คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Grow Up : 7
7
#When You Grow Up
“หน้าซีดเลยหลานกู”พอก้าวขาเข้ามาในบ้านอาเก็ทก็ตะลึกกับสภาพฉันทันที
ก็ไม่แปลกหรอกแลอ้วกจนจะหมดตัวอยู่แล้วเนี่ย
“ขึ้นไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าว”
“ค่ะ”
หลังจากที่อาชินสั่งฉันก็ขึ้นไปอาบน้ำทันที
แต่ตอนขึ้นบันไดดันสวยทางกับอาเอิร์ธนี่สิ เอาเป็นว่าฉันรีบไปอาบน้ำก่อนดีกว่า
สภาพตอนนี้ไม่สมควรจะไปคุยกับใครทั้งนั้น
ฉันใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำ
และตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว
ทุกคนคงจะรวมตัวกันอยู่ที่ริมสระว่ายน้ำแล้วแหละ
และฉันก็ควรลงไปได้แล้วไม่ไงจะโดนอีกกระทงก็เป็นได้
“มาแล้วก็นั่งลง”ฉันขออธิบายลำดับการนั่งก่อนก็แล้วกันจากจัดฉันไปทางขวาคืออาเอิร์ธแล้วก็วิว
ส่วนฝั่งตรงข้างเป็นเฮียเทปอาชินอาเก็ท ตามลำดับ
แต่แล้วทำไมต้องให้ฉันมานั่งข้างอาเอิร์ธด้วยเล่า...
“อาชินเนลล์...”
“มาช้าเอง”ยังไม่ทันจบประโยคอาชินก็สวนขึ้นมาก่อน
และไหนจะสายตาดุๆที่ส่งมาให้ฉันอีก เห็นแล้วก็นึกอยากจะอ้วกขึ้นมาเสียดื้อๆ
“ก็ได้ค่ะ”
“มาอาไปตักของให้”อาเอิร์ธไม่ว่าเปล่าแต่หยิบจานของฉันขึ้นไปด้วย
แต่ว่านะ...
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะเดี๋ยวเนลล์ไปตกเอง
เฮียเทปไปกัน”
“หะ...”ฉันไม่รอให้เขาตอบแต่เลือกที่จะลากเขาไปแทน ส่วนเจ้าตัวก็เดินตามมางงๆนั่นแหละ แต่จะว่าไปมีแต่ของที่ฉันชอบกินทั้งนั้นเลยนะเนี่ยถ้าไม่มีเหตุการณ์ตอนนั้นคงจะมีความสุขกับการกินมากกว่านี้สักสิบเท่าได้
“เฮียเทปหยิบบาร์บีคิวให้หน่อยดิ”
“เป็นอะไรของมึงเนี่ย”เฮียเทปถามขึ้นหลังจากที่หยิบบาร์บีคิวมาวางบนเตาเรียบร้อยแล้ว
เฮียเทปไม่รู้เรื่องนั้นนี่เนอะ แต่ฉันไม่บอกหรอกยิ่งพูดยิ่งหัวเสีย
“หิวไง”
“ทะเลาะกับอามึงอีกล่ะสิ”
“อย่ามามั่ว”
“หึ
มึงดูนั่นเด็กวิวอะไรนั่นมันดูแลอามึงดีเลยนะ”ฉันมองตามทางที่เฮียเทปว่าก่อนจะเจอกับวิวที่สงอาหารไปที่จานอาเอิร์ธอย่างไม่เว้นช่วง
แล้วสายตาฉันก็ดันไปสบกับอาชินที่ส่ายหัวเป็นเชิงเตือนมาก่อน
คนนิ่งคือคนชนะสินะ?
“ก็ดีแล้วนี่”
“หืม...แปลกจริงๆวะปกตินี่คงเละไปแล้วแท้ๆ”เฮียเทปบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะไปหยิบของอื่นๆมาย่างบ้าง
เมื่อได้ของครบเราก็กลับมาที่โต๊ะกันทันที แต่แอบเห็นว่าเมื่อกี้ป้าสายเอากุ้งย่างมาให้นี่นา...
“เอากุ้งไหมอาแกะให้”อาเอิร์ธว่าพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบกุ้งตัวใหญ่ขึ้นมาแกะ
“ขอบคุณค่ะ
แต่คงไม่รบกวนแกะเองได้ค่ะ”ก็แกะเองได้จริงๆอ่ะ
แต่แค่แกะออกมาแล้วมันเหมือนกับกุ้งโดนระเบิดระหว่างทำสงครามโลก...แกะได้แต่แทบไม่เหลือให้กินอ่ะรู้จักไหม
“เตี้ยมึงแกะกุ้งยังไงให้เหลือแต่ซากวะ”
ดูโง่เนอะ...
“อาให้”แล้วกุ้งตัวใหญ่หน้าตาดีก็มาวางอยู่บนจานข้างกับซากกุ้งที่ฉันแกะ
คนละระดับจริงๆ ส่วนคนที่เอามาวางก็ไม่พ้นอาเอิร์ธหรอก
ไอ้เราจะปฏิเสธก็ดันไปเจอสายตากดดันของอาชินเข้าให้
“ก็ให้ไอ้เอิร์ธมันแกะให้เหมือนเดินนั่นแหละไอ้แสบ”
“ค่ะอาเก็ท”แล้วฉันจะทำอะไรได้เล่นกดดันกันทุกทางแบบนี้ฉันก็ต้องทำตามสิ
“สเนลล์แกะกุ้งไม่เป็นหรอเราสอนเอาไหม”
“ไม่เห็นถึงความจำเป็น”
“ก็จะได้ไม่ต้องลำบากคนอื่นไง”อิจฉาก็บอกเถอะแม่คุณ
ไม่มีอาเอิร์ธไปแกะให้กินล่ะสิ
“อาเอิร์ธลำบากป่ะ”ฉันหันไปถามคนที่แกะกุ้งให้อย่างไม่หยุดมือ
เจ้าตัวก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วตอบคำถามที่ฉันถามไป
“ก็ไม่”
“ชัดไหม”เงิบไปสิคุณ
เลิกเป็นห่วงฉันว่าจะไม่มีปัญญาแกะกุ้งกินเองสักทีเถอะ
ถ้าจะซื้อกินจะสั่งให้ร้านแกะมาให้เลยไม่เห็นจะมีอะไรยาก วุ่นวาย!
