ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ++เรื่องที่ซับซ้อน++
เสียงจอแจที่ดังอยู่ในโรงอาหารไม่ได้ทำให้พวกฉันสนใจหรือรำคาญเลยแม้แต่น้อย  นี่ก็เข้าหน้าฝนแล้ว  ฝนที่ตกพรำๆข้างนอกจึงทำให้บรรยากาศในโรงอาหารดูชื้นและแฉะไปด้วยรอยเท้าที่เปื้อนน้ำของพวกนักเรียน   
=_=โชคดีจริงๆที่โรงเรียนฉันลาดพื้นปูกระเบื้อง    ไม่งั้นได้มีโคลนเลอะๆเต็มพื้นไปหมดแน่เลย
“ยัยนั่นไง>_<”
ฉันหันไปมองผู้หญิงผิวหมึกที่ดัดฟันสีเขียวสะท้อนแสง 
-_-a สงสัยจังว่าใครบอกมันว่าใส่แล้วดูดี
“ทุเ รศ -_-^”
อีกเสียงหนึ่งด้านข้างดัดจริตไม่แพ้กัน  ฉันหันไปมองมันด้วยสายตาที่ขุ่นเขียวและเรืองแสงยิ่งกว่าเหล็กดัดของอีผิวหมึกเพื่อนมันซะอีก-_-^
โรงอาหารเป็นที่อันตรายสุดๆ  สำหรับคนตกเป็นข่าวอย่างฉัน-_-    และถ้าแฟนฉันไม่เด่น  พี่ฉันไม่ดัง  ฉันไม่เป็นสาวสวยติดอันดับ    หลายๆคนในโรงอาหารนี้คงไม่สนใจฉันเป็นแน่ 
=_= ฉันเกลียดการตกเป็นข่าวจริงๆ
“นี่^^เห็นหยิ่งๆ  ความจริงก็ไม่เบานะ”
เสียงผู้ชายกลุ่มข้างๆซุบซิบอย่างชอบใจก่อนจะส่งสายตาวิบวับ  บ่งบอกถึงความต้องการ  ความขยะแขยงที่ฉันเคยรู้สึกกับไอพวกหน้าเหรียกกลับมาทันที
>_<เฮงซวย  เฮงซวยที่สุด  ฉันไม่ได้เตรียมใจมาเผชิญกับเหตุการณ์บ้าๆแบบนี้นะ
“หลีกไป-_-^”
ฉันเดินกระแทกอีผิวหมึกคาบพริกเขียวอย่างแรงโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้ามัน    พวกมันส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ-_-a 
>_<อย่านึกว่าฉันกลัวพวกแกนะเฟ้ย    แต่ตอนนี้คนที่ฉันอยากเก็บแรงไว้ตบคืออีหัวซอยส้มเน่าดีเจคนดีของพวกแกต่างหาก
ฉันกระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจขณะเดินไปที่โต๊ะ    เสียงซุบซิบนินทาและเสียงแซวดังมาไม่หยุดหย่อน  ไม่ว่าจะเป็น......
“หน้าไม่อายเลยอ่ะ-_-“
หรือ...
“เสียชื่อพี่สายน้ำจริงๆเลย>_<  ไม่อยากจะเชื่อเลย  คิมเอายัยนี่เป็นแฟนได้ไงนะ”
แม้แต่...
“ถ้ากรูเข้าไปขอเนี่ยเค้าจะให้ไหมวะ^^ กรูเล็งไว้นานแล้ว  ตอนแรกไม่นึกว่าจะเป็นพวกแบบนั้นนะเนี่ย”
>_<อยากจะบ้าตาย    ฉันโปรยแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายไปตามทางกว่าจะถึงโต๊ะก็เล่นเอาเกือบตาย-_-    โชคดีที่ความโกรธพุ่งพล่านเรื่องอีส้มเน่าทำให้ฉันเห็นมันเป็นแค่เสียงนกเสียงกา
อดทนไว้สายป่าน  อดทนไว้
เคล้ง!
ฉันกระแทกจานลงกับโต๊ะเสียงดัง-_-    แป้งที่นั่งอยู่หันมามองเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกฉันเป็นอย่างดี 
“เจ็บใจนัก>_<”
พลอยกัดช้อนกรอดๆอย่างหัวเสีย    ส่วนใบเฟิร์นที่เพิ่งเช็ดน้ำตาก็เขี่ยข้าวในจานเหมือนกับมันเป็นพยาธิไส้เดือนกิ้งกือก็ไม่ปาน
>_< มันอะไรกันเนี่ย    ตอนนี้ความคิดให้หัวฉันมีแต่สายฟ้าฟาด  เสียงหึ่งๆ    และการกรีดร้องอย่างโหยหวนของหญิงสาวแสนสวย
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!
อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ  ถ้าไม่กลัวพวกในโรงอาหารจะว่าฉันเป็นบ้าหรือจะเข้าใจผิดอีกว่าฉันสติแตกเพราะโดนข่มขืนมา    ฉันกรี๊ดออกมาแน่-_-++++
ก็แล้วทำไมคนอย่างอีส้มเน่าถึงได้ลอยหน้าลอยตาเป็นอีสองหน้าหนักแผ่นดินโรงเรียนอันมีระดับอย่างโรงเรียนนี้อยู่ได้นะ>O<
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“เฮ้อ=_=”
ฉันถอนหายใจรอบที่ล้านแปด    หลังจากที่ฉันเข้าไปวีนแตกในห้องเรียนพี่น้ำ  พวกฉันก็ต้องอึ้งมากกับการเล่นละครของอีส้มเน่า  และท่าทีของพวกพี่น้ำ
.....พวกพี่น้ำเข้าข้างมัน-_-^  พี่น้ำว่าฉันเป็นอันธพาล  พี่ไผ่โกรธใบเฟิร์น.......
นั่นเป็นความจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีมานี้    ใบเฟิร์นถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ทันทีที่พี่ไผ่วิ่งตามอีส้มเน่าออกไป  พวกฉันได้แต่ปลอบโยนใบเฟิร์นโดยที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำไงได้    พอหายอึ้งได้สักพักก็เลยชวนกันลงมากินข้าวอย่างไร้วิญญาณ=_=
“สาวๆ-O- เป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย  เหี่ยวเฉาเหมือนปลาบู่ขาดวิตามินเลยอ่ะ”
เอ็มวางถ้วยก๋วยเตี๋ยวลงข้างๆใบเฟิร์นพลางมองหน้าพวกเราไปมาเพื่อต้องการคำตอบ
ไม่มีอะไรหลุดจากปากพวกเรา  ฉันเริ่มก้มหน้าก้มตากินข้าวถึงแม้จะรู้สึกว่ามันไม่อร่อยเลยก็ตาม 
ทำไมข้าวไข่เจียวหมูสับของฉันมันถึงมีกลิ่นส้มได้ฟระ-..-
ฉันกินน้ำเพื่อดับกลิ่น    ....น้ำก็มีกลิ่นส้ม......
ว้อย!-_-++++  อีส้มเน่า  ขนาดฉันกินข้าวแกก็ยังตามมารังควาญอีกเรอะ
ฉันสะบัดหัวก่อนจะผลักจานข้าวออกไป    >_< ทำไมพี่น้ำต้องเชื่อมันด้วยนะ 
“พลอย-_-;; เป็นไรอ่ะ” 
เพชรมองฉันขยาดๆก่อนจะลูบหัวเพลอยเบาๆ
“เพชร>.< นายฟังแล้วนายต้องไม่เชื่อแน่ๆ” 
พลอยทุบโต๊ะรัวๆ ส่งผลให้เพชรกับเอ็มมองด้วยความสงสัยยิ่งขึ้น
จริงสิ-_-a ฉันลืมพวกผู้ชายซะสนิทเลยอ่ะ  พอออดคาบเที่ยงดังขึ้น  ไฟแค้นที่สุมทรวงมันก็พาขาเดี้ยงๆของฉันให้ลากไปถึงห้องพี่น้ำ
ลืมเรื่องคิมไปชั่ววูบจริงๆ-_-;;
“คิมล่ะ”
แป้งถามแทนฉัน  เอ็มยักไหล่เล็กน้อย  ผมที่ชี้โด่เด่เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนวันนี้ยิ่งดูยุ่งกว่าทุกวัน
“จารย์มะลิเรียกอ่ะ-_-a”
อาจารย์มะลิ-_-a อาจารย์ที่สอนภาษาไทย  ที่หน้าตาเหมือนครูลิลลี่อย่างกะพี่น้องท้องเดียวกันอ่ะเหรอ
“เรียกทำไมเหรอ” 
ฉันถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  พยายามทำให้เหมือนๆกับทุกวันให้มากที่สุด 
ถึงแม้ตอนนี้คิมไม่ยอมสบตาฉันเหมือนก่อน    ไม่มีไอหน้าหื่นกวนใจเหมือนทุกๆวัน  แต่ทำไมถึงได้หงุดหงิดๆ    หงุดหงิดกว่าทุกๆวันนะ
“ไม่รู้ดิ  -_-aผีญี่ปุ่นเข้าสิงมันให้ตกภาษาไทยมั้ง  ไม่งั้นจารย์จะเรียกไปทำไมอ่ะ”
เอ็มเกาหัวอย่างใช้ความคิด    ฉันพยักหน้าอย่างเหนื่อยๆ    ความจริงก็ดีเหมือนกัน  ตอนนี้ฉันไม่รู้จะพูดคุยหรือเริ่มต้นยังไง    ไม่รู้จะเริ่มถามหรืออธิบายตรงไหน   
แต่ทำไมฉันต้องดิ้นรนอธิบายด้วยล่ะ    ฉันก็ไม่ได้รักอีตาบ้านี่สักหน่อย    ถึงแม้ตอนนี้ฉันจะรู้สึกแตกต่างไปจากเมื่อตอนแรกๆแล้วก็เถอะ    แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าฉันรักคิมรึเปล่า
สิ่งที่ฉันควรจะรู้สึกตอนนี้คือเจ็บใจ  เสียใจ  น้อยใจ  ทำไมฉันจะต้องมาเจอเรื่องอย่างนี้ด้วย  ตอนนี้แค่ความกดดันในโรงเรียนก็ทำให้ฉันเกือบบ้าได้อยู่แล้ว>_<  แต่สิ่งที่ทำให้ฉันทนอยู่กับบรรยากาศนี้ได้คือกำลังใจที่แป้ง  พลอย  ใบเฟิร์นมอบให้
คิม....  นายไม่สบตาฉันเพราะนายคิดว่าฉันมีอะไรกับพวกนั้นเหมือนๆกับคนในโรงเรียนใช่ไหม  ถ้าฉันมีอะไรกับไอ้พวกนั้นจริงๆ  แล้วนายรับได้รึเปล่าล่ะ
การกระทำของนายมันบอกอะไรได้หลายๆอย่างเลยนะ.....
