คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ดิ้นรน [Alby*Newt]
Title : ดิ้นรน
Pairing : Alby*Newt
Note : อ้างอิงหนังสือเล่ม The Maze Runner เป็นหลักคะ
นิวท์ ขอโทษวะที่เห็นแก่ตัว
ทั้งที่จะออกไปพร้อมกัน จะอยู่ด้วยกัน ทั้งที่สัญญาไว้แล้ว
ชาวทุ่งกลุ่มแรก พวกเราคือชาวทุ่งกลุ่มแรก หลังออกจากกล่องปลวกๆนั้น ถกเถียงกัน ต่อยตี ร้องไห้ฟูมฟายจนได้สติ พวกเราเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว พยายามไขว่คว้าทุกสิ่งที่ทำให้เกิดความหวังแต่สุดท้ายทุกอย่างยังคงมืดมิด พวกเราจำอะไรไม่ได้ บางคนนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร ตื่นมาในสถานที่ไม่รู้จัก อยู่กับคนไม่คุ้นเคย ถูกล้อมด้วยกำแพงมโหฬาร พวกเราต่างอะไรกับนักโทษ? นิวท์ รู้ไหม เพียกเกือบทุกคนท้อแท้และสิ้นหวัง แต่นายกับมินโฮเลือกที่จะดิ้นรน
นายเป็นคนจุดประกายไฟดวงเล็กๆ ไฟที่เรียกว่า “ความหวัง”นอกจากนั้น นายยังเป็นคนประคับประคองไฟพวกนั้นให้ลุกโชน
พวกเราเริ่มดิ้นรน พิจารณาข้าวของที่ส่งมาในกล่อง คัดเลือก วิเคราะห์ ทำทุกอย่างเพื่อให้มีชีวิตต่อ พวกเราเริ่มชินกับระบบของผู้สร้าง ส่งของจำเป็นมาสัปดาห์ละหน ส่งหน้าใหม่มาเดือนละครั้ง พวกนายเลือกฉันเป็นผู้นำคอยควบคุมสิ่งรอบตัวและชี้แนวทาง
แต่ นิวท์ นายรู้ไหม ถึงฉันจะเป็นผู้นำแต่ฉันไม่เคยเป็นศูนย์กลาง
รองหัวหน้าของเรา เป็นคนเข้มแข็ง สุขุม พึ่งพาได้ ทุกสิ่งล้วนเป็นเหตุให้พวกเรารักนาย ทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คำพูดเจ็บแสบ และความอ่อนโยน ทุกสิ่งที่ฉันไม่มีนายกลับรวบรวมมันไว้ นายมักดูแลหน้าใหม่อย่างใกล้ชิด คอยประคบประหงมลูกสัตว์ไร้เดียงสาระทั่งดูแลตัวเองได้ เวลาฉันโกรธหรือไม่พอใจนายเป็นคนเดียวที่พยายามพูดคุย ไล่กี่ครั้งก็ไม่ยอมไป นายชอบว่าคนอื่นหัวดื้อ ปลวกเอ้ย นายต่างหากที่หัวดื้อที่สุด
รู้ไหม นิวท์ สิ่งที่ทำให้รองหัวหน้าทุ่งคือศูนย์กลางไม่ใช่ผู้นำอย่างฉัน เป็นเพราะอะไร? คำตอบคือความอ่อนโยนจริงใจเหล่านั้น
ทุกอย่างลงตัว การติดอยู่ภายในทุ่งไม่ได้เลวร้ายเท่าไรเมื่อมีสิ่งของส่งมาให้ทุกสัปดาห์ มีสถานที่ปลอดภัยคุ้มหัว แม้จะหวาดกลัวเสียงกรีดร้องยามราตรีแต่ในเมื่อมีกำแพงพวกเราไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้าสิ่งภายนอก
