คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 12
ตอนที่ 12
“แล้ว เราไม่ชอบหรอ.............พ่อว่านะจะยกให้ ถ้าเจ้า นนท์ มาขอ” บิดาพูดขึ้นบ้างเมื่อฟังเรื่องราว
“ไม่นะ พ่อ...........อย่า แม้แต่จะคิด ยังไงชาตินี้ แพรก็ไม่แต่งงาน........สมัยนี้หมดแล้ว คลุมถุงชน” แพรพูดแล้วทำท่างอนๆ ใส่ทุก ๆ คน
จนทุก ๆ คนหัวเราะกับท่าทางหญิงสาว คนนี้ที่สีหน้า บ่งบอกว่าน้อยใจ เป็นอย่างมาก
***************
“ว่าไง วะ.........แกหนีไปเรียน ไม่ติดต่อมาบ้างเลยนะ..........หรือว่าติดแหม่มที่ไหนวะ” รุจนคุยโทรศัพท์กับเพื่อนชายอีกคนที่อยู่ทางด้านสหรัฐอเมริกา ด้วยความคิดถึงและอย่างรู้ข่าวคราวบ้าง
“แหม ไอ้รุจน มาถึงก็มีแต่พูด ๆ ชั้นจะตอบแกถูกไหม เนี่ย..........จะมีเวลาอะไรวะ มีแต่เรียน ๆ และเรียน จนชั้นปวดหัวจะตายอยู่แล้ว แกรู้ไหม อีกอย่าง วัน ๆ หนึ่งเนี่ยนะได้แต่อยู่ที่ห้องสมุดหรือไม่ก็ที่ห้อง........จนชั้นจะเป็นบ้าอยู่แล้วรู้ไหม” คนปลายสาย บอก ทำให้คนฟัง เออ ออ ไป ตาม ๆ เพื่อน โดยน้ำเสียงและกริยาที่ออกมาเป็นคำพูด ทำให้ ธนารุจน พอจะทราบว่าอะไรเป็นอะไร ก็ได้แต่ไม่อยากกวนใจเพื่อนคนนี้มากและก็คุยกันพอสมควร จนกระทั่งชายหนุ่มคนเป็น พี่ เดินทางมาถึงบ้าน ด้วยท่าทางอาการที่เหนื่อยและเพลียเต็มที่
“ไปกินข้าว..........ทำไมสีหน้าบ่งบอก อารมณ์ไม่ บ่ จอย เลยนะพี่ชายผม!!!!” รุจนบอกเมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชายที่กำลังเดินออกมาจากรถ ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
“จะไม่ให้หน้า ชั้นเป็นอย่างนี้ได้งัย วะ นิกกี้..........” ธนากร อยากบอกให้น้องชายรู้แต่บางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในใจมันบอกห้ามเอาไว้ เพื่ออะไรสักอย่าง
“อะไร พี่นิกกี้ อะไร............” รุจน เริ่มถามเมื่อสีหน้าพี่ชายแปลก ๆ ไป ด้วยความสงสัย
แต่ กร ก็ไม่บอกและไล่ให้น้องไปนอนส่วนตนก็ขึ้นห้องเช่นกัน พร้อมกับวิตกกังวลกับคำพูดของนิกกี้ที่ถามเมื่อ หัวค่ำ ที่ได้ทานอาหารร่วมกัน
“กร พร้อมหรือคิดอยากจะร่วมชีวิตกับนิกกี้หรือเปล่าคะ”
แม้จะเป็นแค่คำพูดที่นิกกี้ พูดเล่นเพื่อลองถาม ชายหนุ่มที่มาดินเนอร์กับตน แต่มันก็เป้นคำพูดที่บาดใจ ชายหนุ่มเหมือนกัน ถ้ามันเป็นจริง ๆ ขึ้นมา แล้วเขาจะทำยังไงดี?
