ตอนที่ 7 : ตอนพิเศษ [ S M O G ] // [2]
**ผลการโหวตตอนพิเศษที่ให้ลง มีสูสีกันอยู่สองอัน นับจาก ธ เด็กดี แท็กนะคะ สรุปดังนี้ค่ะ ตอน4. 17 โหวต ตอน2 18 โหวต ค่ะ**
ฝากตอนพิเศษของเสี่ยและเด็กเสี่ยไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ =]
[ S M O G ]
//
หากได้อยู่กับใครสักคนมากพอ บ่อยครั้งมันก็จะทำให้ทุกอย่างรอบตัวเคลือบย้อมไปด้วยความทรงจำของคนคนนั้น
เพียงแค่สบมอง ก็รู้สึก ก็มีภาพของใครบางคนแวบขึ้นมาเสมอ
แม้ว่าจะเป็นแค่สิ่งธรรมดาแต่ก็มีความทรงจำ
﹌
นี่เป็นคืนแรกที่จินยองได้มาอยู่ที่นี่ ได้รู้จักกับยมทูต
"วันนี้ก็นอนที่นี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้คนเตรียมอีกห้องให้" เสียงของอิม แจบอมผู้เป็นเจ้าของห้องพักแห่งนี้บอกพร้อมเปิดประตูห้องนอนตัวเองจนกว้าง
แค่กวาดตามองจินยองก็รู้ได้ทันทีเลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างในนี้แพงหูฉี่ เผลอ ๆ แค่รูปบานเดียวบนผนังสีเทานั้นอาจจะแพงกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่จินยองมีติดตัวมา
หรือไม่ก็แพงกว่ามูลค่าอวัยวะภายในของจินยองรวมกันอีก
"เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วโยนทิ้งขยะไปเลยนะ" ยมทูตซึ่งจินยองมอบชีวิตให้บอกพร้อมโยนผ้าขนหนูและชุดนอนสีดำให้หนึ่งชุด
"ห้องน้ำทางนั้น ถ้าหิวครัวอยู่ข้างล่างน่าจะพอมีอะไรให้กิน ง่วงก็นอนได้เลย เดี๋ยวฉันจะไปห้องทำเพลง" ใบหน้าดูดุพอ ๆ กับการแต่งกาย นิ้วแข็งแรงชี้บอกทิศทางรัวเร็ว จนจินยองที่ได้แต่ยืนตัวลีบกอดผ้าขนหนูอุ่น ๆ ไว้คิดตามแทบไม่ทัน
"ขอโทษนะครับ" เอ่ยแทรกขึ้นมาพร้อมยกมือขึ้นเหมือนขอพื้นที่จากอาจารย์ในชั่วโมงเรียน
"คือคุณยมทูต เอ่อ คุณแจบอมครับ" น้ำเสียงจินยองสั่นแผ่ว อาจเพราะหนาวหรืออาจเพราะคิดว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ทำไมกัน
"หืม"
"คุณ คุณไม่กลัวผมขโมยของคุณเหรอครับ ที่นี่ทุกอย่างแพงไปหมดเลย" จินยองถาม ดวงตากลมโตเงยมองใบหน้าคมของคนที่แนะนำตัวในรถระหว่างทางจากตรอกแคบ ๆ ที่เขาเกือบฆ่าตัวตาย ว่าชื่อ -แจบอม อิม แจบอม-
"ฉันรู้ว่านายจะไม่ทำหรอก ฉันเชื่อใจนาย" อะไรกันถ้อยคำที่เหมือนรู้จักกันดีแบบนั้น ความไว้เนื้อเชื่อใจแบบที่เขาไม่ได้รับมันมานานเท่าที่คุณพ่อคุณแม่จากไป
การยอมรับทั้งที่เพิ่งเจอกันแท้ ๆ นี่มันอะไรกัน
ความรู้สึกที่อุ่นไปทั้งใจแบบนี้
"เอาล่ะ ฉันจะไปทำเพลงในห้องแต่งเพลง ไม่ต้องแปลกใจถ้าจะไม่เห็นฉันไปจนเที่ยงพรุ่งนี้" แจบอมยิ้มให้จาง ๆ ก่อนจะเดินออกไป
"แล้วก็ทำตัวให้ชินกับที่นี่ไว้ เพราะต่อไปนี่คือบ้านใหม่ของนาย"
"บ้านงั้นเหรอ" จินยองพึมพำกับตัวเอง แม้แต่ตอนที่อาบน้ำ ตอนที่ไดร์เป่าผมส่งเสียงดังหึ่งไปทั่วห้องแบบนี้
ประโยคสุดท้ายก่อนที่จะเดินออกไปของยมทูตคนนั้นก็ยังคงชัดเจน
