รักวุ่นวาย หัวใจสับสน
ผู้เข้าชมรวม
63
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“อะไรทำให้คุณพ่อคิดที่จะเอายัยนี่มาเป็นเมียค่ะ”
“นี่ลูกไวท์ เรียกนิตาเค้าดีๆหน่อย เค้าจะมาเป็นแม่แกนะ”
ฉันกับคุณพ่อเถียงกันมาได้เกือบจะเป็นชั่วโมง หลังจากที่คุณพ่อคิดที่จะยัยนักร้องในผับกลางคืนมาเป็นเมีย
“คุณพ่อ! หนูไม่ยอมให้มันเข้ามาอยู่ ร่วมหลังคาเดียวกับหนูแน่”
ฉันรับไม่ได้ที่คุณพ่อจะมีเมียใหม่ทั้งๆที่คุณพ่อก็สามารถอยู่ได้ มาตั้ง10กว่าปี หลังจากที่แม่ตายไป
“งั้นแก ก็ออกไปอยู่ที่อื่นสิ ปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่ ฉันจะอยู่ที่นี่กับนิตาสองคนก็ได้”
“คุณค่ะ! คุณพูดแรงไปหรือเปล่าค่ะ”
ยัยนิตาเอ่ยขึ้นมาเสียงหลง หลักจากหุบปากมาได้เป็นชั่วโมงตั้งแต่ที่ฉันเริ่มเถียงกับคุณพ่อ มารยาชัดๆมันอยากให้ฉันออกไปจะตาย ทำมาเป็นตกใจที่แท้เนื้อตัวมันสั่นอยากให้ฉันออกไปเร็วๆนะสิ
“ได้! งั้นก็เชิญอยู่กับยัยนี่สองคนไปเลย ฉันจะไปอยู่ข้างนอกเองแล้วอย่ามาตามฉันก็แล้วกัน สวัสดีค่ะ!”
“เดี๋ยวก่อนสิค่ะหนูไวท์เดี๋ยวแม่ออกไปอยู่ข้างนอกเอง หนูอยู่กับคุณพ่อนะค่ะ เดี๋ยวแม่ออกไปเอง”
ยัยนิตาวิ่งจับแขนฉันไว้ แต่ฉันสะบัดทิ้งทันที
“ไม่ต้องมาจับตัวฉัน ฉันรังเกียจ แล้วอีกอย่าง อย่ามาเรียกตัวเองว่าแม่เพราะแม่ของฉันมีคนคนเดียวแล้วก็ตายไปแล้วด้วยอย่าริอาจมาใช่คำนี่อีก อย่างแกมันไม่สิทธ์จะใช้คำนี้จำไว้”
พูดจบฉันก็เดินไปหยิบกระเป๋าใบเก่งทีฉันเขวี้ยงใส่ยัยนั่นในตอนแรกมา
“ยัยไวท์ มันจะมากไปแล้วนะ แกอายุน้อยกว่านิตานะ เคารพกันบ้างสิ แกนี่ก้าวร้าวมากเกินไปแล้ว แล้วแกจะออกไปไหน ถ้าแกออกไป แกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีก”
คุณพ่อเริ่มโมโหอย่างแท้จริงหลังจากที่เก็บอารมณ์มานาน แต่ฉันไม่สนใจเพราะเมื่อกี้คุณพ่อไล่ฉันออกจากบ้านแล้ว ฉันไม่รอให้รอให้คุณพ่อไล่ฉันเป็นครั้งที่สามแน่ ฉันจึงเปลี่ยนจากที่จะเดินออกไปโรงรถเป็นขึ้นไปบนห้องชั้นสองแทน เพื่อไปหยิบเอาข้าวของและอะไรอื่นๆอีกมากมาย คุณพ่อก็เงียบไปหลังจากเห็นฉันเดินขึ้นไปบนห้องคงคิดว่าฉันจะยอมแล้วละสิ แต่คิดผิดฉันไม่ยอมง่ายๆหรอก และฉันก็โดนไล่ออกบ้านไปแล้วมีหรือที่ฉันจะอยู่ที่นี่อีก
ฉันเดินมาหยุดที่ชั้นสองซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของฉันทั้งหมดมีแค่ไม่กี่ห้องที่เป็นของห้องพักรับรองของแขกที่มานอนที่นี่ ฉันเดินจนเกือบจะสุดทางซึ่งตลอดทางที่ผ่านมาจะเป็น ห้องสมุดส่วนตัวของฉัน ห้องแต่งตัว ห้องน้ำขนาดใหญ่ และห้องที่เอาไว้เก็บชุดต่างๆของฉัน ส่วนห้องนอนของฉันนั้นอยู่เป็นห้องสุดท้ายของทางเดิน ห้องนอนและห้องทำงานของคุณพ่อจะอยู่ที่ชั้นสามทั้งหมด ฉันล้วงหยิบกุญแจในกระเป๋าใบโตที่ราคาก็มาตามขนาดของมัน ประตูห้องทั้งหมดของชั้นนี้มีเพียงกุญแจดอกนี้ดอกเดียวเท่านั้นที่เปิดออกได้แล้วแม่บ้านก็ไม่มีกุญแจสำรองเพราะถ้าหากจะมาทำความสะอาดฉันก็จะเปิดประตูทิ้งไว้ให้ แต่ห้องนอนของฉันยังไม่เคยมีใครเข้ามาได้นอกจากฉันส่วนเรื่องทำความสะอาดฉันจะทำความสะอาดเอง
ฉันหยิบเอาเอาพวงกุญแจออกมา ซึ่งมีลูกกุญแจของประตูต่าง แต่ฉันมองหากุญแจสีขาวลายดอกแก้วซึ่งเป็นกุญแจของชั้นสองทั้งหมด ฉันหยิบขึ้นมาไขประตูสีขาวลายดอกแก้วเช่นเดียวกับลุกกุญแจ
