คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [Y - APH] Hongkong x Kowloon
.. “พบ” เพื่อ “ลา” ..
.. “มา” เพื่อ” จาก” ..
.. “รัก” เพื่อ “พราก”..
.. “จาก” เพื่อ “จำ” ..
แซ่ก.. แซ่ก...
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าหนึ่งเหยียบย่ำลงบนผืนหญ้าดังขึ้นอยู่ระลอก ก่อนจะเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งตรงเข้ามาหาร่างของเด็กฮ่องกงที่นอนแผ่อยู่บนพื้นทุ่งหญ้า ก่อนจะมาหยุดตรงหน้าแล้วร้องเรียกชื่อของเขาด้วยเสียงอันดังและเป็นเอกลักษณ์
“ฮ่อง! มานอนอยู่ที่นี่อีกแล้วเหรอ!!” ว่าพลางเท้าสะเอวจ้องมองแฝดผู้พี่ของตัวเองเขม็ง
ฮ่องกงเงยหน้าขึ้นไปตามเสียง ก่อนจะยักไหล่ “อะไรล่ะเกา ฉันก็มานอนที่นี่ออกบ่อย ทำเป็นไม่รู้ไปได้” พูดพลางลุกขึ้นนั่ง ปล่อยให้แฝดผู้น้องของตัวเองมุ่ยหน้าไม่พอใจหนัก
“บู่วๆ ฮ่องก็แบบนี้แหละ เวลาสำคัญชอบหายตัวไปทุกทีเลย!”
“เวลาสำคัญ? ช่วงนี้ไม่มีเทศกาลไม่ใช่รึไง?”
“ลืมแล้วรึไง! อีกไม่กี่ชั่วโมงถ้าเรือของพวกนั้นมาถึง นายก็ต้องไปอยู่กับเจ้าตาน้ำข้าวนั่นแล้ว!!”
“แล้ว..?”
“ไม่สนเลยรึไงว่าจะจากบ้านเกิดตัวเองอยู่แล้วรอมร่อน่ะ!”
“สนสิ.. แต่มันช่วยไม่ได้ นายต้องยอมรับมันสิ ก็เราเป็นฝ่ายแพ้..” ฮ่องกงว่าพลางถอนหายใจ
“ไม่! ก่อก๊อไม่ได้แพ้! พวกนั้นต่างหากที่ขี้โกง” เกาลูนค้านหัวชนฝาพลางทำหน้าหงิกเป็นหมามุ่ย(เกี่ยวอะไรกับหมามุ่ยอันนี้ก็ไม่ทราบ?)
“เอาเถอะๆ อีกไม่กี่ชั่วโมงฉันก็จะต้องไปอยู่กับพวกเขาอยู่ดี พูดไปก็เท่านั้นแหละ” ฮ่องกงยกยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวแฝดน้องของตนด้วยความเอ็นดู
เด็กเกาลูนนิ่งเงียบไปก่อนจะเข้าสวมกอดแฝดผู้พี่ของตัวเองด้วบใบหน้าหมองหากแต่ไร้ซึ้งหยาดชลนา ส่วนเด็กฮ่องกงก็กอดตอบเพื่อปลอบประโลมก่อนที่ทั้งคู่จะร้องไห้ออกมาพร้อมกัน ตอนนั้นทั้งสองทำไปด้วยความไร้เดียงสาและเพียงเพราะความผูกพันเท่านั้น
หลังจากที่เด็กทั้งคู่หยุดร้องไห้ จีนซึ่งตามมาทีหลังก็ได้บอกกับฮ่องกงว่าเรือสำเภาของอังกฤษได้มาถึงแล้ว ฮ่องกงต้องจากแผ่นดินเกิดอันเป็นที่รักไปในไม่กี่เสี้ยววินาทีนี้แล้ว
แน่นอนว่า..ทุกคนต้องไปส่งฮ่องกง แต่เกาลูนกลับถูกแฝดของตัวเองห้ามไม่ให้ไปส่งที่ท่าเรือ
และไม่ใช่เพราะฮ่องกงรังเกียจหรือไม่อยากให้เกาลูนไปส่ง แต่เพราะกลัวว่าหากเห็นใบหน้าไร้เดียงสานั่นแล้วจะตัดใจจากถิ่นเดิมไปลง เขาจึงจำต้องออกปากห้ามไว้แต่เนิ่นๆ และได้ให้คำสัญญาอย่างหนึ่งไว้กับเกาลูน
“ถ้าฉันกลับมา นายก็ไม่ต้องไปรับที่ท่าเรือหรอก เพราะฉันจะเป็นฝ่ายมาหานายเป็นคนแรกเอง”
..อากาศสำคัญต่อปอดเช่นไร
ความหวังก็เป็นเช่นนั้นต่อความหมายของชีวิต..