กระทั่ง เกิดความเปลี่ยนแปลงในหลายเดือนให้หลัง
ประตูถูกเปิดออกเป็นครั้งแรก
พวกเราให้ความสนใจกับสิ่งแปลกใหม่ ภายนอกนั้นต้องมีทางออก พวกเราเชื่อเช่นนั้น แต่ไม่มีใครกล้าพอจะสำรวจมัน ไม่กี่วันผ่านไป มินโฮเป็นอาสาสมัครคนแรก ความวาบหวังประกายบนดวงตาของนาย แค่เพียงครู่เดียวก่อนแปรเป็นความด้านชา นายทะเลาะกับมินโฮเพราะหมอนั้นอยากสำรวจวงกต นิวท์ นายรู้ดีกว่าใครไม่ใช่หรือ สมองมินโฮมีแต่เผละ หมอนั้นไม่เข้าใจหรอกที่นายคัดค้านเพราะเป็นห่วง ฉันไม่เข้าใจ ทำไมนายถึงห่วงปลวกนั้นขนาดนี้
จนกระทั้งนายบอกว่าจะเป็นนักวิ่ง จะสำรวจวงกตไปพร้อมกับมินโฮ ฉันรู้สึกว่ามีอะไรกระจุกที่คอไม่สามารถกลืนหรือสลัดมันไปได้ ฉันได้ยินเสียงประกาศนักแน่นของนายวกวนไปมา เหมือนทุกอย่างรอบข้างจางหาย ฉันเห็นแค่นาย เห็นแค่นายกับสายตาวอนคำอนุญาต
ฉันยิ้ม และพูดเรื่องงี่เง่าที่สุด ฉันสนับสนุนนายกับมินโฮ ถึงในใจนึกหวาดกลัว นายอาจถูกวงกตกลืนกินและฉันจะไม่มีวันได้เห็นรอยยิ้มสดใสอีกครั้ง นิวท์ นายคัดค้านมินโฮเพราะแบบนี้สินะ นายกลัวสูญเสียคนในทุ่ง คนที่เป็นเสมือนครอบครัวใหม่ และนายรู้ไหม ฉันสาบานกับตัวเองไว้ ต่อให้เกิดอะไรขึ้น ต่อให้พวกนั้นล้างสมองฉัน ต่อให้ฉันต้องตาย ฉันสาบานว่าจะจำเรื่องของนายและดิ้นรนถึงที่สุดเพื่อนาย
ทุกอย่างควรลงตัว แต่ไม่ใช่ในช่วงนั้น เรายังไม่มีกฎ เรายังไร้ซึ่งระเบียบ นิค หน้าใหม่นั้นโดนต่อย เราฉีดเซรุ่มและพาเขามาพักฟื้นได้ก็จริง แต่สิ่งโกลาหลเริ่มต้นจากจุดนั้น
กรีดร้อง คุ้มคลั่ง กรีดร้อง ทุรนทุราย กรีดร้อง ประสาทเสีย กรีดร้อง การกระทำวนซ้ำไปมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ พวกเราทุกคนล้วนหวาดกลัว บางคนร้องไห้ บางคนวิงวอน มันไม่เคยเกิดขึ้น นิคผ่านการเปลี่ยนแปลง ความทรมานเหล่านั้นเป็นภาพหลอนตลอดชีวิตของฉัน สีหน้าอิดโรย ดวงตาลึกโบ๋ ริมฝีปากแห้งแผก ผิวซีดเหมือนศพ เนื้อตัวสั่นไม่หยุด หลังการเปลี่ยนแปลง นิคเอาแต่ถอนหายใจ ทำตัวไร้จุดหมาย ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “ความหวัง” สักนิด
จากนั้นนิคเกิดบ้าคลั่ง หมอนั้นวิ่งไปรอบทุ่งแหกปากว่า เราไม่รอด เราไม่มีทางรอด พุ่งตัวเข้าทำร้ายชาวทุ่งรวมถึงเพื่อนสนิทของตัวเอง แววตาของนิคไม่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์อีกต่อไป พวกเราจนปัญญา เราช่วยกันลากหมอนั้นไปที่ผา และทำสิ่งน่าสะอิดสะเอียน พวกเราฆ่านิค พวกเราฆ่าครอบครัวใหม่