“เราก็แค่เป็นห่วง
ถ้าวันสักวันพี่เอิร์ธแต่งงานมีครอบครัวไปใครจะทำให้ก็เท่านั้น”
“ขอบใจนะที่ห่วง”ขอบใจนะที่เสือกกับชีวิตฉันขนาดนี้
ซาบซึ่งใจจริงๆ
“เอาล่ะๆ
อาว่าเราพอเรื่องกุ้งกันไว้เท่านี้ดีกว่านะ”คงเห็นว่าเรื่องนี้มันอาจจะเลยเถิดไปเป็นสงครามได้อาเก็ทก็เข้ามาห้ามศึกทันที
“นี่ๆรู้ไหมว่ากุ้งแท้ต้องตัวงอ”อยู่ดีๆเฮียเทปก็หยิบกุ้งขึ้นมาแล้วอธิบายรูปพรรณสัณฐานของมัน
อะไรของเฮียมันวะ...
“เพราะถ้าตัวมอมันจะกลายเป็นกุ้ม
ฮ่าๆ”ใครก็ได้เอาไอ้เฮียเทปไปเก็บที
ฉันล่ะอยากให้พวกปีหนึ่งมาได้ยินสิ่งที่มันพูดจริงๆ หมดกันพี่ว้ากแสนโหด
“กลุ้มเลยกู”หลังจากอาชินพูดออกมาแบบนั้นทั้งโต๊ะก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง
ทำให้บรรยากาศหม่นๆลดลงไปได้มากทีเดี๋ยว
เกร็ง เกร็ง เกร็ง!
เสียงเคาะแก้วจากอาเก็ทดังขึ้นก่อนที่ทุกคนจะเงยหน้าขึ้นไปมอง
“เอาละตอนนี้ก็ได้เวลาอันเหมาะสมที่จะมอบของขวัญให้คนเก่งของเราแล้ว”
“วันนี้วันเกิดใครหรอคะ?”วิวถามด้วยความสงสัย นี่นั่งกินมาขนาดนี้ยังไม่รู้อีกหรอว่าเขาจัดงานอะไรกัน
“ไม่มีวันเกิดใครครับ”
“อ้าว
ถ้าอย่างนั้นทำไมต้องมีให้ของขวัญล่ะคะ?”
“เพราะหลานคนเก่งของพวกเราแข่งกีฬาชนะแถมยังได้เป็นดาวมหาวิทยาลัยไงครับ”หลังจากที่อาเก็ทพูดจบวิวก็หน้าตึงไปทันทีก่อนจะรีบปรับสีหน้าใหม่แล้วแจกยิ้มให้ประชาชนเหมือนเดิม
“จริงสินะคะ
ยินดีด้วยนะสเนลล์”ตอ...
“ขอบใจ”
“เตี้ยอันนี้ของเฮีย”แล้วของขวัญชิ้นแรกที่ได้มาก็เป็นของเฮียเทป
ซึ่งพี่แกก็บังคับให้ฉันแกะเดี๋ยวนั้นเลย พอแกะออกมาก็ต้องตะลึง...
“อะไรของเฮียเนี่ย”
“นี่โง่ขนาดไม่รู้จักลูกบาสเลยหรอ”ก็รู้จักแหละ
แต่จะเอามาให้ทำไมวะ
“มีเต็มบ้าน!”นั่นแหละลูกบาสฉันมีอยู่เต็มบ้านจะซื้อมาให้เพิ่มทำบ้าอะไรก็ไม่รู้แต่ก็“ขอบคุณนะเฮีย”
“อันนี้ของอา”อาเก็ทหรอว่าแต่ให้อะไรวะ
รองเท้าหรอ...แต่มันเบาเกินไปหรือเปล่าวะ
“นาฬิกา! ขอบคุณค่ะอาเก็ท”ฉันได้นาฬิกาแบรนดังรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเข้าช็อปที่ไทย
แต่ว่าทำไมต้องใส่กล่องใหญ่ขนาดนี้วะไม่เข้าในเลย
“มาอาใส่ให้”ว่าจบก็ฉันนาฬิกากับแขนฉันไปใส่ให้
ซึ่งมันพอดีและเข้ากับฉันมาก ทำไมใจดีกันจังเลยนะ...
“มาของอาบ้าง”
“อาชินคงไม่ให้วิตามินหรอกใช่ไหมคะ”ก็วันเกิดเมื่อปีที่แล้วอาชินขนพวกวิตามันมาให้ฉันเป็นลัง
จนปัจจุบันก็ยังกินไม่หมดน่ะสิ นี่ขนาดเอาไปแบ่งเพื่อนกินแล้วนะเนี่ย
“จะเอาไหมล่ะจะเปลี่ยนให้”ฉันรีบส่ายหน้าอย่างไวก่อนจะรับกล่องของขวัญขนาดกลางมาไว้ในมือ
พอแกะออกมาน้ำตาแทบจะไหลออกจากเบ้าตา
“อาชินรู้ได้ยังไงว่าเนลล์อยากได้ตัวนี้”
“เก่ง”จ้ายอมจ้า มันเป็นเสื้อแจ๊คเก็ตสีน้ำเงินมีแขนสีขาวฉันก็เล็งๆไว้แต่มันแพงเกินไปเลยไม่กล้าขออาเอิร์ธเลยว่าจะเก็บเงินซื้อเอง
แต่วันนี้มันมาอยู่ในมือของฉันแล้ว
“ขอบคุณค่ะ”ว่าจบฉันก็หมุนตัวกลับไปหาอาเอิร์ธแล้วแบมือพร้อมขยับมือเป็นเชิงขอของขวัญ
ตื่นเต้นอาเอิร์ธจะให้อะไรฉันนะ นี่ตื่นเต้นขนาดลืมงอนอาเอิร์ธเลยนะเนี่ย
เดี๋ยวดูก่อนถ้าของขวัญถูกใจจะหายงอนเลย...ฮ่าๆ
“ไอ้งก”
“ไม่รู้ไม่ชี้”อาเอิร์ธส่ายหัวหน่อยๆก่อนที่จะยกมือที่กำอะไรไม่รู้มาไว้ตรงหน้าฉัน
ว่าแต่มันเล็กขนาดที่กำมือเดียวได้เลยหรอวะ
อย่าบอกนะว่าเป็นลูกอมอย่าที่ฉันคิดไว้ตอนนั้นจริงๆ
พรึบ!