หลังจากที่ฮ่องกงจากไป ทุกคนบนเกาะฮ่องกงก็ได้แค่เพียงหวัง.. ว่าสักวันเขาจะกลับคืนมาสู่ถิ่นที่เดิม ไม่ว่าอีกกี่สิบปีก็ตามที.. ทุกคนรอเขาอยู่.. รอจิตวิญญาณของบ้านเกิดได้รับอิสระและหวนกลับคืนมาเป็นรากฐานให้พวกเขาอีกครั้ง
รีบกลับมานะ...
..ทุกคนเกลียดก็ต้องพิจารณา
ทุกคนรักก็ต้องพิจารณา..
เวลาผ่านไป.. ฮ่องกงกับเกาลูนก็เติบโตขึ้นมามาก..
ในระหว่างเส้นแบ่งระหว่างเวลาและทวีปนั้น.. เด็กสองคนก็ได้โตบโตขึ้นมา หากแต่คนหนึ่งเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเกลียดชัง แต่อีกคนกลับเติบโตด้วยการเติมเต็มความรักความอบอุ่นจากคนรอบด้าน
ฮ่องกง.. เติบโตพัฒนาตนเองได้เรื่อยมา ทั้งเรื่องท่าเรือ การบริหารบ้านเมืองของเขาก็ล้วนได้รับการสอนสั่งจากอังกฤษมาโดยตลอด
ส่วนเกาลูน... กลายเป็นปราการ.. สลัม ชุมชนแออัดซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุมของพวกมาเฟีย โสเภณี ยาเสพติด โรงงานฝิ่น และเหล่าอบายมุขต่างๆที่กบดานกันอยู่ เรียกได้ว่าเป็นด้านมืดของฮ่องกง..
ความแตกต่างระหว่างคนสองคนก็คือ..
ด้านฮ่องกง..
ฮ่องกงในร่างที่เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กหนุ่มอายุราว 16-17 ปี (ซึ่งอายุจริงมากกว่านั้นพันเท่า!) เก่งเรื่องการค้า ท่าเรือ การบริหารเมือง และสามารถต้อนรับพ่อค้าแม่ขายชาวต่างชาติได้อย่างสุภาพนอบน้อมและดีเยี่ยม
“เก่งจริงๆ ฮ่องกง ฉันไม่ผิดหวังในตัวนายเลย” อังกฤษมักจะเอ่ยคำชมแบบนี้ทุกครั้งที่ฮ่องกงทำงานผ่านบรรลุไปได้ด้วยดี
“Thanks ก็ you teach me เองนี่” แต่มันเสียตรงที่เจ้าหนุ่มนี่ดันชอบพูดอังกฤษคำจีนคำเนี่ยแหละนะ.. อังกฤษก็ว่าเขาสอนให้พูดภาษาอังกฤษทั้งประโยคแล้ว ไหงเป็นแบบนี้ได้ก็ไม่รู้
ด้านเกาลูน..
พลั่ก!! ตุ้บ!!
ร่างใหญ่ของนักข่าวชาวต่างชาติผู้มีนัยน์ตาสีน้ำข้าวถูกถีบกระเด็นลงกับพื้น กล้องถ่ายรูปที่บันทึกข้อมูลของเกาลูนได้ถูกเท้าของเจ้าของชื่อเหยียบจนแหลกละเอียด ร่างเล็กเหยียดยิ้มแสยะก่อนจะปรายตามองชาวต่างชาติผู้นั้นด้วยความจงเกลียดจงชัง
“ไง แกสะเออะเข้ามาที่นี่เองนะ ท่าทางจะไม่รักชีวิตแล้วล่ะสิ” ว่าพลางเตะชาวต่างชาติผู้นั้นจนเลือดกบปากลงไปนอนกับพื้นอีกครั้งก่อนจะนั่งยองๆและใช้มีดพกของตัวเองเกลี่ยเบาๆไปตามลำคอของฝรั่งผู้นั้นจนเลือดแตกชิบๆ
แน่นอนว่าใครก็ต้องรักชีวิตอยู่แล้ว ฝรั่งผู้นั้นจึงได้ร้องขอ “Oh! No!! Please!! Speared me please!!”