***************
เช้าวันใหม่อากาศดี และสีหน้าของ มนทิกา กลับตรงกันข้ามกับบรรยากาศเช้านี้เหลือเกิน แพรเตรียมตัวไปทำงานตั้งแต่เช้า จนเจอกับ พานนท์ ที่กำลังนั่งทานกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
“อรุณสวัสดิ์ ครับ น้องแพร ไปทำงานแต่เช้าเลยนะครับ” พานนท์ ทักทายด้วยท่าทางยิ้มแย้ม
จนคนฟัง ได้แต่ยิ้มตอบ แต่ก็เพื่อมารยาท จึงยิ้มตอบและทักทายตอบเหมือนกัน
“เมื่อวาน พี่ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ไม่ได้ให้ดอกไม้ด้วยตนเอง” พานนท์บอกและทำสีหน้ารู้สึกผิด
แต่คนฟังกับคิดในใจว่า ดีแล้ว
“แล้ว เรื่องที่ เป็นไง บ้างคะ” แพร ถาม เพื่อที่จะได้รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้จะอยู่บ้านหลังนี้อีกนาน แค่ไหน
พานนท์ได้ฟังดังนั้น ก็เล่ารายละเอียดให้ฟัง จนคนฟังรู้สึก เซ็ง ทีเดียวที่ถาม จึงเอ่ยปากตัดรำคาญไป
“แพร สายแล้ว เดี๋ยว รถ ติด แพรขอตัวนะคะ” หญิงสาวมองนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือแล้วเอ่ยบอกชายหนุ่มที่เล่าให้ฟังอย่างตั้งใจ
จนคนพูด บอกและเสนอตัวไปส่งแต่หญิงสาวเพราะรู้ว่า รถของหญิงสาวโดน ชน แต่ก็โดนแพรปฏิเสธ
“แค่รถเป็นรอย........ไม่ได้เสีย........แพรขอบคุณนะคะที่ช่วยอาสาจะไปส่ง”
แพรพูดจบก็ ขับรถออกไปเลย ทำให้ พานนท์มีทีท่าเสียอารมณ์ขึ้นมาทันที
“หนี.....ให้ได้ตลอดนะ น้องแพร” พานนท์พูดกับตนเองอย่างเป็นต่อ
ระหว่างที่ คนสอง คนพูดคุยกันอยู่นั้น สายตาของ แพน ก็จ้องลงมามองคนทั้งคู่ โดยเฉพาะ พานนท์ ที่ทำให้ แพนสงสัยอะไรบ้างอย่าง ซึ่งเธอเองอาจคิดว่ามันอาจจะเป็นแค่ความคิดมากก็เท่านั้นเอง
**************
แพร ขับรถมาถึงหน้าบริษัทมองดูรอยรถที่โดนชนเมื่อวานนี้และก็ยิ่งเจ็บแค้นมากขึ้นกว่าเดิม หญิงสาวเริ่มมองดูผู้คน ที่ค่อนข้างจะยังไม่มากนัก หญิงสาวจึงรีบขึ้นไปบนห้องทำงานโดยเร็ว เพื่อที่จะต่อว่า ชายหนุ่มที่ชื่อว่า ธนากร ระหว่างที่รอลิฟต์อยู่นั้น มีชายหนุ่มที่กำลังยกแฟ้มเอกสารออกมาจากลิฟต์ จึงทำให้ชนกับหญิงสาว จนแฟ้มกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมด แพรจึงรีบช่วยเก็บ จน พิพัฒน์ ได้เห็นหน้าหญิงสาวเกิดความประทับใจขึ้นมาทันที ได้แต่ยิ้มเท่านั้น ทางด้านแพร เมื่อเก็บแฟ้มเอกสารเสร็จก็รีบเดินเข้าลิฟต์ไปทันที แต่ชายหนุ่มที่ยังนั่งอยู่กับพื้นนั้น ยิ้ม จนหญิงสาวหายไปเพราะขึ้นลิฟต์ไปแล้วนั้น ก็รีบเดินไปถาม สาว ๆ ที่อยู่เป็นประชาสัมพันธ์
“คน เมื่อกี้ ชื่อ อะไร หรอ ทำงานอยู่ชั้นไหน” พิพัฒน์ได้แต่พูด ๆ
พนักงานสาวทั้งสอง ได้แต่ฟังและบอกไป
