ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : รักแรกพบ
             
ติ๊ดตี้ดิดดิติ้ตี้ดิด เสียงเมโลดี้โทรศัพท์มือถือ  ดังแทรกเข้ามาทำลายบรรยากาศเงียบสงบของช่วงเวลาเช้าที่ควรจะแจ่มใส  ร่างเล็กจ้องมองหน้าคอมพิวเตอร์ซึ่งมีตัวอักษรพิมพ์ไว้ไม่ถึงครึ่งหน้า  เสียงโทรศัพท์มือถือยังคงดังอยู่และดูเหมือนว่าจะบาดลึกเข้ามาในโสตสำนึกมากยิ่งขึ้น  ถึงแม้ว่าหนิงจะไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู  ก็พอจะรู้ว่าที่โทรมาไม่ใช่คนอื่นไกลและนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่อยากรับเลย
         
“สวัสดีค่ะ”
         
“เรื่องสั้นเสร็จรึยัง วันนี้ฉันต้องส่งสำนักพิมพ์แล้วนะยะหล่อน” เสียงเล็กแหลมของฟ้าใสเกรี้ยวกราดมาตามต้นสาย  ส่วนคนปลายสายกลับทำหน้าอธิบายยาก  จะบอกได้ยังไงว่าเรื่องสั้นสั้นของเจ้าหล่อนยังไม่ไปไหนเลย
         
“เออ ”
         
“เอาอย่างนี้ละกันนะ ฉันให้ลิมิตแกเต็มที่อีก3วัน . 3วันเท่านั้นนะ” ต้นสายยืดเส้นตายให้ด้วยน้ำเสียงละเหี่ยใจ
         
“ขอบใจนะ ฉันจะส่งให้ทัน” คนปลายสายตอบกลับด้วยน้ำเสียงละห้อย
         
ครึ่งชั่วโมงหลังจากวางโทรศัพท์  หนิงก็อยู่ในชุดเสื้อแขนกุดสีขาวกับกระโปรงยีนส์สั้นสีเข้มสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กเดินออกมาจากบ้านไปยังป้ายรถเมล์  เช้าวันอาทิตย์วันที่ใครๆต่างรู้ดีว่าเป็นวันหยุด  ทั้งที่วันนี้ควรจะได้นอนหลับสบายบนตียงนุ่มๆผ้าห่มเนื้อเบาบางนอนเหยียดกายสบายอารมณ์ 
หนิงถอนหายใจถึงแม้ว่าจะนั่งอยู่หน้าจอคอมจนรากงอก  ก็ไม่สามารถเขียนเรื่องสั้นแนวรักได้  ก็หนิงไม่เคยมีความรักจะเขียนเรื่องรักได้อย่างไร  ถ้าให้เขียนแนวรันทดประชดชีวิตจะไม่บ่นเลยซักคำแล้วไอ้ที่เคยเขียนส่งไปจนพิมพ์ออกมาเป็นเรื่องเป็นราวได้นั้น  หนิงก็ได้ใช้ข้อมูลในการเขียนไปจนหมดใส้หมดพุงแล้ว
         
หนิงเดินมาถึงป้ายรถเมล์  พลันสายตาเหลือบไปเห็นชายหนุ่มผมยาวคนหนึ่ง  คนที่หนิงชอบแอบมองเวลาที่เขาเดินผ่านหน้าบ้าน(แหมก็ไม่ว่าถ้าใครได้เห็นผู้ชายคนนี้ก็ต้องแอบมองทั้งนั้นแหล่ะ ก็เขาหน่ะหล่อมากเลยนะ)  หนิงยิ้ม เอาล่ะยังไงวันนี้ก็เขียนอะไรไม่ได้เลย  ขอปลอมตัวเป็นนักสืบจำเป็นก่อนนะจ๊ะยัยฟ้าใส  แล้วคืนนี้จะรีบกลับมาปั้นอารมณ์ (หนิงเปล่าอู้นะเจ๊ หนิงกำลังไปหาข้อมูลในการเขียนหึหึหึ)
         
หนิงแอบมองชายหนุ่มผมยาว เขายืนมองนั่นมองนี่แล้วก็ตัดสินใจขึ้นรถเมล์  แล้วหนิงที่ทำทีท่ายืนจดๆจ้องๆอยู่  ก็รีบจ้ำอ้าวขึ้นรถเมล์คันเดียวกัน
         
