเป๋าสตางค์ของ MCM ให้” เลย์ชูถุงผ้า MCM ให้ดู

                    “งึมๆ...” เสียงพึมพำของเทา ทำให้พี่ๆวงแตกกระทันหัน รีบแยกย้ายกันกลับไปนั่งที่ของตัวเอง
     

    .

    .

    .

     

    สมาชิกทั้งห้าคนมาถึงโรงแรมเวลาสี่ทุ่มกว่า ทุกคนตกลงว่าจะมาเจอกันที่ห้องอาหารของโรงแรมตอนเที่ยงคืน ก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นห้องพักไป หนึ่งห้องนอนกันสองคน เวลามาต่างประเทศเทาจะนอนกับคริสตลอด ตอนนี้เทาเลยอยู่ในห้องพักแค่คนเดียว
     

    เทาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จตอนห้าทุ่ม คริสยังไม่กลับมาเสียที ก่อนหน้านี้เฉินบอกเขาว่าคริสขอแยกไปซื้อของคนเดียว ไม่รู้มีอะไรสำคัญถึงหายไปนานขนาดนี้ ในขณะที่เทากำลังนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองอยู่นั้น สมาชิกคนหนึ่งได้รับข้อความจากคริส
     

    พาเทาออกจากห้องพักหน่อย อยู่ห้องนายก่อนก็ได้ ใกล้เที่ยงคืนค่อยพากลับห้อง'


    ก๊อกๆ 

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น เทารีบลุกไปเปิดประตู โดยคิดว่าคนที่เคาะประตูจะเป็นคริส แต่กลับเป็นลู่หานแทน ห้าทุ่มแล้วคริสก็ยังไม่กลับมาที่โรงแรม
     

    “ว่าไงครับลู่เกอ”
     

    “คริสยังไม่มาเหรอ”
     

    “ยังเลย พี่มีอะไรรึเปล่า”
     

    “คืองี้นะ...” ลู่หานนึกเหตุผลที่จะพาเทาออกจากห้อง อ้างเรื่องอะไรดีล่ะ...
     

    “พี่อยากได้หมอนเพิ่มสองใบ แต่จะคุยกับรีเซฟชั่นมันต้องพูดภาษาอังกฤษใช่มั้ยละ แต่ถ้าคริสยังไม่มาก็ช่างเถอะ ไม่เป็นไร” คำบอกว่าไม่เป็นไรนั่นคล้ายๆกับการบอกอีกนัยนึงว่าเทาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ คงช่วยอะไรไม่ได้ ทำให้เทารีบดึงแขนลู่หานไว้
     

    “ช่างได้ยังไงเกอ ผมอยู่นี่ทั้งคน” เทาทำหน้าขึงขัง ลู่หานลอบยิ้มคนเดียว...ติดกับละ ใสซื่อสุดๆมักเน่คนนี้
     

    “ต้องพูดภาษาอังกฤษนะเทา รอคริสมาก็ได้”
     

    “ไม่เอา ไม่ต้องรอ เดี๋ยวผมลงไปคุยให้” เทาเดินเข้าไปหยิบคีย์การ์ด ก่อนจะลากให้ลู่หานลงไปชั้นหนึ่งเพื่อจะจัดการขอหมอนสองใบเพิ่ม เวลาเดียวที่เทาเดินออกจากห้องไป ร่างสูงซึ่งแอบอยู่หลังเสาก็เดินออกมา พร้อมหอบของเต็มไม้เต็มมือ คริสเอาคีย์การ์ดแตะเพื่อเปิดห้อง ก่อนจะเข้าไปจัดการเรื่องที่ตัวเองต้องทำเสียที

     

    .

    .

    .

      

    ลู่หานอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะรีเซฟชั่นสักทีสองที เขารู้สึกพลาดที่ใช้มุกนี้เพื่อพาเทาออกจากห้อง เทาพยายามพูดภาษาอังกฤษใส่รีเซฟชั่นที่น่าจะเป็นคนรัสเซีย ...คนจีนที่พูดภาษาอังกฤษไม่แข็งเจอกับคนรัสเซียที่พูดสำเนียงฟังไม่รู้เรื่อง ลู่หานปวดหูครับ นี่แค่มาขอหมอน ยืนพูดมาจะครึ่งชั่วโมงล่ะ
     

      “มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ” ได้ยินเสียงภาษาแม่ที่คุ้นเคย คนถามดูเหมือนจะเป็นผู้จัดการโรงแรม ลู่หานลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดก็เจอคนที่คุยกันรู้เรื่อง
     

