ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แพ้ใจเธอ

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 49


    ตอนที่ 5

    อย่าเข้ามานะ............ช่วยด้วย พี่ภัทร.......พี่แพน คุณพ่อ คุณแม่

    งูที่อยู่ตรงกิ่งไม้กำลังจะเลื้อยมาหาหญิงสาวที่กำลังร้องให้คนช่วยอยู่นั้น หญิงสาวร้องพร้อมกับขยับตัวถอยหลังออกไป พร้อมกับภาวนาในใจไปด้วย จนมีชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาใช้มีดฟันที่ตัวงูและทำให้งูเลื้อยไปทันที หญิงสาวเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหาและกล่าวขอบคุณ หญิงสาวเห็นหน้าชายคนนั้นก็เรียกชื่อขึ้น พี่นนท์ ชายหนุ่มคนนั้นก็บอกว่าไม่เป็นอะไร พร้อมกับเรียกชื่อหญิงสาวและยิ้มให้และทั้งสองก็จูงมือกันเดินไป

    โอ๊ย............ฝันอะไรวะเนี่ย แพรที่ฝันแล้วตื่นขึ้นมาจากที่นอน ที่ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเหนื่อยและก็พึมพำกับตัวเองอีกครั้ง

    ท่าจะบ้า........สงสัยเก็บเอาคำพูดคุณพ่อมาฝันแน่ ๆ เลยเรา แพรพูดจบพร้อมกับเดินไปล้างหน้าละมองดูนาฬิกาที่ฝาพนักห้องนอน เป็นเวลา ตี 4 แล้วหญิงสาวก็เปิดเพลงเพื่อที่จะไม่ได้ฝันแบบนี้อีก แพรฟังเพลงไปเรื่อย ๆ และหลับไปเลย

     

    ตอนเช้าของวันใหม่ ซึ่งวันนี้อากาศค่อนข้างจะเย็นสบายเลยทีเดียว รถเก๋งสีดำที่ถือว่ารุ่นใหม่เลยทีเดียวกำลังวิ่งวิ่งเข้ามาที่บ้านเกรียงไกร  ภาตาที่กำลังจัดเตรียมอาหารอยู่บนโต๊ะอาหาร มองออกมาเมื่อได้ยินเสียงรถก็เดินออกไปดู จึงเห็นเป็นสายหนุ่มที่ค่อนข้างทีดูดี สมาร์ทสูงและผิวค่อนข้างจะขาว เดินเข้ามาพร้อมกับกล่าวสวัสดีตัวเธอ

    สวัสดีครับคุณอา ภาพานนท์พูดกล่าวเมื่อเห็นหญิงวัยกลางคน

    พานนท์หรอจ๊ะ....เนี่ย อาแทบจำไม่ได้เลยนะเนี่ย... ภาตาพูดขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองสนทนากันพอสมควร คนเป็นเจ้าของบ้านก็ได้เชิญชายหนุ่มเดินเข้ามาในบ้าน พร้อมกับบอกสาวใช้ให้ยกของหลังรถขึ้นไปเก็บไว้บนห้องที่ได้จัดเตรียมไว้ แล้วทั้งสองก็เดินเข้าบ้านและคนเป็นเจ้าของบ้านได้กล่าว

    แล้วนี้ นนท์ทานอะไรมาหรือยังจ๊ะ........อาพึ่งให้เด็กจัดโต๊ะอยู่พอดีเลย....... ภาตาถาม

    ยังเลยครับ......ผมว่าจะมาทานข้าวฝีมือคุณอา ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมช่วยจัดนะครับ นนท์พูดพร้อมกับเดินไปจัดโต๊ะอาหารที่กำลังจัดอยู่ ทำให้ภาตามองดูท่าทางของชายหนุ่มที่ดูจะคล่องมาเลยทีเดียว เมื่อทั้งสองกำลังนำอาหารมาวางอยู่นั้น มนตรีคนที่เป็นเพื่อนกับพ่อของพานนท์เดินลงมาจากชั้นบนแล้วเห็นชายจึงเอ่ยทักตามมารยาท

    เป็นไง สบายดีไหมละเรานะ มนตรีถามอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

    ก็เรื่อย ๆ นะครับ..........รู้สึกว่าวันนี้คุณอาอารมณ์ดีจังเลยนะครับ พานนท์ถามเมื่อสังเกตเห็นอาการเพื่อนของพ่อที่เดินลงมาจากข้างบนห้อง

    ก็........ไม่มีอะไร ยังไงอาก็ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยนะ

    พานนนท์กล่าวขอบคุณพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ออกให้เพื่อนของพ่อของตนเองนั้น

    ระหว่างที่พูดคุยกันได้สักพัก แพนและภัทร พี่น้องที่ค่อนข้างจะ ซี้กันเนื่องจากว่าสองคนนี้อายุค่อนข้างจะไล่เลี่ยกันจึงดูไม่แปลกที่จะ สนิทกันจนบางครั้ง คิดว่าเป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำไป เดินลงมาและกล่าวอรุณสวัสดิ์พ่อและแม่ที่นั่งอยู่กัน พานนท์เห็นทั้งสองจึงกล่าวยกมือทักทายภัทร ที่ถือว่าอายุมากกว่าตน ส่วนหญิงสาวที่ถือว่าสวยที่เดินมาคู่กันได้แค่ทักทายเพราะแพนก็อายุเท่ากับตัวเขาเลยทีเดียว ทั้งหมดทักทายกันพร้อมกับนั่งทานอาหารต่อไป ระหว่างที่ทุกคนนั่งทานข้าวเช้ากันอยู่นั้นแพนได้จัดเตรียมตักข้าวต้มให้ทุกคนพอถึง โต๊ะนั่งเป็นถ้วยที่ยังไม่มีคนนั่งจึงเอ่ยถามมารดา

