ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Digimon] After the Time

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 : Someday Same Day

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 58


    .

    .

    โมโตมิยะ ไดสึเกะ นักเรียนชั้นมัธยมปลายปีสองกำลังยืนอยู่หน้าประตูคอนโดหรู เขาก่นสบถคำมากมายภายใต้ผ้าพันคอสีเลือดหมู เด็กหนุ่มตัวเล็กเหลือบมองบานประตูเป็นระยะอยากจะเดินเข้าไปลากคอคนในห้องออกมาแต่มันก็เป็นได้แค่ความคิด เขาเลิกสนใจและเปลี่ยนมาเปิดมือถือเพื่อดูข้อความ แต่ยังไม่มีอะไรส่งมาใหม่ เขาได้แต่ถอนหายใจ วันนี้รุ่นพี่นัดให้ไปเจอที่บ้านหากกลับต้องติดแหง่กอยู่คอนโดเพื่อนเพราะเขามีของจะให้ มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรนักหรอก ก็แค่ของตอบแทนที่อีกฝ่ายเคยให้ของเขาเมื่อปีที่แล้ว เท่านั้นเอง เท่านั้นเองจริงๆ!

    .

    .

    ในที่สุดเสียงประตูเปิดออกก็ดังขึ้นมันเรียกให้เด็กหนุ่มหลุดจากภวังค์ ไดสึเกะเบนสายตาไปหาคนด้านใน เพียงไม่ถึงวินาทีที่ดวงตาสบกันเด็กหนุ่มลุกพรวดอย่างทุลักทุเลพรางมองเสไปทางอื่นเลิกลั่น ทาเคอิชิ ทาเครุหัวเราะในลำคอเล็กน้อยราวกับจงใจแกล้ง ไดสึเกะก้มหน้างุดๆไม่กล้ามองดวงตาสีฟ้าสวยสักนิด ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายจงใจมองเขาก็ยิ่งไม่กล้าเงยหน้าเข้าไปใหญ่

    .

    .

    “มีอะไรถึงมาหาในวันเสาร์ละ....หึ?”เสียงหัวเราะตอบท้ายยังไม่พออีกฝ่ายดันลำตัวเข้าหาทำให้แผ่นหลังไดสึเกะติดกำแพง ทาเครุยกแขนข้างหนึ่งเหนือศีรษะอีกคนปิดกั้นทางหนีเป็นท่าเบสิกของการ์ตูนสาวน้อยวัยใส ถ้าเป็นตัวละครนางเอกคงต้องหน้าแดงเขินอายและทำตัวไม่ถูก ซึ่งไม่ใช่กับไดสึเกะ เด็กหนุ่มไหลตัวลงไปด้านล่างก่อนเบี่ยงตัวหลบออกมาในด้านตรงข้ามที่อีกฝ่ายยกแขนป้องไว้ ไดสึเกะปัดเนื้อปัดตัวแถมยังส่งสายตามองขวางให้อีก ทาเครุหลุดหัวเราะเขายกมือไว้สูงกว่าอกเล็กน้อยทำท่ายอมแพ้

    .

    .

    “แล้วมีอะไรถึงมาหาละไดสึเกะคุง”ทาเครุผายมือไปที่ประตูเชื้อเชิญให้เข้าไปในตัวบ้าน ไดสึเกะส่ายหน้าปฏิเสธ “เอาไป”เด็กหนุ่มพูดสั้นๆห้วนๆและยัดถุงกระดาษสีน้ำตาลอันเล็กใส่มือคนผมสีทอง ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างเล็กน้อยแสดงความตกใจปนงุนงง

    .

    .

    “ของตอบแทน”ไม่รอให้ทาเครุเลิกหายตกใจ ไดสึเกะรีบเดินออกมาแต่อีกฝ่ายกลับตรึงหัวไหล่เขาไว้ สัมผัสหนักแน่นเรียกเลือดให้สูบฉีดไปที่ใบหน้า ไดสึเกะสะบัดมือคนตัวสูงกว่าออกและหันกลับไปหา เขาข่มอารมณ์พยายามเป็นปกติมากที่สุด และถ้ามองไม่ผิดใบหน้าของอีกฝ่ายก็ขึ้นลิ้วสีแดงอ่อนๆด้วย

    .

    .

