ตอนที่ 5 : SMOG #ฟิคหมอกควัน 5/5 [รีไรท์]

หลังการหายไปของประกายไฟ สิ่งที่ถูกทิ้งไว้ปลายมวนบุหรี่ก็ยังคงเป็นประกายไฟ ที่ลดทอน กลืนกินแท่งนิโคตินให้สูญสลายไปชั่วกาล เหลือเพียงแค่กลุ่มควันจาง ๆ เท่านั้น
-แจบอม-
﹌
"ฉันซื้อน้ำมาฝาก จินยอง" น้ำเปล่าขวดสวยที่ถูกซีลอยู่ อย่างดีพร้อมรอยยิ้มกว้างซื่อ ๆ ของยองโฮมาคู่กันเสมอ ตลอดระยะเวลาสองเดือนหลังจากที่เกิดเรื่องฮวัง ซูบิน
"ฉันบอกแล้วไงยองโฮ นายไม่ได้ผิดอะไรเลยนะ ไม่ต้องเอาน้ำ เอาของมาให้ฉันแทนคำขอโทษทุกวันแบบนี้แล้ว" จินยองส่ายหน้าบอกด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
น้ำเปล่าถูกยกขึ้นจิบเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่นั่งข้าง ๆ ระหว่างรอเรียนวิชาต่อไปด้วยกัน
"จะว่ายังไงดีล่ะจินยอง" มือใหญ่ของยองโฮถูกใช้เกาต้นคอราวกับไม่รู้ว่าจะเอามันไว้ตรงไหน เกะกะไปเสียหมด
"ฉันอยากให้นาย อยากให้เพราะฉันอยากให้ ไม่ใช่แค่แทนคำขอโทษจากเรื่องนั้น" ดวงตาเหงาหงอยของยองโฮมีประกายบางอย่างที่ทำให้จินยองได้แค่ครางรับแผ่วเบาในลำคอ
จินยองเข้าเรียนทักษะการแสดงเพิ่มอยู่เป็นประจำ สัปดาห์ละสามวัน และในชั้นเรียนที่พาราไดซ์นั้นสอนหลายสิ่งมากมาย รวมทั้งการอ่านสีหน้าและแววตาเพื่อบอกความคิดข้างใน
และแววตาที่ยองโฮจ้องมานั้นมันไม่ได้ปกปิดอะไรเลย
"ยองโฮ เราชอบเป็นเพื่อนกับยองโฮนะ แต่ว่ามากกว่านั้นน่ะ เรา เรา..."
"ไม่ต้องบอกหรอกจินยอง เราเข้าใจ" ยองโฮตะปบมือผอมของจินยองไว้ในอุ้งมือตัวเอง พยักหน้าด้วยรอยยิ้มให้จินยองเบาใจมากขึ้น
จินยองก็ทำได้แค่ยิ้มกลับไป พอคิดดูแล้วก็นึกอิจฉา ยองโฮไม่น้อยที่กล้าเปิดเผยความรู้สึกมากขนาดนี้ออกมา
ไม่เหมือนคนขี้ขลาดอย่างปาร์ค จินยอง
สุดท้ายแล้วตั้งแต่คืนประกาศรางวัลเมื่อสองสัปดาห์ก่อน จินยองก็ยังไม่ได้ถามอะไรท่านประธานแห่งพาราไดซ์ออกไปอยู่ดี
และทักษะการอ่านสีหน้า แววตาที่ได้ร่ำเรียนมาก็ดูเหมือนจะมีค่าเป็นศูนย์ทันทีเมื่อสบตากับอิม แจบอม
จินยองไม่มีสมาธิมากพอ รู้สึกเหมือนเป็นเพียงแค่คนหนึ่งคนที่ตาบอด
คนตาบอดที่ยอมแล้ว กับทุกความรู้สึกแม้รู้ว่าไม่ควร แต่จินยองก็ยอมรับแล้ว
จินยองรัก รักแจบอมไปหมดแล้วทั้งใจ
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้บอกไหม จะมีโอกาสนั้นหรือเปล่า ทั้งที่เรานอนข้างกันในหลายคืน บ่อยครั้งในยามเช้าก็มอบรอยยิ้มเมื่อเดินสวนกัน ตอนที่ต่างฝ่ายต่างต้องไปทำธุระของตัวเอง
หรือแม้แต่จูบ ในเช้าวันที่ตื่นสายได้มากพอให้มีเวลาอ้อยอิ่งในอ้อมกอดของกันและกัน