เราสูญเสียเพื่อน เราสูญเสียนิค พวกเราล้วนโศกเศร้า หลายคนสะอึกสะอื้นอาวรณ์เรื่องที่เกิดอย่างกะทันหัน หลายคนสบถคำด่าทั้งที่น้ำตาไหลนอง นิวท์ นายแสร้งทำตัวเข้มแข็ง นายปลอบคนอื่นด้วยรอยยิ้มสดใสบอกพวกเราว่าไม่เป็นไร มันจบแล้ว ไม่ต้องหวาดกลัวแล้ว
มันควรจบแต่ไม่ใช่ ยุคมืดกำลังคืบคลาน
นิคคือจุดเริ่มต้น ชาวทุ่งหลายคนเริ่มฆ่าฟันกัน พวกเขาทำร้ายคนรอบข้าง ทั้งที่ไม่ได้โดนต่อย ทั้งที่ไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลง แววตาพวกนั้นแสดงออกแต่ความทุกข์ระทมและสิ้นหวัง โชคดีที่เรามีมากกว่า เราควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลาไม่นาน แต่ท้องทุ่งของเรากลับมีเลือดสาดกระเซ็นเป็นสิ่งย้ำเตือน
เราสร้างกฎเกณฑ์เพื่อความอยู่รอด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากอีก เราเจ็บปวดมามาก แต่เราต้องเดินหน้าต่อ ไฟแห่งความหวังพวกนั้นกำลังหริหรี่ แต่เรายังดิ้นรน ดิ้นรนเพื่อชีวิต
นายเป็นคนพร่ำบอกเราเสมอว่า อย่าละทิ้งจุดหมาย อย่าละทิ้งความหวัง และ เดินหน้า แล้วทำไม นิวท์ ทำไมกัน นายกลับเลือกที่จะตาย
ตอนเจอนายกำลังดีดดิ้นทรมานในสมองของฉันว่างเปล่า ฉันเห็นสีหน้าเจ็บปวดของนาย เสียงกรีดร้องของนาย นายรู้ไหมว่าตอนนั้นฉันรู้สึกอย่างไร นิวท์ ฉันกลัว กลัวยิ่งกว่าวันแรกตอนมาถึงทุ่ง ยิ่งกว่าการเจอกรีฟเวอร์ ยิ่งกว่าตอนฆ่านิค ฉันกลัวต้องเสียนายไป
นายควรรู้ตัวนะนิวท์ ถ้าพวกเราไม่มีนาย เราจะไม่มีตัวเชื่อมระหว่างทุ่ง เราจะเสียศูนย์ ทุกคนรักนายรวมทั้งไอ้หัวขวดกัลลี่ด้วย ทุกคนรักนาย ได้ยินไหม รัก รัก รัก ทุกคนรักนาย รักรอยยิ้มของนาย รักเสียงของนาย รักความอ่อนโยนของนาย และเราไว้ใจความอ่อนโยนนั้นจนมองข้ามว่านายกำลังแตกสลาย
ฉันดีใจที่เราไม่ใช้เซรุ่มกับนาย ถ้านายกลายเป็นคนก้าวร้าว ไม่ฟังเหตุผล ฉันคงเหมือนคนที่สูญเสียดวงตา ไม่อาจมองเห็นสิ่งอื่นได้นอกจากความมืด นานมากแล้วที่นายออกไปในวงกต นายบาดเจ็บหนักจนไม่สามารถเป็นนักวิ่งได้อีก
รู้ไหม มินโฮหัวเสียแค่ไหนที่นายทำแบบนั้น รู้ไหม ฟรายแพนพยายามเค้นสมองเท่าไหนเพื่อให้นายยอมทานอาหาร รู้ไหม ซาร์ท วินสตัน เบ็น กัลลี่ ชาวทุ่งคนอื่นๆ พวกเขาห่วงนายแทบบ้า และรู้บ้างไหมว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหน ที่ปกป้องนายไม่ได้