เขาเดินไปนั่งเก้าอี้ริมหน้าต่าง  โชคดีที่ ที่นั่งข้างๆของชายหนุ่มนั้นว่างอยู่พอดี  ไม่มีทางที่หนิงจะรอช้า  เท้าไวกว่าความคิดหนิงรีบเดินเข้าไปนั่งอย่างไม่ลังเล
         
คุณคนผมยาวคุณคงไม่รู้สินะว่าคนที่นั่งข้างๆคุณนั้นเขาแอบสนใจคุณมาตั้งนานแล้ว  คงจะเป็นเพราะคุณไว้ผมยาวและหนิงก็เป็นพวกชอบ(ถึงขั้นบ้า)ผู้ชายผมยาวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดังนั้นไม่มีทางที่ผู้ชายอย่างคุณจะหลุดพ้นสายตาหนิงไปได้ง่ายๆ 
คุณรู้ไหมครั้งแรกที่หนิงเห็นผมคุณนั้น  หัวใจของหนิงก็แทบจะละลายก่อนที่จะได้เห็นหน้าคุณเสียอีก  วันนั้นคุณเดินผ่านหน้าบ้านของหนิง แสงแดดยามเช้ากระทบผมสีอ่อนของคุณเป็นประกายสีสดใส .คุณหันมายิ้มให้หนิง  ซึ่งกำลังจะเดินเข้าบ้านหลังจากตักบาตรเสร็จ .คุณอมยิ้มซะแก้มตุ่ยที่เห็นหนิงมองคุณ มองคุณ
         
หนิงเองก็สุดจะคาดเดาในอาการอมยิ้มตุ่ยๆของคุณนั้น  ว่าหมายถึงอะไร คุณอาจจะนึกขำว่าผู้หญิงท่าทางห่างวัดอย่างหนิงกลับลุกขึ้นมาตักบาตรแต่เช้า หรือเพราะคุณเห็นหนิงแอบมองคุณก็เป็นได้
         
คุณจะคิดว่าหนิงเป็นยัยโรคจิตหรือเปล่านะ  ที่หนิงแอบสำรวจคุณอยู่ตอนนี้  ก็แหม .คุณออกจะเป็นชายในอุดมคติของหนิงเชียวนะ
         
เมื่อรถเมล์วิ่งมาถึงหน้าห้างสรรพสินค้า  คุณทำท่าจะขยับตัวเหมือนเตรียมตัวจะลง  โชคดีที่หนิงเป็นพวกไหวตัวทัน  หนิงเลยแกล้งลุกขึ้นเดินนำหน้าคุณไปก่อน  แต่แหมคุณทำท่าเหมือนลังเลว่าจะยังไม่ลงอย่างนั้นแหล่ะ 
เอ หรือว่าคุณจะรู้ตัวแล้วว่า  มีผู้หญิงน่าสงสัยติดตามคุณมา(เหอะๆๆๆ)  คุณทำให้หนิงกลัวแทบแย่เลยนะ  กลัวว่าคุณจะนึกรังเกียจหนิงทั้งที่เรายังไม่รู้จักกันเลย (ซึ่งอาจจะเป็นฉันฝ่ายเดียวที่อยากรู้จักคุณ) 
พอรถเมล์จอดที่ป้ายหนิงก็รีบจ้ำอ้าวลงจากรถ  แล้วทำทีแกล้งเดินไปซื้อน้ำชาเขียวมายืนดื่ม พอหันกลับมาอีกที  คุณคนผมยาวเดินผมปลิวไปโน่นแล้ว  คุณรู้ไหมหนิงแทบจะวิ่งตามคุณไปเลยทีเดียว 
เมื่อคุณเดินเข้าไปในห้าง .คุณรู้ไหม?  สายตาผู้หญิงในห้างแทบทุกคนจับจ้องมาที่คุณ (ฮือๆๆๆ) 
หนิงหวงคุณจังอยากจะบอกทุกคนว่าคนนี้ฉันจองแล้วนะยะ แต่แหม  หนิงก็เข้าใจนะ  คุณเป็นคนหน้าตาดีมากๆผู้หญิงคนไหนไม่มองคุณก็คงจะบ้าแล้ว (แต่ที่มองคุณแล้วตามคุณมาขนาดนี้ เรียกว่าบ้ามากๆ) 
ติ๊ดตี้ดิดดิติ้ตี้ดิด เสียงเมโลดี้โทรศัพท์มือถือ  ดังแทรกเข้ามาทำลายบรรยากาศเงียบสงบของช่วงเวลาเช้าที่ควรจะแจ่มใส  ร่างเล็กจ้องมองหน้าคอมพิวเตอร์ซึ่งมีตัวอักษรพิมพ์ไว้ไม่ถึงครึ่งหน้า  เสียงโทรศัพท์มือถือยังคงดังอยู่และดูเหมือนว่าจะบาดลึกเข้ามาในโสตสำนึกมากยิ่งขึ้น  ถึงแม้ว่าหนิงจะไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู  ก็พอจะรู้ว่าที่โทรมาไม่ใช่คนอื่นไกลและนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่อยากรับเลย
         
