คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : - ตอนที่ 1 -
“พี่เปลๆ มีจดหมายมาจากอเมริกามาถึงพี่ด้วยแหละ”
เลย์เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มอายุ 15 วิ่งทะเล่อทะล่ามาหาฉันซึ่งกำลังให้อาหารหนูแฮมเตอร์อยู่
“พี่เปลๆ มีจดหมายมาจากอเมริกามาถึงพี่ด้วยแหละ”
เลย์เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มอายุ 15 วิ่งทะเล่อทะล่ามาหาฉันซึ่งกำลังให้อาหารหนูแฮมเตอร์อยู่
“อือขอบใจนะเลย์ว่าแต่แกว่างใช่ปะแกช่วยออกไปซื้ออาหารหนูแฮมเตอร์ที่ร้านพี่เล็กให้หน่อยสิ”
ฉันวาง หมูปิ้ง ลงบนตักของฉันแล้วหยิบแบงค์50ยื่นให้เลย์
“อือได้ๆ แต่ว่าพี่เหอะอีก 2 วันพี่ก็จะเข้ามหาลัยแล้วไม่คิดจะตัดผมมั่งหรอยาวมิดก้นแล้วนะ" หวัดดียัยพี่จีน เปลเป็นไงมั่งสบายดีปล่าวตอนนี้พี่กำลังขยัยทำงานตัวเป็นเกลียวเลยแหละ ตอนนี้อยู่ที่ทำงานนะเนี่ยแอบหนีปีเตอร์มาอยู่หลังร้าน คงรู้ๆกันอยู่เนอะถ้าปีเตอร์รู้ว่าพี่อู้งานมีหวังโดนด่า + หักเงินเดือนแน่ๆเลย จริงสิๆอีกไม่กี่วันเปลก็จะเป็นนักศึกษาแล้วสินะ โตเร็วจริงๆน้องพี่ อีกแค่ 3 เดือนเราก็จะเจอกันแล้วนะ อ๋อใช่คราวที่แล้วขอบใจนะที่ส่งภาพเจ้าหมูปิ้งมาให้พี่ดู รู้สึกว่าจะอ้วนปุ๊กเลยนะ แสดงว่าเปลให้กินเยอะละสิ อย่าให้อ้วนมากนะเดี๋ยวหนูพี่จะไม่ได้ประกวดนางแบบแบบเปล อิอิ ผลประกาศเทสหน้ากล้องเป็นไงบ้างได้หรือไม่ได้ก็ส่งมาบอกมั่งนะพี่จะรอดูวันที่น้องพี่เป็นดาราดัง พี่จะได้ไปประกาศให้พวกที่ทำงานรู้ว่า “ น้องพี่ดังแล้วโว้ย “ พี่พล่ามมากไปและอย่าลืมเอาจดหมายอีกซองไปให้แยมด้วยนะพี่ต้องไปทำงานต่อแล้วละเดี๊ยวโดนว่า ปล. พี่ซื้อกรงใหม่ให้เจ้าหมูปิ้งด้วยนะคิดว่าคงส่งมาตามหลังจดหมาย 2 3 วันนะ
พี่เค สุดหล่อของยัยพี่จีน ฉันอดยิ้มกับจดหมายที่พี่เคพี่ชายคนละแม่ของฉันไม่ได้ แต่รอยยิ้มของฉันต้องรีบหุบลงแล้วมีน้ำตามาแทนที่ใช่เพราะฉันรักพี่เคมากรักแบบไม่ใช่พี่น้อง ฉันรู้พี่เคก็รักฉันมากแต่รักแบบพี่น้อง คนที่พี่เคให้ความรักแบบที่ฉันอยากได้มีแค่ แยม เพื่อนสนิทของฉันเท่านั้น ฉันคงโง่ไม่ก็บ้าที่แอบรักพี่ชายตัวเองมา 6 ปี
เลย์จับผมฉันดูแล้วยิ้มๆก่อนจะเดินออกจากห้องไป