ไม่ใช่แค่ความไว้เนื้อเชื่อใจและการยอมรับที่จินยองขาดหายไป บ้านก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จินยองไม่มีมานาน และไม่เคยคิดเลยว่าจะมี
ตาโตกวาดมองรอบตัวอย่างพินิจอีกครั้ง ที่นี่หรูหราเสียยิ่งกว่าบ้านที่จินยองเคยมีก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะไปสวรรค์เสียอีก
ที่นี่คือบ้านของเขาเหรอ
ปาร์ค จินยองจะมีบ้านที่ให้กลับมาหาได้เสมอแล้วจริง ๆ ใช่ไหม
﹌
จินยองนอนไม่หลับเพราะหิวจริง ๆ อย่างที่เจ้าของบ้านบอก แม้จะรู้สึกเกรงใจแต่ก็เดินลงมาตามบันได ห้องชุดบนตึกสูงเสียดฟ้านี้ใหญ่โต ใหญ่จนแม้แต่การเดินไปหาห้องครัวยังทำให้รู้สึกเหนื่อย
ห้องครัวที่นี่ดูดีมีระดับสมกับสภาพห้องโดยรวม และเกือบทุกอย่างใหม่เอี่ยม มีเพียงแค่กระทะและหม้ออย่างละใบที่ถูกใช้งานจนเห็นร่องรอยความเก่า แสดงว่าเจ้าของห้องทำอาหารอยู่บ้าง ทว่าตู้เย็นกลับสวนทาง มันมีแค่เครื่องดื่มอุดมแอลกอฮอล์อัดแน่น ขนมปังเก่า ๆ ไข่ห้าหกฟอง และมีแค่นั้น
จินยองเลือกไข่สี่ฟองมาทอดง่าย ๆ และแน่นอนว่าเผื่อเจ้าของห้องด้วย
ไข่ดาวถูกวางทับบนรามยอนที่เจอในลิ้นชัก กลิ่นของมันหอมจนจินยองน้ำลายสอ ขาขาวเดินตรงมาที่โซฟาและชุดโต๊ะที่น่าจะเหมาะกับการนั่งกินอะไรง่าย ๆ
คีย์บอร์ดวางอยู่โดดเดี่ยวบนโต๊ะกระจกตรงหน้า ปลายนิ้วเรียวยาวจิ้มกดปุ่มเอ็นเทอร์ แล้วผนังตรงหน้าก็สว่างวาบ โลโก้เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อดังของเกาหลีใต้เด่นชัดว่าผนังตรงหน้านี้คือทีวี
"โห ไฮโซจัง" พึมพำกับตัวเองด้วยความตื่นเต้น หน้าจอที่ปรากฏคือช่องค้นหาของอินเทอร์เน็ต
มันมีบางอย่างที่เขาอยากรู้ และมือถือเก่า ๆ ที่เปียกฝนจนหมดสภาพก็ทำให้เขาไม่ได้แล้ว
-อิม แจบอม-
คือคำค้นหาที่จินยองจรดนิ้วลงไป และมันขึ้นข้อมูลมามากมายจนตาลาย แต่สามอย่างที่จินยองเห็นมันซ้ำ ๆ คือ เดฟโซล พาราไดซ์ และ Icarus
ด้วยความช่วยเหลือจากอินเทอร์เน็ต จินยองได้รู้จักกับท่านประธานแห่งค่ายเพลงพาราไดซ์อย่างเป็นทางการ
เขาเองเคยได้ยินเพลงของ Icarus มาบ้าง ร้องตามได้ด้วยตามประสาเพลงฮิต
พอมาไล่กวาดสายตาดูรายชื่อเพลงถึงทำให้รู้ว่าเพลงที่ได้ฟังบ่อย ๆ ในร้านนมที่เคยทำงาน ก็มีเพลงจากวงนี้อยู่หลายเพลง และต่อให้บอกว่าเป็นวงร็อค แต่ก็มีเพลงหลากหลายแนวแทรกเข้ามาบ้างสองสามเพลงต่ออัลบั้ม
จินยองเลือกจิ้มเพลงที่ชื่อคุ้นตา และทันทีที่เมโลดี้ขึ้น มันก็คุ้นหูจริง ๆ
เสียงบีทหนักหน่วงดังกระแทกไปทั่วห้องผ่านเครื่องเสียงชั้นดี จินยองนั่งฟังอยู่แบบนั้น บางเพลงที่มีเอ็มวีด้วยก็จ้องมองนักร้องนำผ่านจากจอตรงหน้า
อิม แจบอม นั่นคืออิม แจบอมสินะ
﹌
ความกระหายน้ำทำให้เขาลงมาที่ครัวตอนเกือบตีสาม แล้วก็ได้ยินเพลงของตัวเองในนามวง Icarus ดังต้อนรับอยู่ คนตัวขาวผอมบางที่นอนอยู่บนโซฟาเป็นคำตอบที่ไม่น่าแปลกใจนัก
