ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Who Are U]::รักอีกครั้งจะได้ไหม

    ลำดับตอนที่ #13 : ++เรื่องที่ซับซ้อน++

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 48


    เสียงจอแจที่ดังอยู่ในโรงอาหารไม่ได้ทำให้พวกฉันสนใจหรือรำคาญเลยแม้แต่น้อย   นี่ก็เข้าหน้าฝนแล้ว   ฝนที่ตกพรำๆข้างนอกจึงทำให้บรรยากาศในโรงอาหารดูชื้นและแฉะไปด้วยรอยเท้าที่เปื้อนน้ำของพวกนักเรียน    



    =_=โชคดีจริงๆที่โรงเรียนฉันลาดพื้นปูกระเบื้อง    ไม่งั้นได้มีโคลนเลอะๆเต็มพื้นไปหมดแน่เลย



    “ยัยนั่นไง>_<”



    ฉันหันไปมองผู้หญิงผิวหมึกที่ดัดฟันสีเขียวสะท้อนแสง  



    -_-a สงสัยจังว่าใครบอกมันว่าใส่แล้วดูดี



    “ทุเ รศ -_-^”



    อีกเสียงหนึ่งด้านข้างดัดจริตไม่แพ้กัน   ฉันหันไปมองมันด้วยสายตาที่ขุ่นเขียวและเรืองแสงยิ่งกว่าเหล็กดัดของอีผิวหมึกเพื่อนมันซะอีก-_-^



    โรงอาหารเป็นที่อันตรายสุดๆ  สำหรับคนตกเป็นข่าวอย่างฉัน-_-    และถ้าแฟนฉันไม่เด่น   พี่ฉันไม่ดัง  ฉันไม่เป็นสาวสวยติดอันดับ    หลายๆคนในโรงอาหารนี้คงไม่สนใจฉันเป็นแน่  



    =_= ฉันเกลียดการตกเป็นข่าวจริงๆ



    “นี่^^เห็นหยิ่งๆ   ความจริงก็ไม่เบานะ”



    เสียงผู้ชายกลุ่มข้างๆซุบซิบอย่างชอบใจก่อนจะส่งสายตาวิบวับ   บ่งบอกถึงความต้องการ  ความขยะแขยงที่ฉันเคยรู้สึกกับไอพวกหน้าเหรียกกลับมาทันที



    >_<เฮงซวย  เฮงซวยที่สุด   ฉันไม่ได้เตรียมใจมาเผชิญกับเหตุการณ์บ้าๆแบบนี้นะ



    “หลีกไป-_-^”



    ฉันเดินกระแทกอีผิวหมึกคาบพริกเขียวอย่างแรงโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้ามัน    พวกมันส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ-_-a  



    >_<อย่านึกว่าฉันกลัวพวกแกนะเฟ้ย    แต่ตอนนี้คนที่ฉันอยากเก็บแรงไว้ตบคืออีหัวซอยส้มเน่าดีเจคนดีของพวกแกต่างหาก



    ฉันกระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจขณะเดินไปที่โต๊ะ     เสียงซุบซิบนินทาและเสียงแซวดังมาไม่หยุดหย่อน   ไม่ว่าจะเป็น......



    “หน้าไม่อายเลยอ่ะ-_-“



    หรือ...



    “เสียชื่อพี่สายน้ำจริงๆเลย>_<  ไม่อยากจะเชื่อเลย  คิมเอายัยนี่เป็นแฟนได้ไงนะ”



    แม้แต่...



    “ถ้ากรูเข้าไปขอเนี่ยเค้าจะให้ไหมวะ^^ กรูเล็งไว้นานแล้ว   ตอนแรกไม่นึกว่าจะเป็นพวกแบบนั้นนะเนี่ย”



    >_<อยากจะบ้าตาย     ฉันโปรยแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายไปตามทางกว่าจะถึงโต๊ะก็เล่นเอาเกือบตาย-_-    โชคดีที่ความโกรธพุ่งพล่านเรื่องอีส้มเน่าทำให้ฉันเห็นมันเป็นแค่เสียงนกเสียงกา



    อดทนไว้สายป่าน   อดทนไว้



    เคล้ง!



    ฉันกระแทกจานลงกับโต๊ะเสียงดัง-_-    แป้งที่นั่งอยู่หันมามองเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกฉันเป็นอย่างดี  



    “เจ็บใจนัก>_<”



    พลอยกัดช้อนกรอดๆอย่างหัวเสีย    ส่วนใบเฟิร์นที่เพิ่งเช็ดน้ำตาก็เขี่ยข้าวในจานเหมือนกับมันเป็นพยาธิไส้เดือนกิ้งกือก็ไม่ปาน



    >_< มันอะไรกันเนี่ย    ตอนนี้ความคิดให้หัวฉันมีแต่สายฟ้าฟาด   เสียงหึ่งๆ    และการกรีดร้องอย่างโหยหวนของหญิงสาวแสนสวย



    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!



    อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ   ถ้าไม่กลัวพวกในโรงอาหารจะว่าฉันเป็นบ้าหรือจะเข้าใจผิดอีกว่าฉันสติแตกเพราะโดนข่มขืนมา    ฉันกรี๊ดออกมาแน่-_-++++



    ก็แล้วทำไมคนอย่างอีส้มเน่าถึงได้ลอยหน้าลอยตาเป็นอีสองหน้าหนักแผ่นดินโรงเรียนอันมีระดับอย่างโรงเรียนนี้อยู่ได้นะ>O<



    ไม่เข้าใจเลยจริงๆ



    “เฮ้อ=_=”



    ฉันถอนหายใจรอบที่ล้านแปด    หลังจากที่ฉันเข้าไปวีนแตกในห้องเรียนพี่น้ำ  พวกฉันก็ต้องอึ้งมากกับการเล่นละครของอีส้มเน่า  และท่าทีของพวกพี่น้ำ



    .....พวกพี่น้ำเข้าข้างมัน-_-^  พี่น้ำว่าฉันเป็นอันธพาล   พี่ไผ่โกรธใบเฟิร์น.......



    นั่นเป็นความจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีมานี้    ใบเฟิร์นถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ทันทีที่พี่ไผ่วิ่งตามอีส้มเน่าออกไป   พวกฉันได้แต่ปลอบโยนใบเฟิร์นโดยที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำไงได้    พอหายอึ้งได้สักพักก็เลยชวนกันลงมากินข้าวอย่างไร้วิญญาณ=_=



    “สาวๆ-O- เป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย   เหี่ยวเฉาเหมือนปลาบู่ขาดวิตามินเลยอ่ะ”



    เอ็มวางถ้วยก๋วยเตี๋ยวลงข้างๆใบเฟิร์นพลางมองหน้าพวกเราไปมาเพื่อต้องการคำตอบ



    ไม่มีอะไรหลุดจากปากพวกเรา  ฉันเริ่มก้มหน้าก้มตากินข้าวถึงแม้จะรู้สึกว่ามันไม่อร่อยเลยก็ตาม  



    ทำไมข้าวไข่เจียวหมูสับของฉันมันถึงมีกลิ่นส้มได้ฟระ-..-



    ฉันกินน้ำเพื่อดับกลิ่น    ....น้ำก็มีกลิ่นส้ม......



    ว้อย!-_-++++   อีส้มเน่า  ขนาดฉันกินข้าวแกก็ยังตามมารังควาญอีกเรอะ



    ฉันสะบัดหัวก่อนจะผลักจานข้าวออกไป    >_< ทำไมพี่น้ำต้องเชื่อมันด้วยนะ  



    “พลอย-_-;; เป็นไรอ่ะ”  



    เพชรมองฉันขยาดๆก่อนจะลูบหัวเพลอยเบาๆ



    “เพชร>.< นายฟังแล้วนายต้องไม่เชื่อแน่ๆ”  



    พลอยทุบโต๊ะรัวๆ ส่งผลให้เพชรกับเอ็มมองด้วยความสงสัยยิ่งขึ้น



    จริงสิ-_-a ฉันลืมพวกผู้ชายซะสนิทเลยอ่ะ   พอออดคาบเที่ยงดังขึ้น  ไฟแค้นที่สุมทรวงมันก็พาขาเดี้ยงๆของฉันให้ลากไปถึงห้องพี่น้ำ



    ลืมเรื่องคิมไปชั่ววูบจริงๆ-_-;;



    “คิมล่ะ”



    แป้งถามแทนฉัน   เอ็มยักไหล่เล็กน้อย   ผมที่ชี้โด่เด่เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนวันนี้ยิ่งดูยุ่งกว่าทุกวัน



    “จารย์มะลิเรียกอ่ะ-_-a”



    อาจารย์มะลิ-_-a อาจารย์ที่สอนภาษาไทย  ที่หน้าตาเหมือนครูลิลลี่อย่างกะพี่น้องท้องเดียวกันอ่ะเหรอ



    “เรียกทำไมเหรอ”  



    ฉันถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  พยายามทำให้เหมือนๆกับทุกวันให้มากที่สุด  



    ถึงแม้ตอนนี้คิมไม่ยอมสบตาฉันเหมือนก่อน    ไม่มีไอหน้าหื่นกวนใจเหมือนทุกๆวัน   แต่ทำไมถึงได้หงุดหงิดๆ    หงุดหงิดกว่าทุกๆวันนะ



