คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Grow Up : 8
8
#When You Grow Up
หลังจากที่ฉันเปิดประตูไปเจออาเอิร์ธกับวิววันนั้นฉันก็ตัดสินใจทำตามที่ปืนกลแนะนำทันที
และผลที่ตามมามันก็ออกมาโอเคคือ...
หนึ่ง
ฉันรู้ตัวเองว่าไม่ได้คิดกับอาเอิร์ธแค่อา
สอง
ฉันมั่นใจว่าอาเอิร์ธก็คิดเหมือนกัน
และที่แปลกไปคือฉันว่าวิวมันดูสงบเสียงขึ้นยังไงชอบกล
แต่การจิกกัดก็มีบ้างเล็กน้อย มันเหมือนทะเลที่สงบก่อนที่พายุจะเข้า
“คิดอะไรอยู่?”
“นิดหน่อย”ฉันตอบปิ่นเกล้าก่อนจะตักเค้กเข้าปาก
วันนี้เรามากันแค่สองคนไอ้กี้มันกลับบ้านไปทำอะไรสักอย่างนี้แหละ
“แล้วเป็นไงบ้างล่ะทำตามที่ปืนมันบอกแล้วชีวิตดีขึ้นไหม?”
“ก็ดี”
“กูอยากจะแหมให้ไปกระแทกหน้ามึงจริงๆ
แต่ก่อนนะไม่ได้คิดอะไรๆ ดูตอนนี้สิดี๊ด๊าฉิบหาย!”ฉันยู่ปากใส่ปิ่นก่อนเอากล่องทิชชู่ไปเคาะหัวมันทีนึงด้วยความหมั่นไส้
“อยากเสือกก็ตามไปเงียบๆได้ไหมล่ะ”
“ตามเงียบๆมันไม่ได้ใจ ฮ่าๆ”
“เออนี่ได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับวิวบ้างไหม?”
“ก็ไม่นะเรื่อยๆเหมือนเดิมอ่ะ
มันทำอะไรหรอ?”ฉันส่ายหัวก่อนจะนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้วิวก็เข้ามาอยู่ที่บ้านได้หนึ่งเดือนแล้วและมีเวลาเหลือให้ยัยนั่นอีกสองเดือน
ไม่รู้จะแผลงฤทธิ์อะไรหรือเปล่า
“วันนี้ไม่ได้เอารถมาใช่ไหมเดี๋ยวกูไปส่ง”
“ขอบใจมาก”จากนั้นฉันก็ไปส่งปิ่นก่อนจะกลับบ้าน
พอเดินเข้าบ้านก็ไม่มีอะไรผิดปกติก็เลยเดินขึ้นห้องไป
สิ่งแรกที่เห็นคือความผิดปกติของตู้รองเท้าสุดรักสุดหวงของฉัน
มันแง้มไว้
ฉันจำได้ว่าฉันปิดสนิทแน่นอน
แล้วทำไมตอนนี้มันแง้มไว้ล่ะ หรือว่าแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาแล้วเปิดดู
สองขาของฉันก้าวไปที่ตู้รองเท้าอย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดดู
แล้วสิ่งทที่เห็นก็ทำให้ฉันเกิดเลืดขึ้นหน้าทันที
ใครมันมาตัดรองเท้าฉันแบบนี้!!
สิ่งแรกที่ฉันทำเลยคือเดินไปดูเทปบันทึกกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ในบ้าน
เท่านั้นแหละรู้เลยว่าใครเป็นคนทำ...ยัยวิว
ฉันระงับความโกรธของตัวเองสุดฤทธ์
ฉันจะไม่พาตัวเองไปตบมันให้อาเอิร์ธปวดหัวอีก ไหรจะธุรกิจที่ทำกับพ่อของมันอีกล่ะ
ถ้ามันเกิดไปบอกพ่อมันให้ยกเลิงงานไปนี่เสียหายหลายล้านแน่
ฉันไม่อยากให้งานอาเอิร์ธต้องมาพังเพราะฉัน...
กูว่าแล้วทำไมมันเงียบนัก!!!
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
หลังจากวันนั้นมันก็หาเรื่องมาแกล้งฉันสารพัดโดยที่อาเอิร์ธไม่รู้
แกแหงสิฉันไม่ได้บอกนี่นา
แล้วก็ดีหน่อยที่อาทตย์นี้มันเป็นการสอบกลางภาคเลยต้องเร่งอ่านหนังสือ
แต่ก็ยังมีการแขวะบ้างเวลาที่เจอะกันอย่าเช่นวันนี้
“กาฝาก”
ใจเย็นสเนลล์คิดเสียว่าเป็นเสียงของกบของเขียดแถมนี้อย่าไปสนใจ
ค่อยๆเดินออกจากบ้านขึ้นรถซะ! พอบอกตัวเองอย่างนั้นฉันก็รีบเดินไปที่รถแล้วขับออกไปทันที
โว้ย...อยากจะบ้าตาย
พอมาถึงที่หมายฉันก็ลงจากรถแบกหนังสือที่เตรียมมาเข้าไปด้านในทันที
และที่ที่ฉันเลือกมานั่งอ่านหนังสือก็คือบริษัทอาเอิร์ธ
เพราะยัยนั่นไม่มีทางเสนอหน้าด้านๆมาที่นี่แน่ๆ
“อ้าว จะมาก็ไม่บอกอาก่อน”
“เซอร์ไพรซ์ไงคะ”ฉันวางอุปกรณ์ที่ใช้ในการอ่านหนังสือก่อนจะเข้าไปกอดอาเอิร์ธที่นั่งทำงานอยู่
“เริ่มสอบเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้คะ”ฉันว่าก่อนจะพาร่างตัวเองไปทิ้งลงบนโซฟาแล้วเริ่มการอ่านหนังสือ
“สอบเสร็จเดี๋ยวอาพาไปเที่ยว”ตาโตเลยสิฉัน
“ที่ไหนคะ”
“อยากไปที่ไหนล่ะ”
“ทะเล”
“พึ่งไปมาตอนรับน้องไม่ใช่หรอเรา”
“อันนั้นเขาเรียกว่าไปชดใช้กรรมค่ะไม่ได้ไปเที่ยว”ถึงจะไม่โหดเหมือนตอนรับที่มหาวิทยาลัยแต่มันก็โหดบรรลัยไม่ต่างกันค่ะบอกเลย
“โอเคงั้นไปทำเลยกัน เดี๋ยวชวนเก็ทกับชินไปด้วย”
“งั้นเนลล์ชวนเพื่อนไปด้วยได้ไหมคะ”
“เอาสิ ว่าแต่อยากไปที่ไหน”
“ภูเก็ตค่ะ”คอยดูนะฉันจะเที่ยวให้หนำใจเลย...