คงค้นเกี่ยวกับเขาหมดแล้วว่าเขาเป็นใคร ก็ดีไม่ต้องเสียเวลาอธิบาย
แจบอมปิดเพลงและจอทีวีลงจนเงียบสนิท และดูเหมือนความเงียบที่แปลกไปจะทำให้จินยองตื่นขึ้นมา ดวงตากลมโตปรือมองรอบตัว ก่อนจะเบิกโพลง
"ขอโทษครับ" ตั้งต้นมาก็ขอโทษขอโพยยกใหญ่
"ขอโทษทำไม"
"ที่จู่ ๆ ก็มาเปิดทีวีทั้งที่ไม่ได้ขอคุณก่อน"
"ก็บอกแล้วว่าให้ทำตัวตามสบาย" ดวงตาคมไล่มองไปตามเสื้อนอนตัวโตของตนที่ห่อตัวจินยองไว้จนตกจากไหล่แคบ และกางเกงสีเทาไม่เข้าชุดกัน
"ทำไมไม่ใส่ให้ครบชุด" จินยองมองชุดนอนที่ตัวเองสวมอยู่ตาม จู่ ๆ ก็หน้าร้อนขึ้นมาฉับพลัน
"ชุดของคุณมันใหญ่ไป มันตกไปที่ข้อเท้าทุกครั้งที่ยืน" เสียงพึมพำบอก แจบอมครางรับแผ่วเบาในลำคอ
ก็เขาเห็นสะโพกผายก้นกลมอวบแบบนั้นก็น่าจะพอทดแทนกับช่วงตัวของเขาที่โตกว่ามากได้
"งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ให้คนมาวัดไซส์ไปหาชุดมาให้ใหม่ หรือว่าอยากจะไปซื้อเอง"
"ไม่ต้องหรอกครับ ผมเกรงใจ ไม่ต้องซื้อให้ผม"
"อย่าดื้อกับฉันสิจินยอง" ไม่ได้มีกระแสดุในน้ำเสียงแต่จินยองรู้สึกว่าตัวเองทำได้แค่พยักหน้ารับน้ำใจมากล้นที่ท่านประธานแห่งพาราไดซ์มอบมาเท่านั้น
"ดี ขึ้นไปนอนบนห้องซะ ไอ้ที่นายเอามาด้วยทิ้งไปให้หมดเลยนะ เก็บไว้แต่ของจำเป็นจริง ๆ แล้วเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวไม่นับว่าจำเป็น พรุ่งนี้เดี๋ยวจะให้คนพานายไปซื้อใหม่" สั่งไว้เสร็จสรรพเจ้าของชีวิตของจินยองก็เดินตรงกลับขึ้นชั้นสองพร้อมน้ำเปล่าขวดโตในมือ
"คุณครับ" เท้าที่ก้าวชะงักลงกลางขั้นบันได
"ผม ผมไม่มีอะไรให้คุณเลยนะ คุณทำให้ผมขนาดนี้ อยากได้อะไรตอบแทนเหรอครับ "
แจบอมหันกลับมามอง ดวงตาคู่นั้นเหมือนจะดูดกลืนจินยองเข้าไป เพราะมันดูอบอุ่นมากเหลือเกิน
"ไม่รู้สิ อย่าโกหกฉันก็แค่นั้นล่ะมั้ง"
อบอุ่นแบบที่นกแสนหนาวสั่นอยากจะซบอิง
﹌
เคร้ง
"โว้ยยย น่าเบื่อที่สุด" เสียงทุ้มแหบคำรามดังจนจินยองสะดุ้งเฮือกเมื่อเปิดประตูเข้ามา เสียงเหมือนใครสักคนเตะแผ่นเหล็กแรง ๆ ยังคงดังให้ได้ยินติดกันสองสามที
"ไม่ต้องตกใจ เรื่องปกติ" พี่ชายตัวอวบที่ชื่อจินอู คนของพาราไดซ์บอกด้วยรอยยิ้มจาง ๆ เมื่อเห็นจินยองยืนเบิกตาโพลงไม่กล้าเดินเข้าไปในห้อง เอาแต่แหงนมองไปที่ชั้นสองตรงตำแหน่งห้องทำเพลงของแจบอม
"ท่านประธานเวลาคิดงานไม่ออกจะเครียดแล้วก็ขี้หงุดหงิดอย่างนี้แหละ" จินอูบอกไปก็เดินยกถุงใส่ของมากมายของจินยองขึ้นไปที่ห้องนอนอีกห้องบนชั้นสอง
แจบอมบอกว่าห้องนี้เล็กไปหน่อย แต่จินยองว่าห้องนี้มันใหญ่สุด ๆ
"จะหงุดหงิดอยู่คนเดียวนั่นแหละ เดี๋ยวพอได้ระบายความเครียดก็จะเป็นเหมือนเดิมเอง แบบนี้ท่านประธานถึงได้ต้องมาอยู่ทำเพลงคนเดียวไง เพราะไม่อยากฟาดงวงฟาดงาใส่ใคร"
หมายถึงห้องที่ใหญ่ขนาดนี้ อิม แจบอมอยู่คนเดียวมาตลอดเลยเหรอ
"หมายถึงว่าปล่อยให้เครียดแบบนี้เหรอครับ"