    “ไม่รู้ดิ  -_-aผีญี่ปุ่นเข้าสิงมันให้ตกภาษาไทยมั้ง  ไม่งั้นจารย์จะเรียกไปทำไมอ่ะ”



    เอ็มเกาหัวอย่างใช้ความคิด     ฉันพยักหน้าอย่างเหนื่อยๆ    ความจริงก็ดีเหมือนกัน   ตอนนี้ฉันไม่รู้จะพูดคุยหรือเริ่มต้นยังไง    ไม่รู้จะเริ่มถามหรืออธิบายตรงไหน    



    แต่ทำไมฉันต้องดิ้นรนอธิบายด้วยล่ะ    ฉันก็ไม่ได้รักอีตาบ้านี่สักหน่อย    ถึงแม้ตอนนี้ฉันจะรู้สึกแตกต่างไปจากเมื่อตอนแรกๆแล้วก็เถอะ     แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าฉันรักคิมรึเปล่า



    สิ่งที่ฉันควรจะรู้สึกตอนนี้คือเจ็บใจ   เสียใจ   น้อยใจ   ทำไมฉันจะต้องมาเจอเรื่องอย่างนี้ด้วย   ตอนนี้แค่ความกดดันในโรงเรียนก็ทำให้ฉันเกือบบ้าได้อยู่แล้ว>_<   แต่สิ่งที่ทำให้ฉันทนอยู่กับบรรยากาศนี้ได้คือกำลังใจที่แป้ง  พลอย  ใบเฟิร์นมอบให้



    คิม....  นายไม่สบตาฉันเพราะนายคิดว่าฉันมีอะไรกับพวกนั้นเหมือนๆกับคนในโรงเรียนใช่ไหม   ถ้าฉันมีอะไรกับไอ้พวกนั้นจริงๆ  แล้วนายรับได้รึเปล่าล่ะ



    การกระทำของนายมันบอกอะไรได้หลายๆอย่างเลยนะ.....



    แต่ถึงอย่างนั้น   ตอนนี้ฉันก็ยังไม่อยากจะคิดอะไรมาก   ฉันยังเชื่อกับคำบอกรักที่นายบอกอยู่ทุกๆวัน  คำบอกรักที่มันฟังแล้วกวนโมโหและน่ารำคาญนั่นแหละ    



    =_=ยิ่งคิดยิ่งเครียดวุ้ย..   ไอบ้าเอ๊ย-_-^   เดี๋ยวถ้าแกเดินมาบอกรักฉัน  ฉันจะกระโดดกอดคอแกกลางโรงอาหารให้ดูเลย



    แต่ขอที  มองตาฉันจะได้มั๊ยยย>_<



    “เฟิร์น>O<  ตาบวมๆเป็นไรอ่ะ  บอกลิงน้อยหน่อยดิ๊”  



    เอ็มจิ้มแขนใบเฟิร์นเบาๆอย่างขี้เล่นเหมือนทุกๆครั้ง  



    -_-“ จะว่าไปไอนิสัยปัญญานิ่มของไอเอ็ม  ก็ใช้ได้ดีเวลาเครียดๆเหมือนกันนะเนี่ย



    “เปล่าซะหน่อย”  



    ใบเฟิร์นตอบแต่มือก็ยังเขี่ยข้าวอย่างไร้วิญญาณ     ใบเฟิร์นไม่เคยทะเลาะกับพี่ไผ่เลยสักครั้ง    สองคนนี้ดูยังไงก็รักกัน  เพียงแต่ไม่ยอมบอกให้รู้ๆกันไปเก็บเอาไว้อยู่ได้  -_-aเห็นแล้วยังหงุดหงิดแทนเลย



    อีส้มเน่าถึงได้มีโอกาสแทรกกลางอย่างนี้ไงล่ะ   -__-+ คิดแล้วแค้นโว้ย



    “อ้าว^^พี่น้ำนั่งนี้มั๊ยอ่ะ   ว่างพอดีๆ”  



    เอ็มหันไปทักทายพี่น้ำอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย



    -_-^ คิดอีกทีฉันว่าแกควรจะเลิกปัญญานิ่มได้แล้วนะไอเอ็ม



    “แก-_-^ ดูนั่นดิ” ไอแป้งกระซิบ  



    ฉันเลยหันไปมองอย่างเสียไม่ได้   ความจริงแล้ววันนี้ฉันโกรธพี่น้ำมาก   โกรธมากจริงๆนะ    ถึงปกติพี่น้ำจะชอบแกล้ง  ชอบด่า  ชอบกัด  แต่พี่น้ำไม่เคยตวาดเสียงดังขนาดนั้น-_-  



    แต่ทั้งหมดอาจเป็นเพราะอีนังส้มนั่นมันตีสองหน้า  บางทีถ้าฉันคุยกับพี่น้ำแล้วหาทางเค้นคอมันดีๆ  เรื่องนี้อาจจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็ได้