“นึกว่าอยากไปสเม็ด”ทำไมต้องอยากไปสเม็ดว่ะ
ไม่เอาอ่ะอยากไปภูเก็ตค่ะ อยากไปไกลๆฮ่าๆ
“ไม่เอาๆไปภูเก็ต”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไปภูเก็ตก็เสร็จได้” พูดไรวะ
บ่นอยู่คนเดียวใครมันจะไปรู้เรื่องด้วย
หลังจากที่ตกลงเรื่องเที่ยวเสร็จฉันก็ตั้งใจอ่านหนังสือต่อทันที ส่วนอาเอิร์ธก็ทำงานที่กองท่วมโต๊ะของเขาต่อไป พอตอนเที่ยงอาเอิร์ธก็พาฉันออกไปหาอะไรกินนิดหน่อยก่อนจะกลับมาอ่านหนังสือและทำงานต่อ พออ่านไปเรื่อยมันก็รู้สึกเบื่อ
พักหน่อยก็ได้วะ
“อาเอิร์ธ...”
“หืม”ตอมรับแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง
ไอ้ตัวหนังสือยึกยือมันมีอะไรน่าสนใจกว่าฉันวะหะ!
“นั่งด้วย”ไม่รอให้อาเอิร์ธอนุญาติฉันก็มุดใต้แขนแกร่งไปนั่งบนตักเขาทันที
แล้วฉันก็หันไปมองกองเอกสารที่ตั้งๆอยู่เหห็นแล้วสงสาร
จุ๊บ!
“เป็นอะไรหืม”อาเอิร์ธกดจูบลงมาที่ขมับฉันก่อนจะถามออกมา
“เนลล์ช่วยทำงานไหมมันดูเยอะๆยังไงไม่รู้”ว่าแล้วฉันก็เอามือไปจิ้มกองเอกสารเบาๆ
“อันนี้ของบริษัทอาส่วนอันนั้นของพ่อเรา”อื้อหือ
ทำงานของท้องสองบริษัทพร้อมกันเนี่ยนะ ต้องเก่งเบอร์ไหนวะเนี่ย
“เหนื่อยไหมคะ”
“เหนื่อยสิ แต่เห็นหน้าเราอาก็หายเหนื่อยแล้ว”
จุ๊บ!
“ไอ้ตัวแสบ”
“เดี๋ยวเรียนจบแล้วมาช่วยเนอะ”ฉันบอกก่อนจะหยิบเอกสารมาอ่าน
แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเอาไปวางไว้เหมือนเดิม นี่อาเอิร์ธต้องอ่านเอกสารพวกนี้ทุกวันเลยหรอวะ
“จะอยู่เฉยๆอาก็ไม่ว่าหรอกอาทำได้”
“ไม่เอาหรอกเนลล์จะมาช่วย
เนลล์จะเลี้ยงอาเอิร์ธเอง ฮ่าๆ”
“ให้มันจริงเถอะ”ว่าจบอาเอิร์ธก็วางปากกาแล้วบิดขี้เกียจนิดหน่อย ก่อนจะจับให้ฉันพลิกตัวให้นั่งหันหน้าเข้าหาเขา แล้วจะจ้องหน้าฉันทำไมเนี่ย
หรือว่ามีอะไรติด...
“อื้อ!”
แล้วก็ได้คำตอบว่าทำไมเขาถึงจ้องหน้าฉันอยู่นานขนาดนั้น
ริมฝีปากหนาขยับอย่างชำนาญก่อนจะบังคับให้ฉันเปิดปากเพื่อให้เขาได้เข้ามาสำรวจปากฉัน
พอเข้ามาได้สำเร็จก็เกี่ยวตวัดลิ้นเล็กของฉันอย่างช้ำนาญ
และก็จูบอยู่นานจนฉันหายใจแทบไม่ออก
“อื้อ อื้อ!”
ตุบ ตุบ!