แต่ถึงอย่างนั้น  ตอนนี้ฉันก็ยังไม่อยากจะคิดอะไรมาก  ฉันยังเชื่อกับคำบอกรักที่นายบอกอยู่ทุกๆวัน  คำบอกรักที่มันฟังแล้วกวนโมโหและน่ารำคาญนั่นแหละ   
=_=ยิ่งคิดยิ่งเครียดวุ้ย..  ไอบ้าเอ๊ย-_-^  เดี๋ยวถ้าแกเดินมาบอกรักฉัน  ฉันจะกระโดดกอดคอแกกลางโรงอาหารให้ดูเลย
แต่ขอที  มองตาฉันจะได้มั๊ยยย>_<
“เฟิร์น>O<  ตาบวมๆเป็นไรอ่ะ  บอกลิงน้อยหน่อยดิ๊” 
เอ็มจิ้มแขนใบเฟิร์นเบาๆอย่างขี้เล่นเหมือนทุกๆครั้ง 
-_-“ จะว่าไปไอนิสัยปัญญานิ่มของไอเอ็ม  ก็ใช้ได้ดีเวลาเครียดๆเหมือนกันนะเนี่ย
“เปล่าซะหน่อย” 
ใบเฟิร์นตอบแต่มือก็ยังเขี่ยข้าวอย่างไร้วิญญาณ    ใบเฟิร์นไม่เคยทะเลาะกับพี่ไผ่เลยสักครั้ง    สองคนนี้ดูยังไงก็รักกัน  เพียงแต่ไม่ยอมบอกให้รู้ๆกันไปเก็บเอาไว้อยู่ได้  -_-aเห็นแล้วยังหงุดหงิดแทนเลย
อีส้มเน่าถึงได้มีโอกาสแทรกกลางอย่างนี้ไงล่ะ  -__-+ คิดแล้วแค้นโว้ย
“อ้าว^^พี่น้ำนั่งนี้มั๊ยอ่ะ  ว่างพอดีๆ” 
เอ็มหันไปทักทายพี่น้ำอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
-_-^ คิดอีกทีฉันว่าแกควรจะเลิกปัญญานิ่มได้แล้วนะไอเอ็ม
“แก-_-^ ดูนั่นดิ” ไอแป้งกระซิบ 
ฉันเลยหันไปมองอย่างเสียไม่ได้  ความจริงแล้ววันนี้ฉันโกรธพี่น้ำมาก  โกรธมากจริงๆนะ    ถึงปกติพี่น้ำจะชอบแกล้ง  ชอบด่า  ชอบกัด  แต่พี่น้ำไม่เคยตวาดเสียงดังขนาดนั้น-_- 
แต่ทั้งหมดอาจเป็นเพราะอีนังส้มนั่นมันตีสองหน้า  บางทีถ้าฉันคุยกับพี่น้ำแล้วหาทางเค้นคอมันดีๆ  เรื่องนี้อาจจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็ได้
ฉันระงับอารมณ์โกรธที่พุ่งพล่านก่อนจะหันไปสบตากับพี่น้ำ    แล้วฉันก็ต้องอึ้งอีกครั้ง  สิ่งที่ไอแป้งบอกให้ดูไม่ใช่พี่น้ำ  แต่เป็นผู้หญิงที่ยืนอยู่กับพี่ไผ่  ปากจิ้มลิ้มของมันที่ตอนนี้ฉันอยากจะตบให้เลือดสาดออกมากำลังขยับอย่างร่าเริง    อีส้มเน่า-_-^ มันเดินมากับพวกพี่ไผ่มันกำลังหัวเราะอย่างร่าเริง    ในขณะที่พวกฉันต้องมาเหี่ยวเฉา  ไร้วิญญาณ=_= 
ฉันจ้องมันจนมันรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่พุ่งพรวดออกมาได้    มันหันมาเห็นฉันก็หน้าซีดทันที  ก่อนจะชะงักเล็กน้อยมีท่าทีไม่ค่อยมั่นใจอย่างเห็นได้ชัด
-_-***  กรูไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาด่าคนอย่างเมิงแล้วเนี่ย
“......ป่าน...” 
ใบเฟิร์นบีบมือฉันแน่น  ฉันรู้ว่ามันไม่ได้เตรียมพร้อมจะสู้เหมือนกับฉัน  มันยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับพี่ไผ่ที่แสนดีของมันที่วันนี้กลับเห็นอีส้มเน่านั่นดีกว่าคู่หมั้นของตัวเอง-_-^
-_-^^ แต่ฉันไม่กลัว  ฉันเปลี่ยนไปมองหน้าพี่น้ำแทนพร้อมกับเลิกคิ้วเหล่ตาเป็นเชิงถาม  ความโกรธที่เพิ่งระงับไปเมื่อกี๊กลับมาอีกแล้ว  พี่น้ำชะงักเล็กน้อยแล้วเดินมาที่โต๊ะฉัน
“นี่มันอะไรกันพี่น้ำ-_-^”
“อะไร-_- ฉันก็แค่มากินข้าว” 
พี่น้ำตอบเรียบๆขณะนั่งลง  คนอื่นๆก็พากับมานั่งแม้แต่อีส้มเน่า
-_-++ อะไรฟระ  มากินข้าวแล้วทำไมต้องพาอีชะนีขนดกนี่มาด้วย
“เอ่อ-_-a โทดที  มะกี้พี่อาจจะแรงกะแกไปหน่อย” 
พี่น้ำที่นั่งมองฉันอยู่นิ่งๆขยี้หัวฉันเบาๆ    ฉันหันไปมองอย่างงอนๆ   
>_< ไม่แรงไปหน่อยแล้วล่ะพี่น้ำ  พี่น้ำว่าเค้าเป็นอันธพาล    ทั้งๆที่ตัวเองเป็นมาเฟียเนี่ยนะ  แรงมากๆเลยล่ะ-.,-
“พี่น้ำไม่ฟังป่านเลย  พี่น้ำคิดว่าป่านเป็นคนอย่างนั้นเหรอ”  ฉันสะบัดเสียงอย่างน้อยใจ 
“ฉันรู้-_-  แต่แกก็น่าจะมีเหตุผลมากกว่านี้นะ    แกได้ยินแค่เสียง  แกก็มากล่าวหาว่าเค้าทำแล้ว  จะให้ฉันไปว่าเค้าก็ไม่ได้”  พี่น้ำถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
>_<อะไรเนี่ย  สุดท้ายก็ยังว่าฉันอยู่ดี 
“น้องป่าน  น้องเฟิร์น  เอ่อ...  น้องอีกสองคน  ขอนั่งด้วยได้เปล่าคะ” 
อีส้มเน่าที่เดินเข้ามายิ้มแหยๆ พลางหันไปมองพี่ไผ่ทีอย่างลังเล-_-^
โอ๊ย>.<แกอย่าทำเหมือนพวกฉันน่ากลัวมากนักได้ป่ะ    ในโรงอาหารพวกฉันไม่ทำอะไรแกหรอก  แต่ถ้าแกเดินไปเปลี่ยวๆเมื่อไหร่ละก็ไม่แน่-_-^ หึหึ
“ไม่ได้ติดป้าย หมาห้ามนั่งนี่-.,-^” 
ฉันสแยะยิ้มกลับไป    ได้ผล....อีส้มเน่าถึงกับสะอึก
-_-^ แกอย่ามาตบตาหรือพยายามชะเลียฉันเด็ดขาด
“ป่าน-_-^” 
พี่น้ำปรามอย่างดุ  เสียงเรียบๆที่พยายามเหมือนจะสะกดกลั้นอารมณ์โมโหไว้เมื่อกี้เริ่มจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ
“ทำไมล่ะพี่น้ำ-_-^  พี่น้ำอย่ามาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ  ป่านยอมไม่ได้หรอก  ยังไงป่านก็ต้องกระชากหน้ากากมันออกมา    มันเป็นคนทำ” 
ฉันลุกขึ้นทุบโต๊ะและตะโกนอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่อีกต่อไป    คนในโรงอาหารเริ่มหันมามองกันมากขึ้น 
“ฉันแค่คิดว่าถ้าแกปรับความเข้าใจกับส้มได้ก็คงดี  แล้วเราค่อยมาถกกันเรื่องคนร้ายหรือคนวางแผนตัวจริงกัน    แต่ทำไมแกไม่ทำใจให้เย็นๆลงเลย  หา-_-^”
“ก็มันนั่นแหละที่เป็นคนวางแผนทั้งหมด  ป่านบอกแล้วไง-_-^ ยังไงป่านก็คิดว่ามันเป็นคนร้าย    ทำไมพวกพี่ไม่เชื่อป่านบ้าง  ว่าอีนี่อ่ะ  มันตอ แหล-_-^”
“ป่าน!-_-^^ ส้มเป็นรุ่นพี่แกนะ  แค่นี้เค้าก็ไม่โกรธแกแล้ว  แกหยุดซะทีได้มั๊ย  พี่เริ่มโมโหแล้วนะ”
“ไม่-_-+  ป่านไม่หยุด  อีนี่มันสองหน้า  ตอแหล  พวกพี่อ่ะ  โง่ๆๆๆ”ฉันพ่นออกมาด้วยความโมโห 
“ป่าน-_-^^”
“ทำไมอ่ะพี่น้ำ  พี่น้ำก็ชอบมันอีกคนรึไง  หน้าเหมือนปลาเทศบาลดูดกระจกเนี่ยนะ  ถ้าพี่น้ำชอบมันล่ะก็  หน้าโง่....”  ฉันชะงักไป
ปัง!