เหมือนจะมีเวลามากมาย แต่จินยองรู้สึกว่าคอตีบตันทุกครั้งที่จะเอ่ยปากบอกความรู้สึกของตัวเอง
แล้วก็กลัว กลัวว่าการถามจุ้นจ้านจะทำให้ถูกเหวี่ยงออกจากจักรวาลของอิม แจบอม
จักรวาลที่บางครั้งจินยองรู้สึกว่าเป็นที่ต้อนรับมากล้น
แต่ชั่วขณะหนึ่ง ก็เหมือนถูกทิ้งอยู่เพียงลำพังในที่เวิ้งว้างว่างเปล่า
แต่ยังไงมันก็คือจักรวาลของอิม แจบอม เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
"จินยอง! นี่มันข่าวเดฟโซลประธานค่ายนายนี่ใช่ไหม" เสียงดังลั่นของยองโฮทำให้นักแสดงของค่ายชะงักเมื่อได้ยินชื่อคุ้นหู
แต่พอกวาดตาโตจ้องมองหัวข้อข่าวที่ปรากฏแล้วกลับรู้สึกอื้ออึงไปทั้งหู ดวงตาก็เหมือนลายพร่าขึ้นมาฉับพลัน
'เปิดตัว: ซอ เซนาไปพบ เดฟโซล ประธานค่ายพาราไดซ์ถึงห้องพักทั้งคืน'
พร้อมภาพถ่ายของนักร้องสาวที่เดินเข้าตึกในตอนกลางคืนและเดินออกมาในยามเช้า ตึกที่จินยองนอนอยู่ที่นั่นทุกวัน
จินยองตั้งใจมอง จากชุดของซอ เซนา รูปนี้ถูกถ่ายในวันที่เธอมาขอให้แจบอมทำเพลงให้ ไม่แปลกที่จะเข้าไปในตอนดึกและออกมาในตอนเช้า
รูปนี้ไม่ได้ทำให้จินยองรู้สึกสะเทือนใจอะไรมากนักเท่ากับหัวข้อที่ยอมให้ถูกเปิดเผย ถ้าไม่ได้รับการอนุญาตจากต้นสังกัดของซอ เซนาและทางพาราไดซ์สำนักข่าวไร้ชื่อนี้จะกล้าลงข่าวได้ยังไง
ในเมื่อความสัมพันธ์ของเซนาและแจบอมถูกยืนยันแล้ว
ความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงขมุกขมัวของจินยอง ก็ควรจะขมุกขมัวต่อไปใช่ไหม
ไม่ชัดเจนแม้แต่กับตัวจินยองเอง
﹌
ห้องนี้มันใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ
จินยองรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงแค่สสารเล็กจิ๋ว และห้องนี้เป็นจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ห้องที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกราคาแพงมากมายอัดแน่น ทว่าจินยองรู้สึกว่ามันว่างเปล่า
เมื่อไม่มีอิม แจบอมอยู่ที่นี่เหมือนเคย
สองแขนรวบกอดสองขาตัวเองไว้ชิดอก แนบแก้มไปกับหัวเข่ายามที่คิดอะไรมากมายในหัว แต่ก็เหมือนไม่ได้คิดอะไรเลย
เขาไม่เคยอยากให้ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับท่านประธานแห่งพาราไดซ์ ยิ่งเป็นความลับมากแค่ไหนก็ยิ่งดี แต่บางครั้งความโลภมากก็ครอบงำจิตใจของจินยอง
เขาอยากรู้ว่าระหว่างเรามันคืออะไรกันแน่ เขาไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำตัวยังไง ถ้าเป็นแค่คู่นอนสักคน เป็นแค่ที่ระบายความเครียด แค่ชัดเจนว่าเขาเป็นอะไร แค่นั้นก็พอแล้ว
