คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7
ตอนที่7
เช้าของวันใหม่ซึ่งอากาศดูจะเป็นดีที่น่าจะจัดพิธี ในวันนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีก็ว่าได้ ซึ่งวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ถือว่าเป็นวันของ ครอบครัว อมรวิริยะกุล ที่ถือว่าเป็นกิจการหนึ่งที่คนเป็นพ่ออยากมอบให้ลูกชายทั้งสอง ซึ่งช่วงเช้าได้มีการทำบุญตักบาตร ภายในบริษัทและทำพิธีเกี่ยวกับการเจิมเพื่อเป็น สิริมลคลแก่บริษัทและคนในครอบครัว พร้อมกับเชิญป้ายบริษัท GR กรุ๊ป จำกัด ซึ่งอยู่ในเครือข่ายการทำงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ ของ วิริยะกุล มาเกตติ้ง กรุ๊ป จึงถือว่าเป็นการทำงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากการประกอบพิธีเสร็จ แขกก็เริ่มทยอยมาและมอบของขวัญเพื่อแสดงความยินดี ซึ่งงานวันนี้คนที่เหนื่อยที่สุดคงจะเป็น ลูกชายของทั้งสองที่ถือว่าน่าจับตามองทางด้านการตลาด ในวงการธุรกิจเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
“แหม........ลูกชายคุณพี่ หล่อแถมอนาคต ท่าทางคงจะตามรอยคุณพ่อนะคะ” หญิงวัยกลางคนที่มาร่วมงานพูดกับคุณนภาที่เป็นแม่ของชายหนุ่มที่ถูกกล่าวถึง
แต่คนเป็นแม่ไม่กล่าวตอบโต้อะไรเลยนอกจาก ยิ้มและมองมาทางด้านลูกชายทั้งสองที่กำลังสัมภาษณ์อยู่กับสื่อมวลชนที่กำลังถามคำถามกันให้วุ่นเลยทีเดียว จนกระทั่ง ครอบครัวของเกรียงไกรก็เดินมาพร้อมกับช่อดอกไม้
“สวัสดีคะ......คุณพี่” นภา สวัสดี ภาตา ที่กำลังเดินมากับลูกชายและสามี
“แสดงความยินดีด้วยนะคะ...............อีกหน่อยคงไม่ต้องเหนื่อยแล้วนะคะ......มีลูกชายช่วยต้องหลายคน.....” ภาตาพูดพร้อมกับยืนช่อดอกไม้แสดงความยินดีให้ ทางด้านบิดาที่กำลังวุ่นกับการับแขกเหมือนกัน เห็นครอบครัวของเพื่อนของลูกชายจึงเดินเข้ามาและทักทายกัน
“เป็นไงครับ คุณมนตรี............มานานแล้วหรอครับ” มานพพูดเมื่อเดินมาถึง พร้อมกับเชิญทั้งหมดไปนั่งที่บริษัทข้างใน พร้อมกับแนะนำลูกชายคนโตให้รู้จักกัน
“โห...........หล่อนะจ๊ะเนี่ย...........คุณภานี้ได้ลูกชายดีจริง ๆ นะคะ.........คงจะประมาณรุ่นเดียวกับ เจ้าภัทรมั้งคะ.” ภาตาพูด
จนกร ทำตัวไม่ถูกได้แต่ยิ้ม และแนะนำลูกทั้งสองให้ได้รู้จักกัน
การสนทนาของทั้งสองครอบครัวดูจะสนิทสนมกันมากขึ้น จนกระทั่งหญิงสาวที่คุณต้องอึ้งทึ้งไปตาม ๆ กัน นิกกี้เดินมาพร้อมกับคนเป็นพ่อ ทำให้แขกภายในงานซุบซิบกันว่า คนนี้อาจจะเป็นคู่รักของชายหนุ่มก็เป็นไปได้ กรเห็นดังนั้นจึงเดินไปต้อนรับแขกที่พึ่งจะมาถึง กรกล่าวไว้พ่อของนิกกี้
