ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [[Fanfiction-Room]]

    ลำดับตอนที่ #2 : [N - Kagerou Project] Kano x Kido x Seto

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 56



     

    [Kano]

    มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรู้จัก ผมเขียวๆยาวๆ ตาสีแดงๆ ถึงภายนอกเหมือนจะเย็นชามากไปหน่อย แต่จริงๆเป็นคนอ่อนโยนและทำอาหารเก่ง..

     

    ที่ผมพูดถึงหมายถึงใครน่ะเหรอ? เอ.. ก็ไม่รู้สินะ

    ลองทายดูแล้วกันนะครับ~  J

     

     

    [Kido]

    ผมเป็นใคร? เรียกผมว่าคิโดะแล้วกัน...

    จะว่าไปพวกนายพูดถึงอะไรกันน่ะ...

     

     

    [Seto]

    พูดยาวไปแล้วนะครับคาโนะ เรื่องที่พูดไม่เห็นจะเกี่ยวกับตัวเองตรงไหนเลยนี่นา มีแต่เรื่องของคิโดะทั้งนั้นเลยนะ~

     

    งั้นผมขอพูดบ้างแล้วกัน แต่เอ๊ะ? จะพูดแบบไหนดีล่ะ ก็คาโนะล่นพ่นออกมาหมดแล้วนี่

    จริงสิ! ก็เรื่องที่เราเป็นสมาชิกกลุ่มซ่อนดวงตาเหมือนกันยังไงล่ะครับ คิโดะเป็นหัวหน้าล่ะ แล้วก็เป็นเพื่อนสมัยเด็กของพวกเราด้วย

     

    ตอนที่คิโดะยิ้มน่ะน่ารักมากๆเลยล่ะ แต่ก็ไม่เห็นมานานแล้วเหมือนกัน

    ผมเดาว่าทั้งผม ทั้งคาโนะ และทุกคนคงอยากเห็นเหมือนกันใช่ไหมล่ะครับ : )

     

     

     

     

     

    -จากนี้ไปจะเข้าสู่เนื้อหาแล้วนะครับ จะว่าไปผมนี่... ไม่ค่อยจะลำเอียงเลยเนอะ เอาพระรองขึ้นก่อน ฮา..-

     

    - Seto x Kido :: ละครฉากแรกกับความรู้สึกของเซโตะ?-

     

    7.30 am

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง

    เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น แต่เจ้าของมือถือกลับเปิดเปลือกตาไม่ขึ้น แต่กดปิดเสียงและหลับต่อไปจนผ่านไปหลายชั่วโมง..

     

    10.30 am

    “คิโดะ! ตื่นได้แล้วนะครับ!!” น้ำเสียงทุ้มของเซโตะดังขึ้นพร้อมกับเขย่าไหล่ร่างบางเบาๆเป็นการปลุก

     

    “อืม.. นี่มันกี่โมงแล้ว?” คิโดะพูดด้วยน้ำเสียงเนือยๆแบบคนเพิ่งตื่นก่อนจะยกมือขึ้นกุมหัว “อืม.. ปวดหัวชะมัด..”  

     

    “สิบโมงครึ่งแล้ว วันนี้ตื่นสายผิดปกตินะครับ (ตื่นหลังผมอีก)” เขาว่าพลางพยุงให้ร่างบางที่ยังงัวเงียและยังลืมตาไม่ขึ้นให้ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาดีๆก่อนจะยิงคำถาม “เมื่อวานไปทำอะไรมาครับ? ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะยังใส่ชุดเดิมอยู่เลยนะครับ”

     

    “ออกไปซื้อของกับโมโมะ แล้วฝนตก..” ร่างบางพูดพลางขมวดคิ้วเมื่อรื้อคืนความทรงจำประกอบกับเพิ่งตื่นน้ำเสียงเลยฟังยากนิดหน่อย แต่เขาก็พยายามจะฟังต่ออยู่ดี

     