จินยองก็แค่ต้องการความชัดเจนถึงสถานะของตัวเอง แม้ว่าที่จริงแล้วจะเป็นอะไรก็ได้ที่จะได้อยู่ข้าง ๆ อีกฝ่ายต่อไป
แต่ทุกอย่างมันไม่ชัดเจน
จินยองรู้เท่าที่แจบอมอยากให้รู้ และดูเหมือนว่าจินยองจะไม่รู้อะไรเลย
ติก ติก
เสียงเข็มนาฬิกาที่ผนังห้องนอนดูเหมือนจะดังเสียจนก้องห้อง
ห้องที่ได้มาอยู่ ตั้งแต่ฝากชีวิตไว้แก่ยมทูต และที่ผ่านมาก็ยังคงอยู่ตรงนี้เสมอ ยมทูตที่มีทุกอย่างก็เพียงแค่สงสารแล้วเก็บวิญญาณที่แสนเหงาหงอยมาจากข้างถนนแสนเฉอะแฉะ
ถ้าความสงสารหมดลง ถ้าความน่าสนุกจางหาย
ถ้าที่จริงเวลาอีกมากมายที่ให้จินยองได้หาคำตอบว่าตัวเองเป็นอะไรสำหรับอิม แจบอมมันจะสั้นกว่าที่คิดล่ะ
สั้นแค่จนถึงวันนี้ ถึงไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้
ความจริงจินยองอาจจะเป็นตัวเกะกะ อาจจะทำให้ทั้ง แจบอมและเซนาไม่สะดวกใจในสิ่งที่ต้องการจะทำ
“.....”
แจบอมให้อะไรจินยองมากมาย มากจนเหลือล้น ถ้า จินยองชดใช้คืนให้กับแจบอมบ้าง แม้มันจะเล็กน้อย สิ่งที่วิญญาณในความดูแลของยมทูตจะมอบคืนให้ได้
ที่ว่าง ...
"นั่นสินะ ปาร์ค จินยอง"
ภายใต้ทุกอย่างซึ่งขมุกขมัว ภายใต้หมอกควันแห่งความกลัว จินยองก็ยังคงหวังว่าเมื่อทุกอย่างชัดเจนขึ้น จินยองจะได้อยู่ในสถานะที่มีแจบอมอยู่เคียงข้างตลอดไป
เขาเกลียดโลกที่ไม่มีอิม แจบอม พอ ๆ กับที่เกลียดความรู้สึกโลภมากของตัวเอง
สุดท้ายโลกใบนี้ก็เหลือแค่ปาร์ค จินยองคนเดียวอยู่ดี
﹌
"เฮ้อออ" ทันทีที่ปิดประตูห้องพักลงเสียงระบายลมหายใจหนักหน่วงก็ดังขึ้นมา วันนี้มีอะไรให้จัดการเยอะจนประธานค่ายอย่างอิม แจบอมรู้สึกปวดหัว
ทั้งการเตรียมอัลบั้มใหม่ให้ศิลปินในค่าย การประชุมกับผู้ถือหุ้น และเรื่องมากมายอีกเป็นกระบุงทั้งมีสาระและไร้สาระ
ไฟในห้องนั่งเล่นที่ถูกเปิดอยู่บอกได้ดีว่ามีใครอีกคนที่อยู่ด้วยกันกลับมาแล้ว
แบบนั้น ทำให้รอยยิ้มวาดกว้างออกมาได้บ้าง
กึก กึก
รองเท้าหนังกระทบกับขั้นบันได มือแข็งแรงถอดเสื้อหนังออกจากตัวเกี่ยวพาดบ่าไว้ ข้อความในมือถือถูกเช็กดูความคืบหน้าของหลาย ๆ อย่าง
-จินยอง-
ชื่อที่ส่งข้อความมาให้ทำให้แจบอมเลิกคิ้วมอง มันเพียงแค่ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เท่านั้น
-จะกลับหรือยังครับ-
มีเด็กน้อยบางคนคิดถึงเขามากอย่างนั้นสินะ ถามกับตัวเอง ยิ้มไม่หุบ และหาคำตอบให้กับมันได้ทันทีที่หยุดยืนอยู่หน้าห้องของจินยอง
"..." ประตูไม่ได้ล็อกเหมือนเคย แจบอมบิดมันเข้าไป
และทันทีที่กวาดตามอง อิม แจบอมก็เห็นทันทีว่าในห้องนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ปึก!