หลังจากอาเอิร์ธปล่อยมือก็มีบางสิ่งบางอ่างห้องต่องแต่งลงมา
มันเป็นสร้อยที่มีจี้เล็กอยู่ด้วย ว่าแต่มันเป็นรูปอะไรวะ...
“หอยทาก?”สร้อยรูปหอยทางเนี่ยนะโคตรจะสร้างสรรค์
“ใช่นี่คือหอยทางส่วนวงกลมนี้คือโลก”
“ไม่เข้าใจ”
“โลกใบนี้มีแค่หอยทากเพียงแค่ตัวเดียว”โลกมันมีหอยทางเป็นล้านนะเผื่ออาเอิร์ธไม่รู้
แต่เดี๋ยวนะ! หอยทากเท่ากับสเนลล์นั่นคือฉัน
โลกเท่ากับเอิร์ธคืออาเอิร์ธ เฮ้อ...จะเป็นลม
“แน่ใจแล้วหรอคะ?”
“แน่ที่สุดในชีวิต”
“งั้นใส่ให้หน่อยได้ไหมคะ?”ว่าจบฉันก็หันหลังก้มหน้างุด
พร้อมกับสัมผัสเย็นเฉียบที่มาสัมผัสกับผิว ถ้าจะบอกว่าเขินนี่ผิดหรือเปล่าวะ
เขินอาตัวเองเนี่ยผิดไหมวะ
“อาขอโทษ”
“เนลล์ก็ขอโทษค่ะที่ทำนิสัยไม่ดี”สิ้นเสียงฉันก็พุ่งตัวเข้ากอดอาเอิร์ธแล้วโยกตัวไปมาเหมือนเด็ก
แต่ไม่นานก็มีเสียงมารดังขึ้นาขัดเสียก่อน
“ทั้งสองคนดูรักกันมากเลยนะคะ”
“กอดอยู่คนเดียว”อาเก็ทพูดยิ้มๆก่อนจะส่งสายตาน้อยใจมาให้
“โอ๋ๆ มาเนลล์กอดหน่อย”ฉันกางแขนออกทำท่าจะเข้าไปกอดอาเก็ทแต่อาเอิร์ธดึงไว้ก่อน
แล้วกอดฉันแน่นเลย
“มึงอย่ามาขี้หวงนะไอ้เอิร์ธปล่อยหลานมาหากู!”เอาอีกแล้วตีกันอีกแล้ว
ไว้เดี๋ยวเนลล์แยกร่างไปหานะคะอาเก็ท
“เรื่องสิ กูจะกอดคนเดียว”
“ทั้งสองคนนี้อยู่ด้วยกันมานานแล้ว
ถึงจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็รักและดูแลกันอย่างดี
ครั้งก่อนสเนลล์หนีออกจากบ้านเฮียเอิร์ธมันครั่งแทบตาย”เฮียเทปหันไปคุยกับวิวที่พูกขึ้นก่อนหน้านี้
แต่จำเป็นต้องเล่าหมดไหมละเฮีย
“อ้าว ไม่ใช่อาหลานกันจริงๆหรอคะ?”วิวเหลือบตามามองฉันนิดหน่อย
แววตาเป็นประกายบางอย่างที่ฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าออกมาจากยัยนี่
“ตามนั้น”หลังจากนั้นเราก็นั่งกินนั่งเล่นกันต่อสักพักก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน
ส่วนฉันก็ไปอาบน้ำเตรียมเข้านอนแล้วเหมือนกัน เพราะพรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“มีอะไร?”ฉันเอ่ยปากถามทันทีเมื่อเปิดประตูออกมาเจอว่าเป็นวิวที่มาเคาะประตู
“คุยด้วยหน่อยสิ”ว่าจบนางก็เดินชนฉันเข้ามาในห้องแถมยังไปนั่งบนเตียงฉันอย่างถือวิสาสะอีกต่างหาก
สะคำเป็นไหมคำว่ามารยาทน่ะ หรือสะกดเป็นแค่คำว่ามารยา...
“มีอะไรก็รีบพูดมาจะนอน”วิวยักไหล่เบาๆก่อนจะอ้าปากพูด
“ก็นะพอได้รู้ว่าเธอไม่ใช่หลานพี่เอิร์ธแท้ๆเลยคิดได้ว่าเธอมันก็แค่...กาฝาก”
“เธอมันก็กาฝากเหมือนกันไม่ใช่หรือไง
เร่ร่อนมาอยู่บ้านคนอื่นแบบนี้น่ะ”
“เหอะ! พ่อฉันทำธุรกิจร่วมกับพี่เอิร์ธเธอก็น่าจะรู้ สักวันฉันกับพี่เอิร์ธอาจจะได้แต่งงานกันเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจ”ไม่ทราบว่าดูละครน้ำเน่ามากเกินไปหรือเปล่าคะ ถึงคิดว่าเธอจะได้แต่งงานกันทางธุรกิจแล้วนางเอกอย่างฉันก็ต้องเสียใจเพราะไม่มีอะไรสู้ได้เลยสักอย่าง
...เหอะ!