พี่น้ำกระแทกหมัดลงกับโต๊ะแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองฉัน    ฉันรู้ว่าฉันพูดแรง  ฉันไม่ควรจะด่าพี่น้ำ  พี่น้ำไม่ผิด  คนที่ผิดคืออีส้มเน่าต่างหาก
“ป่าน-_-^ ฉันขอพูดครั้งสุดท้าย  แกขอโทษส้มซะ”  พี่น้ำเค้นเสียงรอดตามไรฟันออกมา
เงียบ.....
ไม่มีเสียงใดๆออกมาจากปากฉัน    มันคงแก้ไขไม่ได้แล้วสินะ    จะจบแบบที่คิดก็ไม่ได้แล้วสินะ  ก็พวกพี่น้ำเทใจให้มันหมดแล้วไม่ใช่รึไง 
“ไม่”
ฉันบอกก่อนจะเก็บของอย่างรีบร้อน 
“เอ่อ>_< อย่าทะเลาะกันเพราะส้มเลยนะ    ส้มไม่ถือหรอก  น้องเค้าคงเข้าใจผิด”
อีส้มเน่าเอ่ยขัดจังปากมันพูดกับพี่น้ำจริงแต่ตามันสิจ้องพี่ไผ่ซะเยิ้มเชียว
“ไม่ต้องเสรือก-_-^”
ฉันด่าเน้นคำหลังเป็นพิเศษ  ตอนนี้ไม่สนแล้วว่าใครจะมอง  มองก็ดีสิ-_-^  คนทั้งโรงเรียนจะได้รู้ไปเลยว่าฉันเกลียดมัน  ฉันสะบัดหน้าออกมาไม่สนว่าพี่น้ำจะมองฉันยังไง    แม้แต่พี่เต้พี่ชายที่ฉันรักรองลงมาจากพี่น้ำก็ยังมีท่าทีลำบากใจ
งั้นก็เชิญโง่กันไปเถอะนะ-_-
“งั้นพวกเราขอตัว”
แป้งกับพลอยพูดพร้อมกันขณะรวบช้อนก่อนจะลุกตามฉัน  ส่วนใบเฟิร์นไม่พูดอะไร
“เฟิร์น” 
พี่ไผ่พูดด้วยเสียงอันแผ่วเบาแล้วจับมือใบเฟิร์นไว้    ใบเฟิร์นมองอย่างชั่งใจก่อนจะสะบัดมือพี่ไผ่
“ไปกันเถอะ”
ใบเฟิร์นพูดอย่างหนักแน่น  พวกเราพยักหน้าแล้วเดินออกมามีเพชรกับเอ็มที่ไม่รู้เรื่องอะไรตามมาด้วย   
>_<เจ็บใจยิ่งกว่าเมื่อกี้อีก    ทำยังไงนะ  ฉันถึงจะได้กระชากหน้ากากของมันออกมาได้  ต้องทำยังไงเนี่ย
“เอาล่ะ  ตกลงเรื่องมันเป็นอย่างนี้เองเหรอ” 
เพชรพูดขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน
“อือ>O<เพชรดูดิ  พลอยล่ะเจ็บใจจริงๆ” 
พลอยขยำเสิ้อเพชรจนมันยับไปหมด  ฉันมองคู่นี้ด้วยความอิจฉาเล็กน้อย 
>_<จนป่านนี้คนของฉันก็ยังไม่โผล่หัวมาให้อ้อนอย่างนี้บ้างเลย  เป็นแฟนประสาอะไรกัน
ฉันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู-.,-  นี่ก็เกือบจะเข้าคาบบ่ายแล้ว หลังจากที่พวกเราเดินออกมาจากโรงอาหารก็มานั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ ส่วนคิมยังไม่กลับมาจากห้องพักอาจารย์เลย 
“เออ>.< เป็นไปได้ไงเนี่ย”
เอ็มบอก  ฉันหันไปมองเอ็มอย่างดีใจ  นี่แสดงว่าสองคนนี้ก็คิดเหมือนพวกเรางั้นสิ>_<
“ดูดิ>O< เธอปล่อยให้สิวขึ้นได้ไงเนี่ย  เป็นไปได้ไง”
เอ็มว่าพลางเอานิ้วจิ้มสิวที่หน้าผากฉัน  ฉันปัดมือนั้นออกทันที
-_-^^^^^  ไอ้เวง  นี่ไม่ใช่เวลามาตลกฝืดนะเฟร้ยยยยยยยยย
“แกเคยอยู่ๆแล้ววูบมะ-_-^”
“เอ่อ=_= ไม่อ่ะ  เอ้ย! ไม่ลองนะ  เค้ากลัว” 
เอ็มบอกอย่างตกใจทันทีที่เห็นสายตาของฉัน 
ตอนนี้ไอลูกตาลมันต้องการให้เครียดนะโว้ย  เมิงอ่ะออกไปเลย-..-
“เข้าเรื่องดีกว่า  ฉันบอกตามตรงนะฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าพี่ส้มเค้าจะเป็นคนแบบนั้น”  เพชรปราม
พวกฉันหันไปมองหน้าเพชรพร้อมๆกัน  นี่สองคนนี้ก็ไม่เชื่อพวกเราด้วยเหรอเนี่ย
“เฮ้ยๆ  อย่ามองอย่านั้นดิ=_=  ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อพวกเธอนะ  แค่บอกว่าไม่อยากจะเชื่อเท่านั้นเอง”
เพชรรีบปฏิเสธก่อนที่พลอยจะหยิกเข้าที่ต้นแขน
-_-a แล้วมันต่างกันยังไงฟระ
“เอาเป็นว่าพวกฉันเชื่อพวกเธอละกัน-.,-  แต่พวกเธอก็บุ่มบ่ามเกินไป  อยู่ๆก็ไปกล่าวหาอย่างไม่มีหลักฐานมันไม่ได้หรอกนะ”  เพชรพูดต่อ 
-_-a เออ  ถ้าฉันมีหลักฐานก็เอาไปมัดตัวมันแล้วล่ะ
“อ๊ายย>O< ยังต้องหาหลักฐานอะไรอีกละ  ก็เข้าไปตบๆๆๆให้มันสารภาพมาก็สิ้นเรื่อง”
แป้งวี้ดเสียงดัง    ส่งผลให้เพชรกับเอ็มถึงกับต้องถอยออกมา
“แล้วพวกนายจะให้ทำไงล่ะ  ไม่มีหลักฐานอะไรซักอย่าง  อีนั่นก็ไม่ยอมสารภาพออกมา  พยานก็มีแต่ไอป่าน  ซึ่งพวกพี่น้ำก็ไม่เชื่อ”
พวกเราพยักหน้าพร้อมกันอย่างใช้ความคิดทันทีที่พลอยพูดจบ    จะทำยังไงถึงจะพิสูจน์ได้ว่ามันวางแผนจับตัวกับพวกไอซันได้นนะ-*-
“เอ่อ-_- ฉันว่าเราไปเรียนกันก่อนแล้วค่อยมาหาวิธีดีกว่ามะ  จะเข้าเรียนแล้ว”
ใบเฟิร์นที่นั่งเงียบอยู่นานพูดออกมา 
“เออ  ไปกันเหอะ  นั่งนี่นานๆไม่ดีหรอก  เป็นขี้ปากไอพวกนั้นเปล่าๆ”
แป้งบุ้ยใบ้ไปทางโต๊ะอื่นที่ตอนนี้กำลังจ้องมองพวกเราอยู่
คนที่มันมองอยู่ก็คงไม่ต้องสงสัยหรอกว่าใคร    -_-+ พวกแกอยากพูดอะไรก็มาพูดกับฉันตรงๆสิยะ  แอบนินทาอยู่ทำไมล่ะ
“ทำไมไอคิมยังไม่กลับมาอีกอ่ะ-_-;;”เอ็มหันไปมองรอบๆ
“เฮ้ยO_O หรือว่า.....”
