ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แพ้ใจเธอ

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 49


    ตอนที่ 6

    ทางโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ ภายในห้อง 402 ซึ่งสภาพหญิงสาวที่นอนหน้าซีดอยู่นั้นกำลังนอนเพราะพิษไข้หวัดใหญ่ที่เกิดขึ้นพร้อมกับคนในครอบครัวที่นั่งเฝ้าดูอยู่จนคนเป็นพ่อและพี่สาวต้องขอตัวไปก่อนเพราะติดประชุมเช้า จึงเหลือแค่ชายหนุ่มที่เป็นพี่ที่นั่งอยู่กับมารดาและชายหนุ่มที่ถือว่าเป็นบุคคลที่ห่วงหญิงสาวที่นอนอยู่มากเพียงไหน จนกระทั่งมารดาเอ่ยเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว

    ภัทร มารดาเอ่ยชื่อลูกชายแล้วพูดต่อ แม่ว่าทางนี่คงไม่มี ปัญหาอะไรแล้วละ...........ลูกไปทำงานเถอะ.............ทางนี้แม่ดูแลเอง ภาตาบอกลูกชาย

    ได้ครับ.............ยังไงตอนเย็นเดี๋ยวผมให้ใยแพนมาเฝ้าน้องนะครับ ภัทรบอกพร้อมกับกล่าวลามารดาแล้วเดินออกจากห้องไป ภาตาเห็นชายหนุ่มน้องมองลูกสาวของตนอยู่และคอยดูแลผ้าห่มที่หญิงสาวห่มอยู่นั้นให้ดี จนคนเป็นแม่ถึงกับยิ้มกับภาพที่ได้เห็นและเอ่ยบอกชายหนุ่ม

    นนท์จ๊ะ..............อาฝากแพรด้วยนะ.......อาขอตัวไปเอาเสื้อผ้าให้ใยแพรหน่อย ภาตาบอก

    ได้ครับ...........เดี๋ยวยังไงผมจะดูแลน้องให้คุณอาไม่ต้องกังวลนะคับ............... พานนท์บอกพร้อมกับเดินไปเปิดประตูให้คนเป็นอาที่เขาเคราพอยู่เสมอ

    เมื่อส่งแม่ของหญิงสาวไปแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินมาที่เตียงของคนไข้ที่กำลังนอนอยู่ ชายหนุ่มมองพร้อมกับปัดเส้นผมที่ปิดบังใบหน้าของหญิงสาว พร้อมกับพึมพำกับตัวเอง ถ้าน้องแพรตื่นมาต้องดีใจแน่ ๆ เลย ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินไปเปิดผ้าม่านที่หัวเตียงนอน เพื่อจะได้ให้อากาศที่ถ่ายเทจากข้างนอก

    ***************

     

    ฮัลโหล...... ชายหนุ่มพูดขึ้นเมื่ออีกฝ่ายรับสาย

    นึกว่า จะไม่โทรมาแล้วนะเนี่ย.......ทำไมไม่รอนิกกี้ละคะ ให้นิกกี้รอ กรต้องนาน นิกกี้พูดทันทีเมื่ออีกฝ่ายพูดพร้อมกับคำถามที่ตนยังสังสัยไม่หาย

    พี่ ขอโทษ...........ยอมรับโทรทุกอย่างเลย........ครับ กรพูดพร้อมกับแสดงน้ำเสียงที่เสียใจ

    แน่อยู่แล้วละคะ.......กร ทำผิด ก็ต้องได้รับโทษ ถ้าอย่างนั้น ค่ำนี้เราไปทานข้าวและฟังเพลงกันนะคะ......... นิกกี้พูดขึ้น

    ชายหนุ่มที่ได้ฟัง หยุดชะงักไปชั่วหนึ่งเพื่อใช้ความคิด ก่อนจะตัดสินใจตอบตกลงหญิงสาว ที่รอฟังคำตอบอยู่นั้น

    ถ้าอย่างนั้น...........เดี๋ยวผมไปรับนิกกี้ 2 ทุ่มนะครับ ชายหนุ่มบอก

    คำตอบของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวถึงกับอมยิ้มพร้อมกับ พูดคำหวานผ่านโทรศัพท์และบอกลาชายหนุ่มไป

