ตอนที่ 9 : ท้องฟ้ากับทะเล : 04 [2/2]
“ทะเล พอแค่นี้ก่อนไหม? กลับไปพักเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาซ้อมใหม่” เสียงทุ้มจากคนข้างตัวดังขึ้นเรียกสติผมที่หลุดลอยไปไกลให้กลับเข้ามาอยู่กับปัจจุบันอีกครั้ง อมยิ้มรสโคล่ายังคงอยู่ในมือของผมไม่ได้หายไปไหน ผมยังไม่ได้แกะมันกินเพราะมัวแต่เหม่อลอยนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งวันวาน
วันที่ท้องฟ้าเลิกกับแฟนที่คบกันได้ไม่กี่เดือน มันเป็นวันที่ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากและก็เป็นวันที่ผมรู้สึกว่าตัวเองได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ลงไป
การได้พูดคุยกันในวันนั้นยิ่งทำให้ผมตกหลุมรักท้องฟ้ามากกว่าเดิมจนถอนตัวไม่ขึ้นจนถึงทุกวันนี้
“อะ อืม” ผมพยักหน้ารับแล้วขยับไปเก็บของ อมยิ้มที่ได้มาถูกหย่อนลงให้กระเป๋าเป้ เก็บเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน
“กลับยังไง?” ผมที่กำลังจะเดินออกจากห้องซ้อมดนตรีก็ถูกมือใหญ่รั้งที่ต้นแขนเอาไว้เสียก่อน
“คงเดินไปเรื่อยๆ แหละ” ผมก้มมองที่ต้นแขนตัวเองแล้วเงยหน้ามองคนที่สูงกว่า 7 – 8 เซนติเมตรด้วยหน้านิ่งๆ ผิดกับในใจที่เต้นรัวเร็วอย่างลิงโลด
“เดี๋ยวฉันไปส่ง หิวไหม? แวะกินข้าวกัน” แต่แทนที่ท้องฟ้าจะปล่อยมือจากแขนผมแต่เขากลับไม่ปล่อย ซ้ำยังออกแรงลากให้ผมเดินตามเขาไปอีกด้วย
“เดี๋ยวก่อน” ผมยื้อตัวเองเอาไว้เพื่อให้เขาหยุดเดินแล้วหันมาคุยกับผมให้รู้เรื่องก่อน อยู่ๆ จะมาฉุดผมไปแบบนี้ไม่ได้นะ คนเขามีพ่อมีแม่นะ มาแตะเนื้อต้องตัวแบบนี้มันผิดผีนะ
“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยสิ ไปคนเดียวมันเหงานะ” ผมมองอีกฝ่ายตาค้าง ประโยคเชิญชวนกึ่งออดอ้อนนั่นมันคืออะไร? แม้น้ำเสียงอาจจะฟังดูเรียบนิ่งก็เถอะแต่สายตาที่เหมือนลูกหมาหิวนมนั่นมันคืออะไร?
ให้ตายสิ นี่ไม่ใช่ท้องฟ้าที่ผมรู้จัก เขาเป็นใครกัน? หรือการที่ไม่เจอกันสองปีมันจะทำให้เขาเปลี่ยนไป? ก็รู้สึกอยู่หรอกว่าท้องฟ้าดูแปลกไปจากเดิม แต่ก็ไม่คิดว่าจะแปลกมากขนาดนี้ เขาดูพูดเยอะขึ้น ดูแสดงออกมากขึ้น ถึงจะดูเหมือนไม่มากมายอะไรแต่สำหรับผมที่รู้จักนิสัยของเขาก็คิดว่ามันมากอยู่ดี
“อืม ข้าวต้มปลาตรงซอยหน้าคอนโดผมก็อร่อยนะ” แม้จะยังตั้งรับไม่ค่อยทันแต่จะให้ปฏิเสธก็ทำไม่ลง เอาเป็นว่าวันนี้ก็ตามน้ำไปก่อนก็แล้วกัน
“งั้นไปกินร้านนั้นก็ได้” เพราะท้องฟ้าชอบกินปลาผมเลยคิดว่าถ้าชวนเขาไปกินอาหารที่เป็นปลาก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งเขาก็ตอบรับกลับมาอย่างไม่มีปฏิเสธ
