ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    rainy drops

    ลำดับตอนที่ #3 : หนึ่งคนที่ไป และหนึ่งคนที่มา

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 49



        "พุท" ผมเรียกชื่อเพื่อนที่นั่งจ๋อย ข้างตัวมีกระเป๋าใบใหญ่ ตอนนี้เราอยู่ในโรงอาหารของโรงเรียน และผมก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดที่หอจัดให้เรียบร้อยแล้ว

        "มันเกิดอะไรขึ้น" ผมถามมัน พุทเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะก้มหน้าลงใหม่แล้วตอบเสียงแผ่ว ๆ

        "ฉันโดนไล่ออก"

        "อ่อ.. เอ๋!!! O_O" ผมมองหน้าพุทเผื่อว่ามันจะพูดคำว่าล้อเล่น แต่กลับเห็นแต่สีหน้าเศร้า ๆ จริงจังของมัน

        ผมใจหายวาบ

        "นี่ เพราะหมอนั่นงั้นหรอ!!!"

        "เปล่า..."

        "แล้วทำไมล่ะ!!!"

        "นายก็รู้ว่าฉันค้างค่าเทอมมาสามปีเลย"

        ผมอึ้งไปนิดหนึ่ง แล้วนั่งลงข้างตัวพุทก่อนจะโอบไหล่มันไว้

        บ้านของพุทยากจนมาก พุทต้องหาเงินเรียนเองด้วยการขายข้าวมันไก่ แต่เมื่อสามปีก่อนแม่ของพุทเป็นมะเร็ง พุทเลยต้องเอาเงินเก็บทั้งหมดมารักษาแม่จนถึงทุกวันนี้แม่ของพุทก็ยังไม่หายดี ต้องรับการรักษาต่อไป

        ผมรู้ดี

        และผมก็เคยเห็นมันนอนตากยุงอยู่ที่ร้านข้าวมันไก่

        เคยเห็นมันยอมโดนพวกนักเลงเตะเพื่อรักษาเงินไว้

        เคยเห็นมันขี่จักรยานฝ่าไฟแดง เพื่อจะรีบไปหาแม่ที่โรงพยาบาล ก่อนจะถูกตำรวจจับ

        เคยเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างที่มันทำเพื่อรักษาชีวิตคน ๆ หนึ่งไว้

        "ขอบใจแกมากที่อุตส่าห์เป็นเพื่อนฉันมาตลอด" พุทก้มหน้าก้มตาพูด

        "เฮ้ยพูดอะไรอย่างนั้น เดี๋ยวฉันก็ไปหาแกที่ร้านข้าวมันไก่เหมือนเดิม" ผมพูดพลางเขย่าตัวมัน พุทลุกขึ้นแล้วยกกระเป๋าสะพายหลังก่อนจะโบกมือลาผมพร้อมกับเดินออกไป

        "ฉันไปนะ ......แล้วอย่าลืมมาที่ร้านข้าวมันไก่ของฉันด้วย"

        "เออน่า นายก็อย่าลืมเลี้ยงละกัน"

        "เออ ไอ้เค็ม= =^"

        "ด่าคนอื่นน่ะ ก็หัดดูตัวเองซะก่อนสิ" ผมด่ามันกลับก่อนจะวิ่งไปเตะส่งมันออกนอกโรงเรียน

        มันหันกลับมามองผมพลางลูบก้นป้อย ๆ อย่างน่าหัวเราะ แต่ผมกลับหัวเราะไม่ออกไม่รู้ว่าทำไม

        "เดี๋ยว....วันหลังเลี้ยงนะ"

        "เออ บาย"

        ........................

        ไม่มีอะไรหรอก แค่คำพูดสั้น ๆ

        ไม่มีอะไรหรอก แค่คน ๆ หนึ่งที่ยอมให้ผมเตะก้นทั้ง ๆ ที่มันวิ่งเร็วที่สุดในสายชั้น

        ไม่มีอะไรหรอก แค่คน ๆ หนึ่งที่กำลังจะหายไปจากความจำเจในชีวิตของผม

        ไม่มีอะไรหรอก แค่คน ๆ หนึ่งที่เรียกว่าเพื่อน กำลังเดินจากผมไปในความมืด

        ไม่มีอะไรหรอก

        ไม่มีอะไร

        ไม่มี

        ผมมองส่งมันจนลับสายตา สายตาที่พยายามชเง้อมองเพื่อยืดเวลาระหว่างผมกับพุท



        "นายมองอะไรอยู่" เสียงทุ้มต่ำดังจากข้างหลังของผม ผมเริ่มจะคุ้นกับเสียงของหมอนี่แล้วล่ะ

        ผมหันกลับไปมองจุน เจ้าตัวปัญหาที่ผมตราหน้าว่า ผมเหม็นขี้หน้า ก่อนจะตอบอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่

        "ก็..เปล๊า" แล้วผมก็เดินผ่านจุนไป

        ผมขอสารภาพ

        ผมเหม็นขี้หน้ามันจริง ๆ แหละ=*= แม้แต่ตอนเดินผ่านผมยังหลับตาไม่มองหน้ามันอย่างอัตโนมัติ

        "เปล่า? แล้วนายร้องไห้ทำไม?"

