ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The One That I Adored

    ลำดับตอนที่ #2 : I Kissed The Girl (18+)

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 57


      I Kissed A Girl

     


    คำเตือน การดื่มสุราเป็นเรื่องที่ไม่ดีและไม่ควรทำตามนะคะ

     

      “มึงกูจะทำได้หรอวะ”    สาวหัวทองประหม่านิดๆ ชักจะไม่มั่นใจ เมื่อใกล้จะถึงจุดหมายที่ตัวเองมั่นหมายว่าจะมาให้ได้แต่แรกแท้ๆ      ตอนนี้ก็ดันปอดแหกขึ้นมากระทันหัน แต่พื่อนสาวตัวดีก็ลากมาถึงหน้า Rainbow ผับจนได้น่ะสิ 

     

    “ อย่าปอดแหกกกกกกกก ขอร้องเลย ถึงแล้วไมล์ วันนี้แกแต่งตัวเท่ห์ซ่าส์กระชากใจสาวมากเชื่อฉัน ขอพูดเพราะๆแปบ ไม่อยากพูดหยาบสาวๆมาได้ยินเดี๋ยวจะไม่ประทับใจ”  

     

    คาร่าหันมายักคิ้วยิ้มมุมปากทำสีหน้ามั่นใจหน้าหมั่นไส้ พร้อมทำท่ากระชับเสื้อแจ๊คเก็ตยีนส์ตัวเท่ห์ตัวเอง  ไมลีย์ล่ะหมั่นไส้ขี้หน้าความมั่นหน้าตัวเองของเพื่อนรักสุดๆ  แต่คาร่าในแจ๊คเก็ตยีนส์นี่ก็เท่ห์จริงๆอย่างปฎิเสธไม่ได้



    วันนี้ไมลีย์ลงทุนไปไถผมมาใหม่ เป็นทรงเปิดข้าง ไถข้างหลังสุดเก๋  ตอนส่องกระจกดูตัวเองในแจ๊คเก็ตสีดำก็รู้สึกว่าเท่ห์ไม่แพ้คาร่าเหมือนกัน  เสียอย่างเดียว ใครจะรู้ว่า สาวเท่ห์ที่ดูเป็นคิงเต็มตัวคนนี้จะอ่อนประสบการณ์และไม่ได้รู้เรื่องการจีบผู้หญิงอะไรทั้งนั้นนั่นแล่ะ เห้อออ!

     

    แต่เวลาในการคิดตริตรองอะไรมันก็เหลือไม่พอแล้วเพราะคาร่าลากเพื่อนสาวผมทองมาถึงประตูทางเข้าผับแล้ว ในจังหวะที่คาร่าเอื้อมมือไปเปิดประตู  หัวใจไมลีย์ก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ รู้สึกขวัญหนีดีฝ่ออย่างไรก็บอกไม่ถูก แต่จะหันหลังกลับก็คงไม่ทัน


    เมื่อเท้าก้าวแรกเหยียบเข้าไปในทางเดินมืดที่มีไฟนีออนสีน้ำเงิน  สิ่งแรกที่ไมลีย์สัมผัสได้ก็คือ
     ‘เสียงอื้ออึงของดนตรี’ ที่ประดังประเดเข้ามาทันที น่าแปลกที่เสียงดังขนาดนี้ ไม่เล็ดลอดผ่านประตูหนานั่นมาสักนิด 

     

    สองสาวค่อยๆเดินเข้ามาในทางแคบมืดๆนั่น ไมลีย์รู้สึกงงว่าเดินกันไปได้อย่างไร มืดก็มืด แคบก็แคบแต่เมื่อเดินเข้ามาถึงส่วนกลางของร้าน บริเวณที่เป็นโต๊ะ และ บาร์ แสงนีออนวิบวับหลากสีที่และไฟจากดิสโก้บอลนั้นยิงฉายพาดผ่านสายตาไปทั่วทั้งร้าน มันชวนให้ไมลีย์เมาตั้งแต่ยังไม่สั่งเครื่องดื่มอะไรทั้งนั้น  

    คำว่าเมาแสงสีมันเป็นยังงี้นี่เอง


    ไมลีย์เห็นภาพทุกคนในร้านแค่เบลอๆมืดๆ ใครๆก็ดูสวยไปหมดในแสงสีแบบนี้ นี่สินะที่เรียกว่าแสงสีทำให้ผีเป็นคน จะหาสาวสวยจริงๆเจอสักคนมั้ยเนี่ย แถมคนก็เต็มร้านเนืองแน่นไปหมด จะเดินจะเหินทีก็ต้องเบียดเสียดกัน

     



    คาร่าลากไมลีย์มาถึงโซฟามุมหนึ่งของร้านแล้วนั่งลง  ไมลีย์ยังคงสำรวจรอบๆร้าน มีสาวสวย สาวเท่ห์เต็มร้านไปหมด บางคู่ก็เต้นสีกันไปมาจนแทบจะรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกัน บางคู่ก็ยืนจูบกันอย่างดูดดื่ม แต่ที่เด็ดกว่าคือ บางคู่ก็นัวเนียกันอยู่บนโซฟา ไมลีย์กลืนน้ำลายเอื๊อก  เมื่อเห็นภาพเหล่านั้น

     

     

    ไมลีย์ไม่เคยมองว่าผู้หญิงกับผู้หญิงจูบกันเป็นเรื่องน่าขนลุกแต่อย่างใด ไมลีย์รู้สึกว่ามันสวยงามด้วยซ้ำ แต่การที่จะมาจูบหรือนัวเนียกับใครในที่สาธารณะแบบนี้บอกเลยว่าก็ต้องประหม่าเหมือนกันแต่จากที่สังเกตก็ไม่ได้มีใครสนใจใคร ต่างคนก็ต่างทำไป แบบอารมณ์พาไปทั้งนั้น

     

        “ ไมล์ นี่เพื่อนฉัน”  

        คาร่าโอบรอบคอไมลีย์เพื่อดึงความสนใจจากไมลีย์ เพราะรู้ว่าไมลีย์คงจะประหม่าตกใจอยู่แน่ๆ ไมลีย์หันมามองเพื่อนใหม่ของคาร่าที่เดินเข้ามา  พลันสายตาไมลีย์หันมาประจันกับสาวเจ้าตรงหน้าก็ต้องชะงัก 


    อื้มหืมมม     หุ่นคุณเธอออออ !!


    ไมลีย์แม้จะเป็นผู้หญิงก็ขอตื่นเต้นหน่อยเถอะ ร่างเพื่อนสาวของคาร่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้มีผมสีดำยาวสลวย ผิวสีแทน แม้ดูในแสงที่มืดสลัวก็รู้ว่าผิวสีแทน ดวงตาคม ริมฝีปากหนาอวบอิ่ม และ...หน้าอกกลมโตนั่น บอกเลยว่าช่างดูเพอร์เฟ็คต์จริงๆ   ให้ตายสิ สวยคมเวอร์ๆ!

     

    “ นาย่า มานั่งข้างไมลีย์สิ”   คาร่าบุ้ยหน้าไปทางข้างๆไมลีย์  ไมลีย์ผงะ ตื่นเต้น ได้แต่คิดในใจว่า จะวางตัวยังไงดี 'เห้ยๆ ถ้าสาวมาไมลีย์ต้องทำคูล จำคำคาร่าไว้!!'