กริ๊ก! ฉันเดินไปยังหัวตียงซึ่งเอาไว้เก็บของสำคัญมากมาย ฉันหยิบบัตรเครดิตของธนาคารและบัญชีเงินฝากต่างๆที่ฉันแอบทำไว้ เผื่อในกรรีฉุกเฉินโดยใช้ชื่อของคนอื่นในการฝาก และไม่ลืมเอาต่างหูรูปดอกแก้วของคุณแม่ ฉันหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์อย่างดี แล้วฉันเดินไปยังโต๊ะแป้งที่มีเครื่องสำอางที่แทบจะไม่มีขายในเมืองไทย ฉันเก็บใส่กระเป๋าอย่างรีบเร่งโดยไม่สนใจว่ามันมีระเบียบหรือเปล่า ดีนะที่กระเป๋าใบนี้มันใหญ่มากจึงสามารถเก็บเครื่องสำอางของบำรุงผิวหน้าผิวกายที่มากมายของฉัน ได้ก็มันหาซื้อยากมากๆในเมืองไทย หลังจากเก็บเรียบร้อยแล้ว ฉันเดินไปล็อกประตุห้องจากด้านในแล้วคล้องโซ่อีกสองชั้น ลงกลอนประตูอย่างเรียบร้อยป้องกันคนเข้ามาห้องนอกเพราะถึงแม้ว่าจะมีกุญแจ ที่ไม่สามารถหาอะไรมาไขได้อีก แต่ก็ต้องให้มั่นใจไว้ก่อน ฉันเดินออกมายังระเบียงแล้วล็อกประตูกระจกเอาไว้ ทำให้ฉันออกมอยู่ข้างนอกฉันเลือกที่ลงจากทางระเบียงบ้าน เพราะไม่อยากเห็นหน้ายัยบ้านั่นแล้วก็คุณพ่อที่เห็นยัยนั่นดีกว่าลูกในไส้ตัวเอง ฉันปีนขึ้นมายืนบนราวของระเบียงอย่างคล่องแคล่ว เพราะฉันมักแอบหนีแม่บ้านไปเที่ยวด้วยทางนี้เป็นประจำ ฉันเดินไปยังเสาบ้านที่ทีลักษณะคล้ายบันไดหมุนวนรอบเสา ซึ่งมีพื้นที่ให้เดินเพียงหนึ่งฝ่ามือเท่านั้นเองเรียกว่าถ้าใครไม่ผอมจริงไม่มีสิทธิ์เลย แล้วตอนนี้ถึงฉันจะผอมแต่เนื่องจากกระเป๋าที่มีน้ำหนักมาก ทำให้ค่อนข้างลำบากมากเลยทีเดียว และถึงแม้ว่านี่จะเป็นชั้นสองก็มันก็สูงมากหากพลาดตกลงไปไม่ต้องเดาเลยว่าจะไปไหนต่อ ฉันลงมาถึงข้างล่างอย่างปลอดภัยแม้จะทุรักทุเรไปนิดนึงก็ตาม ฉันเดินมายังโรงเก็บรถที่อยู่ข้างๆ แล้วเดินไปยังรถสีน้ำเงินคันโปรดของฉัน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้มันเท่าไรแต่เครื่องยนต์ก็อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ ฉันถอยรถออกมาอย่างชำนาญตามประสานักแข่งเก่าที่ลาวงการไปแล้วเมื่อขับมาถึงประตูฉันหยิบรีโมทประตูรั้ว
ตี๊ดดดดดดดด
เงียบประตูรั้วไม่ยอมเปิด เหมือนปกติ
ตี๊ดดดดดดดด
เงียบเหมือนเดิม “สงสัยคุณพ่อจะล็อกสัญญาณของประตูรั้วเอาไว้ คิดว่าแค่นี้จะหยุดหนูได้หรอไม่มีทางหรอก”
ฉันกดหมายเลขบนรีโมทซึ่งเป็นรหัสที่ฉันเคยขู่ยามเฝ้าประตูให้บอกฉัน ฉันกดเลขรหัสทั้งหมด ห้าตัว
และ ตี๊ดดดดดดดดด
ประตูรั้วค่อยๆเปิดกว้างออกมาอย่างสวยงาม เรื่องแค่นี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับฉันหรอก
พอฉันมองกระจกมองหลังก็เห็นผู้ชายและผู้หญิงหลายคนกำลังวิ่งมาทางประตูหน้าบ้าน คงรู้ตัวแล้วละสิว่าฉันกำลังจะออกเขตบ้านหลังนี้ แต่ช้าไปแล้ว ประตูรั้วค่อยๆปิดอย่างช้าๆ และแล้วภาพของบ้านที่ฉันเคยอยู่มันค่อยๆเลือนหายไปตามความเร็วของรถที่ ฉันขับรถไปเรื่อยๆด้วยไม่มีจุดหมาย
เฮ้อเอาเข้าจริงๆฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปอยู่ไหน จริงสิยังเหลืออยู่นี่นาที่ๆต้อนรับฉันได้ทุกเวลา เมื่อคิดออกฉันก็รีบขับรถ ไปยังสถานที่ที่ๆฉันพึ่งนึกออก
ผลงานอื่นๆ ของ poli_pop ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ poli_pop
ความคิดเห็น