ตลอดหลายเดือนหลังเหตุการณ์นั้น นายไม่ต้องวิ่งในวงกต ไม่ต้องห่างไกลจากสายตาฉัน นายทำตัวเป็นปกติ รอยยิ้มบนหน้าของนาย ฉันชอบมัน เวลานายช่วยซาร์ททำสวน มองดูเหล่าต้นไม้อย่างรักใคร่ ฉันชอบมัน เวลานายพูดคุยกับน้องใหม่ ฉันก็ชอบมัน นายสามารถทำในสิ่งที่ผู้นำไร้ความสามารถอย่างฉันทำไม่ได้
ถึงจะเห็นแก่ตัวแต่ฉันดีใจที่ขานายเจ็บ นั้นหมายถึงจะไม่มีนายที่เป็นนักวิ่งอีกแล้ว จะไม่มีวันที่นายต้องไปอยู่ในวงกตอีก ทุกอย่างดำเนินไปเช่นเดิม
จนกระทั่งโทมัสโผล่มา ฉันไม่เห็นแววความหวังในสายตานายนานมากแล้ว นายเชื่อใจว่าปลวกนั้นต้องแก้ปริศนาวงกตได้ ความพยายามสองปีของเราต้องไม่สูญเปล่า รู้ไหม ฉันอิจฉาโทมัส นายเชื่อใจเขามากกว่าฉัน นายเชื่อใจคนที่รู้จักไม่กี่วันมากกว่าฉันที่อยู่ด้วยกันมาสองปี
มินโฮเจอซากกรีฟเวอร์นอนแน่นิ่ง ฉันจึงอาสาไปสำรวจ นายรู้ไหม ฉันทำแบบนั้นเพราะอยากให้นายกลับมาสนใจฉัน เชื่อใจฉันเหมือนกับที่นายเชื่อหน้าใหม่ ไม่ใช่เพราะฉันคือผู้นำ ไม่ใช่เพราะฉันคือผู้นำเลยสักนิด
นายส่งพวกเราด้วยรอยยิ้ม และคำพูดหยอกล้อ ฉันกับมินโฮรีบเร่งไปที่จุดหมาย ฉันเจอกรีฟเวอร์และคิดว่ามันจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก และถ้าฉันมีอะไรติดมือกลับไป พวกเราจะได้ชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นและเข้าใกล้กุญแจของการไขปริศนา
ฉันสะเพร่าเกินไป ไม่ทันได้เห็นว่ากรีฟเวอร์ส่งเสียง กิ๊ก กิ๊กเริ่มเคลื่อนไหว ไม่ทันได้ยินเสียงมินโฮร้องห้าม
เข็มปลวกๆนั้น ฝังลงในร่างฉัน
ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่าง เหมือนมีคมมีดไล่บาดตามกล้ามเนื้อด้านใน ฉันกรีดร้องระบายความรวดร้าว ปล่อยให้ความคุ้มคลั่งครอบงำ ท่ามกลางทุกอย่างที่มืดลง ฉันเห็นนาย นายเป็นเหมือนแสงสว่างที่ฉันพยายามไขว่คว้า แต่ได้มาเพียงความว่างเปล่า จากนั้นสติของฉันก็ดับวูบ
ปวดหัว กล้ามเนื้อสมองฉันกำลังทำงาน
ปวดหัว โลกภายนอก เมืองพังพินาศ การลุกไหม้ของด้วยอาทิตย์
ปวดหัว วิคเค็ด ไข้วาบ เชื้อโรค แคร้ง
บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด บ้าคลั่ง พินาศ มอดไหม้ ทลาย สิ้นสุด
ไม่ไหวแล้วโว้ย!!
โลกปลวกๆแบบนั้น ฉันจะไม่ให้นายต้องเจอมัน ฉันจะไม่ให้พวกเราออกไปเด็ดขาด!!
