คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ปิศาจกระจก ตอนที่หนึ่ง
ปิศาจกระจก ตอนที่หนึ่ง
วันหนึ่งซูซ่งฟง เทียนอวี้ และข้าลงมาเดินเล่นในตลาดก็มีช่างตีเหล็กคนหนึ่งมาขอเข้าพบซูซ่งฟง เขาบอกว่ามาตามเก็บค่าซ่อมกระดิ่งเรียกวิญญาณ ซูซ่งฟงทำท่าประหลาดใจพร้อมกับรื้อเอากระดิ่งเรียกวิญญาณของตนออกมาให้ช่างตีเหล็กดูว่าไม่มีรอยแตกร้าวหรือรอยเชื่อมแต่ประการใด ข้าจึงกล่าวว่าอาจเป็นการเข้าใจผิด
ช่างตีเหล็กบอกว่า วันที่ซูซ่งฟงนำกระดิ่งมาซ่อม ท่านมาขอรับบริจาคเงินจากชาวบ้านเพื่อนำไปซ่อมสำนัก แถมบอกอีกว่าใครบริจาคแล้วจะได้สิทธิพิเศษในการเข้าศึกษาในสำนักมังกรเมฆ
ซูซ่งฟงทำท่าประหลาดใจ แล้วว่า สำนักเราไม่เคยเก็บค่าธรรมเนียมในการับศิษย์แต่อย่างใด
"แต่ทุกคนในตลาดก็เห็นเช่นนั้น ท่านซู" ช่างตีเหล็กยื่นใบประกาศที่มีข้อความเกี่ยวกับการรับบริจาคให้ซูซ่งฟงดู
เทียนอวี้รับเอาใบประกาศมาพิจารณาดูแล้วกล่าวว่า"ลายมือของคนผู้นี้แปลกประหลาดนัก เชื่อว่าคนๆนี้ถนัดมือซ้าย ต่างกับซูซ่งฟงที่ถนัดมือขวา"
จริงของเทียนอวี้ แสดงว่ามีคนแอบอ้างชื่ออาจารย์มารับบริจาคทานในตลาด ขืนปล่อยเอาไว้รังแต่จะทำให้ซูซ่งฟงเสื่อมเสียชื่อเสียง
"รูปพรรณสันฐานของมันเป็นอย่างไรท่านพอจะจำได้หรือไม่" ข้าถามช่างตีเหล็ก
"เหมือนนักพรตซูทุกกระเบียดนิ้ว" ช่างตีเหล็กกล่าว
"แย่แล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าก็ทำงานขาดทุนเสียแล้วสิ" ช่างตีเหล็กร่ำไห้
"เฟิงเซวีย จงเอาเงินที่มีจ่ายให้ช่างตีเหล็กไปก่อน" ซูซ่งฟงสั่งข้าเช่นนั้น
"ขอบคุณนักพรตซู ขอบพระคุณมากๆ" เมื่อช่างตีเหล็กได้ค่าจ้างแล้วเขาก็เดินจากไป
"อาจารย์เราจะทำอย่างไรดี" ข้าถาม
เทียนอวี้บอกว่าเขามีแผน แต่ขืนพวกเรายังยืนเป็นเป้าสายตาแบบนี้ คนร้ายคงไม่เผยตัวออกมาเป็นแน่ โดยเฉพาะท่านอาจารย์ เหล่าคนในหมู่บ้านคุ้นเคยกับท่านเป็นอย่างดี แต่หากเป็นเช่นนี้อาจทำให้แผนที่เขาคิดไว้ไม่เป็นผล
ข้าถามเทียนอวี้ว่าเขามีแผนอันใด เขาบอกข้าว่าเราสองคนน่าจะต้องปลอมแปลงตน เพื่อปะปนไปกับชาวบ้านก่อน รอจนกว่าคนร้ายจะปรากฏตัว ระหว่างนี้เขาอยากให้ท่านอาจารย์กลับไปที่สำนักก่อนจนกว่าจะสืบรู้ได้ว่าคน ร้ายนี้เป็นใคร เทียนอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ซูซ่งฟงเห็นด้วย เขาจึงรีบกลับสำนักก่อน ก่อนไปเขายังกำชับว่าให้เราสองคนอย่าทำอะไรผลีผลาม เมื่อได้เบาะแสแล้วรีบมารายงานเขาก่อน แล้วพวกเราก็แยกกับอาจารย์ตรงนั้น