ทั้งร้อง
ทันทุบประท้วงอาเอิร์ธก็ไม่ถอนจูบออกไปง่ายจนสุดท้ายก็ผละออกไป
แล้วก็เอาจมูกตัวเองมาถูจมูกฉันไปมา
“แฮ่กๆ นิสัยไม่ดี อื้อ!”พอเห็นว่าฉันอ้าปากพูดหน่อยก็กดริมฝีปากลงมาอีกครั้ง
ทำไมอาเอิร์ธชอบจูบนักนะ
เมื่อก่อนแค่จุ๊บเบาๆแล้วก็ผละออกแต่เดี๋ยวนี้ถ้าฉันไม่หอบเป็นหมาหอบแดดก็ไม่อมปล่อยให้ออกห่างเลย
“อืม”เสียงครางในลำคอขออาเอิร์ธทำให้สติของฉันกระเจิดกระเจิงไปหมด
แรงที่จะทรงตัวให้ตรงเหมือนเดิมก็แทบจะไม่มี หายใจก็ไม่ทันแล้วด้วย
“แฮ่กๆ”ทันทีที่อาเอิร์ธถอนจูบอกฉันก็ซบหน้าลงที่บ่าแกร่งทันที
มือข้างหนึ่งของอาเอิร์ธก็กอดเอวฉันไว้ไม่ให้ตกส่วนอีกมือก็ลูบที่แผ่นหลังเพื่อปลอบประโลม
“หึๆ”
“ไม่ต้องมาขำเลยนะ”ฮือ อาย
ใครเขาใช่ให้มาขำเวลานี้กันเล่าไม่มีไรตลกเลยสักนิด
“อาแค่ขอกำลังใจเอง”
“ถ้าปล่อยช้ากว่านี้เนลล์ขาดอากาศหายใจตายเลยนะ”ฉันเงยหน้ามามองไอ้คนที่นั่งยิ้มอยู่ก่อนแล้ว
ดูสบายดีเหลือเกินนะ ต่าจากฉันที่เปรี้ยเป็นผักต้มแล้วเนี่ย
“มาให้อากินเองทำไม”
“ปล่อยเลยเนลล์จะไปอ่านหนังสือแล้ว!”
จุ๊บ!
อาเอิร์ธกดจูบลงมาที่หน้าผากฉันเบาๆก่อนจะปล่อยให้ฉันไปอ่านหนังสือตามเดิม
ส่วนเขาก็กลับไปทำงานตามเดิม คิดผิดหรือคิดถูกวะเนี่ยที่มาอ่านหนังสือที่นี่น่ะ
ตกเย็นฉันกับอาเอิร์ธก็พากันกลับบ้าน
โดยรถฉันให้อาลมขับกลับส่วนฉันก็เนรเทศตัวเองไปนั่งรถอาเอิร์ธแทน พอมาถึงก็เห็นวิวนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกอยู่ก่อนแล้ว
คงสงสัยล่ะสิว่าทำไมฉันกลับมาพร้อมอาเอิร์ธ
“จะกินข้าวก่อนหรืออาบน้ำก่อน?”
“กินก่อนค่ะ”
“งั้นก็ไป”พอเห็นว่าฉันกับอาเอิร์ธเดินไปที่ห้องอาหารแล้ววิวก็ลุกขึ้นเดินตามมาติดๆ
“ทำไมพี่เอิร์ธกลับมาพร้อมสเนลล์ได้ล่ะคะ?”
“เนลล์ไปที่บริษัทมาน่ะ”
“ดีจังวันหลังวิวขอไปด้วยได้ไหมคะ?”เสนอหน้าขึ้นมาเชียวนะ จะตามไปทำไมนักหนาคนเขาอุตส่าห์เลี่ยงการปะทะแล้วแท้ๆ
“คงไม่ได้เพราะเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่นั่น”นกอีกแล้วจ้า
คราวนี้มาเป็นพญานกเลยด้วย
“แล้วทำไมสเนลล์ถึงไปได้ล่ะคะ?”เพราะสเนลล์สวยค่ะ ฮ่าๆ มีความอวยตัวเองไปอีก
เพราฉันทำอะไรไม่ได้เลยอยากจะด่าให้หน้าหงายแต่ก็เกรงใจกลัวอาเอิร์ธตกงาน
“ก็สเนลล์ไม่ใช่เธอ”
“พี่เอิร์ธ...”เสียงอ่อนเชียวค่ะ
เชื่อสึกว่าอีกสักพักน้ำตาก็จะมา แล้วก็ต้องกินข้าวกันทั้งน้ำตา ทั้งโต๊ะอึมครึ้มเพราะการพูดคุยก่อนหน้านี้
แต่...ไม่ใช่กับฉัน เพราะฉันสะใจมากถึงมากที่สุด ฮ่าๆ
“อาเอิร์ธตักหมูกระเทียมให้หน่อยเนลล์ตักไม่ถึง...”ป่าวหรอกฉันแสดง
แขนฉันออกจะยาวโต๊ะก็ไม่ได้กว้างจนเอื้อมไม่ถึง
แค่อยากอ่อนทำอะไรเองไม่ได้ตอนนี้อ่ะมีอะไรไหม
“หมูกินหมู”
พูดเบาๆก็สะเทือนถึงลำไส้ใหญ่
“แล้วอาเอิร์ธอยากกินหมูไหมล่ะ?”
