คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9
ตอนที่ 9
รุจนเห็นการพูดและแสดงท่าทางของเพื่อนสาวที่สายตมองไปที่พี่ชายของตนเองแล้วนั้น จึงทักขึ้น
“รู้จักกันแล้วหรอ” การพูดแทรกระหว่างกลางของคนสองคนนั้น แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับมา มีแต่คำพูดของคนเป็นพี่ที่ไล่น้องชาย
“10 โมง แล้ว ยังไม่ไปทำงานอีก.............” กร ไล่น้องชายออกจากห้องพร้อมกับ ดื่มกาแฟที่ชงเองและเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตนเองและก็อ่านเอกสารที่อยู่บนโต๊ะทำงานต่อ โดยไม่มาสนใจคนที่ยืนรอ
เมื่อ รุจนออกจากห้องไปแล้วนั้น ภายในห้องก็ดูเงียบ แพรไม่รู้จะทำยังไงก็เลยเอ่ยถามชายหนุ่มขึ้น
“ชั้น..........ต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้เสียเวลา............ถึงต้องไปชงกาแฟเอง” แพรพูดพร้อมกับมองถ้วยกาแฟแก้วนั้นและรอฟังคำตอบกับชายหนุ่ม
กร ฟังคำพูดของหญิงสาวจบแล้วนั้นก็เอ่ยพูดบ้าง
“ไม่เป็นไรหรอก............ก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ เริ่มทำงานเลยดีกว่า.............รายละเอียดของงานที่เธอต้องรับผิดชอบอยู่ที่โต๊ะทำงานนะ................” กรพูดขึ้น
คำพูดของ ธนากร ทำให้หญิงสาวถึงกับ งง ที่ชายหนุ่มไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าเลยสักนิด แพรจึงพูดขึ้นก่อน
“เรื่อง .เมื่อเช้านะ........สรุปว่าไง........อยู่ดี ๆ นายก็เดินหนีไปและขับรถออกไป” แพรพูดสายตาก็จ้องที่ชายหนุ่ม
“แล้วเธอจะเอาไงละ..........ว่ามานะ..........ชั้นมันผิดอยู่แล้ว....” กรพูดเหมือนปัดความรำคาญอีกตามเคย
“เคยมีคนบอกไหม ว่าเวลาจะพูดอะไรหรือตัดสินอะไร ควรจะเห็นใจผู้อื่นหรือทางที่ดี นะไม่ควรจะพูดเลยด้วยซ้ำ”แพรพูดพร้อมกับท่าทางที่ไม่พอใจพอสมควร
“เมื่อเช้านายบอกชั้นเองไม่ใช่หรอว่า ชั้นผิด แล้วไง” แพรพูดต่อเพราะยังไม่เข้าใจที่ชายหนุ่มบอก
“อะไรอีกละเนี่ย...............ก็บอกเองไม่ใช่หรอว่าไม่ผิด..........ก็เลยรับผิดแทน ชั้นยอมรับผิดเอง สบายใจได้ ส่วนค่าเสียหายนะ เดี๋ยวจัดการให้ พอใจยัง!!!” คำพูดของกรทำให้แพรถึงกับไม่พอใจเป็นอย่างมากและต่อว่าอีก
“ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างเนี่ยนะ ชั้นว่านะน่าจะแจ้งข้อหานายว่าขับรถประมาณ ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน น่าจะดีกว่าอีก” แพรพูดพร้อมกับเดินไปที่โต๊ะทำงานของตนเองที่อยู่ไม่ห่างมากนัก
คำพูดของหญิงสาว ทำให้กรถึงกับถอนหายใจออกมา และก็คิดอยู่ในใจว่าผู้หญิงคนนี้ ไม่คิดที่จะยอมรับผิดแถมยังมาพูดว่าตัวเองถูกอีก ในเมื่อความจริงเป็นยังไง ก็รู้ ๆ กันอยู่ กรเห็นว่าเรื่องไม่สำคัญเท่าไร จึงนำเอกสารให้หญิงสาวศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของบริษัทและสิ่งที่หญิงสาวต้องทำและรับผิดชอบ
แพรรับเอกสารมาโดยท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก แต่ก็ตั้งใจอ่านเอกสารและศึกษางานอย่างสงบ ๆ โดยที่ไม่ถามคนที่นั่งอยู่ทางด้านหนึ่งเลย
รุจนกระวนกระวายเป็นพิเศษ เพราะยังข้องใจอยู่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ว่าเป็นอย่างไร อยากจะถามจากเพื่อนมาก แต่ก็กลัวว่าจะกวนเพื่อนสาว แถมจะโดนพี่ชายด่าอีกด้วย จึงได้แต่ทำงานต่อไป
***************
พักเที่ยง
รุจนเมื่อดูนาฬิกาแล้วเห็นว่าได้เวลาพักแล้วจึงรีบออกจากห้อง และตรงไปยังห้องทำงานของพี่ชายตนเอง ก่อนที่จะเข้าไปในห้องทำงานนั้น แพรก็เปิดประตูออกมาก่อน รุจนเห็นหน้าเพื่อนที่หมุ่ยเหมือนกระดาษที่ถูกขยำ จึงหัวเราะออกมาและถามว่าเป็นอะไร
“งง วะ...........” แพรตอบพร้อมกับเดินไปที่ลิฟต์
รุจนจึงเดินตามไปพร้อมกับถามต่อไปอีก
“เป็นไรวะ อารมณ์ไม่จอยเลย โดนพี่กรว่าอะไรหรือเปล่า สีหน้าบ่งบอกว่าไม่มีความสุขเลยวะ” รุจนถามเพื่อน
“เป็นอะไร ละ พี่ชายแก..............ไม่มีอะไร” แพรทำท่าจะบอกแต่ก็ไม่พูด ได้แต่เดินเข้าลิฟต์ไป ทำให้เพื่อนชาย สงสัยมากขึ้นกว่าเดิมอีก
ที่ร้านอาหารไทย บรรยากาศดูดี แต่สีหน้าของคนที่มารับประทานอาหารดูไม่ค่อยดีเลย รุจนดูสีหน้าเพื่อนสาวจึงพูดขึ้น
“แก มีอะไรไม่บอกชั้น..........แล้วชั้นจะรู้ไหมวะ ไหนแกบอกว่าเพื่อนกัน มีทุกข์ร่วมทุกข์ มีสุขร่วมสุขไง...........” รุจนพูดประโยคหลักที่เมื่อใด คนในกลุ่มมีเรื่องกลุ้มใจ จะต้องใช้คำพูดนี้ แพรฟังดังนั้นจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ค่อย ๆ กลัวกระทบพี่ชายของเพื่อน
“แกอย่าโกธร ชั้นนะ..........” แพรพูด โดยคนฟังพยักหน้าอยากรู้เต็มที่ หญิงสาวจึงพูดออกมาเป็นชุด
ความคิดเห็น