    “ผมอยากได้หมอนสองใบครับ” เทาตอบกลับเป็นภาษาจีน ผู้จัดการเหลือบไปมองพนักงานของตนอย่างตำหนิ นี่แค่เรื่องขอหมอนใบสองใบ คุยยังไงถึงใช้เวลานานขนาดนี้ พนักงานที่ถูกตำหนิทางสายตาอยากจะบอกเหลือเกินว่า เพราะผู้ชายหน้าแพนด้าคนนี้พูดอังกฤษฟังไม่รู้เรื่องค่ะ
     

    “แค่นั้นใช่มั้ยครับ เดี๋ยวผมจะให้พนักงานเอาหมอนขึ้นไปให้นะครับ ต้องขอโทษด้วยที่ใช้รบกวนเวลานานเลย” ผู้จัดการโค้งศีรษะให้เล็กน้อย

    “ไม่เป็นไรครับ” เทาส่ายหน้ารัว แล้วโค้งกลับเช่นกัน
     

    โทรศัพท์ของลู่หานสั่น เขาหยิบมันขึ้นมาดู เป็นข้อความของคริส ลู่หานกดสไลด์หน้าจอเพื่อปลดล็อคและอ่านมัน
     

    ให้เทากลับขึ้นมาบนห้องเลย เทาคนเดียวนะ นายไม่ต้องมา


    รู้แล้วเว้ย ใครจะไปยุ่งวะ สั่งยันเลยยยนะไอตุ้ยจ่าง...ลู่หานบ่นในใจ ก่อนจะเรียกให้เทาเดินไปรอลิฟต์ด้วยกัน
     

    “จะเที่ยงคืนแล้ว ไปห้องอาหารเลยมั้ยลู่เกอ คนอื่นคงไปรอกันแล้ว”
     

    “นายจะไปชุดนี้เหรอเทา” ลู่หานถามพลางมองสำรวจชุดอีกฝ่าย เทาขมวดคิ้วอย่างงงๆ
     

    “ทำไมอะเกอ”
     

    “พี่ว่าไปเปลี่ยนเสื้อดีกว่า ใส่เสื้อสีสดใส รับวันเกิดไง”
     

                    “เกอว่างั้นเหรอ” เทามองเสื้อโทนขาวดำของตัวเอง ลู่หานรีบพยักหน้า ...ตามปกติ ถ้าใครไปทักเรื่องทรงผม การแต่งหน้า หรือเรื่องเสื้อผ้าที่ทำให้เทาเสียเซล์ฟ เทาจะต้องไปเปลี่ยนใหม่เสมอ
     

                    “นายไปเปลี่ยนเสื้อคนเดียวละกัน เดี๋ยวพี่ไปรอที่ห้องอาหาร พวกซิ่วหมินรออยู่แล้ว” พอคนเป็นพี่บอกแบบนั้น เทาก็ได้แต่พยักหน้ารับแล้วกลับขึ้นห้องพักคนเดียว 
     

                    ลิฟต์เปิดเมื่อถึงชั้นห้องพักของเทา เขาหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาเล็กน้อย ...อีกห้านาทีเที่ยงคืน เขามาถึงโรงแรมนานแล้ว และคริสก็ไปซื้อของนานเกือบสองชั่วโมงแล้ว ไม่โทรมา ไม่มีข้อความส่งมาบอกเลยว่าอยู่ที่ไหน จะกลับกี่โมง ทั้งที่ปาร์ตี้วันเกิดของเขาจะเริ่มแล้ว
     

    เพราะไม่ได้ทางได้ฉลองวันเกิดพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งสิบสองคน อย่างน้อยเขาก็อยากฉลองให้ครบหกคน ระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ เทาเดินมาถึงหน้าห้องพักพอดี เขาเอาคีย์การ์ดแตะ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

     

                    ไฟในห้องถูกปิดสนิท แต่ภายในห้องไม่ได้มืดตาม มันสว่างไสวไปด้วยแสงจากเทียนหอมที่ถูกวางเรียงตามสองข้างทาง ถูกวางไว้ที่หัวเตียง วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง ระยะทางเดินที่มีเทียนหอมเริ่มจากประตูห้องไปจนถึงเตียง เทาเดินไปตามทางช้าๆ สูดกลิ่นหอมของเทียนอย่างอารมณ์ดี เขารู้แล้วว่าคริสหายไปไหนมา
     

    ร่างสูงนั่งที่ปลายเตียง มีกีตาร์โปร่งวางไว้ข้างกาย เขาหันมามองเจ้าของวันเกิดที่กำลังเดินผ่านแสงเทียนเหล่านั้น รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกของเทา ทำให้คริสยิ้มตามได้ไม่ยาก เทาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคริส แสงสว่างน้อยๆจากเทียนนั้นมากพอที่จะทำให้สองคนเห็นหน้ากันโดยไม่ต้องเปิดไฟ
     