     

    ไมลีย์ตั้งตัวใหม่ ยืดตัวขึ้นหลังตรง ส่งสายตาหยาดเยิ้มให้สาวผมดำคนนั้น แต่พูดตรงๆนะ สาวผมดำคนนี้เซ็กซี่มากพอที่จะให้ไมลีย์ใช้สายตาโลมเลียจริงๆ เพราะต่อให้เจอสาวคนนี่ที่ไหน ไมลีย์ก็คงต้องมองแน่ๆ ก็คุณเธอดันสวยคมหุ่นเป๊ะขนาดนี้จะไม่มองได้ไง  คาร่าเลือกคนได้เจ๋งจริงๆ

     

    “ สวัสดีค่ะนาย่า ฉันไมลีย์ ไซรัสนะคะ”    ไมลีย์ยื่นมือไปให้คนสวยตรงหน้า แต่ผิดคาด นาย่าเลื่อนหน้าเข้ามาไมลีย์แทน และกระซิบด้วยเสียงแหบๆเซ็กซี่ว่า

     

    “ฉัน นาย่า ริเวอร์ร่าค่ะ”   

     

    พลันได้ยินเสียงแหบนั้นขนไมลีย์ลุกซู่ นอกจากหน้าสวยๆแล้วเสียงเซ็กซี่พิฆาตมาก แถมกลิ่นตัวก็หอมชวนเคลิ้มสุดๆ ไมลีย์รู้สึกสติกระเจิงทันที  ด้วยความที่ตื่นเต้นมากจนไม่รู้จะทำอะไร ไมลีย์จิกขาคาร่าไปจึ้กหนึ่งแรงๆ  คาร่าร้องโอ๊ยลั่น ต่อยไมลีย์คืนเบาๆที่แขน

     

    “มึงเป็นบ้าไรจิกขากูทำไม”  คาร่ากัดฟันกระซิบข้างหูไมลีย์เบาๆ

     

     

        “ มึงเขาสวยมากกูตื่นเต้นว่ะ”    ไมลีย์กัดฟันกระซิบตอบคาร่า  นาย่า มองพฤติกรรมทั้งสองคนอย่างสงสัย  โธ่ .. นาย่าอย่ามองฉันอย่างนั้น คือ ไมลีย์เขินจริงๆ เขินจนทำตัวไม่ถูก T T

     

        
         “ มึงห้ามตื่นเต้น คนนี้ล่ะ กูจะให้มึง”    คาร่ากระซิบตอบขมวดคิ้วหนานั่นสายตาจริงจัง  ไมลีย์หน้าแดงฉ่า ภาวนาในใจขอให้แสงสีสลัวๆในร้านมันทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็น  คำตอบนี้ยิ่งทำให้สาวห้าวทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่ พลันจู่ๆเด็กเสิร์ฟสาวเท่ห์ก็เอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ เป็นคอกเทลสีขาวๆผสมส้ม ดูน่าดื่ม แปลกตา และก่อนที่ไมลีย์จะเอ่ยท้วงว่ายังไม่ได้สั่ง นาย่าก็เป็นคนเฉลยซะก่อน

     

        “ฉันสั่งให้เธอสองคนเองคะ  ไมลีย์จะชอบมั้ยคะ  อันนี้เป็นคอกเทลใหม่ของทางร้านนะ ปกติร้านนี้ไม่มีตัวนี้ ตัวนี้เรียกว่า ซอมบี้”



    นาย่าส่งเครื่องดื่มสีขาวส้มให้ไมลีย์ ไมลีย์ดมกลิ่นมัน กลิ่นคล้ายๆกลิ่นส้มผสมมะนาว ผมทองค่อยๆลองจิบเบาๆ .. รสชาติ เปรี้ยวๆซ่าๆ สัมผัสลิ้น ถูกใจไมลีย์มากตามแบบที่เจ้าตัวชอบเป๊ะ

     

     

    “ เฮ้..ฉันชอบทานรสชาติเปรี้ยวๆมาก นาย่ารู้ได้ไง”   ไมลีย์ส่งยิ้มให้นาย่า  ก็คาร่านั่นและ แมสเสจมาบอกนาย่าให้เตรียมตัวนี้ไว้ไมลีย์ชอบแน่ๆ เพราะคาร่ารู้ว่าไมลีย์ชอบกินเปรี้ยว

     

     

    “ ก็เดาเอาค่ะ”    นาย่า ส่งยิ้มยั่วยวนมาให้ 


          แอลกอฮอลล์ลงคอไมลีย์ก็ชักจะไม่เหมือนเดิมซะแล้วด้วย แล้วไมลีย์ก็คิดว่าการที่จะทำตัว ง่ายๆกับผู้หญิงก็ไม่เสียหายอะไร คืนนี้ไมลีย์จะปลดปล่อยตัวเอง จะปล่อยใจปล่อยกายไปกับแสงสี แอลกอฮอลล์  และสาวๆให้สาสมใจ  บอกเลยว่ามาสถานที่แบบนี้ ซึ่งไม่มีผู้ชายแม้แต่คนเดียวให้ไมลีย์เห็นนั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะถ้าไมลีย์เห็นใครสักคนที่ลักษณะคล้ายเลียม สติคงกระเจิดกระเจิงแน่ๆ  คงจะได้ร้องไห้แทนการมาปลดปล่อย

     

         ไมลีย์ยื่นมือไปโอบรอบเอวนาย่าไว้ ส่งยิ้มหวานให้ นาย่าก็เหมือนรู้งานดี กระเถิบเข้ามานั่งใกล้ไมลีย์จนแทบจะขึ้นตัก ส่วนคาร่าเห็นว่าเป็นไปด้วยดี ก็ลุกหนีไปสีสาวๆกลางฟลอร์แล้ว  ไมลีย์กับนาย่านั่งคุยกันไปจิบเครื่องดื่มไป ฤทธิ์ของมึนเมาก็เริ่มจะทำงานโดยอัตโนมัติ

     

     

        ไมลีย์เล่าให้นาย่าฟังว่าเรียนอยู่ที่ไหน พักที่ไหน  ไมลีย์ก็เลยได้รู้ว่า นาย่า เป็น บาร์เธนเดอร์ ของที่นี่ แต่วันนี้ไม่ใช่คิวเธอเข้างานแต่แวะมาร้านเพราะคาร่าอยากให้มา สักพักก็มีบริกรมาเสิร์ฟเครื่องดื่มอีก คราวนี้เป็นสีชมพูสดใส ปนขาว 

     

        “ตัวนี้อะไรคะเนี่ย”   ไมลีย์พินิจเครื่องดื่มสีสวยนั่น  หยิบมันมาจ้องในระดับสายตาหมุนดูรอบแก้วไปมา


        “คล้ายๆ  sex on the beach ค่ะ แต่เป็นสูตรของทางร้านเราชื่อว่า sex on the bar”



         ไมลีย์ยกเครื่องดื่มใหม่ขึ้นจิบ  ตัวนี้รสชาติแรงมาก แต่ก็กลมกล่อม  ออกหวานๆละมุนลิ้นแต่ความขมของแอลกอฮอลล์ก็เข้มมากๆจนสัมผัสได้

     

        “ใช้ได้เลยค่ะ ว่าแต่ทำไมมันถึงชื่อนี้ล่ะ”  ไมลีย์จิบเสร็จก็ค่อยๆเลียปากตัวเองเบาๆ อยากจะทำเซ็กซี่อ่อยแม่สาวคนนี้กลับบ้าง แต่คำตอบที่นาย่าให้นั้น กลับทำให้ความเซ็กซี่ของไมลีย์ต้องพังทลายลง

     