เกาลูนทำทีเป็นแคะหูฟังไม่รู้เรื่อง “ขอโทษทีว่ะพวก พอดีฉันไม่เข้าใจภาษาพวกตาน้ำข้าวแบบแก!”
“Oh no no noooo!!! Ahhh!”
ฉัวะ!!
และตอนนั้นเองก็มีข่าวออกมาว่าฝั่งเกาลูนหรือเก๋าหล่งเส็งมีการเชือดฝรั่งตาน้ำข้าวที่มาทำข่าวเกี่ยวกับเกาลูนทิ้งแบบไร้ความปราณี และจากนั้นเกาลูนก็ได้รับการขนานนามว่า ‘เก๋าหล่งเส็ง ด้านมืดของฮ่องกงอันศิริวิไลซ์’
“แย่ที่สุดน่อ!! ลื้อกำลังจะทำให้ภาพพจน์ของประเทศเสียหายน่อ!! อาเกาลูน!!” และมันมักจะจบลงด้วยการที่จีนเรียกตัวเขาไปหาและดุด่าเขาทุกครั้ง
เพียะ!
หลังมือของจีนถูกเหวี่ยงมากระแทกแก้มซ้ายของเกาลูนจนเจ้าตัวหน้าหัน
“จำไว้น่อ อย่าทำแบบนี้อีก”
ทำไมเขาถึงรักเรา.. เพราะมีเราเอาไว้หาประโยชน์หรือ?
ทำไมเขาถึงเกลียดเรา.. เราทำเพื่อเขาไม่ใช่หรือ?
*หมายเหตุ* จะเริ่มเข้าสู่เนื้อหาที่แท้จริงล่ะนะ หวานๆใช่มั้ย ด๊ายยย ท่านไม่กลัวมดเองนะ! ฮาาา
..มีใครคนหนึ่งเคยพูดไว้ว่า
คนเรานั้นพบเพื่อรอวันพราก จากเพื่อรอวันเจอ
แล้วพวกเราเป็นแบบนั้นหรือเปล่านะ?..
วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ.1997
วันนี้เป็นวันที่อังกฤษหมดสัญญาเช่าและต้องส่งคืนฮ่องกงสู่จีน เหล่าประชากรบนเกาะต่างเฉลิมฉลองกันด้วยความยินดี เหล่าจิตวิญญาณทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นจีน ไต้หวัน มาเก๊า หรือนิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์ต่างมาพร้อมกันที่ท่าเรื่อเพื่อรอรับการกลับมาของฮ่องกง
ตลอดเวลาเก้าสิบเก้าปีที่ผ่านมา เขาเปลี่ยนไปมาก.. แม้จะยังใส่กี่เพ้าแดงกางเกงดำพร้อมสายคาดเอวสีเหลืองเหมือนดังเช่นคราวที่เขาจากไปเหมือนเดิม แต่เขาดูเป็นหนุ่มขึ้น ผมตัดสั้น ใบหน้าคมที่สมัยก่อนแลดูสงบนิ่ง ในวันนี้ไร้รอยยิ้มอย่างเช่นเคยรวมถึงการพูดจาด้วย เขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ
“ยินดีต้อนรับกลับน่ออาเซี่ยงก่าง”
“อาฮ่องกง ลื้อดูเป็นหนุ่มขึ้นเยอะเลยน่อ”
“ฮ่องกง ยินดีต้อนรับกลับนะครับ”
“ก่อก๊อตัวสูงขึ้นเยอะเลยนะฮะ!!”
สารพัดคำพูดจากผู้ที่มารับฮ่องกงที่ท่าเรือดูจะไม่เข้าหัวเจ้าตัวเลยแม้แต่นิด เพราะเขากำลังมองหาคนหนึ่งอยู่ โดยที่ลืมไปเสียสนิทว่า.. เขาต้องเป็นฝ่ายไปหาคนคนนั้นเองต่างหาก
ทางด้านเกาลูน.. เขายังคงจำคำสัญญานั้นได้ดี เขาตั้งตารออยู่ทุกวัน ว่าเมื่อไหร่ฮ่องกงจะกลับมา เมื่อไหร่ฮ่องกงจะมาหาเขา และในวันนี้ยิ่งเขาได้ข่าวว่าฮ่องกงจะกลับมาแล้วเขาก็ยิ่งรอ รอตั้งแต่เช้า.. เช้าจนถึงเย็น.. จนตกดึก..