    คุณแม่คะ แพรยังไม่ตื่นอีกหรือคะ แพนถามพร้อมมองหน้าทุกคนเพื่อหาคำตอบ

    เออ..........นั้นนะซิ แม่ยังไม่เห็นตั้งแต่เช้าเลย สงสัยยังไม่ตื่นมั้งลูก ภาตาตอบคำถามลูกสาว

    แพนเมื่อตักข้าวให้ทุกคนทานแล้วนั้นจึงขึ้นไปดูน้องสาวบนห้อง

    แพนว่าเดี๋ยว แพนขึ้นไปดูน้องก่อนนะคะ..............ทานกันไปก่อนนะคะแพนพูดพร้อมกับเดินขึ้นบันไดและเดินมาที่ห้องของน้องสาวของตนเอง พร้อมกับเคาะประตูห้อง จนไม่มีเสียงตอบรับ จึงเปิดประตูเข้าไปเลย เมื่อหญิงสาวเข้ามาเห็นน้องสาวที่กำลังนอนด้วยท่าทางที่เหน็บหนาวอยู่นั้นโดยห่มผ้าห่มอยู่ จึงเดินไปนั่งข้าง ๆ แล้วใช้ผ่ามือแตะที่หน้าผากและก็สัมผัสได้ความร้อนที่เกิดขึ้นมา จึงรู้ว่าน้องสาวป่วยไม่สบาย พร้อมทั้งยังได้ยินเสียงพ้อ ออกมาว่า อย่า.........อย่า.....ช่วยด้วย  หญิงสาวเห็นสภาพน้องสาวแล้วจึงรีบลงไปข้างล่างเพื่อบอกมารดาแต่คนเป็นแม่ได้ตามขึ้นมาและเอ่ยถามลูกสาว

    เป็นไงบ้างลูกทำไมหน้าตาดูไม่ดีเลย ภาตาด้วยท่าทางที่สงสัย

    ไม่มีอะไรหรอกคะ...........น้องแค่ไม่สบาย สงสัยจะเป็นไข้หวัดใหญ่ด้วยนะคะแม่.........แพนว่าพาน้องไปหาหมอดีกว่า แพนพูดพร้อมกับรีบลงไปเรียกพี่ชายให้มาอุ้มคนเป็นน้องไปโรงพยาบาล ภัทรเมื่อรู้เรื่องจึงรีบทำตามที่น้องสาวบอก ซึ่งก็ทำให้ทุกคนพร่อยเดือดร้อนด้วยกันไปหมด พานนท์เห็นจึงช่วยอาสาอุ้มพร้อมกับให้ภัทรไปเตรียมรถ ภัทรเห็นท่าทางของพานนท์ที่รู้สึกจะเป็นทุกข์เป็นร้อนกว่าคนอื่น เพราะสมัยที่พ่อของตนและพ่อของพานนท์รู้จักกันเมื่อ 6 ปีที่แล้วนั้นก็พล่อยทำให้ลูก ๆ ได้พล่อยรู้จักกันไปด้วยและก็ทำให้สนิทกันมาก โดยเฉพาะพานนท์และแพร ที่ถือว่าสนิทสนมกันเป็นพิเศษเลยทีเดียวจนกลายเป็นความผูกผันที่มีให้กัน และหลังจากที่สมพงษ์ เพื่อนรักกับบิดาของตนนั้นต้องบินไปประกอบอาชีพและตั้งถิ่นฐานที่นั้นและยังให้พานนท์เรียนต่อโทด้วยนั้น พอมาวันนี้แม้เวลาจะผ่านไปถึง 8 ปีความผูกผันที่พานนท์ยังมีให้แพรอยู่นั้นก็คงยังเหมือนเดิมอยู่เสมอละมั้ง

     

    ***************

     

    บ้านปูนทรงแนวโรมันที่ถือว่าราคาค่อนข้างจะแพง ที่เกิดจากปะติมากรรมแนวตะวันตก และประดับด้วยพืชพันธุ์หลายชนิดที่ดูแล้วชื่นช่ำ เพราะตอนเช้าของบ้านนี้จึงเป็นที่น่ามาสูดอากาศและออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โดยเฉพาะ พ่อลูกคู่นี้ที่ชอบออกกำลังกายอยู่เสมอ

    แก.........ไม่อยู่พ่อนะต้องออกกำลังกายอยู่คนเดียว คนเป็นพ่อพูดพร้อมกับหัวเราะและวิ่งเยาะ ๆ ไปด้วย

    ก็ใครละครับส่งผมไป.............หา Mr.Dargon” กรพูดพร้อมกับบิดลำตัวไปมา

    เออ........ บิดาบอกพร้อมกับวิ่งไปที่ประตูบ้านและวิ่งออกไปที่ลานกว้างทางพื้นถนนนอกบ้านพร้อมด้วยลูกชายที่วิ่งกันเป็นเป็นคู่ ๆ

    ซึ่งการกระทำของชายวัยรุ่นพ่อและคนเป็นลูก ทำให้ลูกชายอีกคนหนึ่งที่มองดูจากชั้นบนของห้องที่สายตามองออกมาที่หน้าต่างและได้เห็นเกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจยังไงก็ไม่รู้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×