คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
มหาวิทยาลัย แห่งหนึ่ง คณะบริหารธุรกิจ วันนี้ถือว่าเป็นวันที่น่ายินดีของ บัณฑิตใหม่ที่ประสบสำเร็จในชีวิต และถือว่าเป็นวันที่น่ายินดีของครอบครัวเกรียงไกร ที่ผู้เป็นพ่อเป็นแม่เฝ้ารอคอยมาจนมาถึงวันที่ภูมิใจที่สุดอีกวันหนึ่ง ของลูกสาว ที่พ่อและแม่มีความหวังในตัวลูกสาว คนนี้เป็นอย่างมาก
“พ่อและแม่ยินดีกับลูกสาวคนนี้ของแม่มากเลยนะ” เภตา บอกกับลูกสาวผู้เป็นที่รักพร้อมทั้งมอบช่อดอกไม้ให้ลูกสาวที่เป็นที่รักของตน
“ขอบคุณคะ......คุณพ่อคุณแม่” แพรแสดงรอยยิ้มให้ผู้เป็นพ่อและแม่ ซึ่งวันนี้ก็ถือเป็นวันที่เธอภาคภูมิใจที่สุดเหมือนกัน
“แล้วนี้! พี่ภัทรกับพี่แพน ไม่มาด้วยหรอคะ” หญิงสาวถามอย่างสงสัย เมื่อมองไปรอบ ๆ
“เห็นบอกว่าจะตามมาทีหลังนะลูก”
“คุณพ่อ......ทำไมหน้าบึ้งอย่างนั้นละคะ....ไม่ภูมิใจหรอ” แพรถามผู้เป็นพ่อ เมื่อมองสีหน้าที่ไม่ยิ้ม หน้าบึ้ง เหมือนเวลาที่ท่านทำงาน จะมีลักษณะอย่างนี้
“ภูมิใจซิลูก.......” พร้อมทั้งดึงลูกสาวเข้ามากอด
“พ่อมองไปรอบ ๆ .............ลูกเขาของคนอื่นเขามีแต่สวยกันหมด แต่งหน้า ทำผม .............แต่ลูกพ่อซิ” มนตรีมองไปรอบ ๆ แล้วมองมาที่ลูกสาวของตนเอง
หญิงสาวรู้แล้วว่าพ่อหมายถึงอะไร แต่ตัวเธอนั้นไม่สนใจเรื่องความสวยความงามนักหรอก เพียงแค่มัดผมแล้วก็ทาแป้งลองพื้น ทาลิปมันสีชมพูอ่อน ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องไปหาช่างแต่งหน้าราคาแพง ๆ ทำผมอะไรที่กิ๊ปเก๋ ดูแล้วยุ่งยาก สำหรับเธอ
“เราไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่น ๆ ก็ได้นิ..พ่อ........คุณพ่อสอนแพร เองไม่ใช่หรอคะว่า คนเราควรจะยึดถือความคิดและตัวของเราเอาไว้ไม่ใช่หรอ.....คะ” แพรพูดพร้อมมองสีหน้า พ่อ
มนตรีฟังดังนั้น ก็ยิ้มให้ลูกสาวเห็น ที่เขายิ้มเพราะไม่ใช่คำพูดของลูกสาวคนนี้ แต่เพราะการที่เขาคิดเป็น สามารถไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ถึงลูกสาวจะไม่เป็นเหมือนคนอื่น....แต่ลูกก็เป็นลูกสาวของเรา ซึ่งตัวเขาเองก็ภาคภูมิใจลูกสาว คนนี้มากเลยทีเดียว
“แม่.....ว่าเราไปถ่ายรูปกันเถอะ..........” มารดาแทรก กลางระหว่างพ่อลูก เพื่อไม่ให้เกิดอาการน้อยใจของผู้เป็นพ่อ
เมื่อทั้งสามกำลังจะถ่ายรูปอยู่นั้นก็มีเสียงเรียกของบุคคลหนึ่งดังขึ้น
“แพร.............แพร....แพร...........” ชายอีกคนที่กำลังเดินมาหาหญิงสาว
“อ้าว.........รุจน์....” หญิงสาว อุทานออกมาเมื่อเพื่อนชายเดินมาหา
