คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ` คัมภีร์หาสหายฉบับยางยืด (?) และเวิ่นอีกมากมาย :3
งงชื่อไตเติ้ลมั้ย ? นั่นสิ เราก็งง 55555
ความจริงอยากเขียนว่าฉบับยางมะตอยเสริมเหล็กใยไหมสามชั้น แต่กลัวจะยาวไป เลยใช้ยางยืดแทน โอเค้เน้อ =3= (เพื่ออะไร 5555)
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Lycée Jeans Guéhenno, Flers, Basse-Normandie :)
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เมื่อวานนี้เราไปโรงเรียนเป็นวันที่สอง เป็นวันเปิดเรียนรวมทั้งสามชั้นวันแรก คนเยอะมากกกๆ ตื่นเช้ามาปั๊บ แคทเธอรีน (โฮสท์มัม) พาไปส่งที่ป้ายรถบัสกับโม (โฮสท์ซิสเตอร์) ปรากฎว่ารถบัสที่มันว่างมากๆ ในวันแรก วันนี้ละลานไปด้วยนักเรียนแทบไม่มีที่ว่างจะนั่ง เลยได้ที่นั่งสองที่สุดท้ายในรถไป อากาศตอนเช้าวันนี้หนาวมากๆ พลาดสุดๆ ที่ใส่เสื้อกันหนาวมาแค่ชั้นเดียว แต่ยังดีที่ตอนเย็นอากาศค่อนข้างอุ่น เลยไม่ต้องแบกเสื้อโตงเตงสองตัว โฮ่ ความโชคดีในความโชคร้ายเนอะ
คาบ แรกวันนี้เราเรียนคณิตกับ M.Godmuse (คือขอเล่าในวงเล็บว่าปลื้มตั้งแต่เห็นชื่อ 'ก็อดมิวส์' อะ คือชื่อเมอแกเทพมาก แล้วพอเจอตัวจริงยิ่งเพ้อไปใหญ่ โอ้แม่เจ้า สอนดีและที่สำคัญคือมาดแมนแฮนซั่มมวาก เราไม่ได้คิดไปเองนะ เพื่อนในคลาสยังว่าหล่อเลย 55555) คาบนี้เราไม่เข้าใจโจทย์อีกแล้ว เราก็เลยได้เพื่อนคนเดิมที่ช่วยเราเมื่อวันอังคารมาช่วยแปลช่วยสอนให้ แล้วก็ขอโทษนะ ... เราจำชื่อเธอไม่ได้อีกแล้ว T^T โฮกกก
ขอเล่านิดนึง บรรยากาศห้องเรียนในฝรั่งเศสเป็นอะไรที่ดีสุดๆ เวลาครูพูด นักเรียนจะตั้งใจฟังแล้วคิดตาม แสดงความคิดเห็นกันถึงพริกถึงขิง แล้วก็จะปรึกษากันเบาๆ (เรียกว่ากระซิบกันเลยทีเดียว) ไม่มีฟุบไม่มีเมิน แม้ว่าวิชานั้นจะเป็นวิชาที่ไม่ชอบที่สุดก็เถอะ แล้วคำถามที่ครูถามจะเป็นคำถามคิดวิเคราะห์เสียส่วนใหญ่ เช่นวิชาอิตาเลียน ครูถามว่าถ้าพูดถึงโรมจะคิดถึงคำว่าอะไร มันเป็นอะไรที่สนุกนะ ใช้ความคิดคู่กับความรู้ ถ้าเราไม่รู้ เราก็จะอยากค้นคว้าเพิ่มเพื่อให้ทันเพื่อนด้วย ดีเนอะ :D