แต่ฮ่องกงก็ไม่มา..
อย่างเจ้านั้นน่ะเหรอ.. เหอะ..
ไม่น่าไปคิดว่าคนอย่างนั้นจะรักษาสัญญาตั้งแต่แรกจริงๆ..
..มันอาจเป็นเรื่องเศร้า
หากเมื่อความผูกพันมันได้ก่อตัวจากคนหนึ่งถึงอีกคน
และความผูกพนในครานั้น อาจพังทลายลงไม่ช้า..
หลายวันต่อมา..
จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ
เสียงพิราบตัวน้อยดังเจื้อยแจ้วแทนเสียงนาฬิกาปลุกเป็นสัญญาณว่าเช้าแล้วดังอยู่เนืองๆ ร่างเล็กในชุดนอนสีเขียวแก่ค่อยๆปรือตาขึ้นมาก่อนจะหลับลงไปใหม่และลืมขึ้นมาอย่างเต็มตา
เกาลูนบิดขี้เกียจช้าๆพลางใช้มือขยี้ผมสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้ยุ่งเหยิงยิ่งกว่ารังนกให้เข้าทรง เขาหาววอดๆก่อนจะบิดขี้เกียจอีกสองสามทีแล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน เสร็จแล้วก็ต้องลงไปเปิดประตูบ้านให้นิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์ที่จะมาส่งข้าวเช้า(และบ่นเรื่องการกินอยู่ของเขาแทบจะทุกวัน)
“ก่อก๊อฮะ! ทำไมไม่ไปเยี่ยมก่อก๊อฮ่องบ้างล่ะฮะ ก่อก๊อฮ่องเพิ่งได้กลับมาเองนะฮะ!” ว่าแล้วเจ้าน้องชายมันก็บ่นอีกจนได้ เดี๋ยวก็ก่อก๊อฮ่องอย่างโน้นเดี๋ยวก็ก่อก๊อฮ่องอย่างนี้ เขาฟังมาได้ร่วมสัปดาห์จนชักรำคาญแล้วนะ “ยังไงวันนี้ก็ต้องไปเยี่ยมก่อก๊อฮ่องกับผมนะฮะ เข้าใจมั้ย!!” นิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์ว่าต่อทำเอาเกาลูนสำลักข้าวแทบตาย
“แค่ก.. ถ้าแกยังเมาขี้ตาอยู่ก็กลับไปนอนบ้านไปนิว อย่างฉันน่ะนะจะไปเยี่ยมเจ้าบ้านั่น? ไม่มีทาง!!”
“ยังไงก็ต้องไปนะฮะ เจี๊ยะเสร็จแล้วต้องไปเยี่ยมก่อก๊อฮ่องกับผมนะฮะ!!” แลดูวันนี้เจ้าเด็กนิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์จะเอาแต่ใจพิลึก เขาปฏิเสธยังไงก็ขัดเสีย ประมาณว่าวันนี้ต้องไปหาฮ่องกงให้ได้ ไม่อย่างนั้นผมไม่ยอม! (ใช่เรอะ?)
“เอ้า ก็ได้ๆ! แค่ไปใช่มั้ยล่ะ!!” เกาลูนพูดอย่างหัวเสียเล็กน้อยก่อนจะเก็บจานข้าวแล้วตามนิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์ไปเยี่ยมฮ่องกง(สมใจคุณน้องเขาล่ะ)
เกาะฮ่องกง-อ่าววิคตอเรีย..
นิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์ลากเกาลูนมาถึงอ่าววิคตอเรียเนื่องจากเพิ่งสืบมาได้ว่าฮ่องกงมาทำงานอยู่แถวๆนี้ เห็นว่านำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติครอบครัวหนึ่งมาล่องเรือชมความสวยงามของเกาะฮ่องกงอะไรสักอย่างนี่แหละนะ..?