    “หายไปตั้งนานเพราะเรื่องนี้เหรอ” เทาถามขึ้นทั้งที่รอยยิ้มยังประดับใบหน้าอยู่ไม่จางหาย
     

    “อื้ม”
     

    “แล้วนี่...” นิ้วเรียวชี้ไปที่กีตาร์ สายตาแสดงความสงสัยโดยไม่ปิดบัง ...คริสเล่นกีตาร์ไม่เป็น นั่นทำให้เขาแปลกใจที่เห็นกีตาร์อยู่ในห้องนี้

    “เทามานั่งนี่สิ” คริสพูดพร้อมตบปลายเตียง พอเทามานั่ง คริสลุกไปนั่งบนเก้าอี้แทน เพื่อที่จะได้มองหน้าเทาชัดๆ
     

    “พี่ซ้อมมาแค่สองอาทิตย์ แล้วเทาคงรู้ว่าพี่เล่นดนตรีห่วยมาก” คริสพูดกัดไว้ก่อน เขากลัวว่าตัวเองจะเล่นกีตาร์เสียงเพี้ยนๆออกมา

     “ผมรู้” เทาหัวเราะเบาๆพลางมองร่างสูง เล่นห่วยไม่ห่วยนี่ยังยืนยันอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่ยืนยันได้ คือ...คริสเหมาะกับกีตาร์มาก ดูเท่แล้วก็ดูเป็นหนุ่มนักดนตรีเต็มตัว
     

    “งั้นพี่เริ่มเลยนะ” เมื่อคริสบอกแบบนั้น เทาจึงพยักหน้าแทนคำตอบ  
     

    เสียงกีตาร์ทำนองสบายๆที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น เทาไม่แน่ใจว่าเขารู้จักเพลงนี้รึเปล่า เพราะคริสยังเล่นได้ไม่ชัดเจน แต่เขาดูออกว่าคริสพยายามมาก

     

    갤럭시 혹시 나와 같이 걸어가 볼래

    เธออยากมาเดินกับฉันบนกาแลคซี่นี้ไหม?

    반짝이는 은하 너머 손잡고 나와 같이 걸어가 볼래

    เธออยากจะมาเดินกับฉันบนกาแลคซี่ที่สว่างไสวนี้ไหม?

    누가 살고 있나 아무도 몰라

    ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราอยู่กันที่นี่

    너머 있는지 누구도 몰라

    ไม่มีใครรู้หรอกว่าที่นั่นคือที่ไหน

    다만 분명히 화려한 무지개 너머 떠다닐 거예요

    แต่เราจะล่องลอยไปกับความฝันนี้ด้วยกัน ที่ที่รอบตัวเรามีเพียงแสงสีรุ้งล้อมรอบ

     

                    คริสเล่นกีตาร์ไปร้องเพลงไป สายตาเหลือบมองเทาเป็นระยะ ถึงจะมีแค่แสงจากเทียน เขาก็เห็นได้ว่าเทาหน้าแดงอยู่ ตอนนี้เทารู้แล้วว่าเขาไม่รู้จักเพลงที่คริสกำลังร้อง ร่างสูงเล่นจนจบเพลง  ทั้งที่เนื้อเพลงน่ารักมากแท้ๆ แต่พอคริสเป็นคนร้อง เสียงทุ้มๆนั่นมันดึงดูดซะจนเหมือนกับว่าเราจะได้ไปกาแล็กซี่ด้วยกันสองคนจริงๆ
     

                    “อยากพาแพนด้าตัวน้อยไปที่กาแล็กซี่นะ” คริสพูดเมื่อเล่นเพลงจบ เทายิ้มเหมือนคนเขินแต่กลั้นยิ้มไม่อยู่ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยได้รับของขวัญแบบนี้ ไม่เคยมีใครมาทำเรื่องโรแมนติกขนาดนี้ให้ ดูเหมือนคำขอที่ว่าของขวัญจากคนๆเดียวจะเป็นจริงแล้วล่ะ

     

                    “ปีนี้พี่ไม่มีกุชชี่ ไม่มีของแพงๆให้เทานะ” คริสวางกีตาร์ลงบนเตียง เทารีบส่ายหน้ารัว กำลังจะบอกว่าไม่สำคัญ แต่คริสก็พูดต่อเสียก่อน

     