"ใช่ เดี๋ยวก็จัดการได้เองนั่นแหละ อย่างว่าล่ะเนอะ งาน ดี ๆ มันก็ต้องมีมูลค่าที่แลกมา คนติสต์ก็งี้"
กลิ่นเย็นฝาดแบบที่คุ้นจมูกว่าเป็นบุหรี่ยี่ห้อดังคลุ้งไปทั่วห้อง มันเข้มชัดมากขึ้นกว่าปกติ และทำให้จินยองเลือกเดินตามกลิ่นนั้นมา
รู้ชัดถึงความร่ำรวยของท่านประธานแห่งพาราไดซ์
ส่วนระเบียงของห้องนี้กว้างราวกับดาดฟ้าที่มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดกลาง แผ่นหลังกว้างในเสื้อยืดสีดำยืนบังกลุ่มควันอยู่ชิดขอบระเบียง
"ไม่สบายใจเหรอครับ" จินยองร้องถามยามที่เดินเข้ามาจนใกล้
เขาไม่ได้ชื่นชอบกลิ่นบุหรี่ ทว่ากลับไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกปลอมขนาดนั้น
"เครียดนิดหน่อยน่ะ" ดวงตาเรียวคมหันมามอง แล้วหันไปสูบบุหรี่ต่อ
เงียบงันและดูโดดเดี่ยว คนที่ใจดีกับจินยองขนาดนี้ไม่ควรจะรู้สึกแบบนี้เลย เพราะจินยองเป็นมาตลอด และมันแย่มาก ๆ
"ขอโทษนะครับ" แจบอมหันมามองตามคำร้องบอกของเด็กหนุ่มตัวผอม และไม่ทันจะตั้งตัวสองแขนเรียวยาวของจินยองก็กอดแจบอมไว้จนแน่น ใบหน้านั้นซุกอยู่กับแผ่นอกแข็งแรง
"เมื่อก่อนตอนผมไม่สบายใจ คุณพ่อคุณแม่จะกอดตลอดเลย พอถูกกอดแล้วผมก็รู้สึกดีขึ้นจริง ๆ ผมอยากให้มันช่วยคุณได้นะครับ" จินยองเอ่ยบอก
“ขอโทษครับ” แล้วก็รู้สึกตัวได้ว่ามันโคตรประหลาด รีบดีดตัวออกห่าง แต่เป็นสองมือแข็งแรงเองที่เหนี่ยวรั้งจินยองไว้ที่เดิม
"....."
"..."
จินยองไม่ได้พูดอะไร แจบอมก็เช่นกัน เราก็แค่ยืนกอดกันอยู่แบบนั้น
ใช้ความอบอุ่นของร่างกายทดแทนความรู้สึกเดียวดายอ้างว้างของกันและกัน ประสานและเยียวยาทุกความผุกร่อนที่เราต่างรู้สึก
ไม่ว่าจากสาเหตุใด ๆ มันก็ดูเหมือนจะทำร้ายได้น้อยลงเมื่ออยู่ท่ามกลางอ้อมกอดนี้
"อุ่นจัง" จินยองพึมพำขึ้นมาหลังจากการกอดได้พักใหญ่ กระชับแขนแน่นขึ้น ตัวโต ๆ ของอิม แจบอมอุ่นมาก ๆ เลย
เป็นยมทูตที่ดูคล้ายจะน่ากลัว แต่ไม่เลย
หรือต่อให้น่ากลัวจริง จินยองก็รู้สึกว่ามันไม่เป็นไร
"รู้ไหม มีสิ่งที่ทำให้อุ่นได้กว่ากอดนะ" เสียงแหบนุ่มดังขึ้นก่อนอ้อมกอดจะถูกปลดออก สองขายาวรีบเดินจ้ำเข้าไปด้านใน
จินยองไม่ได้ตามไป เพราะรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่อุ่นกว่าจริง ๆ เมื่อครู่นี้
บางอย่างที่แข็ง และร้อนดุนดันช่วงหน้าท้องของจินยอง
บางอย่างจากอิม แจบอม
จินยองรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนฉ่า หันหน้าไปรับลมเย็น ๆ ที่พัดเข้าหาระเบียงแต่ก็ยังร้อนอยู่ดี
เขาเริ่มทำงานในร้านเหล้าของปีเตอร์มาตั้งแต่เขาอายุสิบเก้า เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มที่ทำที่นั่น เขาหาเงินได้เยอะมากขึ้น และใช่ แม้จะไม่พยายามคิดมากแต่เขาถูกแตะถูกจับ โดนแอบลวนลามอยู่หลายครั้งจากผู้ชายหลายคน แต่ก็พยายามมองข้ามมันไป