    ฉันระงับอารมณ์โกรธที่พุ่งพล่านก่อนจะหันไปสบตากับพี่น้ำ     แล้วฉันก็ต้องอึ้งอีกครั้ง   สิ่งที่ไอแป้งบอกให้ดูไม่ใช่พี่น้ำ   แต่เป็นผู้หญิงที่ยืนอยู่กับพี่ไผ่   ปากจิ้มลิ้มของมันที่ตอนนี้ฉันอยากจะตบให้เลือดสาดออกมากำลังขยับอย่างร่าเริง     อีส้มเน่า-_-^ มันเดินมากับพวกพี่ไผ่มันกำลังหัวเราะอย่างร่าเริง    ในขณะที่พวกฉันต้องมาเหี่ยวเฉา  ไร้วิญญาณ=_=  



    ฉันจ้องมันจนมันรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่พุ่งพรวดออกมาได้    มันหันมาเห็นฉันก็หน้าซีดทันที  ก่อนจะชะงักเล็กน้อยมีท่าทีไม่ค่อยมั่นใจอย่างเห็นได้ชัด



    -_-***  กรูไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาด่าคนอย่างเมิงแล้วเนี่ย



    “......ป่าน...”  



    ใบเฟิร์นบีบมือฉันแน่น  ฉันรู้ว่ามันไม่ได้เตรียมพร้อมจะสู้เหมือนกับฉัน   มันยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับพี่ไผ่ที่แสนดีของมันที่วันนี้กลับเห็นอีส้มเน่านั่นดีกว่าคู่หมั้นของตัวเอง-_-^



    -_-^^ แต่ฉันไม่กลัว   ฉันเปลี่ยนไปมองหน้าพี่น้ำแทนพร้อมกับเลิกคิ้วเหล่ตาเป็นเชิงถาม   ความโกรธที่เพิ่งระงับไปเมื่อกี๊กลับมาอีกแล้ว   พี่น้ำชะงักเล็กน้อยแล้วเดินมาที่โต๊ะฉัน



    “นี่มันอะไรกันพี่น้ำ-_-^”



    “อะไร-_- ฉันก็แค่มากินข้าว”  



    พี่น้ำตอบเรียบๆขณะนั่งลง  คนอื่นๆก็พากับมานั่งแม้แต่อีส้มเน่า



    -_-++ อะไรฟระ   มากินข้าวแล้วทำไมต้องพาอีชะนีขนดกนี่มาด้วย



    “เอ่อ-_-a โทดที   มะกี้พี่อาจจะแรงกะแกไปหน่อย”  



    พี่น้ำที่นั่งมองฉันอยู่นิ่งๆขยี้หัวฉันเบาๆ    ฉันหันไปมองอย่างงอนๆ    



    >_< ไม่แรงไปหน่อยแล้วล่ะพี่น้ำ   พี่น้ำว่าเค้าเป็นอันธพาล    ทั้งๆที่ตัวเองเป็นมาเฟียเนี่ยนะ  แรงมากๆเลยล่ะ-.,-



    “พี่น้ำไม่ฟังป่านเลย   พี่น้ำคิดว่าป่านเป็นคนอย่างนั้นเหรอ”  ฉันสะบัดเสียงอย่างน้อยใจ  



    “ฉันรู้-_-   แต่แกก็น่าจะมีเหตุผลมากกว่านี้นะ    แกได้ยินแค่เสียง  แกก็มากล่าวหาว่าเค้าทำแล้ว   จะให้ฉันไปว่าเค้าก็ไม่ได้”  พี่น้ำถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย



    >_<อะไรเนี่ย   สุดท้ายก็ยังว่าฉันอยู่ดี  



    “น้องป่าน  น้องเฟิร์น  เอ่อ...   น้องอีกสองคน  ขอนั่งด้วยได้เปล่าคะ”  



    อีส้มเน่าที่เดินเข้ามายิ้มแหยๆ พลางหันไปมองพี่ไผ่ทีอย่างลังเล-_-^



    โอ๊ย>.<แกอย่าทำเหมือนพวกฉันน่ากลัวมากนักได้ป่ะ    ในโรงอาหารพวกฉันไม่ทำอะไรแกหรอก   แต่ถ้าแกเดินไปเปลี่ยวๆเมื่อไหร่ละก็ไม่แน่-_-^ หึหึ



    “ไม่ได้ติดป้าย หมาห้ามนั่งนี่-.,-^”  



    ฉันสแยะยิ้มกลับไป     ได้ผล....อีส้มเน่าถึงกับสะอึก



    -_-^ แกอย่ามาตบตาหรือพยายามชะเลียฉันเด็ดขาด



    “ป่าน-_-^”  