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำงานอยู่จึงไม่อยากเข้าไปยุ่ง และยืนดูอยู่เงียบๆ
“Can you take a photo for us?” หญิงสาวนักท่องเที่ยวพูดพลางยื่นกล้องถ่ายรูปไปให้ฮ่องกงที่ยืนหน้านิ่งอยู่ในฐานะไกด์นำเที่ยว
“Of course” ฮ่องกงว่าพลางรับกล้องมาก่อนจะโฟกัสไปทางครอบครัวของนักท่องเที่ยวคนนั้น “Okay ,1 2 3 say cheeseee” เขานับก่อนจะกดชัตเตอร์และส่งกล้องคืนให้กับหญิงสาวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนนั้น
หญิงสาวคนเดิมกล่าวขอบคุณก่อนจะรับกล้องคืน พลันสายตาก็ไปปะทะกับเกาลูนและนิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์ที่ยืนมองอยู่นาน เธอยิ้ม ก่อนจะชี้ให้ฮ่องกงดู “Who are they?”
“Hh?” ฮ่องกงหันไปมองตามทิศทางที่นักท่องเที่ยวชี้ก่อนจะทำหน้าตกตะลึงไปชั่วครู่ที่เห็นว่าเกาลูนมายืนดูเขาทำงานทั้งที่ปกติให้ตายยังไงก็ไม่มาเด็ดขาด ก่อนจะหันกลับไปตอบนักท่องเที่ยวคนเดิมว่า “That’s my younger brother New territories , and my twin Kowloon”
“Oh? enjoy your family time! We won't bother you” ว่าจบนักท่องเที่ยวครอบครัวนั้นก็ขึ้นเรือเฟอรารี่ไปเพื่อชมความงามของเกาะฮ่องกง
ส่วนนิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์เมื่อเห็นว่าพี่ชายว่างแล้วก็รีบลากเกาลูนวิ่งเข้าไปหาฮ่องกงทันที เด็กชายยิ้มไร้เดียงสาก่อนจะเริ่มซักถามอย่างที่เคยทำตลอดมา
“ก่อก๊อ เมื่อกี้คนพวกนั้นพูดอะไรเหรอฮะก่อก๊อ”
“ก็แค่ถาม me ว่าพวก you เป็นใครเท่านั้นแหละ” ฮ่องกงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะต่อประโยคของตัวเองให้จบ “พวก you มาที่นี่มีธุระอะไรกับ me อย่างนั้นเหรอ”
“อ๋อ! ผมพา(ลาก)ก่อก๊อเกามาเยี่ยมน่ะฮะ กว่าจะยอมมาให้เล่นเอาผมเหนื่อยแทบแย่เลยนะฮะ!”
หา?? เหนื่อย?? ได้ข่าวว่าคุณน้องฉุดกระชากลากถูกระผมมาด้วยการขอร้อง(บังคับ)ไม่ใช่รึไง
คร้าบบบ!!
(อันนี้เกาลูนแอบตะโกนในใจ ฮา..)
“งั้นเหรอ? ที่จริงไม่อยากมาก็ไม่เห็นต้องไปบังคับกันเลยนี่?” ฮ่องกงพูดราวกับอ่านใจของอีกฝ่ายออก ทำเอานิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์ต้องทำหน้าหมามุ่ย(?)ไปอีกคน
“ก็พวกก่อก๊อไม่ได้เจอกันนาน ก่อก๊อฮ่องกลับมาก็ไม่ไปทักทาย ก่อก๊อเกาก็ไม่ไปรับที่ท่าเรือ ผมก็แค่กลัวพวกก่อก๊อจะทะเลาะกันนี่ฮะ!” นิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์มุ่ยหน้าทำแก้มป่องไม่พอใจเป็นเด็กๆใส่คู่แฝดตรงหน้า
กลัวพวกเราผิดใจกัน?
“พรืดดดดดดดดด” ทั้งเกาลูนและฮ่องกงต่างหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย(?) เนื่องจากการกระทำของน้องเล็กมันช่างไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน.. ทำเอาอดขำแทบไม่ได้
“อะ..อะไรกันน่ะฮะ หัวเราะอะไรกัน!!”
“ฮะๆ พวกก่อก๊อโตแล้วนะนิว ไม่มาทะเลาะกันเพราะเรื่องแค่นี้หรอกน่า ใช่มั้ย ฮ่อง” กัดฟันพูดสุดฤทธิ์พลางเตะขาฮ่องกงให้รับมุขด่วนก่อนนิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์จะคิดอะไรออกแนวไร้เดียงสาเกินเหตุไปมากกว่านี้
“yes พวก me โตแล้วนะ จะไปทะเลาะกันเพราะเรื่องนั้นมันคงไม่ได้หรอก”
“จริงนะ..?”