“หรือว่าอะไรอ่ะ=_=” ฉันถามเอ็มที่ทำตาโตอย่างสงสัย 
“เธอไม่เคยได้ยินข่าวลือที่ว่าเหรอป่าน” เอ็มหันมาบอกอย่างร้อนรน
(- -  )(  - -)(- -  )(  - -)(- -  )ฉันส่ายหน้า  แล้วกรูจะไม่รู้เรอะไอข่าวลือที่ว่าน่ะ   
“แกไม่รู้รึไงว่าอาจารย์มะลิอ่ะชอบเด็กผู้ชาย”  แป้งตบไหล่ฉันก่อนจะพูดด้วยท่าทางขนลุกทั้งที่อากาศก็ไม่ได้หนาวสักนิด
“แล้วไงอ่ะ-_-aa”  ฉันยังซื่อต่อไป    แล้วฉันจะไปยุ่งอะไรด้วยเนี่ยในเมื่อมันเป็นรสนิยมส่วนบุคคล
“แกไม่รู้เหรอว่าเด็กผู้ชายที่ถูกจารย์มะลิเรียกไปพบตัวต่อตัวน่ะ    ไม่รอดเลยซักราย” แป้งกับเอ็มเข้ามาล้อมฉันอย่างน่ากลัว
>_<อะไรกันเนี่ย อาจารย์มะลิเป็นฆาตกรโรคจิตรึไง  ดูไปพวกแกยังน่ากลัวกว่าอีก
“เพราะฉะนั้นแกจึงสมควรจะเป็นคนไปตามคิมกลับมา” แป้งชี้นิ้วสั่งอย่างเด็ดขาด
“ทำ..ทำไมฉันต้องไปตามนายนั่นด้วย”  ฉันตอบตะกุกตะกัก 
“เพราะเธอเป็นแฟนมันน่ะสิ  หน้าที่ปกป้องความบริสุทธิ์ของมันจึงต้องเป็นของเธอ  เข้าใจมั๊ย”  ฉันเกาหัวแกรกๆทันที  เอ็ม-_- ฉันว่ายังไงไอหน้าหื่นนั่นก็ไม่เหลือความบริสุทธิ์ให้จารย์มะลิพรากไปได้แล้วแหละ
“ยืนนิ่งอยู่ได้-_-^ ไปได้แล้ว  เดี๋ยวก็เข้าคาบหรอก”  แป้งผลักฉันให้เดินไปทางอาคารสองซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องพักอาจารย์หมวดภาษาไทยก่อนจะชวนพวกที่เหลือกลับไปรอที่ห้อง    ฉันกระทืบเท้าอย่างขัดใจ  >O<ทำไมฉันไม่เคยเถียงทันไอพวกนี้ได้เลยนะเนี่ย
“ชิ- -( แค่นี้ก็ต้องให้ไปตาม”  ฉันสบถไปตามทาง  แต่จริงๆแล้วในใจอาจจะดีใจมากกว่าที่จะได้เจอกับอีตาบ้านั่น
นี่เป็นโอกาสแล้วที่จะพูดกับคิมให้รู้เรื่อง    ฉันจะได้เอาหน้าหื่นๆนั่นกลับมาซะที  เห็นอย่างนี้แล้วมันขัดลูกกะตาจริงๆ
อ๊ะ^O^.. เจอแล้วเพิ่งออกมาจากห้องพักครูจริงๆด้วย  ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย  โดนทำอะไรมารึเปล่าเนี่ย
เอาล่ะ=_= 
“คิม^^”
เสียงสดใสร่าเริงที่เรียกชื่อของอีตาบ้าแฟนฉันข้างบนไม่ใช่เสียงฉันหรอก    แต่กลับเป็นเสียงของผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่วิ่งหอบๆเข้ามา  ใบหน้ารูปใข่ที่ล้อมกรอบด้วยผมยาวตรงผูกเป็นหางม้านั้นมีเหงื่อผุดเล็กน้อย  ปากของเธอสีแดงระเรื่อและมีขนตาที่งอนยาวมาก
O_O ใครเนี่ย?  ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
“อ้าว^^ ไงยัยแมวขี้โรค  มาได้แล้วเหรอ  นึกว่าเทอมนี้จะไม่เรียนซะแล้ว”  คิมทักทายเธอคนนั้นอย่างอารมณ์ดี
O_Oเฮ้ยๆ  ยัยนั่นเป็นใครกัน  ทำไมนายต้องไปยิ้มแย้มร่าเริงด้วยขนาดนั้น  ทั้งๆที่ปกติมันต้องเป็นฉันคนเดียวไม่ใช่รึไง
“นี่>_<อย่าเรียกเค้าว่ายัยแมวขี้โรคนะ  ตอนนี้แข็งแรงแล้วนะ”  ผู้หญิงคนนั้นพูดแล้วทำแก้มป่อง  แก้มใสๆมีสีชมพูระเรื่อ     
>_< น่ารักเป็นบ้าเลย
“งั้นเหรอ^O^  งั้นดูหน่อยดิว่าแข็งแรงแค่ไหน”  คิมบอกก่อนจะดึงโบว์ผูกผมของเธอคนนั้นมาเล่น  เธอคนนั้นวี๊ดว้ายอย่างหัวเสีย    ทั้งสองคนยื้อแย่งโบผูกผมกันโดยไม่รู้เลยสักนิดว่ามีใครกำลังยืนมาอยู่
O.Oคิม  คนที่ไม่เคยเล่นกับผู้หญิงอื่นนอกจากฉันคนนั้นนะเหรอ....  ไม่อยากจะเชื่อ  คนที่จะวิ่งเล่นสนุกสนานอย่างนั้นมันต้องเป็นฉันไม่ใช่รึไง
“อู๊ยย>_<”  อยู่ๆเธอคนนั้นก็ล้มลงกุมท้องเอาไว้  คิมหยุดวิ่งทันทีก่อนจะเข้ามาดูเธออย่างเป็นห่วง
“เฮ้ยO_O เป็นไรอ่ะโบว์  ไหนว่าแข็งแรงแล้วไง”
“มะ  ไม่รุ>.< เค้าปวดท้อง”  ผู้หญิงที่ชื่อโบว์ร้องอย่างทรมาน  หน้าของเธอซีดลงอย่างเห็นได้ชัดแถมยังหอบอีกต่างหาก
“ไม่ใช่ปวดท้องธรรมดาแล้วล่ะอย่างนี้  ฉันว่าเธอรีบกลับบ้านดีกว่า”  คิมพูดอย่างงรีบร้อนขณะช้อนร่างของโบว์มาไว้ในอ้อมแขน 
“ทนหน่อยนะ>.<  ดีนะที่บ้านเธออยู่ใกล้ๆ”  คิมรีบสาวเท้าเดินมาทางฉันอย่างร้อนใจ   
ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรเราก็สบตากับพอดี
...เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องที่ฉันได้สบตากับคิม....
“ป่าน “ คิมบอกอย่างตกใจ  ดูเหมือนจะไม่ได้เห็นหรือรู้สึกเลยสินะว่าฉันยืนดูอยู่ตรงนี้นานแล้ว   
“ฉันมาตามนายไปเรียน” ฉันพูดเรียบๆอย่างไร้ความรู้สึก
ยัยนี่เป็นใครกัน  ทำไมนายถึงได้ห่วงเธอมากมายขนาดนี้   
“อู๊ย>.<” โบว์ครวญครางออกมาอีกครั้ง   
“ไม่ได้แล้วป่าน  ฉันคงต้องโดดแล้วล่ะ  โบว์ไม่สบายน่ะ”  คิมเดินผ่านฉันไปอย่างรวดเร็ว  ฉันชาไปทั้งตัว  ความจริงฉันก็เข้าใจว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังไม่สบาย
แต่ทำไมนายต้องเป็นห่วงเค้าขนาดนั้นด้วยล่ะ    ไหนนายว่าจะไม่มีเรื่องผู้หญิงมารบกวนจิตใจฉันแล้วไง    แล้วนี่ทำไมฉันต้องหงุดหงิดที่เห็นนายเป็นห่วงเธอขนาดนั้นด้วยนะ
“โทดนะป่าน>_<  เย็นนี้ฉันอาจไม่ได้ไปส่งเธอ  แล้วฉันจะไถ่โทษโดยการไปรับเธอพรุ่งนี้นะ” คิมตะโกนบอกมาก่อนจะหายลับไป  ฉันมองตามร่างนั้นไปที่ลานจอดรถ   
ให้ตายเหอะ.....ประโยคเมื่อกี๊มันไม่เข้าหัวฉันเลยสักนิด.....