“หมูไหน?”ถามกลับด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างนี้
แล้วฉันจะตอบอะไรได้นอกจาก
“หมูกระเทียม”
“แล้วหมูนี้ล่ะ?”ถามพร้อมยืดแขนมาดีดจมูกฉันเบาๆ
พูดอะไรก็ไม่รู้คนอยู่เต็มบ้านเห็นบ้างไหมเนี่ย อายเป็นนะ
ถึงยางอายมันจะเหลือน้อยแล้วก็เถอะ
“นี่คนไม่ใช่หมู”แล้วก็ยักคิ้วให้องสองทีเป็นของแถม
ฮ่าๆ ความกวนตีนนี้ท่านได้มาแต่ในวะคะสเนลล์ โครตกวน
“วิวอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะคะ”
“กินไปได้สองคำเองนะวิวเดี๋ยวก็หิวตอนดึกหรอก”เนี่ย ฉันเป็นห๊วงเป็นห่วง อยากให้นั่งกินข้าวด้วยกันก่อนจริงๆนะ
ชิ้วๆ
จริงจริ๊ง...
“เราอิ่มแล้ว”
ก็แล้วแต่ไม่ได้บังคับอะไรสักหน่อย...เนอะ
[วิว]
อีบ้า!
เมื่อไหร่แกจะออกไปให้พ้นหน้าฉันสักที!
“ฮัลโหลรินฉันมีเรื่องให้ช่วยหน่อย”
[ว่ามาสิ]
“คืออย่างนี้นะ...”หลังจากวางสายจากเพื่อนสนิทอีกคนฉันก็พาตัวเองเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายทันที คอยดูเถอะฉันจะทำให้พี่เอิร์ธเกลียดมันให้ได้
อีตัวมาร!
ฉันเคยเดินชนกับสเนลล์ครั้งหนึ่งที่มหาวิทยาลัยและฉันก็ไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็น
มันคงจำหน้าฉันไม่ได้เพราะตอนนั้นมันมือแล้วแต่ฉันเห็นหน้ามันชักเพราะไฟส่องไปถึงพอดี
แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกจนกระทั่งมันโผล่มาที่กองประกวดดาวเดือน
และมันก็ดึงความสนใจของทุกคนไปจนหมดทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ทุกคนสนใจแค่ฉัน
ไม่ว่ามันจะทำอะไรทุกคนก็คอยแต่จะชื่นชมมันตลอด ต่างจากฉันที่ทำอะไรก็ไม่มีใครสนใจ!
ยิ่งวันที่แข่งวอลเลบอลรอบชิงฉันเห็นผู้ชายสองคนเข้าไปหอมแก้มมันแล้วคิดว่าพี่เอิร์ธจะโกรธจนเลิกกับมัน
แต่มันก็ดันเป็นหลานต่างสายเลือดของเขาเสียงนี่
ตอนแข่งก็สะใจอยู่หรอกที่ตบบอลอักหน้ามันได้
แต่ใครจะไปคิดว่ามันจะเล่นคืนจนแขนฉันแทบหัก แล้วยังโดนเพื่อนในคณะเขม่นอีกต่างหาก!
ถ้าไม่มีมันทุกอย่างจะต้องเป็นของฉันทั้งพี่เอิร์ธ
ตำแน่งดาวมหาวิทยาลัย และชัยชนะทุกอย่างจะต้องเป็นของฉัน
อยากอยากจะกำจัดมันทิ้งจริงอีมารชีวิตตัวนี้น่ะ!
วันต่อมา
“เตรียมพร้อมหรือเปล่า”
“พร้อมแล้ววิวรอให้สัญญานอยู่ข้างล่างนะเดี๋ยววิจัดการเอง”
“ได้ ขอบใจมาก”
จากนั้นฉันก็รอเวลาที่อีนังสเนลล์มันจะออกจากตึกมา
พอมันเดินออกมาใกล้ถึงจุดฉันก็ส่งสัญญาณให้รินทันทีและ…
ซ่า!
น้ำสีดำสกปรกถูกทิ้งลงมาจากชั้นบนทำให้สเนลล์เลอะไปด้วยน้ำสีดำสกปรกนั่น
แต่คนที่โดนมันไม่ใช่สเนลล์แต่เป็นผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้!
ดวงดีเหลือเกินนะ!
[จบบันทึกวิว]
ซ่า!
“บ้าอะไรวะ!!!”ฉันมองพี่ผู้หญิงคนนึงที่ถูกน้ำสกปรกราดไปทั้งตัว
ดีนะที่เพื่อนฉันเรียกไว้ก่อนไม่อย่างนั้นคนที่โดนมันต้องเป็นฉันแน่ๆ แต่เอ๊ะ!
นั่นมันยัยวิวไม่ใช่หรอวะ ถึงจะเห็นแค่หลังในระยะไกลแต่ฉันจำได้!