ผมเดินตามท้องฟ้ามาที่รถของเขา แค่เห็นรถผมก็ไม่อยากขึ้นแล้ว ถึงเพื่อนสนิททั้งสองคนของผมจะรวยแต่พวกนั้นก็ใช้รถญี่ปุ่นธรรมดาที่ราคาอยู่ในหลักแสนแต่ไม่ถึงล้าน ผิดกับคนตรงหน้าผมที่ขับรถราคาแพงกว่าบ้านหนึ่งหลังเสียอีก เห็นถึงความแตกต่างระหว่างผมกับท้องฟ้าเลยครับ
บ่นในใจเสร็จก็เปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง เอาเถอะ ครั้งหนึ่งในชีวิตได้สัมผัสกับรถหรูสักครั้ง เป็นบุญในชีวิตแล้วทะเลเอ้ย เมธมันไม่ยอมซื้อรถแพงผมเลยไม่มีบุญได้นั่งรถหรูๆ เหตุเพราะมันกลัวคนอื่นรู้ว่ารวย ไอ้คนน่าหมั่นไส้ที่ชื่อว่าเมธามันบอกว่ากลัวคนเข้าหามันเพราะเงิน แต่จากข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้านั่นใครๆ ก็คงเดาได้นั่นแหละว่ามันมีเงิน ส่วนนที รายนั้นไม่ใช้รถแพงเพราะค่าซ่อมและค่าอะไหล่แพง นทีเป็นพวกขี้เบื่อ เห็นแบบนี้ก็เปลี่ยนรถบ่อยนะครับ พวกบ้านรวยก็อย่างนี้แหละ ส่วนคนจนๆ อย่างผมก็ได้แต่อาศัยชาวบ้านเขาต่อไป
ระหว่างที่นั่งรถมาผมกับท้องฟ้าต่างก็เงียบกันมาตลอดทาง นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้อยู่กันตามลำพัง ถึงผมจะเคยตามติดชีวิตของเขาราวกับคนโรคจิตมาแล้วก็เถอะ แต่การที่ต้องมาเผชิญหน้ากันตามลำพังแบบนี้ยังไม่เคยเลยสักครั้ง ผมเคยคุยกับท้องฟ้าเมื่อนานมาแล้วแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว ตอนนี้มันก็เลยออกจะเกร็งๆ อยู่หน่อย
อ่า ทำตัวไม่ถูกจริงๆ นะเนี่ย
เมื่อมาถึงร้านข้าวต้มที่ผมบอก ท้องฟ้าก็หันมาถามผมว่าจะเอาอะไรแล้วเขาก็เป็นฝ่ายเดินไปสั่งให้ รอไม่นานข้าวต้มปลาสองชามก็มาวางอยู่ตรงหน้าพวกเราพร้อมกับปลากะพงลวกจิ้ม ท้องฟ้าชอบกินปลาก็จริง แต่ก็กินแค่ปลากะพงเท่านั้น ปลาชนิดอื่นนี่ไม่กินเลยนะ ยิ่งปลาทูนี่เขายิ่งไม่ชอบเลย
ครืด ครืด
ระหว่างที่นั่งกินกันไปเงียบๆ โทรศัพท์ของผมที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นเตือน เหลือบมองก็เห็นแชทไลน์เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ ส่วนคนที่ส่งมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพื่อนสนิทพ่วงตำแหน่งรูมเมทที่วันนี้ติดนัดทำงานกลุ่มกับเพื่อนเลยทำให้ไปรับผมไม่ได้ จริงสิ ไม่รู้ว่าพวกเพื่อนของเมธจะกลับไปกันหมดหรือยัง? เมธมันขี้เกียจออกไปข้างนอกเลยลากเพื่อนมาทำงานกันที่ห้องของตัวเองน่ะครับ
เมธาคนหล่อพ่อทุกสถาบัน
อยู่ไหน? 21.07
เป็นประโยคที่คาดไว้แล้วว่าจะต้องได้รับเมื่อเหลือบมองเวลาในตอนนี้ ผมไม่ค่อยกลับห้องดึกถ้าไม่มีซ้อมดาวเดือน แต่วันนี้ซ้อมดาวเดือนเลิกเร็วไง ผมเลยแวบไปซ้อมเปียโนต่อ พี่รีก็มากำชับหนักแน่นมากว่าโชว์เราต้องดีที่สุด ต้องอลังการต้องดูแพง ผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วพยักหน้ารับแกนๆ กลับไป
ทะเลสีฟ้า
21.07 ร้านข้าวต้มปลาหน้าปากซอย เอาอะไรไหม?