    “ไม่...ไม่มีอะไร..ฉันไปแล้วนะ!”เขารีบตัดบทก่อนจะเผลอแสดงความอายมากเกินไปกว่านี้ เด็กหนุ่มผมสีเข้มรีบออกตัวก่อนจะโดนรั้งไว้อีกหน พอไปพ้นระยะสายตาที่อีกคนไม่สามารถเห็นได้เขาหยุดฝีเท้าเอานิ้วมือตัวหมดประกบเข้าใบหน้า ริมฝีปากพึมพำเบาๆ

    .

    .

    “ทำไปแล้ว ทำไปสะแล้ว”

    .

    .

    เสียงที่เอ่ยออกมาคือความตื่นตระหนกและโล่งใจไปพร้อมๆกัน  

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    “เดี๋ยวหมอนั้นก็มา”พี่ใหญ่สุดตอบด้วยสีหน้าสบายๆ ไทจิเอนตัวลงนอนราบไปกับเก้าอี้ คนอื่นพยักหน้ายืนยันว่าที่อีกฝ่ายพูดเป็นเรื่องจริง

    .

    “คุณไดสึเกะไปหาเพื่อนนะครับ อีกสักพักคงกลับ”คนตัวเล็กสุดขยายความด้วยเสียงอ่อนน้อม เด็กหนุ่มดวงตาสีแดงยกอาหารเช้าง่ายๆมาให้ ขนมปังปิ้งขอบกรอบทาเนย เบค่อนทอดเป็นสีน้ำตาลมีไอน้ำมันเล็กๆจับตัวเป็นกลุ่มกับซุปมิโซะสีอ่อนมีเต้าหู้และสาหร่ายวางประดับไว้กลางถ้วยทรงกลม เอาอาหารฝรั่งกับญี่ปุ่นมาผสมกันได้ดูลงตัวดี ท่าทางทาคาโตะจะมีหัวด้านทำอาหารแหะ ไทจิกับมาซารุยกไปกินหน้าทีวีพร้อมดูข่าวไปด้วย ส่วนไทกะ รายนั้นหยิบแค่ขนมปังไปกินและเล่นแล็ปท็อปที่วางบนเข่าตัวเอง ส่วนพวกเขาที่กินข้าวเช้ามาแล้วเลยมองอีกสองคนที่ทานอาหารบนโต๊ะ

    .

    “แล้วพวกคุณอยู่แบบไม่มีผู้ใหญ่ดูแลหรอครับ?”ไทกิถามขึ้นมา ทาคุยะส่ายหน้า “ฉันกับไทจิอายุจะยี่สิบแล้ว เรียกว่าผู้ใหญ่ไหมล่ะ”

    .

    “ห๊ะ ยี่สิบหรอครับ? คุณทาคุยะยังดูเหมือนเด็กม.ปลายอยู่เลย”ทากิรุพูดเสียงดังเรียกให้เสียงหัวเราะดังออกมาเบาๆ “ฉันไม่เหมือนแต่ไทจิดูโตกว่านั้นใช่ไหมล่ะ”

    .

    “น้อยๆหน่อยทาคุยะ จะหาว่าฉันหน้าแก่รึไง”ไทจิโหวกเหวกแบบไม่จริงจังนัก “เปล๊า แค่จะบอกว่านายตัวโตเลยดูเป็นผู้ใหญ่” คนเริ่มแซวตอบกลับอย่างสนิทสนม

    .

    “หรืออีกนัยๆทาคุยะก็ว่าคุณไทจิแก่ละครับ”มาซารุเสริมขึ้นมา “แล้วทำไมนายเรียกคุณไทจิแต่เรียกฉันห้วนเลยล่ะมาซารุ ฉันอายุเยอะกว่านายนะ”

    .

    “อายุเยอะกว่าแต่ทำตัวไม่น่าเคารพมันก็ไม่ควรเรียกแบบนั้นใช่ไหมล่ะ”

    .

    “แต่นายควรเคารพฉันนะเว้ย!

    .

    “ทำตัวน่าเคารพตาย”

    .