ชายหนุ่มวิ่งมาถึง พร้อมทั้งกล่าวสวัสดีพ่อและแม่ของหญิงสาว รุจน์ เพื่อนที่แพรรักมากและทั้งสองก็คบกันมาก็หลายปีแล้ว จึงทำให้ทั้งคู่สนิทกันเป็นพิเศษและเป็นเพื่อนที่เข้าใจกันและกันพร้อมทั้งคอยช่วยเหลือกันอยู่เสมอมา
“คุณพ่อและคุณแม่ ท่านบอกให้เชิญคุณอาทั้งสองไปถ่ายรูป ที่ริมสระนะครับ”รุจน์ พูดพร้อมทั้ง เชิญ พ่อแม่ฝ่ายหญิงไปถ่ายรูปกันที่ริมสระ ทั้งหมดได้ถ่ายรูปคู่กัน จนกระทั่ง ภานิตและมนันยา พี่ชายและพี่สาวของแพร เดินเข้ามาร่วมด้วย
“รอแพนด้วยซิคะ” แพนรีบวิ่งมาพร้อมกับภัทร
“ทำไม....พึ่งจะมา.....ฮึ” หญิงสาวผู้เป็นน้องที่ออกจะห้าว ๆ มองหน้าผู้เป็นพี่ทั้งสอง อย่างเอาเรื่อง
“มาช้ายังดีกว่าไม่มานะ..ใยแพร!” ภัทรผู้เป็นพี่คนโตพูดพร้อมกับมอบตุ๊กตาหมีให้ ส่วนพี่สานที่ชื่อ แพนมอบช่อดอกไม้ให้ ทำให้คนเป็นน้องยิ้มหน้าบานกับของขวัญที่ได้รับ
ระหว่างที่ทั้ง 3 พี่น้อง คุยกันอยู่นั้น รุจน์ จึงขึ้นแทรก ระหว่างการสนทนา
“ผมว่า.....เรามาถ่ายรูปรวมกันดีกว่านะครับ....”
ทั้งหมดก็ร่วมกันถ่ายรูปเดียวบ้าง คู่บ้าง หมู่บ้าง จนเหนื่อยกันเป็นแถว ๆ จนคนเป็นพ่อและแม่เหนื่อยและขอนั่งพักก่อน ส่วนบัณฑิตทั้ง 2 คน ก็เดินไปถ่ายรูปกับเพื่อนฝูงกันตามประสาคนที่จบแล้ว
“พี่แก...ไม่มาหรอวันนี้....ชั้นไม่เคยเห็นหน้าพี่แกเลยรู้ ปะ” แพรถามเพื่อนชายอย่างสงสัย
“พี่กร...นะหรอ......ไปคุยกับลูกค้าที่ออสเตรเลีย...นะ...ชั้นว่านะคนอย่างแกนะไม่มีบุญได้เห็นหน้าพี่ชายชั้นหรอก......” รุจน์บอกกับเพื่อนสาว พร้อมกับหัวเราะ จนทำให้แพร อดหมั้นไส้ไม่ได้ จึงตบไหล่เพื่อนอย่างแรง จนรุจน์หยุดหัวเราะทันที
“ทำไม.........พี่ชาย แก เนี่ยนะ มีบุญนักศักดิ์ใหญ่มาจากไหนวะ ชั้นถึงต้องมีบุญถึงจะได้เห็นหน้าพี่ชายของแก”
แพรพูดพร้อมกับเดินไปอีกทาง
************
“แพร....ไอ้วุฒิ พี่กรด หนึ่งและเมย์ มันบอกให้ฉันชวนแกไปฉลองพรุ่งนี้ นะ..........ไปเปล่า”
“ได้....ดิ งานแบบนี้ ชั้นไม่พลาดอยู่แล้ว....ถ้าอย่างนั้นแกช่วยมารับชั้นหน่อยนะ......จะได้หาทางบอกคุณพ่อคุณแม่ได้.......” แพรพูด
“ได้แต่ค่ารับส่งครั้งละ 1000 บาทนะโวย ! ตกลงไหม” รุจน์บอกกับเพื่อนสาว พร้อมกับโดนตอกกลับ “ไปหาเอาแถวสะพานลอยเถอะ.........เดี๋ยวนี้! รายได้ออกจะดีนะ” จนทำให้เพื่อนชายถึงกับหัวเราะ