“หึ
ฉันมันก็แค่กาฝากสินะจะไปสู้ลูกสาวนักธุกิจชื่อดังได้ยังไง”
“รู้ตัวก็ดี
หัวเจียมกะลาหัวไว้บ้างเหมื่อไหร่ที่ฉันได้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้คนแรกที่ฉันจะเฉดหัวทิ้งคือเธอ”พูดจบแล้วก็เดินออกไปทิ้งฉันนั่งน้ำตาซึมอยู่ในห้องคนเดียว...
คิดว่าฉันจะเป็นอย่างนั้นหรือไง
มันก็จริงนั่นแหละที่วิวบอกว่าฉันเป็นกาฝากเพราะฉันก็เป็นภาระให้อาเอิร์ธมาตั้งนานแล้ว แต่ก็นะอาเอิร์ธเคยบอกแล้วนี่ว่าฉันไม่ใช่ภาระเพราะฉะนั้นคนเดียวที่ฉันจะเชื่อคืออาเอิร์ธ ถ้าวันไหนอาเอิร์ธบอกว่าฉันเป็นภาระฉันจะไปเอง...เหมือนตอนนั้น
เช้าวันต่อมา
“สายนะมึง”เสียงปืนกลดั่งขึ้นมาทันทีที่ฉันก้าวขาข้ามาในห้องเรียน
รอให้ถึงวันที่มึงมาสายบ้างเถอะกูจะสวดให้ยับเลย
“เออเนลล์ไอ้เซนมันชวนไปกินเหล้าคืนนี้อ่ะไปไหม”
“ไป!”ตอบได้อย่างไม่คิดเลยล่ะ ก็นานๆทีจะได้ไปนี่นา...
“เรื่องอย่างนี้ล่ะไวนักนะมึง”ฉันยู่ปากใส่เนตั้นก็ที่มันถามมันก็อยากให้ฉันไปไหมล่ะ
ทำมาเป็นว่าฉันหาคนหารค่าเหล้าอยู่ก็บอกเถอะ!
“ปิ่นกับกี้ไปป่ะ”ฉันไม่สนใจเนตั้นแต่หันไปถามเพื่อนอีกสองคนทันที
“ไปสิคะชะนีเรื่องแบบนี้ไม่มีพลาดหรอก”เออยอมมันเลย
หนึ่งอาทิตย์มีเจ็ดวันมันก็ไปแล้วห้าวัน ไม่สงสารตับบ้างหรือไงแม่คุณ
“เออเนลล์มึงเห็นรูปในเพจยังที่มึงนั่งกินเตี๋ยวกับอามึงอ่ะ”
“เห็นแล้วๆมีอะไรหรือเปล่าปิ่น”
“ก็เนี่ยคนเขาหาประวัตกันใหญ่เลยเพราะคิดว่าอามึงกับมึงเป็นแฟนกัน”คนเราก็นะ
ดูจะว่ากันมากเหลือเกิน มีอะไรเป็นประเด็นหน่อยก็รีบคุ้ยหาข้อมูลส่วนบุคคลทันที
ลาออกไปเป็นนักสืบเถอะไม่ต้องเรียนแล้วล่ะฉันว่า
“แล้วเป็นไงเจอไหม”
“เพียบ! กูยอมใจชาวเน็ตเลยรู้ลึกรู้จริง
เออ แล้วเขาก็เข้าไปค้นรูปในไอจีมึงด้วยมั้งแล้วก็มโนกันไปใหญ่เลย”
“หาขนาดนั้นไม่รู้หรอว่าเป็นอาหลานกัน”
“รู้
แต่ไปสืบอีท่าไหนไม่รู้ดันรู้ว่าไม่ใช่อาหลานกันแท้ๆ เห็นเขาให้เครดิตคนข้างบ้านหรืออะไรนี่แหละ”ไอ้เฮียเทป
ไม่พ้นพี่มันแน่ๆมีอยู่คนเดียวนั่นแหละที่ชอบบอกคนอื่นว่าฉันกับอาเอิร์ธไม่ใช่อาหลานกันจริงๆ
เมื่อวานก็บอกยัยวิวไปอีกคน ไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไร
“ตรงนั้นจะคุยกันอีกนานไหม!”ระหว่าที่พวกเราคุยกันอยู่
อาจารย์ประจำวิชาที่ยืนเช็คชื่ออยุ่หน้าห้องก็ตะโกนผ่านไมค์ขึ้นมา
แต่อาจารย์คะไมค์มันดังอยู่แล้วไม่ต้องตะโกนก็ได้ค่ะ
“ขอโทษค่ะ”
“ถ้าได้ยินเสียงอีกรอบฉันจะไล่ออกนอกห้อง”พออาจารย์แกพูดมาแบบนั้นพวกฉันก็ไม่มีใครปริปากพูดไรอีก
และระหว่างรออาจารย์เช็คชื่อฉันก็หยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะกดเช้าโปรแกรมสีเขียวยอดนิยม
เลื่อนหารายชื่อที่ต้องการแล้วกดเข้าแชททันที
Snail’ll :
อาเอิร์ธคืนนี้เนลล์ไปกนเหล้ากับเพื่อนนะ
Earth : อย่ากลับดึก
Snail’ll : เนลล์ว่าจะค้าห้องปิ่นอ่ะ
Earth :
ทำไมต้องค้าง?
Snail’ll : กลัวเมาแล้วขับรถไม่ไหว
Earth :
โทรมาเดี๋ยวอาไปรับเอง
Earth :
ห้ามดื้อ ห้ามเถียง อาจะไปรับ จะกลับเมื่อไหร่ก็โทรมา
Earth :
เข้าใจที่พูดไหม?