ทำไมพวกนายถึงยังดิ้นรนอยู่ เพื่ออะไร เพื่ออะไร ตอบฉันสิ นิวท์! คำสัญญาที่เคยให้ไว้นะ ลืมมันไปสะ ฉันไม่ยอมให้พวกนายออกไป ไม่มีวัน ไม่มีวัน
เซรุ่มนั้นกระตุ้นความทรงจำฉัน ความเลวร้ายเหล่านั้นหลอกหลอนฉันยิ่งกว่าการฆ่านิคหรือเสียงร้องของกรีฟเวอร์ ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ในสมองฉันมีแค่ความหวาดกลัว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปฉันจะเป็นแค่ไอ้ปลวกงั่งตัวหนึ่ง ฉันไม่รู้แล้วว่าอะไรสำคัญ ร่วมต่อสู้เพื่อการดิ้นรนของนาย หรืออยู่รอความตายในทุ่งนี้
ฉันต้องการคุยกับโทมัส แค่ปลวกนั้นคนเดียวฉันไล่นายออกไปด้วยโทสะไม่สนใจว่านายเจ็บปวดแค่ไหน หลังระบายทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันพยายามมองหานาย ฉันอยากพูดคุยกับนาย อยากขอโทษ อยากขอบคุณ อยากกอดนาย อยากร้องไห้ อยากให้นายปลอบ
ความทรงจำทำให้ฉันไขว้เขวและอ่อนแอขนาดนี้เชียวหรือ ฉันได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาขณะมองนายสนับสนุนโทมัส หน้าใหม่หลอมรวมไฟความหวังเข้าด้วยกัน ไขปริศนาที่เราพยายามมาตลอดสองปีในเวลาสั้นๆ ฉันรู้แล้วว่าตัวเองแพ้ นายเชื่อโทมัสหมดใจ
พวกนายตัดสินใจลุยออกนอกกำแพง พวกนายมันปลวก ทำไมถึงดิ้นรนเพื่ออิสรภาพ จุดหมายของพวกนายคือโพรงกรีฟเวอร์ แต่แผนปลวกๆกับกองทัพเน่าๆไม่ทำให้ถึงจุดหมายหรอก โดนล้อม โดนล้อมโดยกรีฟเวอร์สิบกว่าตัว เสียงจักรกล กิ๊ก กิ๊ก เป็นจังหวะทำให้ฉันนึกถึงเรื่องในวันวาน
นิวท์ ทำไมนายต้องแสร้งเข็มแข็ง การสูญเสียครั้งนั้น นายเจ็บปวดกว่าใครไม่ใช่หรือ นายสนิทกับทุกคน และพวกเขาก็ตายลงต่อหน้า นายปลอบเพียกในทุ่งด้วยรอยยิ้ม ทั้งที่จิตใจกำลังกรีดร้อง นายหนีไปในป่าเพื่อร้องไห้ พอฉันพบนายรีบเช็ดน้ำตาลวกๆและฝืนยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันชอบรอยยิ้มนายก็จริง แต่ไม่ใช่รอยยิ้มแสนขมขืนแบบนี้
ดวงตาฉันกำลังชื้นแฉะ
ฉันกอดนายและพูดประโยคเดียวกับนาย
“ทุกอย่างไม่เป็นไร มันจบแล้ว”
ตัวนายสั่น เสียงสะอื้นออกมาพร้อมหยดน้ำที่ไหลอาบแก้ม เสียงสบถถึงโลกปลวกๆดังไม่ขาดสาย นายในตอนนั้นเหมือนกับเด็กน้อยหลงทาง เด็กน้องหลงทางที่พึ่งสูญเสียคนรัก ฉันยกมือตัวเองขึ้นลูบหัวให้ใบหน้านายซบบนไหล่ ฉันเลือกคำพูดที่ฉลาดที่สุด
“นายไม่ต้องทำตัวเข้มแข็ง ได้โปรดเถอะ ร้องไห้ในยามที่เสียใจ”
นายกำเสื้อฉันจนยับ ซบไหล่ร้องไห้ นายปล่อยเสียงสะอื้น ปลดปล่อยความโศกเศร้า เป็นมุมมองแค่ฉันคนเดียวที่ได้สัมผัส ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ฉันสัญญาทันทีเมื่อนายเงยหน้าขึ้น
“เราจะออกไปจากที่นี่ไปด้วยกันทุกคน”
ปลวกเอ้ย ทำไมต้องนึกถึงตอนนี้ด้วยวะ
ฉันมันไอ้ปลวกเห็นแก่ตัว ฉันมันคนผิดคำสัญญา รู้ไหมนิวท์ ทำไมฉันถึงทำแบบนี้ ฉันกลัวถ้าออกไปภายนอกฉันจะเห็นนายตาย เพราะฉะนั้นฉันเลยชิงตายสะก่อน เห็นแก่ตัวสมเป็นฉันดีไหมวะ นิวท์?