        !?O_o;;

        นี่ผมร้องไห้หรอเนี่ย T T

        ผมรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา พอผมลืมตาขึ้นอีกทีจุนก็เดินมาอยู่ข้างหน้าผมแล้ว ไวจริงเชียว=.,+

        "แล้วนายล่ะมาทำไม" ผมถามมันก่อนที่มันจะเผยอปากเสียอีก

        "ก็นายมีกุญแจห้อง ฉันไม่มี แล้วฉันจะเข้าห้องได้ไง"

        อ่อ แม้ นึกว่าอะไร +_+

        "โอเค งั้นตามมา"

        "ทำไมฉันต้องตามนาย ไอ้เด็ก"

        เอ๋ มันพูดอะไรอ่ะ ผมไม่ค่อยได้ยิน ?_?

        "อะไรนะ"

        "เปล่า"



        "นี่เตียงนาย นั่นเตียงฉัน เราจะไม่ล่วงล้ำเขตซึ่งกันและกัน" ผมเดินเข้ามาในห้องพลางแยกเขตความเป็นส่วนตัวของกันและกันไว้เรียบร้อย

        "เขต?"

        โง่จริง

        "ก็เขตไง ซีกซ้ายของนาย ซีกขวาของฉัน" ผมบอกพลางชี้นิ้วไปมาอธิบาย

        "อ่อ โอเค แล้วเส้นแบ่งมันอยู่ตรงไหนล่ะ"

        ก็.....เอ้อ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน =.,=

        "เอ้อ  อา ....อืม....เอ่อ..ก...ก็ตรง..ตรงนั้นแหละ" ผมพูดแล้วชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปแถว ๆ กลางห้อง จุนมองตามมือของผม แล้วหรี่ตามองผมอย่างพินิจ ก่อนจะพูดให้ผมถลึงตาใส่

        "เฮ้อ เด็กมันก็อย่างนี้แหละว้า = ="

        "นายว่าใครเด็ก สองรอบแล้วนะ (รึสามหว่า= =;;)"

        "สองรอบแล้วไง จะเก็บตังหรอ ^^" จุนพูดแล้วยิ้มแฉ่งเหมือนมันเป็นเรื่องเล็กซะเหลือเกิน เรื่องเงินเนี่ย

        ฮึ่ย!! มันน่าจับถีบส่งออกนอกห้อง หมั่นไส้เว้ย!!!

        "เอาเป็นว่า ซีกซ้ายซีกขวาน่ะแหละ"

        "อืม โอเค อย่างฉันยังไงก็ได้อยู่แล้ว ว่าแต่ นายอย่าล่วงเกินฉันละกัน"

        O[]O;; ม....มัน..

        "นี่นายโรคจิตรึไง แอบจิตหรอ ถึงได้กล้าพูดแบบนี้"

        "ก็ฉันก็ต้องเตือนไว้ก่อนน่ะแหละ นายจะได้ไม่หลงผิดคิดชั่วกับฉัน ^^" จุนพูดแล้วส่งยิ้มกวน ๆ มาให้ แถมตบท้ายด้วยการยักคิ้ว เหอะ ๆ =_+;;
        "=_+"

        "ฮะ ๆ นายนี่ทำหน้าตาพิลึก เฮ้อ ไม่อยากพูดมากกะนายแล้ว ฉันไปอาบน้ำก่อนดีกว่า"

        "เฮ้ย"

        "เอ้อแล้วอย่าแอบดูล่ะ =..= พูดตามความจริงฉันไม่ไว้ใจนายเลย เจ้าเด็ก"

        "เฮ้ย ได้ไง ฉันต้องอาบก่อนดิ"

        "เอาอะไรมาตัดสินไม่ทราบ"

        "ก็นายเป็นพี่"

        "เป็นพี่แล้วไง เป็นพี่ก็ต้องอาบก่อนสิถึงจะถูก"

        "เฮ้ยไม่ได้ พี่ต้องเสียสละให้น้องสิ"

        "อะไรกัน มาตรฐานไร้สาระสิ้นดี อีกอย่างฉันพูดขึ้นมาก่อนฉันก็ต้องอาบก่อนสิเจ้าเปี๊ยก"

        "นายนั่นแหละไร้สาระ .........คนที่ไปถึงห้องน้ำก่อนต่างหากที่ได้ก่อน!!!" ผมพูดพลางรีบเอาผ้าขนหนูมาจากเตียงแล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำ

        "เฮ้ย เจ้าเปี๊ยก!" จุนรีบวิ่งตามผมมาเข้าห้องน้ำพลางหยิบผ้าขนหนูมาด้วย
        มือของจุนฉุดกระฉากผมไปข้างหลังแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ผมก็วิ่งตามเข้าไปเหมือนกัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×