    “แล้วก็เลยตากฝนกลับมา?” เซโตะเลิกคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะพูดต่อ “นี่คงไม่ได้เผลอหลับไปทั้งๆที่ตัวเปียกหรอกนะ”

     

    “โมโมะบอกจะไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ ผมหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้.. โอ๊ย..ปวดหัวชะมัด” คิโดะกุมหัวตัวเองแล้วบ่นอุบอิบเบาๆ แต่ที่ฐานตอนนี้มันก็เงียบพอที่เขาจะได้ยินว่าร่างบางพูดว่าอะไร พอสังเกตชัดๆก็พบว่าใบหน้าเรียวสวยนั่นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ตอนนี้คิโดะยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมาเลย

     

    หรือว่าจะไม่สบาย?

    พอคิดแบบนั้นแล้วเขาก็เอื้อมมือไปแตะหน้าผากคิโดะทันที ปรากฏว่าห้าผากของคนตัวเล็กร้อนผ่าว แถมรู้สึกเหมือนสติจะหลุดไปแล้วเสียด้วยสิ?

    “คิโดะ มีไข้ไม่ใช่เหร-..!!??” ไม่ทันขาดคำร่างบางที่เคยนั่งอยู่ข้างๆก็ร่วงลงไปนอนอีกรอบแล้ว ดีว่าที่ร่วงลงไปเป็นโซฟา ไม่อยากนั้นคงมีรายการหัวร้างข้างแตกแน่ๆ  

     

    เซโตะค่อยๆช้อนร่างบางขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนก่อนจะอุ้มขึ้นไปวางไว้บนเตียงในห้องของคิโดะเอง วิธีพยาบาลคนป่วยนั้นสำหรับเขาก็ไม่ได้จะยากเกินไปจนทำไม่ได้ แต่ปัญหาอยู่ตรงที่คิโดะไม่สบายเพราะตากฝน เสื้อผ้าที่เปียกฝนนั้นยังชื้นๆอยู่ จำเป็นต้องเปลี่ยนเพราะไม่งั้นจะอาการหนัก

     

    แต่จะทำยังไงล่ะ?

    ถึงภายนอกจะดูเหมือนผู้ชายยังไงแต่คิโดะก็เป็นผู้หญิง ถึงจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันก็เถอะ แต่มันก็ทำใจลำบากอยู่ดี ยิ่งถ้าเกิดขืนเปลี่ยนให้โดยพลการแล้ว ถ้าคิโดะตื่นขึ้นมาระหว่างนั้นคนที่ซวยก็เขาเองไม่ใช่หรือไง??

     

    “เอาไงดีนะ..”

     

    “...หนาว”

     

    เสียงของร่างบางเอ่ยขึ้นเบาๆก่อนจะเงียบลงไป ทำให้เซโตะไม่ต้องคิดอะไรต่อไป รู้แค่ถ้าขืนรอพวกผู้หญิงให้กลับมาที่ฐานคิโดะคงปอดบวมตายไปก่อนแหงๆ

     

    เอาไว้ค่อยขอโทษทีหลัง

    ตอนนี้คงต้องจับเปลี่ยนเสื้อก่อน...

     

    “อย-..อย่าโกรธที่ผมทำอะไรกับเสื้อผ้าคิโดะโดยพลการเลยนะ.. ผมไม่มองหรอกนะ” เขาพูดพลางหลับตาปี๋แล้วค่อยๆถอดเสื้อตัวนอกของคิโดะออก

     

    จนกระทั่งสิบนาทีแห่งความทรมานและโคตรจะทุลักทุเลได้ผ่านพ้นไป..

