The Moon and The Star ; เรื่องเล่าของพระจันทร์กับดวงดาว - The Moon and The Star ; เรื่องเล่าของพระจันทร์กับดวงดาว นิยาย The Moon and The Star ; เรื่องเล่าของพระจันทร์กับดวงดาว : Dek-D.com - Writer

    The Moon and The Star ; เรื่องเล่าของพระจันทร์กับดวงดาว

    โดย Kaze no ken

    เรื่องเล่าของพระจันทร์กับดวงดาว

    ผู้เข้าชมรวม

    412

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    412

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ธ.ค. 57 / 23:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    Character [?]
    Male moon - จันทร์
    Female moon - จันทรา
    Sun - สุริยา


     

    Thx.

    themy butter
     

    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      The Moon and The Star ; เรื่องเล่าของพระจันทร์กับดวงดาว

       

       

      กาลครั้งหนึ่งเมื่อพระเจ้าได้ทรงสร้าง...

       

      ดวงจันทร์ที่ทอแสงอ่อนโยนยามค่ำคืน

       

      และดวงอาทิตย์ที่มีแสงเจิดจรัสแรงกล้าในตอนกลางวัน

       

      หากแต่ดวงจันทร์ที่ถูกสร้างขึ้นมานั้นมีอยู่สองดวงและพระเจ้าให้ทั้งคู่เป็นคู่รักกัน

      ดวงแรก เป็นพระจันทร์หนุ่มรูปงามที่มีใบหน้าคมคายระคนความอ่อนโยน

      ดวงที่สอง เป็นพระจันทร์สาวที่มีใบหน้างดงามมีจริตแลดูละมุนละไม

       

      ทั้งสองนั้นเป็นแสงจันทราที่สาดส่องมาบนโลกยามค่ำคืนและไม่เคยทำให้ท้องฟ้ามีคืนเดือนมืด เพราะคืนใดที่จันทราหนุ่มงีบหลับก็มีพระจันทร์สาวทำหน้าที่มอบแสงอันอ่อนโยนมาสู่โลก คืนใดพระจันทร์สาวเผลอลืมไม่มาประจำการ ก็ยังมีจันทราหนุ่มที่คอยสาดแสงอบอุ่นลงมายังโลก หรือไม่บางทีทั้งสองก็อาจจะมาทำหน้าที่พร้อมกัน แล้วคืนนั้นก็จะเป็นคืนที่สว่างไสวที่สุด

       

      หากแต่ดวงอาทิตย์นั้นเป็นชายหนุ่มรูปงามผู้มีกายสีเพลิง มีหน้าที่คอยให้แสงสว่างและความอบอุ่นในตอนกลางวัน และเพราะแสงของเขานั้นเจิดจ้าเกินกว่าที่จะมีดวงอาทิตย์อีกดวงขึ้นมาได้ พระเจ้าจึงให้เขามีแสงเป็นเปลวเพลงที่แรงกล้าหากแต่สง่างามที่สุด

       

      หากแต่ตำนานบางบทไม่ได้สวยงามเสมอไป...

       

       

      “ข้ารักสุริยาหนุ่มผู้นั้น ข้าอยากจะไปอยู่กับเขา”

       

      “แต่แสงของเขาจะทำร้ายและแผดเผาเจ้า”

       

      “ข้าไม่สนใจ ขอแค่เขาคนเดียว ข้าทนได้”

       

      “ขอร้อง อย่าไป”

       

      “ลาก่อน”

       

      เพราะความสง่างามนั้นทำให้พระจันทร์สาวหลงรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้นและปล่อยมือจากจันทราหนุ่มไปอย่างง่ายดาย ก่อนที่จะหายตัวไปจากท้องฟ้ายามค่ำคืนเพื่ออยู่เคียงข้างสุริยาหนุ่มผู้เป็นที่รักในตอนกลางวัน โดยไม่ได้สนว่าเปลวเพลิงนั้นจะแผดเผาทำร้ายเธอสักเท่าไร

       

       

      “ไม่ร้อนหรือ ไม่กลัวเปลวเพลิงของข้าจะแผดเผาเจ้าจนตายบ้างหรือไง..?”

       

      “ไม่เป็นไร..”

       

       

      ฝ่ายจันทราหนุ่มที่โศกเศร้าเพราะคนรักหายตัวไปได้เที่ยวตามหาดวงจันทร์สาวไปทั่วทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืนทำให้รูปดวงจันทร์ที่มองเห็นบนโลกเริ่มเป็นจันทร์เสี้ยวเมื่อดวงจันทราหนุ่มหันลุกออกจากที่ประจำการและกลายเป็นคืนเดือนมืดเมื่อเขาหยุดส่องแสงเพื่อไปตามหาคนรัก

       

      ดวงจันทร์หนุ่มทำอยู่แบบนั้นเป็นเดือน.. จากเดือนก็กลายเป็นปี.. เป็นสองปี เป็นสิบปี จนเวลาล่วงเลยไปเป็นร้อยเป็นพันปี พระจันทร์สาวก็ไม่เคยกลับมา ทำให้ดวงใจของเขาที่มีรูปแบบเป็นรูปของดวงจันทร์ซึ่งเราเห็นบนโลกเริ่มจะแตกร้าว

       

       

      “เจ้าหายไปไหนกัน จันทรา”

       

      “ข้ากำลังจะแตกร้าวแล้ว..”

       

      “..จันทรา..”

       

       

      ..เพล้ง..

