คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ลำดับตอนที่ 1
ถนนและตึกรามบ้านช่องที่คุ้นตา สักพักก็มาถึงสถานที่ที่มีรถเข้าออกอย่างมากมาย ป้ายร้านขนาดพอดีที่ถูกออกแบบมาให้ลงตัวกับสถานที่แห่งนี้ ฉันขับรถมาจอดในโซน VIP ซึ่งอยู่ด้านหลังของที่นี่ เพียงแค่แง้มประตูรถออกเสียงดนตรีก็มากระทบโสตประสาทการรับรู้ของเสียง ฉันลงมาโดยไม่ลืมกระเป๋าคู่ใจที่ตอนนี้หนักเอาการเหมือนกัน ฉันล้วงหยิบพวงกุญแจ และไล่สายตามองหากุญแจสีดำ และนำไปไขกับประตูด้านหลังของผับ ฉันเอากุญแจเก็บไว้ในกระเป๋าโดยไม่ลืมล็อกประตูให้เหมือนเดิม เสียงเพลงดังมากเมื่อเทียบกับด้านนอก ฉันเดินขึ้นไปยังชั้น2 แทนที่จะไปหาโต๊ะนั่งเหมือนคนอื่น ฉันเดินเลยโต๊ะ VIP ซึ่งถูกจัดไว้ชั้นที่สองของผับไปอีก มาถึงสุดทางเดินของชั้นนี้ ฉันลองหมุนลูกบิดประตูดูและมันก็ไม่ได้ล็อกเอาไว้ แต่พอเปิดประตูให้กว้างกว่าเดิมก็เห็นภาพที่ชวนให้น่าตกใจ แต่ฉันไม่สนใจ วางกระเป๋าที่โต๊ะข้างประตูแล้ว เดินไปหาคนสองคนที่กำลังทำอะไรๆกันอยู่บนโซฟาสุดหรูในห้องที่ได้ถูกตกแต่งให้คล้ายห้องทำงานบวกกับห้องนอนห้องนี้
“มากเกินไปแล้วมึง!”
ฉันเดินเข้าไปผลักผู้หญิงสุดสวยหุ่นดีที่อยู่ด้านบนโดยมีเพียงกางเกงในสุดเซ็กซี่ที่คงกำลังจะถูกถอดทิ้งให้หายไปในอีกไม่ช้าหากไม่ถูกขัดจังหวะให้ลงไปนอนอยู่บนพื้นแทน ยัยนั่นเมื่อถูกผลักออกก็หันมามองหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง อ้าปากเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หันกลับไปเมื่อเห็นสายตาของฉันที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า ‘ถ้าขืนแกขยับแม้แต่เพียงนิดเดียวแกโดนแน่’
“อะไรของแก! ไอ้ไวท์แกทำอะไรอ่ะ คนกำลังฟิน ขัดจังหวะตลอดเลยแกนี่”
ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาที่นอนอยู่เหลือเพียงกางเกงที่ถูกถอดเข็มขัดในสภาพเกือบจะหลุดลุ่ยเอ่ยขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย หลังจากถูกขัดจังหวะดีๆ ‘มกรา’
แต่พอมันหันมาหน้าฉันอย่างหาเรื่องก็ เปลี่ยนใจไปไล่ยัยกางเกงในแทน มันคงดูออกว่าฉันคงอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ค่อยดี
“แจน ออกไปก่อนไป ฉันไม่มีอารมณ์แล้ว ไว้วันหลังฉันจะโทรหาใหม่
“อะไรกันค่ะ! พี่มกรา ทำไมต้องไล่แจนด้วย แจนทำอะไรผิดหรอค่ะ”
ยัยกางเกงในพูดใส่อารมณ์กับมกรา พลางลุกขึ้นมาจากพื้นยืนมองหน้าอย่างเอาเรื่องกับมกรา ยัยกางเกงในนี่ไม่อายตัวเองเลยว่ากำลังสภาพแทนจะเปลือยอยู่
“นี่แกนะจะออกไปดีๆหรือให้ฉันลากออกไป ห่ะ!”
ยัยนั่นหันมามองหน้าฉันแทน ไม่สบอารมณ์เลยแหะเวลามีคนมามองหน้าแบบนี้นะ
“แล้วแกเป็นใคร ห่ะ! ไม่เห็นหรอว่าคนเค้ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่มีตาหรอ...”