“yes/จริงสิ พวกฉัน/me ออกจะรักกันดี ไม่เห็นรึไง” ว่าพลางกอดคอสมานฉันท์กันอย่างเนียน ทำเอาน้องเล็กกระพริบตาปริบๆก่อนจะทำหน้ามุ่ยอีกรอบ
“ทำไมไม่บอกแต่แรกล่ะฮะ! บู่วๆ!!” นิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์(หน้าแตกยับหมอไม่รับเย็บ)พองแก้มก่อนจะสะบัดก้นเดินกลับบ้านของตัวเองไปเลย
ส่วนทางเกาลูนกับฮ่องกงก็ยังคงแถเนียนว่ารักกันมากมายจนสีข้างถลอก(?)ต่อไปจนนิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์ลับตา เกาลูนก็สะบัดแขนออกจากลำคอฮ่องกงแล้วหุบยิ้มที่เมื่อสักครู่ฉีกยิ้มซะเกือบถึงหูลง
“Hhh? ไหง you เปลี่ยนอารมณ์ไวแบบนี้ล่ะ”
“ฉันก็แค่แสดงไม่ให้นิวมันคิดมากเฟ้ย! มีเหรอที่คนอย่างฉันจะบอกว่ารักและสามัคคีปรองดองกับแกน่ะ เหอะ! ตลก!”
“you นี่นะ.. สมัยก่อน you ออกจะ so cute ไหงโตขึ้นมาถึงได้เป็นเด็กไม่ดีแบบนี้ล่ะ”
“เหอะ! ใครมันจะไปเด็กดีเหมือนแกกันล่ะ แล้วก็อย่าเอาภาษาพวกตาน้ำข้าวนั่นมาพูดกับฉัน!!”
“sorry ก็มันติดไปแล้ว”
ฮ่องกงพูดด้วยสีหน้าราบเรียบตามเคย แต่มันทำให้เกาลูนชวนคิ้วกระตุกสุดๆ เขาอดทนสุดขีดเพื่อไม่ให้นิสัยเจ้าอารมณ์ของตนเผลอไปตั๊นหน้าไอ้คิ้วหนาหน้าตายที่ยืนอยู่ด้านหน้าพลางในหัวก็คิดไปด้วยว่าถ้ามันพูดอีกคำเดียวมีรายการได้เจ็บตัวแน่ๆ
“เหอะ! จะพูดที่ไหนก็พูดไป แต่อย่ามาพูดกับฉัน เข้าใจมั้ย!”
“understand”
ปึด!
หนอย... ไอ้บ้านี่ เพิ่งบอกกไปหยกๆว่าอย่าเอาภาษาพวกตาน้ำข้าวนั่นมาพูดกับเขายังจะพูดอีก กวนประสาทกันรึไงฟะ!!
“oop! Sorry พอดีมันชินปาก”
ผึงงง!! [เส้นขันติกระจุยแล้วครับท่าน?!]
“โว้ยยย!! บอกว่าอย่าเอาภาษาเจ้าพวกนั้นมาพูดกับฉัน!!” เกาลูนใช้มือสองข้างกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายแล้วผลักคนตัวสูงกว่าจนเซไปชนกับกำแพง
ฮ่องกงยังคงสีหน้าราบเรียบเช่นเคยหากแต่แววตาเต็มไปด้วยความตะลึงงันอย่างนึกไม่ถึงว่าเกาลูนจะกล้าทำกับเขาแบบนี้
“เกาลูน? Yo-…นายเปลี่ยนไปมาก?” ฮ่องกงพูดด้วยภาษาที่เขาและเกาลูนต่างเข้าใจ แม้จะมีหลุดไปบ้างเล็กน้อยก็ตาม
“เออ! เพิ่งรู้รึไงล่ะฟะ!!” เกาลูนพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแบบโกรธสุดขีด และก็ไม่ใช่เพราะภาษาอย่างเดียว เพราะอะไรหลายๆเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเวลาเห็นหน้าฮ่องกง
“ทำไม..?” ฮ่องกงพูดอย่างไม่เข้าใจ “นายไม่ได้คนแบบนี้? นายเป็นอะไร?”
“หึ ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่กันล่ะ ฮ่องกง..” เกาลูนพูดด้วยเสียงแข็งๆตามเดิม และไม่ยอมสบตาฮ่องกง
“ไม่รู้น่ะสิ นายเป็นอะไร?”