    ทากิรุเห็นว่าน้องเล็กสุดของบ้านหันมายิ้มให้พวกเขาด้วยท่าทีสบายๆราวกับจะบอกว่าเหตุการณ์ทะเลาะกันเกิดขึ้นทุกวันเป็นกิจวัตรแล้วไม่ต้องสนใจก็ได้ เขายิ้มแห้งๆกลับไปให้ จะว่าไป พวกเขาอายุยี่สิบกันแล้วใช่ไหม ทำไมทากิรุยังรู้สึกว่าคนในบ้านมีแต่เด็กมัธยมทั้งนั้นเลย

    .

    ทาคาโคะเป็นคนที่คุยได้ง่ายที่สุดอาจะจะเพราะเขายังเด็ก อ่อนน้อม ถ่อมตน ส่วนอีกสามคนที่เหลือชอบแซวกันไปมามากกว่า ไทกะค่อนข้างเป็นเงียบ เอาแต่จ้องแล็ปท็อปบนเข่าตัวเอง เลื่อนคลิ๊กเลื่อนเขียนอะไรสักอย่างที่เป็นภาษาคอมพิวเตอร์

    .

    “แล้วทาคาโตะคุงเรียนอยู่ชั้นไหนล่ะ?”ไทกิถาม เด็กชายพยักหน้าเลิกลั่นเล็กน้อยด้วยอาการประหม่า “มัธยมต้นปี2ครับ ”ทากิรุกระพริบตาถี่รัวแบบไม่อยากเชื่อเท่าไรนัก “ก็อายุเท่าฉันอะดิ” ว่าพร้อมชี้มาที่ตัวเองด้วยอาการงุนงง ก็ทาคาโตะดูยังไงน่าจะเด็กประถมไม่ใช่หรือไง

    .

    “มีหลายๆคนบอกว่าผมไม่เหมือนเด็กมัธยมทั้งนั้นละครับ” แล้วก็ยิ้มกลับมาให้

    .

    “คุณไทจิเรียนมหาลัยปีสองคณะอักษรครับ คุณทาคุยะเรียนปีเดียวกันแต่คนละมหาลัย คณะนิติ แล้วก็คุณมาซารุเทอมหน้าจะเข้ามหาลัยแต่ยังไม่รู้จะต่อคณะอะไรนะครับ”

    .

    “เทอมหน้าที่ว่ามันอีกไม่กี่เดือนเองนะ”ไทกิสั่นศีรษะอย่างเหนื่อยใจ เขารู้ดีทีเดียวว่ามันหนักหนาขนาดไหนที่ต้องเข้ามหาลัยให้ได้ เหมือนกับต้องแบกความหวังและภาระอะไรต่างๆมากมายไว้ “แต่ผมคิดว่าคุณมาซารุคงเรียนพวกรัฐศาสตร์นะครับ ถึงจะชอบใช้ความรุนแรงกับอารมณ์ตัดสินก็เถอะ” ทาคาโตะยิ้มเล็กน้อย

    .

    “แล้วก็คุณไดสึเกะเทอมหน้าจะอยู่ชั้นปีสามครับ คุณไทกะจะขึ้นปีสอง”หลังจบคำอธิบาย รุ่นพี่ดวงตาสีเงินเหมือนฉุดคิดอะไรบางอย่างได้

    .

    “แสดงว่าอายุไล่เลี่ยกันหมดเลยสินะ”ไทกิสรุปความ อีกฝ่ายพยักหน้า “ผมก็แปลกใจเหมือนกันครับที่ทุกคนอายุห่างจากกันไม่มาก ตอนแรกผมนึกว่าคุณไทจิจะอายุเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำ” ว่าพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ

    .

    “แล้วปีหน้าจะย้ายมาอยู่ด้วยกันรึเปล่าครับ?”

    .

    “ย้ายมาหรอ?”พวกเขาถามขึ้นพร้อมเพรียง คนถามพยักหน้ารับและอธิบายเพิ่มเติม “ถ้าย้ายมาอยู่ด้วยกันจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับพวกดิจิมอนด้วยนะครับ คุณไทกะพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวให้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุดอยู่” เสียงพูดคุยหยุดไปชั่วครู่

    .

    “แต่ตอนนี้กลับไม่มีท่าทีจะประสบความสำเร็จเลยละครับ” รอยยิ้มแหย่ๆส่งมาให้อีกครั้ง ทากิรุพอเข้าใจความรู้สึกพวกนั้นอยู่ การตั้งใจอย่างเต็มความสามารถแต่กลับไม่ประสบผลสำเร็จมันผิดหวังจะตาย

    .

    และทันทีทันใดเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทาคาโตะลุกออกไปอย่างไม่รีบร้อนและกลับมาพร้อมสมาชิกคนสุดท้าย โมโตมิยะ ไดสึเกะที่แปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ตัวสูงขึ้น โตขึ้นและแววตาแน่วนิ่งขึ้น เขาวางถุงร้านสะดวกซื้อบนโต๊ะอาหาร ทากิรุแอบเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นพวกขนมกินเล่น

    .

    “พวกนายเป็นไงบ้าง ไม่คิดเลยนะว่าอยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เขตเอง”คนมาใหม่ทักอย่างอารมณ์ดี

    .

    “มาได้สักทีนะไดสึเกะ กินอะไรรึยัง”มาซารุลุกขึ้นบิดขี้เกียจ และเดินไปลูบหัวคนอายุน้อยกว่าอย่างเอ็นดู “ทาคาโตะตื่นมาทำให้แต่เช้าแล้วหน่า น้องคนนี้ไม่ปล่อยให้พี่ชายหิวหรอกเนอะ”ว่าแล้วเขาก็กอดคอทาคาโตะพร้อมโยกตัวไปซ้ายทีขวาที

    .

    “แล้วพรุ่งนี้แข่งบอลกี่โมงนะไดสึเกะ ฉันจะได้จัดเวลางานถูก”คราวนี้เป็นไทกะ เขาวางแล็ปท็อปไว้บนโต๊ะและลุกขึ้นมาบ้าง

    .

    “บ่ายสองนะ แต่ไม่มาก็ได้นะ”

    .

    “พูดอย่างกับพวกเราเคยพลาด เอ่อ จะว่าไปก็มีติดงานบ้างละนะ”ทาคุยะตบหลังคนมาใหม่ ดูจากส่วนสูงแล้วทั้งสองคนไม่ได้สูงต่างกันเท่าไรเลย เหมือนเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันมากกว่าจะเป็นเด็กมหาลัยกับเด็กมัธยม

    .

    “ใกล้แข่งแชมป์แล้วด้วย จะพลาดได้ไงล่ะ”คนเป็นพี่ใหญ่มาต้อนรับอีกคน ทากิรุมองภาพตรงหน้าตาไม่กระพริบ คงไม่ผิดใช่ไหมถ้าเขาคิดว่ามันเหมือนครอบครัว เวลามีใครกลับบ้านทุกคนก็รอต้อนรับคอยส่งเสริมกันทะเลาะกัน คุยกัน แต่มันแปลกสักหน่อย พวกเขาไม่น่าสนิทสนมกลมเกลียวกันได้ขนาดนี้นะ เอาเข้าจริงทากิรุยังกอดแม่นับครั้งได้เลย

    .

    “เหมือนหนังสงครามแบบพี่ชายถูกส่งไปรบแล้วกลับมาบ้านเลยนะ”ไทกิกระซิบข้างหูเขา “ให้อารมณ์เวลาดูหนังย้อนยุคเลยละครับ” พวกเขามองหน้ากันแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา 

    .

    เวลาไม่นานจากนั้นมาก ไทกะผละตัวออกจากงานด้านรับไดสึเกะคนแรก เขาเช็คแล็ปท็อปของตัวเอง คิ้วสีน้ำเงินขมวดเข้าหากันใบหน้าแสดงความไม่เข้าใจออกมาเต็มที่ ช้อนที่คาบไว้บนปากยังติดคาอยู่ ขนมในมือถูกวางลงแทนที่ด้วยเครื่องแล็ปท็อปที่ยกไปวางบนโต๊ะอาหาร งานสังสรรค์หยุดชะงักทันทีทันใด

    .

    “ฉันว่ามันมีประเด็นแล้วล่ะ คุณมาซารุเปิดช่องข่าวต่างประเทศทีคุณไทจิช่วยแปลด้วยครับ ทาคาโตะคุงวานไปหยิบหนังสือปกแข็งสีส้มสันลวดในห้องฉันหน่อย คุณทาคุยะช่วยเช็คข่าวในมือถือด้วยครับ คีย์เวิร์ดเป็นหลุมระเบิดภายในนิวยอร์ก คุณไดสึเกะช่วยเช็ดข่าวช่องBBCด้วยครับ”

    .

