คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Act 1 : ตามหาหน้ากาก
ในห้องเรียนชั้นม.1ในโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง.....
นักเรียนจำนวนมากนั่งเรื่องบนเรียนวิชาภาษาไทย ในเรื่อง "เด็กห้องแถว" เด็กคนหนึ่งนั่งริมประตูเอาแต่จ้องมองในหนังสือ
"เอ้า...พชร ลองเล่นเป็น "หยง"ดูหน่อย บทพูดคิดเอาเองก็ได้"
อาจารย์ภาษาไทยอายุประมาณ50แต่ดูเด็กกว่านั้น คงเป็นเพราะสอนนักเรียนม.1 เลยต้องทำตัวให้ดูเด็กลงพยายามให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียน
".....อะ....ครับ"
นักเรียนชายขยับเครื่องแบบนักเรียนแต่งตัวที่ให้ดู "ถนัด" มากที่สุด
....บรรยากาศเงียบไปพัก เขาเอาแต่จ้องมองหนังสือเรียน ในหัวกำลังคิดคำพวกที่หยกจะพูดอยู่
........หยก เด็กชายที่อยู่กับก๋งในห้องแถว ฐานะยากจน ไปหาเงินโดยการช่วยป้าแถวบ้านที่ทำร้านขายถ่าน
ตอนนี้กำลังรออยู่ที่ห้องแถว เพื่อรอเงินค่าแรงที่ยังไม่มาสักทีจนขณะนี้ก็เย็นลงแล้ว......
"รออะไรอยู่หรอหยก" - อาจารย์ภาษาไทยผมยาว อ่านถามน้ำเสียงดูมีอายุขึ้น
"เออ....วันนี้หยกไปช่วยป้าสมศรีขนถ่านมาครับ...."
"เขาบอกว่าให้ผมกลับบ้านมาอาบน้ำก่อนแล้วก็ให้ถ่านเศษถ่านมา...ครับ...."
บรรยากาศในห้องเรียนเงียบสนิท หยก ยังคงนั่งตะกุกตะกักอยู่ที่โต๊ะริบหน้าต่าง
"แต่ว่า...ตอนนี้....ป้าสมศรียังไม่ได้จ่ายค่าที่ไปช่วยเลย....."
"หยก...การทำงานหนะไม่จำเป็นว่าต้องได้ค่าตอบแทนเป็น........................." ครูภาษาไทยอ่านคำคมของก๋งของเรื่องต่อไป
แววตาของหยกตั้งใจฟังที่ก๋งบอก บางทีก็ก้มหน้าลงไปมองที่มือของตัวเองจนก๋งพูดจบลง
....ทั้งห้องยังคงเงียบ
"อ่ะ ก็จะเป็นแบบนี้นะ....พชรเล่นหนังได้นะเนี่ยแบบเนี้ย"
"เฮอะๆ" - ตอบไปเบาๆฟังไม่เป็นศัพท์เพราะความขี้อาย
หลังจากคาบนี้ก็มีการแบ่งทีมแสดงโดด อ. เป็นคนเลือกนักแสดงแต่ละบทในแต่ละทีม
ด้วยความที่หน้าตาไม่จีนและตัวไม่ใหญ่ ในที่สุดก็ได้รับบทเป็น จับกัง A ตัวประกอบจับกังหนึ่งใน3ตัว
----หลังจากนั้นก็เป็นความสนุกสนานของเด็กม.1 ละครไม่มีอะไร ไม่มีการซ้อมอะไรคือการอ่านหนังสือตอบกันมากกว่า
--แล้วเวลาก็ผ่านไปอีก1ปี--
"มะข้ามป้อม เนี่ย สมัยนั้นเป็นยังไงหรอแม่"
บนรถตู้ของครอบครัวในวันหนึ่งของช่วงใกล้ซัมเมอร์ ม.2
เป็นรถตู้เก่าๆที่ยังจำความได้ตั้งแต่เล็กๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้จะโดซ่อมบ่อยครั้งแต่ก็ยังดู"ไม่ตกสมัย"
ในบรรยากาศนั่งรถกลับบ้านที่อยู่แสนไกลในตอนเย็นๆ แม่ก็ได้เล่าเรื่องสมัยก่อนให้ฟังเรื่อยๆ
มะขามป้อม เป็นคณะละครอาชีพซึ่งหลายๆคนในประเทศไทยยังไม่รู้จัก
เคยมีคนเล่าว่าครั้งหนึ่งมะขามป้อมไปได้แสดงผลงานในโอกาส 14 ตุลาคม ประสบณ์ความสำเร็จมาก...
ภายหลังการแสดงนั้นในฝูงชนที่เช้ามาพูดคุยกับนักแสดงและผู้กำกับอยู่นั้นก็มี ผู้ชมคนหนึ่งเดินเข้ามาและถามว่า...
"นี่คณะละครของมหาลัยอะไรเหรอ ?"
... ที่ถามนั้นถึงกับทำให้คนในคณะอึ้งไปพักหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เพราะความหน้าเด็กของทีมงาน แต่เพราะว่าในวงการละครในประเทศไทยยังไม่แพร่หลายมากนัก
ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าในประเทศไทยมีคณะละครอาชีพอยู่หลายแห่งซึ่งมักจะมีผลงานมาให้ติดตามอยู่ตลอดทั้งปี
และที่มะขามป้อมนี่เอง ในสมัยก่อนพ่อแม่ของเด็กชายเคยอยู่ที่นั่น พ่อของเขาเคยเป็นทีมภาพ และนักแสดงละครเร่ของคณะ
ส่วนแม่ก็เคยเป็นผู้ดูแลบ้านในขณะที่ตั้งท้องอยู่ มะขามป้อมจึงเป็นอีกที่หนึ่งที่เป็นความทรงจำครั้งใหญ่ของครอบครัวนี้
"....อยากไปสักครั้งดูจัง"
เด็กชายพูดด้วยเหตุผลบางประการซึ่งผู้เขียนจำไม่ได้ว่าเพราะอะไร อาจจะเป็นเพราะเคยได้ฟังเรื่องของคณะละครจากพ่อแม่
แต่ตัวเองนั้น ครั้งล่าสุดที่ไปก็คือตอนที่ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของมะขามป้อมเอง...
"รู้สึกว่ามะขามป้อมก็มีงานอยู่ตลอดแหละ ว่างๆลองไปดูละครกันไหม"
แม่ขับรถอยู่ขณะที่พูด ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าประทับใจจริงๆ โดยเฉพาะการที่ขับรถใหญ่ๆอย่างรถตู้เป็น
"ว่างๆแล้วแม่ลองติดต่อให้หน่อยสิ อยากลองหาอะไรทำช่วงปิดเทอมดูมั่งอ่ะ"
"และตอนนั้นเอง ทั้งสองแม่ลูกไม่รู้หรอกว่า ที่มะขามป้อมกำลังเตรียมงานละครในวันงาน 100ปีศรีบุพา ซึ่งนั่นอาจจะเป็นก้าวแรกสู่เส้นทางเดินที่เด็ก คนหนึ่งบนรถคันใหญ่จะได้เผชิญต่อไป แล้วหวังว่าเขาคงจะไม่รู้ว่า.... บนเส้นทางนี้เองที่เขาต้องต้องพยายามต่อสู้ หั่มหั่น กับสิ่งท้าทายมากมายที่รอเขาอยู่เบื้องหน้า "
ความคิดเห็น