คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2
Secret
“พรุ่งนี้เปิดเรียน มึงรู้ป่ะเนี้ย” จือเทาโยนถั่วลิสงเข้าปากพลางเหล่สายตามาทางอีกคนที่นั่งกระดกเหล้าอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ
“แล้วไงว่ะ”
“ก็บอกไว้ เผื่อมึงลืมไปเรียนไง” พูดจบก็แสยะยิ้มเล็กน้อย เรื่องเรียนมันไม่เคยอยู่ในหัวสมองของคนอย่างพวกเขาอยู่แล้ว ที่บอกน่ะก็พูดไปงั้นๆแหละ บ้านก็รวยแล้ว จะเรียนจะไปทำไม
“อย่างกูน่ะเหรอจะลืม ไม่มีทาง” ยกแก้วเหล้ากระดกเข้าลำคอไปครั้งนึง
“…..”
“มีแต่ตั้งใจขาด”
“สันดานมึงนี่ยังไงยังงั้นเลยว่ะ”
“ เหมือนมึงไง”
“เถียงไม่ออกเลยว่ะ” เซฮุนหันหน้ามองอีกคนแล้วหัวเราะเบาๆ ไม่นานสายตาคมจากดวงตาเรียวเล็กก็ไปประสบเข้ากับร่างกายผอมบางของคนคนนึงที่กำลังส่ายสะโพกร่ายลีลากลางฟลอ นิ้วแกร่งคีบบุหรี่ขึ้นมาดูดควันเข้าปอดอย่างสบายๆ ผ่อนลมหายใจออกพร้อมเป่าควันสีเทาเข้มขึ้นสู่ข้างบน สายตายังจับจ้องอยู่ที่เป้าหมายไม่เลื่อนไปไหน
“กูเคยลองมาแล้ว ลีลาเด็ด เสียงครางนี่แบบ …” จือเทาเอ่ยบรรยาสรรพคุณหลังจากเห็นภาพหมาป่ากำลังจ้องลูกกวางตัวน้อย
ถึงภายในเบื้องลึกของจิตใจจะพอใจกับรูปร่างและสัดส่วนของคนร่างตรงหน้าพอสมควร แต่ยังไงเซฮุนก็ยังไม่อาจหาญกล้าที่จะชนช้างกับบุรุษเพศสักคน
“ลองดูสักคืน ก็ไม่มีอะไรเสียหายหรอกน่า”
“กูขอบาย”
“ทำแต่กับผู้หญิง มึงไม่เบื่อรึไง ไม่อยากลองอะไรใหม่ๆบ้างเหรอ”
“กูไม่มีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกัน”
“…..”
“เรื่องรสนิยมของคนมันเปลี่ยนไม่ได้ มึงก็น่าจะรู้”
“อย่าให้กูเห็นว่ามึงแอบซุกผู้ชายเอาไว้ในสต็อกแล้วกัน”
“อาจะเป็นชาติหน้าตอนสายๆ”
“ให้มันจริงเถ๊อะ”
“แต่ชาตินี้กูขอหาเมียก่อนแล้วกัน เจอกันพรุ่งนี้” พูดจบก็หยัดตัวขึ้นเต็มความสูง โยนขี้บุหรี่ให้อยู่ในที่ที่มันควรอยู่ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเสียงของเพื่อนรักก็ดันมาขัดจังหวะการเดินซะก่อน
“ระวังติดเอดส์” เซฮุนบิดตัวกลับไปมองหน้าเพื่อนรักที่ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“บอกตัวเองเถอะ”
“เซฮุน มัน..หมายความว่ายังไง” หญิงสาวมองเงินที่ถูกวางไว้บนโต๊ะตรงข้างเตียงที่ถูกใช้เป็นรังรักสวาทเมื่อสักครู่นี้
“มันเข้าใจยากตรงไหน”
“แต่พี่ไม่ได้ต้องการแบบนี้เลยนะ”
“ถ้าไม่เอาก็วางทิ้งไว้ให้แม่บ้านแล้วกัน” เหมือนฝ่ายชายอยากออกไปจากห้องนี้เสียเต็มที
“เซฮุนคะ ฟังพี่ก่อน พี่ไม่ได้ต้องการแบบนี้ ระหว่างเราพี่ไม่อยากให้มันเป็นแค่คืนคืนนึง เซฮุนเข้าใจพี่ใช่มั้ย”
“…..”