“พี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ
เอาเสื้อหนูไปเช็ดหน้าก่อนนะ”ฉันว่าก่อนจะถอดเสื้อแขนยาวที่ใส่คลุมมาให้พี่คนสวยตรงหน้า
“ขอบใจ”เธอรับไปเช็ดหน้าเช็ดแขนก่อนจะเดินออกไปนอกตึกแล้วมองขึ้นไปด้านบน
และตรงระเบียงชั้นสามมันมีถังน้ำวางอยู่ จงใจชัดๆ
“เป็นไรวะข้าว”พี่เขาชื่อข้าวหรอ
ชื่อเพราะอ่ะสวยด้วย แต่นี่มันใช่พี่ที่เจอที่โรงอาหารตอนนั้นหรือเปล่านะ
“แม่ง! เดี๋ยวมึงเจอกู!”พี่เขาสบถออกมาก่อนที่จะหันหน้ามาทางฉัน คงไม่โดนตบหรอกใช่ไหมวะเนี่ย
“เดี๋ยวพี่ซื้อเสื้อมาคืนนะตัวเล็ก”
“ไม่เป็นไรค่ะไม่ต้องซื้อคืนก็ได้แค่นี้เอง”แต่พี่เขาสูงจังนะฉันว่าฉันสักสี่ห้าเซนต์ได้มั้งเนี่ย
“เดี๋ยวซื้อมาคืน”พูดจบพี่เขาก็เดินออกไปกับเพื่อนพี่เขาที่เข้ามาสมทบอีกสองคน
กลุ่มนั้นจริงๆด้วย คนทำมันจะรอดไหมวะเนี่ย พี่ข้าวดูเหมือนอยากจะฆ่าคนมาก
“กลับบ้านดีกว่า”สอบมาทั้งวัน
ฉันนี่โคตรล้าเลย เป็นการสอบที่สูบพลังมาก
ดีนะที่อาจารย์ยังจัดตารางสอบวันเว้นวันไม่อย่างนั้นมีตายกันไปข้างแน่
ตั้งแต่วันนั้นที่พี่ข้าวโดนน้ำสาดใส่ก็มีเรื่องแปลกๆเกิดรอบตัวฉันตลอดเวลา
แต่เป็นคนรอบข้างนะที่โดนไม่ใช่ฉัน
จากตอนแรกไม่คิดอะไรก็มาเริ่มคิดมากแล้วไหนตอนที่พี่ข้าวเอาเสื้อตัวใหม่มาให้แถมยังพูดอะไรแปลกๆอีก
บอกให้ระวังตัวให้ดี แน่นอนว่ามันไม่ใช่คำขู่ของพี่ข้าวแต่เพื่อนคำเตือนให้ฉันระวังอันตรายรอบตัว
และวันนี้ก็เป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนจะได้หยุดสามวันคือศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
“คุณหนูครับ”
“สวัสดีค่ะอาลม”ฉันขึ้นไปนั่งบนรถเมื่ออาลมมารับแล้ว
ที่ให้มารับเพราะรถฉันเกิดเหยียบตะปูเรือใบเข้าให้
วันนี้เลยให้อาลมมาสงแล้วก็มารับกลับด้วย
“รถซ่อมเสร็จแล้วนะครับตอนนี้จอดอยู่บ้าน”
“ขอบคุณมากค่ะ
ช่วงนี้มีแต่เรื่องแปลกยังไงก็ไม่รู้”
“ยังไงครับ”
“ก็...”แล้วฉันก็เล่นเรื่องทั้งหมดให้อาลมฟังพอถึงบ้านก็เล่าจบพอดี
ขนาดอาลมยังบอกว่าแปลกแล้วให้ระวังตัวเลย
“เข้าไปพักผ่อนเถอะครับอย่าคิดมากเลย”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ไปรับ”ขอบคุณเสร็จฉันก็เดินเข้าบ้านทันทีแล้วก็เจอกับวิวเดินสวนลงมาจากบันไดพอดี หน้าตาดูไม่พอใจอะไรสักอย่าง
คงจะเป็นฉันล่ะมั้งนะ
Rrrrr
-เซน-
“ว่าไงมึง”
[กูจะถามว่าให้ไปรวมที่บ้านมึงเลยใช่ไหม]
“ใช่ๆ สักหกโมงเจอกัน”
[ได้ งั้นเดี๋ยวกูเก็บของต่อก่อนนะ
แค่นี้แหละ] แล้วมันก็วางสายไป
เห็นบอกว่าเรียนหนักตอนที่พากันไปกินเหล้าครั้งที่แล้วเลยชวนมันไปด้วย
ตอนแรกก็คิดว่ามันไม่ไปหรอกเพราะทุกทีก็ไม่ไป แต่นี้ตอบตกลงอย่างไวเลย
แล้วให้เหตุผลว่าไม่ค่อยมีเวลาไปไหน
และเราจะออกเดินทางไปภูเก็ตกันวันนี้
เพราะจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ
ซึ่งมันก็ดีเพราะนานๆทีจะได้ไปเที่ยวที่อื่นนอกจากกรุงเทพ อยากโดนทะเลแล้ว...
19.28 น.
“ใครลืมอะไรหรือเปล่า”อาเก็ทถามขึ้นมาเมื่อทุกคนนั่งประจำที่แล้ว
เราไปทริปนี้กันสิบเอ็ดคน เลยแบ่งรถเป็นสองคันเพื่อนฉันห้าคนนั่งกันอีกคันหนึ่งส่วนที่หลือก็นั่งคันเดียวกับฉันและแน่นอนว่าวิวก็อยู่คันเดียวกัน
“ไม่มีครับพี่เก็ท”ไอ้ปืนตะโกนขึ้นมา
ขนาดไม่ได้นั่งใกล้ๆเสียงยังดังขนาดนี้ถ้าอยู่ใกล้คงหูแตกอ่ะ
“โอเคงั้นก็ไปกัน”
“อาเก็ทนั่งไหนอ่ะ”ฉันถามเมื่ออาชินนั่งข้างคนขับ
ส่วนฉันกับอาเอิร์ธนั่งตรงประตูพอดี ส่วนวิวกับญาดานั่งข้างหลังฉัน
“นั่งข้างเราเนี่ยแหละ”ว่าแล้วก็แกล้งขยับมาเบียดฉัน
ที่ก็ตั้งเยอะยังจะมาเบียดอีกนะ
“เราจะถึงกี่โมงคะอาเอิร์ธ”
“น่าจะเช้าพอดี”แต่กว่าจะเช้าฉันก็ต้องนอนเก็บแรงก่อนไปถึงจะได้เล่นได้อย่างเต็มที่
แต่ว่าตอนนี้มันเพิ่งจะทุ่มกว่าๆเองให้นอนก็คงไม่หลับ
พรึ่บ!