ยัยนี่ชักลามปามเล่นไม่ถูกอารมณ์คน ซะแล้ว ฉันเดินไปหายัยนั่น ยัยนั่นแอบถอยหลังแต่ก็ทำเป็นไม่กลัวมองหน้าตามประสาคนที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาจจนเสียคน
เพราะฉันที่ซึ่งมีส่วนสูงถึงร้อยเจ็ดสิบกว่าและตอนนี้บวกกับรองเท้าทำให้ฉันสูงกว่ายัยนั่นมากเลย
“นี่แก พูดว่าอะไรนะเมื่อกี้นะ อยากโดนดีหรือไงแกนะ”
เพี๊ยะ!!! เสียงฝ่ามือที่กระทบผิวหน้าเสียงดังกว่าเสียงเพลงที่ดังหลุดเข้ามาในห้อง อีกฝ่ายหน้าหันไปตามแรงแล้วร่วงลงไปกับพื้นเหมือนใบไม้ที่ถูกเด็ดจากก้าน
ยัยนั่นสะบัดหน้าขึ้นมามองหน้าฉันทั้งๆที่ยังนั่งอยู่บนพื้น ใบหน้าที่เรียวสวย ตอนนี้มีสีแดงเป็นรอยฝ่ามือและมุมปากมีเลือดซึมออกมา ไม่รอช้ายัยนั่นก็ลุกขึ้นมาแล้วพุ่งมาง้างมือจะตบฉัน แต่ฉันเร็วกว่าจับข้อมือยัยนั่นไว้แล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างกระชากผมยัยนั่น หล่อนถึงกับหน้าหงายไปตามแรงดีดดิ้นให้หลุดจากมือฉันแต่ฉันไม่สะทกสะท้าน ฉันลากหล่อนมายังประตู แล้วปล่อยมือจากข้อมือเล็กจิ๋วนั้น ใช้มือข้างนั้นหยิบโทรศัพท์ที่ถูกตั้งค่าให้โทรอัตนโนมัติไปยัง รปภ. ที่ประจำอยู่ในร้านแถวเวที
“เฮ้ย! ไอ้ไวท์ ใจเย็นสิแก อย่ารุนแรงมากสิ”
ไอ้มกราร้องเสียงหลงเหมือนเห็นฉันหยิบโทรสัพท์แต่ก็ไม่เข้ามาห้ามฉัน ส่วนยัยแจนก็ทั้งหยิก ทั้งทึ้งมือฉัน ดีดดิ้น ฉันก็เลยออกแรงมากอีกนิด จนยัยแจนเข่าทรุดลงไปนั่งบนพื้นแต่ก็ไม่วายกรีดร้อง ดีดดิ้นไปมา
ฉันเปิดประตูออกเสียงเพลงก็ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำที่ถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว ฉันเหวี่ยงยัยแจนออกนอกประตู หล่อนถลาเซไปกับพื้นเพียงเล็กน้อย ฉันเดินกลับเข้ามาหยิบเสื้อผ้าน้อยชิ้นแล้วโยนไปสมทบกับเจ้าของของมัน ฉันออกมายืนมองยัยนั่นที่นั่งร้องไห้ สาปแช่งฉันอยู่ และแล้ว รปภ.ก็มาถึง
“พี่เอ ค่ะ ช่วยเอายัยนี่ไปสงบสติข้างนอกที่ด้วยนะค่ะ และอย่าให้มันเข้ามาที่นี่อีกนะค่ะ”
ฉันบอกให้พี่ รปภ.เอายัยนั่นในสภาพเกือบเปลือยที่กำลังกอดเสื้อผ้านั่งร้องไห้แหกปากกรี๊ดๆ คนข้างนอกมองมาอย่างสนอกสนใจ และตะลึงกับสภาพที่ชวนให้มองของยัยนั่นแต่คงเป็นภาพที่ชินตาของคนที่มาอยู่เป็นประจำ เมื่อเห็นยัยนั่นถูกพี่ รปภ. อุ้มไป โดยดีดดิ้นอย่างแข็งขัน มือชี้มาทางฉันจนลับตาไป เมื่อหันหลังกลับไปก็เกือบชนกับไอ้มกรา ริมฝีปากเชียดกันไปเพียงนิดเดียว แต่ฉันก็เพียงแค่ผงะไปนิดเดียวอย่างคนตกใจ
“แม้... อีกนิดเดียวเอง น่าเสียดายอ่ะ”
ไอ้มกราพูดหลังจากถูกฉันผลักไปให้พ้นทาง ไอ่นี่เพื่อนก็ยังไม่เว้น
“ใช่ น่าเสียดาย และแกน่าจะเสียชีวิตด้วย”
ฉันตอกกลับอย่างคนอารมณ์เสียแต่น้อยกว่าเมื่อตอนแรกก็อารมณ์ได้ถูกปล่อยไปกับยัยแจนไปบ้างแล้ว
“และแกน่ะ ควรใส่เสื้อผ้ามันได้แล้ว”