        “ เวลาดื่มเข้าไปจะรู้สึกเร่าร้อนๆ เหมือน.....”  นาย่ายกลากนิ้วชี้ขึ้นมาริมฝีปากไมลีย์และไล้นิ้วเรียวนั้นวนไปวนมา ไมลีย์บอกเลยว่า แอลกอฮออล์บวกกับกลิ่นน้ำหอมของนาย่ามันทำให้ไมลีย์คลั่ง แถมภาพหนังโป๊เมื่อวานที่ดูก็วนไปวนมาในหัว

     

       “เหมือนอยากจะจูบใครสักคน”  


        นาย่ากัดปากเบาๆ ไมลีย์ใจเต้นระรัว สะกดความรู้สึกตัวเองไว้ไม่ไหวแล้ว คิดว่า มันคงถึงเวลาแล้วที่ต้องปล่อยตัวเองไปกับบรรยากาศและดนตรี ไม่มีอะไรเสียหาย ไม่มีอะไรต้องกังวล หลังแอลกอฮอลล์เข้าปากรู้สึกได้ว่า สมองมันหนักอึ้ง แต่กลับมีเป็นอิสระ ไร้การควบคุม ที่สำคัญคือรู้สึกเหมือนอารมณ์ข้างในมันร้อนรุ่มราวกับจะประทุและกำลังต้องการการปลดปล่อยอย่างรุนแรง

     


        ..  สาวผมทองประสานสายตาสีฟ้าสวยกับนัยต์ตาสีน้ำตาลเย้ายวนตรงหน้าสักพัก เมื่อได้จังหวะที่รู้สึกว่าสมควร ไมลีย์โน้มตัวลงไปประทับปากจูบกับนาย่า บดเบียดริมฝีปากตัวเองไปตักตวนความหอมหวานจากร่างเย้ายวนเซ็กซี่ของสาวผิวแทน ซึ่งสาวผิวแทนก็จูบตอบมิได้แสดงอาการรังเกียจอย่างรู้งาน 


           ปล่อยตัวปล่อยใจไป ไม่มีอะไรต้องกังวล ... และไม่น่าเชื่อมันรู้สึกดีกว่าที่คิด ... การจูบกับผู้หญิงมันต่างจากผู้ชายมาก ลิ้นไมลีย์ลิ้มรสชาติลิปกลอสหวานเข้ามาในปากผสมกับกลิ่นคอกเทล หวานปนขม ทำให้การจูบยิ่งเพิ่มความหวานทวีคูณ  สาวผมทองบรรจงขบริมฝีปากอวบอิ่มนั้น กลืนกินรสชาติลิปกลอสหวานๆแบบที่ตัวเองไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน  หัวใจไมลีย์เต้นรัวแรง ...

                                                                                                                                            

    จูบครั้งแรกกับผู้หญิงรู้สึกดีกว่าที่คิด ...         

     

        มันละมุนและหอมหวานกว่าตอนจูบผู้ชาย ไมลีย์ชอบอารมณ์ที่เหมือนตัวเองเป็นผู้คุมเกมมาก เพราะนาย่าค่อยๆอ่อนระทวยลงนอนราบกับโซฟานุ่ม ไมลีย์เอามือตัวเองลงไปสัมผัสต้นขานาย่า บรรจงลูบไล้มันไปมา ก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ไมลีย์ทำอย่างนั้น

     

    มันน่าจะเป็น... “ สัญชาตญาณ”

     

     ไมลีย์รู้สึก..สุขสม เมื่อคนใต้ร่างยุกยิกขาไปมาเหมือนกำลังรู้สึก..

     ไมลีย์รู้สึกสนุก.. ที่เหมือนเป็นผู้คุมเกม

     

     

        นาย่าจิกผมสีทองไมลีย์แน่น เมื่อไมลีย์บรรจงกดจูบเร่าร้อนลงไปอีกครั้ง..  ไมลีย์เข้าใจแล้ว ว่าผู้หญิงกับผู้หญิงมันเป็นยังไง ไมลีย์รู้แล้วว่าความรู้สึกเมื่อตัวเองได้คุมเกมส์มันดีกว่า ... ตลอดเวลาที่ไม่ยอมมีอะไรกับเลียม ก็เพียงเพราะ

     

        ไมลีย์ไม่เป็นตัวเอง เมื่อรู้สึกว่าโดนใครสักคน กำลังคุมเกม

     

        ไมลีย์ไม่ชอบเวลาร่างหนาข้างบนสัมผัสเรือนร่างตัวเองมันเหมือนถูกสร้างตราบาปให้ตัวเองเป็นจุดๆ ผู้หญิงโดนผู้ชายจับตรงไหน.. มันก็อาจจะแปดเปื้อนตรงนั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาจะทิ้งไปวันไหน ...

     

        ทิ้งเราไว้แค่ความแปดเปื้อนโง่ๆ ของคนที่อยากเสร็จสมกับอารมณ์ตัวเอง ทุเรศสิ้นดี  ความแค้นในใจไมลีย์แอบปะทุขึ้นมานิดๆ ไม่ได้เจ็บแค้นที่โดนเลิกไป แต่สมเพชตัวเองที่เคยปล่อยให้ชายคนนั้นจูบตัวเอง คุมเกม คุมจิตใจตัวเอง แล้วสุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็โยนมันทิ้ง 

       
         เหมือนไมลีย์ ด้อยค่าเป็นหญิงค้าบริการราคาถูก


       
         คิดจะทิ้งก็ทิ้งก็จบ หึ.. ไมลีย์กลืนความแค้นนั้น เปลี่ยนความแค้นมาเป็นพลังจัดการกับสิ่งเย้ายวนที่อยู่ตรงหน้านี้ดีกว่า ปลดปล่อยความแค้นออกมาเป็นความเร่าร้อนของจูบ

     

        ไมลีย์กำลังสนุกตื่นเต้นเมื่อได้ลองอะไรแปลกใหม่ ได้ควบคุมร่างเซ็กซี่ข้างล่างให้ไปตามเกมจูบของตน

      
      นี่แล่ะ..... ความรู้สึกดีๆที่ไมลีย์หามานาน

     

        ไมลีย์ถอนริมฝีปากตัวเองออกจากปากอวบอิ่มนั่น พร้อมกดจูบย้ำครั้งสุดท้ายเบาๆ นาย่า ส่งเสียงหอบหายใจเบาๆรดหูคนผมทอง ไมลีย์ดูออกว่าเธอต้องการ ซึ่งไมลีย์ก็ต้องการ ...