“ก็เพราะพอแกไม่อยู่ฉันก็ต้องปกป้องตัวเอง โดนเกลียดโดนทำร้ายมาตั้งเท่าไร ตอนนี้ฉันน่ะมันก็แค่คนเลวคนหนึ่งเท่านั้น และทั้งหมดมันก็เพราะนาย ไอ้เบื๊อกฮ่องกง!!”
มาถึงตรงนี้หนุ่มฮ่องกงยิ่งงงหนัก? เพราะตัวเขา? เขาผิดอะไรกัน?? หมอนี่พูดถึงอะไร? เขาไม่เข้าใจสักนิด..
“...”
“ทำหน้าแบบนั้น.. ไม่เข้าใจสินะ!” เกาลูนยกยิ้มขึ้นมุมปากก่อนจะพูดต่อ “ฉันกลายเป็นปราการ พอฉันหมดประโยชน์ก็ถีบหัวฉันส่ง เอาแต่เรียกชื่อฮ่องกง ฮ่องกง ฉันล่ะหมั่นไส้แกชะมัด!!”
“แล้ว..?”
“แกน่ะปล่อยให้ฉันรอ..รอมาเกือบจะร้อยปี.. แกไม่เคยติดต่อมา ไม่เคย!! พอแกกลับมาแกก็ไม่มาหา ทั้งๆที่แกสัญญาแล้ว แกจำไม่ได้รึไง!! ฉันรอแกนานแค่ไหนแกก็ไม่สนใจเลยสินะ!!”
ครู่หนึ่งเหมือนความทรงจำจะย้อนกลับคืนมา ฮ่องกงนึกถึงตอนที่เขาจะจากไปขึ้นมาได้ทันที รวมถึงคำสัญญาในตอนนั้นด้วย..
‘ลืมแล้วรึไง! อีกไม่กี่ชั่วโมงถ้าเรือของพวกนั้นมาถึง นายก็ต้องไปอยู่กับเจ้าตาน้ำข้าวนั่นแล้ว!!’
‘แล้ว..?’
‘ไม่สนเลยรึไงว่าจะจากบ้านเกิดตัวเองอยู่แล้วรอมร่อน่ะ!’
‘ถ้าฉันกลับมา นายก็ไม่ต้องไปรับที่ท่าเรือหรอก เพราะฉันจะเป็นฝ่ายมาหานายเป็นคนแรกเอง’
โอเค..เขาจำได้แล้ว..
ตัวเขาเองที่เป็นฝ่ายผิดสัญญา เกาลูนที่ชอบแสดงท่าทีแข็งกระด้างกับเขาเป็นเพราะแบบนี้เอง..
“นายโกรธ..?”
“รู้ตอนนี้มันจะช้าไปหน่อยมั้ง! ไอ้งั่งเอ๊ย!” เกาลูนว่าพลางปล่อยมือออกจากคอเสื้อของฮ่องกงพลางปรายสายตามองด้วยความเย็นชา “จะถือว่าแกไม่เคยสัญญาอะไรแบบนั้นก็แล้วกัน เหอะ!” ว่าจบก็หันหลังเดินหนีไปทันที
ขอโทษ..
คำแค่สองพยางค์แต่ทำไมมันพูดยากซะเหลือเกิน ไอ้บ้าฮ่องกงเอ๊ย! คนที่แกบอกให้เขารอ คนที่แกสัญญากับเขาน่ะ.. ตอนนี้มันเดินไปไกลลิบแล้วนะ! คราวก่อนแกจากมา แต่คราวนี้แกจะปล่อยให้เขาหายไปรึไง ตามสิฟะ!!
หลังจากด่าตัวเองในใจไปชุดหนึ่งฮ่องกงก็รีบสาวเท้ายาวๆวิ่งตามหาเกาลูนเสียให้วุ่น ก่อนจะมาเจอเกาลูนนั่งจุมปุ๊กอยู่ที่วิคตอเรีย พีค จุดชมวิวซึ่งสวยที่สุดของฮ่องกง
เกาลูนกำลังบ่นงึมงำๆอะไรสักอย่างอยู่โดยที่ไม่รู้ว่าเขามายืนฟังอยู่ตั้งนาน แถมบ่นไปก็ปาดน้ำตาไปด้วยอย่างกับนางเอกละครไทย(?)ไม่มีผิดเพี้ยน [!!??]
“ไอ้บ้า บ้า บ้า!!”
“...”