“อาดีใจด้วยนะ...................” ธานินทร์ กล่าวด้วยท่าทางที่ยินดี
“ขอบคุณครับ.........เชิญคุณอาและนิกกี้ข้างในดีกว่าครับ คุณพ่อคุณแม่ท่านอยู่ข้างในนะครับ” กรพูดพร้อมกับเชิญทั้งสองเข้าบริษัทและคอยตอนรับทั้งสองเป็นอย่างดี ภัทรเห็นกรและหญิงสาวเดินเข้ามาจึงกระชิบถามรุจนว่า ทั้งสองเป็นแฟนกันหรอ รุจนจึงเอ่ยแบบกระชิบตอบไป
“เปล่า..........หรอกพี่....แต่ตามสภาพก็อาจใช่นะ............เรื่องมันยาวนะ” รุจนพูดพร้อมกับกล่าวสวัสดีทั้งคู่
การสนทนาของผู้ใหญ่ ๆ ที่มร่วมงานเป็นที่ราบเรียบเป็นกันเองเลยทีเดียว เมื่อการสนทนาเริ่มจะเนินนาน ภัทรจึงขออนุญาตให้รุจนพาไปเที่ยวชมบริษัท เพื่อเป็นข้ออ้างในการเลิดพูดคุยกับผู้ใหญ่ ซึ่ง กรเองก็อยากจะเลี่ยงออกไปเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้เพราะติดนิกกี้ที่นั่งติดกับเขาไม่ห่างเลย
ระหว่างที่ภัทรเดินดูบริษัทของคนเป็นเพื่อนของน้องสาวอยู่นั้น จึงเกิดคำถามยังคงค้างคาใจอยู่ จึงเอ่ยถาม
“พี่แก นี้เป็นแฟนกับคุณนิกกี้..........แต่ทำไมไม่แสดงความรู้สึกเหมือนว่ารักกันเลยวะ” ภัทรถามพร้อมกับสายตามองไปรอบ ๆ บนอาคารที่ตกแต่งหรูเลยทีเดียว
“พี่ดูออกด้วยหรอว่า.......พี่ผมกับพี่นิกกี้ไม่สวีตหวานแหววนะ” รุจนพูดพร้อมกับมองมาที่ชายหนุ่มที่ถามเขา “อันที่จริง พี่ผมน่ะ นะแกไม่ค่อย สวีตกับใครหรอก............ที่พี่ผมไม่ สวีตเพราะเขาไม่ได้รักไง............” รุจนพูดพร้อมกับเดินไปที่ห้องทำงานของตนเอง ภัทรได้ฟังดังนั้นจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ไม่ได้รัก แต่ทำไม คุณนิกกี้เธอเหมือนกับเป็นแฟนของพี่ชายแก” ภัทรพูด
รุจนได้ฟังดังนั้น ถึงกับมึนในความสงสัยของพี่ชายเพื่อนสาว คนนี้ จึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง พร้อมกับแก้ข้อ สงสัยให้ ทำให้ภัทรถึงกับเออ ออ กับคำตอบที่รุจนเล่าให้ฟัง
“พี่ชายแกเนี่ย.........แน่มาก” ภัทรพูดพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้พร้อมกับยิ้ม
“คำพูดนี้ พี่ต้องไปพูดให้พี่ กร เองนะ..........ผมมันแค่แกนตาม” รุจนพูดพร้อมกับเชิญชายหนุ่มลงไปข้างล่าง
*************
ที่สนามบิน
“เครื่องออกกี่โมงวะ” รุจนเดินทางมาถึงพร้อมกับถามเพื่อนชาย
“อีก 10 นาทีก็ขึ้นเครื่องได้แล้ววะ.........ขอบใจนะที่มาส่ง.........แล้วก็ขอโทษด้วยนะที่วันนี้ไม่ได้ไปงานของแก” วุฒิตอบ
รุจนตบผ่าของเพื่อนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับพูดขึ้น