“ห่มไว้เดี๋ยวหนาวก็ร้องหาอีก”
“อาชินน่ารัก...”ว่าจบฉันก็คลี่ผ้าห่มที่อาชินโยนมาให้
แล้วก็ห่มจัดให้คลุมไปถึงอาเก็ทกับอาเอิร์ธด้วย
ส่วนคุณอาทั้งสองก็ได้แต่ส่ายหัวให้ฉัน คนอุตส่าห์เผื่อแผ่นะ ซึ้งในน้ำใจด้วย
“ขนมไหมแสบ”
“เอาป็อกกี้”ฉันตอบอาเก็ทไปก่อนจะอ้าปากรอ
ระดับนี้ไม่ต้องกินเองค่ะมีคนป้อนกิตติมาศักดิ์ พอกินได้สักครึ่งห่อเสียงมารก็ดังขึ้นมาเลย
“เป็นง่อยหรือไง”ถึงจะพูดออกมาเบาๆแต่ทั้งรถไม่มีใครพูดอะไรมันเลยได้ยินชัดเจน
เสียงยัยญาดาน่ะ
“เอาไปป้อนมันสิกูจะดูหุ้นก่อนแปปนึง”ตอนนี้ตลาดหุ้นมันยังไม่ปิดอีกหรอคะอาเก็ท? อาเอิร์ธก็รับขนมไปแต่โดนดีแล้วเอาแขนข้างที่ถือกล่องขนมมาเกี่ยวคอฉันไว้ส่วนอีกมือก็คอยป้อนขนมอยู่ไม่ขาด
หาตาฉันเหลือบไปเห็นทั้งสองคนข้างหลังที่นั่งไม่พอใจอยู่เงียบๆด้านหลัง
“อาเก็ทเอาชาเขียวขวดสีม่วงให้หน่อยคะ”
“ห้ามกินชากินแค่น้ำเปล่าพอ”
“อาชิน...”ฉันเรียกอีกคนเสียงอ่อน
แต่นั่นมันก็ไม่มีผลอะไรแถมยังส่งสายตาดุขั้นสุดมาอีก
“เดี๋ยวนอนไม่หลับ”
“น้ำเปล่าก็ได้ค่ะ”ศึกนี้เนลล์จะไม่สู้เดี๋ยวโดนปรับทัศนะคติอีก
แค่คิดก็อยากจะอ้วกแล้ว...
“ง่วงหรือยัง”
อาเอิร์ธถามขึ้นมารถออกมาได้สามชั่วโมงแล้วและฉันก็เริ่มจะง่วงแล้วเหมือนกันจึงพยักหน้า
แล้วนั่งโงนเงนอยู่กับที่ แต่ไม่นนานร่างฉันก็ลอยขึ้นเพราะอาเอิร์ธอุ้มฉันไปนั่งที่ว่างระหว่างขาเขา
ดันตัวฉันให้พิงกับอกแกร่งแล้วก็กอดฉันไว้หลวมๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
“เนลล์หลับหรือยังเอิร์ธ”ชินหันหน้าไปถามเพื่อนสนิทที่นั่งกอดหลานอยู่ข้างหลัง
“หลับไปแล้ว ทำไม?”
“จะบอกให้เอาผ้าออกจากจมูกมันหน่อยเดี๋ยวหายใจไม่ออก”เอิร์ธมามองตามแล้วดึงผ้าลงนิดหน่อยพอให้หายใจออก
สเนลล์ชอบห่มผ้าปิดจมูกมาตั้งแต่เด็กแล้ว
“อื้อ”
แต่พอดึงออกคนในอ้อมกอดก็สงเสียงออกมาอย่างขัดใจก่อนจะขยับตัวเล็กน้อย
ตะแคงตัวนิดหน่อยหันหน้าเข้าหาลำคอแกร่งของเขาจนได้ที่คนตัวเล็กในอ้อมก่อนถึงสงบ
ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ามาลดต้นคอทำให้เขารู้ว่าสเนลล์หลับสนิทไปแล้ว
ท่าประจำเวลาที่นอนบนรถสเนลล์จะชอบนอนแบบนี้เสมอ
“กินอิ่มแล้วก็นอนเลยนะ”เก็ทส่ายกัวเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปปรับแอร์ให้กับหลานและเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ
แอร์เป่านานๆเดี๋ยวได้ป่วยอีกแน่
“น้องสองคนเอาขนมไหมครับ”เก็ทหันไปถามสองสาวที่ยังไม่หลับ
ใจจริงก็ไม่ได้อยากให้มาด้วยหรอกแต่มันดันเลี่ยงไม่ได้นี่สิ ไม่รู้ว่าการเที่ยวครั้งนี้มันจะสนุกหรือเปล่า
“ไม่ค่ะขอบคุณมาก”
“ได้เตรียมผ้าห่มกันมาเองอยู่ใช่ไหมพวกพี่มีแค่ผืนเดียวนะ”ที่เตรียมมาก็เพราะไอ้คนที่หลับไปแล้วเนี่ยแหละ
เวลาเดินทางไกลแล้วหนาวก็งอแงจนเดือนร้อนให้หาผ้าห่มกันให้วุ่น จากนั้นก็เลยเตรียมมาไว้ทุกครั้งและก็ได้ใช้ทุกครั้ง
“ค่ะพวกเราเตรียมมาแล้ว”วิวตอบก่อนจะมองออกนอกหน้าต่างไปแล้วทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง...