หวัดดียัยพี่จีน เปลเป็นไงมั่งสบายดีปล่าวตอนนี้พี่กำลังขยัยทำงานตัวเป็นเกลียวเลยแหละ ตอนนี้อยู่ที่ทำงานนะเนี่ยแอบหนีปีเตอร์มาอยู่หลังร้าน คงรู้ๆกันอยู่เนอะถ้าปีเตอร์รู้ว่าพี่อู้งานมีหวังโดนด่า + หักเงินเดือนแน่ๆเลย จริงสิๆอีกไม่กี่วันเปลก็จะเป็นนักศึกษาแล้วสินะ โตเร็วจริงๆน้องพี่ อีกแค่ 3 เดือนเราก็จะเจอกันแล้วนะ อ๋อใช่คราวที่แล้วขอบใจนะที่ส่งภาพเจ้าหมูปิ้งมาให้พี่ดู รู้สึกว่าจะอ้วนปุ๊กเลยนะ แสดงว่าเปลให้กินเยอะละสิ อย่าให้อ้วนมากนะเดี๋ยวหนูพี่จะไม่ได้ประกวดนางแบบแบบเปล อิอิ ผลประกาศเทสหน้ากล้องเป็นไงบ้างได้หรือไม่ได้ก็ส่งมาบอกมั่งนะพี่จะรอดูวันที่น้องพี่เป็นดาราดัง พี่จะได้ไปประกาศให้พวกที่ทำงานรู้ว่า “ น้องพี่ดังแล้วโว้ย “ พี่พล่ามมากไปและอย่าลืมเอาจดหมายอีกซองไปให้แยมด้วยนะพี่ต้องไปทำงานต่อแล้วละเดี๊ยวโดนว่า ปล. พี่ซื้อกรงใหม่ให้เจ้าหมูปิ้งด้วยนะคิดว่าคงส่งมาตามหลังจดหมาย 2 3 วันนะ
พี่เค สุดหล่อของยัยพี่จีน ฉันอดยิ้มกับจดหมายที่พี่เคพี่ชายคนละแม่ของฉันไม่ได้ แต่รอยยิ้มของฉันต้องรีบหุบลงแล้วมีน้ำตามาแทนที่ใช่เพราะฉันรักพี่เคมากรักแบบไม่ใช่พี่น้อง ฉันรู้พี่เคก็รักฉันมากแต่รักแบบพี่น้อง คนที่พี่เคให้ความรักแบบที่ฉันอยากได้มีแค่ แยม เพื่อนสนิทของฉันเท่านั้น ฉันคงโง่ไม่ก็บ้าที่แอบรักพี่ชายตัวเองมา 6 ปี
พี่เค สุดหล่อของยัยพี่จีน
ฉันอดยิ้มกับจดหมายที่พี่เคพี่ชายคนละแม่ของฉันไม่ได้ แต่รอยยิ้มของฉันต้องรีบหุบลงแล้วมีน้ำตามาแทนที่ใช่เพราะฉันรักพี่เคมากรักแบบไม่ใช่พี่น้อง ฉันรู้พี่เคก็รักฉันมากแต่รักแบบพี่น้อง คนที่พี่เคให้ความรักแบบที่ฉันอยากได้มีแค่ แยม เพื่อนสนิทของฉันเท่านั้น ฉันคงโง่ไม่ก็บ้าที่แอบรักพี่ชายตัวเองมา 6 ปี
“เปลเปิดประตูหน่อย"
เชริแม่เลี้ยงลูกครึ่ง ไทย ญี่ปุ่นและยังเป็นแม่แท้ๆของพี่เคเรียกฉันให้เปิดประตูอยู่หน้าห้องที่ติดป้ายว่าห้ามรบกวน ฉันรีบปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตูให้เชริ
“ร้องไห้อีกแล้วเหรอเปลไม่เอาน่า”
เชริลูบหัวฉันเบาๆเป็นเชิงปลอบใจฉัน
“มีอะไรรึปล่าวเช”
ฉันพูดแล้วเดินตามหลังเชริไปนั่งที่โซฟา
“นี้ไงผลกระกาศที่เปลไปเทสหน้ากล้องเมื่อเดือนที่แล้วอ่านสิๆเชอยากรู้”
เชริทำท่าตื่นเต้นแล้วยื่นจดหมายซองเล็กๆสีน้ำตาลเข้มจ่าหน้าถึงฉันมาให้
“ถึงผู้สมัครคัดเลือกดาราหน้าใหม่รอบสุดท้าย”
ฉันเปิดจดหมายออกแล้วอ่านให้เชริฟัง
“ผลประกาศที่คณะกรรมการลงคะแนนเป็นเอกฉันท์ให้ นางสาว เปลาดา ทรัพย์เจริญ ชนะการประกวดดาราหน้าใหม่ Love Stat นางสาว เปลาดาจะต้องมารับรางวัลและกรอกใยสนธิสัญญาวันที่ 3 มีนาคม 2549 ไม่งั้นจะถือว่าสละสิทธ์ จึงเรียนมาเพื่อทราบ”