“เฮ้ย......ไม่เป็นไรหรอกอีกอย่าง แกก็ส่งดอกไม้มาร่วมยินดีแล้วนี้หว่า........” รุจนตอบ
“ถ้าอย่างนั้น.......ชั้นฝากบอกให้แพรมันหายเร็ว ๆ ด้วยนะ..............วันนี้ออกจากโรงพยาบาลไม่ใช่หรอ”
รุจนพยักหน้าพร้อมกับรับปากเพื่อนว่าจะบอกให้ เมื่อวุฒิพูดกับเพื่อนของตนจบก็หันมามองแฟนสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับนำมือของหญิงสาวมากุมเอาไว้พร้อมกับส่งสายตาที่ซึ้ง ๆ เปรียบเสมือนเขานั้นไม่อยากไปเสียด้วยซ้ำ
“ไหนเราพูดกันรู้เรื่อง แล้วไง คะ วุฒิ........แค่ 3 ปีเอง” แฟนสาวบอกพร้อมกับยิ้มและรีบขับไล่ชายหนุ่มเข้าไปทางช่องของผู้โดยสาร แต่ชายหนุ่มก็ยังฝืนอยู่ จึงดูเหมือนเด็ก ๆ ที่เข้าเรียนวันแรก
“โถ่ ต้อง 3 ปี แค่ 3 นาที วุฒิยังขาดเมย์ไม่ได้เลย” วุฒิพูดพร้อมกับสบตาหวานอีกครั้ง จนทำให้คนเป็นเพื่อนที่ยืนอยู่ถึงกับจะอ้วกออกมา จนชายหนุ่มหันมามอง
“กำลังอินเลย..........มึงนะ” วุฒิพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาและพูดกับเพื่อนอีกครั้งก่อนจะไป
“ยังไง ชั้นฝากแกดูแฟนชั้นดี ๆ ละ...........” วุฒพูดพร้อมกับหอมแก้มแฟนสาวทีหนึ่งและโบกมือลาทั้งสอง
เมื่อชายหนุ่มเข้าห้องผู้โดยสารไปแล้วนั้น รุจนจึงชวนเมย์ไปรับแพรที่โรงพยาบาล
ณ ร้านอาหาร
“พรุ่งนี้ นิกกี้ต้องไปถ่ายแฟชั่นที่อังกฤษ............คงไม่ได้เจอกร ต้อง 3 วัน” นิกกี้พูดขึ้นพร้อมกับทำท่าทางที่เบื่อ จนคนมาด้วยเห็นอาการจึงเอ่ยพูดขึ้น
“แค่ 3 วันเอง...........อีกอย่างงานนี้คุณอาธานินทร์ก็คาดหวังมาก นิกกี้น่าจะทำงานออกมาเพื่อคุณอา ท่านจะได้รู้ว่า ลูกสาวคนเดียวของท่านก็มีความสามารถไม่แพ้......ใคร” กรพูด เพราะรู้ว่าการที่คุณธานินทร์ มอบงานถ่ายแบบให้ลูกสาว คนนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่า ท่านเห็นความสามารถของลูกสาว คนนี้และอยากให้ลูกสาวเข้ามาอยู่ในวงการนี้อีกด้วย
การพูดของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวที่นั่งฟังอยู่คิดได้และเอ่ยถามชายหนุ่ม
“กร ว่านิกกี้มีความสามารถมากขนาดนั้นเลยหรอคะ” นิกกี้พูด
“ครับ..............” กร พูดพร้อมกับตักอาหารให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเขา แต่สีหน้าของชายหนุ่มกับไม่มีความสุขเอาเสียเลย จึงได้แต่ปล่งอยู่อย่างนี้แต่ก็เก็บได้แค่อยู่ในใจเท่านั้น
*******************
“วุฒิ ไปแล้วซินะ..........แกคงคิดถึงมันมากเลยละซิ” แพรที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้เอ่ยถามเพื่อนสาวที่มารับด้วย