โทรศัพท์และเสื้อหนังในมือถูกขว้างลงพื้นรองรับอารมณ์ที่แล่นวาบขึ้นมาจนร้อนอก ร่างผอมบางสะดุ้งเฮือก เหลียวกลับมามอง มือผอมจิกกำสายกระเป๋าในมือตัวเอง
ปึก
และกระเป๋าโง่ ๆ ใบนั้นก็ถูกขว้างลงพื้นด้วยเรี่ยวแรงแห่งความไม่พอใจจนหักงอกองอยู่บนพื้น แทบทันทีมือเดิมกำกระชากแขนของนักแสดงคนเดียวในค่ายไว้จนแน่น
"นายกำลังทำอะไร! นายจะเก็บกระเป๋าไปไหน!" เป็นการตะคอกมากกว่าถามคำถาม เรื่องปวดหัวที่เจอมาทั้งวันยังไม่ทำให้แจบอมหัวเสียได้เท่าวินาทีนี้
ของในห้องจินยองหลายอย่างถูกเอาออกมาใส่กล่องและกระเป๋า โดยเฉพาะพวกหนังสือเรียนที่ปาร์ค จินยองหวงนักหวงหนา กระเป๋าเดินทางอีกใบกับกระเป๋าสะพาย
เท่าที่เห็นมันก็มากเกินพอ มากพอแล้วถึงเจตนาของใครอีกคน
"นายบอกว่านายจะไม่มีวันทิ้งฉัน แล้วนี่มันอะไร อะไร! ฮะ!"
ตึก!
แผ่นหลังแคบของจินยองกระแทกเข้ากับผนังเต็มแรง มือใหญ่กดไหล่บางไว้กับกำแพงแข็งไม่ต่างจากพวกสัตว์ที่ถูกสตัฟฟ์อวดโฉมหลังความตาย
ต่างเพียงจินยองยังมีลมหายใจ และดวงตาคู่โตก็วาววับด้วยความรู้สึกเอ่อล้น
"ถ้าฉันกลับมาช้ากว่านี้นายก็จะทิ้งฉันไปใช่ไหม ตอบฉันสิ ปาร์ค จินยอง"
"ไม่ ต่อให้พี่กลับมาช้ากว่านี้พี่ก็จะเจอผม"
"โกหก! แล้วนายเก็บของทำไม" แจบอมยังคงตะคอกถาม ดวงตาคมดุกร้าวจ้องมอง แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกแย่ รู้สึกสูญเสีย และหวาดกลัว มันผสมกันอย่างลึกล้ำ และทำให้ร่างสูงใหญ่ดูเปราะบางลงอย่างมากมาย
ทว่าคนที่เอาแต่ก้มมองพื้นก็ไม่ได้เห็นมัน
"ก็แค่เก็บรอ เผื่อว่าพี่จะให้ผมไป" เสียงนุ่มแผ่วของจินยองไร้แววบิดเบือนเจือปน
แรงที่กดยันไหล่บางไว้จนชิดผนังถูกผ่อนออก ร่างผอมบางของนักแสดงหนุ่มถอยลงนั่งแทบพื้นราวกับใบไม้ที่ร่วงหล่น
ไหล่แคบเจ็บวาบแต่หยดน้ำตาที่เอ่อล้นจนเลอะสองแก้มไม่ใช่เพราะเหตุนั้น
"ทำไมฉันจะต้องให้นายไป" แจบอมคุกเข่านั่งลงตรงหน้า จ้องมองจินยองที่กำลังเปียกปอน
ไม่ต่างจากวันนั้นที่ตนไม่อาจปล่อยจินยองให้ไปไกลสายตาได้ วันที่ต้องการให้คนคนนี้อยู่เคียงข้างกัน
