ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SinGuLar] Lover in Two World

    ลำดับตอนที่ #3 : LTW -MuDDle-

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 55






     

    *2*

    [MuDDle]

     

                    “เธอชื่ออะไร?”

                    “ซินบอกไม่ได้ ปะป๊าบอกว่าห้ามบอกชื่อกับใครเด็ดขาด”เสียงหวานใสเอ่ยตอบอย่างฉะฉาน

                    ..เวร แล้วเรียกแทนตัวเองซะขนาดนี้ ตรูควรจะทำเป็นไม่รับรู้ว่างั้น..

                    “เอ่อ งั้นจะให้เรียกว่าอะไรละ?”เอ่ยถามอย่าง งงๆ เพราะก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่เรียกชื่อที่เสียงนั้นเผลอพูดออกมาเลย

                    “พี่ๆทั้งสิบสี่ชอบเรียกว่าน้องสุดท้อง ไม่ก็ตัวเล็ก ไม่ก็เจ้าหญิง ไม่ก็คุณหนู ไม่ก็....”ฉายามากมายที่ออกมาจากปากเรียวนั้น ไม่ได้ทำให้สมองของคนตัวสูงจำได้หมดซะทีเดียว

                    “เอ่อ งั้นคิดชื่อไหนออกก็จะเรียกชื่อนั้นแล้วกันนะ”ตอบอย่างเหนื่อยใจ เมื่อเสียงช่างจ้อนี้ดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ

                    “แล้วบ้านเธออยู่ไหนละ?”และแล้วคำถามสำคัญก็ได้หลุดออกมาจากปากชายหนุ่มเสียที

                    “เซียร์ก็ไม่รู้เหมือนกัน เวลาเซียร์จะมาโลกมนุษย์นะ จะมีพี่หนึ่งในสิบสี่ที่ได้รับมอบหมายจากปะป๊าให้พาเซียร์มาที่นี่ แล้วก็นะเวลาพี่ๆพามาเซียร์ก็มองไม่ทันด้วยแหละ มันอยู่ๆก็แว๊บไปมาเลย แต่ก็สนุกมากเลยนะ พี่นัททำได้มั้ย?”เสียงใสเอ่ยเจื้อยแจ้ว พลางถามชายหนุ่มซึ่งกำลังพยายามประมวลผลสิ่งที่ตัวเล็กพล่ามเข้าหูซ้ายซึ่งดูเหมือนจะทะลุออกหูขวาหมดเลย

                    “ทำไม่ได้หรอก.. เอ๊ย แต่เธอรู่ชื่อฉันได้ไงเนี่ย??”เมื่อนึกไปอีกทีก็ต้อง งงอีกรอบ

                    ..รู้ได้ไงว่ะ ว่าเราชื่อนัท หรือได้ยินที่พวกพี่แซมเรียกตอนเข้าไปช่วย..

                    “จะไม่รู้ได้ไง ไม่ว่าเค้าจะอยากรู้อะไรก็จะรู้หมดอ่ะแหละ”สรรพนามที่มักจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆในทุกประโยคทำให้นัทขมวดคิ้วเครียด แต่ก็คงจะไม่มีเรื่องไหนเครียดเท่ากับสิ่งที่เด็กคนนี้พูดออกมาแล้วละ

                    “เอางี้ดีกว่า เดี้ยววันนี้เธอนอนที่นี่ไปก่อนแล้วกัน ไว้ค่อยคุยอีกทีพรุ่งนี้”เอ่ยปัดปัญหาไว้เคลียร์ที่หลัง เพราะสภาพเขาตอนนี้ก็โทรมใช้ได้ ต้องการพักผ่อนอย่างด่วนเลยด้วยซ้ำ

                    “แต่เราอยากอาบน้ำก่อน..”พูดเสียงอ่อย เมื่อรับรู้ว่าเวลานี้มันดึกเกินกว่าจะลืมตาได้แล้ว แต่ความสกปรกที่ได้รับจากโลกนี้มันทำให้รู้สึกเหนอะหนะไปทั้งตัว

                    “ก็ต้องอาบก่อนอยู่แล้วล่ะ แต่เดี้ยวฉันจะไปหาชุดให้แล้วกันไปรอหน้าห้องน้ำแปป”นิ้วเรียวชี้ไปยังหน้าประตูห้องก่อนจะเดินไปยังห้องนอนเพื่อรื้อตู้เสื้อผ้าหาชุดเก่าๆมาให้ร่างบางใส่

     

                    “เสื้อเล็กๆมันหายไปไหนหมดว่ะเนี่ย”บ่นไปก็คุ้ยตามลิ้นชักใตตู้เสื้อผ้าต่อ จนกระทั่งเจอเสื้อยืดสีเทาตัวโคร่งที่ขนาดเข้าใส่ยังตัวโคตรใหญ่เลย

                    ..หาเสื้อไม่ได้ก็เอาเป็นกระโปรงไปแล้วกันว่ะ แล้วค่อยใส่เสื้อกล้ามข้างในอีกที..