เปลยิ้มทั้งน้ำตารวมทั้งเชริที่ร้องไห้ให้กับความสำเร็จขั้นแรกของเปล
“เชเปลทำได้แล้ว”
ฉันโผลกอดเชริที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยความผลื้มใจ
“เก่งมากๆเลยเปลเชเชื่อว่าเปลต้องทำได้ตั้งแต่ประกวดครั้งแรกแล้ว”
เชริปาดหยดน้ำตาของตัวเองแล้วเอามือมาปาดน้ำตาของฉันด้วย
“เอาละๆอย่างงี้ต้องฉลองวันนี้ไปกินกันไปหนำใจเลย” ตกเย็น
เชริลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ฉันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับจดหมายที่ฉันได้รับ
ตกเย็น
“พี่เปลจะแต่งตัวอีกนานไม๊หนูหิวจะตายอยู่แล้วนะ"
เลย์ตะโกนเสียงดังอยู่หน้าห้องฉัน
“เสร็จแล้วๆ”
ฉันเปิดประตูออกมาพร้อมเจ้าหมูปิ้งที่เกาะอยู่บนไหล่ของฉัน
“โหพี่เปลกลิ่นไรอะหอมมากๆเลยอะแล้วผมอะทำเป็นลอนๆอีกจะไปประกวดนางงามหรือไปกินข้าวข้างนอกเนี่ยพี่แต่งซะเวอร์” ระหว่างทางที่ไปรถติดมากๆพ่อบอกฉันว่ามีแก๊งซิ่งมาอาระวาดแถวนี้แถมหัวหน้าแก๊งค์ยังเป็นดาราดัง แต่ไม่ทันที่พ่อจะพูดว่าดาราดังคนนั้นเป็นใครรถก็จอดอยู่หน้าร้านอาหารระดับ 5 ดาวที่ดีที่สุดในย่านบ้านฉันแล้ว
เลย์ทำหน้าทำตาใส่ฉันก่อนจะสะบัดตูดเดินนำหน้าฉันลงไปขึ้นรถ
ระหว่างทางที่ไปรถติดมากๆพ่อบอกฉันว่ามีแก๊งซิ่งมาอาระวาดแถวนี้แถมหัวหน้าแก๊งค์ยังเป็นดาราดัง แต่ไม่ทันที่พ่อจะพูดว่าดาราดังคนนั้นเป็นใครรถก็จอดอยู่หน้าร้านอาหารระดับ 5 ดาวที่ดีที่สุดในย่านบ้านฉันแล้ว
“เอาสปาเก๊ตตี้กุ้งราดซอสที่หนึ่ง เสต็กเนื้อสันสองที่ พี่เปลจะกินอะไรเหม่อตั้งแต่มะกี๊แล้วนะ”
เลย์สะกิดฉันซึ่งกำลังนั่งมองไปตามถนนที่มีรถจำนวนมากวิ่งไปมาอยู่
“อะอ๋อเอาสปาเก๊ตตี้ราดหน้าเนื้อนุ่มแล้วกัน อ๋อๆแล้วก็เอาถั่วคั่วอีกหนึ่งที่ด้วย” หลังจากที่ฉันกินข้าวเสร็จแล้วพ่อก็พาเชริแล้วก็ไอเลย์ไปเดินซื้อของในห้าง ฉันไม่ชอบเลยเวลาไปซื้อของตามห้างนะไม่ใช่ไรหรอกก็เชรินะสิชอบบ่นเรื่องราคาของแล้วไอเลย์ก็ชอบทำหน้างอเวลาอยากได้เสื้อผ้าแล้วไม่ได้ ฉันจึงปลีกตัวออกมานั่งเล่นในผับข้างๆห้างในผับตอนนี้ไม่เปิดเพลงให้คนเต้นกันแต่กลับเปิดเพลงเบาๆโรแมนติกๆแถมในร้านก็ประดับแต่หัวใจเต็มไปหมดใช่ฉันลืมไปเลยว่าอีก 3 วันก็จะถึงวัน วาเลนทาย แล้วละสินะวันที่ฉันต้องโดดเดียวและเหงากว่าทุกๆวันในรอบปีมันจะมาถึงอีกแล้ว
ฉันพูดแล้วหันไปเล่นกับเจ้าหมูปิ้งซึ่งนอนหลับอยู่บนตักของฉัน