“พี่รักเซฮุนนะ รักเซฮุนคนเดียว อยู่กับพี่นะ” หญิงสาวสวมกอดเซฮุนจากทางด้านหลัง มือเรียวสวยรัดแน่นที่บริเวณเอวแกร่งแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้ชายที่เธอกอดอยู่นี้หุ่นบางเหมือนผู้หญิงมากๆ
“…..” ด้านคนที่ถูกกอดไม่ได้สนใจในถ้อยคำพร่ำเพ้อบ้าบอไร้สาระของอีกฝ่ายเลย
“พี่ยังไม่ใช่สำหรับผม” ตัวเขาเองก็แค่พูดเพราะตัดความรำคาญ ใครจะเป็นบ้าสร้างห่วงให้ตัวเอง
“แล้วเซฮุนต้องการแบบไหนเดี๋ยวพี่เป็นให้ พี่จะเป็นทุกอย่างที่เซฮุนอยากได้”
“….”
“ถ้าพี่ทำได้แล้วเซฮุนจะอยู่กับพี่ใช่มั้ยคะ”
“……”
“พี่สัญญาว่าพี่จะทำให้ได้ อยู่กับพี่นะคะ” มือแกร่งของคนที่โดนกอดแกะนิ้วมือสวยที่เกาะอยู่บริเวณหน้าท้องของตัวเองออก พร้อมหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับหญิงสาว
“ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่”
“…”
“พี่เข้าใจใช่มั้ย”
“มาสายจังครับ” ทันที่เซฮุนหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ เจ้าจือเทาเพื่อนรักก็เอ่ยแซวทันที
“เคลียร์กันนิดหน่อย คนนี้แม่งรุงรังชิบหาย”
“รายนี้อยากสานต่อกับมึงอีกรึไง” เซฮุนพยักหน้ารับ
“คนนี้เค้าก็โอนะ เหมือนเค้าจะแอบรักมึงมานาน”
“แล้วไงว่ะ”
“มึงก็หัดมองเค้าบ้างก็ได้ กูก็เห็นใจค้า อุตส่าห์พลีกายพลีใจให้ขนาดนี้”
“กูไม่ได้ขอให้ทำสักหน่อย” เซฮุนตอบอย่างสบายใจ พลางยกเท้าขึ้นก่ายขอบโต๊ะเรียนข้างหน้าพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายๆ
“นั่งดีๆหน่อยดิ๊ เดี๋ยวโดนอาจารย์สวด”
“อาจารย์มายังล่ะ” พอได้ยินเพื่อนบอกแบบนั้น คนเตือนก็ได้แต่ทำหน้าเอือม
“อาจารย์มายังล่ะ” จนปัญญากับเพื่อนคนนี้ ถ้ามันจะทำอะไร เทพเทวาองค์ไหนก็หามมันไม่ได้
“เออ มึงรู้ยังห้องเราจะมีเด็กใหม่” เซฮุนละสายตาจากจอโทรศัพท์ตรงหน้าเพื่อมามองหน้าเพื่อนรักอย่างเอือมๆ
“แล้วไงว่ะ”
“มึงช่วยตื่นเต้นกับกูหน่อยได้ไหม”
“มันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเรา”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว” เซฮุนวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะด้วยความรู้สึกที่เอือมบวกกับงง
“ทำไมจะไม่เกี่ยว โต๊ะข้างมึงว่าง โต๊ะข้างกูก็ว่าง ไม่กูก็มึงต้องแชร์โต๊ะร่วมกับเด็กใหม่” เซฮุนกับเทานั่งคนละโต๊ะกัน เซฮุนนั่งข้างหลัง เทานั่งข้างหน้า ส่วนสาเหตุที่ได้นั่งด้วยกันก็ง่ายๆ แค่อยากมีที่วางกระเป๋า
“ก็ให้เค้าไปโต๊ะมาใหม่ แล้วนั่งคนเดียวดิ”
“เออก็จริง ทำไมแค่นี้กูคิดไม่ได้ว่ะ” พอเทาพูดจบ อีกคนก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เหมือนเดิม ไม่รู้มันจะเล่นอะไรนักหนา
ตึง ตึง ตึง
“เงียบหน่อย” เสียงตบโต๊ะของอาจารย์ประจำชั้นไม่ได้ทำให้นักเรียนเงียบ แต่สาเหตุที่เด็กในห้องสงบปากสงบคำ ก็คือ เด็กนักเรียนชายคนนึงที่เดินตามหลังอาจารย์เข้ามา
ผิวคล้ำ โหนกแก้มสูง จมูกใหญ่ ริมฝีปากหน้า ทรงผมแสกกลาง แว่นสายตาหนาเตอะ