    ถ้ายังไง.......เดี๋ยวค่ำนี้เราเจอกันนะคะ........แค่นี้นะคะกร

    การสนทนาของทั้งสองได้จบลง แต่ทำให้ชายหนุ่มต้องมานั่งคิดว่าถ้าระหว่างตัวเขาและนิกกี้นั้นจะลงรอยและจบยังไง ซึ่งในความคิดของเขาแล้วนั้นถ้าเกิดว่าตนเองนั้นพูดความในใจออกมาก็อาจจะทำให้หญิงสาวนั้นเสียใจ และอาจจะเป็นการไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้อีกต่อไป จนรุจนเดินออกมาจากบ้านและเห็นพี่ชายที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่ฟ้าที่อยู่ในสวนที่มีดอกไม้กลิ่นหอม ๆ ได้ประดับเอาไว้มากมาย ซึ่งถือว่าเป็นมุมโปรดของพี่ชายที่ชอบมานั่งสูดอากาศบริเวณนี้ เพื่อผ่อนคลาย ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาพี่ชายที่กำลังนั่งคิดอยู่นั้น พร้อมกับแซวคนเป็นพี่

    เป็นไร.........มานั่งอมทุกข์อยู่ได้........ท้องผูกหรือไง ดูหน้าซิ คิ้วจะมัดเป็นโบว์อยู่แล้ว รุจนมองหน้าพี่ชายพร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ เพื่อให้คนเป็นพี่ต้องคิดมาก ซึ่งตัวเขาเองก็พอจะรู้ว่าคนเป็นพี่ทุกข์ใจเรื่องอะไร

    แล้วนี้..........แกจะไปไหน........วันอาทิตย์ทีไร ออกจากบ้านทุกทีเลย กรเห็นน้องชายแต่งตัวเหมือนจะไม่อยู่บ้านจึงพูดติดตลกให้คนเป็นน้องรับรู้ คอยดูนะถ้าเมื่อไร แกได้เป็นผู้ช่วยฉันนะ........จะใช้งานให้เข็ด จนไม่มีเวลาไปไหนเลย คอยดู กรพูดพร้อมกับชี้หน้าน้องชาย แต่คนเป็นน้องไม่เกิดความรู้สึกอะไรเลย

    ถ้าเป็นยั้งงันจริง............ผมคงต้องฟ้องกรมแรงงาน มั้งพี่............เพราะใช้ผมเกินกำลังและความสามารถ รุจนพูดพร้อมกับหัวเราะในความเป็นต่อ จนคนเป็นพี่พลอยหัวเราะไปด้วยอีกคน เมื่อหัวเราะกันพอสมควร คนเป็นน้องจึงถามขึ้นอีก

    โทรหา พี่นิกกี้หรอ........ว่าไงบ้างละ....................แก้ตัวขึ้นเปล่า รุจนพูดด้วยน้ำเสียงที่สงสัย

    เข้าใจกันแล้ว...........นิกกี้ก็เลยให้ชั้นพาเธอไปทานข้าวและฟังเพลง ค่ำนี้วะ กรพูดพร้อมกับทำท่าเซ็ง

    ผมละ.......สงสารพี่จริง ๆ ไม่รู้ว่าพี่จะไปรับปากคุณธานินท์ทำไม........ผมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ นะเนี่ย รุจนพูดพร้อมกับทำท่าเซ็งอีกคน

    แกก็รู้ว่า..........ที่คุณธานินทร์ ทำก็เพื่อลูกสาวของเขา อีกอย่างท่านก็เคยช่วยบริษัทเรา แค่นี้ชั้นก็ว่าไม่เห็นเป็นไรเลย

    ไม่เป็นไรนี่นะ.........มานั่งอมทุกข์อยู่อย่างนี้........พูดออกมาได้ รุจนพูดบอกพี่ชายพร้อมกับเดือดแทนพี่

    แกจะให้ชั้นทำยังไง.............ในเมื่อตอนนี้เรื่องของชั้นและนิกกี้ มันก็........นานแล้ว.........ก็คงไปแก้ไขอะไรไม่ได้ กรพูดพร้อมกับทำท่าทางที่เบื่อและท้อกับปัญหาของตนเอง

    ผมว่าพูดกันไปเลยดีกว่า.........จะได้จบ ๆ พี่จะได้ไม่ต้องเสียใจ............อีกอย่างนะคนที่ได้รับผลกระทบของเรื่องนี้ทั้งหมด คือ พี่ คนเดียว รุจนพูดคำสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด พร้อมกับมองหน้าพี่ชายที่จะเอายังไงต่อไป