     

        “ ไม่ใช่ตรงนี้ไมลีย์ ตามฉันมา”  

          นาย่าค่อยๆดันตัวลุกขึ้น ไมลีย์ลุกตามอย่างว่าง่าย  นาย่าจับมือไมลีย์เดินเข้ามาที่ประตูเล็กๆ ข้างๆบาร์ๆ    ไมลีย์หันกลับไปที่ฟลอร์เพื่อมองหาคาร่าแวบนึง เห็นคาร่าส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ตัวเอง และพยักเพยินดว่าให้ตามสาวคนนั้นเข้าไป ไมลีย์ส่งยิ้มมุมปากคืนให้เพื่อนสาวและพยักหน้ากลับไปให้รู้ว่า "ทราบแล้ว"

     

       ไมลีย์เดินตามเข้ามาหลังประตูนั่น ไม่อยากเชื่อเลยตอนแรกนึกว่าเป็นประตูสำหรับออกหลังร้าน ... แต่ข้างในนี้กลับเป็นห้องพักด้วย มีหลายห้องเรียงกัน ซ่อนอยู่ในประตูข้างบาร์นี่เอง  นาย่าหยุดที่ห้องๆหนึ่ง แล้วหยิบกุญแจที่ซ่อนไว้ ในบราออกมา 

     

        “นี่ห้องพักส่วนตัวฉันเอง ฉันมีกุญแจไว้เพราะทำงานที่นี่เลยได้ห้องพักฟรีห้องนึง”   นาย่าอธิบายเพราะเห็นไมลีย์มองจ้องมาด้วยสีหน้าที่ดูงงๆ แต่ผิดคาด

     

         “ ปล่าว .. ไม่ได้สงสัยเรื่องนั้น แค่สงสัยว่า ทำไมตอนหยิบกุญแจไม่ให้ฉันช่วยหยิบ”   

        ไมลีย์กระซิบข้างหูสาวผมดำเบาๆด้วยเสียงยั่วยวนสุดเจ้าเล่ห์
     นาย่ายิ้มมุมปากพร้อมเชิดหน้าปรายสายตาเซ็กซี่ให้สาวเท่ห์ผมทอง ' ไม่อยากจะเชื่อว่าคนๆนี้เคยคบกับผู้ชาย' นาย่าคิดเบาๆในใจ เพราะการกระทำของไมลีย์มันดูราวกับ ไมลีย์เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ตั้งแต่แรก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของไมลีย์ช่างเย้ายวนใจนาย่า

     

        “ ไปหยิบเอาข้างในละกัน”  

         นาย่ากระซิบห้างหูไมลีย์ พลางเปิดประตูห้องเข้าไป  ไมลีย์รู้งานดีผลักร่างตัวเองและสาวเซ็กซี่เข้าไปในห้อง ใส่กลอนประตูอย่างรู้งาน  พร้อมเหวี่ยงแจ๊คเก็ตสีดำตัวเองออก บดเบียดกายตัวเองกับสาวผิวสีแทนสองมือไวรีบถอดเสื้อเกาะอกสีดำของสาวเจ้าอย่างคล่องมือ

     

        ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก เหมือนนาฬิกากำลังเร่งเวลาให้เดินไวขึ้น  ไมลีย์ทำทุกอย่างที่ตัวเองได้เรียนรู้มาเพียงคืนเดียว จากคลิปนั่น  ครั้งแรกกับผู้หญิง

     

         แต่ไมลีย์คาดไม่ถึงว่ามันเกิดขึ้นจากสัญชาตญาณของไมลีย์เอง

       
     
         ไม่อาจรู้ตัวเองได้เลยว่าทำทุกอย่าง อย่างคล่องและคุ้นเคยไปได้อย่างไร ภาพร่างเซ็กซี่สีแทนบิดเร่าเอาเล็บแหลมจิกหลังไมลีย์พร้อมครางเสียงกระเส่าดังก้องวนไปมาในหูไมลีย์ กระตุ้นให้ไมลีย์ทำมันได้ดีอย่างไม่ต้องให้ใครมาสั่งมาสอน  สองมือลูบไล้กายสาวผิวแทน ปากกดจูบไปทุกส่วนบนเรือนร่างเซ็กซี่ บทรักดำเนินไปอย่างไม่ติดขัดอย่างที่ทุกคนคาดคิด

     

        ไมลีย์พอใจกับสิ่งที่ตนทำ  สุขสมกับสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป  ไม่เสียใจสักนิด ตื่นเต้นซะมากกว่าที่ได้ทำแบบนี้..


       ไมลีย์มอบความสุขให้ผู้หญิงคนนึง ไม่มีอะไรเป็นเรื่องผิดสักนิด


        ผู้ชายต่างหากล่ะที่ผิด ที่คิดจะมาเอาแต่ได้กับผู้หญิง

     

    ____________________________________________________________________________

     

     

     

     

    “ เธอจะออกไปเต้นกับคนอื่นก่อนก็ได้นะมันพึ่งจะตีหนึ่งเอง” 


    เสียงแหบห้าวของนาย่าเอ่ยทำลายความเงียบ  หลังเสร็จภารกิจของสาวทั้งสอง ไมลีย์กำลังแต่งตัวให้เรียบร้อยและเติมลิปสติกตัวเองอยู่หน้ากระจก  หัวทองหันหน้าไปตามเจ้าของเสียงแหบเซ็กซี่ที่นอนเปลือยกายบนเตียง มีเพียงผ้าห่มสีขาวปิดเรือนกาย

     

    “นาย่าจะไม่ออกไปเต้นไปสนุกข้างนอกแล้วหรอกว่าผับจะปิดก็ตั้ง โมงเช้า” 


    ไมลีย์หันไปยิ้มอ่อนโยนให้  แต่ทว่าก็ไม่มีความรู้สึกอื่นๆแฝงในเซ็กส์ครั้งนี้ ไม่มีความรัก ไม่มีความชอบ มีแต่ความพอใจของคนสองคนจึงเลือกกระทำ หลังจากมีอะไรกัน มันก็แค่นั้น ไมลีย์ไม่ได้พยายามทำความรู้จักกับสาวคนนี้ต่อ ไม่ได้หวั่นไหวหรือมีความรู้สึกอยากจะคบหาดูใจต่อไป แต่ถ้าอยากปลดปล่อยเมื่อไหร่ก็ไม่แน่ ...

     

    “ไม่ล่ะ จริงๆวันนี้มันวันหยุดฉันนี่นา ฉันก็ควรจะพักสิจริงมั้ย?”  นาย่าส่งยิ้มหวานตอบไมลีย์

     

    ‘ ไม่น่าเชื่อว่าคนๆนี้จะไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน คนๆนี้ดูไม่อ่อนหัดเลย ดูช่ำชอง ถึงจะไม่ได้ถึงขั้นว่าเชี่ยวชาญ แต่ก็ดูคล่องแคล่วแล้วก็ทำให้สำเร็จความใคร่ได้ด้วย’

     

         นาย่าพินิจดูสาวเจ้าที่นั่งแต่งหน้าแต่งตัวอยู่ปลายเตียง ทั้งเท่ห์ ทั้งสวย ทั้งมีเสน่ห์ ผู้ชายคนไหนนะมันทิ้งได้ลง ช่างโง่จริงๆ  ถ้าไมลีย์มาจีบนาย่าจริงๆจังๆ คงไม่แคล้วที่ตัวเองจะเคลิ้มตกหลุมรักตามอย่างง่ายดายแน่ๆ   ไมลีย์หยิบแจ็คเก็ตดำขึ้นมาสวมเสร็จก็เดินมานั่งข้างๆเตียงพลางลูบปอยผมของนาย่าเบาๆ

     

    “งั้นฉันไปเต้นก่อนนะ บาย”  ไมลีย์จุ๊บที่ปากอวบอิ่มของนาย่าครั้งสุดท้าย ก่อนจะเปิดประตูห้อง แต่ก่อนที่ไมลีย์จะก้าวเท้าออกไป เสียงแหบเสน่ห์ก็เรียกให้หยุดก่อน

     

    “เรียกคาร่าให้ฉันด้วย”  


    สาวเซ็กซี่ปรายตามองไมลีย์เป็นครั้งสุดท้ายของคืนนี้พร้อมยิ้มให้


    “ โอเคจ้ะ” 

     ไมลีย์ยิ้มตอบก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไปและปิดประตูลง

     