ไม่เคยมีใครรั้งรอที่จะเอาเปรียบเขา ไม่เคยมีใครคิดจะให้อะไรด้วยซ้ำไม่ว่าทางไหน ๆ ก่อนจะช่วงชิงทุกอย่างไป
ผู้ชายตัวโตคนนั้นหาอะไรมาให้จินยองเยอะแยะไปหมดทั้งด้านร่างกายและจิตใจ แต่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ทำได้
จินยองแน่ใจว่าเมื่อครู่ร่างกายแจบอมต้องการ ต้องการอย่างมาก แต่ก็เลือกจะผละห่างออกไป
แม้ความจริงไม่จำเป็นเลยที่จะต้องประนีประนอมกับเขา
﹌
เช้าวันที่สองกับบ้านใหม่ ชีวิตใหม่
จินยองตื่นสายกว่าปกติเพราะเตียงที่นี่ดีเกินไป มันนุ่มราวกับสวรรค์
"ไง" เสียงทักทายจากท่านประธานแห่งพาราไดซ์ที่ยังคงเป็นยมทูตที่มีแต่สีดำบนตัวเหมือนเดิม แต่ดูเหมือนจะมีความสุขมากขึ้น
เพราะรอยยิ้มกว้างที่มอบให้ พร้อมกับเบียร์หนึ่งกระป๋องในมือ กับอีกห้าบนโต๊ะทั้งว่างเปล่าและปิดอยู่อย่างสมบูรณ์
"ทานข้าวเช้าหรือยังครับ" ถ้าตื่นมาก็ดื่มเบียร์เลยแบบนี้ เดี๋ยวก็จะปวดท้องหรือเปล่า
"กินแซนด์วิชในตู้เย็นไป นายซื้อมาเหรอ"
"ผมทำไว้น่ะครับ ทำไว้ให้คุณ" จินยองตอบด้วยรอยยิ้ม เดินไปหาของกินแกล้มเบียร์เพิ่มให้กับยมทูตตัวโต
ข้อมือถูกเหนี่ยวรั้งไว้ และจินยองเลือกจะนั่งลงข้าง ๆ บนโซฟาตัวโต
"เหมือนว่ามันจะช่วยได้นะ"
"อะไรเหรอครับ"
"ความเครียดน่ะ หลังจากที่นายกอดเหมือนพวกมันจะหายไป ฉันทำเพลงได้ทั้งคืนจนเสร็จทั้งที่ก่อนหน้าหงุดหงิดมาพักใหญ่" เสียงแหบนุ่มเอ่ยบอกเนิบช้า
มันราวกับปลดล็อกบางสิ่งในใจของจินยอง กอดของเขาช่วยได้จริง ๆ หรือ มันมีประโยชน์สำหรับท่านประธานแห่งพาราไดซ์ใช่ไหม
"ขอบใจนะ จินยอง"
มันตอบแทนแจบอมได้จริง ๆ สินะ
"ผมขอดื่มได้ไหม"
"เอาสิ ยี่สิบแล้วนี่" แจบอมพูดเจือหัวเราะ จินยองรีบคว้ากระป๋องเบียร์มาเปิด เขาทำงานในร้านเหล้าเคยจิบพวกเหล้าบ้างตอนโดนลูกค้าแกล้ง แต่ไม่เคยลองเบียร์ รสชาติมันคงไม่ต่างกันนัก
เบียร์ยี่ห้อนี้ค่อนข้างนุ่ม และมันทำให้จินยองกระดกเข้าไปอึกใหญ่ แต่อึกเดียวก็หน้าและหูแดงจัด
เขาไม่ใช่คนเมาง่าย และก็อยากได้อะไร ๆ มาช่วยให้กล้าขึ้น
"พอก่อน" มือใหญ่ปิดปากกระป๋องเบียร์ที่จินยองจะยกมันขึ้นกระดกอีกรอบทั้งที่หูแดงเถือก
เราสบตากัน โดยมีกระป๋องเบียร์หนึ่งกระป๋องขวางอยู่
และไม่รู้ทำไม แจบอมรู้สึกว่าจินยองตอนนี้น่าจูบชะมัด น่าจูบกว่าปกติเสียอีก
เคร้ง
เบียร์พ่นฟองฟู่ออกมาเมื่อมันตกลงกระแทกพื้นพรมจนหกเลอะเทอะ ทำให้ในมือของแจบอมว่างเปล่า แค่ไม่กี่เสี้ยววินาที ก่อนที่จะกลายเป็นเอวคอดถูกแทนที่ในนั้น
เมื่อแจบอมถูกจินยองจูบ
เด็กอายุยี่สิบแค่เอาริมฝีปากตัวเองบดเบียดกับปากของแจบอม ซื่อตรงและง่ายดาย
กลิ่นและรสของเบียร์เข้มจัดเมื่อแรกที่แจบอมสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของจินยอง และยิ่งเจือจางลงเป็นรสบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ขึ้น เมื่อจินยองเริ่มดุนลิ้นกลับมา