=_=โชคดีจริงๆที่โรงเรียนฉันลาดพื้นปูกระเบื้อง    ไม่งั้นได้มีโคลนเลอะๆเต็มพื้นไปหมดแน่เลย
“ยัยนั่นไง>_<”
ฉันหันไปมองผู้หญิงผิวหมึกที่ดัดฟันสีเขียวสะท้อนแสง 
-_-a สงสัยจังว่าใครบอกมันว่าใส่แล้วดูดี
“ทุเ รศ -_-^”
อีกเสียงหนึ่งด้านข้างดัดจริตไม่แพ้กัน  ฉันหันไปมองมันด้วยสายตาที่ขุ่นเขียวและเรืองแสงยิ่งกว่าเหล็กดัดของอีผิวหมึกเพื่อนมันซะอีก-_-^
โรงอาหารเป็นที่อันตรายสุดๆ  สำหรับคนตกเป็นข่าวอย่างฉัน-_-    และถ้าแฟนฉันไม่เด่น  พี่ฉันไม่ดัง  ฉันไม่เป็นสาวสวยติดอันดับ    หลายๆคนในโรงอาหารนี้คงไม่สนใจฉันเป็นแน่ 
=_= ฉันเกลียดการตกเป็นข่าวจริงๆ
“นี่^^เห็นหยิ่งๆ  ความจริงก็ไม่เบานะ”
เสียงผู้ชายกลุ่มข้างๆซุบซิบอย่างชอบใจก่อนจะส่งสายตาวิบวับ  บ่งบอกถึงความต้องการ  ความขยะแขยงที่ฉันเคยรู้สึกกับไอพวกหน้าเหรียกกลับมาทันที
>_<เฮงซวย  เฮงซวยที่สุด  ฉันไม่ได้เตรียมใจมาเผชิญกับเหตุการณ์บ้าๆแบบนี้นะ
“หลีกไป-_-^”
ฉันเดินกระแทกอีผิวหมึกคาบพริกเขียวอย่างแรงโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้ามัน    พวกมันส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ-_-a 
>_<อย่านึกว่าฉันกลัวพวกแกนะเฟ้ย    แต่ตอนนี้คนที่ฉันอยากเก็บแรงไว้ตบคืออีหัวซอยส้มเน่าดีเจคนดีของพวกแกต่างหาก
ฉันกระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจขณะเดินไปที่โต๊ะ    เสียงซุบซิบนินทาและเสียงแซวดังมาไม่หยุดหย่อน  ไม่ว่าจะเป็น......
“หน้าไม่อายเลยอ่ะ-_-“
หรือ...
“เสียชื่อพี่สายน้ำจริงๆเลย>_<  ไม่อยากจะเชื่อเลย  คิมเอายัยนี่เป็นแฟนได้ไงนะ”
แม้แต่...
“ถ้ากรูเข้าไปขอเนี่ยเค้าจะให้ไหมวะ^^ กรูเล็งไว้นานแล้ว  ตอนแรกไม่นึกว่าจะเป็นพวกแบบนั้นนะเนี่ย”
>_<อยากจะบ้าตาย    ฉันโปรยแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายไปตามทางกว่าจะถึงโต๊ะก็เล่นเอาเกือบตาย-_-    โชคดีที่ความโกรธพุ่งพล่านเรื่องอีส้มเน่าทำให้ฉันเห็นมันเป็นแค่เสียงนกเสียงกา
อดทนไว้สายป่าน  อดทนไว้
เคล้ง!
ฉันกระแทกจานลงกับโต๊ะเสียงดัง-_-    แป้งที่นั่งอยู่หันมามองเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกฉันเป็นอย่างดี 
“เจ็บใจนัก>_<”
พลอยกัดช้อนกรอดๆอย่างหัวเสีย    ส่วนใบเฟิร์นที่เพิ่งเช็ดน้ำตาก็เขี่ยข้าวในจานเหมือนกับมันเป็นพยาธิไส้เดือนกิ้งกือก็ไม่ปาน
>_< มันอะไรกันเนี่ย    ตอนนี้ความคิดให้หัวฉันมีแต่สายฟ้าฟาด  เสียงหึ่งๆ    และการกรีดร้องอย่างโหยหวนของหญิงสาวแสนสวย
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!
อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ  ถ้าไม่กลัวพวกในโรงอาหารจะว่าฉันเป็นบ้าหรือจะเข้าใจผิดอีกว่าฉันสติแตกเพราะโดนข่มขืนมา    ฉันกรี๊ดออกมาแน่-_-++++
ก็แล้วทำไมคนอย่างอีส้มเน่าถึงได้ลอยหน้าลอยตาเป็นอีสองหน้าหนักแผ่นดินโรงเรียนอันมีระดับอย่างโรงเรียนนี้อยู่ได้นะ>O<
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“เฮ้อ=_=”
ฉันถอนหายใจรอบที่ล้านแปด    หลังจากที่ฉันเข้าไปวีนแตกในห้องเรียนพี่น้ำ  พวกฉันก็ต้องอึ้งมากกับการเล่นละครของอีส้มเน่า  และท่าทีของพวกพี่น้ำ
.....พวกพี่น้ำเข้าข้างมัน-_-^  พี่น้ำว่าฉันเป็นอันธพาล  พี่ไผ่โกรธใบเฟิร์น.......
นั่นเป็นความจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีมานี้    ใบเฟิร์นถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ทันทีที่พี่ไผ่วิ่งตามอีส้มเน่าออกไป  พวกฉันได้แต่ปลอบโยนใบเฟิร์นโดยที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำไงได้    พอหายอึ้งได้สักพักก็เลยชวนกันลงมากินข้าวอย่างไร้วิญญาณ=_=
“สาวๆ-O- เป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย  เหี่ยวเฉาเหมือนปลาบู่ขาดวิตามินเลยอ่ะ”
เอ็มวางถ้วยก๋วยเตี๋ยวลงข้างๆใบเฟิร์นพลางมองหน้าพวกเราไปมาเพื่อต้องการคำตอบ
ไม่มีอะไรหลุดจากปากพวกเรา  ฉันเริ่มก้มหน้าก้มตากินข้าวถึงแม้จะรู้สึกว่ามันไม่อร่อยเลยก็ตาม 
ทำไมข้าวไข่เจียวหมูสับของฉันมันถึงมีกลิ่นส้มได้ฟระ-..-
ฉันกินน้ำเพื่อดับกลิ่น    ....น้ำก็มีกลิ่นส้ม......
ว้อย!-_-++++  อีส้มเน่า  ขนาดฉันกินข้าวแกก็ยังตามมารังควาญอีกเรอะ
ฉันสะบัดหัวก่อนจะผลักจานข้าวออกไป    >_< ทำไมพี่น้ำต้องเชื่อมันด้วยนะ 
“พลอย-_-;; เป็นไรอ่ะ” 
เพชรมองฉันขยาดๆก่อนจะลูบหัวเพลอยเบาๆ
“เพชร>.< นายฟังแล้วนายต้องไม่เชื่อแน่ๆ” 
พลอยทุบโต๊ะรัวๆ ส่งผลให้เพชรกับเอ็มมองด้วยความสงสัยยิ่งขึ้น
จริงสิ-_-a ฉันลืมพวกผู้ชายซะสนิทเลยอ่ะ  พอออดคาบเที่ยงดังขึ้น  ไฟแค้นที่สุมทรวงมันก็พาขาเดี้ยงๆของฉันให้ลากไปถึงห้องพี่น้ำ
ลืมเรื่องคิมไปชั่ววูบจริงๆ-_-;;
“คิมล่ะ”
แป้งถามแทนฉัน  เอ็มยักไหล่เล็กน้อย  ผมที่ชี้โด่เด่เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนวันนี้ยิ่งดูยุ่งกว่าทุกวัน
“จารย์มะลิเรียกอ่ะ-_-a”
อาจารย์มะลิ-_-a อาจารย์ที่สอนภาษาไทย  ที่หน้าตาเหมือนครูลิลลี่อย่างกะพี่น้องท้องเดียวกันอ่ะเหรอ
“เรียกทำไมเหรอ” 
ฉันถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  พยายามทำให้เหมือนๆกับทุกวันให้มากที่สุด 
ถึงแม้ตอนนี้คิมไม่ยอมสบตาฉันเหมือนก่อน    ไม่มีไอหน้าหื่นกวนใจเหมือนทุกๆวัน  แต่ทำไมถึงได้หงุดหงิดๆ    หงุดหงิดกว่าทุกๆวันนะ
“ไม่รู้ดิ  -_-aผีญี่ปุ่นเข้าสิงมันให้ตกภาษาไทยมั้ง  ไม่งั้นจารย์จะเรียกไปทำไมอ่ะ”
เอ็มเกาหัวอย่างใช้ความคิด    ฉันพยักหน้าอย่างเหนื่อยๆ    ความจริงก็ดีเหมือนกัน  ตอนนี้ฉันไม่รู้จะพูดคุยหรือเริ่มต้นยังไง    ไม่รู้จะเริ่มถามหรืออธิบายตรงไหน   
แต่ทำไมฉันต้องดิ้นรนอธิบายด้วยล่ะ    ฉันก็ไม่ได้รักอีตาบ้านี่สักหน่อย    ถึงแม้ตอนนี้ฉันจะรู้สึกแตกต่างไปจากเมื่อตอนแรกๆแล้วก็เถอะ    แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าฉันรักคิมรึเปล่า
สิ่งที่ฉันควรจะรู้สึกตอนนี้คือเจ็บใจ  เสียใจ  น้อยใจ  ทำไมฉันจะต้องมาเจอเรื่องอย่างนี้ด้วย  ตอนนี้แค่ความกดดันในโรงเรียนก็ทำให้ฉันเกือบบ้าได้อยู่แล้ว>_<  แต่สิ่งที่ทำให้ฉันทนอยู่กับบรรยากาศนี้ได้คือกำลังใจที่แป้ง  พลอย  ใบเฟิร์นมอบให้
คิม....  นายไม่สบตาฉันเพราะนายคิดว่าฉันมีอะไรกับพวกนั้นเหมือนๆกับคนในโรงเรียนใช่ไหม  ถ้าฉันมีอะไรกับไอ้พวกนั้นจริงๆ  แล้วนายรับได้รึเปล่าล่ะ
การกระทำของนายมันบอกอะไรได้หลายๆอย่างเลยนะ.....