“เอาล่ะเอาชีทบทที่ห้าขึ้นมา...”หลังจากนั้นอาจารย์ก็พ่นเนื้อหาในบทเรียนออกมาไม่หยุด
จดจนมือหงิกก็ต้องจดต่อไปค่ะ จดไปเรื่อยๆจนกว่าอาจารย์จะหยุดพูดนั่นแหละ
อาจารย์สอนมาถึงเวลาเที่ยงตรงแล้วก็ปล่อยพวกเราให้ไปหาอะไรกิน
เรียนเต็มชั่วโมงจริงๆไม่ขาดตกบกพร่องไปแม้แต่วินาทีเดียว
“อาจารย์บัวศรีจัดเต็มจริงว่ะ
ตั้งแต่เรียนมายังไม่เคยเห็นแกปล่อยก่อนเวลาเรียนเลย”เนตั้นบ่นกระปอดกระแปดยามที่เราเดินไปที่โรงอาหารคณะ
ใจจริงอยากจะไปโรงอาหารกลางแต่กลัวไม่ทันเข้าเรียนภาคปฏิบัติในตอนบ่ายน่ะสิ
“เออจริงเรียนจนกูจะอ้วกแล้วเนี่ย”ไอ้ปืนก็อีกคน
แต่ปิ่นกับกี้มันไม่บ่นหรอกมันหลับต้องแต่ชั่วโมงแรกแล้ว
เห็นว่าเมื่อคืนพากันกลับเกือบเช้าเลยมาหลับเอาในห้อง
“เออแล้วเย็นนี้ต้องเข้ารับน้องไหมเนี่ย”ฉันถามเพราะปกติก็เข้ากันตลอด
แต่ตั้งแต่มีกิจกรรมก็ยังไม่ได้เข้าเลยไม่รู้อะไรกับเขาเลย
“ไม่เข้าๆรุ่นพี่นัดวันศุกร์ให้เข้ารับน้องวันสุดท้ายแล้ววันเสาร์ให้ไปรับน้องที่ทะเล”ปิ่นเป็นคนตอบเพราะเรื่องพวกวิชาการอย่าได้พึ่งไอ้สองหน่อหน้าหล่อนี่เลย
มันไม่รู้เรื่องกันสักอย่าง
“ต้องไปเตรียมชุดว่ายน้ำแล้วมั้งเนี่ย”
“เสียใจค่ะชะนีพี่เขาห้ามเด็ดขาดเพราะเราไปรับน้องไม่ได้ไปเที่ยว”
“ลำไย!”ฉันบอกก่อนที่พวกเราจะพากันไปนั่งที่โต๊ะว่าแล้วแยกย้ายกันไปซื้อข้าวกินโดยมีฉันนั่งเฝ้าโต๊ะไว้แล้วฝากพวกมันซื้อแทน
แต่ระหว่างที่นั่งรอเสียงคุย เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น เมื่อฉันหันไปมองที่ประตูทางเข้าดรงอาหารก็เห็นรุ่นพี่ใส่เสื้อช็อปกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาเป็นผู้ชายสามคนผู้หญิงอีกหนึ่งคน ออร่ารอบๆตัวโคตรไม่น่าเข้าใกล้ ดูอันตรายยังไงก็ไม่รู้ แม้แต่พี่ผู้หญิงยังดูน่ากลัวยังไงชอบกล แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าพวกพี่เขาหน้าตาดีโคตร!
หล่อสวยกันวัวตายความวิ่งชนเสา!
“เขาเสียงดังอะไรกันวะ”ปิ่นที่ถือจานเข้ามาสองจานถามขึ้นก่อนจะนั่งลงแล้วส่งจานข้าวมาให้ฉัน
“กรี๊ดพวกรุ่นพี่นั่นแหละอย่าสนใจเลย”
“เออๆ
แล้วนี่จะไปค้างห้องกูอยู่ป่ะเนลล์”
“คงไม่อ่ะ
อาเอิร์ธจะไปรับเองไม่ให้ค้าง”
“โครตจะหวงมึงอ่ะ
กูว่าเขาคิดกับมึงเกินหลานแน่ๆเนลล์”เอาอีกแล้ว พูดเรื่องนี้กันอีกแล้ว แต่จะว่าไปช่วงหลังๆมานี่อาเอิร์ธก็แปลกๆไปจริงๆนั่นแหละ
จำได้ใช่ไหมที่ฉันบอกว่าอาเอิร์ธทำเหมือนจะจีบฉันอยู่อ่ะ
แล้วฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเอนเอียงไปตามเขาแล้วด้วย
“แต่กูกับเขาเป็นอาเป็นหลานกันมึง”
“แต่มึงก็ไม่ได้เป็นอาหลานกันจริงๆนี่หว่า
มึงลองมองเขาแบบอื่นดูสิ
มองว่าเขาเป็นผู้ชายคนนึงที่ไม่ชาอาที่เลี้ยงมึงมาแต่มองว่าเขาเป็นผู้ชายคนนึงที่คอยดูแลมึงอ่ะ”
“ปืน...”
“มึงลองทำตามที่กูพูดแล้วมึงก็ตอบคำถามตัวเองดูว่ามึงอยากจะเป็นแค่หลานหรืออยากจะเป็นอย่างอื่น”
“แล้วถ้า...ถ้ามันอยากเป็นอย่างอื่นขึ้นมาจะให้กูทำยังไง”ใช่ถ้าเกิดหลงรักอาตัวเองขึ้นมาจะทำยังไง
แล้วถ้าเกิดเขาไม่ต้องการให้ฉันเป็นอย่างอื่นนอกจากหลานฉันจะทำยังไงล่ะ
“มึงต้องลองดู”ปืนพูดแค่นั้นก่อนทุกคนจะลงมือกินข้าวต่อ
และคำพูดของปืนก็ทำให้ฉันเรียนภาคปฏิบัติแทบจะไม่รู้เรื่อง
ฉันควรทำตามที่ปืนบอกไหมวะ...
ฉันเปิดประตูห้องปฏิบัติการแล้วออกมาคนสุดท้ายของกลุ่ม
พออกมาก็เจอเพื่อนตัวดีทั้งหลายนั่งรอกันอยู่ก่อนแล้ว
จากนั้นเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านแล้วไปเจอกันที่ร้านตอนสองทุ่ม
พอฉันถึงบ้านก็เจอวิวนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกอยู่ก่อนแล้วแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วพาตัวเองเดินขึ้นห้องนอนไป
20.00 น.