    พี่น้ำปรามอย่างดุ   เสียงเรียบๆที่พยายามเหมือนจะสะกดกลั้นอารมณ์โมโหไว้เมื่อกี้เริ่มจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ



    “ทำไมล่ะพี่น้ำ-_-^  พี่น้ำอย่ามาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ   ป่านยอมไม่ได้หรอก   ยังไงป่านก็ต้องกระชากหน้ากากมันออกมา    มันเป็นคนทำ”  



    ฉันลุกขึ้นทุบโต๊ะและตะโกนอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่อีกต่อไป    คนในโรงอาหารเริ่มหันมามองกันมากขึ้น  



    “ฉันแค่คิดว่าถ้าแกปรับความเข้าใจกับส้มได้ก็คงดี   แล้วเราค่อยมาถกกันเรื่องคนร้ายหรือคนวางแผนตัวจริงกัน    แต่ทำไมแกไม่ทำใจให้เย็นๆลงเลย  หา-_-^”



    “ก็มันนั่นแหละที่เป็นคนวางแผนทั้งหมด   ป่านบอกแล้วไง-_-^ ยังไงป่านก็คิดว่ามันเป็นคนร้าย    ทำไมพวกพี่ไม่เชื่อป่านบ้าง  ว่าอีนี่อ่ะ  มันตอ แหล-_-^”



    “ป่าน!-_-^^ ส้มเป็นรุ่นพี่แกนะ   แค่นี้เค้าก็ไม่โกรธแกแล้ว   แกหยุดซะทีได้มั๊ย   พี่เริ่มโมโหแล้วนะ”



    “ไม่-_-+  ป่านไม่หยุด   อีนี่มันสองหน้า   ตอแหล  พวกพี่อ่ะ  โง่ๆๆๆ”ฉันพ่นออกมาด้วยความโมโห  



    “ป่าน-_-^^”



    “ทำไมอ่ะพี่น้ำ   พี่น้ำก็ชอบมันอีกคนรึไง   หน้าเหมือนปลาเทศบาลดูดกระจกเนี่ยนะ   ถ้าพี่น้ำชอบมันล่ะก็   หน้าโง่....”  ฉันชะงักไป



    ปัง!



    พี่น้ำกระแทกหมัดลงกับโต๊ะแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองฉัน    ฉันรู้ว่าฉันพูดแรง  ฉันไม่ควรจะด่าพี่น้ำ  พี่น้ำไม่ผิด  คนที่ผิดคืออีส้มเน่าต่างหาก



    “ป่าน-_-^ ฉันขอพูดครั้งสุดท้าย   แกขอโทษส้มซะ”  พี่น้ำเค้นเสียงรอดตามไรฟันออกมา



    เงียบ.....



    ไม่มีเสียงใดๆออกมาจากปากฉัน    มันคงแก้ไขไม่ได้แล้วสินะ    จะจบแบบที่คิดก็ไม่ได้แล้วสินะ   ก็พวกพี่น้ำเทใจให้มันหมดแล้วไม่ใช่รึไง  



    “ไม่”



    ฉันบอกก่อนจะเก็บของอย่างรีบร้อน  



    “เอ่อ>_< อย่าทะเลาะกันเพราะส้มเลยนะ    ส้มไม่ถือหรอก  น้องเค้าคงเข้าใจผิด”



    อีส้มเน่าเอ่ยขัดจังปากมันพูดกับพี่น้ำจริงแต่ตามันสิจ้องพี่ไผ่ซะเยิ้มเชียว



    “ไม่ต้องเสรือก-_-^”



    ฉันด่าเน้นคำหลังเป็นพิเศษ  ตอนนี้ไม่สนแล้วว่าใครจะมอง  มองก็ดีสิ-_-^   คนทั้งโรงเรียนจะได้รู้ไปเลยว่าฉันเกลียดมัน   ฉันสะบัดหน้าออกมาไม่สนว่าพี่น้ำจะมองฉันยังไง    แม้แต่พี่เต้พี่ชายที่ฉันรักรองลงมาจากพี่น้ำก็ยังมีท่าทีลำบากใจ



    งั้นก็เชิญโง่กันไปเถอะนะ-_-



    “งั้นพวกเราขอตัว”



    แป้งกับพลอยพูดพร้อมกันขณะรวบช้อนก่อนจะลุกตามฉัน   ส่วนใบเฟิร์นไม่พูดอะไร



    “เฟิร์น”  



    พี่ไผ่พูดด้วยเสียงอันแผ่วเบาแล้วจับมือใบเฟิร์นไว้    ใบเฟิร์นมองอย่างชั่งใจก่อนจะสะบัดมือพี่ไผ่



    “ไปกันเถอะ”



    ใบเฟิร์นพูดอย่างหนักแน่น   พวกเราพยักหน้าแล้วเดินออกมามีเพชรกับเอ็มที่ไม่รู้เรื่องอะไรตามมาด้วย    