"เพราะผมอาจจะทำให้พี่รำคาญใจ หลังจากถามคำถามโง่ ๆ ออกไป"
"ลองถามสิ" เพราะแจบอมแน่ใจว่าไม่มีอะไรที่โง่ไปกว่าการที่จินยองเก็บกระเป๋าเพื่อออกไปจากห้องนี้อีกแล้ว
"....." จินยองไม่ได้พูดอะไร แค่ล้วงหยิบกระดาษที่ถูกพับอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา มันยับย่นจากแรงเบียด แต่ก็ยังคงสมบูรณ์ดี
กระดาษที่ถามคำถามซึ่งจินยองไม่กล้าเอ่ยปากเอง เป็นหนึ่งสิ่งจากชั้นเรียนการแสดงที่จินยองเพิ่งได้ทำ และหยิบยืมมาใช้
เพราะมีความกลัวมากมายอัดล้นในใจ
แจบอมรับกระดาษสีขาวนั้นมาและเปิดออกอ่าน ลายมือเป็นระเบียบของจินยองวางเรียงตัวกันอยู่ด้านใน
-สำหรับคุณอิม แจบอมแล้ว ปาร์ค จินยอง คือ...-
1. นักแสดงของพาราไดซ์
2. สิ่งที่ใช้คลายเครียดจากการทำเพลง
3. ผู้อยู่ในความดูแลของยมทูต
4. คนที่ชอบ
ดวงตาเรียวคมกวาดมองตัวอักษรพวกนั้นซ้ำอีกครั้ง รอยยิ้มจาง ๆ เกิดขึ้นที่มุมปาก ก่อนจับจ้องมองคนที่เขียนมันขึ้นมา จินยองเอาแต่ก้มหน้าลงต่ำ มือทั้งสองข้างกำกันจนแน่น น้ำตาหลายต่อหลายหยดเปรอะเปื้อนใบหน้า
มันชัดเจนว่ากระดาษแผ่นเล็กแค่นี้ แต่จินยองให้ความรู้สึกกับมันมากแค่ไหน จริงจังกับมันเพียงใด
และแม้อยากจะปฏิเสธ แต่มีความคาดหวังอยู่ในกระดาษแผ่นนี้
คาดหวังความชัดเจน
"สิ่งที่ฉันต้องทำคือตอบคำถามข้อนี้เหรอ"
จินยองทำได้เพียงแค่พยักหน้า แต่ไม่เงยขึ้นมาแม้แต่น้อย แจบอมลุกหายไปเพียงครู่เดียวและกลับมานั่งอยู่ตรงหน้าของ จินยองเหมือนเดิม
ในความเงียบมีเพียงแค่เสียงดินสอลากไปบนกระดาษ
อาจเพียงแค่ไม่กี่วินาที หรือยาวนานแท้จริงอย่างที่จินยองรู้สึก
"ผมไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พูดมันอีกไหม แต่ผม ฮึก ผมรักพี่แจบอมนะ" เสียงพูดสั่น สั่นเหมือนเสียงกระซิบ
"งั้นเหรอ"
ตอนนี้จินยองกำลังรู้สึกว่าตัวเองโง่เง่ามาก เขาทำแบบนี้ทำไม เขาทำไมต้องโลภมาก นี่มันโง่ โง่จริง ๆ
โง่สมเป็นจอมงี่เง่าปาร์ค จินยอง
"ไม่ ไม่ต้องตอบแล้ว" จินยองโพล่งขึ้นมา มือผอมคว้ากระดาษตรงหน้าแต่แจบอมก็ดึงมันขึ้นหลบปลายนิ้วเรียวยาวได้พ้น