เอาล่ะ เรามาต่อกัน หลังจากคาบนั้นก็เป็นคาบว่าง เราก็เข้าไปในห้องสมุด แล้วก็เจอความเมพอีกแล้วครับท่าน หนังสือจัดตามสารบัญทะเบียนเป๊ะๆ มีแยกหมวดหมู่ให้หาง่าย แต่งห้องสวย มีที่นั่งนุ่มๆ ให้นั่งด้วยแบบโอยยย ปลื้มน้ำตาไหล T^T และหลังจากคาบนี้จบก็พักสิบห้านาที เด็กฝรั่งเศสส่วนมากจะออกไปนอกรั้วเพื่อสูบบุหรี่ไม่ก็เมาธ์กัน เรื่องสูบบุหรี่เป็นอะไรที่ธรรมดามากสำหรับเค้า เราเคยถามโมว่าทำไมเด็กสูบได้ โมก็บอกว่าอายุถึงแล้วก็สูบได้ แต่ต้องสูบเป็นที่เป็นเวลา เออ เราว่าดีนะ คือถ้าสมมติว่าเด็กมีระเบียบในตัวเอง ทุกอย่างก็ไม่น่าจะมีปัญหา แล้วหลังจากเบรคเราก็เดินไปที่โรงยิมเพื่อเปลี่ยนเสื้อกีฬา แล้วเราก็เจอความแปลกใหม่อีกข้อนึงคือเค้าเปลี่ยนเสื้อรวมกันจ้ะ เนื้อนมไข่อะไรเห็นหมดเยย YY เค้าไม่อายแต่เราอายไง ก็เลยจรลีไปเปลี่ยนในห้องอาบน้ำคนเดียว แง้ คาบหน้าจะพยายามทำใจนะจ๊ะ T^T
ในโรงยิมเป็นอะไรที่เมพอีกแล้ว ! ใหญ่มากสวยมาก บาสเก็ตบอล แบ็ตมินตัน ฟุตบอลครบ มีกีฬาปีนเขาด้วยเราแบบอย่างเหวอ =[]= เดี๋ยววันหลังจะแอบถ่ายมาให้ดู แล้วหลังจากคาบนี้หมด เราก็ไปเปลี่ยนเสื้อ แล้วคราวนี้ล่ะ เข้าเรื่องจริงๆ แล้ว เรารวบรวมความกล้าไปขอกินข้าวกับเพื่อนในห้องว่า "Est-ce que je peux manger le dejeuner avec toi ?" แล้วเค้าก็เหมือนเหวอไปสองวิแล้วก็พยักหน้าแล้วเค้าก็แนะนำให้เรารู้จัก เพื่อนอีกสองคนในอีกห้อง แล้วระหว่างที่เข้าแถวรออาหารเที่ยง เราก็คุยกับเค้าแบบงูๆ ปลาๆ ถูกผิดๆ เอ๋ออ๋าเกือบไม่รอด แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นทริคนะ เวลาเค้าเห็นเราเอ๋อๆ เค้าก็จะขำๆ แล้วก็จะสอนเราให้ถูก ดังนั้นหากคุณเอ๋อ จงใช้ความเอ๋อให้เป็นประโยชน์ บราโววว !
และ หลังจากนั้นเป็นอะไรที่ดีมากๆ ! ตอนแรกๆ หากคุณไม่รู้จักใคร ทุกคนจะดูน่ากลัว แต่อย่าได้ห่วง ความจริงแล้วทุกคนนิสัยดีมากๆ ยิ้มเก่ง ไนซ์กับเราสุดๆ ช่วยได้ช่วยเต็มที่ ที่เคยอ่านมาในเน็ตที่ว่าคนฝรั่งเศสนิสัยแย่ขอค้านหัวชนฝาว่าไม่จริงนะ อาจจะมีบ้างในเมืองใหญ่ๆ อย่างปารีสที่คนอาจจะตัวใครตัวมันไปหน่อย แต่ถ้าเป็นที่นี่อย่าให้เซดว่าน่ารักมากน้าตัวเอง ( ' w ')
หลัง เลิกเรียนเราได้เจอแฟนโมชื่อ จุดจุด [.. ละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าจำไม่ได้ OTL] แล้วก็พากันไปรอรถเมล์ที่ป้าย พระเจ้าช่วยเอย ...อย่างว่านะ วัฒนธรรมที่นี่เค้ากอดจูบกันในที่สาธารณะเป็นเรื่องธรรมดา แต่วัฒนธรรมไทยเรามันไม่ใช่ ดังนั้นก็เลยเกิดอาการหันหน้าไม่ถูกแบบโอยตายแล้วฉัน 555555 พอกลับบ้านมาก็เลยเล่าให้โมฟังว่าสะดุ้งนิดหน่อยที่เห็นโมจุ๊บๆ กับแฟน โมก็เลยหัวเราะ