    กว่าที่เซโตะจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คิโดะได้และวางผ้าชุบน้ำหมาดๆลงบนหน้าผากสำเร็จก็ปาเข้าไปสิบกว่านาที ซึ่งโชคดีว่าคิโดะไม่รู้สึกตัวเลยระหว่างนั้น ไม่อย่างนั้นคงจะได้กินหมัดเด็ดเหมือนที่คาโนะโดนประจำไปแล้ว

     

    “อ๊ะ.. ต่อไปต้องวัดไข้สินะ” เขาพูดแล้วหย้บปรอทวัดไข้ขึ้นมาเสียบปากคิโดะให้คาบไว้ สักพักหนึ่งเขาก็ต้องส่ายหน้าเมื่อพบว่าไข้ของคิโดะขึ้นสูงถึงสี่สิบองศา “ไข้สูงเลยแฮะ วันนี้ก็ไม่มีใครอยู่ซะด้วยสิ”

     

    “อืม..”

     

    “คิโดะ? รู้สึกตัวแล้วเหรอครับ?”

     

    เจ้าของชื่อพยักหน้าแทนคำตอบ

     

    “จะทานยาเลยไหม? หรือว่าผมควรจะหาอะไรให้คิโดะทานรองท้องก่อนดี?” เขาว่าพลางลุกขึ้นก่อนจะทำท่าจะเดินลงไปเพื่อทำอาหาร

     

    หมับ

     

    คิโดะคว้าข้อมือของเขาไว้ก่อนจะส่ายหน้า

     

    “นั่งลง..เหมือนเดิมซะ...” คิโดะว่าด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพลางไอเล็กน้อย

     

    “ทำไมล่ะครับ ไม่ทานอะไรจะไม่มีแรงเอานะครับ”

     

    “ขืนกินที่นายทำเข้าไป.. ผมจะไม่หนักกว่าเดิมหรือไง..”

     

    “หมายความว่ายังไงครับ?”

     

    “นาย..ทำอาหารไม่เป็นไม่ใช่หรือไง.. แค่ก.. ขืนผม..ปล่อยให้นายทำ นายก็ได้พังห้องครัวน่ะสิ..”

     

    “อะ..เอ๋??” เซโตะร้องเสียงหลงเบาๆเมื่อเจอคนป่วยจี้ใจดำพลางหน้าขึ้นสีด้วยคามอาย “ผมก็แค่หวังดีนะครับคิโดะ ไม่เห็นต้องพูดจาใจร้ายแบบนั้นเลยนะ”

     

    “หึ.. ผมแค่พูดตรงๆ” ว่าพลางกระตุกยิ้มบางๆที่มุมปากก่อนจะหลับไปอีกครั้ง

     

    “คิโดะ..”

     

    “...” หลับไปแล้ว อย่างง่ายดาย?

     

    “บทจะหลับก็หลับง่ายๆไปเลยนะครับ” เซโตะยิ้มพลางนั่งมองคนหลับต่อไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยไปกี่ชั่วโมงไม่รู้

    พอเริ่มค่ำเสียงคุยกัน กับเสียงโหวกเหวกของคนในกลุ่มซ่อนดวงตาก็เริ่มดังขึ้น เขาจึงคิดจะไปสมทบกับทุกคนบ้าง

     

    แต่จะลุกยังไง? คิโดะจับแขนของเขาแน่นอยู่เลย?

     

    “อืม..” ร่างบางที่นอนอยู่พลิกตัวนอนตะแคงมาทางเขา ส่วนมือก็ยังจับแน่นอยู่เหมือนเดิมราวกับจะบอกว่าให้อยู่เป็นเพื่อนก่อน

     

    “ผมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลย.. แต่ฝันดีนะครับคิโดะ ผมจะเฝ้าอยู่ตรงนี้เอง..” ว่าพลางค่อยๆก้มลงไปจุมพิตร่างบางที่ไร้สติเบาๆพร้อมๆกับพระอาทิตย์ที่ตกดินไป

     

    ทำให้ทั้งห้องมืดมิดปราศจากแสงสว่างจากหลอดนีออน..

     

    “เมื่อกี้..ผมขอโทษครับคิโดะ..”

     

    เขากล่าวคำขอโทษ แม้จะรู้ว่าร่างบางจะไม่ได้ยินและไม่รู้สึกตัวก็ตาม

     

    “...”