         เมื่อออกมายัง ตัวร้านอีกครั้ง .. แสงไฟหลากสีสลัวระยิบระยับยิงเข้าตาไมลีย์ ทำให้ไมลีย์แอบมึนงงและยืนปรับสายตาสักพัก ไมลีย์พยายามมองหาคาร่า พลันสายตาเห็นคาร่ากำลังยืนเต้นโยกไปมาดูน่าขำกับสาวผมทองยาวสลวยหน้าหวานที่ไหนไม่รู้  

       ไม่รู้ล่ะไมลีย์คงต้องขอขัดจังหวะเพื่อนซะก่อน ไมลีย์เดินเบียดสาวๆท่ี่เต้นกันสนุกสนานตรงเข้าไปสะกิดไหล่คาร่า พร้อมตะโกนดังๆที่ข้างหูเพื่อนขี้เมาตัวเอง กลิ่นเหล้าปะทะกับจมูกไมลีย์หึ่ง แถมหน้าคาร่าแม้จะดูในไฟสลัวยังดูออกว่า เกินคำว่ากรึ่มมาแล้ว

     

       “นาย่าบอกให้ไปหา”  

        ไมลีย์ตะโกนกรอกหูเพื่อนแข่งกับเสียงเพลงอื้ออึงในร้าน  คาร่าพยายามรวบรวมสติสตังที่มีอยู่ พยักหน้าให้ไมลีย์ พร้อมทำมือเป็นสัญลักษณ์โอเคว่าทราบแล้ว  คาร่าหันไปกระซิบอะไรกับสาวผมทองคนนั้นและเดินแทรกตัวออกจากบริเวณฝูงชนที่เต้นกันสนุกสนานเนืองแน่นออกไป 

     


        สาวผมทองยาวคนนั้นสะกิดไมลีย์ ไมลีย์ตกใจเบาๆ เพราะตอนนี้จะให้มาเริ่มกับใครใหม่ก็ไม่ไหวนะ พึ่งจะจัดไปหนึ่ง เหนื่อยแย่เลย แค่อยากออกมาเต้นเฉยๆ .. เพลงสนุกดี ยังไม่ได้เต้นเลย แต่ก็ผิดคาด ไมลีย์ต่างหากที่คิดไปไกล 

     

       “ คาร่าบอกว่าให้เธอมาเต้นกับโต๊ะฉันก็ได้”   


        สาวผมยาวพูดกับไมลีย์  ' เอ๊า..นี่เราคิดมากไปหรือนี่'  ไมลีย์ยิ้มพยักหน้ารับ ไม่มีการถามชื่อเสียงเรียงนามอะไรทั้งนั้น มีแต่การสั่งเครื่องดื่ม และก็เต้นๆๆ ไมลีย์ชอบเพลง อิเล็กโตรพอสมควรเหมือนกัน  เธอสนุกสนานกับการได้เต้น ได้ปลดปล่อย พวกผู้หญิงโต๊ะนี้สองสามคนชวนเธอมาเต้นด้วยกัน ซึ่งการเต้นกับผู้หญิงด้วยกันก็ไม่มีอะไรต้องเขินอายอยู่แล้ว  


        ไมลีย์สังเกตว่าบนเวทีหน้าฟลอร์เริ่มมีนักดนตรีกำลังเตรียมตัวตั้งเครื่องเสียงอยู่สำหรับดนตรีสด พลันสักพักเสียงเพลงอิเล็กโทรนิคก็ค่อยๆหรี่ลง เสียงกลองและเบสค่อยๆดังหนักแน่นขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าดนตรีสดกำลังจะเริ่มแล้ว

     

         “สวัสดีชาว Rainbow ผับ ผับของสาวๆทุกคน และขอต้อนรับในคืนวันศุกร์นี้ พร้อมจะสนุกกันรึยัง  3 2 1 Go!”

     


          นักร้องสาวเดินขึ้นมาพร้อมแผดเสียงหวานแหบเสน่ห์ของตัวเองผ่านไมโครโฟนก้องไปทั้งผับ ทุกคนในผับต่างส่งเสียงเฮฮา กรี๊ดกร๊าดต้อนรับ ไมลีย์เองก็ส่งเสียงวู้ๆต้อนรับไปด้วย และเมื่อนักร้องสาวหุ่นอวบอึ๋มเดินขึ้นมาถึงหน้าเซ็นเตอร์เวทีไมลีย์ก็ต้องชะงัก .

     

         ดวงตาสีฟ้าสวยของไมลีย์กำลังเพ่งออกไปที่นักร้องสาวคนนั้น พยายามใช้สายตามองพินิจบุคคลที่ดูคุ้นตาแต่เห็นไม่ชัดนัก ใครกันนะทำไมคุ้นขนาดนี้? ไมลีย์จึงพยายามเดินฝ่าฝูงชนที่เต้นกันอยู่เบียดเสียดไปให้ถึงหน้าเวที เพลงป๊อปคุ้นหูก็ดังขึ้นมา

     

     

     

    “  I kissed a girl and I liked it
    The taste of her cherry chapstick
    I kissed a girl just to try it
    I hope my boyfriend don't mind it

     

    และเมื่ออยู่ใกล้เวทีมากพอ ไมลีย์ก็เงยหน้ามองนักร้องสาวคนนั้นดูชัดๆให้เต็มตาอีกครั้ง .. ใช่จริงๆด้วย ..    "เคธี่ เพอร์รี่”  

     

          เคธี่เป็นย่ารหัสของไมลีย์   ตอนไมลีย์อยู่ปีเคธี่ก็อยู่ปี4  เราไม่ค่อยได้คุยกันมากนักเพราะเวลาเรียนที่ต่างกัน ตอนไมลีย์อยู่ปีวุ่นวายกับรับน้อง ส่วนเคธี่ก็วุ่นวายกับการทำโปรเจ็คจบ 

         ไมลีย์จำเคธี่ได้ดี เธอสวยมาก นัยต์ตาสีเทาหวาน จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากอวบอิ่ม ผมดำขลับยาวสลวย หุ่นอวบนั้นทำให้เธอมีเสน่ห์ ดูสวยแบบสุขภาพดี ร่าเริง แม้จะไม่ค่อยได้คุยกัน แต่มีบางครั้งที่เราได้นัดเลี้ยงสายรหัสกันบ้าง เคธี่เป็นรุ่นพี่แสนสวยและดีกับไมลีย์มาก ไมลีย์ไม่มีวันลืม แต่ก็ไม่ได้พบกันเลยตั้งแต่เคธี่เรียนจบไป ...