ฉันเบื่อแล้ว เบื่อที่จะดิ้นรน นายไม่จำเป็นต้องมีฉัน ในเมื่อนายมีทั้งมินโฮ โทมัส และคนอื่น พวกเขาจะทำหน้าที่แทนฉัน เผลอๆอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ ฉันเลือกแล้ว และนี้คือการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของฉัน
ฉันวิ่งออกไปกลางฝูงกรีฟเวอร์ อย่างน้อยในวาระสุดท้ายไอ้บ้าอัลบี้ก็ได้อุทิศตัวให้คนอื่น
อย่างน้อยคงถ่วงเวลาได้ และ ฉันก็ไม่ต้องทรมานอีก
เจ็บ เครื่องมือจักรกลกำลังฉีกกระชากร่างกายฉัน
นายทรุดตัวลง มองมาที่ฉันด้วยสายตารวดร้าว ดูอ่อนแอชะมัด ตอนนี้นายเหมือนลูกหมาเลยวะ นิวท์ ไหน ไอ้รองหัวหน้าใจกล้าหายไปไหนสะแล้ว นายรู้สึกยังไงตอนเห็นฉันกำลังจะตาย นายเจ็บปวดสินะ อยากร้องไห้สินะ แต่นายรู้ไหม เรื่องนี้ฉันตัดสินใจไปแล้ว ฉันไม่ได้อยากแก้แค้นนาย เรื่องที่นายทำร้ายตัวเองหรอกนะ เป็นไปได้ฉันไม่อยากให้นายหันมาเห็นด้วยซ้ำ ฉันไม่อยากให้เป็นความทรงจำเลวร้ายของนาย
ฉันอยากบอกความรู้สึกนี้ บอกเรื่องราวทั้งหมดที่ไม่เคยพูดกับนาย อยากบอกให้นายดิ้นรนเพื่อหนทางปลวกๆของนายต่อไป นิวท์ ฉันก็เหมือนนายในตอนนั้น ฉันแค่อยากพัก ไม่อยากรับรู้อะไรอีก และฉันทนไม่ได้แน่ถ้าเป็นคนเห็นนายตาย ฉันอยากเป็นมินโฮนะ แค่มองตากับนายก็สามารถสื่อความหมายได้ แต่ฉันมันเป็นอัลบี้ เป็นแค่ไอ้ปลวกอัลบี้ที่สื่อความรู้สึกให้นายไม่ได้
ฉันยิ้มให้นาย เป็นรอยยิ้มสุดท้ายที่อยากให้นายเห็น
และขาเหล็กแหลมก็ผ่ากลางหัวฉัน
Talk Zone
//ตาย
ฟิลลิ่งอัลบี้บ้าง มันเคยเป็นสิ่งที่เขียนเล่นในสมุดหลังอ่านTMRจบ
เพื่อนหยิบไปอ่านแล้วบอกว่า รักอัลบี้ขึ้นมา3ระดับ เลยเอามาต่อยอดกลายเป็นฟิคนี้
ส่วนตัวคิดว่าประตูไม่ได้เปิดตั้งแต่ที่กลุ่มแรกมาถึงทุ่งนะ ตามวิคเค็ดสไตล์ต้องให้ไว้ใจสักระยะก่อนจะเปิดประตู ไม่งั้นพวกสติแตกได้วิ่งไปในวงกตและคงตายกันไปเยอะแน่ ฟฟฟ
ปล.จริงๆเราชิปมินนิวท์คะ คู่นี้ไม่ได้ชิปแต่เป็นความรู้สึกที่เราอยากระบายหลังอ่านTMRจบ orz
ปล.2 สามารถพูดคุยได้ที่ @ling_hengyaw นะคะ ไม่ได้รีบ่อยแต่เช็คบ่อยมากคะ ฟฟฟ สำคัญมาก ทวงฟิคไม่ได้นะคะ จะเขียนก็ต่อเมื่อหายขี้เกียจเท่านั้น orz
ความคิดเห็น