แล้วเราก็จูบกัน จูบกันเนิ่นนานจนจินยองรู้สึกเหมือนว่าจูบแรกนี้กำลังจะทำให้ปากเขาชา
"....." ลมหายใจร้อน ๆ ผะผ่าวเมื่อเราคลายจูบออก แต่ไม่ได้ขยับออกห่างกันแม้สักเสี้ยว
"เมื่อวานที่คุณบอก บอกว่ามีอย่างอื่นที่ทำให้อุ่นได้มากกว่ากอด นอกจากอุ่นแล้วมันจะช่วยให้คุณหายเครียดมากกว่ากอดด้วยไหม" จินยองกระซิบบอกเสียงแผ่วแต่แสนมั่นคง
"ฉันไม่ใช่คนดีพอที่จะปฏิเสธหรอกนะ"
และเราก็จูบกันอีกครั้ง
ครั้งนี้มันรุนแรงขึ้น เต็มไปด้วยความดุดัน แต่ก็หวานล้ำมอมเมา จินยองเกี่ยวดึงเสื้อยืดสีดำเกาะไหล่กว้างไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว
ปลายนิ้วติดสากจากการเล่นดนตรีลูบเฟ้นไปทั่วผิวอ่อนนุ่ม ทั้งเอว ยอดอก และซอกขา แตะต้องมันด้วยริมฝีปากและปลายนิ้ว
สองแขนของจินยองโอบกอดแจบอมไว้แน่น คู่เข่าก้าวข้ามและคร่อมทับลงบนตักแข็งแรง
มันทำให้เราจูบและเปลื้องผ้ากันและกันได้ง่ายยิ่งขึ้น
จินยองรู้สึกได้ว่าบางอย่างใต้กางเกงที่ดันก้นตัวเองอยู่ตอนนี้ร้อนและแข็งมากแค่ไหน จนทำให้ตัวยิ่งเห่อแดง
แต่เขาก็ตัดสินใจแล้ว และจะก้าวต่อไป
"อื้อออ" เสียงครางแผ่วล่องลอยเมื่อลิ้นร้อนตวัดเลีย ยอดอกของจินยองเน้นหนัก เหมือนสองมือที่ลูบล้วงไปทั่วสะโพกอวบที่เหลือเพียงแค่ชั้นในตัวหนา
จินยองดึงรั้งเสื้อยืดออกจากตัวของแจบอมอย่างทุลักทุเลเพราะต้องตั้งสติทรงตัวนั่งอยู่บนตักนี้โดยไม่หลอมละลายจนหมดรูปเพราะถูกปลุกเร้าความเสียวสะท้านไปทั้งตัว
ปึก
เสื้อของแจบอมหลุดลอยติดมือมาในจังหวะเดียวกับที่แผ่นหลังเปลือยเปล่าของจินยองกระแทกลงกับเบาะโซฟานุ่ม
"อึก อื้อ" เสียงแผ่วราวกับสำลัก และคงสำลักอยู่ในห้วงอารมณ์ จินยองกำลังรู้สึก รู้สึกถึงแจบอมอย่างชัดเจน มือใหญ่ทั้งสองข้างลูบเฟ้นไล่ตั้งแต่แผ่นอกบาง ไปถึงช่วงเอวคอด ลิ้นชื้นเลียซอกขานุ่มจนชุ่มฉ่ำ
"อ๊ะ" จินยองรู้สึกสั่นไปทั้งตัวเมื่อมือใหญ่กำเข้าจุดอ่อนไหวและรูดรั้งมันอย่างบ้าคลั่ง ส่วนตัวเขาก็ทำได้เพียงแค่จิกไหล่กว้างไว้จนแน่นและเกี่ยวขาเกาะช่วงเอวแข็งแรงของแจบอมไว้เท่านั้น
"ผม จะ อะ อา"
มันวูบโหวงแต่ก็เติมเต็ม จินยองสับสนเมื่อทั้งร่างกายกระตุกสั่น
แจบอมกดยิ้มกับท่าทางที่ตนได้เห็น หยาดขาวขุ่นชุ่มมือใหญ่ถูกชโลมจนทั่วท่อนเนื้อของแจบอมที่เติบโตตามความต้องการ
และมันต้องการจินยองอย่างเหลือล้น
"อึ่ก เดี๋ยว คุณ เดี๋ยว พี่ครับ จินยอง ฮึก" จินยองร้องขึ้นมาเสียงหลง ไม่มีคำเตือน ไม่มีคำปลอบโยนนอกจากจูบที่มอมเมาจินยองอีกครั้ง
แต่ความเจ็บและร้อนที่สอดแทรกเข้ามาในร่างนั้นจินยองก็ยังรู้สึก
มันทำให้น้ำตาคลอ ยิ่งกระแทกกระทั้นเข้ามาน้ำตาก็ยิ่งหยดรินเปื้อนแก้ม และฉับพลันเหมือนห้องมืดมิดที่ถูกกดเปิดสวิตช์ไฟ ความเสียววูบวาบกระจายไปทั่วตัว มันยังคงเจ็บแต่ทว่ารู้สึกว่าทนไหว
เจ็บแต่ก็ต้องการอีก