     

     

          สายตาไมลีย์มองขึ้นไปยังร่างอวบหน้าสวยที่คุ้นเคยนัก รู้สึกดีใจที่ได้เจอกันอีก แต่ไมลีย์ไม่รู้ว่าเคธี่จะมองเห็นตัวเองรึยัง ไมลีย์ยิ้มให้และเต้นตาม พยายามโบกไม้โบกมือให้เคธี่เห็นตัวเอง พลันสักพักเมื่อถึงท่อนโซโล่ ทุกคนเริ่มจะเพลาจังหวะการเต้นของตัวเองลง ไมลีย์กระโดดเหยงๆ จนสายตานักร้องสะดุดกับเธอเข้า  สายตานักร้องสาวดูจะชะงักไปนิดนึง แต่ยังคงเปล่งเสียงหวานร้องเพลงต่อไป

     

    Us girls we are so magical
    Soft skin, red lips, so kissable
    Hard to resist so touchable
    Too good to deny it
    Ain't no big deal, it's innocent

                                                   

         เมื่อจบท่อนนี้เคธี่ยิ้มให้ไมลีย์นิดนึงและโบกมือให้ก่อนร้องท่อนฮุคต่อ ไมลีย์ก็โบกมือกลับรู้สึกดีใจที่เคธี่จำตัวเองได้ ไมลีย์เต้นต่อไปขยับปากร้องเพลง I Kissed A Girl ตาม นักร้องสาว พลันสักพักสมองคิดอะไรบางอย่างได้ ภาพความทรงจำ... วันนั้น วันที่บอกว่าได้ใครเป็นพี่รหัสกับเลียม

     

    “ ฉันได้พี่บาบาร่าเป็นพี่รหัสแล่ะเลียม”    

    .. ไมลีย์ในลุคผมยาวสีน้ำตาลลอนวิ่งมาหาเลียม


    “ โห...พี่รหัส สวยเชียวเธอ นางแบบเลยนะนั่น ได้ข่าวว่า ฮอตมากเลยนี่”   ชายหนุ่มรูปหล่อทำสายตาตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าใครเป็นพี่รหัสของแฟนสาวตัวเอง

     

    “ทำไมจะจีบพี่รหัสฉันหรอไง เสียใจย่ะฉันพี่เขามีแฟนแล้ว”   

    ไมลีย์ทำเบ้ปากใส่แฟนหนุ่ม เลียมหัวเราะพร้อมขยี้หัวไมลีย์


    “พี่เขาก็ต้องเสียใจเหมือนกันแล่ะเพราะฉันมีแฟนแล้ว”  ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอาแขนแข็งแรงโอบรอบคอแฟนสาว ทำเอาสาวเจ้าตัวเขินหน้าขึ้นสี

     

    “ โว๊ะ ! ทำเป็นพูดดี เนี่ยสายฉันมีลุงรหัสเป็นพี่เอ็ด แล้วก็ย่ารหัสเป็นพี่เคธี่แล่ะ”   ไมลีย์พูดต่อเสียงเจื้อยแจ้ว แก้เขิน



    เลียมชะงักทันทีเมื่อได้ยินชื่อ เคธี่

     

    “เคธี่ เพอร์รี่หรอ?”   นัยต์ตาเล็กสีฟ้าหรี่ลง เลียมเอ่ยถามพร้อมทำคิ้วขมวดใส่แฟนสาว



    “ อื้มใช่ เคธี่ เพอร์รี่” ไมลีย์พยักหน้า

     

    “ โห คนนี้ดิ ชอบมากกก ร้องเพลงก็เพราะ ฉันไปได้ยินพี่เขาร้องเพลงทำกิจกรรมชมรมดนตรีอะ สวยก็สวย คนนี้ดิเด็ดจริง จีบได้จีบและ ขอกรี๊ดที”    ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ทำหน้ากวนโมโหแฟนสาวยิ่งนัก ไมลีย์ได้แต่กรอกตาไปมา กับความมั่นหน้าของแฟนตัวเอง

     

    “ จ้ะ ไปจีบเลยจ้ะ จะเลิกกันก็บอกนะ”    ไมลีย์สะบัดตัวเองออกจากวงแขนของแฟนหนุ่มพร้อมเชิดหน้าหนี



    “ อะไรแค่นี้ทำเป็นงอน ไม่ไปจีบหรอก ได้ข่าวว่าเป็นเลส ก็แค่กรี๊ดแล่ะแหม ยังงัยก็มีเธออยู่แล้ว”   


    เลียมรีบวิ่งไปคล้องคอไมลีย์เหมือนเดิมและกดจูบที่หน้าผากเป็นการง้อ ไมลีย์ยิ้มกับความน่ารักของแฟนตัวเองที่งอนก็ง้อเสมอ ความรู้สึกตอนนั้นมีความสุขเหลือเกิน

     



         แต่แล้วภาพความคิดเหล่านั้นก็หยุดลง ไมลีย์ดึงตัวเองกลับมาสู่ฟลอร์เต้นอีกครั้ง กลับมาสู่ดนตรีที่เคธี่กำลังร้องและนักดนตรีกำลังบรรเลงบทเพลงตรงหน้าอีกครั้ง


         ตลกดีเนอะ ที่เลียมเคยดีกับไมลีย์มากขนาดนั้น ตอนนี้ราวกับว่าภาพตอนนั้นมันเป็นแค่ความฝัน  ไมลีย์ส่ายหัวเบาๆ  พยายามไล่ความคิดเหล่านั้น ช่างมันเหอะ ช่างมัน อยู่กับปัจจุบันดีกว่า ตอนนั้นมันก็แค่ยังมั่นไม่พอที่จะไปจากเรา แววเจ้าชู้มันมีมานานและ เบื่อเต็มทีเหมือนกันที่ต้องมาโดนผู้ชายนำ ตอนนี้มาสนุกกับสิ่งตรงหน้าดีกว่า

     


         ว่าแล้วไมลีย์ก็กลับมาโฟกัสกับบทเพลงช้าไพเราะตรงหน้าและตะโกนร้องไปกับวงดนตรีของเคธี่ต่อ แต่แล้วความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นในใจ..


    เอ๊ะ! เลียมชอบเคธี่มากงั้นเหรอ..

    เคธี่เป็นเลสงั้นเหรอ ... 

    ไมลีย์มองไปยังใบหน้าสวยกับนัยต์ตาสีเทาที่สะท้อนกับแสงสปอตไลท์นั้นอีกครั้ง..


    เลียมอยากได้ผู้หญิงคนนี้เหรอ....


    เลียมชอบเหรอ...


    สเปคเลยหรอ????

     

    แล้วถ้าไมลีย์ได้ผู้หญิงคนนี้แทนล่ะ .....


    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมุมปาก เห็นหน้าสวยเสียงหวานกำลังร้องเพลงบนเวทีก็แทบจะอดใจไม่ไหว 



         สายตาไมลีย์จับจ้องไปที่นักร้องสาวอีกครั้ง ..นาทีนั้นเอง สายตาเคธี่ก็มองลงมาที่ไมลีย์เช่นกัน  เมื่อสายตาประสานกัน ไมลีย์จึงส่งยิ้มมุมปากที่คิดว่าดูเท่ห์ที่สุดของตัวเองให้ พร้อมยกนิ้วโป้งให้เคธี่เป็นเชิงบอกว่า “เยี่ยม”   นักร้องสาวยิ้มให้พร้อมยกนิ้วโป้งกลับ  ไมลีย์กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ . .


      ' ได้ผลเดี๋ยวดูก่อนละกันว่าพี่เคธี่จะมีแฟนรึยัง ถ้าไม่มีละก็ ... ไมลีย์จะเอามาควงให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
    !!! '

     


        “มึงมาทำไมหน้าเวทีเนี่ย”  

        เสียงคาร่าจู่ๆก็แผดเข้ามาข้างหูไมลีย์  มือคาร่ากระชากไหล่ไมลีย์ตัวหัน  สาวคิ้วหนาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดที่เพื่อนตัวเองอะไรจะอยากเต้นถึงขั้นต้องมาหน้าเวที คาร่าต้องเบียดคนเยอะแยะกว่าจะมาถึงตัวไมลีย์ เหนื่อยแทบตาย

     

        “ อ้าว มึงไปไหนตั้งนานเล่า กูรอมึงตั้งนาน มึงนักร้องคือย่ารหัสกูไง กูเลยเดินมาดู”  ไมลีย์พูดกรอกหูคาร่าพร้อมชี้มือไปทางนักร้องสาวหน้าเวที  คาร่าก็ถึงบางอ้อทันที พยักหน้าหงึกหงักให้ไมลีย์ เออก็ว่าอยู่ทำไมหน้านักร้องคนนี้มันคุ้นๆ

     

        “คนนี้เขามาวันศุกร์วันเดียวอะมึง กูก็ว่าทำไมคุ้นๆ”   คาร่าพูดไปสายตาก็มองคนสวยนั่นไป เออสวยว่ะ สวยดี.. คาร่าคิดในใจ แต่คาร่าได้ข่าวว่านักร้องร้านนี้เขามีแฟนกันหมดแล้วไม่ก็เป็นพวกไม่ได้ชอบการ One Night Stand คาร่าเลยไม่เคยกล้ายุ่งหรือจีบ เพราะก็ไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษด้วย

     

        “แล้วมึงบอกกูได้ยังว่าไปไหนมา”  ไมลีย์ยอมลากคาร่ามาตรงมุมที่ห่างๆลำโพงหน่อยที่จะคุยกัน แต่ก็ยังต้องคุยแบบเอาปากป้องหูกันอยู่ดีเพราะเสียงดนตรีดังมาก

     

        “ก็กูอยากรู้ว่ามึงเป็นไงบ้าง เลยบอกนาย่าว่าถ้าเสร็จแล้วก็ให้บอกกูด้วย นาย่าก็เลยเรียกกูเข้าไปคุย นาย่าบอกว่ามึงใช้ได้เลย ถึงจะยังไม่ถึงขั้นช่ำชองแต่ก็เวิร์คนะเว้ย ห้าๆๆ แต่ให้คุยเฉยๆในสภาพที่นาย่าเปลือยอยู่ในผ้าห่มกูอดใจไม่ได้ว่ะ ขอโทษละกันที่นานไปหน่อย”

     


    คาร่าฉีกยิ้มหน้าหราไม่สำนึกผิด  ไมลีย์เบิกตากว้าง ไอ้เพื่อนบ้า ไมลีย์พึ่งจะจัดไปแท้ๆ ดันมาจัดต่อจากไมลีย์ได้ยังไงเนี่ย!’  แต่ไมลีย์ก็ได้แต่คิดในใจ เพราะก็แค่ตกใจหน่อยๆ แต่ก็พอเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรสำหรับคาร่าและนาย่าที่ค่อนข้างจะชอบในเรื่องเซ็กส์มากเป็นพิเศษหรอก

     


         “ไหนมึงบอกนาย่าเป็นเพื่อนมึงไง” 

         ไมลีย์ไม่ได้หึงแค่รู้สึกงงๆเลยถามไปด้วยน้ำเสียงที่ทำเป็นแสดงความไม่พอใจ แต่จริงๆก็ไม่ได้ถึงขั้นไม่พอใจ แค่อยากจะแกล้งกระแนะกระแหนเพื่อนแค่นั้นเอง

     

         “มึงไม่รู้จักคำว่า Friend With Benefits หรอวะ ทำเป็นซีเรียส ก็เพื่อนไงเพื่อน กูก็เป็นเพื่อนกัน แค่มีอะไรกัน อย่าทำเป็นเด็กเลยว่ะ มึงก็รู้ว่ากูเป็นคนยังไง”   คาร่าพูดกรอกใส่หูไมลีย์เสร็จก็ยักไหล่ และเต้นตามเพลงต่อไม่สนใจไมลีย์ แถมยังไปเต้นสีสาวข้างๆด้วย

     


        ไมลีย์ละหมั่นไส้เพื่อนตัวเองนัก แต่ก็ช่างมันกับเรื่องนี้ ไมลีย์ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร อย่างไรซะนาย่าก็เป็นผู้หญิง คาร่าก็เป็นผู้หญิงก็ไม่เคยรู้สึกว่ามันน่ารังเกียจอะไรหรอก ไมลีย์มาหาทางให้ตัวเองได้คุยกับเคธี่ซะดีกว่า


        และเมื่อจบการแสดงของดนตรีสด ไมลีย์มองนาฬิกาตัวเอง กดหน้าปัดดิจิตอลให้เรืองแสง ตีสี่แล้วหรือเนี่ย แต่ยังไงก็จะต้องพยายามคุยกับเคธี่ให้ได้

     

        “เห้ย คาร่ากูไปคุยกับพี่เคธี่ก่อนนะ”    ไมลีย์กรอกเสียงใส่หูคาร่าดังๆ คาร่าชักจะเมามากๆอีกแล้วไม่รู้รู้เรื่องรึเปล่า แต่เห็นพยักหน้าปะหลกๆ ไมลีย์เลยรีบเดินแทรกตัวออกไปยังข้างเวที ประจวบเหมาะกับที่เคธี่เดินลงมาพอดี

     

       “พี่เคธี่..”   ไมลีย์ยิ้มให้เคธี่  เคธี่เงยหน้ามาประสานสายตากับนัยต์ตาสีฟ้าคู่สวยที่คุ้นเคย แต่ที่ไม่คุ้นเคยก็คือทรงผมและลุคการแต่งหน้าที่ดูแรงและเฉี่ยวขึ้นดูแปลกตาไปกับคนที่เคยรู้จักคนเดิม

     

        “ไมลีย์จริงๆด้วย ตะกี๊คิดอยู่แล้วว่าต้องใช่”  เคธี่ยิ้มให้ไมลีย์  แต่เมื่อพูดจบประโยคเดียวไมลีย์ก็โผเข้ากอดเคธี่ .. สาวอวบผงะเล็กน้อย 

        “ดีใจจังเลยได้เจอกันอีกด้วยให้ตายสิ”   

         ไมลีย์ กอดเคธี่แน่น  .. เคธี่ค่อยๆยกมือขึ้นมากอดตอบอย่างเก้ๆกังๆ 

        ‘ ขอร้อง..อย่าให้ไมลีย์ได้ยินเสียงหัวใจเรานะ’  

         เคธี่รู้สึกประหม่าตื่นเต้น .. ไม่คิดว่าจะได้มาเจอผู้หญิงคนนี้ในสถานที่แบบนี้  แถมยังเปลี่ยนจากสมัยก่อนมาก ทั้งสวย ทั้งเท่ห์ขึ้นเยอะ

     

        “ มาเที่ยวที่แบบนี้ซะด้วยไม่น่าเชื่อเลยนะ”  เคธี่พูดขึ้นมาแก้เก้อ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร ไมลีย์คลายอ้อมกอดออก พร้อมจับไหล่เคธี่ไว้

         
          “ก็ทำไม ฉันโสด มาเปิดหูเปิดตา มาลองดูอะไรใหม่ๆก็ไม่เสียหายนี่ พี่จะกลับยัง ถ้ายังไปนั่งกับฉันก่อนมั้ย”     
    มลีย์เอ่ยชวน .. พยายามทำทุกอย่างให้ดูปกติมากที่สุด

     

        “เห้... คือวันนี้ฉันต้องรีบกลับเพราะว่า คนในวงจะนัดกันไปกินพิซซ่าต่อน่ะ เอาเบอร์ฉันไปมั้ย เธอมีเฟสบุ๊คฉันนี่ แต่เธอไม่ค่อยชอบเล่นเฟสบุ๊คนี่เนอะ”  

     

        ไมลีย์ชะงักนิดนึง .. เคธี่รู้ได้ยังไงว่า ไมลีย์ไม่ค่อยชอบเล่นเฟสบุ๊ค แต่ก็นะอาจจะเป็นเพราะไมลีย์ไม่ค่อยได้อัพเดตอะไรมั้งเลยรู้

     

         “โอเค งั้นพี่เอาโทรศัพท์มา” 

         ไมลีย์แบมือพร้อมกระดิกนิ้วไหวๆ  เคธี่หยิบไอโฟนขึ้นมาวางบนมือของสาวแสบผมทองอย่างว่าง่าย ไมลีย์รับไอโฟนมาและพิมพ์เบอร์ตัวเองลงไปพร้อมกดโทรออก เมื่อขึ้นเบอร์ของไมลีย์แล้วก็กดตัดสายทิ้ง พร้อมยื่นไอโฟนคืนให้เคธี่

     

        “ นี่เบอร์ฉัน เดี๋ยวฉันจะโทรหาละกันตอนนี้พี่ไปกับคนในวงก่อนเถอะแล้วเจอกันนะคะ” 

        ไมลีย์โบกมือให้.. ไม่สิไม่ ยังไม่ได้ ปล่อยไปแค่นี้ไม่ได้ !