    หลังระบุหน้าที่ ทุกคนทำตามอย่างรวดเร็วไม่มีใครคัดค้านหรือเกี่ยงงานสักนิด แล็ปท็อปของไทกะขึ้นพื้นหลังสีฟ้าพร้อมเลขหนึ่งสลับศูนย์ราวกับโดนไวรัสกิน แต่ทากิรุคิดว่ามันคงเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่เขาไม่เคยเข้าใจสะมากกว่า เจ้าของเครื่องคลิ๊กอะไรสักอย่างย่อหน้าต่างนั้นและเปิดรายงานข่าวถ่ายทอดสดขึ้นมาแทน จากภาษาแปลกๆและคนรายงาน ข่าวนี้คงมาจากแทบเหนือ แถวๆพวกฟินแลนด์ นอร์เวย์ละมั้ง ทากิรุมองวีดีโออย่างเดียวด้วยสาเหตุที่ว่าเขาฟังไม่ออก

    .

    ด้านคนเฝ้าทีวี เขาเห็นมีสีหน้าไม่ได้แตกต่างมาก ดูเคร่งเครียดผิดปกติ ทากิรุกลับมาสนใจคอมพิวเตอร์เครื่องจิ๋วอีกครั้ง ไทกะกดปุ่มPrint screenติดกันรัวๆจนเขากลัวว่าปุ่มจะพังเอา

    .

    “ยูกิดารุมอน?”เสียงทาคาโตะทำให้เขาเพ่งมองที่หน้าจอแต่กลับเห็นแค่นักข่าวสองคน คนหนึ่งในสตูอิโอกับอีกคนในสถานที่รายงาน ไม่เห็นมีมนุษย์หิมะมอนอะไรนั้นเลย

    .

    “กิซามอน...นูเมมอน...โกมามอน”คราวนี้เป็นเสียงจากหน้าทีวี คนอายุเยอะรองลงมาลูบท้ายทอยตัวเองอย่างผิดหวัง “ของฉันมีแต่ภาพแหะ แต่รอยหลุมระเบิดใหญ่ขนาดนี้ไม่น่าจะเป็นพวกอาวุธสงครามแน่ๆ”ทาคุยะส่งมือถือให้เด็กผมน้ำเงิน ไทกะรับมาแต่สายตายังจับจ้องที่หน้าจออยู่

    .

    “ข่าวว่ายังไงบ้างครับ?”

    .

    “หลุมในนิวยอร์กเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อน และเกิดอย่างไม่มีสาเหตุคนแถวนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ตามข่าวเห็นว่าสร้างความเสียหายให้ตึกรอบข้างเหมือนมีไฟอะไรสักอย่างทำให้โครงสร้างตึกละลาย ตัวเลขคนเสียชีวิตตอนนี้อยู่ที่สิบกว่า คนบาดเจ็บอีกเพียบ” ทากิรุไม่ชอบคำว่าคนเสียชีวิตกับคนบาดเจ็บสักนิดเลย เขานึกถึงตอนนั้น ควอทซ์มอน....

    .

    กัมดรามอน ตอนนี้นายเป็นยังไงบ้าง ฉันอยากรู้ชะมัด...

    .

    “ข่าวBBC?”ไทกะถามด้วยเสียงคาดคั้น ไดสึเกะเงียบไปเหมือนยังประมวนผลไม่เสร็จ

    .

    “หลุมระเบิดนิวยอร์กหนึ่งที่ เอ่อ กัวเตมาลา? สองที่ มีรอยเท้าขนาดยักษ์ด้วย แล้วก็อะไรอ่ะ สต็อก...สต็อกโฮล์ม? เอ่อ อะไรสักอย่างที่สวีเดน มีรอยลากยาวเหมือนยักษ์สู้กันด้วย” ไดสึเกะหยุดไปสักพัก “ในข่าวบอกว่ามีคนเห็นรอยแยกอะไรสักอย่าง”รอยแยกที่ว่าจะเหมือนกับที่เกิดดิจิควอทซ์หรือเปล่านะ... ไทจิกับมาซารุลุกขึ้นพร้อมส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้ไทกะ

    .

