ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [The Maze Runner] Another Story

    ลำดับตอนที่ #2 : Roman & Greek [Minho*Newt]

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 57


    เขาเคยได้ยินว่าชาวกรีกกับชาวโรมันเกลียดหน้ากันยิ่งกว่าอะไร

     

     

     

    มินโฮเป็นพวกเลือดผสม

     

     

     

    ครึ่งหนึ่งของเขาคือมนุษย์ อีกครึ่งคือเทพเจ้า

     

     

     

    เขาบุตรแห่งมาร์ เทพสงครามของโรมัน

     

     

     

    ใครหลายคนอาจคิดว่า เขาโกหก หรือมองด้วยสายตาเอือมๆว่าเขาเป็นโรคประสาท แน่ละคนส่วนใหญ่เห็นมินโฮเป็นเด็กมีปัญหาพ่วงด้วยโรคดิสเล็กเซียกับสมาธิสั้น ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเป็นเลือดผสม

     

     

     

    เขาไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้รวมถึงการอ่านหนังสือด้วย ทุกครั้งที่เขาพยายามตัวอักษรพวกนั้นจะเปลี่ยนสลับไปมาไม่เป็นประโยค แต่ความลำบากของเลือดผสมไม่ได้หยุดแค่นั้น  ย้อนกลับไปช่วงเกรดหก เป็นครั้งแรกที่เขาเจออสูรกายตามล่า กลิ่นมันอุบาทว์อย่างกับหนูตายเป็นชาติหมกด้วยผ้าเน่าๆกลิ่นเหม็นอับ เขาแตกตื่นแต่คนรอบข้างกลับไม่ยินดียินร้าย ทุกคนยังทำตัวเป็นปกติ

     

     

     

    เขาวิ่งหนีได้ยินเสียงตวาดของวิทยากรดังคลอมาด้วย แต่ไม่สน อสูรนั้นมาพร้อมปีกพิเศษบินไม่กี่ครั้งก็ไล่ตามเขาทัน ส่วนมินโฮเด็กเกรดหกผู้น่ารักมาตัวเปล่าไร้ทางสู้ เขาทำตามสัญชาตญาณ หักหลบมุมให้ตัวที่ตามล่าชนกับอะไรต่างๆนานา จนสุดท้ายอาจารย์สอนวิชาพละก็กระโดดมาบังตัวเขาก่อนเอาไม้อะไรสักอย่างฟาดอสูรตนนั้น

     

     

     

    เด็กชายลืมตาขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ โค้ชวิชาพละกำลังเคี้ยวท่อนเหล็กที่ใช้ต่อสู้เมื่อครู่อย่างเอร็ดอร่อย และมินโฮพึ่งได้ตระหนัก เขาโค้งงอบนศีรษะและส่วนขาลีบไม่เหมือนมนุษย์แต่กลับเป็นลำขาของสัตว์ชนิดหนึ่งที่เขารู้จัก

     

     

     

    ... แพะ...

     

     

     

     

    โค้ชพละของเขาเป็นฟอน สัตว์ในตำนานแห่งโรมัน มีหน้าที่ติดตามวีรบุรุษและถีบส่งเหล่าเลือดผสมไปค่ายจูปิเตอร์ สถานที่ปลอดภัยแห่งเดียวในโลกสำหรับเลือดผสม

     

     

    ตอนนี้มินโฮอยู่เกรดสิบ ใช้ชีวิตในฐานะเลือดผสมเกือบสี่ปี เรียนรู้การต่อสู้และการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อทำตามภารกิจมอบหมายจากเทพเจ้า บางครั้งให้ตามหาสิ่งของ บางครั้งให้กำจัดอสูรกาย

     

     

     