     

    “แต่นั่นน่ะ ความรู้สึกของผมจริงๆนะ.. ขอโทษจริงๆครับ”

     

     

    ผมชอบนะ..

     

     

    -Kano x Kido :: ละครที่ใกล้จะอวสานกับความจริงจากคาโนะ-

     

    “ผมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลย.. แต่ฝันดีนะครับคิโดะ ผมจะเฝ้าอยู่ตรงนี้เอง..” เสียงนั้นดังมาจากในห้องของคิโดะ เขาที่กำลังจะก้าวเข้าไปต้องชะงักเท้าไว้และยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

     

    “...”

    เขาเห็นมันเต็มตา.. แล้วก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน..

     

    เซโตะ.. คงไม่ได้..ชอบคิโดะหรอกใช่ไหม?

     เขาคิดในใจ.. เพราะเรื่องของคิโดะเป็นเรื่องเดียวที่เขาไม่สามารถจะโกหกตัวเองได้ เรื่องที่ว่าตัวเขาเองคิดกับคิโดะเกินเพื่อนไปแล้ว เพียงแต่แค่เพียงโกหกกลบเกลื่อนกับคนอื่นว่าไม่เคยคิดอะไรเท่านั้นเอง?

     

    “บ้าชะมัด.. ผมบ้าไปแล้วแน่ๆ” คาโนะสั่นศีรษะแรงๆครั้งหนึ่งก่อนจะปั้นสีหน้ายิ้มแล้วผลักประตูที่เปิดแง้มๆไว้ออกกว้างและเอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟข้างฝาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงและทำเป็นไม่รู้ว่าเซโตะอยู่กับคิโดะในห้องนั้น “คิ~ โดะ~ ทำไมไม่เปิดไฟล่ะ มืดแล้วน-...”

    ภาพตรงหน้าที่บาดตาชะมัด..

    เซโตะนั่งเฝ้าคิโดะอยู่.. มือของทั้งสองคนกุมกันอยู่..

     

    “อะ..อ้าว คาโนะกลับมาแล้วงั้นเหรอครับ คิโดะเป็นไข้แน่ะ ยังไงวานลงไปหยิบยาทีสิครับ” เซโตะว่าพลางยิ้มให้อีกฝ่ายตามนิสัย

     

    คาโนะจึงแกล้งล้อไปเพื่อกลบเกลื่อนสีหน้าที่แวบหนึ่งแอบทำหน้าจะฆ่าคน

    “ก็พอรู้จากโมโมะแล้วล่ะว่าคิโดะตากฝนมาเมื่อคืน~ ผมกำลังจะมาดูพอดี แต่บังเอิญเดินมาเจอคนสวีทกันซะงั้น เสียดายที่ลืมถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์นะเนี่ย~

     

    “พูดอะไรของนายน่ะ ผมแค่เฝ้าคิโดะนะครับ สวีทอะไรกันน่ะ” เซโตะพูดด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีจางๆก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อนแล้วแกะมือของคิโดะออก “เฝ้าแทนไปก่อนแล้วกันนะครับ ผมจะไปเอายามาดีกว่า” เขาว่าพลางลุกเดินออกไป ปล่อยให้คาโนะต้องเป็นฝ่ายนั่งเฝ้าคิโดะแทน

     

    “...” เขาแตะหน้าผากของคิโดะเบาๆ “ไข้ลดลงแล้วงั้นสินะ? ตัวไม่ค่อยร้อนเลยนะ..”