แต่ถึงอย่างนั้น  ตอนนี้ฉันก็ยังไม่อยากจะคิดอะไรมาก  ฉันยังเชื่อกับคำบอกรักที่นายบอกอยู่ทุกๆวัน  คำบอกรักที่มันฟังแล้วกวนโมโหและน่ารำคาญนั่นแหละ   
=_=ยิ่งคิดยิ่งเครียดวุ้ย..  ไอบ้าเอ๊ย-_-^  เดี๋ยวถ้าแกเดินมาบอกรักฉัน  ฉันจะกระโดดกอดคอแกกลางโรงอาหารให้ดูเลย
แต่ขอที  มองตาฉันจะได้มั๊ยยย>_<
“เฟิร์น>O<  ตาบวมๆเป็นไรอ่ะ  บอกลิงน้อยหน่อยดิ๊” 
เอ็มจิ้มแขนใบเฟิร์นเบาๆอย่างขี้เล่นเหมือนทุกๆครั้ง 
-_-“ จะว่าไปไอนิสัยปัญญานิ่มของไอเอ็ม  ก็ใช้ได้ดีเวลาเครียดๆเหมือนกันนะเนี่ย
“เปล่าซะหน่อย” 
ใบเฟิร์นตอบแต่มือก็ยังเขี่ยข้าวอย่างไร้วิญญาณ    ใบเฟิร์นไม่เคยทะเลาะกับพี่ไผ่เลยสักครั้ง    สองคนนี้ดูยังไงก็รักกัน  เพียงแต่ไม่ยอมบอกให้รู้ๆกันไปเก็บเอาไว้อยู่ได้  -_-aเห็นแล้วยังหงุดหงิดแทนเลย
อีส้มเน่าถึงได้มีโอกาสแทรกกลางอย่างนี้ไงล่ะ  -__-+ คิดแล้วแค้นโว้ย
“อ้าว^^พี่น้ำนั่งนี้มั๊ยอ่ะ  ว่างพอดีๆ” 
เอ็มหันไปทักทายพี่น้ำอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
-_-^ คิดอีกทีฉันว่าแกควรจะเลิกปัญญานิ่มได้แล้วนะไอเอ็ม
“แก-_-^ ดูนั่นดิ” ไอแป้งกระซิบ 
ฉันเลยหันไปมองอย่างเสียไม่ได้  ความจริงแล้ววันนี้ฉันโกรธพี่น้ำมาก  โกรธมากจริงๆนะ    ถึงปกติพี่น้ำจะชอบแกล้ง  ชอบด่า  ชอบกัด  แต่พี่น้ำไม่เคยตวาดเสียงดังขนาดนั้น-_- 
แต่ทั้งหมดอาจเป็นเพราะอีนังส้มนั่นมันตีสองหน้า  บางทีถ้าฉันคุยกับพี่น้ำแล้วหาทางเค้นคอมันดีๆ  เรื่องนี้อาจจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็ได้
ฉันระงับอารมณ์โกรธที่พุ่งพล่านก่อนจะหันไปสบตากับพี่น้ำ    แล้วฉันก็ต้องอึ้งอีกครั้ง  สิ่งที่ไอแป้งบอกให้ดูไม่ใช่พี่น้ำ  แต่เป็นผู้หญิงที่ยืนอยู่กับพี่ไผ่  ปากจิ้มลิ้มของมันที่ตอนนี้ฉันอยากจะตบให้เลือดสาดออกมากำลังขยับอย่างร่าเริง    อีส้มเน่า-_-^ มันเดินมากับพวกพี่ไผ่มันกำลังหัวเราะอย่างร่าเริง    ในขณะที่พวกฉันต้องมาเหี่ยวเฉา  ไร้วิญญาณ=_= 
ฉันจ้องมันจนมันรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่พุ่งพรวดออกมาได้    มันหันมาเห็นฉันก็หน้าซีดทันที  ก่อนจะชะงักเล็กน้อยมีท่าทีไม่ค่อยมั่นใจอย่างเห็นได้ชัด
-_-***  กรูไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาด่าคนอย่างเมิงแล้วเนี่ย
“......ป่าน...” 
ใบเฟิร์นบีบมือฉันแน่น  ฉันรู้ว่ามันไม่ได้เตรียมพร้อมจะสู้เหมือนกับฉัน  มันยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับพี่ไผ่ที่แสนดีของมันที่วันนี้กลับเห็นอีส้มเน่านั่นดีกว่าคู่หมั้นของตัวเอง-_-^
-_-^^ แต่ฉันไม่กลัว  ฉันเปลี่ยนไปมองหน้าพี่น้ำแทนพร้อมกับเลิกคิ้วเหล่ตาเป็นเชิงถาม  ความโกรธที่เพิ่งระงับไปเมื่อกี๊กลับมาอีกแล้ว  พี่น้ำชะงักเล็กน้อยแล้วเดินมาที่โต๊ะฉัน
“นี่มันอะไรกันพี่น้ำ-_-^”
“อะไร-_- ฉันก็แค่มากินข้าว” 
พี่น้ำตอบเรียบๆขณะนั่งลง  คนอื่นๆก็พากับมานั่งแม้แต่อีส้มเน่า
-_-++ อะไรฟระ  มากินข้าวแล้วทำไมต้องพาอีชะนีขนดกนี่มาด้วย
“เอ่อ-_-a โทดที  มะกี้พี่อาจจะแรงกะแกไปหน่อย” 
พี่น้ำที่นั่งมองฉันอยู่นิ่งๆขยี้หัวฉันเบาๆ    ฉันหันไปมองอย่างงอนๆ   
>_< ไม่แรงไปหน่อยแล้วล่ะพี่น้ำ  พี่น้ำว่าเค้าเป็นอันธพาล    ทั้งๆที่ตัวเองเป็นมาเฟียเนี่ยนะ  แรงมากๆเลยล่ะ-.,-
“พี่น้ำไม่ฟังป่านเลย  พี่น้ำคิดว่าป่านเป็นคนอย่างนั้นเหรอ”  ฉันสะบัดเสียงอย่างน้อยใจ 
“ฉันรู้-_-  แต่แกก็น่าจะมีเหตุผลมากกว่านี้นะ    แกได้ยินแค่เสียง  แกก็มากล่าวหาว่าเค้าทำแล้ว  จะให้ฉันไปว่าเค้าก็ไม่ได้”  พี่น้ำถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
>_<อะไรเนี่ย  สุดท้ายก็ยังว่าฉันอยู่ดี 
“น้องป่าน  น้องเฟิร์น  เอ่อ...  น้องอีกสองคน  ขอนั่งด้วยได้เปล่าคะ” 
อีส้มเน่าที่เดินเข้ามายิ้มแหยๆ พลางหันไปมองพี่ไผ่ทีอย่างลังเล-_-^
โอ๊ย>.<แกอย่าทำเหมือนพวกฉันน่ากลัวมากนักได้ป่ะ    ในโรงอาหารพวกฉันไม่ทำอะไรแกหรอก  แต่ถ้าแกเดินไปเปลี่ยวๆเมื่อไหร่ละก็ไม่แน่-_-^ หึหึ
“ไม่ได้ติดป้าย หมาห้ามนั่งนี่-.,-^” 
ฉันสแยะยิ้มกลับไป    ได้ผล....อีส้มเน่าถึงกับสะอึก
-_-^ แกอย่ามาตบตาหรือพยายามชะเลียฉันเด็ดขาด
“ป่าน-_-^” 
พี่น้ำปรามอย่างดุ  เสียงเรียบๆที่พยายามเหมือนจะสะกดกลั้นอารมณ์โมโหไว้เมื่อกี้เริ่มจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ
“ทำไมล่ะพี่น้ำ-_-^  พี่น้ำอย่ามาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ  ป่านยอมไม่ได้หรอก  ยังไงป่านก็ต้องกระชากหน้ากากมันออกมา    มันเป็นคนทำ” 
ฉันลุกขึ้นทุบโต๊ะและตะโกนอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่อีกต่อไป    คนในโรงอาหารเริ่มหันมามองกันมากขึ้น 
“ฉันแค่คิดว่าถ้าแกปรับความเข้าใจกับส้มได้ก็คงดี  แล้วเราค่อยมาถกกันเรื่องคนร้ายหรือคนวางแผนตัวจริงกัน    แต่ทำไมแกไม่ทำใจให้เย็นๆลงเลย  หา-_-^”
“ก็มันนั่นแหละที่เป็นคนวางแผนทั้งหมด  ป่านบอกแล้วไง-_-^ ยังไงป่านก็คิดว่ามันเป็นคนร้าย    ทำไมพวกพี่ไม่เชื่อป่านบ้าง  ว่าอีนี่อ่ะ  มันตอ แหล-_-^”
“ป่าน!-_-^^ ส้มเป็นรุ่นพี่แกนะ  แค่นี้เค้าก็ไม่โกรธแกแล้ว  แกหยุดซะทีได้มั๊ย  พี่เริ่มโมโหแล้วนะ”
“ไม่-_-+  ป่านไม่หยุด  อีนี่มันสองหน้า  ตอแหล  พวกพี่อ่ะ  โง่ๆๆๆ”ฉันพ่นออกมาด้วยความโมโห 
“ป่าน-_-^^”
“ทำไมอ่ะพี่น้ำ  พี่น้ำก็ชอบมันอีกคนรึไง  หน้าเหมือนปลาเทศบาลดูดกระจกเนี่ยนะ  ถ้าพี่น้ำชอบมันล่ะก็  หน้าโง่....”  ฉันชะงักไป
ปัง!