"ผมขอโทษ ผมงี่เง่าเอง ผมไม่อยากรู้..." เสียงเงียบฉับลงเมื่อแจบอมชูนิ้วที่ประดับแหวนเงินวงโตขึ้นมา
"..." นิ้วถูกแตะลงที่ริมฝีปากอิ่มตึง ให้รอ และจินยองก็นั่งเงียบรอต่อไป
เพียงแค่ไม่กี่วินาที
มือผอมถูกจับกางออก กระดาษแผ่นนั้นวางอยู่ มันถูกคลี่เปิดไว้รอราวกับกลัวว่าเด็กโง่บางคนจะปอดแหกจนไม่กล้าเปิดออก
-สำหรับคุณอิม แจบอมแล้ว ปาร์ค จินยอง คือ...-
รอยดินสอมากมายกระจายตัวทับปากกาสีน้ำเงินที่ จินยองเขียนไว้จนหมด
1. แรงบันดาลใจของฉัน
2. สิ่งที่น่าหลงใหลเสียยิ่งกว่าการทำเพลง
3. คนที่ทำให้ฉันมีความสุข
4. และ ใช่ ฉันรักนาย ปาร์ค จินยอง
ด้านหน้าเลขพวกนั้นถูกวงกลมไว้ทั้งหมดว่าเป็นคำตอบที่ต้องการจะตอบ
คำตอบที่ทำให้หูอื้ออึงเพราะเสียงหัวใจที่เต้นระรัวหนัก
จินยองกะพริบตาหลายครั้งเพื่อที่จะอ่านซ้ำว่าไม่ได้เข้าใจตรงไหนผิดไปเอง และหลังจากจดจ้องมองอยู่นาน ในแววตาคู่นี้ก็มีเพียงเงาสะท้อนของผู้ชายที่เขียนมันขึ้นมา
"เข้าใจหรือยังคำตอบของฉัน"
รอยยิ้มของอิม แจบอม สวยงามยิ่งกว่าที่เคยเสียอีก
"ฮึก ผมขอโทษ" มือหนาประคองข้างแก้มนิ่มไว้ในฝ่ามือตัวเอง ปลายจมูกโด่งแนบชิดใบหูบาง
"ขอโทษทำไม"
"ผม ฮึก อ่านลายมือพี่ไม่ออก" แล้วจินยองก็หัวเราะออกมาทั้งน้ำตา สองแขนกอดตอบแจบอมไว้จนแน่น
"ขอโทษที่งี่เง่า ผมก็รักพี่แจบอม รักมาก ๆ จินยองรัก พี่แจบอมที่สุดเลย" น้ำเสียงเน้นย้ำบอกซ้ำไปซ้ำมา ชัดเจนว่าจินยองเข้าใจได้ดีแค่ไหนถึงข้อความที่แจบอมเขียนมอบให้
เข้าใจและหวงแหนมัน
มือหนาลูบหัวทุยเนิบช้า แจบอมส่ายหัวให้กับเด็กน้อยในอ้อมแขน และยิ้มให้กับมุกตลกแทนความเก้อเขินที่ได้รับเช่นกัน
"ขอบคุณครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง" โถมทั้งตัวกอดจนจมเข้าไปในแผ่นอกกว้าง เหลือเพียงแค่ดวงตาโตเปียกแฉะที่โผล่มาจากบ่าแข็งแรง
"แล้ว แล้วคุณเซนาจะโกรธไหมที่ ที่ผมอยู่ที่นี่ ที่ผมรัก พี่แจบอม"
"เพราะข่าววันนี้เองสินะ" แจบอมถอนหายใจเสียงดัง มือหนาดันเด็กน้อยในอ้อมกอดออกเพื่อจะได้สบตากัน แต่จินยองฝืนตัวที่จะกอดไว้ เราจึงกอดกันต่อไป