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันทางโทรศัพท์อยู่นั้น ภาตา เห็นท่าทางของลูกสาวแล้วอดถามลูกไม่ได้ ว่าลูกสาวคนนี้จะไปไหน กับใคร อะไรที่ไหน และเอ่ยถามสามี ก่อนจะเข้าไปพูดกับลูกสาว เมื่อหญิงสาวคุยทางโทรศัพท์กับเพื่อนชายเสร็จแล้วนั้น จึงเห็นบิดามารดานั่งอยู่ทางด้านห้องนั่งเล่น จึงเดินเข้าไปกอดออดอ้อน
“คุณพ่อ......ยอมรับขอเสนอของแพรหรือยัง” น้ำเสียงที่พูดออกไปค่อนข้างจะออดอ้อนเต็มที่
“แล้วจะไปทำทำไม.....อีกอย่างบริษัทของเรา ก็มี” มารดาพูดอธิบาย
“ใช่นั้นซิ ไปทำ ทำไม ไปช่วยพี่ทั้งสองทำไม่ดีกว่าหรอลูก.......” มนตรีชี้เหตุผลให้ลูกสาวฟัง
“โถ่! แพรก็อยากจะหาประสบการณ์บ้างนะ..........” หญิงสาวอธิบายเหตุผลพร้อมกับมองสายตาวิงวอน
“ยังไง.........พ่อก็ไม่อนุญาต........แล้วอย่ามาพูดเรื่องนี้อีกเป็นอันขาด” ผู้เป็นพ่อพูดเด็ดขาดและเดินเข้าห้องนอนไป ซึ่งทำให้หญิงสาว หันไปมองมารดา เพื่อจะสื่อความหมายเป็นนัย ๆ ให้มารดารับรู้ พร้อมกับพูดกับมารดา
“แพร...ขอแค่สักครั้งไม่ได้เลยหรือคะแม่ 3 เดือนเอง” แพรขอร้อง จนผู้เป็นแม่เห็นใจพอควร
“ที่พ่อ เขาทำแบบนี้ก็เพราะเขารักลูก และหวังดีกับ แพร เสมอนะ”
“แพรรู้คะว่าหวังดี.........แต่ที่แพรขอไปทำก็เพราะว่าแพรอยากทำนะ......แม่ อีกอย่างก็บริษัท คนรู้จักกัน ดีออก แพรจะได้ขยันทำงาน ไม่อู้ด้วนนะ..........แม่นะ”
ผู้เป็นมารดานั่งมองหน้าลูกสาวที่อยู่ในอาการขอร้องแล้วอดสงสารไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรดี เพราะคุณ เภตา รู้อยู่เสมอว่าสามีของตนนั้น ถ้าพูดคำไหนแล้วไม่มักจะกลับคำพูดเสมอ..........แล้วก็เอ่ยถามลูกสาวว่าจะออกไปไหนหรอ เห็นคุยโทรศัพท์
“เออ..........พอดีว่าเพื่อน ๆ จะชวนกันไปเลี้ยงฉลองนะคะแม่ แพร เลยจะไปด้วย.............แม่ให้แพรไปนะ”
“ได้............แต่อย่ากลับบ้านดึกละ.............” มารดาตอบพร้อมกับทำหน้าปราม ๆ ลูกสาว คนนี้
ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้น แพรก็คิดว่า น่าจะมีอีกหนทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยเธอได้อีก
“พี่ภัทรกับพี่แพน ละแม่” หญิงสาวถาม“อยู่ที่สวนหน้าบ้านนะลูก......................”
“ถ้าอย่างนั้น.....แพรขอตัวไปหาตัวร่วมก่อนนะคะ...........good night คะแม่” หญิงสาวพูดคำลาก่อนนอนกับแม่พร้อมกับหอมแก้ม หนึ่งฟอดแล้วรีบลงมาที่สนามหญ้าหน้าบ้าน
ทางด้านสหรัฐอเมริกา ชายหนุ่มที่วุ่นอยู่กับเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะทำงาน จนไม่มีเวลาทำอะไรนอกจากงาน จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“Hello! Gon Say .”