“โคตรเชย” เสียงของคนบางคนที่นั่งหลังสุดสบถออกไปหลังจากเห็นสารรูปของเพื่อนใหม่ ไม่สิ คนที่จะมาเรียนในห้องเดียวกันคนใหม่
“สวัสดีนักเรียน ยินดีต้อนรับสู่ปีการศึกษาใหม่”
“….” ไม่มีสัญญาตอบรับจากนักเรียนที่อาจารย์เรียก
“นักเรียนใหม่ ไปแนะนำตัวเร็ว”
“สวัสดีครับ ผมชื่อคิมจงอิน พึ่งกลับมาจากญี่ปุ่นเพราะไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” แพทเทรินเดิมของการแนะนำตัว ถึงคำพูดจะดูสดใสแต่แววตามันกลับไม่เป็นแบบนั้น
“อยากนั่งโต๊ะไหนก็นั่งได้เลยนะ” อาจารย์ชะเง้อหน้ามองมาทางโต๊ะของเทาและเซฮุน ซึ่งที่ข้างๆก็ว่างตั้ง2ที่ และแล้วจงอินก็ตัดสินใจเดือนมานั่งข้างจือเทา เซฮุนเบือนหน้าไปทางหน้าต่างพร้อมหัวเราะเบาๆ หน้าโหดใช้ได้ผลอีกคราวสินะ
จงอินไม่ได้เอ่ยทักทายเพื่อนร่วมโต๊ะก่อน และจือเทาก็คงไม่แบบนั้นก่อนแน่ๆ ทั้งสามคนนั่งรวมเป็นกลุ่มเดียวกันอย่างเงียบๆ เสียงสอนของอาจารย์ก็เหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา นั่งหายใจทิ้งให้หมดชั่วโมงเรียนไปวันต่อวัน ก็เท่านั้น
“มึงไปแดกข้าว” จือเทายัดตัวลุกขึ้น และเซฮุนก็ลุกเดินตามไป ทิ้งให้จงอินนั่งอยู่คนเดียวในห้อง บางทีจงอินควรจะชินกับสถานการณ์แบบนี้ได้แล้ว เพราะครั้งนี้มันไม่ใช่ครั้งแรก และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอีกเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มจัดการนำกล่องข้าวที่ห่อมาจากบ้านออกมาจากถุงกระดาษ เปิดมันและนำเข้าปากอย่างเงียบๆ
“ฮาย จงอิน” ในขณะที่นักเรียนใหม่กำลังใช้ตะเกียบคีบข้าวปั้นเข้าปากอย่างเงียบๆ ก็มีเพื่อนนักเรียนหญิงคนนึงเอ่ยทักขึ้น
“สวัสดีครับ” จงอินโค้งให้ผู้หญิงตรงหน้าอย่างนอบน้อม เธอยิ้มตอบ
“ฉันชื่อฮานิ โอฮานิ เรียกว่าฮานิเฉยๆก็ได้”
“ผมชื่อจงอิน คิมจงอิน เรียกจงอินเฉยๆก็ได้ครับ”
“ทำไมนายต้องลอกฉันด้วยเล่า” ฮานิหัวเราะให้กับคำพูดของจงอิน มีอย่างที่ไหนมาลอกคำพูดของคนอื่นหน้าด้านๆ
“ผมขอโทษผมแค่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ”
“ไม่ต้องเกร็งหรอก สบายๆ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณฮานิ”
“จงอิน ฮานิขอถามอะไรหน่อยได้ป่ะ” จงอินจัดการเก็บตะเกียบให้เข้าที่ และหยุดการกินข้าวกลางวันไว้เพียงเท่านี้
“ได้สิครับ”
“ทำไมถึงเลือกนั่งข้างเทาล่ะ”
“ก็มันว่างน่ะครับ”
“ที่ข้างๆเซฮุนก็ว่าง ทำไมไม่ไปนั่ง เทาอ่ะ หน้าโหดจะตาย ไม่กลัวเหรอ”
“ผมว่าเค้าดูไม่มีอะไรนะครับ ก็น่าจะนั่งด้วยกันได้”
“ระวังตัวไว้นะจงอิน นายโดนรับน้องแน่ๆ”
“หือ? หมายความว่าเค้าจะแกล้งผมเหรอ”
“ก็อะไรทำนองนั้นแหละ อย่าเข้าใกล้ อย่ามีปัญหากับพวกนั้น ฮานิขอเตือนไว้ก่อนเลย”
“พวกเค้าน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ไม่เชิงแหละ แต่ถ้าไม่อยากโดนแกล้ง ก็นิ่งๆเข้าไว้ อย่าหือ อย่าอือกับ2คนนั้นให้มาก”
“2คนนั้น?”