“สวัสดีค่ะ”
         
“เรื่องสั้นเสร็จรึยัง วันนี้ฉันต้องส่งสำนักพิมพ์แล้วนะยะหล่อน” เสียงเล็กแหลมของฟ้าใสเกรี้ยวกราดมาตามต้นสาย  ส่วนคนปลายสายกลับทำหน้าอธิบายยาก  จะบอกได้ยังไงว่าเรื่องสั้นสั้นของเจ้าหล่อนยังไม่ไปไหนเลย
         
“เออ ”
         
“เอาอย่างนี้ละกันนะ ฉันให้ลิมิตแกเต็มที่อีก3วัน . 3วันเท่านั้นนะ” ต้นสายยืดเส้นตายให้ด้วยน้ำเสียงละเหี่ยใจ
         
“ขอบใจนะ ฉันจะส่งให้ทัน” คนปลายสายตอบกลับด้วยน้ำเสียงละห้อย
         
ครึ่งชั่วโมงหลังจากวางโทรศัพท์  หนิงก็อยู่ในชุดเสื้อแขนกุดสีขาวกับกระโปรงยีนส์สั้นสีเข้มสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กเดินออกมาจากบ้านไปยังป้ายรถเมล์  เช้าวันอาทิตย์วันที่ใครๆต่างรู้ดีว่าเป็นวันหยุด  ทั้งที่วันนี้ควรจะได้นอนหลับสบายบนตียงนุ่มๆผ้าห่มเนื้อเบาบางนอนเหยียดกายสบายอารมณ์ 
หนิงถอนหายใจถึงแม้ว่าจะนั่งอยู่หน้าจอคอมจนรากงอก  ก็ไม่สามารถเขียนเรื่องสั้นแนวรักได้  ก็หนิงไม่เคยมีความรักจะเขียนเรื่องรักได้อย่างไร  ถ้าให้เขียนแนวรันทดประชดชีวิตจะไม่บ่นเลยซักคำแล้วไอ้ที่เคยเขียนส่งไปจนพิมพ์ออกมาเป็นเรื่องเป็นราวได้นั้น  หนิงก็ได้ใช้ข้อมูลในการเขียนไปจนหมดใส้หมดพุงแล้ว
         
หนิงเดินมาถึงป้ายรถเมล์  พลันสายตาเหลือบไปเห็นชายหนุ่มผมยาวคนหนึ่ง  คนที่หนิงชอบแอบมองเวลาที่เขาเดินผ่านหน้าบ้าน(แหมก็ไม่ว่าถ้าใครได้เห็นผู้ชายคนนี้ก็ต้องแอบมองทั้งนั้นแหล่ะ ก็เขาหน่ะหล่อมากเลยนะ)  หนิงยิ้ม เอาล่ะยังไงวันนี้ก็เขียนอะไรไม่ได้เลย  ขอปลอมตัวเป็นนักสืบจำเป็นก่อนนะจ๊ะยัยฟ้าใส  แล้วคืนนี้จะรีบกลับมาปั้นอารมณ์ (หนิงเปล่าอู้นะเจ๊ หนิงกำลังไปหาข้อมูลในการเขียนหึหึหึ)
         
หนิงแอบมองชายหนุ่มผมยาว เขายืนมองนั่นมองนี่แล้วก็ตัดสินใจขึ้นรถเมล์  แล้วหนิงที่ทำทีท่ายืนจดๆจ้องๆอยู่  ก็รีบจ้ำอ้าวขึ้นรถเมล์คันเดียวกัน
         