ภูเก็ต
เย้ ตอนนี้เราก็มาถึงภูเก็ตกันแล้ว
และตอนนี้นี้ก็กำลังรออาเอิร์ธไปจัดการเรื่องห้องพักอยู่
สักพักเก็เดินกลับมาพร้อมกุญแจห้องพักหลายพวง แล้วแจกแจงห้องพักทันที อาเอิร์ธบอกให้จับคู่กัน
ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้
ฉันกับอาเอิร์ธ
ปืนกลกับเนตั้น
เซนกับแม็กกี้
วิวกับญาดา
ส่วนที่เหลือได้นอนคนเดียว
ตอนแรกฉันจะไปนอนกับปิ่น
แต่พออาเอิร์ธบอกให้ไปนอนด้วยมันก็เลยถีบหัวส่งฉันแล้วบอกอีกว่าว่านอนคนเดียว
เพื่อนบ้า!
“แยกย้ายกันไปเก็บของพักผ่อนกันตามสบาย
แล้วหกโมงเย็นเจอกันที่ริมหาด”อาเอิร์ธบอกรายละเอียดที่ทุกคนต้องรับคือซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมาก
แค่มาเจอกันริมหาดตอนเย็นนอกนั้นจะทำอะไรก็ทำ
จบ! แยก!
“ไปอาบน้ำก่อนไปเดี๋ยวอาจะพาไปกินข้าว”
“ได้ค่ะ”
ฉันรับคำก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำก่อนจะออกมาด้วยชุดสบายๆเหมาะสำหรับการมาทะเลย
ส่วนอาเอิร์ธพอเห็นฉันออกมาจากห้องน้ำก็เลยเข้าไปอาบน้ำบ้าง
และไม่นานเขาก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดลำรองสบายๆ
แล้วพาฉันลงมาที่ห้องอาหารของโรงแรมทันที
“จะกินอะไรก็ไปตักเอา”
“อาเอิร์ธเอาอะไรไหมเดี๋ยวเนลล์ตักมาเผื่อ”
“เดี๋ยวอาสั่งกาแฟมากิน”
“งั้นเดี๋ยวเนลล์มา”จากนั้นฉันก็พาตัวเองเดินมาตักอาหารที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ก่อนแล้ว
ฉันเลือกตักมาแค่ข้าวผัดปูอย่างเดียวแล้วหยิบขนมอีกสองสามชิ้นใส่จานแล้วกลับมาที่โต๊ะทันที
“ขออนุญาติเสิร์ฟค่ะ”พนักงงานเสิร์ฟของโรงแรมนำกาแฟที่อาเอิร์ธสั่งมาเสริฟให้ที่โต๊ะพร้อมกับคุกกี้อีกสามสี่ชิ้น
“อาเอิร์ธกินข้าวเสร็จแล้วไปเดินเล่นกันไหม”
“เอาสิ”
“เดินเล่นเสร็จเนลล์จะกลับมาเล่นน้ำนะ”
“เย็นๆค่อยลงมาเล่นไปแดดมันร้อน”ฉันได้แต่พยักหน้ารับ
เพราะแดดมันร้อนจริงๆนั่นและแค่เดินออกไปสองนาทีก็คงไหม้เกรียมแล้วมั้ง
หลังจากกินข้าวเสร็จเราก็มาเดินเล่นกันริมชายหาด
นักท่องเที่ยวต่างก็เล่นน้ำด้าวนท่าทางสนุกสนาน บ้างก็นอนอาบแดด
แล้วก็มีเด็กน้อยนั่งก่อกองทรายอยู่ประปราย เห็นแล้วก็คิดถึงพ่อกับแม่จัง
ตอนเด็กๆพวกท่านก็พาฉันไปเที่ยวทะเลแล้วก็นั่งก่อกองทรายเป็นเพื่อนฉันเสมอ
ถ้าตอนนี้ท่านยังอยู่ก็คงจะดีมากแน่ๆ
“อาเอิร์ธไปก่อกองทรายกัน”ฉันไม่รอคำตอบรับแต่เลือกที่จะดึงแขนอาเอิร์ธไปตามทิศทางที่ฉันต้องการแทน
ส่วนอาเอิร์ธก็ยอมเดินตามมาเงียบแล้วก็ช่วยฉันก่อกองทรายให้เป็นรูปเป็นร่างทันที
“คิดอะไรอยู่”สงสัยฉันจะเงียบนานไปมั้ง
พอได้มานั่งก่อกองทรายภาพเก่าสมัยที่พ่อกับแม่ยังอยู่มันก็วิ่งเข้ามาในหัวไม่หยุด
“เนลล์แค่คิดถึงพ่อกับแม่
ถ้าพวกท่านยังอยู่ก็คงจะดี”
“นั่นสินะ
ไว้อาจะพาไปไหว้พ่อกับแม่ก็แล้วกัน”
“ต้องพาไปนะ”
“ครับๆ”กระดูกพ่อกับแม่งถูกนำไปเก็บไว้ที่วัดแห่งหนึ่งในไทยนี่แหละ
ทุกครั้งที่ไปฉันก็มักจะซึมทุกที
อาเอิร์ธเลยพาฉันไปปีละครั้งเพราะไม่อยากให้ฉันเศร้า