                   

                    “เอาตัวเล็ก อาบเสร็จแล้วใส่ชุด.. เฮ้ย!!”เมื่อเดินกลับมาก็เห็นร่างบางนั่งหันหลังให้พร้อมทั้งเปลือยท่อนบนอยู่ หลังขาวเนียนที่มีผมสีน้ำตาลเข้มปรกอยู่ไม่ได้ช่วยปกปิดอะไรได้มากเลย ร่างสูงรีบหันหลังแล้ววางชุดนอนไว้ที่โซฟาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง

                   

                    ..ผู้หญิงที่ไหนเขาแก้ผ้ากันโท่งๆอย่างนี้ว่ะ แต่โคตรขาวเลยว่ะ เอว สะโพกนี่สุดยอด แต่เสียดายไม่มีหน้าอก..

                    “นี่กูคิดอกุศลแม้แต่กับเด็กหรอว่ะเนี่ย!”ด่าทอตัวเองไม่พอยังต้องทึ้งหัวไปมา ราวกับต้องการจะลืมภาพเมื่อกี้ไปให้ได้ หัวใจที่ทำงานผิดปกติทำให้ใบหน้าหล่อต้องขึ้นสี

                    ..อยู่ด้วยนานๆคงจะแย่แน่ๆเลย ไอนัทเอ๊ย..

     

                    “ทำไมต้องหนีเค้าด้วยอ่ะ...”เสียงหวานเอ่ยถามตัวเอง แล้วจ้องมองบานประตูห้องนอนที่ผู้ชายใจดีเพิ่งจะเดินหนีเข้าไป

                    “เค้าทำอะไรผิดรึเปล่านะ หรือว่าเป็นเพราะเค้าไม่รอให้พี่นัทมาถอดให้หรอ? แต่ตอนนั้นที่เค้าไม่ได้รอให้พี่หญิงโรสถอดให้ พี่หญิงก็ไม่เห็นโกรธเค้าเลยนี่.. ทำไมกัน”คุยกับตัวเองจนพอใจแล้วก็ลุกขึ้นเดินโท่งเท่งไปหยิบชุดใหม่ที่นัทเตรียมให้มาแล้ววิ่งดุ๊กดิ๊กกลับเข้าห้องน้ำไปจัดการชำระล้างร่างกายของตนเอง

     

                    “นี่ๆๆ พี่นัททำไมเซียร์รู้สึกว่ามันโล้งโล่ง”ร่างบางในเสื้อโคร่งตัวใหญ่ที่โดนสวมทับลงเสื้อกล้าม ซึ่งเสื้อนั้นดูยาวจนปิดขาขาวๆได้มิดชิด ขาเรียววิ่งเข้ามาใกล้นัท ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยตาใส

                    “อ่า ทนๆไปก่อนแล้วกัน นอนบนเตียงนั้นนะ”พยักเพยิดหน้าไปทางเตียงที่ไม่กว้างมาก แต่ก็ไม่ได้แคบไปซะทีเดียว คงจะพอนอนได้ละ พอสั่งเสียเสร็จก็เดินออกไปหมายจะอาบน้ำบ้าง

                    “อื้อออ”ตอบรับก่อนจะกระโดดโหยงเหยงขึ้นไปกลิ้งบนเตียง แล้วตากลมก็เหมือบไปเห็นสัตว์โลกแปลกตา ซึ่งซินเซียร์คนนี้ไม่เคยจะเห็นมาก่อนมือขาวเอื้อมไปจับหนวดมันแล้วดึงขึ้นมาอยู่บนเตียงด้วยกัน 

                    “นี่ๆๆ แกชื่ออะไรหรอ”มันก็เป็นเรื่องแปลกถ้าจะมีใครสักคนมานั่งคุยกับสิ่งที่มีชีวิตน่าสะพรึงได้รู้เรื่อง แต่สำหรับคนนี้มันช่างเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะไม่ธรรมดาก็ตรงที่เจ้าหนวดนี่หน้าตาตลกสำหรับซินเซียร์เสียเหลือเกิน

                   

                    “เออนี่เดียวฉัน..”