เขาเดินไปนั่งเก้าอี้ริมหน้าต่าง  โชคดีที่ ที่นั่งข้างๆของชายหนุ่มนั้นว่างอยู่พอดี  ไม่มีทางที่หนิงจะรอช้า  เท้าไวกว่าความคิดหนิงรีบเดินเข้าไปนั่งอย่างไม่ลังเล
         
คุณคนผมยาวคุณคงไม่รู้สินะว่าคนที่นั่งข้างๆคุณนั้นเขาแอบสนใจคุณมาตั้งนานแล้ว  คงจะเป็นเพราะคุณไว้ผมยาวและหนิงก็เป็นพวกชอบ(ถึงขั้นบ้า)ผู้ชายผมยาวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดังนั้นไม่มีทางที่ผู้ชายอย่างคุณจะหลุดพ้นสายตาหนิงไปได้ง่ายๆ 
คุณรู้ไหมครั้งแรกที่หนิงเห็นผมคุณนั้น  หัวใจของหนิงก็แทบจะละลายก่อนที่จะได้เห็นหน้าคุณเสียอีก  วันนั้นคุณเดินผ่านหน้าบ้านของหนิง แสงแดดยามเช้ากระทบผมสีอ่อนของคุณเป็นประกายสีสดใส .คุณหันมายิ้มให้หนิง  ซึ่งกำลังจะเดินเข้าบ้านหลังจากตักบาตรเสร็จ .คุณอมยิ้มซะแก้มตุ่ยที่เห็นหนิงมองคุณ มองคุณ
         
หนิงเองก็สุดจะคาดเดาในอาการอมยิ้มตุ่ยๆของคุณนั้น  ว่าหมายถึงอะไร คุณอาจจะนึกขำว่าผู้หญิงท่าทางห่างวัดอย่างหนิงกลับลุกขึ้นมาตักบาตรแต่เช้า หรือเพราะคุณเห็นหนิงแอบมองคุณก็เป็นได้
         
คุณจะคิดว่าหนิงเป็นยัยโรคจิตหรือเปล่านะ  ที่หนิงแอบสำรวจคุณอยู่ตอนนี้  ก็แหม .คุณออกจะเป็นชายในอุดมคติของหนิงเชียวนะ
         
เมื่อรถเมล์วิ่งมาถึงหน้าห้างสรรพสินค้า  คุณทำท่าจะขยับตัวเหมือนเตรียมตัวจะลง  โชคดีที่หนิงเป็นพวกไหวตัวทัน  หนิงเลยแกล้งลุกขึ้นเดินนำหน้าคุณไปก่อน  แต่แหมคุณทำท่าเหมือนลังเลว่าจะยังไม่ลงอย่างนั้นแหล่ะ 
เอ หรือว่าคุณจะรู้ตัวแล้วว่า  มีผู้หญิงน่าสงสัยติดตามคุณมา(เหอะๆๆๆ)  คุณทำให้หนิงกลัวแทบแย่เลยนะ  กลัวว่าคุณจะนึกรังเกียจหนิงทั้งที่เรายังไม่รู้จักกันเลย (ซึ่งอาจจะเป็นฉันฝ่ายเดียวที่อยากรู้จักคุณ) 
พอรถเมล์จอดที่ป้ายหนิงก็รีบจ้ำอ้าวลงจากรถ  แล้วทำทีแกล้งเดินไปซื้อน้ำชาเขียวมายืนดื่ม พอหันกลับมาอีกที  คุณคนผมยาวเดินผมปลิวไปโน่นแล้ว  คุณรู้ไหมหนิงแทบจะวิ่งตามคุณไปเลยทีเดียว 
เมื่อคุณเดินเข้าไปในห้าง .คุณรู้ไหม?  สายตาผู้หญิงในห้างแทบทุกคนจับจ้องมาที่คุณ (ฮือๆๆๆ) 
หนิงหวงคุณจังอยากจะบอกทุกคนว่าคนนี้ฉันจองแล้วนะยะ แต่แหม  หนิงก็เข้าใจนะ  คุณเป็นคนหน้าตาดีมากๆผู้หญิงคนไหนไม่มองคุณก็คงจะบ้าแล้ว (แต่ที่มองคุณแล้วตามคุณมาขนาดนี้ เรียกว่าบ้ามากๆ) 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น