ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ------> มนต์จันทรา <-------

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 50



    การรอคอย...จะว่านานก้อนาน จะว่าสั้นก้อสั้น แต่ใครเล่าจะชอบการรอคอย เฝ้ารอคอยอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
    บ้างรอคอยเพื่อความสุข บ้างรอคอยแม้ว่าจะเป็นความทุกข์แต่ก้อพร้อมที่จะเผชิญ...

    การรอคอยมักเริ่มต้นด้วยความหวัง หวังและสิ้นหวัง... วันคืนเลยผ่าน
    ลมแห่งความเศร้าพัดพาเอาความหวังที่เต็มเปี่ยมในหัวใจให้ร่อยหรอลงทุกคืนวัน
    นำพาความสิ้นหวังเข้ามาแทนที่ ความแข็งแกร่งในหัวใจเพียงเท่านั้น
    ที่จะนำพาหัวใจดวงนี้ไปสู่อนาคตที่จะต้องพบเจอ สิ่งที่รอคอยจะต้องมาถึงในสักวัน...

    +*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+**+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+

    นานมาแล้วในสมัยที่มนุษย์ เทพยังอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มนุษย์เคารพและบูชาเทพเจ้า
    เทพเจ้ารักและให้ความคุ้มครองแก่มนุษย์ ประทานพรให้แก่ผู้ที่ทำความดี และให้ทุกข์แก่ผู้ที่ทำความผิด
    พลังแห่งแสงสว่างและความมืดสอดผสานช่วยกันปกป้องรักษาโลกให้อยู่กันอย่างสงบสุขมานานจนมิอาจคาดคะเนได้...

    แต่ทว่าเวลาที่เลยผ่านทำให้คุณธรรมความดีงามของมนุษย์เริ่มลดลง เทพเจ้ามิใช่สิ่งที่ควรเคารพอีกต่อไป
    สิ่งเดียวที่มนุษย์ยึดถือมีเพียงสมบัติและทรัพย์สินเงินทอง ความมักใหญ่ไฝ่ซึ่งอำนาจได้เข้ามากัดกินจิตใจ
    อันเคยบริสุทธิ์ของมนุษย์จนสิ้น เทพเจ้าหลงระเริงกับสิ่งที่มนุษย์นำมาบูชาจนละเลยภารกิจที่เคยปฏิบัติอยู่เป็นประจำ
    ปล่อยให้มนุษย์เกิดกิเลสตัณหา สร้างเรื่องราวชั่วช้าจนมิอาจแก้ไขได้

    ความรักระหว่างเทพและมนุษย์ได้เกิดขึ้นระหว่างราชาแห่งเทพและหญิงชาวบ้านผู้หนึ่ง เธออาศัยอยู่ท่ามกลางป่าลึก
    และสรรพสัตว์ที่เป็นมิตรกับเธอ ความงามของเธอเฉกดั่งดอกไม้แรกแย้ม บริสุทธิ์ยิ่งกว่าสิ่งใด
     ความงามที่แม้นางสวรรค์ก้อมิอาจเทียบเทียมได้

    ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง หญิงสาวจะเฝ้ารอราชาเทพที่ตนไม่รู้ว่าเป็นใครเสด็จลงมาหา
    ในเวลาที่พระจันทร์ขึ้นประดับเส้นขอบฟ้า เอ่ยคำมั่น ปฏิญาณรักให้แก่กันและกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วจากไป
    ในยามที่พระจันทร์ลาลับเลยเหนือศีรษะไป

    หญิงสาวเฝ้าถามครั้งแล้วครั้งเล่ากับชายหนุ่มว่า “ท่านเป็นใคร” คำตอบที่ได้มีเพียง “เป็นคนที่รักเจ้ายิ่งกว่าชีวิต”

    ‘หากข้าบอกความจริงใจของเจ้าจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เจ้าจะรักข้าที่เป็นข้าหรือรักข้าที่เป็นราชาเทพ’
    ในหทัยของราชาเทพเฝ้าผัดผ่อน พรุ่งนี้เถิด...พรุ่งนี้ พรุ่งนี้เราจะบอกความจริงกับนาง...

    ราชาเทพรักกับหญิงสาวชาวมนุษย์ แต่กฏมีว่าเทพต้องมีความรักกับเทพเพียงเท่านั้น ส่วนมนุษย์อย่าหาญกล้ามีความรักกับเทพ
    หากผู้ใดหาญกล้าฝ่าฝืน โทษของมันผู้นั้นคือความเดียวดายชั่วนิรันดร์!! กฏเพื่อดำรงรักษาเผ่าพันธุ์แห่งเทพและมนุษย์
    ทำให้หญิงสาวต้องตกอยู่ในอันตราย