ข้าและเทียนอวี้ไปหาที่พักอยู่ที่โรงเตี๊ยมใกล้ๆทางเข้าหมู่บ้าน ข้าพอมีฝีมือทางวาดภาพอยู่บ้างจึงตั้งโต๊ะวาดภาพขายและถือโอกาสสังเกตรูปพรรณสันฐานของคนที่ผ่านไปผ่านมา ส่วนเทียนอวี้นั้นขอตัวไปเดินสำรวจหนทางในหมู่บ้าน เพราะเขาเองก็เพิ่งย้ายมาจากต่างเมืองไม่เคยมาเดินตลาดในหมู่บ้านแห่งนี้
เวลาผ่านไปเกือบชั่วยามแล้ว ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด จนกระทั่งข้าสังเกตเห็นผู้ชายในชุดนักบวชสองคนเดินผ่านหน้าร้านข้าไป คนหนึ่งตัวใหญ่ใส่เสื้อผ้าซอมซ่อหนวดเครารกรุงรัง ใบหน้าเหี้ยมเกรียม
ข้ารีบจดจำใบหน้าของมันแล้ววาดใส่กระดาษด้วยความรวดเร็ว ข้าคิดว่าหน้าตาท่าทางของมันคงไม่ใช่คนดีเป็นแน่ แต่เมื่อข้าพิจารณาใบหน้าชายอีกคนหนึ่งกลับทำให้ข้าตกใจยิ่งกว่า มันคือท่านอาจารย์...ซูซ่งฟง...
ข้าแน่ใจว่ามันต้องเป็นตัวปลอมที่มีรูปพรรณสัณฐานเหมือนท่านอาจารย์จนแยกไม่ออก คนทั้งสองมาขอบริจาคทานจากชาวบ้านทั่วไป ด้วยความเกรงใจต่อตัวปลอมผู้คนจึงไม่ขัดศรัทธาแต่อย่างใด
ข้าเขียนข้อความใส่กระดาษแผ่นเล็กๆ กำไว้ในมือแล้วเป่าอาคมใส่ ก้อนกระดาษให้กลายเป็นผึ้งตัวเล็กๆบินวนไปมา
ข้าออกคำสั่งให้ผึ้งน้อย ตามหาเทียนอวี้ให้พบและส่งสารนี้ให้กับเขา
ไม่นานนักข้าก็เห็นเทียนอวี้เร่งฝีเท้าเดินกลับมา เขาเล่าว่าเคยเห็นซูซ่งฟงมักมาขอบริจาคทานกับนักพรตอีกคนหนึ่งเสมอ
"สงสัยคงเป็นคนผู้นี้" ข้าส่งรูปให้เทียนอวี้ดู
"เทียนอวี้ เจ้าจงรีบนำภาพนี้กลับไปให้อาจารย์ดู ตอนนี้ข้าคิดว่ามันสองคนคงยังไปได้ไม่ไกล ข้าอยากสะกดรอยตามมันไป เจ้าคิดว่าอย่างไร" ข้าถามความเห็นเขา
เทียนอวี้พยักหน้าเห็นด้วย "ถ้าเช่นนั้น ขอให้ศิษย์พี่ระวังตัวให้มาก ข้าจะรีบไปรีบมา" แล้วเขาก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดหายไปในพริบตา ส่วนข้าก็ออกติดตามซูซ่งฟฟงตัวปลอมกับคู่หูของมันต่อไป
เทียนอวี้ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงสำนัก ชายหนุ่มรีบเดินมาเข้ามาพบอาจารย์อย่างรวดเร็วแล้วยื่นรูปคนร้ายที่อยู่กับซูซ่งฟงตัวปลอมให้อาจารย์ดู
"แล้วเฟิงเซวียล่ะ" ซูซ่งฟงถาม
"เขาอาสาติดตามและสะกดรอยคนร้ายไปครับ" เทียนอวี้ตอบ
ซูซ่งฟงค่อยๆคลี่กระดาษส่งสารของเฟิงเซวียออกมาดู
"มิได้การแล้วเทียนอวี้ เฟิงเซวียกำลังตกอยู่ในอันตราย คนผู้นี้นี่มัน..."
"อู๋จีซี!" ซูซ่งฟงอุทาน
ความคิดเห็น