     

    “ก็ได้นอนพักแล้ว น่าจะดีขึ้นล่ะนะครับ ฮะๆ เพิ่งรู้ว่าคาโนะก็เป็นห่วงคิโดะเหมือนกันนะเนี่ย” น้ำเสียงอารมณ์ดีของอีกคนดังขึ้น เซโตะเข้ามาพร้อมกับถาดใส่แก้วน้ำและยา ใบหน้าของเขายังคงยิ้มแย้มตามเดิมตอนวางถาดนั่นลงกับโต๊ะข้างหัวเตียง

     

    “บ้าน้า~ ผมก็แค่ห่วงในฐานะเพื่อนเท่านั้นแหละน่า~

     

    “เหรอครับ ฟังเหมือนมันไม่จริงเลยนะ”

     

    “หมายความว่าไง คิดว่าผมโกหกเหรอครับเซโตะ~

     

    “คาโนะน่ะ ชอบคิโดะหรือเปล่าครับ”

     

    เซโตะตอบคำถามด้วยคำถาม ทำเอาอีกคนเหวอไป

     

    “คิดว่ายังไงล่ะ ลองเดาสิ~

     

    “คาโนะ ชูยะ.. ผมถามจริงๆ อย่าล้อเล่นสิครับ” เซโตะว่าพลางทำหน้าจริงจังแล้วจ้องไปที่คาโนะ เป็นครั้งแรกที่ดูเหมือนเขาจะโกรธนิดๆ คาโนะจึงหุบยิ้มลงแล้วตอบไปบ้าง

     

    “ก็ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็ใช่..แล้วเซโตะเอง ก็คงเหมือนกับผมใช่ไหมล่ะ?”

     

    “ครับ..” เขาพยักหน้า

     

    “งั้น..มาแข่งกันไหมล่ะ?”

     

    “แข่ง?”

     

    “ใครสารภาพกับคิโดะได้ก่อนภายในคืนนี้ ก็ชนะไป แล้วคนแพ้ก็อย่ายุ่งกับคิโดะอีก”

     

    “...”

     

    “ว่าไงล่ะ เป็นข้อตกลงที่ง่ายดีออกนะ~

     

    “ก็ได้ครับ ผมรับคำท้าของคาโนะก็ได้”

     

    “ดีเลย งั้นตั้งแต่ชั่วโมงนี้เริ่มแข่งกันเลยแล้วกันนะ~

     

    “ตกลง”

     

    หลังจากนั้นก็เหมือนทั้งคู่จะยิ้มให้กันด้วยรอยยิ้มที่แทบจะกินหัวอีกฝ่ายเข้าไปทั้งตัว จนกระทั่งร่างบางเริ่มรู้สึกตัวอีกครั้ง ทั้งคู่จึงเลิกเล่นจ้องตาแข่งกับปลากัดในตู้(?)แล้วทำหน้าสมานฉันท์กันตามเคย

     

    “อืม.. ปวดหัวชะมัด”

     

    “คิโดะ ตื่นแล้วเหรอ” ทั้งคู่พูดขึ้นพร้อมกัน

     

    “อืม.. เหมือนจะดีขึ้นแล้ว..” คิโดะว่าพลางก้มลงสำรวจตัวเองก่อนจะทำหน้าทะมึน “ใครมายุ่งอะไรกับเสื้อผ้าของผม”

     

    ฟึบ!

     

    ทั้งสองคนดันสะพรึงแล้วชี้สลับทางกันซะงั้น...

     

    “ตกลงว่าใคร..พูดมา..”

     

    “ผมเอง(ก็ได้)!! ผมเปลี่ยนเสื้อให้คิโดะเอง” เมื่อไม่มีใครยอมรับ โนะเลยโชว์สกิลพระเอก(?)ออกหน้าไปก่อนเซโตะ

     

    “ใครขอไม่ทราบ หา?..”

     

    คิโดะทำสีหน้าทะมึนก่อนจะเงื้อหมัด คาโนะหลับตาปี๋เพราะคิดว่ายังไงๆก็โดนต่อยแหงๆ ส่วนเซโตะก็โดนร่างบางไล่ออกไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อยแล้ว

     

    “หวาาา ผิดไปแล้วครับ~ อย่าชกผมเล-..เอ๊ะ?”

     

    “ขอบใจแล้วกัน..” คิโดะว่าพลางยิ้มบางๆให้ก่อนจะเอาหมัดลงแล้วหัวเราะขบขันเล็กๆกับท่าทางของคาโนะ

     

    ตึก.. ตึก..