แซควานน์ (Servanne) เพื่อนของโมถามเราว่า "ถ้าเธอมีบอยเฟรนด์ เธอจะไม่จูบบอยเฟรนด์เธอเหรอ ?" เราก็บอกเค้าไปว่าที่ไทยต้องในที่ส่วนตัวเท่านั้น เค้าก็พยักหน้ายิ้มๆ แล้วบอกว่าเข้าใจแล้ว ...อืม เกือบตอบไม่ถูกเหมือนกันนะคำถามเนี้ย 55555
เอา ล่ะมาต่อกัน ...วันนี้เป็นวันที่มีความสุขมากเลยนะ ดังนั้นบนโต๊ะอาหารเย็น เราเลยเวิ่นให้โฮสท์ฟังว่าเนี่ยๆ ไอมีเพื่อนแล้วนะ แล้วก็บลาๆ มากมาย ฮ่าๆ ยิ่งมาอยู่ยิ่งพูดมากขึ้นทุกวัน อุตส่าห์รู้สึกเรียบร้อยขึ้นแล้วเชียว ( -.-) หุหุ
ความจริงแล้วการหาเพื่อนไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือตัวเรา ตอนที่จะขอเค้าไปกินข้าวเที่ยงด้วย แค่ประโยคสั้นๆ ประโยคเดียวแต่ต้องใช้ความกล้ามหาศาลมันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับเรา ก่อนจะทำลงไปเราทั้งกลัวทั้งกังวลสารพัด เค้าจะให้เราไปกินข้าวด้วยมั้ยน้า ? เราจะเข้ากับเพื่อนเค้าได้มั้ย ? จะถามหรือไม่ถามดีเนี่ย ? ถามไม่ถามถามไม่ถาม ... ซ้ำไปซ้ำมาอย่างนี้เป็นร้อยรอบ แต่พอเราพูดไปแล้วเรารู้สึกขอบคุณตัวเองในตอนนั้นมากๆ เราดีใจมากที่ตัดสินใจพูดออกไป .. เราพิมพ์ประโยคนี้ในวันที่ 7 กันยา แล้ววันนี้เราได้รับอะไรดีๆ มากมายจากประโยคนั้นของเรา เพราะถ้าเราไม่พูดประโยคสิบเอ็ดพยางค์นั้นออกไป วันนี้เราอาจจะยังไม่มีเพื่อน ไม่มีคนนั่งกินข้าวด้วย ไม่มีคนวิ่งหนีผึ้งตอนเที่ยงด้วยกัน และไม่มีคนมาจุ๊บแก้มบอกว่า "เจอกันวันจันทร์นะ" ในตอนเย็น...
การตัดสินใจเดียวเปลี่ยนโลกเราทั้งใบเลย
ดัง นั้น ใครก็ตามที่กำลังอ่านอยู่ คุณอาจจะไม่ได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนเรา แต่ขอให้จำไว้ว่าจงลองยื่นมือออกมาจากคำว่าความกลัว แล้วคุณจะพบว่ามันก็แค่สิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง ทุกคนไม่มีใครรังเกียจคุณ หากคุณต้องการสิ่งใดจากเขา จงให้สิ่งนั้นกับเค้าก่อน หากคุณต้องการมิตรภาพ จงหยิบยื่นมัน แล้วคุณจะได้คืนมาเป็นทวีคูณ เราเข้าใจ ... พูดง่ายแต่ทำยาก แต่จงย้ำไว้ในใจ ความพยายามไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว มันเป็นสิ่งที่น่านับถือมาก
เราได้เรียนรู้สิ่งนี้จากเพื่อนแลกเปลี่ยนญี่ปุ่น ขอบคุณมากๆ นะอาโออิ :]
เอาล่ะ เราทำได้ คุณก็ทำได้ดีกว่าเราอีกนะ :)) สู้ตายยยยยยยยยยยยยยย
ความคิดเห็น