"เซนา แมร์รี่ อินเฮ ชาร์ล็อต โคลอี้ เซจอง เซรา" แจบอมขานชื่อออกมาทีละชื่อ จนสุดท้ายเป็นจินยองเองที่ต้องคลายอ้อมกอดออกมาสบตามอง
"นอกจากนี้เพื่อนผู้หญิงของฉันที่ทำงานสนิทกันมาตั้งนานก็มีอีกเยอะเลยล่ะ แต่นายอาจจะไม่เคยเห็นเพราะไม่มีใครมารยาทน้อยเท่าซอ เซนาแล้วที่จะบุกมาหาถึงห้องนี้ทั้งที่ฉันบอกแล้วว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว"
พื้นที่ส่วนตัวที่มีแต่จินยองเข้ามาได้ เข้ามาตั้งแต่เริ่มต้น
"ฉันรู้ว่าจินอูสอนนายมาว่าถ้าพาราไดซ์ไม่อนุญาตพวกสำนักข่าวก็ไม่ควรเอาข่าวเสียหายไหน ๆ ไปลง แต่สำนักข่าวกระจอกนั่นลงข่าวโดยไม่ถามทางต้นสังกัดของเซนาหรือว่าพาราไดซ์ด้วยซ้ำ คงอยากฆ่าตัวตายมาก เชื่อเถอะ นักการเงินแฟนของ เซนาคงจัดการแทนพาราไดซ์ไปแล้ว แต่ฉันเองก็จะต้องจัดการมันเหมือนกันที่มาซุ่มดูอยู่หน้าตึกนี้ คงอยากไม่ได้ผุดได้เกิดจริง ๆ"
จินยองค่อย ๆ รับข่าวสารใหม่แล้วเรียบเรียงมันในหัวจนสมบูรณ์
และยิ่งทำให้รู้สึกผิดไปอีกมากโข
"ผมขอโทษที่ทำตัวไม่น่ารัก ขอโท..."
"ชู่ว" แค่นั้นจินยองก็เงียบลงอีกครั้งอย่างง่ายดาย มือผอมจับประคองฝ่ามือแข็งแรงขึ้นมาและแนบอิงแก้มนิ่มลงไป ช้อนตามองอย่างออดอ้อน
"ฉันไม่เคยบอก นายจะรู้ได้ยังไง" หยดน้ำตาบนแก้มขาวของจินยองถูกกวาดต้อนออกไปอย่างบรรจง
“ต่อไป ไม่ใช่แค่ฟัง ฉันเองก็ควรจะบอกกับนายให้มากขึ้น” ริมฝีปากหยักบางแตะที่หางคิ้ว ปลายจมูกกลม ๆ ของจินยอง ถึงริมฝีปากที่กลมมนยิ่งกว่า
"แต่ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าตัวเองสำคัญมากแค่ไหนสำหรับฉัน เด็กดี"
จินยองรู้สึกว่าตัวเองกำลังบินได้ ไม่ใช่แค่ในหัวใจที่ฟูฟ่อง แต่เป็นทั้งตัวที่ถูกยกขึ้นจนลอย ทั้งแขนขาเกี่ยวเกาะตัวโต ๆ ของท่านประธานแห่งพาราไดซ์ไว้ไม่ปล่อย
"รู้แล้วครับ"
"ดีมาก"
ยังคงกอดเกี่ยวไว้ แม้แต่ตอนที่ทั้งตัวแนบลงกับเตียงนุ่ม
"จำไว้ และรู้สึกเป็นเจ้าของมันซะ เพราะมีแค่นายที่ได้ครอบครอง จินยอง"
แม้แต่ตอนที่จูบดำเนินไป
"พี่คือทุกสิ่งทุกอย่างของผมเลยรู้ไหม พี่แจบอม"