“แกมันบ้าที่สุด! ชิ..ฉันไม่ได้อยากร้องไห้เพราะแกเลยนะ!!”
“เหรอ?”
“เออสิ! เฮ้ย! แกมาได้ยังไง!!” เกาลูนแทบจะตกม้าหินอ่อนทันทีเนื่องจากฮ่องกงมันมานั่งอยู่ข้างๆตอนไหนก็ไม่รู้ แถมไอ้บ้านี่มันก็คงเห็นหมดแล้วล่ะว่าตัวเองร้องไห้ น่าอายชะมัด!
“ร้องไห้ทำไม? เรื่องแค่นี้?”
“ก็สำหรับฉันมันไม่แค่นี่วะ ไอ้บ้า!!” เกาลูนว่าพลางหันหลังใส่
ฮ่องกงมองพลางกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะใช้แขนเพียงข้างเดียวรวบเอวเกาลูนไว้แล้วซบหน้าลงบนไหล่มนของอีกฝ่าย
“ฮะ..ฮะ..เฮ้ย!! แกทำเบื๊อกอะไรของแกห๊ะ!!” เกาลูนดิ้นสุดขีดพลางหน้าก็ขึ้นสี ตาก็ลาย หัวใจมันก็ทรยศเต้นตึกๆตักๆจนเจ้าตัวแอบด่าไปว่า ‘ไม่ออกมาเต้นสเต็ปฮิปฮอปป๊อบอาร์แอนด์บี(?)ซะเลยล่ะ’
“ขอโทษ..”
“ห๊ะ? แกเป็นบ้าอะไรอีก?”
“ขอโทษ..” ฮ่องกงยังคงพูดอยู่ข้างๆหูร่างเล็กต่อไป ทำเอาอีกฝ่ายหน้าร้อนผ่าวๆจนแทบจะระเบิดเสียให้ได้
เห็นแล้วได้ใจใหญ่ ไอ้คิ้วหนานั่นมันก็แอบขโมยหอมแก้มเกาลูนเสียฟอดสองฟอด ทำเอาเกาลูนแทบจะลุกขึ้นมาจับฆ่าหั่นศพ สาดน้ำกรด แล้วเอาไปหมกส้วมทีเดียว(!?) แค่ไม่ติดว่าถ้าขืนโวยหนักกว่านี้จะถูกมันจับจูบเอาอีกรอบน่ะสิ
“กะ..แก อย่าหวังว่าฉันจะยกโทษให้ตลอดชาติเลยเว้ย!!!” เกาลูนลุกพรวดขึ้นก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากบริเวณนั้นด้วยความเขินอายชนิดรุนแรง(ที่ครั้งหนึ่งจะเป็นสักที)
ฉันไม่ยกโทษให้..เพราะลืมไปแล้วว่าโกรธแก ไอ้บ้า!!
-Fin-
Omake เล็กๆ : เบื้องหลังการถ่ายทำ(?)
นิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์ : เอ่อ.. เจเจ้ฮะ มันจะดีเหรอฮะ ปล่อยให้ก่อก๊อเกาโดนลวนลามแบบนั้น
ไต้หวัน(?) : เอาน่าๆ รับรองว่าพวกอีต้องเข้าใจกันแน่น่อ แถมอั๊วยังได้พล็อตไปเขียนโดจิน เอ๊ย! ได้เห็นอาโค่ลงจากคานด้วยน่อ
นิวเทอร์ริสทอร์รี่ส์ : หา? อะไรโดๆนะฮะ
ไต้หวัน : มะ..ไม่มีอะไรน่อ (ในความคิด : หึหึหึ คู่ค้ำคอร์เช่นนี้เอาไปเขียนโดจินได้ขายดีแน่ๆเลยน่อ)
((ตกลงไต้หวันคือต้นคิดใช่มั้ยครับเนี่ย?? ฮา..))
ทางด้านพระเอกกับนายเอกเราก็...
เกาลูน : ทำไมฉันต้องโดนไอ้บ้านี่หอมแก้มด้วยฟะ!
ฮ่องกง : ก็คนแต่งแต่งมาแบบนี้ me ก็แค่แสดงตามบท
เกาลูน : แล้วแกจะค้างไว้นานๆเพื่อ!?
ฮ่องกง : ความสุขส่วนตัว (ยักคิ้วกวนส้น_)
เกาลูน : อะ..ไอ้....!!
จบเหอะ!!
ความคิดเห็น