    >_<เจ็บใจยิ่งกว่าเมื่อกี้อีก    ทำยังไงนะ  ฉันถึงจะได้กระชากหน้ากากของมันออกมาได้  ต้องทำยังไงเนี่ย







    “เอาล่ะ   ตกลงเรื่องมันเป็นอย่างนี้เองเหรอ”  



    เพชรพูดขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน



    “อือ>O<เพชรดูดิ   พลอยล่ะเจ็บใจจริงๆ”  



    พลอยขยำเสิ้อเพชรจนมันยับไปหมด   ฉันมองคู่นี้ด้วยความอิจฉาเล็กน้อย  



    >_<จนป่านนี้คนของฉันก็ยังไม่โผล่หัวมาให้อ้อนอย่างนี้บ้างเลย   เป็นแฟนประสาอะไรกัน



    ฉันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู-.,-  นี่ก็เกือบจะเข้าคาบบ่ายแล้ว หลังจากที่พวกเราเดินออกมาจากโรงอาหารก็มานั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ ส่วนคิมยังไม่กลับมาจากห้องพักอาจารย์เลย  



    “เออ>.< เป็นไปได้ไงเนี่ย”



    เอ็มบอก   ฉันหันไปมองเอ็มอย่างดีใจ   นี่แสดงว่าสองคนนี้ก็คิดเหมือนพวกเรางั้นสิ>_<



    “ดูดิ>O< เธอปล่อยให้สิวขึ้นได้ไงเนี่ย  เป็นไปได้ไง”



    เอ็มว่าพลางเอานิ้วจิ้มสิวที่หน้าผากฉัน   ฉันปัดมือนั้นออกทันที



    -_-^^^^^  ไอ้เวง   นี่ไม่ใช่เวลามาตลกฝืดนะเฟร้ยยยยยยยยย



    “แกเคยอยู่ๆแล้ววูบมะ-_-^”



    “เอ่อ=_= ไม่อ่ะ  เอ้ย! ไม่ลองนะ  เค้ากลัว”  



    เอ็มบอกอย่างตกใจทันทีที่เห็นสายตาของฉัน  



    ตอนนี้ไอลูกตาลมันต้องการให้เครียดนะโว้ย   เมิงอ่ะออกไปเลย-..-



    “เข้าเรื่องดีกว่า  ฉันบอกตามตรงนะฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าพี่ส้มเค้าจะเป็นคนแบบนั้น”   เพชรปราม



    พวกฉันหันไปมองหน้าเพชรพร้อมๆกัน   นี่สองคนนี้ก็ไม่เชื่อพวกเราด้วยเหรอเนี่ย



    “เฮ้ยๆ  อย่ามองอย่านั้นดิ=_=  ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อพวกเธอนะ   แค่บอกว่าไม่อยากจะเชื่อเท่านั้นเอง”



    เพชรรีบปฏิเสธก่อนที่พลอยจะหยิกเข้าที่ต้นแขน



    -_-a แล้วมันต่างกันยังไงฟระ



    “เอาเป็นว่าพวกฉันเชื่อพวกเธอละกัน-.,-   แต่พวกเธอก็บุ่มบ่ามเกินไป  อยู่ๆก็ไปกล่าวหาอย่างไม่มีหลักฐานมันไม่ได้หรอกนะ”  เพชรพูดต่อ  



    -_-a เออ   ถ้าฉันมีหลักฐานก็เอาไปมัดตัวมันแล้วล่ะ



    “อ๊ายย>O< ยังต้องหาหลักฐานอะไรอีกละ   ก็เข้าไปตบๆๆๆให้มันสารภาพมาก็สิ้นเรื่อง”



    แป้งวี้ดเสียงดัง    ส่งผลให้เพชรกับเอ็มถึงกับต้องถอยออกมา



    “แล้วพวกนายจะให้ทำไงล่ะ   ไม่มีหลักฐานอะไรซักอย่าง  อีนั่นก็ไม่ยอมสารภาพออกมา  พยานก็มีแต่ไอป่าน   ซึ่งพวกพี่น้ำก็ไม่เชื่อ”



    พวกเราพยักหน้าพร้อมกันอย่างใช้ความคิดทันทีที่พลอยพูดจบ    จะทำยังไงถึงจะพิสูจน์ได้ว่ามันวางแผนจับตัวกับพวกไอซันได้นนะ-*-



    “เอ่อ-_- ฉันว่าเราไปเรียนกันก่อนแล้วค่อยมาหาวิธีดีกว่ามะ  จะเข้าเรียนแล้ว”



    ใบเฟิร์นที่นั่งเงียบอยู่นานพูดออกมา  



    “เออ  ไปกันเหอะ  นั่งนี่นานๆไม่ดีหรอก  เป็นขี้ปากไอพวกนั้นเปล่าๆ”