"รู้สิ และฉันก็รักมันเลยล่ะ"
กอดไว้ แม้แต่ตอนที่ตกลงไปในหลุมรักอีกหน
และอีกหน
﹌
End
จบแล้วค่ะ ตามที่คิดไว้อย่างพอดิบพอดีแบบกรึ่มๆ เมาๆ ตามที่เราต้องการ ถถถถ
เพลงที่ฟังตลอดการเขียนเรื่องนี้คือเพลงที่ใส่ไว้ในตอนนี้เลยค่ะ EXO - Universe ฟังแล้วเคลิ้ม ๆ ลอย ๆ ดี ชอบบ
เสี่ยเดฟและน้องจินยองเด็กเสี่ยนี้ เป็นฟิคแก้บนก็ว่าได้ค่ะ และยอมรับว่าไฟลุกโชนในการเขียนเพราะคำว่าแก้บน สัญญาแล้วก็ต้องทำ เป็นฟิคเรื่องที่เราชอบในอารมณ์เมาๆ แม้จะยังไม่เมาเท่าที่ตั้งใจไว้ เลยเน้นไปทางฟีลลิ่งเบลอๆแทนอย่างที่เราถนัด ๆ ถ้ามีโอกาสจะพยายามสร้างสรรค์งานเขียนที่เมาได้เท่ารสอารมณ์ที่ต้องการออกมาในวันหน้านะคะ (ซึ่งไม่ง่ายเลย ต้องไปอัพเกรดความเมา ๆ ฟุ้งๆ ก่อน)
ขอบคุณหลาย ๆคนที่อ่านและให้กำลังใจมาตลอดเลยนะคะ มีไม่มากแต่ให้กำลังใจได้ดีมาก ๆ เลย แม้จะเป็นเพียงแค่เรื่องสั้นเมา ๆ แต่ก็ยังให้กำลังใจกันตลอด
ฝากเสี่ยเดฟกับน้องจินยองเด็กเสี่ยไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ^^
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
..
สำหรับรอบไปรษณีย์ตามที่บอกไว้ว่าจะเอาลิ้งมาลงในตอนจบ
รายละเอียดและสั่งจองลิ้งก์นี้ค่ะ จิ้มๆกันได้ -- > https://goo.gl/forms/ugPljkLMp6DIP3YC2
ราคา 220 บาท เปิดจองวันนี้ -17/2/61 นะคะ ส่วนหลังจากนั้นต้องมาดูกันอีกทีว่ามีเล่มเหลือจากตลาดกัซ และแจกแก้บน 20 คนผู้โชคดีไหม ถ้ามีจะเอามาเปิดเป็นพร้อมส่งค่ะ
ผู้โชคดี20คนที่ได้รับเล่มฟิคแก้บนคัมแบค จจพ จะไปเอาที่ตลาดกัซก็ได้เน้ออ ดีเอ็มไปโลดด @butterfly8ffect
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อ่านแล้วน้ำตาซึมตอนจินยองอ่านกระดาษแผ่นนั้น ที่ประธานคนเก่งเขียนตอบ ชอบมากกกก....ค่ะ ภาษาถ้อยคำที่แต่งออกมาสละสลวยเหมือนทุกเรื่อง ตามอ่านทีละเรื่องสองเรื่อง ชอบมากๆค่ะ ฉากและเนื้อเรื่องแต่งได้ดีมาก เป็นเอฟซีเลยค่ะ ??????????????‘???????‘???????‘???????‘????? เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์นะคะ ??’???’?❤