“วิวขอก่อกองทรายด้วยคนได้ไหมคะพี่เอิร์ธ”
“ถามสเนลล์ดูสิ”อ้าว
ทำไมมาโยนให้ฉันอย่างนั้นล่ะเขาถามอาเอิร์ธนะไม่ได้ถามเนลล์สักหน่อย
“ได้ไหมสนลล์”
“ก็เอาสิ”พอฉันอนุญาตวิวก็นั่งลงข้างๆอาเอิร์ธส่วนญาดาไปนั่งรอในร่มแทน
เราก่อกองทรายกันพักใหญ่สุดท้ายก็ออกมาเป็นรูปร่างที่ต้องการ
ฉันยืนชื่นชมผลงานอยู่นานก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรู้เก็บไว้
แล้วก็อัพลงในไอจีตามปกติ
“พี่เอิร์ธคะไปเล่นน้ำกันไหมคะ”
“ไม่ล่ะ”
“ทำไมล่ะคะมาทะเลทั้งทีต้องเล่นสิคะ”
“แดดร้อนถ้าเย็นๆคงจะเล่นอยู่”แล้วบทสนทนาของทั้งสองก็มีมาให้ได้ยินเรื่อยๆ
ตั้งแต่เรื่องปูยันเรื่องปลาดาวนั่นแหละ ไม่ว่าเรื่องอะไรยัยวิวก็งัดมาคุยถ้าหมด
แล้วก็คุยอยู่กับอาเอิร์ธคนเดียวด้วยนะ
“เหมาะสมกันดีนะสองคนนั้นน่ะ”ทันทีที่เข้ามาพักในร่มญาดาก็ออกปากทันที ส่วนฉันก็ได้แต่มองตามสายตาของญาดาจนไปหยุดที่อาเอิร์ธกับวิว
...ไม่เห็นจะเหมาะกันตรงไหนเลย
“จะพูดอะไรก็พูดมาเลยไม่ต้องอ้อม”
“ก็อย่างที่บอกว่าสองคนนั้นเหมาะสมกันดี
เหมาะกว่าหลานนอกคอกอย่างเธอเป็นไหนๆ ไม่ว่าจะฐานะ การศึกษา หน้าตาก็เหมาะสมกันทุกอย่าง”ถ้าคนอื่นมองก็อาจจะใช่
“แล้วดูเธอสิมีอะไรที่เหมาะสมกับพี่เอิร์ธบ้าง
บ้านก็ไม่มี พ่อแม่ก็ไม่มี แถมยังให้เขาหาเงินเลี้ยงดูตัวเธอเองอีกต่างห่าง
ผู้หญิงแบบเธอไม่เหมาะกับเขาหรอก”
“มันก็อาจจะจริงอย่างที่เธอว่า
แต่คนที่จะบอกว่าเหมาะหรือไม่เหมาะมีได้แค่เพียงคนเดียวคืออาเอิร์ธ
ต่อให้เธอพูดจนปากฉีกถึงรูหูฉันก็ไม่คิดจะฟังเธอหรอกนะ”
“นี่เธอ!!”
“แล้วอีกอย่าง...เธอแน่ใจได้ยังไงว่ายัยนั่นมันดีกว่าฉัน”
“คุยอะไรกันหรอสองคนนั้นน่ะ”วิวเดินเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงร่าเริงเหมือนที่ชอบทำ ส่วนฉันก็ทำแค่ปรายตามองแล้วเดินเข้าไปหาอาเอิร์ธที่ยืนอยู่ใกล้ๆกองทรายแล้วลากเขาออกมาจากตรงนั้น
...มลพิษมันเยอะ
“คุยอะไรกัน”ฉันหันไปมองหน้าอาเอิร์ธนิดหน่อยก่อนจะส่ายหน้าไปมาเชิงบอกว่าไม่มีอะไร
ก็แค่...
“นางร้ายในละครกำลังพยายามทำให้นางเองถอดใจจากพระเอกน่ะค่ะ”
“หืม?”
ฉันไม่ตอบรับอะไรอีกทำแค่เพียงยิ้มไปให้เท่านั้น
ฉันล่ะเบื่อจริงๆทำไมคนพวกนี้ไม่รู้จักหามุกอื่นมาใช้บ้างนะเอะอะก็อ้างเรื่องความเหมาะสมอยู่เรื่อย
ใครเป็นคนกำหนดอย่างนั้นหรอว่าใครเหมาะสมกับใคร แล้วใครไม่เหมาะสมกับกับใคร?
อัพครบ
(คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะคะ)
..............................................................
TALK
กำเปลือกทุเรียนแน่นๆนะคะทุกคนนนนนนน
อาเอร์ธอยากกินหมูหรอคะ เราก็มีหมูนะกินไหม
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
..............................................................
เอออออ อาเอิร์ธนี่พูดอะไรก็พูดดังๆสิ!
สเนลล์ไม่ได้ยิยเนี่ยรู้ไหม...ฮ่าๆๆๆๆๆ
มีใครรออยู่บ้างเอ่ยยยยยย
..............................................................
By DEPARTURE
ความคิดเห็น