    แป้งบุ้ยใบ้ไปทางโต๊ะอื่นที่ตอนนี้กำลังจ้องมองพวกเราอยู่



    คนที่มันมองอยู่ก็คงไม่ต้องสงสัยหรอกว่าใคร    -_-+ พวกแกอยากพูดอะไรก็มาพูดกับฉันตรงๆสิยะ   แอบนินทาอยู่ทำไมล่ะ



    “ทำไมไอคิมยังไม่กลับมาอีกอ่ะ-_-;;”เอ็มหันไปมองรอบๆ



    “เฮ้ยO_O หรือว่า.....”



    “หรือว่าอะไรอ่ะ=_=” ฉันถามเอ็มที่ทำตาโตอย่างสงสัย  



    “เธอไม่เคยได้ยินข่าวลือที่ว่าเหรอป่าน” เอ็มหันมาบอกอย่างร้อนรน



    (- -  )(  - -)(- -  )(  - -)(- -  )ฉันส่ายหน้า  แล้วกรูจะไม่รู้เรอะไอข่าวลือที่ว่าน่ะ    



    “แกไม่รู้รึไงว่าอาจารย์มะลิอ่ะชอบเด็กผู้ชาย”  แป้งตบไหล่ฉันก่อนจะพูดด้วยท่าทางขนลุกทั้งที่อากาศก็ไม่ได้หนาวสักนิด



    “แล้วไงอ่ะ-_-aa”  ฉันยังซื่อต่อไป    แล้วฉันจะไปยุ่งอะไรด้วยเนี่ยในเมื่อมันเป็นรสนิยมส่วนบุคคล



    “แกไม่รู้เหรอว่าเด็กผู้ชายที่ถูกจารย์มะลิเรียกไปพบตัวต่อตัวน่ะ    ไม่รอดเลยซักราย” แป้งกับเอ็มเข้ามาล้อมฉันอย่างน่ากลัว



    >_<อะไรกันเนี่ย อาจารย์มะลิเป็นฆาตกรโรคจิตรึไง  ดูไปพวกแกยังน่ากลัวกว่าอีก



    “เพราะฉะนั้นแกจึงสมควรจะเป็นคนไปตามคิมกลับมา” แป้งชี้นิ้วสั่งอย่างเด็ดขาด



    “ทำ..ทำไมฉันต้องไปตามนายนั่นด้วย”  ฉันตอบตะกุกตะกัก  



    “เพราะเธอเป็นแฟนมันน่ะสิ   หน้าที่ปกป้องความบริสุทธิ์ของมันจึงต้องเป็นของเธอ  เข้าใจมั๊ย”  ฉันเกาหัวแกรกๆทันที   เอ็ม-_- ฉันว่ายังไงไอหน้าหื่นนั่นก็ไม่เหลือความบริสุทธิ์ให้จารย์มะลิพรากไปได้แล้วแหละ



    “ยืนนิ่งอยู่ได้-_-^ ไปได้แล้ว  เดี๋ยวก็เข้าคาบหรอก”  แป้งผลักฉันให้เดินไปทางอาคารสองซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องพักอาจารย์หมวดภาษาไทยก่อนจะชวนพวกที่เหลือกลับไปรอที่ห้อง    ฉันกระทืบเท้าอย่างขัดใจ   >O<ทำไมฉันไม่เคยเถียงทันไอพวกนี้ได้เลยนะเนี่ย



    “ชิ- -( แค่นี้ก็ต้องให้ไปตาม”  ฉันสบถไปตามทาง   แต่จริงๆแล้วในใจอาจจะดีใจมากกว่าที่จะได้เจอกับอีตาบ้านั่น



    นี่เป็นโอกาสแล้วที่จะพูดกับคิมให้รู้เรื่อง    ฉันจะได้เอาหน้าหื่นๆนั่นกลับมาซะที   เห็นอย่างนี้แล้วมันขัดลูกกะตาจริงๆ



    อ๊ะ^O^.. เจอแล้วเพิ่งออกมาจากห้องพักครูจริงๆด้วย   ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย  โดนทำอะไรมารึเปล่าเนี่ย



    เอาล่ะ=_=  



    “คิม^^”



    เสียงสดใสร่าเริงที่เรียกชื่อของอีตาบ้าแฟนฉันข้างบนไม่ใช่เสียงฉันหรอก    แต่กลับเป็นเสียงของผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่วิ่งหอบๆเข้ามา  ใบหน้ารูปใข่ที่ล้อมกรอบด้วยผมยาวตรงผูกเป็นหางม้านั้นมีเหงื่อผุดเล็กน้อย   ปากของเธอสีแดงระเรื่อและมีขนตาที่งอนยาวมาก