ฉันมองไอ้มกราอย่างตำหนิ ร่างกายที่สมบูรณ์แบบ มีกล้ามเนื้อที่ดูดี ผิวสีน้ำผึ้งสวยงาม ผมสีดำเหลือบน้ำเงินที่หนานุ่มเซ็ตเป็นทรงที่ดูน่าหลงไหล ใบหน้าหล่อคมคาย จมูกโด่งเป็นสันตามประสาลูกครึ่ง ปากสีแดงอมส้มน่าสัมผัส และสุดท้าย ดวงตาสีน้ำตาลช็อกโกแลตที่สวยราวกับตาเหยี่ยว โดยรวมแล้วเรียกว่าสมบูรณ์แบบสุดๆแต่ก็ยังด้อยกว่าอีกคนที่ดูดีกว่ามากโข
“ทำไมอ่ะ เซ็กซี่ดีออก ดูจากสายตาที่แกมองมาแล้วแกก็อยากลิ้มลองตัวฉันบ้างใช้ม๊า”
ไอ้มกราไม่พูดเปล่ามันเดินเข้ามาพลางจับกางเกงของตัวเองอย่างมีเลศนัย
“ฮึ ถ้าแกไม่อยากจบชีวิตในวันนี้ก็หยุดอยู่ตรงนั้นแล้วใส่เสื้อผ้าให้มันเรียบร้อยซ่ะ”
ฉันหยิบขวดแอลกอฮอร์ที่อยู่ใกล้มือเตรียมไว้ฟาดคนลามกที่กำลังเดินเข้ามา และมันคงรู้ว่าฉันไม่ได้แค่ขู่แต่ทำจริงแน่ มันก็เลยหยุดแล้วกลับไปนั่งโซฟาตัวเดิมในตอนแรกแต่มันก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยอย่างที่ฉันบอก ส่วนฉันก็เดินมานั่งโซฟาแต่คนละตัวกับไอ้มกราน่ะ
ปัง!! ประตูห้องถูกกระชากให้เปิดออก เสียงดนตรีก็แทรกดังเข้ามา พร้อมกับผู้มาเยือนใหม่ทั้งสามคน
“ไวท์!!! เอาอีกแล้วหรอ ถ้าเกิดเขาฟ้องเราขึ้นมามันจะเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ”
เสียงหวานๆ ของสาวน้อยที่น่ารัก น่าทะนุทนอม ตัวเล็กผิวขาวอมชมพู ‘วีนัส’เอ่ยด้วยอารมณ์เป็นห่วงพลางเดินมานั่งข้างฉัน และหันไปสะดุด ไอ้มกราที่นั่งทำหน้าบูดแต่งตัวล่อแหลม เธอหัวเราะ คิกคัก มือป้องปากตามมารยาทที่ถูกสั่งสอนมาอย่างดี
“เจเจ๊ โหดตลอดอ่ะ ทำแบบนี้มิน่าล่ะ พี่ธันวาถึงไม่กล้านอกใจเจ๊นะ ดุซะขนาดนี้”
เสียงทุ้มผสมขี้เล่น หนุ่มหล่อ ขาวตี๋ หุ่นดี ‘หลีเซิน’ พูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีตามประสาคนขี้เล่นแล้วเดินไปนั่งข้างไอ้มกราแล้วหัวเราะปล่อยก๊าก อย่างกับไม่เคยเห็นไอ้มกราในสภาพนี้
“ไวท์ก็ใจร้อนเกินไป ยังไงเค้าก็เป็นผู้หญิงนะ หัดใจเย็นบ้างก็ดีน๊าคนสวยของพี่”
เสียงทุ้มต่ำ มีเสน่ห์ แฝงความใจดีไว้ ใบหน้าที่เหมือนกับมกรามาก ทั้งส่วนสูง ทั้งหุ่น ทั้งสีผม แต่ก็ไม่เหมือนทั้งหมด ผิวสีขาว ริมฝีปากสีชมพูสวยราวกับสีชมพูที่สวยสุดในโลกนั้นอยู่บนรมฝีปากที่น่าลิ้มลองนี้ แก้มที่มีลักยิ้มอยู่ทั้งสองข้าง และดวงตาที่เหมือนเหยี่ยวนั้นเป็นสีน้ำตาลอ่อน ดูอบอ่นมีเสน่ห์น่าค้นหา ใช่ค่ะ!ชายคนนี้เป็นพี่ชายฝาแฝดกับมกราชื่อ ‘ธันวา’ และเป็นแฟนกับฉันมาได้เกือบสามปีแล้ว
มันอาจจะนานสำหรับบางคนแต่กับฉันมันเหมือนกับผ่านไปแค่วันเดียว พี่ธันวาใจดีกับฉันมาก เขาเดินมานั่งข้างฉันพลางลูบหัวและขยี้ผมที่เซ็ตมาอย่างลวกๆของฉันหั้นยุ่งไปกว่าเดิม ฉันทำได้แค่เพียงทำหน้ามุ่ยใส่ แต่ก็ไม่ขัดขืนแต่ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะมีเรื่อง พี่ธันวาหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี สำหรับพี่ธันวาแล้วฉันก็เป็นแฟนที่แสนดี น่ารัก ไม่ขี้วีน ไม่โวยวาย อ้อนเก่ง