        เคธี่โบกมือให้ไมลีย์และกำลังจะหันหลังกลับ พลันไมลีย์กระชากตัวเคธี่ไว้พร้อมดึงเคธี่เข้ามาใกล้ตัวเองจนหน้าจะชนกัน

     

         “เอ๊ะ!! มีอะไรไมล์”  

        เคธี่ตกใจที่โดนสาวรุ่นน้องดึงตัวฉับพลัน ใบหน้าหวานเข้าไปใกล้ไมลีย์ระยะประชิด จนหน้าเจ้าของนัยต์ตาสีเทานั้นขึ้นสีแดงระเรื่อ เคธี่ได้แต่ภาวนาในใจขอให้แสงสลัวๆในร้านทำให้ไมลีย์ไม่สังเกตเห็นว่าเคธี่หน้าแดงหรือกำลังรู้สึกเขิน

     

        “พี่เป็นเลสใช่มั้ย”  

         ไมลีย์ถามคำถามที่ตรงเกินไปก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วแท้ๆ เคธี่แอบตกใจที่มาถามอะไรแบบนี้ มันค่อนข้างกะทันหันและสร้างความประหลาดใจให้เคธี่มากว่าจะถามไปเพื่ออะไร

     

        “ใช่.. ทำไมหรอ” 

        เคธี่พยักหน้าตอบแต่สายตาหลบลงต่ำ และแล้วไมลีย์ก็กระทำสิ่งที่กล้าหาญมากๆ แต่สั่นคลอนหัวใจของคนโดนกระทำมากๆเช่นกันออกมา

     

         “ ตอนนี้ฉันโสดนะพี่ พี่โสดรึป่าว?”   

         ไมลีย์ถามบ้าอะไรออกไป มันตรงเกินไปจนเคธี่ขนลุก ถึงเคธี่จะรู้ว่าไมลีย์เคยชอบผู้ชาย แต่มันก็ยังชวนให้คิดอยู่ดี .. นี่จะจีบกันเหรอ แล้วจีบกันมันถามตรงขนาดนี้เลยเหรอ!!

     

         “ก็โสดทำไมล่ะไมล์ เอ่อคือ ไมล์ชอบผู้ชายไม่ใช่หรอ” 


         เคธี่ไม่อยากจะหลงตัวเอง แต่ไมลีย์ส่งสายตาหยาดเยิ้มให้ขนาดนั้น แถมยังเอาหน้ามาชิดขนาดนี้ จะสะบัดออกก็ไม่กล้า แต่จะให้ไม่หลบตาก็ไม่ไหว พยายามควบคุมไม่ให้ร่างตัวเองสั่นเทิ้ม ถึงจะเคยรู้จักกัน แต่จู่ๆไม่เจอกันตั้งนาน เจอหน้ากันมาทำยังงี้ จะไม่ให้ตกใจ ไม่ให้เขินได้อย่างไร!

     

         “งั้นดี พี่จำไว้ใหม่ละกันว่าตอนนี้ฉันชอบผู้หญิง” 

         ไมลีย์ดึงหน้าหวานนั้นเข้ามากดจูบตรงริมฝีปาก เคธี่ตกใจถึงขีดสุดเบิกตากว้างและหยุดหายใจแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะผลักออก ไมลีย์จูบแค่แป๊บเดียวก็ถอนริมฝีปากออก ยิ้มมุมปากให้เคธี่ และหันหลังเดินจากไป ...

     


         เคธี่ งงกับการกระทำทั้งหมดนั้น มันเป็นไปได้เหรอ มันเป็นไปได้จริงๆเหรอ ...กับการกระทำเมื่อครู่มันความฝันรึเปล่า



          เคธี่ค่อยๆเดินออกมาที่โรงรถเพื่อไปขึ้นรถทรงอเนกประสงค์ประจำวง สมาชิกทุกคนในวงนั่งรอเธออยู่ในรถ เมื่อสาวร่างอวบเปิดประตูขึ้นมานั่งข้างๆ  มือเบสสาวผมสั้นเขียนขอบตาสีดำ เงยหน้าจากไอโฟนขึ้นมามองเคธี่ เห็นเคธี่ดู อึนๆเงียบๆไป  ไม่เห็นพูดอะไรกับใคร  จึงเอ่ยทัก

     

        “ เห้ย เคท เป็นไรป่าวเนี่ยดูนิ่งๆ ตะกี๊เห็นยืนคุยกับใครอยู่นี่” 

     

        เคธี่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเพื่อนสาวร่วมวง พร้อมเอ่ยให้คำตอบว่า

       

        “คนที่ฉันแอบชอบตอนปี
    คนที่ฉันยังแอบติดตามชีวิตเขาอยู่ห่างๆ .. จู่ๆเขาก็มาจูบฉันว่ะแก”

     

    _________________________________________________________________________




    WRITER TALK 

    ตอนแรกโดนแบนไปค่ะ ตอนนี้ถูกปลดแล้วดีใจมากมาย ฮืออ T_________T


    เป็นไงบ้างตอนนี้ ไมลีย์ห้าวไปปะ จู่ๆก็ทำบ้าอะไรไม่รู้ แต่ทุกคนอย่าลืมนะว่าไมลีย์กินเหล้าเข้าไป

    ถึงจะไม่ถึงกับเมาแอ๋แต่เวลากินเหล้า การจะทำอะไรห้าวๆบ้าๆ มันก็เป็นเรื่องปกตินะ 5555

    ไมลีย์คิดจะเอาชนะมากๆ จนลองเสี่ยงทำอะไรแบบนั้นดู แต่มันดันเป็นเคธี่น่ะสิ
    แล้วเคธี่เคยชอบไมลีย์หรอ?

    อันนี้ก็ไม่รู้นะตามอ่านกันเอาเอง555


    อยากติชมอยากเพิ่มอะไรในฟิคก็ลองเสนอกันมาได้เหมือนเดิมนะ
    รับฟังทุกคน ถ้าถูกใจก็จะเอามาใส่ฟิคด้วย หุๆๆๆ


    ขอบคุณทุกคนที่ขยันทวงฟิคกันมากจนตอน2 ออกมาสักที ขอบคุณทุกๆกำลังใจมากๆนะคะ

    พูดคุยกันได้เสมอในทวีตเดิม @POKERNOEL

    ติดแท็ก #MILEYKATYFIC ตอนพูดถึงฟิคนี้ไว้บ้างก็ดีนะ เดี๋ยวนาวจะตามอ่านตามตอบแน่นอนค่ะ

    ขอบคุณนะคะ > <

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×