    ก้อนเนื้อภายในหน้าอกซ้ายของคาโนะเต้นรัวขึ้น ใบหน้าของเด็กหนุ่มขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วแสร้งหัวเราะๆ “ฮะๆ คิโดะยิ้มแบบสาวน้อยเป็นด้วยล่ะ”

     

    บ้าเอ๊ย.. ผมแพ้ทางรอยยิ้มของเธอเหรอเนี่ย!!

     

    ผลัวะ!!!!

    หมัดเด็ดของร่างบางพุ่งเข้าไปใส่หน้าของเขาอย่างจัง ถึงจะเพิ่งสร่างไข้แต่คิโดะก็แรงไม่ตกเลยสักนิด เล่นเอาคนโดนชกอย่างคาโนะแก้มปูดไปข้าง

     

    “คิโดะใจร้ายไปแล้วนะ~ ผมแค่ล้อเล่นเอง~

     

    “ผมไม่ชอบ อย่ามาล้อนะ” คิโดะโมโหจนแทบจะเปลี่ยนเป็นเขิน ใบหน้าสวยที่แดงเพราะพิษไข้อยู่แล้วกลับแดงขึ้นจนลามไปถึงหูอีกเพราะว่าอายที่ถูกล้อ

     

    “เอ๋? เอ๋? คิโดะหน้าแดงใหญ่เลยล่ะ เขินผมใช่ม้า~

     

    “บ้าไปแล้ว ใครจะเขินนาย!

     

    “เขินแน่ๆเลยล่ะ ฮะๆ ฮ่าๆๆ คิโดะเขินผมด้วยล่ะ”

     

    “บอกว่าไม่ใช่ไง!! ไปไกลๆเลย ฉันเกลียดนาย!!

     

    “แต่ผมชอบนี่นา~

     

    “ห๊ะ???”

     

    “ชอบคิโดะนะ~

     

    “อย่ามาล้อเล่นนะ!!

     

    “ชอบที่คิโดะที่สุดเลย~

     

    จุ๊บ!

     

    “ก็บอกว่าอย่ามาล้อเล่-.. นายทำบ้าอะไรกับผมเนี่ย!!” คิโดะว่าพลางเอามือกุมแก้มที่โดนคาโนะขโมยจูบไปเมื่อสักครู่ ใบหน้าเรียวสวยแดงขึ้นมาทั้งหน้าก่อนจะถอยกรูดไปจนติดหัวเตียง

     

    “ก็พิสูจน์ไงล่ะ ว่าชอบคิโดะจริงๆน้า~” คาโนะยังคงสนุกที่ได้แกล้งสาวน้อยตรงหน้า จึงคลานตามไปก่อนจะใช้แขนสองข้างล็อคไว้แล้วยิ้มแฝงเลศนัย “ถ้ายังไม่เชื่อ ต่อไปจะเป็นตรงนี้น้า~

     

    เขาว่าพลางใช้นิ้วแตะริมฝีปากของร่างบาง

     

    “พอ! ผมเชื่อก็ได้!!” คิโดะว่าอย่างรู้สึกกลัวแปลกๆ ซึ่งนั่นทำให้คาโนะหัวเราะไม่หยุด

     

    “ฮ่าๆๆ คิโดะล่ะก็ เขินน่ารักไปแล้วนะ แล้วกลัวผมจูบขนาดนั้นเลยหรือไง ฮ่าๆๆๆ”

     

    “นาย..” คิโดะว่าพลางหน้าขึ้นสี “บอกว่าอย่ามาล้อผมเล่นไ-...”