“พี่ธันวาอ่ะ ผมไวท์ยุ่งเป็นรังนกหมดแล้วน๊า”
บางคนอาจสงสัยว่าทำไม ฉันถึงเรียก‘พี่ธันวา’แต่กลับเรียก‘มกรา’ว่าไอ้ทั้งๆที่เป็นฝาแฝดกัน เพราะเนื่องจากที่‘พี่ธันวา’นั้นเกิดในเวลา 23:55 นาทีในวันที่ 31 ธันวาคม ตามชื่อของ‘พี่ธันวา’ ส่วน‘มกรา’เกิดในเวลา 00:03 นาที ในวันที่ 1 มกราคม และฉันก็เกิดพร้อมกับ‘มกรา’เวลาเดียวกันวันเดียวกัน เดือนพ.ศ.เดียวกัน ทำให้ฉันเรียกเขาว่า‘พี่ธันวา’ ในเมื่อแนะนำมาแล้วก็แนะนำอีกสองคนที่เหลือด้วยเลยล่ะกัน
‘วีนัส’ สาวน้อยน่ารัก ตาโตประจำกลุ่ม ชื่อและน่าตาของเธอถึงแม้ว่าจะไม่เหมาะสมกันซักเท่าไรแต่ก็ถือว่าสามารถผ่านได้ เธอเกิดในวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก และช่างน่าทะนุทนอมเช่นเดียวกับดอกกุหลาบ
‘หลีเซิน’หนุ่มตี๋จีนแท้ เกิดในวันที่ 15 เมษายน วันสงกรานต์ของไทย พวกเราเรียนที่เดียวกันมาตลอดทำให้สนิทกันมากตั้งแต่อนุบาลยันป.โท แม้จะมีทะเลาะกันบ้างซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฉันกับไอ้มกรามากกว่า แต่เราก็กลับมาคืนดีกันตลอด
“แล้วคนสวยของพี่ วันนี้มีเรื่องอะไร ให้อารมณ์เสียอีกล่ะค่ะ”
พี่ธันวาถามฉัน ฉันแอบมองเสี้ยวหน้าของพี่ธันวาพลางนึกเรียบเรียงคำพูดให้เข้าใจง่ายมากขึ้น พี่ธันวาหยุดขยี้ผมของฉันแล้วก็เปลี่ยนมาลูบผมแทนเหมือนลูกหมาเลยเรา
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องไปสนใจมันหรอกพี่ อย่างมันนะอารมณ์เสียทุกๆชั่วโมงอยู่แล้วล่ะ อารมณ์เสียแล้วชอบมาขัดจังหวะฉันตลอด”
ไอ้มกราชิงพูดขึ้นมาก่อน ไอนี่ท่าจะบ้าชอบหาเรื่องตลอดเลย ฉันเลยส่งหมอนอิงที่อยู่ข้างตัวฉันไปอุดปากมันแต่สงสัยมันใหญ่เกินไปเลยไปติดหน้ามันจนมันหน้าหงายไปเลย ไอ้มกรารีบปัดหมอนออกไปแล้วมองหน้าฉันอย่างอาฆาต ฉันแลบลิ้นใส่ไอ้มกรา พี่ธันวาเลยกดหัวฉันให้แนบอกอุ่นๆจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะเร็วมาก ฉันแอบหัวเราะนิดๆ ฉันกระแอมเล็กน้อยเพื่อปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เพื่อที่จะให้พร้อมเล่าเรื่องที่ทำให้อารมณ์เสีย แต่พอนึกขึ้นมาก็อารมณ์เสียอีก
“เอ่อ...คือว่าไวท์ทะเลาะกับพ่อมาค่ะ”
“แล้วทะเลาะกันเรื่องไรล่ะค่ะ วีนัสไม่เคยเห็นไวท์กับคุณลุงทะเลาะกันเลยนี่ค่ะแต่ดูเหมือนครั้งนี้จะเป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะค่ะ”
วีนัสเอ่ยเสียงหวานใสขึ้นมาวิเคราะห์เหตุการณ์หลังจากเงียบไปนานแล้ว ส่วนไอ้หลีเซินก็เล่นดึงกางเกงของไอ้มกราอยู่อย่างสนุกสนาน
“คือพ่อกำลังจะเอายัยนังร้องในร้านอาหารกลางคืนมาเป็นเมียใหม่”
ความคิดเห็น