    เออ!น่า.........เรื่องนี้ ชั้นขอคิดให้ดี ๆ อีกทีแล้วกัน.............แล้วนี้จะไปไหนละเนี่ย กร วกออกจากเรื่องของตนพร้อมกับตั้งประเด็นเข้าเรื่องของน้องชาย ซึ่งก็ทำให้คนเป็นน้องสับสนเหมือนกันพร้อมกับตอบคำถามของพี่ชายแทน

    ไปหาเพื่อนหน่อย..........เดี๋ยวมันโกธรผม.........เมื่อคืนก็ไม่ได้ไปส่งมันที่บ้าน รุจนบอกพร้อมกับลุกขึ้นจากโต๊ะม้าหิน

    เพื่อนแก คนนี้เป็นใครกันวะ...........รู้สึกจะห่วงความรู้สึกของเขาเหลือเกินนะ กร บอกพร้อมกับมองน้องชายด้วยความสงสัย เพื่อนสนิทหรือเปล่าวะ กร บอกเป็นเชิงนัย ๆ ให้คนเป็นน้องได้รับรู้

    บ้า.........เป็นไม่ได้หรอกคนนี้...........มันเป็นเพื่อนซี้ผม...........ได้แค่นี้และเป็นมากกว่านี้แล้ว........ รุจนบอกพร้อมกับทำท่าคิด คงทำใจลำบาก รุจนพูดจบ พล่อยทำให้คนเป็นพี่ถึงกับขำออกมาและส่ายหัวพร้อมกับขับไล่น้องชายให้รีบ ๆ ไปทันที

    แล้วรถสปอร์ สีน้ำเงินเข้มก็แล่นออกจากบ้านที่ดูมีพื้นที่ใหญ่พอสมควรและมีต้นไม้ที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ชายหนุ่มกำลังขับรถแล่นไปเรื่อย ๆ พร้อมกับแวะร้านขายขนม เบเกอร์รี่ที่เพื่อนของเขาคนนี้ชอบเป็นพิเศษ พร้อมกับเลือกขนมที่เพื่อนตนนั้นโปรดปรานเป็นชีวิต จิตใจเลย ก็คือ เค้กช็อกโกแลต พร้อมกับสั่งคนขายให้จัดใส่กล่อง พร้อมกับเลือกขนมต่าง ๆ เพื่อนไปฝากทางบ้านของหญิงสาวด้วย เมื่อชายหนุ่มเลือกขนมเสร็จ พร้อมกับจะขึ้นรถ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชายหนุ่มมองดูเบอร์ที่โชว์ขึ้นมา คือ ภัทร จึงกดรับทันที

    ว่าไง ครับพี่............ รุจนพูดเมื่อกดรับ

    พี่จะมาบอกว่า........ใยแพรเข้าโรงพยาบาล ภัทรบอก

    รุจนได้ยินประโยคจากปลายสาย ถึงกับอึ้งแล้วสติก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับพูดต่อไป

    แพร.........เป็นอะไรครับพี่ภัทร ถึงกลับเข้าโรงพยาบาล รุจนทำน้ำเสียงที่ตื่นเต้น

    ไม่เป็นอะไรมากหรอก.........แค่ไข้หวัดใหญ่ เฉย ๆ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว............พี่ก็แค่มาโทรมาบอกเผือไปที่บ้านแล้วไม่เจอ ภัทรบอก

    ขอบคุณมากครับ......

    รุจนรู้รายละเอียดพร้อมสถานที่โรงพยาบาลก็รีบเดินทางไปหาเพื่อนสาวทันที พร้อมกับโทรหาเพื่อน ๆ เพื่อแจ้งข่าวให้รู้ เพราะถ้าเพื่อนของตนรู้ข่าวช้าคนที่จะโดนด่า คือ  ตัวเขาเอง

    ภายในห้องของผู้ป่วยที่ชื่อ อรรดี เกรียงไกร ซึ่งตอนนี้คนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยที่สุดนั้นกำลังนั่งอยู่พร้อมกับคอยดูแลหญิงสาวไม่ห่างเลยทีเดียว จนกระทั่งหญิงสาวเริ่มขยับเขยื้อนร่างกาย พร้อมกับเริ่มลืมตาและมองไปรอบ ๆ และสงสัยว่าที่ตอนนี้เป็นที่ที่เธอนั้นไม่คุ้นตาเลย พร้อมกับมองไปเจอชายหนุ่มที่ยิ้มดีใจเมื่อเห็นเธอฟื้นขึ้นมาและมองหน้าที่ไม่คุ้นนั้นเลย พร้อมกับบอกให้ชายหนุ่มหยิบน้ำให้ตนทาน หญิงสาวอาการสรงตัว จึงเอ่ยถาม

    นายเป็นใครนะ..........