    ความลับและความรักยังคงดำเนินไปเรื่อยๆท่ามกลางความงดงามของหมู่แมกไม้อันสวยสดงดงาม
    ราชาเทพต่อสู้กับพวกหัวโบราณเพื่อแก้กฏให้มนุษย์สามารถรักกับเทพได้ แต่ทว่าความพยายามของพระองค์
    ทำให้เหล่าเทพสงสัย และสืบรู้ถึงเรื่องของหญิงสาวกลางป่าที่ราชาเทพหลงรัก เหล่าเทพบางส่วนคิดขึ้นเป็นใหญ่
    จะตั้งตนเป็นราชาเทพโดยอ้างเหตุผลที่ราชาเทพผิดกฏไปรักกับมนุษย์ เทพผู้จงรักภักดีจึงคิดฆ่าหญิงสาวเพื่อให้
    เหล่าเทพผู้คิดคดไร้ข้ออ้างในการจะยึดอำนาจราชาเทพ พวกเขาจึงประกาศว่าเพราะหญิงสาวชาวป่ารักกับราชาเทพ
    เป็นโทษมหันต์ทำให้ต้องทำลายอาณาจักรของนางเสีย ชาวบ้านและประชาชนต่างตระหนก

    “ได้โปรดอย่าทำลายอาณาจักรเราเลย ได้โปรดท่านเทพ จะให้ข้าทำอย่างไร” กษัตริย์ผู้เป็นตัวแทนอาณาจักรร้องขอต่อเทพ

    “ทางรอดของพวกเจ้ามีทางเดียวนั่นคือ ฆ่านางมนุษย์นั้นเสียอย่าให้มีชีวิตอยู่อีกต่อไป”

    “รับบัญชา” กษัตริย์น้อมรับคำสั่งและนำประชาชนไปยังบ้านพักกลางป่าของหญิงสาว

    วันนี้เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง หญิงสาวลงมานั่งรอเช่นเคย แต่แล้วสิ่งที่เธอพบกลับเป็นประชาชนและเหล่าเทพจำนวนมากมาย
     ต่างโห่ร้องใส่นาง บอกเล่าเรื่องที่นางอยากรู้มาตลอดว่าคนที่นางรักเป็นใคร? ประนามว่านางเป็นตัวร้ายที่จะเป็นตัวทำลายอาณาจักร
    แท้ที่จริงแล้วนางเป็นเจ้าหญิงของอาณาจักรนี้ซึ่งถูกโหรทำนายว่านางจะนำภัยภิบัติมาสู่อาณาจักร จึงได้ถูกเนรเทศมาอยู่ในป่า

    ในหัวใจของหญิงสาวเศร้าโศกยิ่งนัก สิ้นหวังกับพระบิดาที่ไม่เคยรักนางเลย แม้ชายหนุ่มที่นางรักยิ่ง
    กลับมิเคยบอกความสัตย์จริงกับนาง น้ำตารินไหลอาบสองแก้ม หญิงสาวเอ่ยขึ้นช้าๆ
    “ข้าเป็นมนุษย์กลับทำผิดกฏรักกับราชาเทพ เป็นตัวนำเคราะห์ร้ายมาสู่อาณาจักรตามคำทำนาย
    ข้าเสียใจในการกระทำของข้า และข้าเสียใจที่ท่านไม่บอกความจริงกับข้า”
    หญิงสาวทอดสายตาที่เจ็บช้ำไปยังราชาเทพที่มาถึงพอดี

    “ข้าประดุจคนโง่เง่า นำพาความหายนะมาสู่อาณาจักรของตน ความรักของข้าทำให้อาณาจักรของข้าต้องแปดเปื้อน
    โทษของข้าคือความตาย!!” หญิงสาวตวัดกริชเข้าที่คอของตัวเองและค่อยๆทรุดลงกับพื้นพร้อมกับ
    เสียงโห่ร้องของประชาชนที่ยินดียิ่งนัก ราชาเทพมิอาจห้ามนางได้ทัน พระองค์ทรงแหวกผ่านวงล้อมของประชาชน
    เข้าไปตระกองกอดหญิงที่รัก หยาดน้ำพระเนตรหลั่งรินไม่ขาดสาย

    “นัยตาเจ้าที่เคยเต็มไปด้วยความรักตัดพ้อข้า วาจาเจ้าที่เคยหลั่งคำหวานกล่าวโทษข้า
    ใบหน้าเจ้าที่เคยแย้มยิ้มให้ข้ากลับซีดขาวราวกระดาษ น้ำตาเจ้าหลั่งเพราะข้า เลือดเจ้ารินก้อเพราะข้า
    ข้าจะบอกเจ้าวันนี้แล้วนะยอดรัก ความจริงทั้งหมดที่เจ้าอยากรู้ ข้ากำลังจะบอกเจ้าแล้ว ทำไมเจ้าถึงต้องทำแบบนี้
    ทำไมเจ้าไม่เชื่อใจข้า ข้าพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อยู่กับเจ้า เจ้ารู้หรือไม่ยอดรัก ข้าสู้เปลี่ยนกฏให้เทพทุกคนรู้ว่า
    ความรักมิอาจห้ามใจได้ มิอาจกำหนดได้ว่าให้รักผู้ใด ข้ายอมแม้ต้องโดนขับไล่ ขอเพียงได้อยู่ข้างๆเจ้ายอดรักแห่งข้า
    ข้าจะไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของเจ้าอีกแล้วหรือ จะไม่ได้เห็นรอยยิ้มเยื้อนที่แย้มให้ข้าอีกแล้วหรือ
    จะไม่ได้กอดเจ้าในอ้อมแขนนี้อีกแล้วหรือ ถ้าเจ้าจากไปเสียแล้วข้าจะอยู่ได้อย่างไร”
    เสียงคร่ำครวญของพระองค์ดังแผ่วเบาดุจเสียงกระซิบเหมือนไร้เรี่ยวแรงที่จะกระทำสิ่งใดอีกต่อไป
    ราชาเทพพรมจูบไปทั่วใบหน้าของหญิงที่ตนรักครั้งแล้วครั้งเล่า หยาดโลหิตสีแดงสดตัดกับอาภรณ์สีขาวของทั้งสอง
    ไหลลงมาไม่ขาดสายดุจภาพวาดที่เป็นโศกอนาฏกรรมแห่งความเศร้า...