พี่น้ำกระแทกหมัดลงกับโต๊ะแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองฉัน    ฉันรู้ว่าฉันพูดแรง  ฉันไม่ควรจะด่าพี่น้ำ  พี่น้ำไม่ผิด  คนที่ผิดคืออีส้มเน่าต่างหาก
“ป่าน-_-^ ฉันขอพูดครั้งสุดท้าย  แกขอโทษส้มซะ”  พี่น้ำเค้นเสียงรอดตามไรฟันออกมา
เงียบ.....
ไม่มีเสียงใดๆออกมาจากปากฉัน    มันคงแก้ไขไม่ได้แล้วสินะ    จะจบแบบที่คิดก็ไม่ได้แล้วสินะ  ก็พวกพี่น้ำเทใจให้มันหมดแล้วไม่ใช่รึไง 
“ไม่”
ฉันบอกก่อนจะเก็บของอย่างรีบร้อน 
“เอ่อ>_< อย่าทะเลาะกันเพราะส้มเลยนะ    ส้มไม่ถือหรอก  น้องเค้าคงเข้าใจผิด”
อีส้มเน่าเอ่ยขัดจังปากมันพูดกับพี่น้ำจริงแต่ตามันสิจ้องพี่ไผ่ซะเยิ้มเชียว
“ไม่ต้องเสรือก-_-^”
ฉันด่าเน้นคำหลังเป็นพิเศษ  ตอนนี้ไม่สนแล้วว่าใครจะมอง  มองก็ดีสิ-_-^  คนทั้งโรงเรียนจะได้รู้ไปเลยว่าฉันเกลียดมัน  ฉันสะบัดหน้าออกมาไม่สนว่าพี่น้ำจะมองฉันยังไง    แม้แต่พี่เต้พี่ชายที่ฉันรักรองลงมาจากพี่น้ำก็ยังมีท่าทีลำบากใจ
งั้นก็เชิญโง่กันไปเถอะนะ-_-
“งั้นพวกเราขอตัว”
แป้งกับพลอยพูดพร้อมกันขณะรวบช้อนก่อนจะลุกตามฉัน  ส่วนใบเฟิร์นไม่พูดอะไร
“เฟิร์น” 
พี่ไผ่พูดด้วยเสียงอันแผ่วเบาแล้วจับมือใบเฟิร์นไว้    ใบเฟิร์นมองอย่างชั่งใจก่อนจะสะบัดมือพี่ไผ่
“ไปกันเถอะ”
ใบเฟิร์นพูดอย่างหนักแน่น  พวกเราพยักหน้าแล้วเดินออกมามีเพชรกับเอ็มที่ไม่รู้เรื่องอะไรตามมาด้วย   
>_<เจ็บใจยิ่งกว่าเมื่อกี้อีก    ทำยังไงนะ  ฉันถึงจะได้กระชากหน้ากากของมันออกมาได้  ต้องทำยังไงเนี่ย
“เอาล่ะ  ตกลงเรื่องมันเป็นอย่างนี้เองเหรอ” 
เพชรพูดขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน
“อือ>O<เพชรดูดิ  พลอยล่ะเจ็บใจจริงๆ” 
พลอยขยำเสิ้อเพชรจนมันยับไปหมด  ฉันมองคู่นี้ด้วยความอิจฉาเล็กน้อย 
>_<จนป่านนี้คนของฉันก็ยังไม่โผล่หัวมาให้อ้อนอย่างนี้บ้างเลย  เป็นแฟนประสาอะไรกัน
ฉันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู-.,-  นี่ก็เกือบจะเข้าคาบบ่ายแล้ว หลังจากที่พวกเราเดินออกมาจากโรงอาหารก็มานั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ ส่วนคิมยังไม่กลับมาจากห้องพักอาจารย์เลย 
“เออ>.< เป็นไปได้ไงเนี่ย”
เอ็มบอก  ฉันหันไปมองเอ็มอย่างดีใจ  นี่แสดงว่าสองคนนี้ก็คิดเหมือนพวกเรางั้นสิ>_<
“ดูดิ>O< เธอปล่อยให้สิวขึ้นได้ไงเนี่ย  เป็นไปได้ไง”
เอ็มว่าพลางเอานิ้วจิ้มสิวที่หน้าผากฉัน  ฉันปัดมือนั้นออกทันที
-_-^^^^^  ไอ้เวง  นี่ไม่ใช่เวลามาตลกฝืดนะเฟร้ยยยยยยยยย
“แกเคยอยู่ๆแล้ววูบมะ-_-^”
“เอ่อ=_= ไม่อ่ะ  เอ้ย! ไม่ลองนะ  เค้ากลัว” 
เอ็มบอกอย่างตกใจทันทีที่เห็นสายตาของฉัน 
ตอนนี้ไอลูกตาลมันต้องการให้เครียดนะโว้ย  เมิงอ่ะออกไปเลย-..-
“เข้าเรื่องดีกว่า  ฉันบอกตามตรงนะฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าพี่ส้มเค้าจะเป็นคนแบบนั้น”  เพชรปราม
พวกฉันหันไปมองหน้าเพชรพร้อมๆกัน  นี่สองคนนี้ก็ไม่เชื่อพวกเราด้วยเหรอเนี่ย
“เฮ้ยๆ  อย่ามองอย่านั้นดิ=_=  ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อพวกเธอนะ  แค่บอกว่าไม่อยากจะเชื่อเท่านั้นเอง”
เพชรรีบปฏิเสธก่อนที่พลอยจะหยิกเข้าที่ต้นแขน
-_-a แล้วมันต่างกันยังไงฟระ
“เอาเป็นว่าพวกฉันเชื่อพวกเธอละกัน-.,-  แต่พวกเธอก็บุ่มบ่ามเกินไป  อยู่ๆก็ไปกล่าวหาอย่างไม่มีหลักฐานมันไม่ได้หรอกนะ”  เพชรพูดต่อ 
-_-a เออ  ถ้าฉันมีหลักฐานก็เอาไปมัดตัวมันแล้วล่ะ
“อ๊ายย>O< ยังต้องหาหลักฐานอะไรอีกละ  ก็เข้าไปตบๆๆๆให้มันสารภาพมาก็สิ้นเรื่อง”
แป้งวี้ดเสียงดัง    ส่งผลให้เพชรกับเอ็มถึงกับต้องถอยออกมา
“แล้วพวกนายจะให้ทำไงล่ะ  ไม่มีหลักฐานอะไรซักอย่าง  อีนั่นก็ไม่ยอมสารภาพออกมา  พยานก็มีแต่ไอป่าน  ซึ่งพวกพี่น้ำก็ไม่เชื่อ”
พวกเราพยักหน้าพร้อมกันอย่างใช้ความคิดทันทีที่พลอยพูดจบ    จะทำยังไงถึงจะพิสูจน์ได้ว่ามันวางแผนจับตัวกับพวกไอซันได้นนะ-*-
“เอ่อ-_- ฉันว่าเราไปเรียนกันก่อนแล้วค่อยมาหาวิธีดีกว่ามะ  จะเข้าเรียนแล้ว”
ใบเฟิร์นที่นั่งเงียบอยู่นานพูดออกมา 
“เออ  ไปกันเหอะ  นั่งนี่นานๆไม่ดีหรอก  เป็นขี้ปากไอพวกนั้นเปล่าๆ”
แป้งบุ้ยใบ้ไปทางโต๊ะอื่นที่ตอนนี้กำลังจ้องมองพวกเราอยู่
คนที่มันมองอยู่ก็คงไม่ต้องสงสัยหรอกว่าใคร    -_-+ พวกแกอยากพูดอะไรก็มาพูดกับฉันตรงๆสิยะ  แอบนินทาอยู่ทำไมล่ะ
“ทำไมไอคิมยังไม่กลับมาอีกอ่ะ-_-;;”เอ็มหันไปมองรอบๆ
“เฮ้ยO_O หรือว่า.....”