       

      ดวงใจของพระจันทร์หนุ่มนั้นแตกร้าวและแหลกละเอียดเสียแล้ว
      จากนั้นไม่นาน สายลมที่พัดผ่านมาก็ดูเหมือนจะเห็นใจจึงได้พัดเอาเศษของดวงจันทร์หนุ่มกระจายอยู่เป็นท้องฟ้า และเรียกเขาใหม่ว่า “ดาว”

       

      จากนั้นดวงดาราก็คอยทอแสงระยิบระยับหาคนรักเรื่อยมา

       

      แต่ความหวังก็ริบหรี่เกินไปจนแทบจะมอดดับ

       

       

       

      “จันทรา เจ้าควรกลับไป”

       

      “แต่ข้าไม่อยากไป..”

       

      “รังสีของข้าเผาเจ้าจนแทบมอดอยู่แล้ว กลับไป”

       

      “แต่..”

       

      “กลับไปหาคนของเจ้าเถอะ”

       

      “...”

       

      “ขอร้อง”

       

      บทสนทนาของจันทราสาวกับสุริยาหนุ่มที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
      เพราะตอนนี้ผิวที่เคยสดใสเรืองรองของจันทราสาวแทบจะดับสิ้นไปแล้วเพราะแสงที่แรงกล้าเกินไปของพระอาทิตย์ ทำให้เขาต้องออกปากไล่หญิงสาวที่ยอมอยู่ข้างกายเขามานานเกือบร้อยเกือบพันปีเพื่อเป็นการหยุดทำร้ายนางทางอ้อมเสียที ทำให้จัทราสาวต้องจำใจกลับไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เป็นที่ของนางอีกครั้ง

       

      “จันทร์ ข้ากลับมาแล้วนะ”

       

      แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบงัน

       

      “จันทร์”

       

      “ได้ยินข้าไหม! ตอบข้าสิ!

       

      ความเงียบยังคงปกคลุมท้องฟ้าอยู่ จนกระทั่งสายลมใจดีตนเดิมได้ผ่านมาและได้บอกถึงความจริงที่ว่าดวงจันทร์หนุ่มได้ตายและกลายเป็นดาวไปแล้วให้กับจันทราสาวฟัง

       

      “ดูรอบๆตัวเจ้าสิ เศษละอองระยิบระยับที่ข้าเรียกมันว่าดาวนั้นคือจันทร์ที่เริ่มแตกร้าวตั้งแต่ในปีแรกที่เจ้าหายไปจนในที่สุดก็แตกสลายไป”

       

      จันทราสาวหันมองไปรอบตัว เศษละอองนั้นยังคงพราวแสงระยิบระยับเหมือนกับแสงของดวงจันทร์หนุ่มไม่มีผิดเพี้ยน หญิงสาวทรุดกายลง มือบางกอบโกยเอาฝุ่นผงละอองขึ้นมา ส่วนน้ำตาก็พาลจะไหลออกมาเสียให้ได้

       

      “ขอโทษ จันทร์ ข้า.. ข้าขอโทษ..”

      “เพราะข้าทำร้ายเจ้าแท้ๆ.. ขอ.. โทษ..”

       

      จันทราสาวทำได้เพียงพร่ำขอโทษกับละอองดาวในมือซ้ำๆอยู่เช่นนั้น พลางน้ำตาก็ค่อยๆไหลออกมาอย่างรู้สึกผิดมหันต์กับสิ่งที่ตนทำลงไป

       

      แต่แน่นอนว่าความผิดครั้งนี้ร้ายแรงเกินกว่าที่พระเจ้าจะอภัยให้นางได้

       

      “พอเถิดจันทรา เจ้าจะขอโทษเช่นไร จันทร์ก็ไม่กลับมาหรอก”

       

      พระเจ้าพูดเสียงเย็นพลางนำเศษละอองดาวนั้นมาจากมือของจันทราสาวก่อนจะพ่นลมหายใจเบาๆใส่เศษผงนั้นให้ลอยไปไกลอีกขอบฟ้าหนึ่ง

       

      “ถ้าหากวันใดท้องฟ้ามีดวงจันทร์ ดวงดาวก็จะไม่ปรากฏ”

       

      “และในทางกลับกันเมื่อดวงจันทร์ปรากฏ ท้องฟ้าก็จะไร้ซึ่งดวงดาวเช่นกัน”

       

      และทุกคนรู้ดีว่าวาจาของพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

      เมื่อใดก็ตามที่จันทราได้ปรากฏตัวบนท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งดวงจันทร์หนุ่ม นางก็จะรู้สึกผิดและร้องไห้เสียใจทุกครั้ง ทำให้บางประเทศบนโลกนั้นเห็นรูปดวงจันทร์เป็นเสี้ยวหน้าของหญิงสาว และเมื่อใดก็ตามที่ดวงดาวพราวแสงบนท้องฟ้า แสงของดวงจันทร์ก็จะถูกลบหายไปจากผืนนภาเช่นกัน จะมีก็เพียงบางครั้งเท่านั้นที่จันทรสาวแอบมาพบกับดวงดาว ทำให้เห็นดาวและดวงจันทร์พร้อมกันบนฟากฟ้า

       

      และมันก็เป็นเช่นนั้นเรื่อยมา..

       

       

      -END-

       

       

      [Talk]

      แฮ่.. ใกล้สอบแล้ว รีแลกซ์ก่อนอ่านหนังสือสอบค่ะ-- //อู้นั่นแหละ

      เรื่องนี้แต่งตามอารมณ์ชั่ววูบที่ดัดแปลงจากบทละครตอนมอสามค่ะ >จิ้ม<

      อะไรไม่รู้ แต่แต่งจบแล้วเลยอยากเอามาลงค่ะ

       

      เอ่อ.. มาพูดแค่นี้ล่ะค่ะ //เผ่น

       


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×