“ฮานิหมายถึงเซฮุนน่ะ คนที่ข้างหลังนาย คงจะยังไม่รู้จักชื่อกันสินะ” คนหน้าโหดคนนั้นเองเหรอ
“หน้าตาหมอนั่นดูนิ่งๆ นิสัยก็คล้ายๆเทานั่นแหละ แต่เซฮุนค่อนข้างเงียบๆ ไม่ปากหมาเหมือนเทา”
“พูดแบบนี้ระวังเทาได้ยินนะครับ” จงอินแหย่ฮานิเบาๆ หญิงสาวได้แต่หัวเราะพร้อมสอดส่องสายตาไปทางประตูว่ามีคนแอบฟังรึเปล่า
“เทาไม่ได้ยินหรอก 5555 เรื่องนี้จะเป็นความลับระหว่างเราตลอดไป”
“สัญญาเลยครับ”
“หวัดดี เด็กใหม่”
“สวัสดีครับ”
“กินหนมด้วยกันป่าว” เทาโยนถุงกล้วยฉาบให้จงอิน แต่อีกคนดูลังเลว่าจะกินหรือไม่กินดี ถ้ากินมันจะดูเร็วเกิน แต่ถ้าไม่กินก็ดูเหมือนจะเป็นการตัดมิตรภาพเกินไป
“ทำไมไม่กินอ่ะ แดกกล้วยฉาบไม่เป็นเหรอ”
“ผมไม่ชอบครับ เคี้ยวแล้วติดฟัน”
“เออว่ะ ที่มึงพูดก็ถูก เคี้ยวแล้วแม่งโคตรติดฟันเลย เสียเวลากูนั่งแคะขี้ฟัน กูว่าจะเลิกแดกล่ะ ” ว่าแล้วเทาก็จับถุงกล้วยฉาบกลับไป และโยนให้คนที่นั่งข้างหลัง
“เซฮุนเอาไปแดกดิ๊ เสียดายของ” บุคคลที่สามที่พึ่งโดนกล่าวถึงละสายตาจากจอโทรศัพท์มองหน้าเทาและชูนิ้วกลางให้ เทาได้แต่หัวเราะ กวนเซฮุนก็สนุกดี
“ชื่ออะไรอ่ะเรา”
“จงอินครับ”
“ไม่ต้องพูดครับก็ได้ กูไม่ใช่รุ่นพี่”
“ขอโทษครับ”
“เห็นว่ากลับมาจากแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น พูดภาษาที่โน้นเป็นป่ะ”
“ก็พอได้ครับ”
“พูดให้ฟังหน่อยดิ อยากฟัง ”
“พูดว่าอะไรล่ะครับ”
“ ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องพูดครับ ไม่ฟังกูเหรอ เดี๋ยวปั๊ด”
“เมื่อไหร่จะเงียบ รำคาญ” คงจะเป็นเสียงใครไม่ได้ นอกจากคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง2คนนี้ เขาได้ยินบทสนทนาทุกประโยค แต่เขาก็ไม่ได้สนใจใคร่รู้สักนิด
“เหย่ดแหม่ องค์ลงแล้วครับ เงียบกันเถอะมึง” จือเทาหันมาพูดกับจงอินพลางยิ้มๆ เหมือนกับจะสื่อว่า ไอ้ห่านี่ก็แอ๊บโหดไปงั้น
ประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์นะคะ5555
เดี๋ยวรีบมาต่อ
ความคิดเห็น