    O_O ใครเนี่ย?  ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย



    “อ้าว^^ ไงยัยแมวขี้โรค   มาได้แล้วเหรอ  นึกว่าเทอมนี้จะไม่เรียนซะแล้ว”  คิมทักทายเธอคนนั้นอย่างอารมณ์ดี



    O_Oเฮ้ยๆ  ยัยนั่นเป็นใครกัน   ทำไมนายต้องไปยิ้มแย้มร่าเริงด้วยขนาดนั้น   ทั้งๆที่ปกติมันต้องเป็นฉันคนเดียวไม่ใช่รึไง



    “นี่>_<อย่าเรียกเค้าว่ายัยแมวขี้โรคนะ   ตอนนี้แข็งแรงแล้วนะ”  ผู้หญิงคนนั้นพูดแล้วทำแก้มป่อง   แก้มใสๆมีสีชมพูระเรื่อ      



    >_< น่ารักเป็นบ้าเลย



    “งั้นเหรอ^O^  งั้นดูหน่อยดิว่าแข็งแรงแค่ไหน”  คิมบอกก่อนจะดึงโบว์ผูกผมของเธอคนนั้นมาเล่น   เธอคนนั้นวี๊ดว้ายอย่างหัวเสีย    ทั้งสองคนยื้อแย่งโบผูกผมกันโดยไม่รู้เลยสักนิดว่ามีใครกำลังยืนมาอยู่



    O.Oคิม  คนที่ไม่เคยเล่นกับผู้หญิงอื่นนอกจากฉันคนนั้นนะเหรอ....  ไม่อยากจะเชื่อ   คนที่จะวิ่งเล่นสนุกสนานอย่างนั้นมันต้องเป็นฉันไม่ใช่รึไง



    “อู๊ยย>_<”  อยู่ๆเธอคนนั้นก็ล้มลงกุมท้องเอาไว้   คิมหยุดวิ่งทันทีก่อนจะเข้ามาดูเธออย่างเป็นห่วง



    “เฮ้ยO_O เป็นไรอ่ะโบว์  ไหนว่าแข็งแรงแล้วไง”



    “มะ  ไม่รุ>.< เค้าปวดท้อง”  ผู้หญิงที่ชื่อโบว์ร้องอย่างทรมาน   หน้าของเธอซีดลงอย่างเห็นได้ชัดแถมยังหอบอีกต่างหาก



    “ไม่ใช่ปวดท้องธรรมดาแล้วล่ะอย่างนี้   ฉันว่าเธอรีบกลับบ้านดีกว่า”  คิมพูดอย่างงรีบร้อนขณะช้อนร่างของโบว์มาไว้ในอ้อมแขน  



    “ทนหน่อยนะ>.<  ดีนะที่บ้านเธออยู่ใกล้ๆ”  คิมรีบสาวเท้าเดินมาทางฉันอย่างร้อนใจ    



    ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรเราก็สบตากับพอดี



    ...เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องที่ฉันได้สบตากับคิม....



    “ป่าน “ คิมบอกอย่างตกใจ   ดูเหมือนจะไม่ได้เห็นหรือรู้สึกเลยสินะว่าฉันยืนดูอยู่ตรงนี้นานแล้ว    



    “ฉันมาตามนายไปเรียน” ฉันพูดเรียบๆอย่างไร้ความรู้สึก



    ยัยนี่เป็นใครกัน  ทำไมนายถึงได้ห่วงเธอมากมายขนาดนี้    



    “อู๊ย>.<” โบว์ครวญครางออกมาอีกครั้ง    



    “ไม่ได้แล้วป่าน   ฉันคงต้องโดดแล้วล่ะ  โบว์ไม่สบายน่ะ”  คิมเดินผ่านฉันไปอย่างรวดเร็ว   ฉันชาไปทั้งตัว   ความจริงฉันก็เข้าใจว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังไม่สบาย



    แต่ทำไมนายต้องเป็นห่วงเค้าขนาดนั้นด้วยล่ะ    ไหนนายว่าจะไม่มีเรื่องผู้หญิงมารบกวนจิตใจฉันแล้วไง    แล้วนี่ทำไมฉันต้องหงุดหงิดที่เห็นนายเป็นห่วงเธอขนาดนั้นด้วยนะ



    “โทดนะป่าน>_<  เย็นนี้ฉันอาจไม่ได้ไปส่งเธอ  แล้วฉันจะไถ่โทษโดยการไปรับเธอพรุ่งนี้นะ” คิมตะโกนบอกมาก่อนจะหายลับไป  ฉันมองตามร่างนั้นไปที่ลานจอดรถ    



    ให้ตายเหอะ.....ประโยคเมื่อกี๊มันไม่เข้าหัวฉันเลยสักนิด.....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×