     

    เสียงของร่างบางถูกกลืนหายไปเพราะริมฝีปากของตรงตรงหน้า ดวงตาสีแดงเบิกกว้างก่อนจะพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ แต่ดูเหมือนวันนี้คาโนะจะแรงมากเหลือหลายหรือเพราะเธอป่วยก็ไม่รู้ ทำยังไงก็ดิ้นไม่หลุดสักที

     

    “แต่เรื่องที่ชอบคิโดะน่ะ ของจริงนะ ♥” 

     

    คิโดะหน้าขึ้นสีเรื่อยๆก่อนจะพูดแบบไม่มีเสียงว่า ผมก็เหมือนกันตามด้วยการแจกหมัดแล้วตะโกนใส่ไปว่า “บ้าชะมัด นายให้ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย!!!” จากนั้นเธอก็เดินหนีออกจากห้องไปเลย

     

    ทิ้งให้คาโนะที่นั่งลูบหน้าตัวเองพร้อมกับแสยะยิ้มให้กับคนแอบมองอยู่อีกด้านของกำแพงแล้วพูดเบาๆแบบอ่านปากได้ว่า

     

    ไงล่ะ.. ผมชนะแล้วนะครับเซโตะ..

     

     

     

    -Seto x Kido x Kano :: ละครฉากสุดท้ายกับความในใจของทุกคน?-

     

     

    [Kano]

    ในที่สุดก็ได้สารภาพไปแล้ว.. ถึงจะเป็นการแข่งก็เถอะ แต่ผมกลับมีความสุขแปลกๆแฮะ

    คิโดะ พรุ่งนี้ถ้าเธอหายแล้วเราไปเดทกันเถอะ!

     

    ผมรักคิโดะนะ!

     

    [Kido]

    คนบ้า! หลอกให้ผมพูดอะไรออกไปกันนะ! ผมจะไม่พูดมันอีกแล้วแน่ๆ ไม่ว่ายังไงก็ตาม!!!

    แล้วไอ้ก้อนเนื้องี่เง่าตรงอกซ้ายนี่ เลิกเต้นสักทีเถอะ!!

     

    ไม่รู้ไม่ชี้แล้ว!

     

    [Seto]

    ผมควรจะยินดีสิ ผมควรยินดีกับพวกเขาใช่มั้ย?

    แต่ยังไงก็ตาม... ทำไมถึงเจ็บหน้าอกแบบนี้นะ.. แล้วทำไมผมต้องร้องไห้ด้วยล่ะครับ...

     

    น้ำตา..หยุดไหลสักทีเถอะ...

     

    -END-




    Omake เล็กๆ เบื้องหลังการถ่ายทำครับ..

     

    คาโนะ : อะไรอ่ะ! ทำไมผมดูเลวๆชอบกลล่ะ

     

    คิโดะ : ...

     

    เซโตะ : เอาน่าๆ ก็คนเขียนเขาเขียนมาแบบนี้นี่ครับ นี่ผมอกหักเลยนะ พวกนายยังดีกว่าผมเยอะ~ *ยิ้ม*

     

    คาโนะ : -3- บู่วๆ ก็ผมดูเลวๆแปลกๆนี่นา

     

    เซโตะ : เอาเถอะครับ.. เดี๋ยวคนเขียนก็ประชดหรอก โอ๊ย!! *คนเขียนปาบทใส่หัว*

     

    คาโนะ: *มองบทใหม่* อะไรเนี่ย คนเขียนลายมือหวัดชะมัด อ่านไม่ออก(?)

     

    คิโดะ : ผมอ่านเอง.. *หยิบไปอ่าน*

     

    แล้วคิโดะกับเซโตะก็ได้รักกันอย่างมีความสุขโดยมีบักคาโนะนอนกัดผ้าช็ดหน้าร้องไห้อยู่แถวนั้น..

     

    คาโนะ : ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย!!!

     

    คิโดะ : แบบนี้ก็น่าจะดีกับผมมากกว่านะ..

     

    คาโนะ : อะเร๊ะ? คิโดะใจร้าย~ ไม่อยากคู่กับผมขนาดนั้นเลยเหรอ

     

    คิโดะ : อืม.. *พยักหน้า*

     

    คาโนะ : ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยย *โหยหวน*

     

    เซโตะ : *หัวเราะ*

     

     

     

     

    จบจริงๆแล้วนะ!! 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×