“เออ........คนนั้นนะ ชื่อ คุณ มนทิกา เกรียงไกร ลูกสาวของ เจ้าของอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเลยนะ”
คนฟังถึง กับอึ้งเลยทีเดียว และพนักงานสาวอีกคนก็พูดขึ้นอีก
“และที่สำคัญนะ ที่นายเจอนะ เธอ มาทำงานที่นี้ เป็นผู้ช่วยคุณ กร...................” ทั้งสองสาวพูดจบและอดขำไม่ได้เมื่อชายหนุ่มที่ยืนมองฟังอยู่นั้นถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงเลยทีเดียว พิพัฒน์ ถึงกับเศร้ากับความรักที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ทันที ซึ่งตัวเขานั้น แม้จะไม่รวยถึงระดับมหาเศรษฐีแต่ก็จริงใจ และพร้อมที่ต่อสู้กับศึกในครั้งนี้
แต่ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดของ มนทิกา ก็คือ ได้เจอหน้าของ ธนากร จนไม่เป็นอันการทำงานเลยทีเดียวแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะ ชายหนุ่มที่จะคอยแก้แค้นไม่อยู่ ทำให้แพรเองบ่นพึมพำกับตนเองเมื่อเดินเข้ามาในห้องและหยิบรูปของชายหนุ่มขึ้นมาและพูด พร้อมจิ้มหน้าของชายหนุ่มและพูดขึ้น
“ไม่แน่จริงนี้ น่า...........นาย กร” แพร พูดพร้อมกับวางรูปลงที่เดิม แต่หันหลังไปก็เจอ ชายหนุ่มที่อยู่ในรูปยืนอยู่ จนแพรทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนและเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“ที่ ไม่แน่จริงนะ อะไร...............ดูน้ำเสียงจริงจังมากนะ” กร พูดด้วยสายตาที่กำลังจ้องไปหาหญิงสาว
“ก็....เออ...ก็เรื่องที่นายไปฟ้องแม่ชั้นนะซิ........ทำอะไรไม่รู้จักคิดนะนายนิ......สนุกมากงัย....แล้ว” แพรกำลังจะพูดต่อแต่ชายหนุ่มยกมือขึ้นห้ามขึ้นมา จึงให้แพรหยุดพูดไป
“แล้ว.........จะเอาไง ว่ามา พอชั้นยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเธอก็ไม่พอใจ พอว่าก็หาว่าตัวเองไม่ผิด........จะเอาไง หมดปัญญาแล้ว................ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าใครผิด ใครถูก” กร บอกโดยเน้นสายตาและประโยคหลังให้หญิงสาวที่ฟังอยู่
แพรฟังดังนั้นก็รู้สึกโกธรจึงเสนอไปว่า
“ก็ สรุปว่า ผิดทั้งคู่ไง.............นายก็ซ่อมรถนาย ชั้นก็ซ่อมรถชั้น..........นายมันขี้ฟ้อง” แพรว่าแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานต่อโดยไม่มองชายหนุ่มเลย
ธนากร ไม่รู้จะทำยังไงดี และคิดว่าหญิงสาว คงอาจจะโดนคนเป็นแม่ว่าก็ได้ แต่ก็ดี จะได้รู้จักผิดบ้าง ความคิดนี้ทำให้ชายหนุ่มอดหัวเราะไม่ได้ จนคนที่นั่งอยู่มองแล้วเอ่ยขึ้น “ท่าจะบ้า”
จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
ความคิดเห็น