    น้องแพร............จำพี่ไม่ได้หรอ.......นนท์ไง นนท์บอกพร้อมกับชี้มาที่ตัวเอง

    แพรมองหน้าชายหนุ่ม ซึ่งเธอเองนั้นก็รู้สึกว่าน่าชายคนนี้พอจะมีเคราเหมือนพานนท์บ้าง

    พี่นนท์หรอเนี่ย.............. แพรพูดอย่างสงสัย

    นนท์พยักหน้าพร้อมกับถามอาการหญิงสาว

    น้องแพร........เป็นไงบ้างครับ ปวดหัวไหม นนท์พูดพร้อมกับเอาใจหญิงสาว

    แพรส่ายหัว พร้อมกับนอนและทำท่าสงสัยในตัวชายหนุ่ม ระหว่างที่หญิงสาวพูดอยู่นั้นหมอและพยาบาลก็เดินเข้ามาตรวจ

    ไข้พอจะทุเราแล้ว......ยังไงก็พักผ่อนให้เพียงพอและทานยาตามที่หมอสั่ง ก็คงกลับบ้านได้แล้วละครับ หมอพูดเมื่อตรวจอาการเสร็จ พร้อมกับพูดกับพานนท์

    นอนสัก 3 4 วันคงกลับบ้านได้นะครับ............ หมอพูดให้พานนท์ฟัง แล้วก็เดินออกจากห้องไปทันที

    เมื่อหมอพ้นออกจากห้องไปแล้ว แพรจึงเอ่ยถามชายหนุ่มที่อยู่ในห้อง

    คุณแม่ ไปไหนละฮะ...........จึงให้พี่นนท์มาเฝ้านะ แพรถามอย่างสงสัย

    คุณอาไปเอาของนะครับ...........เดี๋ยวก็คงมา.......น้องแพรมีอะไรหรือเปล่าครับ นนท์ถามด้วยความสงสัยเช่นเดียวกัน

    หญิงสาวส่ายหัว และบอกชายหนุ่ม

    ไม่ต้องนั่งเฝ้าแพร........ทั้งวันหรอก พี่มีธุระอะไร ก็เชิญเถอะนะ แพรบอกชายหนุ่ม

    ไม่เป็นไรหรอก..........พี่เต็มใจ อีกอย่างให้แพรหายก่อนแล้วพี่ค่อยไปทำธุระก็ได้........พี่ไม่รีบ นนท์บอก

    ระหว่างที่ทั้งสองสนทนากันอยู่นั้น รุจนซึ่งผลักประตูเข้ามา เห็นชายหนุ่มกำลังพูดคุยอยู่กับคนป่วยอยู่ ถึงกับไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี  แต่คนไข้ถึงกับยิ้มแก้มปิเลย จนพานนท์สงสัยและถาม

    ใครนะแพร........... นนท์ถามและมองหน้าชายหนุ่มที่เดินเข้ามา

    นี้ รุจน เพื่อนแพรเอง..............รุจนนี่พี่นนท์ แพรแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน หลังจากนั้นรุจนจึงพูดถึงของฝากที่ให้ไว้

    นี้........ฉันซื้อขนมมาฝากแกด้วย........ร้านเดิม รุจนบอกพร้อมกับชูถุงขนมให้เพื่อนสาว ทำให้คนไข้ถึงกับยิ้มและพูดชมเพื่อน

    ขอบใจ.........เพื่อนเลิฟ แพรบอกและชวนพานนท์ทานขนมด้วยกัน แต่ชายหนุ่มกับปฏิเสธพร้อมขอตัวหญิงสาว

    ตอนนี้น้องแพร...........มีเพื่อนแล้ว เดี๋ยวพี่ขอตัวไปทานข้าวข้างล่างแล้วจะขึ้นมานะครับ นนท์บอกพร้อมกับอาการที่เซ็ง ๆ แต่ก็เต็มอาการไว้ ซึ่งตัวเขานั้นไม่ชอบเพื่อนของหญิงสาวคนนี้เอาเสียเลย