"อ๊ะ อะ" เสียงหวานลอยล่อง ดวงตากลมโตจ้องมองมาหวานหยด ปลายนิ้วเรียวยาวของจินยองเกลี่ยไปตามผิวแก้มของผู้ชายร่างโตที่กำลังโยกคลอนทั้งร่างของเขาอยู่บนโซฟา
ดวงตาเรียวคมของแจบอมตอนนี้ดุดันแต่ก็โหยหา มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวจนจินยองละสายตาไปไม่ได้ เหมือนความร้อนที่เสียดสีไปกับผนังอุ่นร้อนในร่างเขาจนหัวปั่น เหมือนมือหนาที่ฟอนเฟ้นไปทั้งตัว
"เรียกอีกสิ" แจบอมกระซิบบอกผสานเสียงทุ้มที่แผ่วคราง
"พี่ครับ พี่แจบอม อึก" จินยองทำตามอย่างง่ายดาย และมันก็ร้อนแรงขึ้นราวกับไฟได้เชื้อ เอวคอดถูกกระชับดึงเข้ามาจนแนบชิดมากขึ้น แจบอมโหมกระแทกแรงลงไป
แทรกลึกและรู้สึกถึงปาร์ค จินยองให้มากที่สุด
จินยองรู้สึกได้ว่าเขากำลังถูกกอด
จึงเลือกที่จะกอดแจบอมกลับไปเช่นกัน กอดช่วงบ่ากว้างไว้จนแน่น ซบหน้าผากที่ชื้นไปด้วยเหงื่อกับไหล่กว้างอย่างไร้การควบคุม
เพราะกายที่โยกคลอนเหมือนจะโบยบินขึ้นเองอย่างที่จินยองไม่รู้ต้องทำยังไงกับมัน
"พี่ครับ ฮึก จินยอง" หวีดดังขึ้น ก่อนจะเงียบสนิท ทั้งร่างผอมสั่นกระตุกและมันก็รีดเคล้นบีบรัดเสียจนแจบอมสั่นสะท้าน
จินยองรู้สึกว่าทั้งตัวร้อนเมื่อปลดปล่อยอารมณ์ออกมา แต่กลับร้อนไปทั้งช่องท้องยิ่งกว่าเดิมเมื่อแจบอมกดสะโพกลึกเข้ามา ทั้งที่แน่ใจว่าอีกฝ่ายใส่ถุงยางอนามัยก่อนทุกสิ่งจะเริ่มขึ้น
แต่มันก็ยังทำให้หัวใจเต้นโครมคราม
แจบอมเองก็ไม่ต่างกัน เนื้อตัวจินยองผอมแต่กลับนุ่มนิ่มมือ และข้างนอกที่ว่าน่าดึงดูดใจ ทั้งริมฝีปากและส่วนสัมผัสที่ลึกซึ้งที่สุดมอมเมาแจบอมได้ดีเสียยิ่งกว่าเบียร์ทุกกระป๋องที่ดื่มไปในวันนี้
"จูบอีกได้ไหม" เสียงหวานนุ่มแผ่วขึ้นมา มือหนาประคองใบหน้าของจินยองไว้ในฝ่ามือ
รสจูบเริ่มขึ้นอีกครั้ง ลึกซึ้ง ยั่วเย้า
จินยองสัมผัสได้ว่าอีกคนยังต้องการ แค่นี้มันไม่พอในการสะสางความเครียดที่รุมเร้าอิม แจบอมได้ทั้งหมด
"คุณ..."
"เรียกแบบเมื่อกี้สิ" กระซิบชิดใบหูพร้อมขบกัดเบา ๆ ลงบนยอดอกที่แข็งชันล่อตา
"พี่แจบอม"
"ว่าไง"
"พี่ขยับได้อีกนะ" ขยับในยามที่เรากอดรัดกันจนแน่นแฟ้นเช่นนี้
"ขยับเข้ามาแรง ๆ ก็ได้"
จินยองรู้สึกเหมือนร่างจะแหลก แต่ก็ยังคงบอกออกไป เชื้อเชิญและยินยอมที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ ทั้งจุกทั้งแสบร้อนไปทั้งตัว แต่กลับรู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอก ถ้าเป็นแจบอมไม่เป็นไร
ไม่เป็นไรถ้าจะทำให้ความเครียดเบาบางลง
"อ๊ะ" จินยองผวาร้องขึ้นมา เมื่อการขยับถูกสานต่ออีกครั้ง ร่างสูงใหญ่ของท่านประธานแห่งพาราไดซ์ดึงรั้งจินยองไว้ในอ้อมกอดจนแน่น และตอกลึกสะโพกเข้ามาจนจินยองรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมหายเข้าไปในโซฟา
และสิ่งที่เขาเลือกทำคือกอดอีกคนไว้จนแน่น
และปล่อยให้ทั้งตัวโยกเขย่าไปตามทุกห้วงการขยับของอิม แจบอม
﹌
ปึก!