“พี่...แหม...อังกฤษเลยนะพี่..........คิดว่า แหม่ม โทรมาหรือไง” รุจน์รีบแซวผู้เป็นพี่ทันที่เมื่อได้ยินเสียง
“จบแล้วหางานทำไม่ได้หรือไง ถึงได้มีเวลาว่างมาก.......แกมีธุระอะไรว่ามา” ชายหนุ่มถามพร้อมกับอีกมือหนึ่งกำลังวุ่นกับงานที่อยู่บนโต๊ะทำงาน
“คุณแม่ให้มาถามว่า....พี่นะมีแหม่มมาติดพันเปล่า แล้วมารายงานท่านด้วย” น้องชายกวนโทสะผู้เป็นพี่
“จะเอา เวลาที่ไหนไปหา งานยังเคลียร์ไม่เสร็จเลย” ผู้เป็นพี่ ประชดผู้เป็นน้อง
“แหม! ทำเป็นน้อยใจ...เดี๋ยวกลับมาจะพาไปเลี้ยงข้าวนะ........” ชายหนุ่มผู้เป็นน้องกล่าวพร้อมกับหัวเราะ
“คุณพ่อ คุณแม่ ท่านสบายดีหรือเปล่า” กร ถามสารทุกข์สุกดิบบ้าง
“สบายดี ครับ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ..............รีบจัดการให้เสร็จ นะจะได้กลับบ้าน” รุจน์บอกกับผู้พี่แล้วทั้งสองก็วางโทรศัพท์ เพราะรุจน์รู้ว่าไม่อยากรบกวนพี่ชายไปมากกว่านี้
เมื่อรุจน์โทรศัพท์คุยกับพี่กรแล้วนั้น มารดาซึ่งเดินมาตามลูกชายไปทานข้าว จึงถามด้วยความสงสัย
“โทรหาพี่ หรอลูก.....ตั้งแต่ไปถึงนะไม่ติดต่อมาหาแม่บ้างเลยแล้วพี่เขาว่ายังไงบ้างละ” วีระดาถามลูกชายคนเล็กอย่างสงสัย
“พี่กร...บอกว่า ไปถึงก็ติดต่อลูกค้าและคุยและเคลียร์เอกสารอยู่นะครับ...........ผมเลยแกล้งถามว่าพี่นะได้แฟนแหม่มมาบ้างหรือเปล่า” รุจน์ เน้นประโยคหลังพร้อมกับ เป็นเชิงบอกมารดาว่าลูกชายคนโตจะมีแฟนเป็นฝรั่ง
“นี้แก....อย่าบอกแม่นะว่าพี่แกไปแค่ 4 วันได้ลูกสะใภ้เป็นฝรั่งให้แม่นะ........รุจน์” มารดาถอนหายใจเมื่อพูดจบ
ชายหนุ่มตอบพร้อมกับเดินไปกอดแม่ที่ค่อนข้างจะเชื่อ คำพูดของลูกชายคนนี้ นี้ละมั้งที่เขาได้ฉายานักอำประจำบ้านที่หลอกใคร ๆ ได้สนิทเลย โดยเฉพาะแม่
“โถ่ แม่ครับ......ผมล้อเล่นหน่อยเดี่ยวเอง พี่กรเขาไม่ชอบหรอกครับฝรั่งนะ .............กินแล้วมันแพ้” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหัวเราะ ทำให้ผู้เป็นแม่งอน ชายหนุ่มเห็นจึงเข้าไปหอมแก้มแม่พร้อมกับกอดเพื่อที่จะง้อที่ตนแกล้งแย่เล่น
“ล้อเล่นหน่อยเดี๋ยวเองครับ.........แม่พี่กรเขางานยุ่ง แถมยังถามหาคุณพ่อกับ คุณแม่ว่าสบายดีหรือเปล่าด้วย
ผมว่าเราไปทานข้าวกันดีกว่า..................คุณพ่อรอแย่เลย” ชายหนุ่มเดินประคองมารดาไปที่โต๊ะอาหารที่มีพ่อนั่งรออยู่แล้วนั้น
ความคิดเห็น