    “แต่ยังมีของขวัญอีกอย่าง” คริสหยิบกล่องของขวัญเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เป็นกล่องสีเทาที่สลักตราสีทองแบรนด์ Vivienne westwood เทารู้ทันทีว่านั่นเป็นกล่องใส่ต่างหู คริสหยิบต่างหูหนึ่งข้างออกมาจากกล่อง
     

    “เขยิบเข้ามาหน่อย” เทาเอียงตัวเข้าไปหาอย่างว่าง่าย คริสใส่ต่างหูให้เสร็จ ก็มองอีกคนอยู่นาน ..ใส่แล้วสวยจริงๆด้วย 
     

     “ใส่ให้พี่ด้วย” เทาพยักหน้ารับ มือเรียวหยิบต่างหูอีกข้างออกมาจากกล่อง ก่อนจะใส่ให้คริส
     

      ต่างหูหนึ่งคู่ ที่แบ่งกันใส่คนละข้าง...เป็นเหมือนสิ่งเชื่อมต่อของเขาทั้งสองคนมานานแล้ว
     

     คริสดึงมือเทามากุมไว้ สายตาสอดประสานกัน ทั้งสองคนยิ้มออกมาโดยไม่มีเหตุผล แค่มีความสุขมากที่ได้อยู่กับอีกคนนึง คริสหันไปมองนาฬิกาในห้อง ...เที่ยงคืนสิบห้านาที ควรจะลงไปปาร์ตี้กับทุกคนแล้วสินะ
     

    “เทาชอบของขวัญมั้ย”
     

    “ชอบมากครับ..” ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มนั่นเป็นเครื่องยืนยันความชอบอย่างชัดเจน
     

    “ขอโทษนะที่ยังเล่นกีตาร์ไม่เก่ง”  เทารีบส่ายหน้ารัว ไม่อยากให้คริสรู้สึกแย่

    “ไม่เลยคริสฮยอง เพราะมาก ผมชอบมาก ขอบคุณจริงๆนะ” สายตาที่ส่งความขอบคุณอย่างจริงใจนั่นยืนยันชัดเจนว่าของขวัญจากคริส คือ สิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
     

    “พี่รักจื่อเทานะ” ปกติแล้วคริสจะไม่ใช่คนพูดหวานสักเท่าไหร่ นานๆทีจะบอกรัก นานๆทีจะเอาใจ แต่อาจเพราะวันนี้เป็นวันพิเศษของเทา ความรู้สึกล้นออกมาจนอยากบอกหลายๆครั้ง
     

    “ผมก็รักอี้ฟานเกอ” พอถูกเรียกชื่อจริง เทาจึงเรียกคริสกลับไปแบบเดียวกัน เจ้าของวันเกิดโถมตัวไปกอดคนร่างสูงแน่น เขาหวังว่าจะสื่อความรู้สึกผ่านอ้อมกอดนี้ได้ไม่มากก็น้อย 

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เทาไม่ได้ต้องการของขวัญแพงๆ
     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เทาไม่ได้ต้องการจัดงานปาร์ตี้ใหญ่ๆ
     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ของขวัญที่ทำให้มีความสุขที่สุด คือ การอยู่กับสมาชิกในวง
     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ของขวัญที่ดีสุด คือ การได้ใช้เวลาร่วมกับคริส 

     

    ไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นเรื่องราวของทั้งสองคนอยู่ตรงไหน แต่วันนี้ได้รู้อย่างหนึ่ง
     

    รู้ว่าเทาสำคัญสำหรับคริสขนาดไหน ผู้ชายที่เล่นดนตรีไม่เป็น แสดงความโรแมนติกไม่เก่ง
     

    กลับทำของขวัญแบบนี้ออกมาได้ ต้องใช้ทั้งความรักและความพยายามอย่างมากทีเดียว
     

    สงสัยคงเพราะพลังกาแล็กซี่ของคริสแน่ๆที่ทำให้เทาหลงรักมากไม่ต่างกัน
     

    ของขวัญปีต่อๆไป ขอแค่คริสอยู่ข้างเขาแบบนี้ ไม่ไปไหนก็พอแล้ว

     

     .

    .

    .

     











     

    สุขสันต์วันเกิดนะคะเทาเกอเกอ

    เข็นช็อตฟิคเรื่องนี้ออกมาด้วยความรักค่ะ 555555

    ขอให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะคะ รีบมาจัดคอนที่ไทยเร็วๆน้า

    รักเทาเกอมากที่สุดในกาแล็กซี่เลยยย *ส่งจูบ*

    ปล. TwT รีไรท์ใหม่นิดหน่อย วันที่เลยกลายเป็นวันที่3 ฮืออออ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×