กระป๋องเบียร์เปล่าถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าจินยองอีกกระป๋อง ดวงตากลมโตที่จ้องมองมันอยู่นานกะพริบปริบเหมือนความคิดถูกดึงย้อนกลับมา
"คิดอะไรอยู่" คำถามพร้อมอ้อมกอดจากท่านประธานแห่งพาราไดซ์ที่ดึงไหล่แคบไปกอด ไหล่ของนักแสดงที่ยังคงมีแค่หนึ่งเดียวของพาราไดซ์ ต่อให้ผ่านมาเกือบหนึ่งปีแล้วก็ตาม
"คิดอะไรเรื่อยเปื่อยครับ"
"คิดถึงเรื่องลามกอยู่เหรอ"
"พี่แจบอม" จินยองตาเบิกโพลงเมื่อถูกจับผิดได้ไปถึงในความคิดของตัวเอง สีหน้าตกอกตกใจทำเอาแจบอมหัวเราะหึ
"จริง ๆ เหรอเนี่ย" แจบอมเลียปากตัวเอง ตาเรียวคมจ้องมองไม่วางตาเหมือนนายพรานที่เตรียมออกล่าเหยื่ออีกหน
ต่างตรงที่เหยื่อเนื้อนุ่มนี้นอนหมอบอยู่ในอกของนายพรานแล้ว
"ก็แค่คิดถึงช่วงแรก ๆ ที่มาอยู่ที่นี่น่ะครับ" จินยองกล่าวถึงอย่างกว้าง ๆ แต่จากเสียงหัวเราะ แจบอมคงนึกออกได้ถึงช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง
"ครั้งแรกของเราบนโซฟานี้น่ะเหรอ" มือหนาตบโซฟาสองทีเท่ากับที่มืออีกข้างตะปบลงบนก้นงอน ๆ ของจินยอง
ใช่ ที่โซฟานี้ ที่วันต่อมาแจบอมก็เอาโทรศัพท์ใหม่ ชุดใหม่ บัตรเครดิตใหม่มาให้ จินยองก็เลยเข้าใจด้วยตัวเองทันทีว่านั่นคือค่าตอบแทนจากการหลับนอนด้วยกัน
ค่าตอบแทนจากการเป็นที่ระบายความเครียดให้
"ตอนนั้นที่มีบางคนยังไม่เป็นเด็กดื้อ" ปลายนิ้วลูบสางเส้นผมของจินยองเชื่องช้า ปากอิ่มตึงเบะยามที่ซุกแก้มไปกับอกของ แจบอม
"ตอนนี้ผมก็เป็นเด็กดี ไม่มีเด็กดื้อที่ไหนสักหน่อย"
"จริงเหรอ" คำถามตามมาด้วยมือหนาที่คืบคลานหายเข้าไปในสเวตเตอร์ตัวโคร่งที่จินยองสวมใส่อยู่
"อื้อออ จินยองเด็กดีของพี่แจบอม" ชมตัวเองเสร็จสรรพ ซุกหน้ากับอกแจบอมแน่นไม่ปล่อย
เด็กดีที่ยินดีกับจูบหวาน ๆ ที่ได้รับมอบให้เป็นรางวัล จูบที่ทำให้จินยองคิดถึงแจบอมอยู่เสมอทุกห้วงคำนึง
เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับจินยอง ที่ทำให้ แจบอมคิดถึงเด็กดีของตัวเองเสมอเช่นกัน
ยิ่งเป็นสิ่งธรรมดาก็ยิ่งเจือความทรงจำเอาไว้
เมื่อมันเกี่ยวกับคนสำคัญ
//
*ถ้าใครคิดว่าฉากในตอนนี้ล่อแหลมไป ก็บอกกันก่อนกดแบนเน้อ เรามองว่ามันไม่ได้ยาวมากเลยไม่ได้คัทแยก แต่ถ้าใครคิดว่าเออ แยกเถอะ บอกเรานะ เดี๋ยวแยกให้ อย่าเพิ่งแบนนนน*
เอาตอนพิเศษมาลงให้ตามสัญญานะคะ แต่ว่าในเล่มจะมีตอนพิเศษทั้ง 4 ตอนค่ะ ส่วนที่นำมาลงนี้คือตอนพิเศษตอนที่2 จากทั้ง4ตอนค่ะ
เป็นตอนที่ย้อนอดีตแล้วก็เผยอนาคตหนึ่งปีข้างหน้าของเสี่ยและเด็กเสี่ยไปในตัว ถถถ
ตอนนี้รูปเล่มหมดแล้ว แต่ว่ามีเป็น e-book ใน meb นะคะ
หากสนใจจิ้มได้ที่ลิ้งด้านล่างนี้ค่ะ
#ฟิคหมอกควัน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เด็กดื้อของพี่แจบอม
ตอนท้ายนี่ยิ่งน่ารักกก โง้ยย มาเด็กด้งเด็กดื้ออะไรกันนนน ;////;