    เขาเดินทางมาค่ายช่วงฤดูร้อนตามปกติ แต่วิญญาณตนหนึ่งในกรุงโรมใหม่วิ่งเลิ่กลั่กยื่นจดหมายซองประหลาดให้เขา มาร์ไม่ใช่เทพน่ารักขนาดเขียนจดหมายขอลูกชายให้ทำภารกิจแน่ อย่างน้อยก็ในความคิดมินโฮ

     

     

     

    เด็กหนุ่มเชื้อเอเชียแกะซองอย่างระมัดระวัง บางทีเด็กเมอร์คิวรี่อาจจะแกล้งเขา ไม่ก็จดหมายจากพวกธิดาวีนัส แต่ไม่หรอกลักษณะจดหมายของพวกหล่อนมักมีน้ำหอมกลิ่นฉุนติดมาเสมอ เขาไล่อ่านข้อความบนแผ่นกระดาษ น้ำหมึกสีเข้มตวัดเป็นอักษรโรมันอย่างงดงาม

     

     

     

    ตลอดเวลาที่เขาอยู่ค่ายจูปิเตอร์ คำที่เคยได้ยินมาคือชาวกรีกกับโรมันเกลียดกันยิ่งกว่าอะไร ชาวกรีกเป็นพวกไร้ระเบียบ ไม่ทำตามกฎเกณฑ์ และยังทำตัวอย่างผู้มีอำนาจเพราะวัฒนธรรมเก่าแก่กว่า นั้นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พวกเขาเกลียดชาวกรีกยิ่งกว่าสงคราม เขาไม่คิดว่ามีเลือดผสมชาวกรีกหลงเหลืออยู่ด้วยซ้ำ

     

     

     

    แล้วเทพเจ้าเล่นตลกอะไรถึงบอกให้เขาเดินทางไปค่ายฮาฟล์บลัด

     

     

     

    สถานที่สำหรับเลือดผสมชาวกรีก

     

     

     

    เมื่อเป็นคำสั่งของจูโน่ ราชินีแห่งทวยเทพมีหรือพวกเขาจะปฏิเสธได้ มินโฮเดินทางจากซานฟรานซิสโกไปลอง ไอส์แลนด์พร้อมโทมัส บุตรแห่งเนปจูน ตลอดการเดินทางเขาได้แต่ครุ่นคิดถึงเรื่องจดหมาย เขาพอรู้ว่าเทพเจ้าทุกองค์มีสองบุคลิก พวกเขาเป็นทั้งกรีกและโรมันบางครั้งสองสิ่งที่แตกต่างก็ทำให้เกิดเรื่องผิดพลาด บางทีเรื่องนี้อาจเป็นจุดบกพร่องของเทพเจ้ากระมั้ง การส่งสองสายเลือดที่ฆ่ากันตายได้ตั้งแต่แรกเจอมาสานสัมพันธ์ น่าขันสิ้นดี

     

     

     

    มินโฮได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ โทมัสพร่ำพูดถึงเรื่องต่างๆด้วยเสียงตื่นเต้น คำถามมากมายหลั่งไหลจนเขาตอบกลับไม่ทัน พวกเขาจะเป็นคนแบบไหน คิดว่าจะมีโครงกระดูกเต้นระบำให้ดูแบบค่ายจูปิเตอร์รึเปล่า คำถามพวกนั้นทำให้เขาเอือมระอาแต่ก็ตอบกลับด้วยสีหน้าและน้ำเสียงหน้าตาย

     

     

     

    มินโฮบอกกับตัวเอง เมื่อถึงค่ายบ้านั้นเขาจะแสดงให้เห็นว่าชาวโรมันเป็นยังไง เขาจะแสดงลักษณะวิสัยไม่ให้ผิดเพี้ยน ต่อให้วัฒนธรรมกรีกจะเกิดก่อนแต่ไม่มีเหตุให้พวกเขาต้องก้มหัวต่อชาวกรีก

     

     

     

    สัญลักษณ์SPQRบนท่อนแขน เขาจะแสดงมันอย่างภาคภูมิ

     

     

     