                    “พี่นัทๆๆ ซินมีเพื่อนด้วยแหละ เขาบอกเขาชื่อแมลงสาบละ แปลกดีเนอะ”เสียงใสหันไปพูดกับผู้มาใหม่ด้วยรอยยิ้ม ตรงหน้าก็มีเจ้าสัตว์มีปีกสีน้ำตาลดำกำลังเดินวนไปมาบนเตียง

                    “เอามันออกไปเดี้ยวนี้เลยนะเว้ย!! เปิดหน้าต่างแล้วโยนออกไปเดี้ยวนี้เลย!!!”เอ่ยตวาดใส่ยกใหญ่พร้อมทั้งถอยห่างออกมาจากห้องระยะร้องเมตรพอดีเป๊ะ จากที่เคยใจดีและสุภาพ เริ่มจะออกท่าทีมาเฟียขึ้นมาแทบจะทันที

                    “ทำไมละมั้นเป็นเพื่อนซินนะ”ใบหน้าสลดนั้นไม่ได้ช่วยให้นัทเห็นใจไอเจ้าแมลงนั่นขึ้นมาแม้แต่นิด

                    “ถ้าไม่เอามันออกไปก็ไม่ต้องอยู่ที่นี่!!”ตะโกนจากด้านนอกห้อง ซึ่งมั่นใจว่ามันคงจะดังพอให้ห้องข้างๆลุกมาด่าเขาได้ แต่เวลานี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะน่ากลัวได้เท่าเจ้าตัวที่ร่างบางนี้บอกว่าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่กไม่รู้

                    “ก็ได้!”เสียงหวานดูจะประชดเมื่อมีคนมาขัดใจ แต่ก็จำยอมที่จะจับหนวดเจ้าตัวที่ดิ้นไปมาไปทางหน้าต่าง

                    “โชคดีนะ..”เอ่ยจบก็โยนเจ้าแมลงสาบตัวน้อยออกไป ในเวลาเดียวกับที่มันโผปีกออกบินไปจากห้อง

                    “ไปล้างมือ”เดินกลับมาในห้องก็สั่งกับตัวเล็กนี้ทันที

                    “ทำไมละ เพิ่งอาบน้ำไปเอง”ตากลมช้อนมองด้วยความไม่เข้าใจ เมื่อกี้เพิ่งจะอาบน้ำไป ก็คิดว่าน่าจะสะอาดแล้วนี่

                    “มันสกปรกหมดแล้ว”ว่าก่อนจะมองมือซีดที่แบออกมาให้ดู

                    “ไม่เอา เราไม่ล้างแล้ว จะนอน”พูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งแสนเอาแต่ใจแล้วสะบัดหน้าคิดจะเดินหนี แต่ก็โดนรั้งข้อมือไว้

                    “ล้างเองดีๆไม่ชอบต้องให้ล้างให้รึไง?”เสียงทุ้มเอ่ยจบประโยคก็จัดการลากให้เจ้าของข้อแขนขาวๆนั้นเดินตาม

                    ..ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงหรอกนะ แต่สกปรกแบบนี้แล้วเผลอไปขยี้ตาจะแย่เอา.

                    “เราบอกไม่ไง!!”แผดเสียงแหลมดังพร้อมเล็บยาวที่ปัดกรีดแขนแกร่งเสียจนเป็นรอยทางยาว เลือดสดซึมผ่านผิวเนื้อแดงนั้นออกมามากพอที่จะไหลหยดลงพื้น ตากลมไหววูบมองสิ่งที่ตนเองทำลงไป มือเล็กสั่นระริก

                    ทำไมละ เซียร์แค่จะปัดแขนพี่นัทออกเองนะ แล้วทำไมพี่นัทถึงเป็นแผลละ เซียร์ไม่ได้ตั้งใจนะ

                    “อึก ช่างมันเถอะ ไปล้างมือซะ”สั่งเสร็จก็เดินกลับไปยังห้องนอนอีกครั้ง ทิ้งให้คนตัวเล็กคิดนู่นนี่อยู่คนเดียว

                    ทำไมนะ ทำไมเซียร์รู้สึกหิวขนาดนี้..

     

                    “โอ้ยย แสบโว้ยยยย”ได้แต่อุทานเสียงแผ่วเพื่อไม่ให้ซินได้ยิน เพราะไม่อยากจะให้เขาต้องมานั่งคิดมาก

                    ..กูนี่มันพระเอกจริงๆเลยว่ะ..

                    “ไหนๆผ้าปูก็สกปรกแล้วเอามาซับเลือดไปก่อนแล้วกันว่ะ”มือหนาดึงผ้าปูเตียงออกมาก่อนจะพับให้ด้านที่โดนเจ้าแมลงสาบเกาะซ้อนอยู่ด้านใน แล้วจัดการกดแผลที่มีเลือดไหลซึมออกมาไม่ขาดสาย

                    ..ซวยจริง ทำแผลก็ไม่เป็นอีกกู..          