ร้าน ช็อตต่อช็อต
ตอนนี้ฉันก็มาอยู่ที่ร้านช็อตต่อช็อตซึ่งเป็นที่นิยมของนักศึกษาเพราะราคาไม่แพงมากถ้ามาเป็นกลุ่ม
แต่ถ้ามาคนเดียวก็แพงใช่ย่อย อ้อแล้วก็มีอีกที่นึงชื่อร้าน LB2M ซึ่งอยู่อีกฝั่งของมหาลัย
ร้านนั้นนเป็นศูนย์กลางของนักศึกษาหลายๆสถานศึกษาและก็รวมถึงผู้คนวัยทำงานก็มักจะไปที่นั่นกัน
แต่ที่เลือกร้านนี้เพราะเข้าง่ายกว่าร้านนู้นมาก...
“เนลล์ทางนี้!”แม็กกี้โบกมือเรียกฉันอยู่ที่โซนวีไอพีชั้นสอง
ทุกคนมากันหมดแล้วและฉันเป็นคนที่มาถึงคนสุดท้าย นัดสองทุ่มแต่พวกมันมาก่อนเวลาน่ะ
“มากันนานยัง”
“สิบกว่านาทีได้”
ไม่ค่อยจะรีบกันเท่าไหร่เลยนะพวกมึง! ฉันมองไปรอบๆร้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับฉัน
แล้วสายตาฉันก็ไปปะทะเข้ากับร่างบางขงคนที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกันกำลังเต้นอยู่กับเพื่อนๆอยู่ข้างล่าง
แล้วประโยคที่ได้ยินพี่แชมเปญพูดก็ลอยเข้าหูทันที
ทำเป็นเต้นไม่เป็นวันนั้นกูยังเห็นเลื้อยอยู่ข้างๆผู้ชายอยู่เลย
ซึ่งมันก็จริงเพราะฉันเห็นวิวเต้นอยู่กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ก่อนที่ฉันจะออกมาวิวมันยังอยู่ที่บ้านไม่ใช่หรอวะ สงสัยวันนี้อาเอิร์ธกลับดึกก็เลยได้โอกาสออกมาปลดปล่อยล่ะมั้ง
ช่างเขาเถอะ
“เป็นไงบ้างวะเซนไม่ค่อยได้เจอเลย”
“มึงคงไม่ได้เจออีกพักใหญ่อ่ะเรียนหนัก”คนชวนมาว่าก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมากอีก
“เออนี่ได้ข่าวว่าดาวอักษรคุยๆอยู่กับรุ่นพี่ปีสี่ของสถาปัตย์นี่”
“ข่าวเยอะจริงนะกี้
มึงลาออกไปเป็นนักข่าวเถอะ”เนตั้นแขวะทันที
แต่ก็จริงของมันข่าวใหม่ๆที่เรารู้ก็มาจากกี้เป็นส่วนใหญ่
“เดี๋ยวกูตบปากแตก
ที่เล่าไม่ใช่อะไรเห็นว่านางอยู่บ้านเดียวกับสเนลล์นี่”
“จริงหรอมึง?”ปืนถามขึ้น
แล้วทุกคนก็ส่งสายตามาถามซ้ำอีก
“อือ”
“ก็ว่าทำไมวันแข่งรอบชิงมึงกับวิวถึงดูขัดแข้งขัดขากันแปลกๆ”
“ตั้งแต่ที่กองแล้วตั้น
จำที่เคยบอกได้ไหมว่ามีสายตามองแปลกๆอ่ะ”
“วิวหรอ?”
“เออสิ”
หลังจากนั้นเราก็ฟังกี้เล่านั่นเล่านี้ให้ฟังเป็นความรู้ใหม่จะได้ไม่ตกเทรน
และที่ฉันรู้เพิ่มาก็คือคนที่วิวไปยุ่งด้วยชื่อวาฬและที่เด็ดกว่านั้นคือพี่แกมีแฟนอยู่แล้ว
ชั่วสมกันจริงๆ สักวันเถอะจะโดนแฟนเขามาแหกอกเอา
เวลาล่วงเลยมาจนถึงเที่ยงคืนฉันก็โทรให้อาเอิร์ธมารับกลับ
เพราะตอนนี้ฉันหลงเหลือสติไม่มากเท่าไหร่ ดื่นเหล้าต่างน้ำเลยก็ว่าได้
ยังดีนะที่พรุ่งนี้มีเรียนตอนบ่ายไม่อย่างนั้นตายแน่ๆฉัน
“เนลล์”
“หือ อาเอิร์ธหรอ?”ฉันพยายามมองคนตรงหน้า
พอภาพชัดก็เห็นเป็นอาเอิร์ธทันที
“ใช่ ส่วนนี่เดี๋ยวพี่เลี้ยงเองกลับบ้านกันดีๆล่ะ”อาเอิร์ธหันไปคุยกับเพื่อนๆฉันก่อนจะวางเงินค่าเหล้าไว้ให้
ในที่นี้ฉันดื่มหนักสุดแล้ว
เพราะคิดถึงเรื่องที่ปืนมันบอกเมื่อตอนเที่ยงแล้วแม่งเครียด
“อาเอิร์ธเนลล์มึน”ฉันบอกเมื่อเข้ามานั่งในรถเรียบร้อยแล้ว
“ดื่มเยอะอะไรขนาดนั้น”
“ก็อยากกินนี่”
“วันหลังอย่าดื่มเยอะขนาดนี้รู้ไหมมันอันตราย ถ้ามีคนฉุดไปจะทำยังไง”จากนั้นก็โนบ่นไปชุดใหญ่เลยล่ะ พอบ่นจนพอใจอาเอิร์ธก็ขับรถกลับบ้านทันที แต่ฉันน่ะไม่ไหวแล้ว
...ง่วงแล้วล่ะ
09.15น.