    โทมัสบ่นเรื่องทางเข้าที่ลำบากและทุลักทุเล พิกัดตามที่จูโน่บอกคือกลางป่าและมินโฮมั่นใจว่าเขาไม่ได้มาผิดเส้นทาง เด็กหนุ่มมุ่งหน้าต่อ เขาเห็นเสาสีขาวทรงกรีกตั้งตระหง่านและสลักคำว่า ค่ายฮาฟล์บลัด

     

     

     

    มินโฮนึกไม่ออกเลยว่าเขาจะเริ่มต้นสนทนากับชาวกรีกอย่างไร บางทีอาจจะคำทักทายอย่าง สวัสดีพวกเราเป็นชาวโรมันนะ ยินดีที่ได้รู้จัก บรรพบุรุษเราเคยไปก่อสงครามไว้กับพวกนายเยอะแยะเลย เขาส่ายหน้ามันคงเป็นการทำความรู้จักที่แย่สิ้นดี




    โทมัสบังคับให้เขาสัญญาว่าจะทำตัวดีไม่หาเรื่องหรือก่อเหตุอะไรตอนอยู่ค่ายฮาฟล์บลัด ใช่ เขาสัญญามันแล้วแต่หากชาวกรีกทำตัวไม่รับแขกอย่างดูหมิ่นเชื้อโรมันเมื่อไร
    คำสัญญานั้นเขาถือเป็นโมฆะละกัน

     

     

     

    มินโฮยืนอยู่หน้าเสาสลัก เขามองดูเด็กวัยรุ่นหลายคนมองสับกันไปมาอย่างหวาดระแวง พวกเขาสวมเสื้อยืดสีส้มสกรีนข้อความว่า CAMP HALF-BLOODสีดำพร้อมเปกาซัสอยู่ด้านล่างตัวอักษร โทมัสยิ้มขันขำและพูดด้วยน้ำเสียงสดชื่น ชาวกรีกดูเป็นมิตรและไม่อันตรายสักนิด มินโฮเห็นด้วยอย่างน้อยก็มีบางคนที่พยายามยิ้มโต้ตอบแต่ไม่มีใครสักคนก้าวออกมาสักที

     

     

    จนสุดท้ายเด็กตัวสูงผมสีบรอนซ์ก็เดินมาทางเขา รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าอ่อนเยาว์

     

     

    “นายเป็นคนจากโรมันสินะ ค่ายฮาฟล์บลัดยินดีต้อนรับ”

     

     

     

    เขาเคยได้ยินว่าชาวกรีกกับโรมันเกลียดหน้ากันยิ่งกว่าอะไร

     

     

     

    “ฉันนิวตัน เรียกนิวท์ก็ได้ยินดีที่ได้รู้จัก”

     

     

     

    เรียกว่าเห็นหน้าเมื่อไรพร้อมจะมีเรื่องทุกครั้ง

     

     

     

    “มินโฮ....นี้โทมัส”

     

     

     

     แต่บางทีถ้าได้ทำความรู้จักทั้งสองสายเลือดอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ได้ หรือบางทีอาจจะเป็นมากกว่าเพื่อนด้วยกระมั้ง....?

     


























     

    END or TBC……? 

     

    Talk Zone

    หลังจากทวิตไปว่า เอยูอียิปต์ก็มีแล้ว ลองเอยูเลือดผสมหน่อยดีไหมละ!? อ้างอิงส่วนใหญ่มาจากวรรณกรรมเยาวชนเรื่องเพอร์ซี่ แจ็กสันคะ ใครที่ไม่เคยอ่านลองไปหาอ่านได้นะคะ รับรองเรื่องความสนุกและฮาเลยคะ

     

    ปล.ถ้ามีต่อนิวท์จะเป็นบุตรไทคีคะ ไทคีนี้เทพองค์ไหน? เทพองค์เล็กๆในโอลิมปัสนั้นแหละคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×