“หรือว่าอะไรอ่ะ=_=” ฉันถามเอ็มที่ทำตาโตอย่างสงสัย 
“เธอไม่เคยได้ยินข่าวลือที่ว่าเหรอป่าน” เอ็มหันมาบอกอย่างร้อนรน
(- -  )(  - -)(- -  )(  - -)(- -  )ฉันส่ายหน้า  แล้วกรูจะไม่รู้เรอะไอข่าวลือที่ว่าน่ะ   
“แกไม่รู้รึไงว่าอาจารย์มะลิอ่ะชอบเด็กผู้ชาย”  แป้งตบไหล่ฉันก่อนจะพูดด้วยท่าทางขนลุกทั้งที่อากาศก็ไม่ได้หนาวสักนิด
“แล้วไงอ่ะ-_-aa”  ฉันยังซื่อต่อไป    แล้วฉันจะไปยุ่งอะไรด้วยเนี่ยในเมื่อมันเป็นรสนิยมส่วนบุคคล
“แกไม่รู้เหรอว่าเด็กผู้ชายที่ถูกจารย์มะลิเรียกไปพบตัวต่อตัวน่ะ    ไม่รอดเลยซักราย” แป้งกับเอ็มเข้ามาล้อมฉันอย่างน่ากลัว
>_<อะไรกันเนี่ย อาจารย์มะลิเป็นฆาตกรโรคจิตรึไง  ดูไปพวกแกยังน่ากลัวกว่าอีก
“เพราะฉะนั้นแกจึงสมควรจะเป็นคนไปตามคิมกลับมา” แป้งชี้นิ้วสั่งอย่างเด็ดขาด
“ทำ..ทำไมฉันต้องไปตามนายนั่นด้วย”  ฉันตอบตะกุกตะกัก 
“เพราะเธอเป็นแฟนมันน่ะสิ  หน้าที่ปกป้องความบริสุทธิ์ของมันจึงต้องเป็นของเธอ  เข้าใจมั๊ย”  ฉันเกาหัวแกรกๆทันที  เอ็ม-_- ฉันว่ายังไงไอหน้าหื่นนั่นก็ไม่เหลือความบริสุทธิ์ให้จารย์มะลิพรากไปได้แล้วแหละ
“ยืนนิ่งอยู่ได้-_-^ ไปได้แล้ว  เดี๋ยวก็เข้าคาบหรอก”  แป้งผลักฉันให้เดินไปทางอาคารสองซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องพักอาจารย์หมวดภาษาไทยก่อนจะชวนพวกที่เหลือกลับไปรอที่ห้อง    ฉันกระทืบเท้าอย่างขัดใจ  >O<ทำไมฉันไม่เคยเถียงทันไอพวกนี้ได้เลยนะเนี่ย
“ชิ- -( แค่นี้ก็ต้องให้ไปตาม”  ฉันสบถไปตามทาง  แต่จริงๆแล้วในใจอาจจะดีใจมากกว่าที่จะได้เจอกับอีตาบ้านั่น
นี่เป็นโอกาสแล้วที่จะพูดกับคิมให้รู้เรื่อง    ฉันจะได้เอาหน้าหื่นๆนั่นกลับมาซะที  เห็นอย่างนี้แล้วมันขัดลูกกะตาจริงๆ
อ๊ะ^O^.. เจอแล้วเพิ่งออกมาจากห้องพักครูจริงๆด้วย  ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย  โดนทำอะไรมารึเปล่าเนี่ย
เอาล่ะ=_= 
“คิม^^”
เสียงสดใสร่าเริงที่เรียกชื่อของอีตาบ้าแฟนฉันข้างบนไม่ใช่เสียงฉันหรอก    แต่กลับเป็นเสียงของผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่วิ่งหอบๆเข้ามา  ใบหน้ารูปใข่ที่ล้อมกรอบด้วยผมยาวตรงผูกเป็นหางม้านั้นมีเหงื่อผุดเล็กน้อย  ปากของเธอสีแดงระเรื่อและมีขนตาที่งอนยาวมาก
O_O ใครเนี่ย?  ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
“อ้าว^^ ไงยัยแมวขี้โรค  มาได้แล้วเหรอ  นึกว่าเทอมนี้จะไม่เรียนซะแล้ว”  คิมทักทายเธอคนนั้นอย่างอารมณ์ดี
O_Oเฮ้ยๆ  ยัยนั่นเป็นใครกัน  ทำไมนายต้องไปยิ้มแย้มร่าเริงด้วยขนาดนั้น  ทั้งๆที่ปกติมันต้องเป็นฉันคนเดียวไม่ใช่รึไง
“นี่>_<อย่าเรียกเค้าว่ายัยแมวขี้โรคนะ  ตอนนี้แข็งแรงแล้วนะ”  ผู้หญิงคนนั้นพูดแล้วทำแก้มป่อง  แก้มใสๆมีสีชมพูระเรื่อ     
>_< น่ารักเป็นบ้าเลย
“งั้นเหรอ^O^  งั้นดูหน่อยดิว่าแข็งแรงแค่ไหน”  คิมบอกก่อนจะดึงโบว์ผูกผมของเธอคนนั้นมาเล่น  เธอคนนั้นวี๊ดว้ายอย่างหัวเสีย    ทั้งสองคนยื้อแย่งโบผูกผมกันโดยไม่รู้เลยสักนิดว่ามีใครกำลังยืนมาอยู่
O.Oคิม  คนที่ไม่เคยเล่นกับผู้หญิงอื่นนอกจากฉันคนนั้นนะเหรอ....  ไม่อยากจะเชื่อ  คนที่จะวิ่งเล่นสนุกสนานอย่างนั้นมันต้องเป็นฉันไม่ใช่รึไง
“อู๊ยย>_<”  อยู่ๆเธอคนนั้นก็ล้มลงกุมท้องเอาไว้  คิมหยุดวิ่งทันทีก่อนจะเข้ามาดูเธออย่างเป็นห่วง
“เฮ้ยO_O เป็นไรอ่ะโบว์  ไหนว่าแข็งแรงแล้วไง”
“มะ  ไม่รุ>.< เค้าปวดท้อง”  ผู้หญิงที่ชื่อโบว์ร้องอย่างทรมาน  หน้าของเธอซีดลงอย่างเห็นได้ชัดแถมยังหอบอีกต่างหาก
“ไม่ใช่ปวดท้องธรรมดาแล้วล่ะอย่างนี้  ฉันว่าเธอรีบกลับบ้านดีกว่า”  คิมพูดอย่างงรีบร้อนขณะช้อนร่างของโบว์มาไว้ในอ้อมแขน 
“ทนหน่อยนะ>.<  ดีนะที่บ้านเธออยู่ใกล้ๆ”  คิมรีบสาวเท้าเดินมาทางฉันอย่างร้อนใจ   
ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรเราก็สบตากับพอดี
...เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องที่ฉันได้สบตากับคิม....
“ป่าน “ คิมบอกอย่างตกใจ  ดูเหมือนจะไม่ได้เห็นหรือรู้สึกเลยสินะว่าฉันยืนดูอยู่ตรงนี้นานแล้ว   
“ฉันมาตามนายไปเรียน” ฉันพูดเรียบๆอย่างไร้ความรู้สึก
ยัยนี่เป็นใครกัน  ทำไมนายถึงได้ห่วงเธอมากมายขนาดนี้   
“อู๊ย>.<” โบว์ครวญครางออกมาอีกครั้ง   
“ไม่ได้แล้วป่าน  ฉันคงต้องโดดแล้วล่ะ  โบว์ไม่สบายน่ะ”  คิมเดินผ่านฉันไปอย่างรวดเร็ว  ฉันชาไปทั้งตัว  ความจริงฉันก็เข้าใจว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังไม่สบาย
แต่ทำไมนายต้องเป็นห่วงเค้าขนาดนั้นด้วยล่ะ    ไหนนายว่าจะไม่มีเรื่องผู้หญิงมารบกวนจิตใจฉันแล้วไง    แล้วนี่ทำไมฉันต้องหงุดหงิดที่เห็นนายเป็นห่วงเธอขนาดนั้นด้วยนะ
“โทดนะป่าน>_<  เย็นนี้ฉันอาจไม่ได้ไปส่งเธอ  แล้วฉันจะไถ่โทษโดยการไปรับเธอพรุ่งนี้นะ” คิมตะโกนบอกมาก่อนจะหายลับไป  ฉันมองตามร่างนั้นไปที่ลานจอดรถ   
ให้ตายเหอะ.....ประโยคเมื่อกี๊มันไม่เข้าหัวฉันเลยสักนิด.....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น