ฉันตื่นมาอีกทีตอนเก้าโมงกว่า
อาการปวดหัวก็แทรกเข้ามาทันที เมื่อคืนดื่มไปเยอะมากก็ไม่แปลกที่จะแฮงค์อ่ะนะ
เอาล่ะไปอาบน้ำอาบท่าดีกว่าฉัน
“รับข้าวเลยไหมคะคุณหนู”ทันทีที่ก้าวขามาถึงบันไดขั้นสุดท้ายป้ายสายใจก็ถามขึ้นทันที
คนอื่นคงไปทำงานทำการกันหมดแล้วมั้งบ้านเงียบขนาดนี้
“รับเลยค่ะป้าสายเนลล์หิวมาก”
“ไปนั่งรอเลยค่ะเดี๋ยวป้าไปเตรียมมาให้”ฉันรับคำแต่โดยดี
พาตัวเองไปนั่งที่ประจำก่อนจะมองไปรอบๆ แล้วก็เจอกับพี่เจนที่เดินเข้ามาหา
“มีอะไรหือเปล่าคะพี่เจน”
“เมื่อคืนพี่เห็นคุณวิวเข้าไปหาคุณเอิร์ธที่ห้องค่ะ”
เข้าไปทำอะไรวะ
“แล้วตอนนั้นอาเอิร์ธอยู่หรือเปล่าคะ”
“เมื่อคืนคุณเอิร์ธอยู่ที่ห้องคุณหนูค่ะเพิ่งกลับห้องตัวเองเมื่อเช้านี้”
“แล้ววิวกลับห้องตัวเองตอนไหนคะ”
“เมื่อเช้าค่ะ”ฉันขมวดคิ้วมุ่น
หรือว่าเมื่อคืนจะเมาจนไม่มีสติเลยเข้าห้องคนอื่นโดยพละการ
แต่ฉันเห็นว่าวิวกลับตั้งแต่สี่ทุ่มกว่าแล้วนะเว้ย เข้าไปทำอะไรที่ห้องอาเอิร์ธวะ
ไวกว่าความคิดสองขาฉันก็ก้าวขึ้นไปที่ห้องอาเอิร์ธทันที
พอเปิดเข้าไปก็เดินสำรวจทุกซอกทุกมุม
ถ้าวิวออกมาจากห้องตอนเช้าแสดงว่าก็ต้องได้เจอกับอาเอิร์ธในห้องแน่ๆ
แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกตินี่กว่าน่าจะแค่มาคุยกันเฉยๆมั้ง
“ไปไหนมาคะคุณหนู”
“เนลล์ลืมของน่ะคะป้าสาย”จบคำฉันก็ลงมือกินข้าวทันที
และวันนี้ทั้งวันฉันก็คิดแต่เรื่องของอาเอิร์ธกับวิว
ฉันอยากรู้ว่าสองคนนั้นมีอะไรกันแน่ หลังเรียนเสร็จฉันก็กลับบ้านทันที
และก็ไม่ได้แสดงอภินิหารอะไรใส่ใคร แค่คอยจับตาดูพฤติกรรมไปเรื่อยๆเท่านั้น
วิวยังคงใช้สายตาจิกกัดเหมือนเดิม ส่วนอาเอิร์ธก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมเช่นกัน
“เป็นอะไรทำไมเงียบๆ”อาเอิร์ธถามขึ้นมาขณะที่เราสามคนนั่งเล่นกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นหลังรออาหารมื้อเย็นย่อย
“เครียดเรื่องเรียนนิดหน่อยค่ะ”
“มีอะไรก็บอกอาเข้าใจไหม”ฉันไม่ตอบอะไรแค่พยักหน้ารับเท่านั้น
“สเนลล์วิศวะนี่เรียนยากไหมอ่ะ”อะไรทำให้เธอถามฉันแบบนั้นวะ
“ก็ยาก”
“ตอนม.ปลายเธอเรียนวิทย์คณิตใช่ไหม
เราเรียนสายศิลป์ภาษาแหละ”
“แล้วเรียนภาษอะไร?”อยากรู้จริงๆว่าอย่างเธอจะเรียนเอกภาษาอะไร
เท่าที่ฉันรู้ก็คือเรียนอักษรศาสตร์เท่านั้นแต่ไม่ได้สนใจอย่างอื่น
“เราเรียนเอกจีน นอกจากภาษาไทยกับอังกฤษก็มีภาษาจีนนี่แหละที่พูดได้”
จะอวดว่าตัวเองพูดได้หลายภาษาว่างั้น
“ก็ดีนี่ได้ตั้งสามภาษา”
“เราสอนให้เอาไหมจะได้พูดภาษาจีนได้”ถ้าเป็นกับคนอื่นฉันก็คงจะเรียนแต่กับเธอฉันขอผ่าน
ขอโง่ตายเป็นบัวใต้ตมดีกว่าถ้าเธอเป็นคนสอน
“สเนลล์ หนีห่าวมา?”(สเนลล์สบายดีไหม?) เสียงผู้ชายที่ดัดเป็นหญิงเล็กน้อยดังขึ้นที่หน้าประตูก่อนที่จะปรากฎร่างของชายผอม
ตัวเล็กน่ารักขึ้น พี่เรนนี่ ชายหน้าสวยหัวใจสาวคนข้าบ้านอีกคนของฉันเอง...
“เหินห่าว หนี่เนอะ?”(สบายดี แล้วพี่ล่ะ?)