หลังจากที่ฉันกินข้าวเสร็จแล้วพ่อก็พาเชริแล้วก็ไอเลย์ไปเดินซื้อของในห้าง ฉันไม่ชอบเลยเวลาไปซื้อของตามห้างนะไม่ใช่ไรหรอกก็เชรินะสิชอบบ่นเรื่องราคาของแล้วไอเลย์ก็ชอบทำหน้างอเวลาอยากได้เสื้อผ้าแล้วไม่ได้ ฉันจึงปลีกตัวออกมานั่งเล่นในผับข้างๆห้างในผับตอนนี้ไม่เปิดเพลงให้คนเต้นกันแต่กลับเปิดเพลงเบาๆโรแมนติกๆแถมในร้านก็ประดับแต่หัวใจเต็มไปหมดใช่ฉันลืมไปเลยว่าอีก 3 วันก็จะถึงวัน วาเลนทาย แล้วละสินะวันที่ฉันต้องโดดเดียวและเหงากว่าทุกๆวันในรอบปีมันจะมาถึงอีกแล้ว
“เปล เปลใช่ไหม๊”
ผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวหน้าตาคุ้นเคยเข้ามาทักฉันแบบลังเลใจนิดๆ
“ใช่ค่ะไม่ทราบว่ามีอะไรหรอค่ะ"
ฉันพูดตามมารยาทแล้วส่งยิ้มให้ชายแปลกหน้าที่เดินเข้ามาทักฉัน
“เซฟเองจำได้ไหม๊ตอนที่เรียนม.ต้นยังเคยนั่งติดกันเลยยัยผีจีน”
ชายแปลกหน้านั่นยิ้มให้ฉัน ฉันจำรอยยิ้มนั้นได้ทันที เซฟ ผู้ชายที่ฉันไว้ใจที่สุดและเกือบจะรัก ใช่เค้านี้แหละที่เกือบทำให้ฉันลืมพี่เคได้ แต่เค้ากลับทิ้งฉันไปเรียนที่ออสเตียสแล้ววันนี้หรอที่ฉันได้พบเค้าอีก เค้าไม่ต่างไปจากเดิมเท่าไหร่ คงมีแต่ส่วนสูงมั้งอ๋อใช่ผิวเข้มขึ้นนิดนึงด้วย
“โหไม่เจอเปลตั้งนานสวยขึ้นเป็นกองเลยนะแล้วมาแถวนี้ได้ไงเนี่ย"
เซพเอามือมาลูบผมที่เป็นลอนของฉันคงแปลกใจสินะที่ฉันเคยไว้ผมสั้นแค่ประบ่าแต่ตอนนี้มันยาวจนมิดก้นแล้ว
“ก็ออกมากินข้าวกับพ่อ น้าเช แล้วก็ไอเลย์อะตอนนี้คงชอปปิ้งกันอยู่ให้ห้างละมั้ง”
ฉันยิ้มให้เซพก่อนจะยกแก้วน้ำส้มที่ฉันสั่งมาใหม่ดื่ม
“เฮ้ยไอเซพมาม่อเด็กใหม่แถวนี้นี่เองฉันตามหาให้วุ่นเลยวันนี้ตำรวจมันคึกคักไล่พวกฉันเกือบเอาตัวไม่รอด”
ผู้ชายหน้าตาคุ้นหน้าเดินถือหมวกกันน๊อกมายืนข้างหลังเซพแล้วนั่งลง ใช่ถ้าฉันจำไม่ผิด เค้าคือ คิมซันเดย์ ลูกครึ่งไทย เกาหลี แต่เค้าโตที่ประเทศออสเตียสจึงมี 3 เชื้อชาติในคนเดียว เค้าไม่ใช่ใครที่ไหน เค้าคือดารายอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศและยังเป็นหนุ่มนักซิงที่พ่อพูดถึงอีกด้วย
“จะบ้าหรอไอคิมนี้ไงเปล คนที่ชนะการแข่งดาราหน้าใหม่ของเลิฟสตาร์ค่ายที่แกอยู่อะ แถมเปลยังเป็นเพื่อนเก่าของฉันที่เคยเล่าให้แกฟังไง เดี๋ยวฉันมานะเปล”
เซพหันไปพูดกับซันก่อนจะหันมาบอกฉัน
“อะอือ”
ฉันพูดแล้วดื่มน้ำส้มหมดแก้วแล้วเอาหมูปิ้งขึ้นมาเล่นบนตัก
“เธอชอบหนูแฮมเตอร์หรอ”