    หลังจากที่ชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปแล้ว รุจนจึงถามคำถามเพื่อน

    คนนี้........เป็นญาติข้างไหนของแกวะ.......... รุจนถามพร้อมกับทานขนมไปด้วย

    ก็ เรื่องมันยาววะ....................เออ แกมาก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ฉันคงไปงานเปิดบริษัทของแกไม่ได้หรอก แพรบอกพร้อมกับนอนและลงและห่มผ้าห่มมาที่ลำตัว

    ไม่เป็นไร...........แค่นี้เอง ยังไงแกก็ต้องไปทำงานที่บริษัทฉันอยู่แล้ว.......... รุจนบอก

    ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่นั้น เพื่อน ๆ ก็เดินเข้ามาทักทายทั้งสองคนที่กำลัง คุยกันอยู่พร้อมทานขนมไปด้วย

    เฮ้ย! เป็นไง...............อยู่ดีดีก็เข้าโรงพยาบาล พวกเราก็ตกใจ.......... วุฒิพูดขึ้น เมื่อเดินเข้ามาพร้อมกับกระเช้าผลไม้ พร้อมกับส่งให้กับเพื่อนสาวที่นอนอยู่

    “Thank………….วะ แหมรู้ข่าวเร็วจริง ๆ นะพวกแกนะ แพรพูดพร้อมกับมองสายตามาที่รุจน

    เมย์..........ขอให้แพรหายเร็ว ๆ นะ เมย์ที่มาคู่กับวุฒิ อวยพรให้หญิงสาว

    ขอบใจจ๊ะเมย์...........เออ วุฒิ พรุ่งนี้ชั้น คงไปส่งแกไม่ได้นะ............. แพรพูดพร้อมสายตาที่แสดงออกโดยความเสียใจ เพื่อนไปทั้งที อีกกี่ปีถึงจะเห็นหน้ากัน แกคงไม่ว่าอะไรชั้นนะ..........

    โถ่........ชั้นไปเรียน แค่ 3 ปี ก็จบ........อีกอย่างแค่ชั้นมีเมย์ไปส่งอยู่ทั้งคนก็พอแล้ว วุฒิพูดพร้อมกับส่งสายตาให้หญิงสาวที่มาด้วย และพลอยทำให้เมย์เขินไปด้วยอีกคน

    จนกระทั่งเกิดอาการอิจฉาตาร้อนขึ้น

    แว๊ะ......จะอ้วก..........น้ำเน่า ยิ่งกว่าแสนแสบอีกวะ รุจนพูดพร้อมกับแสดงอาการอ้วก ออกมาและหัวเราะในความเขินของทั้งคู่ และมองทั้งคู่ว่าความรักเป็นสิ่งที่มีความสุขดีจัง

    หลังจากพานนท์ เดินออกมา จากห้องก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอันมากเลยทีเดียวที่ หญิงสาวสนิทสนมกับชายหนุ่มคนนั้นเป็นพิเศษ จนเขาเองไม่อาจทนดูได้และไม่ชอบขี้หน้าชายหนุ่ม คนนั้นด้วย แต่ก็พยายามที่จะเลี่ยงความไม่พอใจนี้ออกไปบ้าง

    ระหว่างที่รุจนและเพื่อน อยู่เป็นเพื่อนแพรนั้น มารดาก็เดินมาพร้อมกับพานนท์ที่รออยู่ข้างนอก รุจนและเพื่อนกล่าวทักทายทั้งมารดาของเพื่อน รุจนได้นำการ์ดเชิญ เปิด บริษัท ของตนเองมาให้

    คุณพ่อ ท่าน ยุ่งนะครับ เลยฝากผมมาให้.............และบอกว่าอย่าลืมไปให้ได้นะครับ รุจนพูดพร้อมกับยิ้มด้วยท่าทางเป็นมิตร  ต่างกับพานนท์ ที่ไม่พอใจกับท่าทางของชายหนุ่มคนนี้

    จ๊ะ.............ไปแน่ ลูกสาว อา ทำงานที่นั้นนะซิจ๊ะ ภาตา ตอบแล้วเดินไปดูอาการของลูกสาวพร้อมชวนเพื่อนของแพรให้ลูกจัก พานนท์  วัฒนพานิช อีกด้วย

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×