“ก็ คิดถึง ซิ...... 3 ปี นะ อีกอย่างก็กลัวเหมือนกันว่า.....”เมย์จะพูดต่อแต่แพรก็พูดขึ้นแทรก,kdjvo
“กลัวไอ้วุฒิมันจะ นอกใจไปติดแหม่ม ไง..........” แพรพูดพร้อมกับพูดต่อไปอีก “ ผู้ชายก็อย่างเนี่ยและไว้ใจไม่ค่อยได้” คำพูดของแพรทำให้ ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่โซพา ถึงกับสะดุ้ง จนเป็นที่สังเกตของเพื่อน ๆ
“แกเป็นอะไร..........ชั้นยกเว้นแก” แพรพูดพร้อมกับมองหน้าเพื่อน
รุจนไม่ตอบอะไรได้แต่เออ ไปกับเพื่อนและพูดกับเมย์ต่อ เพราะเขาเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวแล้วก็เลยพูดเพื่อปลอบใจ ไม่ให้เพื่อนสาวต้องคิดมาก
“ไม่ต้องคิดมากนะ ในฐานะที่เป็นเพื่อนมาถึง 6 ปี ไอ้วุฒิมันไม่นอกใจแกหรอก เมย์ ชั้นเอาหัวเป็นประกันเลย” รุจนพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าจริงจัง จนคนฟังพลอยใจชื่นขึ้นมาบ้าง
“เออ..........ใช่ ๆ วุฒินะรักแกมากนะ คงไม่ทำให้แกต้องเสียใจหรอกนะ.........เชื่อชั้นซิ” แพรพูดพร้อมกับยิ้มให้เพื่อนสาวอีกคน
ระหว่างที่ทั้งหมดพูดคุยกันอยู่นั้น คุณเภตาซึ่งเป็นแม่ของหญิงสาวก็เดินเข้ามา
“ไปจ๊ะ.......แม่จัดการเสร็จแล้ว....” คุณเภตา พาลูกสาวที่รออยู่ออกจากห้อง
“ถ้ายังไง..............ไม่มีอะไรแล้วผมขอเข้าบริษัทก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่กร จะว่าเอา” รุจนพูดพร้อมกับเดินออกไปพร้อมกับเพื่อนสาวอีกคนที่มาด้วยกัน
ระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน แพรจึงเอ่ยถามมารดาว่างานเมื่อวานเป็นไงบ้าง
“ก็ดีจ๊ะ.........ลูกชายคนโตของคุณมนตรี แหม! สมกับที่จบมานะ เก่ง แถมหล่อด้วยนะ........น่าเสียดายมีแฟนแล้ว ไม่งั้น แม่จะแนะนำให้ใย แพนรู้จักเอาไว้” มารดาบอกด้วยสีหน้าที่เต็มเปรียมไปด้วยความชื่นชม
“แพร ว่าพี่แพนเขาไม่ชอบหรอกคะ.................” แพรพูดพร้อมกับนั่งหลับเมื่อมาถึงรถส่วนตัว
จนคนเป็นแม่ส่ายหัวและเอ่ยถามลูกสาว
“แล้วงานนะ.......จะว่าไง” คุณเภตา ถามลูกสาวเมื่อเห็นว่า คนที่กำลังหลับตานอนนั้น ยังคงไม่หลับ
“พรุ่งนี้ ก็คงทันมั้งคะแม่........แพรขอนอนก่อนนะรู้สึกเหนื่อย ๆ ยังไงก็ไม่รู้” หญิงสาวปัดเรื่องราวในตอนนี้และยังไม่อยากคิดอะไร ขอแค่นอนก็พอ
คนเป็นแม่เห็นลูกสาวมีน้ำเสียงไม่ค่อยดีนักจึงใช้ฝ่ามือแตะที่หน้าผาก เกิดความรู้สึกว่าพิษไข้ยังไม่ค่อยดี เขาจึงถอนหายใจเพราะลูกสาวอยากจะออกจากโรงพยาบาลก่อน จึงต้องทำตามที่ลูกสาวต้องการ
ความคิดเห็น