ซันพ่นควันบุหรี่ออกจากปากแล้วหันมาถามฉัน
“อือใช่”
ฉันตอบแบบไม่มองตาเค้าคนอะไรไม่รู้หล่อแต่น่ากลัวจนไม่อยากเค้าใกล้
“เวลาคุยกับฉันช่วยมองหน้าหน่อยได้ไหม๊คุณเปลาดา ทรัพเจริญ ลูกสาวคนที่ 2 ของ คุณธนากร ทรัพเจริญ จ้าของกิรการการค้าธุรกิจขนาดใหญ่เกือบทั่วโลก หึไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะได้เจอกัน ส่วนฉันดารายอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศและพ่อของเธอก็เป็นลูกน้องของพ่อฉัน เธอยากจะลองเป็นข่าวหน้า 1 กับฉันไหม๊ละ”
ยังไม่ทันที่ฉันจะตอบอะไรซันก็โผลมาจูปากฉันแบบดูดดื่มแถมยังเอาลิ้นเข้ามาในปากฉันด้วย
“เพี๊ยะ”
ฉันผลักเค้าออกไปแล้วตบหน้าเค้า
“นายมันทุเรศคิดว่าตัวเองหล่อ รวย แล้วจะทำอะไรใครก็ได้ยังงั้นหรอไงนายมันต่ำที่สุด”
ฉันผลักนายนั่นออกไปแล้วเดินออกจากผับไปทันทีทิ้งให้นายซันนั่นยืนเอ๋ออยู่คนเดียว
“คนบ้าอะไรก็ไม่รู้แย่ เฮงซวย บ้า แย่ที่สุดเลยทำไมต้องมาเจอคนแบบนี้ด้วยนะ“
ฉันบ่นพึมพำก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเชริ
“ฮัลโหลเชหรออยู่ไหนอะ”
ฉันกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์
“เปลหรอตอนนี้เชอยู่กับลูกค้าอะพ่อกลับไปที่ทำงานมีงานด่วนแล้วไอเลย์มันก็กลับบ้านไปแล้วด้วยกลับเองได้ใช่ไหม๊ขอโทษทีนะงานยุ่งแค่นี้ก่อนนะ ตู๊ด ตู๊ด”
ฉันถอนหายแล้วแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ครอบครัวฉันก็อย่างงี้แหละทำงานตัวเป็นเกรียวงาน งาน งาน แล้วก็งาน ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า งาน แล้วละ
“นี้เธอเมื่อกี้ตบหน้าฉันทำไม”
หย๊าอิตานั่นตามฉันมา
“ก็ ก็นายมาจูบฉันทำไมละ” “นั่นมันการทักทายของฉันต่างหากละว่าแต่เธอเหอะว่าไงอยากเป็นข่าวหน้า 1 กับฉันไม๊ละ”
ฉันตอบเสียงตะกุกตะกักตานี้จะทำไรฉันไม๊นะ
ซันโยนบุหรี่ลงพื้นก่อนจะใช้เท้าเหยียบให้ไฟดับแล้วเก็บไปทิ้งถังขยะข้างทาง
“นั่นมันการทักทายของฉันต่างหากละว่าแต่เธอเหอะว่าไงอยากเป็นข่าวหน้า 1 กับฉันไม๊ละ”
ซันโยนบุหรี่ลงพื้นก่อนจะใช้เท้าเหยียบให้ไฟดับแล้วเก็บไปทิ้งถังขยะข้างทาง
“อะเอ่อ”
ฉันลังเลใจนิดหน่อย แต่ถ้าขึ้นหน้า 1 คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง
“ว่าไงสนใจมั๊ย”
ซันเดินมาใกล้ๆฉัน
“อะเอ่อตกลง”
ฉันตอบแล้วอุ้มหมูปิ้งที่หลับอยู่เก็บใส่ในกระเป๋าแล้วซ้อนมอเตอร์ไซส์ของซันทันที
“เออนาย . . .”