    “เหมือนมิติจะแปรปรวนอีกแล้ว ดิจิไวซ์มีปฏิกิริยากันไหม?”คนผมน้ำตาลยุ่งฟูหยิบของรูปร่างแปลกๆอันเล็กๆออกมา มันกะทัดรัดและน่าพกพากว่าครอสโหลดเดอร์พวกเขามาก ใหญ่เทอะทะแถมยังหน้าจอเล็กมองอะไรไม่ค่อยเห็นอีก

    .

    “น่าจะอยู่ไกลกันเกินไปจนไม่มีปฏิกิริยานะครับ”ทาคาโตะเขย่าอุปกรณ์ในมือไปมา เหมือนเวลาที่เขาชอบทำตอนหาสัญญาณโทรศัพท์ ถ้าชูขึ้นแล้วสัญญาณมีเขาอาจจะทำแบบเดียวกันก็ได้ แต่มันเป็นดิจิไวซ์ไม่ใช่มือถือ

    .

    ไทกะเอนตัวเข้ากับเก้าอี้ นวดไหล่ตัวเองคลายความเมื่อยล้าไปพลางๆ

    .

    “พวกองค์กรอะไรก็ล่มหมดแล้วด้วยสิ เฮ้อ นี้ฉันต้องหาข้อมูลทำอะไรพวกนี้อีกแล้วหรอ รู้สึกแก่ลงห้าสิบปีอีกแล้ว”

    .

    “แกจะแก่เพราะบ่นเนี้ยละไทกะ”มาซารุทุบหัวคนนั่งหน้าคอมหนึ่งรอบเพื่อผ่อนคลายความเครียด

    .

    .

    .


    ที่ดูไม่ได้ลดลงสักนิด

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    - - - - - -- - - - -- - - - - -- - -- - -

    ยกความดีความชอบให้ภาคTriค่ะ ทำให้เรากลับมาต่อได้ o<-< ที่หายไปเพราะมัวแต่ไปติ่งนิยาย หนัง ซี่รีย์ และแฟนด้อมตะวันตกค่ะ เค้าขอโทษ...


    ส่วนเรื่องอายุตอนนี้ 

    จะเรียงเป็นไทจิโตสุดอายุย่างเข้า20แล้ว เป็นหนุ่มมหาลัยปีสองที่อีกไม่นานจะปีสาม

    ทาคุยะปีสองเรียนนิติ ส่วนเหตุผลทำไมทาคุยะเรียนนิติจะมีบอกค่ะ(ถ้าไม่ลืมอะนะ)

    มาซารุไม่คิดจะให้เรียนรัฐศาสตร์หรอกค่ะ จริงๆ ตอนนี้ยังเป็นเด็กปีสามอยู่นะคะ แต่อีกไม่นานจะเข้ามหาลัยแล้ว

    ไดสึเกะ อายุห่างกับไทจิ3ปี ก็เลยอยู่ปีสองค่ะ แต่อีกไม่กี่ตอนคงต้องเป็นเด็กปีสาม ก็ตอนนี้มันหน้าหนาวหนิคะ อีกไม่กี่เดือนญี่ปุ่นเขาถึงจะจบการศึกษาแล้วเปิดใหม่ตอนใบไม้ผลิ 

    ไทกะห่างจากไดสึเกะหนึ่งปี(มโนล้วนๆไม่มีความจริงอิงผสม) ไทกิก็ลดอีกปี ส่วนทาคาโตะกับทากิรุอยู่เท่ากันค่ะ ส่วนไทม์ไลน์จะไขข้อข้องใจให้อีกทีนะคะว่าทำไมทากิรุกับทาคาโตะถึงอยู่ชั้นเดียวกันได้   


    ที่สำคัญ triมันดีค่ะ ยามะไทที่ดี พึ่งกลับไปฟังดราม่าซีดีของ02มาด้วย

    แงงงงง natsu e no tobiraที่ดีค่ะ เสียงวอลเลซน่ารักมากจนอยากให้โผล่ในฟิคเลย TwT  

    แทบจะร้องstreet to the summerหลังฟังดราม่าซีดีจบเลยค่ะ โฮกกกก ตอนนี้เป็นเนื้อเรื่องมาเปื่อยๆ คงอีกสักพักกว่าเรื่องจะเดินใหม่ละคะ ระหว่างนั้นก็เป็นชีวิตประจำวันทุกคนต่อไป เจอกันยามหน้าเมื่อไทรออกแชปเตอร์ใหม่นะคะ #ผิด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×