                    “พี่นัท..”เสียงหวานเอ่ยดังขึ้นจากด้านหลังแต่ร่างสูงก็ทำเป็นไม่ได้ยินและเตรียมเดินออกจากห้องไปหมายจะล้างแผล ปล่อยให้เด็กน้อยได้แต่มองตามตาละห้อย สำนึกในความผิดที่ตัวเองเผลอไป

                    เวลาซินโกรธเล็บมันจะชอบยาวขึ้นเองนี่ ซินก็ไม่รู้ทำไม แต่พอมันยาวก็จะต้องมีคนได้แผลตามแรงอารมณ์หงุดหงิดของซิน แล้วตอนที่อยู่บ้านชายบาสก็จะเป็นคนได้แผล ทั้งๆที่บางครั้งชายบาสไม่ผิดแท้ๆ แถมชอบทำเป็นไม่เจ็บอีกด้วย เหมือนพี่นัท..

     

                    พอทาเบตาดีนแล้วลองใช้ผ้าก๊อซแปะๆและปิดตามด้วยสก๊อตเทปตาม กว่าจะทำเสร็จก็ใช้เวลาอยู่นานโขเหมือนกัน สภาพออกมาก็ใช่ว่าจะดูดีซะด้วย แต่จะทำไงได้ ก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มาทำแผลนี่นะเกิดมาไม่ได้ซุ่มซ่ามก็งี้ละ

                    ..แล้วนี่สรุปตรูต้องนอนโซฟา? เกิดมาเป็นพระเอกนี่มันเหนื่อยจริงโว้ยยย..

                   

                    เวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆไปตามแบบของมัน แต่สำหรับร่างบางที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงรู้สึกว่ามันผ่านไปเชื่องช้าเสียเหลือเกิน                เวลานี้ไม่ใช่เวลานอนของคนคนนี้เลย

                    หลังจากนั่งเบื่อมาหลายชั่วโมงซินเซียร์ก็ตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกจากห้อง โดยเปิดประตูให้มีเสียงเบาที่สุด ขาเรียวก้าวเดินตรงไปยังโซฟาที่มีร่างของชายหนุ่มกำลังหลับไหลอยู่ ตัวเล็กก้มตัวลงนั่งกับพื้นก่อนจะไล่มองใบหน้าคมที่ดูจะใจร้าย ผิดกับความจริงที่ใจดีเสียเหลือเกิน

    มองไปมองมาก็หยุดลงที่แขนซึ่งมีผ้าแปลกๆติดอยู่ มือเล็กเอื้อมไปดึงมันออกมาช้าๆ ก็เห็นแผลที่เป็นเพราะฝีมือตัวเอง กำลังเลอะด้วยอะไรซักอย่างที่มีสีน้ำตาลแดงคล้ายเลือด แต่ดูยังไงก็ไม่ใช่ ซินเซียร์ตัดสินใจลุกขึ้นไปหยิบผ้าชุดน้ำหมาดๆมาเช็ดตามแผลให้เบามือที่สุด แต่กลายเป็นว่าพอเช็ดเสร็จเลือดแดงฉานก็ไหลออกมาอีก

    “ซินขอโทษ..”เสียงหวานเอ่ยจบ ก็โน้มใบหน้าไปใกล้แผลนั้น ปากบางเผยอออกน้อยๆก่อนจะส่งลิ้นเรียวเล็กไล้เลียไปตามแผลซึมซับเลือดข้นที่ไหลออกมานั้นทุกหยด แต่ที่ประหลาดสำหรับคนธรรมดาคือจากแผลที่เป็นรอยยาว นอกจากเลือดจะหยุดไหลแล้ว รอยแผลที่เคยมีก็ค่อยๆกลืนหายไปด้วย จะเหลือก็แต่ผิวเนื้อที่เหมือนไม่เคยโดนขีดข่วนมาก่อน

    “อร่อยจัง”ปากบางผละออกมาก่อนจะเผยยิ้มน้อยๆ ราวกับเด็กไร้เดียงสา แต่คำพูดที่เอ่ยออกมานั้นช่างดูอันตรายสำหรับมนุษย์เดินดินธรมดาๆ

    คนที่กำลังนอนอยู่ขยับตัวน้อยๆแต่ก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด เปลือกตายังคงปิดสนิท ไม่รับรู้เรื่องใดๆที่เพิ่งเกิดขึ้น ไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับคนที่ตัวเองกำลังคิดจะช่วย และไม่รู้เลยว่าในอนาคต ชีวิตจะต้องเปลี่ยนไปสักแค่ไหน..


     

    มาลงอีกตอนแล้วว~ ไม่รู้มีคนรออ่านมั้ย ฮา~~
    ช่วงนี้กำลังเพ้อกับหลานฟินแทบจะทั้งวัน เรียนจะไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว555
    แล้วจะมาอัพบ่อยๆเน้อ  >3<

    เม้นต์บอกความรู้สึกกันสักนิด =w=~


     

    + Supercell
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×