ฉันตั้งใจจะถามว่าอิตานี้จะพาฉันไปแถวไหนแต่ก็ต้องชะงักเพราะไม่แน่ใจว่าจะเรียกชื่อเค้าว่าไรดี
“ซัน เรียกฉันว่าซันอย่างรียกคิมอย่างไอเซพมันเลยมันบ้านะ”
ซันพูดแล้วเร่งความเร็วขึ้นอีกนิดทำให้ฉันต้องเกาะชายเสื้อเข้าแน่นยิ่งกว่าเดิม
“อะอือซันจะพาฉันไปไหน” “ไปเรื่อยๆแหละเธอนี้แปลกนะถ้ากลัวตกก็น่าจะกอดเอวฉันไว้กลับจิกเสื้อฉันแทน” “ปะปล่าวไม่ได้กลัวมันแค่หนาวนะ”
ฉันมือสั่นเพราะความหนาวเล็กน้อบก่อนจะถามออกไป
ซันอมยิ้มอยู่ในหมวกกันน๊อคที่เค้าสวมอยู่
ฉันตอบแก้หน้าไปอย่างนั้นแหละ ความจริงฉันก็กลัวจะแย่อยู่แล้วหนาวกหนาวขนลุกไปหมด
“ไปเรื่อยๆแหละเธอนี้แปลกนะถ้ากลัวตกก็น่าจะกอดเอวฉันไว้กลับจิกเสื้อฉันแทน” “ปะปล่าวไม่ได้กลัวมันแค่หนาวนะ”
ซันอมยิ้มอยู่ในหมวกกันน๊อคที่เค้าสวมอยู่
ฉันตอบแก้หน้าไปอย่างนั้นแหละ ความจริงฉันก็กลัวจะแย่อยู่แล้วหนาวกหนาวขนลุกไปหมด
“ปะปล่าวไม่ได้กลัวมันแค่หนาวนะ”
ฉันตอบแก้หน้าไปอย่างนั้นแหละ ความจริงฉันก็กลัวจะแย่อยู่แล้วหนาวกหนาวขนลุกไปหมด
“อืองั้นจอดข้างทางแปปนึงนะ”
ซันพูดแล้วหยุดรถและถอดเสื้อตัวนอกของเค้ามาให้ฉันใส่ก่อนจะกลับมานั่งแล้วขับด้วยความเร็วแบบเดิม
“ขอบใจนะ” โปรดติดตามชมตอนต่อไป . . .
ฉันพูดแล้วใส่เสื้อที่ซันให้มา กลิ่นของฉันนี้หอมจังนะไม่เหมือนผู้ชายที่ฉันรู้จักเลยหรือว่าฉันจะชอบตานี้ให้ซะแล้วเวลาจ้องตาเค้าทีไรหัวใจมันเต้นผิดจังหวะทุกทีเลย
โปรดติดตามชมตอนต่อไป . . .
แก้ไขตอนแล้วนร๊าไม่รู้มันจะซ้ำกันอีกหรือเปล่าเย่จัง
ความคิดเห็น