“หวอเย่เหินห่าว”(พี่ก็สบายดี)
“มาทำไม?”อาเอิร์ธถามขึ้น
สองคนนี้น่ะชอบทะเลาะกันอยู่เรื่อยกัดกันไปกัดกันมาจนเกือบจะตีกันหัวแตกมาแล้ว
“ยุ่ง! พี่ซื้อขนมมาฝากด้วยแหละสเนลล์”พี่เรนนี่หันไปแยกเขี้ยวใส่อาเอิร์ธก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันพร้อมของฝากมากมายมหาศาล
“เซียซี่ย”(ขอบคุณค่ะ) ฉันรับขนมมาแล้วเอาวางไว้ที่โต๊ะกระจกข้างหน้า
พี่เรนนี่แกไปทำงานที่จีนเพิ่งกลับมา ไปได้สองปีแล้วล่ะมั้ง
มีกลับมาเยี่ยมบ้านบ้าง มากี่ทีก็มีขนมมาให้ฉันตลอด
“พูดภาษจีนได้ก็ไม่เห็นบอกกันเลยนะสเนลล์”
“ใครอ่ะ?”ก่อนที่ฉันจะได้ตอบพี่เรนนี่ก็ถามขึ้นมาก่อน
แล้วมองไปที่วิวไม่วางตา
“สวัสดีค่ะหนูชื่อวิวเป็นผู้อาศัยชั่วคราวค่ะ”
“อ๋อ นึกว่าเมียไอ้เอิร์ธ”
“บะ บ้าหรอคะ”
บ้าหรอคะ
แหวะ!
ใจจริงก็อยากจะเป็นอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง
“นั่นสิ
นี่ๆตัวจริงของมันนั่งอยู่นี่”ว่าจบก็หันมาดึงแก้มฉันจนเกือบจะยาน
พี่เรนนี่ก็เป็นอีกคนที่ชอบชงฉันกับอาเอิร์ธอยู่เรื่อยเลย
แถมยังชอบบอกให้ฉันทำอย่างนั้นอย่างนี้อยู่เรื่อยเลย
“เอ่อ...ว่าแต่ยังไม่ได้บอกเราเลยนะว่าพูดภาษาจีนได้อ่ะ
เราว่าจะสอนสักหน่อย”
“โอ๊ย
ไม่ต้องไปสอนมันหรอกพูดคล่องยิ่งกว่าเจ้าของภาษายิ่งตอนด่านี่ไม่ต้องพูดถึง”
“ดีจังพูดได้สามภาษาเหมือนกันเลยอ่ะ”
“สามที่ไหนแกพูดได้ห้าภาษาไม่ใช่
เอ๊ะหรือว่าฉันจำผิด แต่ไม่นะก็มีไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีป่ะ”
แล้วพี่แกกับนับนิ้วนั่งทะเลาะกับตัวเองอยู่
และมันก็ใช่แหละฉันพูดทั้งทั้งหมดที่พี่เรนนี่นับมา
เพราะตั้งแต่อยู่กับพ่อแม่ฉันย้ายโรงเรียนปีละประเทศเพราะธุรกิจ ตอนแรกท่าก็จะให้อยู่ไทยแต่เป็นห่วงเลยพาฉันไปด้วยเลยได้ภาษามาเป็นผลพลอยได้น่ะ
“ล่าสุดแอบไปเรียนภาษาสเปนนี่”
“อาเอิร์ธรู้ได้ไง?”ฉันถามกลับเพราะว่าฉันแอบไปเรียนจริงๆนั่นแหละ
เป็นครอสรวบรัดให้พูดได้เลย แต่นี้ก็พูดได้ระดับหนึ่งแล้ว นอกจากฉันจะชอบการเรียนของแผนวิทย์คณิตแล้วฉันก็ยังชอบพวกภาษาด้วยเลยหาความรู้เพิ่มเอา
“มีอะไรที่อาไม่รู้บ้าง”
“เรียกง่ายๆว่าเสือกนั่นเอง”
“ไอ้ห่าเรน!!”แล้วพี่เรนนี่ก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่อาเอิร์ธจนรายนั้นหัวร้อยไปตามๆกัน
“เก่งจังเลยเนอะพูดได้ตั้งหลายภาษา
อยากพูดได้เยอะๆบ้างจัง”
“ก็ฝึกสิ”ฉันแนะนำ
เพราะถ้าเราฝึกเราทำได้ทุกอย่างนั่นแหละกว่าฉันจะได้ขนาดนี้ก็แทบตายเหมือนกัน
“แล้วนี่จะอยู่กี่วันวะเรน”
“น่าจะสักสองสามเดือนอ่ะ”
หลังจากนั้นเราก็คุยกันเรื่อยเปื่อยจนพี่เรนนี่ขอตัวกลับบ้านนั่นแหละถึงได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน
ส่วนฉันก็ยังคอยจับผิดสองคนนั้นอยู่ตลอดแต่ก็ไม่เจออะไรจริงๆ แต่กระนั้นตอนที่ฉันเปิดประตูเชื่อมห้องของฉันกับอาเอิร์ธออกก็เจอสองคนนั้นนอนกอดกันอยู่บนเตียง
ดีหน่อยที่ฉันไม่ได้เปิดประตูออกกว้างมากเลยไม่ทันที่สองคนนั้นจะเห็น
“เธอมาอยู่นี่ได้ไงวะ!”อาเอิร์ธที่เหมือนจะตื่นแล้วก็ลุกกขึ้นจากเตียงทันที
เหมือนฉันจะได้ดูอะไรสนุกๆเลยวะ
“ฮึก! ทำไมถามแบบนี้ล่ะคะเมื่อกี้ยังกอดวิวอยู่เลยนะคะ”ดึงดรามาวนไปค่ะ
“เพราะเธอไม่ใช่เสนลล์”
“แล้วทำไมต้องเป็นสเนลล์คะ”เอ้า
ถามแบบนี้คือกวนตีนหรือโง่จริงวะ
“เพราะห้องนี้ไม่มีใครเข้าได้นอกจากสเนลล์
และฉันก็ล็อกห้องทุกครั้ง นี่มันครั้งที่สองแล้วนะที่เธอแบบเข้าห้องฉัน
ถ้ายังทำแบบนี้อีกฉันจะไล่เธอกลับบ้านเธอซะ”
“พี่อยากให้ธุรกิจมีปัญหาหรอคะ”ถามเสียงใส
แต่ในประโยคนั้นถ้าฟังดีๆมันก็คือคำขู่ชนิดหนึ่ง
“ถ้าเธอยังทำบ้าๆแบบนี้อยู่ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้น”
ความคิดเห็น