    “นางตายแล้วท่านเทพ ท่านอย่าทำลายอาณาจักรของพวกเราเลยนะ ท่านทำตามสัญญาสิ” กษัตริย์ตรัสกับเทพ

    “ข้าไม่เคยผิดสัญญา”

    ราชาเทพที่ทรงนิ่งกอดหญิงคนรักเหมือนไม่รับรู้สิ่งรอบข้างแต่อย่างใดเพ่งสายตามายังเทพคนดังกล่าว
    พระเนตรแดงช้ำจ้องอย่างแน่วแน่ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

    “ฝ่าบาทนางตายแล้ว พระองค์มิได้ทำผิดกฏอีกต่อไป พระองค์ไม่จำเป็นต้องรับโทษใดๆ
    จากนี้จะไม่มีผู้ใดบังอาจเอาผิดพระองค์ได้อีก ขอพระองค์เสด็จกลับสวรรค์และทรงแต่งงานกับเทพที่คู่ควร
    กับพระองค์เพื่อลบคำครหาเถิด”

    “กฏสำคัญนักหรือ เทพยิ่งใหญ่นักหรือ มนุษย์ต่ำต้อยนักหรือ แบ่งแยกกันดีนัก งั้นจงอย่ามีมันเลยทั้งเทพทั้งมนุษย์”
    ราชาเทพร่ายเวทย์ขั้นสูงสุด มหามนตราพิฆาต ทำลายล้างสวรรค์ และมนุษย์ผู้โง่เขลาทั้งแผ่นดิน
    “ด้วยอำนาจแห่งข้าราชาแห่งเทพ จากนี้จะไม่มีเทพอีกต่อไป มนุษย์หยาบช้าทั้งหลายจงด่าวดิ้น มนุษย์ผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย
    จงทำความดี สืบทอดความดีของเจ้าชั่วลูกหลานเถิด...” เทพกลายเป็นเพียงมนุษย์สามัญ มนุษย์ยังมิทันร้องโอดครวญขอชีวิต
    ความตายก้อพรากพวกเขาไปตลอดกาลไม่เหลือแม้แต่ดวงวิญญาณอีกต่อไป อวสานเทพตลอดกาล...
    เพียงอึดใจอาณาจักรทั้งอาณาจักรและแดนสวรรค์ก้อเงียบสนิท สรรพสัตว์ทั้งหลายพากันหยุดส่งเสียงร้อง
    ต่างเดินออกมาห้อมล้อมทั้งสองพระองค์ไว้

    “ฟ้าดินเป็นพยาน ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน ข้าขอรักอารีอาเพียงผู้เดียวชั่วนิจนิรันดร” หยาดน้ำตาหลั่งรินอาบสองแก้ม
    ชายผู้หนึ่งซึ่งตระกองกอดหญิงคนรักของตนไว้แน่นราวกับจะปกป้องให้พ้นภยันอันตรายทั้งปวง
    แต่ทว่าร่างนั้นไร้ซึ่งสัญญาณแห่งชีวิตอีกต่อไป...

    “ข้าจะตามหาเจ้าจนกว่าจะพบ และขอให้เจ้าอภัยให้แก่ข้าผู้โง่เขลา ที่มิอาจปกป้องเจ้าซึ่งข้ารักยิ่งกว่าชีวิต
    ยอดรักของข้า ได้โปรดรอข้า รอวันซึ่งดวงชะตาจะนำพาข้ามาพบกับเจ้าในเวลาอันเป็นนิรันดร์นี้เถิด...”

    ชายหนุ่มเหยียดยืนตระกองกอดหญิงคนรักไว้ในอ้อมแขน ร่ายเวทย์ช้าๆ น้ำแข็งค่อยๆปกคลุมร่างของทั้งสองทีละนิดๆ
    จนในที่สุดเมืองทั้งเมืองก็ถูกน้ำแข็งโอบล้อมไว้จนสิ้น ต้นไม้ ใบหญ้ากลายเป็นป้อมปราการอันยิ่งยงที่ไม่มีผู้ใด
    สามารถมองเห็นได้อีกต่างไป หากผู้ใดลุกล้ำโทษของผู้นั้นคือความตาย เวทย์มนต์สุดท้ายของอดีตราชาแห่งเทพผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×