ไม่รู้ว่ามันกินข้าวหรือยัง บอกเลยว่าผมห่วงมันครับ เมธมันไม่ค่อยสนใจเรื่องตัวเองเท่าไหร่ บางทีมันก็ปล่อยปละละเลยตัวเองเกินไป
เมธาคนหล่อพ่อทุกสถาบัน
เอาข้าวต้มปลา 21.08
ผมส่ายหัวเบาๆ เพราะรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เย็นแน่ ปกติเมธมันจะไม่ค่อยกินข้าวดึก ถึงมันจะไม่ค่อยดูแลตัวเองยังไงแต่เรื่องหุ่นนี่มันซีเรียสมากเลยนะ มันจะไม่ยอมกินข้าวดึกเพราะกลัวหุ่นเสีย แต่วันนี้คงหิวมากจริงๆ นั่นแหละถึงได้สั่งซื้อข้าวตอนสามทุ่มแบบนี้
ทะเลสีฟ้า
21.08 ถามนทีด้วย
ผมพิมพ์ข้อความกลับไปพร้อมตักข้าวกินไปด้วย
เมธาคนหล่อพ่อทุกสถาบัน
ข้าวต้มปลาเหมือนกัน 21.12
เมธหายไปสักพักก็กลับมา คาดว่าคงเดินไปเคาะห้องนทีนั่นแหละ
ทะเลสีฟ้า
21.13 โอเค
พอตอบข้อความของเมธเสร็จผมก็วางโทรศัพท์ลงแล้วลุกขึ้นไปสั่งข้าวต้มปลาอีกสองถุงกับลุงคนขาย
“ซื้อไปฝากเพื่อนเหรอ?” พอเดินกลับมาที่โต๊ะท้องฟ้าก็เงยหน้าจากชามข้าวต้มมาถามผม
“ครับ”
“นี่ ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้นะ ยังไงก็อายุเท่ากัน” มือที่กำลังจะตักข้าวต้มเข้าปากถึงกับค้างเติ่งกลางอากาศ ผมกะปริบตามองคนตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก
“เอางั้นเหรอ?” ถึงเขาจะรู้ว่าเราอายุเท่ากันก็เถอะ แต่คนอื่นไม่ได้มารู้ด้วยไง ถ้าอยู่ข้างนอกมันไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้าอยู่ในมหา’ลัยคนอื่นก็อาจจะมองว่าผมไม่เคารพรุ่นพี่ก็ได้ ยิ่งคณะผมยิ่งเคร่งเรื่องการเคารพรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่กับเมธมันไม่เป็นไร คนอื่นเขาเข้าใจว่าผมกับเมธเป็นแฟนกัน เวลาผมพูดหยาบใส่เมธคนก็จะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก
“อื้อ พูดกูมึงก็ได้นะ ตามสบายเลย” ท้องฟ้าตอบกลับด้วยท่าทางสบายๆ
“อือ” แต่ผมนี่สิคิดหนักเลย ใครมันจะไปกล้าพูดหยาบกับเขาวะ? นี่คนที่ชอบไง ไม่ใช่เพื่อน จะให้มาพูดหยาบมันก็ดูไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อบทสนทนาจบลงเราทั้งคู่ก็หันกลับมาให้ความสนใจกับอาหารตรงหน้าต่อ
“มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง” ผมรีบเอ่ยขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไปจ่ายเงินค่าข้าว ใบหน้าหล่อหันกลับมามองผมนิ่งๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไร แค่นั้นผมก็รู้แล้วว่าเขาไม่เห็นด้วย
“ก็ นายอุตส่าห์มาช่วยสอนเปียโนให้นี่ ถือว่าแทนคำขอบคุณก็แล้วกัน” อย่างน้อยก็ควรจะตอบแทนเขาบ้างล่ะนะ
“ก็ได้” ท้องฟ้าเงียบไปสักพักก็พยักหน้ารับ ผมเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นรอยยิ้มก่อนจะลุกขึ้นไปจ่ายเงินค่าข้าวแล้วเดินไปหาท้องฟ้าที่ยืนรออยู่
“ไม่เครียดใช่ไหม? เรื่องประกวดดาวเดือนน่ะ”
“ไม่หรอก ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว แต่แค่ไม่อยากให้ออกมาแย่เท่านั้น” ผมไม่ได้อยากเป็นเดือนคณะหรือเดือนมหา’ลัย เพราะรู้ตัวเองดีว่าไม่ได้มีอะไรโดดเด่นขนาดนั้น มีหลายคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งเดือนมหา’ลัย ที่นอนมาแน่ๆ เลยก็แบท และที่คิดว่าสูสีกันก็ฮิม ส่วนซินก็มีโอกาสสูง แต่ไม่ว่าจะเป็นใครได้ผมก็คิดว่ามันเหมาะทั้งนั้นแหละ
“อืม เจอกันพรุ่งนี้” รถคันหรูขับมาจอดที่หน้าคอนโดพอดี
“ขอบคุณที่มาส่ง ขับรถดีๆ” ผมหันไปบอกเขาด้วยรอยยิ้มแล้วคว้าเอากระเป๋าเป้กับถุงข้าวต้มมาถือไว้เตรียมลงจากรถ ท้องฟ้าพยักหน้ารับเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร ผมมองเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าคอนโดไป
-------------------------------------------------------------------------------------------
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แง ตอนสั้นไป ขออีกกก ปล้นตอน ;_;